วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ ตอนที่ 14




ในที่สุดชอนซูก็ได้มาพบกับทงอี ขณะเดียวกัน ก็มีทูตจากต้าชิงมาเยือน คนของทางกองปราบทราบมาว่า หนึ่งในขันทีที่ติดตามมามียูนดัลที่เป็นพ่อค้าตลาดมืด ซึ่งทงอีได้ไปเจอเงื่อนงำสำคัญ แต่สุดท้ายทูตต้าชิงรู้เรื่องการแอบสืบเข้า การสืบของฝ่ายตรวจการจึงต้องจบลง แต่ทงอียังไม่หมดความพยายามที่จะกลับเข้าไปสืบต่ออีกครั้ง

เนื้อเรื่อง:


ขณะเดียวกัน ชอนซูมาพบกับฮีเจและตัดสินใจมาทำงานเป็นลูกน้องฮีเจ โดยมีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนกัน ชอนซูกลับมาและพบว่าผ้าโพกหัวของเขาหายไป ยังดัลบอกว่าเห็นห่อผ้าน่าสงสัยจึงเอาไปให้นางในฝ่ายตรวจการ ที่เขารู้จักตรวจดู และนางก็เหมือนจะเคยเห็นผ้านี้เพราะพอเห็นสัญลักษณ์ที่ผ้าก็รีบไปหาชอนซูที่กองปราบ ยังดัลเอ่ยชื่อทงอีขึ้นมา ทำให้ชอนซูดีใจมากรีบวิ่งไปทันที ฮีเจให้คนของเขาแอบติดตามชอนซูและรู้เรื่องที่มีนางในไปตามหาชอนซู ฮีเจกลัวนางจะมาสืบความลับจึงให้ซูเทคคนสนิทของตนเองตามไปขัดขวาง ด้านชอนซูออกตามหาทงอีจนมาพบว่า  ทงอีกำลังจะถูกทำร้ายจากคนของฮีเจ ชอนซูเข้ามาช่วยไว้ทัน ทำให้ทั้งสองได้พบกัน


  “คะ พี่ชอนซูเหรอคะ พี่ชอนซู พี่ชอนซูจริง ๆ เหรอคะ เป็นพี่.. เป็นพี่..เป็นชอนซูจริงเหรอคะ?” 

 “ใช่แล้วทงอี พี่เอง ชอนซู พี่ชอนซูของเจ้า” “ฮือ ๆ ๆ พี่ชอนซู  พี่ชายคะ  ฮือ ๆ ๆ นี่มันอะไรกันคะ ตอนนั้นพี่ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ ก็แปลว่า พี่มีชีวิตอยู่มาตลอด” ทงอีร้องไห้ด้วยความดีใจ เช่นเดียวกับชอนซู 

 “ใช่  พี่ยังไม่ตาย มีชีวิตอยู่ และตามหาเจ้าไปทุกที่”

 “นี่ข้าไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย นี่.. ไม่ใช่ความฝันใช่มั้ยคะพี่ ข้าได้.. ข้าได้เจอพี่แล้วจริง ๆ ใช่มั้ย  พี่ชายคะ ๆ ฮือ ๆ ๆ ๆ พี่ชอนซู ฮือ ๆ ๆ” 

 “ผ้าผืนนี้ คิดว่ามันจะหายไปซะแล้ว” 

 ทงอีพูดคุยกับชอนซู 

 “วันที่พี่ไปเจอผ้าผืนนี้ที่หน้าผา ถึงรู้ว่าเจ้ายังอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด” 

 “ทำไมข้าถึงได้นึกไม่ถึงนะ ถ้าข้ารีบทิ้งสัญลักษณ์ไว้เร็วกว่านี้ซักหน่อย พวกเราก็คงจะได้เจอกันเร็วกว่านี้ พี่อุตส่าห์กำชับกับข้าแล้ว ว่าขอแค่ทิ้งสัญลักษณ์ไว้ แล้วพี่ชอนซูก็จะมาตามหาข้าเอง”

 “พี่ขอโทษที่พี่กลับมาช้าไป” “ไม่หรอกค่ะ พี่เคยบอกว่านานแค่ไหนพี่ก็จะกลับมา แล้วพี่ก็.. รักษาสัญญานั้นแล้วนี่คะ ถึงรู้ว่าเป็นฝันที่เป็นไปไม่ได้ แต่ข้าก็ยังคิดอยู่ทุกวัน ว่าถ้าข้ามีโอกาสได้พบท่านพ่ออีกครั้ง ถ้าข้าได้ยินเสียง  พี่สองคนเรียกว่า..ทงอี ถ้าได้ยินเสียงเรียกข้าแบบนี้อีกซักครั้ง ข้าคงจะมีความสุขมาก นึกไม่ถึงว่าตอนนี้พี่ชอนซูกลับมาอยู่ตรงหน้า  ข้าแล้ว” ทงอีร้องไห้ออกมาอย่างดีใจ อีกจนชอนซูตกใจ

 “ข้านี่มันโง่จริง ๆ  วันดี ๆ อย่างนี้ยังมาร้องไห้อีก”

 “ใช่ เด็กโง่เอ๊ย เจ้าไม่เห็นเหรอว่า ข้าก็พยายามกลั้นน้ำตาอยู่ตลอด เด็กที่ยังไม่รู้เดียงสา  เมื่อหกปีก่อน วันนี้โตเป็นสาวขนาดนี้ ถ้าเจอกันกลางถนน ข้าอาจจำไม่ได้ก็ได้ หลายปีนี้  เจ้าใช้ชีวิตยังไงหา ทงอี แล้วตอนนั้น ทำไมไม่ได้ไปกับแม่นางซอลฮี ทำไมถึงไปอยู่ในกองดนตรีได้ แถมตอนนี้เจ้ายังได้กลายเป็นนางในอีก”

 “ค่ะพี่ชอนซู ข้าจะเล่าให้พี่ฟังให้หมดเลย หลายปีมานี้ทุก ๆ คำพูดที่ข้าอยากบอก แต่ไม่บอกออกไป ข้าจะเล่าให้พี่ฟังให้หมดทุกเรื่องเลย ข้ามีเรื่องอยากเล่าให้พี่ฟังเต็มไปหมดเลย”


ชอนซูยิ้มให้ทงอี เมื่อทงอีเริ่มเล่าเรื่องราวในอดีตหลังจากที่พรากจากชอนซู ด้านจูซิกและ  ยังดัล เมื่อรู้ว่าทงอีเจอพี่ชายที่ตามหามานาน ทั้งสองก็ดีใจไปกับทงอีด้วย และขอเรียก  ชอนซูว่าพี่ใหญ่ด้วยซูเทคนำเรื่องที่นางในหนีไปได้เพราะมีคนมาช่วยไว้ และรายงานว่านางในคนดังกล่าวก็คือ ทงอี เด็กที่จางซังกุงช่วยผลักดันขึ้นมาเป็นนางใน ทำให้ฮีเจแปลกใจมากว่าทำไมทงอีถึงต้องติดตามสืบหาชอนซู

ทูตจากต้าชิงมาเยือน และใต้เท้าซอสืบรู้มาว่า คิมยูดัล พ่อค้าในตลาดมืดซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นขันทีเดินทางร่วมมาในคณะด้วย จึงถวายรายงานต่อพระเจ้าซุกจง 

“ตอนนั้นมีการสงสัยว่าเค้าทำการค้าในตลาดมืด จากการแอบสืบพบว่าเค้ามีความเกี่ยวข้องอยู่กับทางฝ่ายใน แต่เค้ากลับต้าชิงไปก่อนที่ทางเราจะพบหลักฐาน” 

 “เท่ากับว่า ครั้งนี้เค้าปะปนมากับคณะทูตอย่างเปิดเผยสินะ?” พระเจ้าซุกจงครุ่นคิด 

 “คนที่กุมอำนาจมากอย่างนั้น  ถ้าลอบค้าขายในตลาดมืด เศรษฐกิจของโชซอนคงจะสั่นคลอนแน่ เจ้ามีวิธีจับตัวเค้าได้มั้ย?” 

 “กระหม่อมตั้งใจว่าจะต้องเอาผิดกับเค้า และกวาดจับชาวโชซอนที่ค้าขายกับเค้าให้หมด และเรื่องนี้ มีความเกี่ยวข้องกับฝ่ายในจึงได้ขอให้ฝ่ายตรวจการ มารวบรวมข้อมูลและสืบคดีไปพร้อมกันพ่ะย่ะค่ะ” 

 “ฝ่ายตรวจการก็ร่วมด้วยอย่างนั้นเหรอ?” “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”


ฝ่ายตรวจการได้รับคำสั่งให้ร่วมมือกับกองปราบและศาลไต่สวน สืบเรื่องของคิมยูดัล  ซังกุงคนใหม่จึงส่งนางในไปแฝงตัวที่เรือนรับรองโมฮวา เพื่อจับตาดูพฤติกรรมของคิมยูดัล ทงอีเป็นหนึ่งในนางในที่ถูกคัดเลือกให้เข้าไป  แฝงตัวในเรือนรับรองโมฮวาด้วย สร้างความดีใจให้กับนางเป็นอย่างมาก บรรดานางในฝ่ายตรวจการแฝงตัวเข้าไปสืบความเคลื่อนไหวของคณะทูตต้าชิง ด้านฮีเจซึ่งสนิทสนมกับคิมยูดัลเพราะเคยอยู่ต้าชิงมาก่อนจึงพาคิมยูดัลไปพบกับแทซุก ด้านใต้เท้าซอก็ให้คนจับตาดูคิมยูดัล 

 “ถ้าคดีครั้งนี้เกิดความผิดพลาดขึ้น เรื่องจะบานปลายจนกระทบต่อความสัมพันธ์ ดังนั้น  ต้องจับตาดูคิมยูดัลกับลูกน้องอย่างลับที่สุด เข้าใจกันมั้ย” 

 “ขอรับ ใต้เท้า”

 “ลงมือได้ ต้องระวังทุกความเคลื่อนไหว อย่าให้เกิดผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว” 

 “ขอรับ ใต้เท้า ข้าน้อยจะสืบสวนอย่างถึงที่สุด ขอตัวขอรับ”

 พระเจ้าซุกจงได้รับรายงานเรื่องทูตจากต้าชิงมาถึงเรือนรับรองโมฮวาแล้ว 

 “ถ้างั้น กองปราบกับศาลไต่สวนก็น่าจะเริ่มงานแล้ว เพราะว่าเขาเป็นขันทีคนสำคัญ จะต้องมีหลักฐานมัดแน่นแบบดิ้นไม่หลุด จึงสามารถจะเอาความผิดกับเค้าได้ ดังนั้น ก่อนจะได้  หลักฐาน อย่าให้พวกเค้ารู้ตัวเชียวว่าถูกตามสืบสวนอยู่ จะต้องคอยต้อนรับพวกเค้าให้ดีที่สุด” 

 “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” “เรือนรับรอง ได้ยินว่ามีนางในฝ่ายตรวจการแฝงตัวอยู่ พวกนางจะทำอะไรกันบ้างนะ?” พระเจ้าซุกจงตรัสถามอย่างเป็นห่วง

ชอนซูบอกฮีเจว่าอยากสอบด้านการต่อสู้ เพื่อเป็นทหารองครักษ์


 “ข้าอยากที่จะก้าวหน้า อยากจะเข้าวังหาความก้าวหน้าให้ตัวเองหน่อย”

 “เหอะ ๆๆ นึกไม่ถึงเลย ข้าคิดว่าเจ้าไม่อยากเป็นขุนนางซะอีก งั้นก็ดี ถ้าเจ้าได้ไปอยู่ในวัง  ก็ไม่ถือว่าเป็นผลเสียกับข้า ตามใจเถอะ อ้อ เดี๋ยว ๆๆๆ ข้าถามหน่อย เจ้ารู้จักนางในฝ่าย  ตรวจการชื่อชอนทงอีบ้างรึเปล่า”

 “นางใน..ฝ่ายตรวจการ?”

 “ใช่  ได้ยินว่านางเคยมาหาเจ้าที่นี่นี่นา เจ้ารู้จักกับนางรึเปล่า?”

 “ไม่เลย ข้าน้อยไม่รู้จักกับนาง” 

 ชอนซูปฏิเสธ ฮีเจไม่ได้ถามอะไรต่อ แต่บอกมีเรื่องอยากให้ชอนซูช่วยจัดการ ฮีเจพาคิมยูดัลมาพบกับแทซุก


 

“ใต้เท้า ท่านสบายดีหรือขอรับ?”

 “ลมอะไรพัดเจ้ามาเนี่ย?”

 “เพราะได้พึ่งบารมีท่าน ข้าน้อยถึงได้มาเป็นนายกองมือปราบ ก็เลยต้องมาขอบคุณท่าน  ด้วยตัวเอง ถึงจะไม่เสียมารยาท”

 “ไม่จำเป็นหรอก ข้าไม่ได้หวังให้เจ้าตอบแทนอะไรหรอก”

 “หึ ๆ ถ้าหากท่านได้พบคนที่ข้าพามาด้วย บางทีท่านอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้นะ”

 “คนที่เจ้าพามา?” แทซุกทำหน้าสงสัย

 “ฮุ ๆๆ คือว่า รับรองว่าถ้าเค้ามาพบท่านแล้วท่านจะไม่รู้สึกเสียเวลาแน่ เชิญเข้ามาได้..มานั่งสิ ฮะ ๆ” ฮีเจนำคิมยังดัลเข้ามา

 “คนนี้คือ..” แทซุกมองหน้าแปลกใจ

 “คนที่เดินทางมากับคณะทูตต้าชิง มีนามว่าคิมยูดัล”

 “คารวะท่านเสนาบดี” คิมยูดัลทำความเคารพ

 “ถ้าหากใครจะพูดว่า เส้นทางเงินของต้าชิงกับโชซอนก็ต้องผ่านมือใต้เท้าท่านนี้ทั้งนั้น รับรองไม่เกินไปเลย ตอนนี้ท่านผู้นี้อยากจะเอาเงินที่ค้าขายได้มาในโชซอน มายกให้กับกลุ่มฝ่ายใต้” ฮีเจบอก  สายตาแสดงความเจ้าเล่ห์

 พระเจ้าซุกจงเล่าเรื่องที่นางในแฝงตัวเข้าไปสืบความเคลื่อนไหวของคณะทูตจากต้าชิง


“ตอนนี้ได้แต่หวังว่าการสืบคดีจะจบลงด้วยดี เพราะถ้าผิดพลาด มีนางในฝ่ายตรวจการที่ปลอมตัวเข้าไปถูกจับได้ขึ้นมา ขันทีของต้าชิงคงไม่ยอมง่าย ๆ แน่นอน” อ๊กจองครุ่นคิด

 “ใช่แล้ว ดังนั้นเราต้องระวังเรื่องนี้ไว้ ตอนนี้ก็หวังว่าฝ่ายตรวจการจะทำได้สำเร็จ จริงสิ       เจ้าได้ยินรึยัง เด็กคนที่ชื่อทงอีน่ะ ครั้งนี้นางถูกคัดเลือกไปสืบคดีนี้ด้วยนะ”

 “หรือเพคะ?”

 “ใช่แล้ว ท่าทางคราวนี้เจ้าพงซาน น่าจะแสดงฝีมือได้ไม่เลว”

 “ทำไมเรียกว่าพงซานล่ะเพคะ”

 “เป็นอีกชื่อของเด็กคนนั้น ถ้ากัดได้เมื่อไหร่จะไม่มีทางปล่อยเด็ดขาดก็เลยได้ชื่อว่าอย่างนั้น”

 “แม้แต่เรื่องนี้ก็ทรงทราบหรือ?”

 “ใช่แล้ว ข้าเคยบอกว่าไปเจอนางที่นอกวังหลายครั้ง คุยกับนางแล้วสนุกดี  แต่จะว่าไป ตั้งแต่เด็กคนนั้น
กลายมาเป็นนางใน ข้าก็เริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมาแล้ว”

 “ทรงกังวลอะไรเพคะ” อ๊กจองถาม

 “ตอนที่ไปเจอกับเด็กคนนั้นนอกวัง ข้าปิดบังฐานะแถมยังไปโกหกว่าเป็นผู้ช่วยของท่านผู้ว่าด้วยนะ แต่ว่า พอเด็กคนนั้นกลายมาเป็นนางใน สักวันนางก็ต้องรู้ว่าข้าเป็นพระราชา นางจะตกใจแค่ไหนเนี่ย ข้าไม่ได้เจตนาเลยนะ แต่กลัวนางจะคิดว่าข้าไปหลอกนาง ก็เลยเริ่มไม่สบายใจน่ะ”

 “ฝ่าบาท ทำไมถึงไปใส่พระทัยกับเรื่องแค่นี้ล่ะเพคะ?” อ๊กจองแปลกใจที่พระเจ้าซุกจงให้ความสำคัญให้ทงอีมากเป็นพิเศษ

 “ฮะๆๆๆ เรื่องเล็กแค่นี้เหรอ นั่นสิ อาจเป็นอย่างนั้นก็ได้ แต่ถ้าเด็กคนนั้น..รู้ว่าข้าเป็น พระราชาแล้วจะรู้สึกยังไงนะ นางจะคิดว่าผู้ช่วยผู้ว่าที่นางไว้ใจทรยศนางรึเปล่า คงจะโกรธข้าตายแน่ ฮะๆๆ ข้านึกห่วงจังแฮะน่าห่วงจริง ๆ จะทำไงดีนะ” พระเจ้าซุกจงไม่รู้องค์เองว่ากำลังเป็นห่วง ทงอีมาก

 หลังจากคิมยูดัลกลับไปแล้ว  ฮีเจและแทซุกก็คุยกัน “ก็แปลว่าเค้าต้องการให้เราช่วยเหลืออะไรด้วยใช่มั้ย?” แทซุกถาม


“ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เค้าก็แค่อยากทำการค้าได้อย่างสบายใจเท่านั้นเองขอรับ เค้าแค่อยากให้ท่านช่วยแค่นี้เท่านั้น”

 “เท่ากับ.. ต้องการให้ข้าหาทางยับยั้งการสืบคดีของกองปราบกับศาลไต่สวน?”

 “อำนาจการเมืองมันต้องใช้เงิน เชื่อว่าท่านน่าจะรู้ความจริงเรื่องนี้ดีกว่าใครทั้งนั้น ท่านแค่ออกแรงนิดเดียว ก็ได้สิ่งที่มากกว่าหลายเท่า อย่างนี้กลุ่มฝ่ายใต้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการเงินอีกต่อไปแล้ว”

 “ข้าไม่รู้เลยว่าเจ้าก็มีความสามารถอย่างนี้ด้วย”

 “ฮะ ๆ ๆ ๆ ข้าน้อยไปเที่ยวเล่นอยู่ในต้าชิงมานานนี่ เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ ข้าก็ควรตอบแทนใต้เท้าที่ช่วยเหลือข้ากับซังกุงมาตลอดหลายปีสิ” ฮีเจหัวเราะน้ำเสียงเจ้าเล่ห์

 “จางซังกุงก็รู้เรื่องนี้รึเปล่า?”

 “ไม่รู้ นางไม่รู้เรื่องอะไรเลย และต่อไปก็จะไม่มีวันรู้ เรื่องยื่นมือไปแปดเปื้อนแทน เป็นหน้าที่ของข้า ใต้เท้า หึ ๆ ๆ ๆ”

 แทซุกให้ลูกน้องไปเรียกโฮยอนมาพบ บอกมีเรื่องจะคุยด้วย

 จองซังกุงและพงซังกุงมาบอกใต้เท้าซอเรื่องหาหลักฐานจากพวกทูตต้าชิงไม่พบ ใต้เท้าซอจึงบอกให้รีบถอนตัวนางในทั้งหมดออกมาจากเรือนรับรองโมฮวา ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ก็มารายงานว่านางในถูกจับได้ คิมยูดัลโกรธมากที่พวกนางในเข้ามาสืบความลับ โดยถูกจับได้พร้อมกับกระจกที่ฝ่ายตรวจการใช้ส่งสัญญาณ


  
“พวกนางเป็นนางในของฝ่ายตรวจการได้ยินว่า พวกนางส่งสัญญาณให้กัน ที่แท้ก็เป็น กระจกที่ฝ่ายตรวจการใช้ อีกอย่าง พวกนางยังได้ซ่อนกระจกไว้ทุกที่เพื่อที่จะคอยจับตาดูพวกเรา พวกมันกล้าลบหลู่ต้าชิงเรา”

 เรื่องทั้งหมดถูกถวายรายงานต่อพระเจ้าซุกจง 

 “หือ ฝ่ายตรวจการถูกคณะทูตจับได้งั้นเหรอ?

 แล้วท่าทีของพวกคณะทูตเป็นยังไงบ้างหา?”

 “พวกเค้าโมโหกันมากและประท้วงไม่ยอมหยุด พวกเค้าประกาศข่มขู่ว่าจะกลับต้าชิงทันที  พ่ะย่ะค่ะ” ข้าหลวงรายงาน


 

 


 


* ข้อมูลจากเดลินิวส์ / ภาพ captures จากละครเอ็มบีซี


หมายเหตุ: ละคร "ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์" ถูกนำกลับมาฉายใหม่อีกครั้ง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00-13.00 น. และ 19.15-20.15 น. ทางช่อง 3 แฟมิลี่  (ยกเว้นเย็นวันศุกร์ สามารถรับชมได้ในเวลา 19.00 - 20.00น.) ออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา