วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ ตอนที่ 2




เชยอวอนเรียกประชุมดวนกลุ่มคอมเก เพื่อจะตามหาฆาตกร และได้ส่งลูกสาวทงอีไปหลบซ่อนตัวไว้ แต่ทงอีกลับแอบหนีไปกล่าวคำอวยพรที่บ้านของตัวบงการแทซุก ทำให้แทซุกส่งคนมาจับทงอี พร้อมส่งคนวางแผนฆ่ารองประธานสภาแล้วยัดข้อให้ให้กลุ่มคอมเก จนกระทั่งจับตัวเชยอวอนกับเชทงจูได้

เนื้อเรื่อง:

“ท่านหัวหน้า ๆ”

“ในเวลานี้  ตำแหน่งของจางเซได้ว่างลงแล้ว วูแทและยองดูก็ถูกจับอย่างน่าสงสาร ซอคโฮก็ต้อง..สูญเสียบิดาของตัวเองไป มีคนบางคนฆ่าขุนนางชนชั้นสูง แล้วป้ายความผิดมาให้กับกลุ่มคอมเก มันเป็นแผนการที่รอบคอบและน่ากลัว จนทำให้เราต้องสูญเสียเพื่อนพี่น้องไป และทำให้ชนชั้นล่างผู้บริสุทธิ์ถูกจับตัวไป เราจะต้องหาทางสืบให้ได้ว่ามันเป็นใคร  จริงอยู่ นี่จะเป็นการต่อสู้ที่ลำบาก เราทุกคนอาจถูกดึงเข้าไปสู่อันตรายจนอาจเอาชีวิตไม่รอด แต่ว่า ข้ารู้ดีว่าพี่น้องทุกคน ยินดีสละชีวิตเพื่อภารกิจนี้ ยังจำวันแรกที่ข้าชูดาบเล่มนี้ได้หรือไม่ มันคือวันที่แม่ของพวกเราถูกตีอย่างทารุณ เป็นวันที่น้องสาวผู้บริสุทธิ์ต้องถูกย่ำยี และเป็นวันที่น้องชายของเราถูกขายไปอย่างกับวัวตัวนึง พวกเราได้แต่อดกลั้นเก็บซ่อนดาบเอาไว้ และสาบานจะไม่ให้คนบริสุทธิ์ต้องถูกย่ำยี สาบานว่าจากนี้จะไม่ยอมให้ใครมารังแกอีก อย่าปล่อยให้คนต้องกลายเป็นนักโทษเพราะเกิดเป็นชนชั้นต่ำ อย่ายอมให้ต้องทิ้งชีวิตเพียงเพราะเป็นชนชั้นต่ำดังนั้นพวกเรา จะต้องหาตัวบงการให้เจอ  แล้วเปิดโปงความชั่วของมัน ช่วยผู้บริสุทธิ์ ที่ถูกจับไปกลับมา” ยอวอน กล่าว

ทงจู กับชอนซู ออกตามหาทงอี แต่ไม่พบ โดยทงอี ได้ถูกชายคนหนึ่ง พามาที่บ้านของแทซุก เพื่อมาเป็นคนกล่าวคำอวยพร แต่เมื่อนายหญิงของบ้านรู้ว่าทงอี เป็นชนชั้นต่ำ ก็ไล่ให้กลับไปแต่นางก็อ้อนวอนขอให้ได้ลองอ่านให้ฟังก่อน



“ก็ได้ ให้นางลองอ่านให้ข้าฟัง อากาศหนาวอุตส่าห์มาตั้งไกล กลับไปอย่างนี้ก็น่าเสียดายอยู่”

“ขอบคุณค่ะนายหญิง ขอบคุณค่ะ”

“ถ้างั้น  มาอ่านอักษรเกาหลีข้าง ๆ ก็พอ  อ่านให้จบแล้วรีบไปซะ”

“ค่ะ อวยพรแด่จวนของท่านจากใจ ขอให้สุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ ครอบครัวมีแต่ความสวัสดิภาพ เจริญรุ่งเรือง ให้ทุกเรื่อง เรียบ…เรียบ ลื่นและเป็นสุข และ และเป็นน้ำมนต์” ทงอี อ่าน

“พอแล้ว พอแค่นี้แหละ ไหนบอกว่ารู้หนังสือ อ่านได้ไม่กี่ตัวก็ติดอ่างหมดแล้ว”

“ไม่ใช่ค่ะนายหญิง ข้าน้อยอ่านออกทุกตัวเลยนะ แต่ดูเหมือนว่า อักษรจีนในนี้จะเขียนผิดค่ะ”

“หะ ผิดเหรอ?”
 “ก็อยู่ตรงนี้ไงคะ ตรงนี้ไม่ควรเขียนคำว่าเรียบลื่นแต่ควรจะเป็นราบรื่น  ตรงนี้ ก็ไม่ควรจะเป็นคำว่าน้ำมนต์ แต่ควรจะเป็นคำว่ามงคลมากกว่านะคะ” 

“ไหนดูสิ ทำไมเขียนมั่วซั่วไปหมดอย่างนี้?”

“ขออภัยขอรับ คือข้าน้อยไม่ทราบ เพราะไปลอกคนอื่นมา”

“เชื่อเลย..เจ้าบอกว่าเจ้ารู้หนังสือ ไม่ใช่แค่ภาษาเกาหลี แต่ยังรู้อักษรจีนด้วยรึจ๊ะ?”

“ค่ะ นายหญิง”



ทงอี ได้ลองชุดที่จะใส่ในวันอ่านคำอวยพร จากนั้นก็ออกมา เจอกับทงจู พี่ชายที่กำลังตามหานางอยู่

“เจ้าปลอดภัยนะ ปลอดภัยก็ดีแล้ว”

“ทำไมถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ปลอดภัยอะไร เหรอ แล้วพี่หาข้าเจอได้ยังไง แคดอราบอกพี่เหรอ?”

 “รายละเอียดไว้ค่อยคุยกัน  รีบไปเถอะ ที่นี่อันตรายมาก”
  
 ยอวอน สั่งงานสมาชิกกลุ่มคอมเก เพื่อจะตามหาฆาตกร

 “กลุ่มแรกให้ไปเก็บหลักฐานบริเวณท่าน้ำซัมบัน อันกุ๊กตง เคตงซึ่งเป็นจุดที่ขุนนางทั้งสามถูกฆ่าอีกครั้ง ส่วนกลุ่มที่สองจับตาจวนผู้ตรวจการ กรมราชทัณฑ์และความเคลื่อนไหวกรมการคลัง”

“ขอรับท่านหัวหน้า”

 “ต่อมากลุ่มที่สามและสี่ ไปตามสืบดูขุนนางใหญ่ทุกคน ว่ามีการไปมาหาสู่กันอย่างลับ ๆบ้างรึเปล่า เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างแน่นอน ต่อให้เป็นเงื่อนงำเพียงเล็กน้อยก็อย่าปล่อยผ่าน”

 “ขอรับ พวกข้าจะจำไว้”

“ไปจัดการได้”

“ขอรับ”

ซอ สงสัยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือคนในกองปราบจึงให้เรียกตัวทุกคนที่อยู่ในกองปราบตอนคังจองยอกตายมาพบ ไม่ว่าจะตำแหน่งสูงต่ำ หลังจากนั้นผู้ช่วยของเขาก็เดินเข้ามา

“ทำไมเจ้าถึงมาคนเดียว ข้าบอกให้เจ้าพาสัปเหร่อเชมาด้วยไงล่ะ”

 “สัปเหร่อเชไม่ได้อยู่ในกองปราบ ไม่ใช่แค่นั้นขอรับ ข้าน้อยไปที่บ้านเค้ายังพบว่าลูกสาวเค้ายังกลับไม่ถึงด้วย”

“อะไรนะ?”


ชอนซู กลับมารายงานยอวอนว่าพบตัวทงอีแล้ว ตอนนี้ทงจูพานางไปที่บ้านหัวหน้ากลุ่มแล้ว ควรจะรีบไปพบทงอี แต่ยอวอนปฏิเสธ

“แต่ว่าท่าน ต้องไปพบทงอี”

“ไม่จำเป็น เค้าปลอดภัยก็ดีแล้ว เรามีเวลาไม่มากนัก คนที่คิดเล่นงานเราเป็นคนที่มีอำนาจมาก เราไม่มีทางคาดเดาได้เลยว่า พวกนั้นจะใช้แผนชั่วอะไรมาอีก”

แทซุกส่งมือสังหารตามฆ่าเชยอวอน และทงอี แต่ถูกฆ่าตายในดาบเดียว โฮยอนจึงรีบกลับมารายงาน และคิดว่ามันอาจไม่ใช่แค่สัปเหร่อธรรมดา แต่จะพยายามจับตัวมันกับลูกสาวมันมาให้ได้ แทซุก คิดว่าเรื่องนี้อาจจะหนักเกินไปสำหรับโฮยอน จึงจะเข้าไปช่วยอีกแรง

จูซิก มาบอกกับนักดนตรีว่า มีคำสั่งด่วนจากตำหนักพระพันปี ให้เรียกมือกลองบุก กลองชังโกะ มือดีดคายาคึม อาเจ็ง แฮคึม เข้าไป ทงจูที่ไม่ได้ถูกเรียกมาขอเข้าไปเล่นแทนเพื่อนที่ถูกเรียก

เจ้าหน้าที่ศาลได้ตามจับตัวคนร้ายสองคนมา ชอนซูรู้สึกเหมือนเห็นหน้าทั้งสองมาก่อน จึงสอบถาม

“พวกนี้เป็นคนฆ่าเจ้าหน้าที่ศาลไต่สวนเสียชีวิตน่ะ ถ้าเจ้าเห็นพวกเค้าอีก ให้รีบแจ้งทางการทันที”

“ขอรับ  แน่นอนอยู่แล้ว” ชอนซู กล่าว

“กลับได้”

โฮยอน บอกเรื่องที่มีข่าวว่าเชยอวอนฆ่าคังจองยอก ทำให้ซอหาว่าเขาแต่งเรื่องโกหก

“ข้าได้ยินมาว่าตอนที่คังจองยอกตาย เป็นเวลาเดียวกับที่เชยอวอนหายไปจากกองปราบ อีกอย่างนึง เท่าที่รู้ป่านนี้เค้ายังไม่ปรากฏตัวด้วย” โฮยอน กล่าว

“แบบนี้ก็เป็นเหตุผลได้อย่างนั้นเหรอ  ฆาตกรที่ฆ่าคังจองยอกไม่ใช่คนนี้แน่ เรื่องครั้งนี้ชี้ชัดว่าเกี่ยวข้องกับคนในราชสำนัก” ซอ กล่าว

“ข้าเองก็ได้ยินมาว่าเจ้ามีความคิดอย่างนี้อยู่ หลักฐานก็คือป้ายตำแหน่งนั่นใช่รึเปล่า และป้ายอันนั้นลูกสาวของเชยอวอนก็เป็นคนเอามาให้”

“แล้วยังไงล่ะ?”

“ไม่เข้าใจอีกเหรอ อุตส่าห์ให้ลูกสาวตัวเองมาป้ายสีว่าคังจองยอกฆ่าคน แล้วก็หายตัวไปตอนที่คังจองยอกถูกฆ่าตาย แบบนี้ยังบอกว่าเค้าไม่น่าสงสัยอีกเหรอ”

“ใต้เท้านี่มันหมายความว่าไง”

“นี่เป็นฝีมือของพวกกลุ่มคอมเก แถมหลักฐานทุกอย่างชี้ชัดไปที่พวกเค้า คนที่สงสัยกลุ่มคอมเกและตามจับพวกเค้า คือเจ้าไม่ใช่หรือ” โฮยอน กล่าว

“ใช่ เป็นอย่างนั้นจริง คนที่บุ่มบ่ามจับตัวพวกเค้ามาตอนนั้นคือข้า ดังนั้น ข้าต้องแก้ไขเรื่องนี้ให้ถูกต้องให้ได้” 

“อะไรนะ?”

“ข้าจะไม่มีวันยอมปล่อยให้ศาลไต่สวนยัดเยียดข้อหาให้คนบริสุทธิ์เป็นอันขาด”ซอกล่าว

“เจ้าไม่มีวันยอมรึ?  มันจะพูดจาเหิมเกริมเกินไปแล้ว ไม่เห็นศาลที่ทำงานตามราชโองการอยู่ในสายตารึ นี่เจ้าจะดูถูกศาลไต่สวนเกินไปรึเปล่า  ผู้บัญชาการกองปราบ ไม่มีสิทธิก้าวก่ายส่วนของศาล” โฮยอน กล่าว

“ใช่ ในเมื่อไม่เกี่ยวข้องกัน ใต้เท้าก็อย่าได้มาออกคำสั่งว่าข้าควรจะทำยังไง?”

“ปล่อยมันกำเริบแบบนี้จะดีหรือขอรับ?” แทยุน ถาม

“ซอโยงกี เป็นลูกรองประธานสภา ถึงตอนนี้เค้าจะเกษียณไปแล้วแต่ฝ่าบาทยังให้ความไว้วางพระทัยมาก ถ้าไปแหย่เค้าคงจะไม่ค่อยดีนัก”

“ท่านขอรับ..”

“ปล่อยเค้าไปเถอะ เพราะยังไงถึงพรุ่งนี้  เรื่องทั้งหมดก็จะต้องจบลงแล้ว”

แทซุก บอกกับอินกุ๊ก ว่าได้เข้าเฝ้าฝ่าบาทแล้ว รับสั่งว่าหากเป็นเรื่องจริงก็ให้รีบปิดคดีนี้ และทำการประหารกลุ่มคอมเกตามกฎหมาย

“ขอบคุณท่านอำมาตย์  ข้าหลงห่วงว่า คดีนี้จะทำให้ท่านเข้าใจกลุ่มตะวันตกผิด นึกไม่ถึงท่านจะปกป้องเราแบบนี้” อินกุ๊ก กล่าว

“ปกป้องท่านรึ  ท่านคงพูดผิดแล้ว คนที่ทำผิดคือพวกกลุ่มคอมเก ข้าจะยกเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างโจมตีกลุ่มตะวันตกได้ยังไงกัน เพื่อความปลอดภัยของราชสำนัก ควรจะรีบปิดคดีนี้ให้เร็วที่สุด ในเมื่อสองกลุ่มต่างเห็นตรงกัน เชื่อว่าอีกไม่นานทุกอย่างก็จะสงบ”

“แน่อยู่แล้ว มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่ฮะ ๆ ๆ”


ทงอี จะออกไปงานอวยพรปีใหม่ แต่ดอราห้ามไว้เพราะพ่อสั่งไม่ให้ออกไปไหน ทงอีจึงบอกว่าจะเอาเนื้อย่างกลับมาให้ ดอราจึงยอมร่วมมือ แกล้งทำเป็นปวดท้อง เมื่อพ่อเข้ามาดู ทงอีอาสาที่จะไปตามหมอมาดู แต่พ่อของดอราไม่ให้ไป ทั้งยังนำน้ำฉี่มาให้ดอรากิน เมื่อเขาเห็นก็ปฏิเสธและยอมรับว่าโกหก ทงอีจึงบอกว่าทุกอย่างเป็นแผนของตนเพราะอยากกลับบ้านจึงขอร้องพ่อของดอรา ระหว่างนั้นยอวอนก็เดินเข้ามา บอกกับทงอีว่านางจะไปกล่าวคำอวยพรไม่ได้ ตอนนี้เมืองหลวงเป็นอันตรายกับนาง

“ไม่ได้นะท่านพ่อ ข้าต้องไปจวนท่านผู้ช่วยกรม  ไปกล่าวคำอวยพร แล้วเค้าจะให้ชุดแพรไหมชุดใหม่นั่นกับข้า”

“ทำไมลูกถึงได้ดื้ออย่างนี้นะ พ่อบอกแล้วไงว่าไม่ได้”

“ท่านพ่อคะ”

“ถ้าเจ้ายังดื้อรั้นคิดจะไปจากที่นี่ พ่อจะไม่ยอมให้อภัยเจ้าแน่ เข้าใจรึเปล่า?”

“ท่านพ่อคะ ขอแค่สักครั้งก็ยังดี ข้าอยากใส่ชุดสวย ๆ แบบนั้นเหมือนเค้าบ้างน่ะ ได้โปรดให้ข้าไปเถอะ นะ ท่านพ่อคะ ให้ข้าไปเถอะนะ ท่านพ่อคะ ท่านพ่อคะ ฮือ ๆ ๆ ๆ”

ระหว่างที่ซอกำลังจะเดินทางกลับก็ได้รับจดหมายให้ไปพบที่ใต้ต้นสนข้างกำแพงแดง เมื่อไปถึงก็เจอกับยอวอน


“เจ้าเองเหรอ เจ้ายังไม่ตายเหรอ คงลำบากแย่สิ”

“ใต้เท้า” ยอวอน กล่าวแล้วเล่าเรื่องทั้งหมด

 “เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริงหรือ พวกนั้นคิดทำร้ายกระทั่งลูกสาวของเจ้า  ทำไมเจ้าถึงเพิ่งมาหาข้าเอาป่านนี้ล่ะ?”

 “ดูเหมือนว่า ในกองปราบจะมีสายลับ จะหาโอกาสพูดกับท่านไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

 “ข้าขอโทษนะ เป็นเพราะข้า เจ้ากับลูกสาวถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้” ซอ กล่าว

 “อย่าพูดอย่างนั้นเลยขอรับ”

 “เจ้าคงรู้ว่าตอนนี้ คนของศาลไต่สวนกำลังตามล่าเจ้า เอาอย่างนี้ ข้าจะหาที่ให้เจ้าหลบไปสักพัก”

 “ใต้เท้า ท่านไม่ต้องห่วงข้าน้อยเลยขอรับ วันนี้ ที่นัดท่านมาเพราะมีบางอย่างจะให้”

 “ให้ข้าเหรอมันคืออะไร?”

 “นี่เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับคดีนี้ที่ข้าน้อยหามา ในนั้นเขียนถึง เรื่องที่ใต้เท้าทั้งสามต้องถูกฆ่าเพราะแอบสืบความลับ ของคนในกลุ่มฝ่ายใต้  ว่าได้กระทำความผิดอะไรไปบ้าง คนกลุ่มฝ่ายใต้ตามสืบคนของกลุ่มตัวเอง คงจะไม่ปกติใช่มั้ยขอรับ?”

 “ทำไมนะ..”

 “ตอนแรกข้าน้อยคิดว่า  เรื่องนี้คงจะเป็นฝีมือของฝ่ายตะวันตก แต่เมื่อเห็นข้อมูลนี้  คิดว่าเป็นไปได้ที่จะเป็นฝีมือของฝ่ายใต้เอง” ยอวอน กล่าว

 ซอนำข้อมูลมาบอกจองโฮผู้เป็นพ่อ

 “ถ้าเนื้อหานี้เป็นความจริง ก็ดูประจวบเหมาะเกินไป” จองโฮ กล่าว

 “อีกอย่างพวกนี้  รู้ว่าลูกตามสืบเรื่องกลุ่มคอมเกมาตลอด คดีนี้จะต้องสืบสวนใหม่ ช่วยข้าด้วยเถอะ ตอนนี้คนที่สามารถเข้าวังและนำเรื่องนี้กราบทูลได้  ก็มีแต่ท่านเท่านั้น”

 “แต่ในวันนี้ฝ่าบาท เสด็จไปที่สุสานหลวงแล้ว  หลังจากเสร็จสิ้นพิธีในวันพรุ่งนี้ จะเสด็จไปรักษาอาการประชวรที่พระตำหนักนอกเมือง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ไว้พรุ่งนี้พ่อจะไปเข้าเฝ้าให้เอง”

 “ท่านพ่อ ขอบคุณขอรับ”

 “แต่ก่อนอื่น พ่ออยากถามเจ้าสักเรื่อง  สัปเหร่อที่เป็นคนเอาข้อมูลนี้มาให้กับเจ้า พ่อเชื่อใจเค้าได้จริงรึ?  เมื่อศาลไต่สวนตัดสินว่า  เค้าเป็นคนฆ่าเจ้าหน้าที่ศาลไต่สวนตาย  ถ้าเค้ามีเจตนาจะหลอกเจ้าล่ะ”

 “ไม่จริง เป็นไปไม่ได้เลย เค้าไม่ใช่คนอย่างนั้นแน่”

 “แปลว่า เจ้าเชื่อใจเค้าใช่มั้ย?”

 “ขอรับ ลูกเชื่อเค้าเหมือนเชื่อใจตัวเอง”

 ยอวอน เรียกชอนชูมาพบสั่งให้พาทงอีหนีไปนอกเมืองให้ได้ภายในวันนี้

“เช้าวันนี้ใต้เท้าซอส่งจดหมายมาบอกว่า ท่านรองประธานสภาจะไปกราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทที่สุสานหลวง ดังนั้น ถึงคนที่ถูกจับจะถูกปล่อยตัว แต่ข้าก็ต้องไปเป็นพยานเรื่องนี้ที่กองปราบ มันอาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นก็ได้ ฝากด้วยนะชอนซู”

 “ขอรับ หัวหน้า”

 ชอนซู เดินทางมารับตัวทงอี ที่บ้านของพ่อดอรา แต่กลับพบว่า ทงอีปลอมตัวเป็นดอราหนีออกจากบ้านไปแล้ว จึงรีบออกไปสืบหาทงอีจะไปกล่าวคำอวยพรที่บ้านไหน

 ทงจูสอบถามยอวอนเรื่องที่จะส่งทงอีไปอยู่นอกเมือง

 “ชอนซูจะพาทงอีไปซัมเกด๊อกก่อนบ่ายสองวันนี้ เจ้าค่อยพาทงอีไปถึงบ้านตระกูลชอนที่นอกเมืองก่อนฟ้าสาง”

 “ขอรับท่านพ่อ”

 “ท่านหัวหน้า ๆ อาจางที่ส่งไปทำภารกิจที่กองปราบให้คนส่งจดหมายลับมา”

 “จดหมายลับ? อะไร..มีคนจะฆ่า ท่านรองประธานสภาขุนนาง มีคนคิดจะฆ่าท่านระหว่างทางไปที่สุสาน”

 “เรื่องใต้เท้าจะไปเข้าเฝ้าที่สุสาน  มีพ่อกับใต้เท้าซอที่รู้ไม่ใช่หรือขอรับ มันเกิดขึ้นได้ยังไง?” ทงจู กล่าว

 “ค่ายบนภูเขายังเหลือคนอยู่เท่าไหร่?”

 “เหลือแค่เก้าคนขอรับ”

 “จำนวนคนน้อยเกินไป เจ้ารีบไปจุดพลุส่งสัญญาณบอกพี่น้องของเรา  แล้วให้คนนำข่าวนี้ไปบอกใต้เท้าซอ”

 “ขอรับ ท่านหัวหน้า”

 “คนที่เหลือให้ไปกับข้า มุ่งหน้าไปสุสาน” ยอวอน สั่ง

 “ท่านพ่อจะลงมือเองเลยหรือ?”

 “ไม่ได้นะท่านหัวหน้า”

 “ไม่มีเวลาชักช้าแล้ว ชีวิตรองประธานสภาแขวนอยู่บนเส้นด้ายแล้ว”

 ทงอี หนีมาที่บ้านขุนนางเพื่อเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมขึ้นกล่าวคำอวยพร


 “มีความสุขมากเลยเหรอ”

 “ต้องมีความสุขสิคะข้าก็บอกพี่มาตั้งหลายครั้งแล้วนี่นาชุดนี้ลื่นสบายดี ถ้าแมลงวันเกาะต้องลื่นตกไปแน่” ทงอี กล่าว

 “อายุแค่นี้ ช่างเจรจาจริงนะ”

 “แล้ว ข้าต้องไปกล่าวคำอวยพรที่จวนไหนเหรอ เป็นตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากเลยใช่มั้ยคะ”  ทงอี ถาม จากนั้นหญิงสาวก็พาทงอีออกเดินทางไปที่จวนของแทกซุก 

 “ท่านอำมาตย์ ข้าน้อยขอรับ”

 “มีเรื่องอะไรหา?” แทซุก ถาม

 “เด็กกล่าวอวยพรมาถึงแล้ว”

 “อวยพรรึ?”

 “ขอรับ ตระกูลของขุนนางในกรมที่หมั้นหมายกับนายน้อยส่งเด็กมาอวยพรแล้ว”

 “อ้อ นั่นน่ะสินะ วันนี้ขึ้นสามค่ำใช่มั้ย ตกลง งั้นก็ให้นางเข้ามา”

 “ขอรับ เข้าไปข้างในสิ”

 “ค่ะ”

 ยอวอน ทงจู และพวก รีบเดินทางมาเพื่อช่วยท่านรองประธานสภาขุนนาง แต่ไม่ทันพบว่าถูกฆ่าตายแล้ว ระหว่างนั้น แทยุน และพวก ก็เดินทางมาถึงคิดว่า ยอวอนและพวกเป็นคนฆ่า จึงสั่งลูกน้องเข้าต่อสู้

 ทงอี ขึ้นกล่าวคำอวยพรที่บ้านแทซุก


 “สวัสดิมงคล สมดังที่ใจมุ่งหวัง ขอฝากความปรารถนาดี แด่จวนของท่านเจ้าค่ะ”

 “อืม ขอบใจเจ้ามาก  เจ้าช่วยกลับไปบอกท่านรองเจ้ากรมด้วยว่า  ขอให้ท่านมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง  พบแต่สิ่งดี มีแต่ความเป็นมงคลมาสู่ชีวิตด้วยเช่นกัน” แทซุก กล่าว

 “ค่ะ ท่านอำมาตย์”

 “เจ้าจำได้หมดเหรอ?”

 “ค่ะ ข้าน้อยจำได้ค่ะ  ขอให้ท่านมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง  พบแต่สิ่งดี มีแต่ความเป็นมงคลมาสู่ชีวิตด้วยเช่นกัน”

 “โฮะ ๆ ๆ อืม อายุแค่นี้แต่ฉลาดดีจริงจริง  เจ้าชื่ออะไรล่ะ?”

 “ข้าน้อย  ชื่อเชทงอีเจ้าค่ะ”

 “งั้นรึ วันหน้าลูกสะใภ้ข้าแต่งเข้ามา ข้าจะให้เลือกเจ้าเป็นสาวใช้ประจำตัว”

“คือ ขออภัยด้วยค่ะท่านอำมาตย์ ข้าน้อยไม่ใช่ทาสในจวนท่านรองเจ้ากรม เกรงว่าคงนำความไปบอกอย่างนี้ไม่ได้”

 “งั้นรึ เจ้าไม่ใช่ทาสรับใช้ของบ้านนั้น”

 “ค่ะ ข้าน้อยเป็นชนชั้นต่ำอยู่ในหมู่บ้านบันชอนเจ้าค่ะ”


 “บันชอน ที่นั่น มันเป็นหมู่บ้านของพวกสัปเหร่อไม่ใช่รึ”

 “ค่ะ  ท่านพ่อของข้าน้อย ก็เป็นสัปเหร่อค่ะ ตอนนี้ ถ้าใต้เท้าไม่มีธุระอะไร ข้าน้อยต้องขอตัวก่อน”

 “เดี๋ยวก่อน เจ้าอย่าเพิ่งไป เมื่อกี้เจ้าบอกว่า เจ้าแซ่เชใช่มั้ย?”

 “ค่ะ  ท่านอำมาตย์”

 “สัปเหร่อแซ่เชในหมู่บ้านบันชอน พ่อเจ้าชื่ออะไรหา?”

 “ท่านถามถึงท่านพ่อข้าน้อยหรือคะ”

 “ใช่แล้ว”

 “พ่อของข้าน้อย มีแซ่เช ชื่อว่ายอวอนเจ้าค่ะ”

“เช..ยอวอน เจ้าบอกว่าเป็น ลูกสาวของคนคนนั้นจริงเหรอ?”

 “ค่ะ ท่านอำมาตย์”

 “หึ หึ ๆ ๆ”

แทกซุกให้คนในบ้านพาทงอีไปรับรางวัลการกล่าวคำอวยพรในบ้าน จากนั้น ก็เรียกลูกน้องอีกคนรีบไปตามนาย กองมือปราบจางที่กองปราบมาพบ บอกว่าลูกสาวของสัปเหร่อ ที่กำลังหนีความผิดอยู่ที่นี่


มือปราบจาง รีบเดินทางมาเพื่อจะจับทงอีแต่ไม่พบนางได้รับขนมเป็นรางวัลแล้วก็หลบออกไป

“เป็นเด็กผู้หญิงชื่อว่าทงอี เป็นเด็กผู้หญิงชื่อทงอี น่าจะยังอยู่แถวนี้ หาให้ทั่ว ยังไงก็ต้องจับตัวมาให้ได้  เข้าใจรึเปล่า?”

“ขอรับ”

 “ทำไมจะจับเราล่ะ ทำไมนะ” ทงอี สงสัย

 ผู้ช่วยของซอ นำข่าวเรื่องที่พ่อของเขาถูกกลุ่มคอมเกฆ่ามาบอก

 “ข้าถามว่าเรื่องเป็นยังไง?”

 “คอมเก พวกคอมเกจู่โจมขบวนเกี้ยว แล้วก็สังหารใต้เท้าจนเสียชีวิต นอกจากนั้น..นอกจากนั้น สัปเหร่อเชยอวอนก็ถูกจับในที่เกิดเหตุนั่นด้วย เพราะเค้าเป็นคนฆ่าใต้เท้า ความจริงสัปเหร่อเชเป็นหัวหน้ากลุ่มคอมเกขอรับ” ผู้ช่วย กล่าว

 “เป็นไปไม่ได้  ไม่มีทางหรอก” ซอ กล่าว


เชยอวอน และทงจู ถูกมือปราบจางนำตัวมาพบแทยุน จากนั้นจึงถูกพาไปที่ศาลไต่สวน

 “นี่มันอะไรกัน  ทำไมเจ้าถึงมาอยู่นี่” ซอ ถาม เมื่อเห็นทั้งสอง

 “เค้าเป็นฆาตกรที่ฆ่าท่านรองประธานหัวหน้ากลุ่มคอมเก คุมตัวนักโทษไปได้แล้ว” แทยุน กล่าว

 ทหารของมือปราบจาง ตามหาทงอี จนได้พบ และกำลังจะจับตัวไป แต่ ชอนซู เข้ามาเห็นพอดี


 “คุณหนู ทำไมมาอยู่แถวนี้ล่ะขอรับ ข้าน้อยตามหาอยู่ตั้งนาน” ชอนซู แกล้งพูด

“เป็นคุณหนูเหรอ ไหนว่าเป็นเด็กชั้นต่ำไงล่ะ” ทหาร ถาม

 “ไม่น่าจะผิดตัวนี่” ทหารอีกคน กล่าว

 “นี่ เจ้าอยากถูกโบยรึไง ชั้นต่ำอะไร กล้าลบหลู่บุตรสาวท่านรองเจ้ากรมอย่างนี้เหรอ คุณหนู รีบกลับจวนกันเถอะ ถ้านายท่านรู้ว่าคุณหนูแอบหนีมาเที่ยวต้องโกรธแน่” ชอนซู กล่าว

“จริงเหรอ” ทงอี กล่าว

“ขอรับ รีบไปเถอะ” ชอนซู กล่าว


เมื่อออกมา ทงอีจึงรีบถามว่าทำไมพวกมือปราบถึงได้ตามจับตน ชอนซู จึงบอกว่าจะเล่าให้ฟังทีหลัง จากนั้นจึงพาทงอีไปยังจุดที่นัดกับทงจู แต่ไม่พบจึงบอกให้ทงอี รออยู่ตรงนี้อย่าไปไหน แล้วก็ออกไปตามหาทงจู เมื่อกลับไปที่กลุ่มคอมเกก็พบว่าพวกทหารกำลังเข้ามาโจมตีกลุ่มของตน


 



* ข้อมูลจากเดลินิวส์ / ภาพ captures จากละครเอ็มบีซี


หมายเหตุ: ละคร "ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์" ถูกนำกลับมาฉายใหม่อีกครั้ง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00-13.00 น. และ 19.15-20.15 น. ทางช่อง 3 แฟมิลี่  (ยกเว้นเย็นวันศุกร์ สามารถรับชมได้ในเวลา 19.00 - 20.00น.) ออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา