วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ ตอนที่ 28




ในที่สุดพระมเหสีที่เป็นลมในงานเลี้ยงก็ได้สติกลับมา ศาลไต่สวนจึงทำการสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอดีตพระสนม ขณะที่ยูซังกุงก็ได้วางแผนให้ร้ายจนจองซังกุงกับจองอิมต้องถูกศาลไต่สวนจับกุมตัวไป และในที่สุดชอนซูก้ได้พบกับซอลฮี

เนื้อหา:

 เมื่อพระเจ้าซุกจงทราบว่าพระมเหสีได้สติจึงเสด็จมาเยี่ยม


“เจ้ารู้มั้ยว่าข้าตกใจแค่ไหน พอได้ยินหมอหลวงบอกว่าเจ้ามีอันตรายถึงชีวิต”

 “ฝ่าบาทยัง…เป็นห่วงหม่อมฉันหรือเพคะ” พระมเหสีพูดน้ำเสียงน้อยพระทัย “รู้อย่างนี้หม่อมฉัน น่าจะป่วยหนักเสียบ่อย ๆ ขอประทานอภัยเพคะ เมื่อครู่พอได้ยินว่าฝ่าบาทเป็นห่วงหม่อมฉันขนาดนี้ ถึงทราบดีว่าไม่ควรจะพูดออกไป แต่ในใจก็อดดีใจไม่ได้”

 ด้านฮีเจก็มาเยี่ยมพระมเหสีพร้อมกับต่อว่าน้องสาวที่ทำอะไรโดยไม่คิด


“เรื่องที่ข้าเคยคิดว่าจะไม่มีวันไปทำมัน ก็ทำลงไปหมดแล้ว จนข้าเดินมาถึงจุดนี้ได้ ในเมื่อได้ครอบครองแล้ว ก็ต้องใช้รูปแบบนี้รักษามันเอาไว้” พระมเหสีพูดอย่างมุ่งมั่น

 “พระมเหสี” ฮีเจถึงกับอึ้ง

 “ทำไมทำอะไรไม่คิดใช่มั้ย เพราะว่าไม่มีอะไรที่ข้าทำไม่ได้ ข้ายอมแลกได้แม้กระทั่งชีวิต แต่ไม่ยอมเสียพระราชา และไม่ยอมให้ใครมาแย่งตำแหน่งนี้ไป ท่านเข้าใจรึเปล่า นี่คือสิ่งที่ข้าตัดสินใจแล้วไงพี่”

 “คราวนี้ ถึงตาข้าบ้างแล้ว ให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง ต่อให้จะต้องแลกด้วยชีวิต ก็ต้องปกป้องพระมเหสี ชอนทงอี ข้าจะไม่ปล่อยให้เด็กคนนั้นรอด เพื่อตัดทางอดีตพระมเหสีให้หมด ไม่ว่าเป็นใคร ก็ไม่มีทางมาแย่งตำแหน่งได้ พี่ชายคนนี้จะต้องทำให้ได้แน่”

 ฮีเจคิดแค้นใจ ต้องกำจัดทงอีให้ได้ จึงเรียกโฮยอนมาพบบอกให้ทำตามแผน โดยให้กำจัดพวกศัตรูให้หมด อย่าให้เหลือซาก


คืนนั้นพระเจ้าซุกจงบรรทมไม่หลับเพราะมัวคิดถึงการลอบปลงพระชนม์ทั้งอดีตพระมเหสีและพระมเหสีฮีบิน ถึงสองครั้งสองคราในวังหลวง

 “คนของอดีตพระมเหสี ก็บอกว่านางบริสุทธิ์ นางถูกใส่ร้ายจนต้องถูกขับออกจากวัง แต่พระมเหสี กลับจะต้องมาถูกคุกคามถึงชีวิตอีกครั้ง ใครกันนะที่พูดจริง และใครกันที่โกหก ข้ารู้สึกสับสนไปหมดแล้ว เฮ้อ เรื่องทั้งหมดนี้ ต้องโทษที่ข้าไม่เอาไหน” พระเจ้าซุกจงโทษตัวเองที่ไม่สามารถทำเรื่องนี้ให้กระจ่างได้

 ใต้เท้าซอส่งคนออกไปตามหาทงอีนอกเมืองแต่ก็ไม่พบ จงคูพาลูกน้องออกไปสำรวจที่ซ่องนางโลมซึ่งซอลฮีพาทงอีมาพัก คึมฮงจำจงคูได้จึงบอกว่าทงอีเดินทางเข้าเมืองหลวงไปแล้ว

 “ใต้เท้า ๆ ๆ  ฮิ ๆๆ ในที่สุด ในที่สุดก็เจอแล้ว มีคนพบเห็นนางในชอนแล้วขอรับ” จงคูรีบมาส่งข่าวให้ใต้เท้าซอและชอนซูทราบ

 “หะ”

 “ท่านพูดจริงเหรอ”

 “ก็ต้องจริงน่ะสิ” จงคูกล่าวอย่างดีใจ

 โฮยางติดใจสาวหาบน้ำซึ่งเป็นทงอีปลอมตัวมา จึงให้คนไปสืบจนรู้ว่ากำลังหาบน้ำไปที่โรงซักล้าง โฮยางจึงตามไป

“ว้าว อยู่ตรงนั้นไง สาวน้อยคนเมื่อวาน”

 โฮยางสังเกตหน้าตาดูคล้ายทงอีมากแต่ก็ยังไม่แน่ใจ

 “โอ้ย ไม่ใช่แค่คล้ายแล้วเนี่ย ถอดแบบ ทงอีมาอย่างกับแกะเลยเนี่ย แต่แปลกแฮะ หรือว่าตาฝาด ทำไมถึงได้เหมือนขนาดนี้นะ ห๊า นั่นมัน ๆ อะไรกัน นี่มันอะไรกัน?”


โฮยางนำเรื่องมาเล่าให้แทพุงฟังสร้างความตกใจให้กับแทพุงเป็นอย่างมาก “ห๊า เจ้าเห็นเด็กคนนั้นเหรอ?”

“ใช่แล้วท่านพ่อ นางต้องเป็นทงอีไม่ผิดอย่างแน่นอน”

 “เจ้านี่โกหกไม่ดูตาม้าตาเรือ นางตายไปแล้ว จู่ ๆ จะมากลายเป็นเด็กหาบน้ำได้ยังไงกัน”

 “ถึงได้บอกว่ามันประหลาดเหมือนเห็นผีเลยไง”

 “นี่เจ้าพูดจริงเหรอ เจ้าแน่ใจนะว่าเป็นเด็กคนนั้น”

 “ฮิ ๆ ท่านพ่อ ข้าเป็นใครล่ะ เรื่องของผู้หญิงน่ะ อยู่ห่างสิบลี้ข้าก็จำได้ ก็ข้าเป็นลูกพ่อนี่นา”

 “แต่ว่า เกิดเรื่องอย่างนี้ได้ยังไงเนี่ย?”แทพุงกล่าวอย่างแปลกใจ

 ระหว่างที่ทงอีกกำลังหาบน้ำไปที่โรงซักล้าง เผอิญนางเหยียบเข้ากับชุดของพระมเหสี


 “นี่ เจ้าเหยียบไปได้ยังไง นั่นมันชุดของพระมเหสีนะ”

 “ต้องขอโทษด้วยค่ะ หา นี่มันเปลือกถั่วเขียวไม่ใช่เหรอ?” ทงอีสังเกตเห็นเมล็ดถั่วเขียวติดอยู่ที่ชุดของพระมเหสีก็แปลกใจ

 “เห็นพวกฮังอาวิ่งวุ่นกันอย่างนั้น ฝ่ายตรวจการคงจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้วสิ เจ้าไม่รู้เหรอ ตอนนี้ฝ่ายตรวจการออกค้นห้องของนางในในวังทั้งวันทั้งคืนเลย”

 “ก่อนจะออกจากวังไป การตรวจค้นครั้งสุดท้ายคือเมื่อเดือนสาม ระหว่างนั้นน่าจะมีการตรวจสอบไปสองครั้ง ห้องเย็บ ห้องปัก ใช่แล้ว ต่อไปโรงซักผ้า จองซังกุงต้องมาค้นโรงซักล้างแน่”

 ทงอีครุ่นคิดว้าวุ่นใจมาก

 ยูซังกุงไม่พอใจจองซังกุงและจองอิมที่คอยช่วยเหลือทงอีซึ่งเป็นศัตรูของนาง เมื่อมีคำสั่งให้มาตรวจค้นห้องพักของพวกนางใน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกตะวันตกที่ลอบทำร้ายพระมเหสีหรือไม่ ยูซังกุงจึงวางแผนที่จะใส่ร้ายจองซังกุงและจองอิม

 ทงอีเอาของบางอย่างไปซ่อนไว้ในตู้ในห้องจองซังกุง แต่เมื่ออึมกึมและชิบิคนของยูซังกุงเข้ามาค้นหาตามคำสั่งกลับไม่เจอ เมื่ออึมกึมและชิบิไปแล้ว จองซังกุงเข้ามาในห้องและพบถุงใส่จดหมายลับที่ทงอีเจอในห้องทูตต้าชิง จึงรีบเอาไปให้จองอิมดู


 “ท่านซังกุง ข้ารู้สึกว่าทงอีอยู่ในวังหลวงแล้วค่ะ”

 “แต่เรื่องนี้ จะเป็นไปได้ไง”

 “ข้าพบของสิ่งนี้อยู่ที่โรงซักล้างค่ะ”

 “นี่คืออะไร เจ้าไปเจอมาจากไหน”

 “ที่ห้องพักของนางใน คิดเอาไว้แล้วเชียว  ห๊ะ นี่มัน ท่านยังจำได้มั้ยคะ มันเป็นจดหมายลับที่ทงอีเคยพบในจวนรับรองคณะทูตต้าชิงน่ะ”

 “คนหาบน้ำโรงซักล้าง คนหาบน้ำก็เป็นสาวใช้สิ”

 “ค่ะท่านซังกุง ต้องเป็นจดหมายที่ทงอีทิ้งไว้แน่ เพราะนี่เป็นลายมือทงอี”

 “ทงอีเป็นคนหาบน้ำอยู่ในโรงซักล้าง?” จองซังกุงอุทานอย่างแปลกใจ

 ทงอีย้อนกลับมาดูจดหมายที่นางซ่อนเอาไว้ แต่สาวใช้คนหนึ่งมาพบเข้าจึงคิดว่านางจะเข้ามาขโมยของ

 “ท่านฮังอา ท่านเข้าใจผิดแล้วค่ะ ข้าน้อยไม่ได้เข้าไปขโมยของนะ” ทงอีพยายามปฏิเสธ  แต่สาวใช้ไม่เชื่อจะจับไปส่งฝ่ายตรวจการ แต่จองอิมและจองซังกุงมาพบข้าเสียก่อน


“ท่านซังกุงท่านฮังอา”

 “ที่แท้เจ้ายังมีชีวิต เจ้ายังไม่ตาย” จองซังกุงกล่าวอย่างดีใจ

 “ค่ะท่านซังกุง ข้ายังไม่ตายค่ะ ข้าสามารถรอดกลับมาวังหลวงได้แล้ว”

 “เรื่องเป็นไงมาไง เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมถึงมากลายเป็นคนหาบน้ำอยู่นี่”

 “พวกเราทุกคนคิดว่าเจ้าตายไปแล้ว ทุกคน เฝ้าตามหาเจ้าอยู่ตลอดเลยนะ ไม่ว่าเป็นใต้เท้าซอ หรือว่าพี่ชายเจ้า รวมไปถึงพระราชาด้วย” จอมอิมบอก

 “พระราชาด้วยเหรอคะ”

 “ใช่จ้ะ พระองค์ถึงกับยอมจงใจ ปลดใต้เท้าซอออกจากตำแหน่งเพื่อให้ออกไปตามหาเจ้ากลับมา” ทงอีได้ฟังก็แปลกใจยิ่งนัก


 จองซังกุงจะไปเข้าเฝ้าพระราชาเพื่อกราบทูล แต่ถูกยูซังกุงจับตัวไปให้ฝ่ายตรวจการ โดยกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมกับอดีตพระมเหสีให้ร้ายพระมเหสีฮีบิน นอกจากนี้โฮยอนยังส่งคนไปจับคนของอดีตพระมเหสีด้วย

 “นี่พวกเจ้าจะทำอะไร พระมเหสี อันตรายนะเพคะ เข้าไปข้างในก่อนเพคะ”

 “บังอาจมากนี่พวกเจ้าจะทำอะไร พวกเจ้าบังอาจมาทำชั่วช้ากับที่ประทับพระมเหสีได้ยังไง”

 “หุบปากไปซะ พระมเหสีอะไร เจ้าบอกว่าใครเป็นพระมเหสี มัวยืนทำอะไร นี่บ้านคนที่คิดจะทำร้ายพระมเหสี ถล่มมันให้ราบเลย” คนของโฮยอนประกาศ  ลูกน้องจึงกรูกันจะทำร้ายคนของอดีตพระมเหสี

 “พวกอันธพาล ไม่กลัวฟ้าดินลงโทษรึ พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ”

 “พังมันให้หมดเลย”

 “นี่น่ะหรือ ฮีบิน สิ่งที่เจ้าต้องการก็คือ ชีวิตของข้าใช่รึเปล่า?” อดีตพระมเหสีอินฮอนรำพึง

แทพุงและโฮยางนำเรื่องมาบอกโฮยอนว่าพบทงอีในวังหลวง แต่เผอิญฮีเจอยู่ที่นั่นด้วย


“ก็แม่เด็กคนนั้นไง ผู้หญิงคนที่จางฮีเจตามหานางในที่หนีไป ข้าหานางเจอแล้ว ข้าเป็นคนหานางในคนนั้นเจอ”

 “เจ้าว่าอะไรนะ เจอนังเด็กคนนั้นแล้ว เหรอ ว่ายังไงหา? เจ้าไปเจอนังเด็กคนนั้นที่ไหน?” ฮีเจถามเสียงดัง

 “ข้าไม่ได้รีบร้อนมาที่นี่เพื่อจะเอาข่าวมา บอกท่านสักหน่อย” แทพุงเล่นตัว

 “นั่นน่ะสิพ่อ พวกเราไม่ได้บ้านี่ ถึงจะได้ปล่อยให้คนเค้าหลอกใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีกน่ะ”

 ฮีเจหมั่นไส้ใช้มีดจ่อโฮยาง “รีบบอกข้ามาซะดี ๆ ถ้าไม่อยากตาย ก็บอกมา”

 “ท่านพ่อ ๆ” โฮยางร้องเสียงหลง

 ฮีเจนำเรื่องที่ทงอีอยู่ในวังหลวงมาบอกพระมเหสีฮีบิน โดยปลอมตัวเป็นคนหาบน้ำ  เพื่อหาโอกาสมาพบพระเจ้าซุกจง สร้างความตกพระทัยให้แก่นางเป็นอย่างมาก


“พระมเหสี ตอนนี้พระวรกายพระองค์ยังไม่แข็งแรง บรรทมพักอีกสักหน่อยเถอะเพคะ” นางในโชกราบทูล

 “ตอนนี้ทงอีอยู่ในวังหลวง เจ้าจะให้ข้าหลับลงได้ยังไงกัน ปล่อยไว้ไม่ได้ ข้าจะต้องไปตำหนักใหญ่ ข้าจะไปเข้าเฝ้าพระราชา”

 ด้านฮีเจได้ส่งคนไปจับทงอีที่โรงซักล้าง  ทำให้ทงอีต้องหนีออกจากวังหลวง

 ใต้เท้าซอและชอนซูกลับเข้าเมืองหลวง  เพื่อบอกให้จูซิกและยังดัลช่วยกันตามหาทงอี

“นี่พูดจริงรึเปล่า ทงอีอยู่ในเมืองหลวงจริง ๆ เหรอ?” 

 จูซิกถามอย่างแปลกใจ

 “ขอรับใต้เท้า ทงอีกลับบ้านไม่ได้เพราะมีคนสะกดรอย นางก็ต้องไปที่คนไม่พลุกพล่านแน่ ข้าอยากรบกวนท่านทั้งสองช่วยกันตามหาตามโรงเตี๊ยมในแถบนี้ด้วย” ชอนซูบอก

 “ได้อยู่แล้ว” จูซิกรับปาก

“พวกลูกน้องจางฮีเจอาจสะกดรอยตามท่าน ต้องระวังให้มาก”

ชอนซูออกตามหาทงอีและเจอเข้ากับซอลฮี “แม่นางซอลฮี”


 “ข้าพบกับทงอีที่อึยจู ก็เลยกลับมาเมืองหลวงพร้อมกับนาง” ซอลฮีบอก

 “แล้วตอนนี้ ทงอีอยู่ที่ไหนเหรอ?”

 ด้านพระเจ้าซุกจงเอาแต่คิดถึงทงอีตลอดเวลา พระองค์ไปที่ร้านเหล้าที่เคยนั่งดื่มกับทงอี ด้านทงอีมาพักอยู่กับซอลฮีแถว ๆ ร้านเหล้า  นางคิดถึงพระเจ้าซุกจงเช่นกันจึงเล่นซอเสียงดังกังวานพระเจ้าซุกจงได้ยินเสียงซอของทงอีก็จำได้


 

 “เสียงนี่มัน เสียงเล่นซอไม่ใช่รึ?”

 “พ่ะย่ะค่ะ” ขันทีกราบทูล

 ระหว่างที่พระเจ้าซุกจงกำลังเดินอยู่  ทงอีก็เหลือบไปเห็น

“ฝ่าบาท..”

 พระเจ้าซุกจงหันไปตามเสียง “นั่นเจ้าใช่มั้ย?”

 “ฝ่าบาท  ๆ ๆ”


 

“เป็นเจ้า.. จริง ๆ ใช่มั้ย คนที่อยู่ตรงหน้าข้า เป็นเจ้าจริง ๆ ใช่รึเปล่า? เป็นเจ้าจริง ๆ ทงอี เจ้าจริง ๆ ด้วย” พระเจ้าซุกจงดึงทงอีเข้ามากอด พระราชาและทงอีน้ำตาไหลด้วยความดีใจ


* ข้อมูลจากเดลินิวส์ / ภาพ captures จากละครเอ็มบีซี


หมายเหตุ: ละคร "ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์" ถูกนำกลับมาฉายใหม่อีกครั้ง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00-13.00 น. และ 19.15-20.15 น. ทางช่อง 3 แฟมิลี่  (ยกเว้นเย็นวันศุกร์ สามารถรับชมได้ในเวลา 19.00 - 20.00น.) ออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา