วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ ตอนที่ 35




ทงอีสารภาพกับซอโยงกีว่าตนเองคือลูกสาวของหัวหน้ากลุ่มคอมเก เมื่อซอโยงกีรู้เรื่องเข้าก็เกิดลังเลว่าควรจะนำเรื่องนี้กราบทูลต่อพระเจ้า ซุกจงหรือไม่ ด้านกลุ่มฝ่ายใต้เองก็กำลังสืบหาประวัติของทงอี ขณะที่ทงอีเองก็เตรียมกราบทูลความจริงกับพระเจ้าซุกจง

เนื้อเรื่อง: 



“ผ่านไปหลายปี ข้ายังเฝ้าตามหาลูกสาวเค้ามาโดยตลอด เด็กคนนั้นเป็นเด็กที่มีชื่อเหมือนกับท่านพอดี แซ่เช ชื่อทงอี เด็กคนนั้นคือท่านใช่มั้ย ตอบข้ามาสิ เด็กผู้หญิงที่ข้าตามหา ท่านคือเด็กที่ชื่อ...ทงอีใช่รึเปล่า?” ใต้เท้าซอถาม
    
“ใต้เท้า” ทงอีอึ้งไป
    
“เด็กคนนั้น เป็นท่านจริงจริงใช่มั้ย?” ใต้เท้าซอคาดคั้นอีกครั้ง
    
ทงอีตัดสินใจ “ใช่ ท่านพูดถูกต้องแล้ว เป็นข้าเอง คนที่ใต้เท้าเคยตามหา ลูกสาวหัวหน้ากลุ่มคอมเก เชทงอีนั่นก็คือ ชื่อของข้าเอง” ทงอีสารภาพว่าเขาคือลูกสาวหัวหน้ากลุ่มคอมเก
    
“ข้าเคยคิด ว่าในวันใดวันนึง คงจะต้องมีวันนี้แน่ ตอนที่ข้าโกหกใต้เท้าตอนอยู่ที่กองปราบ ไม่สิ เพื่อมีชีวิตรอด เพื่อจะสืบความจริง มันเริ่มตั้งแต่สิบสองปีก่อน ตั้งแต่วันนั้น ทุกวัน ข้าก็จะเฝ้ารู้สึกว่า จะต้องมีวันนี้เข้าสักวันนึง แต่ข้าเอง...คงนึกไม่ถึงว่า มันจะเป็นแบบวันนี้ได้ มันจะเป็นในแบบนี้ เพราะว่าเรื่องนี้ ทำให้ใต้เท้าที่เชื่อใจข้ามาตลอด รวมถึงฝ่าบาทจะต้องมาเจ็บปวดพระทัย” ทงอีน้ำเสียงเศร้า
    
“นั่นสิ ท่านก็รู้ใช่มั้ยว่าข้าเชื่อใจท่าน ไม่สิ ข้าเป็นยังไงก็ไม่สำคัญ แต่ว่าฝ่าบาท ไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นฝ่าบาท ที่เชื่อท่านที่สุด ก็เหมือนกับที่เมื่อก่อนข้าเคยเชื่อใจพ่อของท่าน ฝ่าบาททั้งเชื่อถือ และไว้ใจท่านมากแค่ไหน ท่านคงรู้ใช่มั้ย ข้าเป็นขุนนางบ้านเมือง ดังนั้น ไม่ว่าเรื่องนี้มันจะนำมาซึ่งผลลัพธ์แบบไหน ไม่ว่าจะส่งผลร้ายแรงสักแค่ไหน ก็จะปิดบังพระราชาต่อไปไม่ได้”
    
“ให้ข้า...ให้ข้าเป็นคนบอกเองได้รึเปล่า? ข้าขอร้องล่ะนะ ให้ข้าเป็นคนบอก...เรื่องนี้กับฝ่าบาทด้วยตัวเอง” ทงอีอ้อนวอน

“ถ้าทำแบบนั้น ท่านอาจจะรู้สึกสบายใจขึ้น แต่ว่าพระราชาล่ะ พระราชาที่ต้องมารับฟังความจริงจากปากของท่านเอง ท่านไม่เห็นใจพระองค์หรือ?”

ทงอีตัดสินใจที่จะไปหาพระเจ้าซุกจงเพื่อสารภาพความจริง
    
ด้านแทซุกและนายหญิงยูนก็มาเฝ้าพระมเหสีเพื่อหารือเรื่องทงอี


“ทุกอย่างเป็นไปตามที่พระองค์ทรงคาดเดา เราไม่สามารถหาปูมหลังของชอนซังกุงได้เลยเพคะ” นายหญิงยูนบอก
    
“แค่นี้ก็พอแล้วพ่ะย่ะค่ะ แค่ข้อกังขานี้ก็พอจะบีบชอนซังกุงให้จนมุมได้แล้ว” แทซุกเสนอ
    
“ท่านผิดแล้วใต้เท้า แค่นี้มันยังจะไม่พอหรอก แค่นี้ยังไม่อาจโค่นความเชื่อมั่นของฝ่าบาทที่มีต่อนางได้” มเหสีฮีบินสีหน้าหมายมาด
    
“แต่ว่าไม่มีข้อมูลอะไรเลย เลยไม่รู้จะสืบหาอะไร?”
    
“ตอนนี้คนที่กำลังตื่นเต้นที่สุดคือใครล่ะ นอกจากทงอี  ก็ยังมีคนที่พยายามช่วยปิดบังอดีตของนางอยู่ ไปจับตาพวกนั้นซะยูซังกุง ใต้เท้าเข้าใจรึยังล่ะ พวกนั้นจะเป็นคนที่บอกกับเราเองว่าชอนทงอี มีอดีตเป็นยังไง”
  
วูนแทคได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยศาล และได้รับคำสั่งให้ไปตรวจประวัติของทงอี เขารู้มาจากซอลฮีว่าทงอีมีพี่ชายอยู่กองดนตรีจึงมาสอบถามยังดัลและจูซุก จนได้รู้ว่าพี่ชายของนางคือ เชทงจู ที่ถูกฆ่าตายเพราะเป็นกลุ่มคอมเก
    
ใต้เท้าซอไปหาข้อมูลที่กองปราบ  และยังเผยเรื่องทงอีเป็นลูกสาวหัวหน้ากลุ่มคอมเกให้ชอนซูรู้  ชอนซูตกใจมาก


“ชอนซังกุงเป็นคนบอก ทั้งเจ้า แล้วก็ชอนซังกุง จะถูกจัดการตามกฎหมาย ข้าไม่อยากที่จะทำร้ายเจ้า ดังนั้น จงยอมให้จับแต่โดยดีเถอะ” ใต้เท้าซอบอก
    
“ขอร้องล่ะ ข้าอยากขอให้ใต้เท้าปล่อยนางไป มันไม่ใช่ความผิดของนาง ข้าอยากจะขอร้องใต้เท้า อย่าให้นางต้องเจ็บปวดเพราะเรื่องนี้เลย ใต้เท้า” ชอนซูอ้อนวอน
    
“เจ้าไม่รู้กฎหมายรึไง? เพราะชอนซังกุงรู้เรื่องนี้ดี ถึงได้ปิดบังฐานะมาโดยตลอดน่ะ เจ้าเข้าใจความรู้สึกที่เหมือนถูกคนหักหลังมั้ย? รู้มั้ยว่าการถูกคนที่ไว้ใจที่สุดหักหลัง  มันจะรู้สึกยังไงบ้าง? คนที่ชื่อเชยอวอน สอนให้ข้ารู้จักสิ่งนี้”
    
“เรื่องนั้น มันไม่ใช่ฝีมือของหัวหน้าซักหน่อย เรื่องเมื่อสิบสองปีก่อนไม่ใช่ฝีมือกลุ่มคอมเก ทั้งเรื่องสังหารขุนนางใหญ่ รวมไปถึงสังหารท่านพ่อของท่าน ไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มคอมเก” ชอนซูพยายามบอก
    
“คิดว่ามาแก้ตัวตอนนี้มันจะมีประโยชน์ รึ?”
    
“ไม่ใช่ ข้าไม่ได้แก้ตัวแต่กำลังพูดความจริง ท่านเข้าใจความรู้สึกที่ถูกหักหลังใช่มั้ย ใต้เท้า ท่านคงเข้าใจผิดแล้วล่ะ คนที่หักหลังความเชื่อใจหัวหน้าก็คือใต้เท้านี่แหละ เพราะท่านลังเลอยู่ต่อหน้าหลักฐานเท็จพวกนั้น นั่นเป็นเพราะท่านไม่เชื่อใจในตัวหัวหน้าไม่ใช่เหรอ?”
    
“ข้าพยายามที่จะเชื่อเค้า ไม่ว่าเค้าพูดอะไรข้าก็พยายามจะเชื่อแล้ว แต่ว่าตัวเค้า.. ไม่ได้ปฏิเสธเลย”
    
“เพราะหัวหน้า คิดว่าการทำแบบนั้นมันสามารถปกป้องท่านได้ยังไงล่ะ ทำแบบนั้นท่านจะได้ไม่มาแตะต้องเรื่องของคอมเก ทำแบบนั้นถึงจะช่วยปกป้องท่านเอาไว้ได้ เพราะนั่น.. คือความเชื่อใจที่หัวหน้ามีต่อใต้เท้า หัวหน้าคิดว่าสักวันท่านคงจะเข้าใจ ด้วยเหตุนี้ เพื่อรักษาความจริงใจระหว่างสหาย ท่านจึงได้ ยืนยันจะยอมรับผิดว่าเป็นคนฆ่าท่านพ่อของใต้เท้าเองยังไงล่ะ” ชอนซูบอกความจริงทั้งหมด 
  
ทงอีมาขอเข้าเฝ้าพระเจ้าซุกจง


“ฝ่าบาท หม่อมฉันมารบกวนเวลาทรงงานรึเปล่าเพคะ?”
    
“ไม่สักนิด กวนอะไรกัน ข้าไม่เจอเจ้าจะยิ่งทำงานไม่ได้มากกว่า หึ ๆ ๆ ยืนทำไมล่ะ รีบมานั่งสิ วันก่อนเห็นหน้าเจ้าดูกลุ้มใจ แต่วันนี้ดูดีขึ้นเยอะแล้วนี่”
    
“ดีขึ้นแล้วหรือเพคะ?”
    
“ใช่แล้ว อย่างนี้ข้าค่อยหายห่วงหน่อย แบบนี้ข้าค่อยยิ้มออกบ้าง ข้านี่ก็ ทำไมถึงได้โง่แบบนี้นะ ข้าเองก็เป็นถึงพระราชา แต่แค่สีหน้าเจ้าก็ทำให้ข้าหัวเราะร้องไห้แล้ว” พระเจ้าซุกจงตรัสด้วยความรัก
    
“ฝ่าบาท” ทงอีรู้สึกผิดเป็นที่สุด
    
“แต่แบบนี้มันก็ดีนะ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ข้ารู้สึกจนปัญญาแบบนี้ แบบนี้มันทำให้ เข้าใจถึงความเป็นชายมากขึ้น ถือว่าเป็นผลงานของเจ้าเลยนะ เจ้าไม่ต้องทำฝืนยิ้มเพราะข้านะ เข้าใจรึเปล่า เจ้าเป็นอะไรไปเหรอทงอี เหมือนเจ้า..มีอะไรอยากจะพูดกับข้างั้นแหละ”
    
พระเจ้าซุกจงพูดจากใจจริง  ทงอียังเศร้าสร้อย พระเจ้าซุกจงตรัสถาม “ทงอีเป็นอะไรไป เรื่องอะไรที่ทำให้เจ้าลังเลแบบนี้ ช่างเถอะไม่ต้องพูดก็ได้ เมื่อก่อนข้าเคยบอกเจ้าว่า ถ้าหากไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูดออกมา”
    
ทงอีตัดสินใจบอกความจริง “หม่อมฉัน เป็นลูกสาวของนักโทษ”
    
“หา? ทงอี” พระเจ้าซุกจงตกพระทัยมาก
    
“หม่อมฉัน เป็นลูกของนักโทษเพคะ ตอนอยู่ที่หน้าผา เรื่องที่ยังบอกพระองค์ไม่หมด ก็คือเรื่องนี้เพคะ ท่านพ่อกับพี่ชายหม่อมฉันที่ตายไป ทั้งสองคนนั้น เคยเป็นนักโทษของบ้านเมืองและราชสำนัก”
    
“ทงอี”


พระเจ้าซุกจงยังไม่ได้ตรัสอะไร ขันทีก็เข้ามากราบทูลว่าใต้เม้าซอมาขอพบ ใต้เท้าซอปรี่เข้ามาโดยไม่ทันได้รับอนุญาต “ฝ่าบาท ขอประทานอภัย เพราะเป็นเรื่องฉุกเฉิน กระหม่อมจึงเข้าเฝ้าก่อนได้รับอนุญาต
    
“ใต้เท้า ข้าขอร้องท่านล่ะ เรื่องนี้ให้ข้าเป็นคน..” ทงอีพยายามจะพูด แต่ใต้เท้าซอพูดแทรกขึ้น “ท่านซังกุงได้โปรดกลับไปก่อน ท่านลืมไปแล้วเหรอ ว่าเรื่องนี้ควรให้ข้ามาจัดการเอง”
  
ทงอีออกมาก็พบกับชอนซูซึ่งยืนรออยู่  ด้านใต้เท้าซอก็เริ่มเล่าเรื่องราว “พระองค์จำกลุ่มคอมเกได้มั้ยพ่ะย่ะค่ะ?”
    
“กลุ่มคอมเกเป็นองค์กรชาวบ้านที่เป็นคนร้าย ที่สังหารขุนนางเมื่อหลายปีก่อนนี่นา จำได้ว่าตอนนั้นข้าเคยมีคำสั่งว่าให้ลงโทษไปตามกฎหมาย แต่มีอะไรเหรอ?”
    
“สิ่งที่ชอนซังกุงต้องการจะกราบทูลต่อฝ่าบาทคือเรื่องนี้พ่ะย่ะค่ะ นี่เป็นข้อมูลซื้อขายทาส ที่ไปค้นพบมาจากซงจู จากข้อมูลในนี้ บิดาของชอนซังกุงชื่อชอนมูจิน มารดาชื่อว่าคิมโกมี แล้วมีบันทึกว่าถูกขายไปยังหอนางโลม”
    
“แล้วเรื่องนี้ เกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่มคอมเกล่ะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่เมื่อกี้เจ้าบอกว่าเป็นเรื่องที่ทงอีจะบอก”
    
“ชอนซังกุง ไม่ได้ถือกำเนิดอยู่ที่ซงจูแต่แรกพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทคาดเดาถูกต้อง บิดามารดาของซังกุงเป็นทาส ที่หลบหนีไปจริง ๆ ในช่วงเวลาที่ตกอยู่ในห้วงคับขันตอนนั้น พวกเขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มคอมเก จึงทำให้รอดไปได้ สิ่งที่ชอนซังกุงอยากกราบทูลกับฝ่าบาท คือสิ่งนี้ พ่ะย่ะค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นไปเพราะเหตุสุดวิสัย แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มนักโทษ จึงคิดว่าตนเองมีความผิด” ใต้เท้าซอรีบทูล
    
“เป็นอย่างนี้นี่เอง เรื่องที่ทำให้ทงอีต้องเจ็บปวด ก็คือเรื่องนี้เหรอ?”
  
ประวัติของทงอีทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของชอนซูที่จัดการให้ เพราะไม่ต้องการให้ทงอีมีประวัติด่างพร้อยว่าเป็นลูกสาวของกลุ่มคอมเก


“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยคะ ใต้เท้าทราบมั้ยว่า แบบนี้ใต้เท้าเองก็ถือว่าได้หลอกลวงฝ่าบาทไปแล้วด้วยนะ ใต้เท้า” ทงอีบ่นอย่างหนักใจ
    
“ท่านยังจำวันนั้นได้มั้ย ตอนนั้นที่ท่าน บอกว่าพ่อของท่านถูกใส่ร้ายจนตาย หลังจากนี้ไปข้าจะไม่ปล่อยลูกสาวของนักโทษไปอีก ดังนั้น อย่าให้ข้าได้เห็นหน้าเจ้าอีก” ใต้เท้าซอพูดเสียงเข้ม
    
“ท่านพ่อข้าไม่ผิด พ่อข้าไม่ได้เป็นคนทำนะใต้เท้า ข้าเห็นสัญลักษณ์นั้นแล้ว สัญลักษณ์มือที่ผู้ตรวจการณ์ทำให้ดู ข้าเห็นท่านฮังอาทำสัญลักษณ์นี้ ท่านเคยบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญมากนี่ เพราะฉะนั้น ท่านลองไปตามหาฮังอาคนนั้นดู”

“เรื่องนี้อาจจะเป็นสาเหตุที่ข้าตามหาท่านมาตลอดจนถึงตอนนี้ก็ได้ เพราะในใจของข้า ยังคงอาลัยอาวรณ์ในตัวพ่อของท่านอยู่  เพราะว่าข้ายังต้องการที่จะรู้ความจริงอยู่ ถ้าหากคนผู้นั้น ยอมรับความผิดว่า เป็นคนฆ่าท่านพ่อข้าเพื่อจะช่วยข้าจริง ตอนนี้ก็ควรจะเปลี่ยนเป็นข้า ทำเพื่อคนผู้นั้นบ้าง ข้ายินดีที่จะรับโทษหลอกลวงเบื้องสูงในวันนี้อย่างเต็มใจ แต่ท่านโปรดจำไว้ ต้องไม่ใช่ท่าน ไม่ว่าเมื่อไหร่ข้าก็พร้อมจะยอมรับความผิด แต่ท่านต้องไม่เอ่ยปากกับฝ่าบาทโดยเด็ดขาด” 
    
“ใต้เท้า”
    
“นี่ไม่ได้ทำเพื่อท่าน แต่ว่าทำเพื่อฝ่าบาท ท่านเคยบอกเอาไว้ว่า สำหรับตัวท่านแล้ว ตำแหน่งนี้อยู่สูงเกินจะเอื้อม แต่การที่ท่านได้มาอยู่ในตำแหน่งนี้ย่อมต้องมีสาเหตุ เพราะเมื่อมาแล้ว มันย่อมมีสิ่งที่ท่านสามารถทำได้ นั่นคือสิ่งที่ต้องทำอยู่ข้างกายฝ่าบาท เข้าใจรึเปล่า จะต้องพยายาม ไม่ให้ถูกเปิดโปงเรื่องราวพวกนี้ ท่านจงใช้ความจริงใจของท่านไปตอบแทนความเชื่อใจของฝ่าบาทที่มีให้กับท่านเถอะ”
    
ขณะที่ใต้เท้าซอก็มาพูดคุยกับชอนซู


“ถึงมันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว แต่ก็ไม่อาจจะ...ให้อภัยกลุ่มคอมเกได้ เจ้ากับเชยอวอนเป็นคนที่คิดสั่นคลอนแผ่นดินและบ้านเมืองนี้ มันคือความจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลง”
    
“เรื่องนั้นข้าทราบดี”
    
“แต่ตราบใดที่ชอนซังกุงยังอยู่ที่นี่ เจ้าก็ต้องอยู่คอยคุ้มครองท่านซังกุง ความผิดที่เพื่อนของข้าทำ ให้ข้าเป็นคนรับผิดชอบเอง สิ่งที่เจ้ากับชอนซังกุงต้องทำ ก็คือจงลืมเรื่องนี้ไปซะ จำคำพูดข้าไว้ล่ะ”
  
ด้านพระมเหสีฮีบินก็ส่งคนไปสืบเรื่องทงอีจนได้ข้อมูลเรื่องที่ใต้เท้าซอไปหาข้อมูลที่กองปราบ และทราบว่าทงอีอาจมีส่วนเกี่ยวพันกับคอมเก ส่วนจางฮีเจยังหาบันทึกทึงลกไม่เจอจึงมาบอกพระมเหสี

    
“พี่หมายความว่ายังไงหา บันทึกทึงลกยังไม่ตกไปถึงมือพวกนั้นเหรอ?”
    
“ข้าเดาเอาไว้ไม่ผิดเลย เจ้าชิมวูนเทคนั่นเหมือนวางแผนอะไรบางอย่างเอาไว้ ตอนแรกก็คิดอยู่ว่าถ้าได้บันทึกทึงลกไปจริงพวกนั้นไม่น่าจะเงียบแบบนี้ แต่ข้าอาจจะคิดผิด รู้สึกว่าพวกนั้นกำลังจะคอยหาหลักฐาน ที่มันแน่นอนกว่านี้ ถึงยังสงบกันอยู่ พระมเหสี ต่อให้ต้องฆ่าคนพวกนั้นให้หมดข้าก็จะ..”
    
“ถึงวันพรุ่งนี้ใช่มั้ย? เวลาที่พวกนั้นแจ้งมา ก็คือพรุ่งนี้ใช่รึเปล่า?”
    
“ใช่แล้วพระมเหสี”
    
“ตอนนี้พี่ต้องใจเย็นเอาไว้ก่อน ถ้าพี่กังวลทุกอย่างก็จะพังไปหมด ถ้าไม่อยากปล่อยให้เรื่องเล็กทำหมากเสียทั้งกระดาน”
    
“พระมเหสี แต่ว่าตอนนี้”
    
“ถ้าบันทึกทึงลกอยู่ในมือคนพวกนั้น เราก็ไปเอามันกลับคืนมาก็จบแล้ว”
    
ส่วนแทซุกเห็นฮีเจและพระมเหสีพูดคุยกันโดยที่ไม่ให้เขามีส่วนร่วมรับรู้ด้วย จึงให้โฮยอนไปสืบว่าจางฮีเจกำลังทำอะไรอยู่
  
ใต้เท้าเฉินส่งคนไปสืบข่าวการทหารที่ด่านคังฮวาซัน เมื่อพระเจ้าซุกทรงทราบไม่พอพระทัยมาก  จึงจับตัวใต้เท้าเฉินและทูตมาสอบสวน

    
“ข้าได้ยินเรื่องที่ไม่น่าพอใจเท่าไหร่มา ที่ท่านต้องการคือสิ่งนี้ใช่มั้ย เริ่มจากเอาคำรับรองรัชทายาทมาให้ แต่ลับหลังก็ลอบมาตรวจสอบการทหารของโชซอน”
    
“จะเป็นเช่นนั้นได้ยังไง ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” ทูตต้าชิงพูดขึ้น
    
“ขออภัยด้วยฝ่าบาท ฝ่ายที่ได้รับความพอใจแล้วแอบวางแผนลับหลังน่าจะเป็นฝ่ายโชซอนมากกว่า” ใต้เท้าเฉินกราบทูลตรง ๆ 
    
“อะไรนะ”
    
“เพราะว่าฝ่าบาท สร้างปราการขึ้นที่แถบคังฮวาซัน ก่อนที่จะสร้างปราการนี้ได้หารือกับต้าชิงเรารึยัง”
    
“หรือว่าท่าน จะบอกข้าว่าการก่อสร้าง อะไรในโชซอนก็ต้องรายงานพวกท่านด้วยอย่างนั้นรึ?” พระเจ้าซุกจงตรัสถามเสียงดัง
    
“ฮะๆ ฝ่าบาท” ใต้เท้าเฉินเย้ยหยัน 

“มีหลักฐานเหรอ? เอาสิ ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีเรื่องนี้ ข้าก็จะอนุญาตให้พวกท่านเยี่ยมดูชายแดนของโชซอน แต่ถ้าคำพูดของท่านไม่มีความจริงอยู่ละก็ ต้าชิงจะต้องจ่ายค่าตอบแทนสำหรับการดูหมิ่นโชซอนและพระราชาโชซอน ท่านจะยอมรับมั้ย?”

 “ได้ กระหม่อมยอมรับแน่ แต่ว่าในทางกลับกันนั้น ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้เป็นความจริงล่ะ ฝ่ายที่ต้องจ่ายค่าตอบแทน ก็คงจะหนีไม่พ้นเป็นฝ่ายของโชซอนเอง”

 พระมเหสีฮีบินบอกกับแทซุกเรื่องที่นางสั่งให้ฮีเจนำบันทึกทึงลกไปให้ใต้เท้าเฉินของต้าชิง


 “แต่ว่า การทำแบบนี้จะส่งผลเสียหายต่อโชซอนและราชสำนักนะ พระองค์ทรงทราบเรื่องนี้มั้ย?”

 “ใช่ ข้ากำลังเฝ้ารอผลเสียนั้นอยู่ทีเดียว อย่างที่ท่านว่า ถ้าพวกนั้นได้บันทึกทึงลกไปแล้วจะ
 ต้องไม่ยอมอยู่เฉย เมื่อถึงตอนนั้นจะทำให้ฝ่าบาทต้องเจอกับปัญหาใหญ่แน่”

 “พระมเหสี” แทซุกกล่าวยังกังวล

 “แต่ถึงยังไงใต้เท้าก็ไม่ต้องกังวล ท่านคิดว่าข้ากำลังขายชาติอยู่อย่างนั้นรึ ใต้เท้าเฉินกับเราลงเรือลำเดียวกัน เค้าไม่มีทางพูดออกไปแน่นอนว่าได้บันทึกทึงลกมาจากเรา ไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่ ในตอนนี้ต้าชิง กำลังต้องการเงินไปบำรุงกองทัพเพื่อทำสงครามกับพวกมองโกล ท่านเข้าใจใช่มั้ย พวกเค้าจะเอาจุดอ่อนข้อนี้ของเรามา เพื่อเรียกร้องเงินทองประเทศของพวกเรา แต่ต่อให้ ให้เงินพวกเค้าไปแล้ว ก็คงจะยังไม่ยอมเลิกราง่าย ๆ และอาจจะถึงขั้นข่มขู่ว่าจะเปิดสงคราม เพราะว่าข้าจะเป็นฝ่ายขอร้องให้เค้าทำอย่างนั้น”

 “พระมเหสี”

 “จากนั้นโอกาสก็มาถึง ถึงตอนนั้นท่านเสนา ก็จะกลายเป็นวีรบุรุษที่ไปเจรจาสงบศึกให้ประเทศโชซอนแห่งนี้ คราวนี้ว่ายังไง เป็นแบบนี้แล้ว ท่านยังคิดจะรั้งข้าอยู่อีกมั้ย?”



 
  


* ข้อมูลจากเดลินิวส์ / ภาพ captures จากละครเอ็มบีซี


หมายเหตุ: ละคร "ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์" ถูกนำกลับมาฉายใหม่อีกครั้ง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00-13.00 น. และ 19.15-20.15 น. ทางช่อง 3 แฟมิลี่  (ยกเว้นเย็นวันศุกร์ สามารถรับชมได้ในเวลา 19.00 - 20.00น.) ออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558

1 ความคิดเห็น:

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา