วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ ตอนที่ 9




หมอที่แม่ของจางซังกุงไปซื้อยาถูกคนฆ่าตาย ทงอีถูกจับไปสอบสวนที่กองปราบ ในขณะนั้นทำให้ได้พบกับซอโยงกี ขณะที่กลุ่มของพระพันปีเมื่อทราบว่าจางซังกุงทำผิดกฎแอบเอายาจากภายนอกเข้าวังจึงตัดสินใจส่งหนังสือไปที่กองปราบเพื่อให้เอาผิดกับจางซังกุง

เนื้อเรื่อง:




ทงอีถูกนำตัวมาสอบสวน เนื่องจากหมอที่ทงอีไปรับยาเมื่อวานถูกฆ่าตาย ทงอีถูกถามว่าเอายามาให้ใคร ทงอีโกหกว่านำมาให้คนในกองดนตรีที่ป่วย แต่ผู้ตรวจการไม่เชื่อเพราะจับพิรุธได้ ใต้เท้าซอมาดูการสอบสวนด้วยยืนยันว่าทงอีพูดความจริง จึงถูกปล่อยตัวไป

 ใต้เท้าซอเรียกทงอีมาพบที่ห้องทำงาน ทงอีจำใต้เท้าซอได้แต่ไม่มั่นใจว่าใต้เท้าซอจำตนเองได้หรือไม่ ใต้เท้าซอถามว่าทงอีแซ่ชอนมาตั้งแต่เกิดหรือไม่ ทงอียังไม่มั่นใจจึงโกหกว่าใช่

 “ไม่ใช่อะไรหรอก ที่ถามอย่างนี้ เพราะอยากรู้ว่าเจ้าใช่เด็กที่ข้ารู้จักรึเปล่า”

 “เอ่อ.. ค่ะ”

 “ที่จริงข้าได้ตามหาเด็กคนนั้นมาตั้งหลายปีแล้ว นางหายไปหกปี โดยไม่มีร่องรอยอะไรเหลือเลย ถึงจะคนละแซ่กัน แต่ว่าเด็กคนนั้น ชื่อทงอีเหมือนกับเจ้านี่แหละ ถ้านางยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้ก็น่าจะอายุเท่ากับเจ้าด้วย ว่าไง เจ้าไม่รู้จักข้าจริงหรือ หกปีก่อนเจ้าพบข้าที่เมืองหลวงใช่มั้ย?”

 “ทำไม ถึงพูดอย่างนั้นล่ะคะใต้เท้า ข้าน้อยไม่เข้าใจที่ท่านพูดเลยแม้แต่นิดเดียว ว่ามันหมายถึงอะไร ถึงไม่รู้ว่าใต้เท้ากำลังหาใคร แต่ไม่ใช่ข้าน้อยแน่ เพราะข้าน้อย ไม่เคยพบใต้เท้ามาก่อน และข้าน้อยก็แซ่ชอนจริง ๆ ข้าจะพบท่านที่เมืองหลวงได้ไง เพราะข้าน้อย เกิดและโตที่เมืองซองชอนเจ้าค่ะ ข้าน้อยเป็นเด็กรับใช้อยู่ในหอนางโลมที่นั่น ตอนหลังถึงได้มาเป็นสาวใช้อยู่ในกองดนตรีค่ะ”

 “ใต้เท้า ข้าน้อยเอง” ผู้ช่วยเข้ามาขัดจังหวะพร้อมกับนำประวัติของทงอีมาให้ ในนั้นระบุว่านางเคยอยู่ที่หอนางโลมมาก่อน ใต้เท้าซอจึงคิดว่าทงอีไม่ใช่เด็กที่เขาตามหา

 “คงเป็นอย่างที่เจ้าพูดมา เจ้าเป็นเด็กรับใช้อยู่ในหอนางโลม คงไม่ใช่เด็กคนนั้น”

 หลังจากทงอีลากลับไปแล้ว ใต้เท้าซอก็ครุ่นคิดหนัก จนผู้ช่วยต้องถาม ใต้เท้าซอหน้าเครียด 

“ใช่แล้ว ข้ารู้สึกผิดหวังอย่างมาก เพราะข้าคาดหวัง..ว่านางจะเป็นคนเดียวกับเด็กคนนั้นจริง ๆ นั่นสิ อาจจะเป็นอย่างที่เจ้าพูด นางอาจจะตายไปจากโลกแล้ว ถึงจะยังมีชีวิตอยู่ ข้าก็คงจะไม่ได้เจอกับนางอีก เพราะว่าเด็กคนนั้นคงไม่มีทางจะมาหาข้าเองแน่ ความทรงจำของเด็กคนนั้น ข้าคงจะเป็นผู้บัญชาการ ที่คิดจะจับกุมนางเท่านั้น”

 ทงอีนำเรื่องมาปรึกษายังดัลเรื่องที่ตนเองถูกนำตัวไปสอบสวน และเรื่องราวที่ได้พูดคุยกับใต้เท้าซอ


“นั่นสิ ของมันแน่อยู่แล้ว คนที่ไม่เคยทำความผิด แค่เดินผ่านหน้ากองปราบ ก็กลัวหัวหดหมด ตากลมเดี๋ยวจะเป็นไข้ รีบไปพักผ่อนเถอะนะ

 “ไม่เป็นไร นายท่านกลับไปก่อนเถอะค่ะ ข้าอยากนั่งอยู่ตรงนี้สักพัก ไม่รู้ว่าทำไม รู้สึกเหมือนว่าคืนนี้จะฝันร้ายน่ะ” ทงอีครุ่นคิด

 “จะฝันร้ายเหรอ”

 “ค่ะ บางทีข้าก็ฝันแบบนั้นในบางวัน ฝันว่าเป็นนักโทษ ต้องถูกคนตามล่า ในความฝันนั้นข้าเป็นเด็กผู้หญิงที่กำลังหนีความผิดร้ายแรง อย่างไม่คิดชีวิต ใต้เท้าเค้า..ยังคงจำข้าได้จำท่านพ่อของข้าได้อยู่ เค้าบอกว่าตามหาข้ามาตลอด หาเพื่ออะไรหรือคะ? เพื่อจะจับข้าเหรอ สำหรับเค้าข้าเป็น..แค่เด็กหนีคดีคนนึง เลยต้องตามหาสินะ”

 พระเจ้าซุกจงให้หมอหลวงหาสาเหตุรายการยาของพระมเหสีที่เป็นพิษ แต่หายังไงก็ไม่พบ 

“ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ บางครั้งก็เกิดเรื่องที่ไม่มีสาเหตุขึ้นได้” หมอหลวงบอก

 “ไม่จริง ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ไม่มีสาเหตุ เท่าที่ข้ารู้ ถ้าผสมยาที่ไม่เข้ากันไว้ บางครั้งก็อาจกลายเป็นยาพิษได้”

 “ฝ่าบาท ทรงหมายถึงยาที่มีฤทธิ์ข่มกัน?”

 “ใช่แล้ว ยาดี ๆ ถ้าเอามาผสมแบบข่มกัน ก็จะกลายเป็นยาพิษได้นี่ พาทูกับโชกึมยอง ชองยังกับวูลกึมก็ใช่นี่”

 “ฝ่าบาทตรัสถูกแล้ว แต่ในพระโอสถถ้วยนั้นไม่มียาข่มกัน”

 “ข้าหมายความว่า อาจมีใครไม่ระวังจนเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ดังนั้น พวกเจ้าต้องไปตรวจสอบยาพวกนั้นอีกรอบว่ามียาที่ข่มกันรึเปล่า อย่าปล่อยให้เป็นที่คลุมเครือ ต้องไปสืบให้รู้เรื่อง”

 “กระหม่อมจะพยายามเต็มที่พ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงรับด้วยเกล้า

ทงอีถูกนายหญิงยูนและนางในโชเรียกมาพบเรื่องที่ถูกสอบสวน เพราะกลัวทงอีจะสารภาพ ทงอีบอกว่า นางโกหกว่านำยามาให้คนในกองดนตรี นางในโชกำชับว่าห้ามแพร่งพรายเรื่องที่เอายามาให้อ๊กจองโดยเด็ดขาด ไม่นานนักทงอีก็ถูกเรียกไปสอบอีกครั้งเนื่องจากคนของพระพันปีแอบเห็นทงอีไปที่พระตำหนักของอ๊กจอง นางในโชรู้ข่าวจึงนำเรื่องไปบอกพระสนมอ๊กจองเพื่อหาหนทางแก้ไข โฮยอนทราบข่าวก็ยิ่งไม่พอใจจึงมาต่อว่าอ๊กจอง


“ให้สาวใช้ลอบนำยาเข้ามาในวัง ทำไมท่านถึงทำอะไรประมาทแบบนี้”

 “ข้าน้อยขอล่วงเกินค่ะ เรื่องนี้ไม่ใช่ท่านซังกุง” นางในโชออกรับแทนนายหญิง

 “เจ้าไม่ต้องยุ่งหรอก”

“ทั้งหมดเป็นความเลินเล่อของข้า ถึงได้ทำผิดพลาดแบบนี้ไป ต้องขอโทษด้วย” อ๊กจองยอมรับผิด

 “ใช่ ไร้สาระที่สุด ไร้สาระจนน่าโมโหนัก คนพวกนั้นคอยจ้องหาเรื่องท่านอยู่ตลอดเวลา ทำแบบนี้ไม่เท่ากับยื่นเนื้อเข้าปากเสือรึ?”

 “เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว ถึงยังไงตอนนี้ก็กลับไปแก้ไม่ได้แล้ว เด็กคนนั้นถูกจับไปที่ฝ่ายตรวจการ เรื่องนี้ไม่ใช่เล็ก ๆ ถ้าเด็กคนนั้นเอ่ยชื่อของท่านออกมา ท่านก็อาจจะโดนตรวจสอบด้วย “ แทซุกพูดเครียด ๆ

“เรื่องนี้ข้ารู้ดี แต่ว่า ข้าก็ไม่คิดจะปัดความรับผิดชอบ”

 “อะไรนะ?”

 “ข้าคิดว่า.. พวกนั้นอาจจะรู้เรื่องอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการฟังคำตอบที่แน่นอน เค้าถึงได้จับตัวเด็กคนนั้นไป ดังนั้นข้าจะไปเอง” อ๊กจองบอก

 “ไม่ได้ ไปไม่ได้เด็ดขาด นี่ท่านไม่รู้รึว่าฝ่ายตรวจการคืออะไรน่ะ?” แทซุงเสียงเข้ม

 “แต่จะปล่อยให้เด็กที่ทำงานให้ข้า ต้องไปรับกรรมแทนข้าแบบนี้ได้ยังไง ไม่ต้องพูดแล้ว ท่านกำลังจะถูกแต่งตั้งเป็นพระสนม หรือว่าท่านจะยอมไปถูกทรมานในที่แบบนั้น ถึงตอนนั้นชื่อเสียงของท่านในฝ่ายในก็จะป่นปี้ไม่มีเหลือ เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราไปจัดการเอง ดังนั้น ท่านห้ามยื่นมือเข้ามาเด็ดขาด เข้าใจรึเปล่า?” แทซุงกำชับ

จากนั้นโฮยอนก็สั่งการให้แทยุนไปสืบความคืนหน้ามาโดยเร็ว

ทงอีถูกฝ่ายตรวจการจับมาทรมานเพื่อให้สารภาพว่าเอายามาให้ใคร


“บอกมาซะ เจ้าเอายาพวกนั้นไปให้ใครกันแน่ นังเด็กดื้อ นี่เจ้าจะไม่ยอมบอกจริง ๆ รึ ถึงเจ้าจะยังปากแข็ง แต่ความจริงก็ต้องถูกสืบจนกระจ่าง ที่จริงพวกข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าทำงานให้กับเรือนชีซอนน่ะ ดังนั้น ข้าขอเตือนให้เจ้ารีบสารภาพออกมาซะ แล้วเจ้าก็จะได้รับการปล่อยตัว ข้ารับรองให้ได้ เจ้าเป็นคนลอบนำยา เข้ามาให้กับเรือชีซอนใช่มั้ย? ใช่รึเปล่า?”

 “ข้าน้อยไม่มีอะไรจะสารภาพค่ะ” ทงอีไม่ยอมเปิดปาก

 “หะ บังอาจมาก เจ้าอยากถูกหามออกไปจากวังจริง ๆ เหรอ?”

 “ท่านซังกุง” ทงอีกล่าวน้ำเสียงตกใจ

เรื่องที่ทงอีถูกนำตัวไปสอบสวนและทรมาน เพื่อให้รับสารภาพว่านำยามาให้ใคร ถูกนางกำนัลในวังซุบซิบกันอย่างกว้างขวาง ขณะที่นายหญิงยูนก็ร้อนใจ พระเจ้าซุกจงเห็นท่าทางผิดปกติของนางกำนัน จึงเรียกขันทีมาสอบถาม

 “พวกนางกำนัลดูผิดปกติตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มีเรื่องอะไรเหรอ ไม่ได้ยินรึไง ข้าถามว่าเกิดอะไรขึ้น?”

“ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ เพราะเรื่องที่เกิดในฝ่ายตรวจการพ่ะย่ะค่ะ”

“ฝ่ายตรวจการรึ? มีอะไร ไหนบอกมาซิ”

 “แต่ว่าฝ่าบาท..” ขันทีอ้ำอึ้ง

“ข้าไม่ได้คิดจะก้าวก่ายงานของพวกนาง ถึงข้าจะเป็นพระราชา แต่ก็รู้ว่าไม่ควรยุ่มย่ามเรื่องฝ่ายใน แต่ว่าบรรยากาศดูผิดปกติเกินไป ข้าเลยอยากรู้สาเหตุน่ะ รีบบอกมา ข้าหลวงฮัน”

 ยังไม่ทันจะได้คำตอบข้าหลวงจางก็มาขอเข้าเฝ้า “ฝ่าบาท ข้าหลวงจางขอเข้าเฝ้า”

 “เข้ามาได้ เจ้ามีเรื่องอะไร?”

 “หมอหลวงมาขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท ดูเหมือนจะพบสาเหตุเรื่องพระโอสถพระมเหสีแล้ว”

 “งั้นรึ งั้นก็ให้รีบเข้ามา บอกมาเป็นเพราะสาเหตุอะไรกันแน่?” พระเจ้าซุงจงตรัสถาม


“เป็นอย่างที่ฝ่าบาทตรัส มียาที่ข่มกันอยู่จริง เป็นยาที่ใส่ในโอสถพระมเหสีแล้วเกิดฤทธิ์ข่มกันจนเกิดเป็นพิษขึ้นมาพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงทูลรายงาน

“หะ แล้วใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้?”

 ทงอียังถูกสอบสวนอย่างหนัก “รู้มั้ยการทรมานของฝ่ายตรวจการเป็นยังไง ตอนนี้ยังไม่สาย สารภาพมาว่าเอายาให้จางซังกุง จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว”

“ขอบคุณที่หวังดีค่ะ แต่ข้าน้อยทำไม่ได้ ถึงจะเกิดเป็นชนชั้นต่ำ แต่คำพูดจะส่งอย่างไร ข้าน้อยก็รู้ดีอยู่”

 “อะไรนะ?”

“ถึงปากจะบอกว่ารู้ทุกอย่าง แต่กลับจี้ถามข้าน้อยไม่ยอมหยุด นั่นเป็นเพราะว่าคำพูดของข้าน้อย มีความสำคัญมากไม่ใช่หรือคะ?”

 “หมายความว่า เจ้ายอมถูกลงโทษเหรอ นี่ไม่ใช่ความผิดเจ้าแต่เป็นความผิดจางซังกุง”

 “ไม่ค่ะ มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ เรื่องนี้ ข้าน้อยก็มีความผิดเช่นกัน ที่จริงข้าน้อยเองก็กลัว และกังวล เพราะข้าน้อยอาจจะต้องถูกขับไล่ออกจากวัง แต่ถึงแม้จะรู้ว่าอาจเกิดปัญหาแต่ข้าน้อยก็ยังไปส่งของให้ ดังนั้นข้าน้อยก็มีความผิดเหมือนกัน จะโยนความผิดไปให้จางซังกุงได้ยังไง”

 “ท่านซังกุง ข้าน้อยได้รับคำสั่งให้มานำตัวนางค่ะ”

ทงอีไม่ยอมเปิดปาก ผู้ตรวจการจึงสั่งให้ทรมาน แต่ยังไม่ทันได้เริ่มอ๊กจองก็มาห้ามไว้ก่อน



“ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้นะ เด็กคนนี้เอายาไปส่งที่เรือนของข้าเอง หยุดทรมานให้นางสารภาพเดี๋ยวนี้ ยังมัวรออะไรอยู่ คำที่เจ้าอยากได้ยินจากปากเด็กคนนี้ คือคำนี้ไม่ใช่หรือ ดังนั้นจงปล่อยนางไปซะ”

“ท่านคงรู้ว่าคำพูดของท่านหมายถึงอะไรนะจางซังกุง มันจะทำให้ตอนนี้ท่านต้องถูกสอบสวนจากฝ่ายตรวจการตามกฎนะ”

 “ข้ารู้อยู่แล้ว ข้าถึงได้มาที่นี่ไง”

 “รีบเชิญจางซังกุงเข้าไปข้างใน มัวทำอะไร เร็วเข้า”

 “ไม่ต้องยุ่งยากหรอก ข้าจะรับการไต่สวนตามกฎ” อ๊กจองบอก

 “ท่านซังกุง ทำไมคะ..” ทงอีถามงง ๆ

 “ข้าไม่ดีเลยทำให้เจ้าเดือดร้อน ข้าขอโทษนะ ไม่ต้องห่วงหรอก ข้าไม่เป็นอะไรหรอก ไปเถอะ”

 “ท่านซังกุง ๆ”


* ข้อมูลจากเดลินิวส์ / ภาพ captures จากละครเอ็มบีซี


หมายเหตุ: ละคร "ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์" ถูกนำกลับมาฉายใหม่อีกครั้ง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00-13.00 น. และ 19.15-20.15 น. ทางช่อง 3 แฟมิลี่ (ยกเว้นเย็นวันศุกร์ สามารถรับชมได้ในเวลา 19.00 - 20.00น.) ออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา