วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แทกิล ยอดพยัคฆ์นักล่า ตอนที่ 5



แทฮาสามารถหลบหนีไปได้ แต่แทกิลเองก็ยังตามล่าไม่ลดละ ด้านเสนาบดียังไม่ยอมปล่อยชอลวุงออกมาจนกว่าเขาจะยอมให้ความร่วมมือ แทกิลไล่ตามแทฮาไปติด ๆ จนเกือบจะตามพบที่โรงเตี๊ยมก่อนเข้าเมือง

เนื้อหา 

ตอนที่แล้วละครเรื่องนี้ทิ้งปริศนาคาใจให้คนดูสงสัยเล่นว่า แทกิลจะมองเห็นเฮวอนที่อยู่บนเรือกับแทฮาหรือไม่....


คำตอบก็คือ "ไม่เห็น" เพราะหลังจากลดคันธนูลงแล้ว เขาก็ยกขึ้นเล็งและยิงใส่แทฮาทันที แทฮาใช้ดาบปัดป้องเอาไว้ได้ แทกิลจึงยิงใส่อีก 2 ครั้ง แต่แทฮาก็ปัดป้องเอาไว้ได้ทุกครั้ง

แทนที่จะผิดหวัง แทกิลกลับยิ้มขณะที่เรือของแทฮาค่อยๆ แล่นห่างออกไป เชแนะว่าพวกเขาควรจะจับเป็นมากกว่า ทำไมแทกิลถึงยิงธนูใส่แทฮา แทกิลตอบว่า "เคยเห็นมังกรติดเบ็ดมั๊ย ยิงยังไงเขาก็ไม่ตายง่ายๆ หรอก"

ความจริงแล้วแทกิลเองก็รู้สึกทึ่งและยอมรับในทักษะการต่อสู้ของแทฮา ถึงแม้จะเคยแสดงทีท่าว่าไม่ยอมรับฝีมือแทฮาต่อหน้าเชก็ตาม (ในตอนที่ 3 หลังถูกดาบแทฮาแทงตอนที่ต่อสู้กันครั้งแรกในทุ่งหญ้า)


วังซอนถามว่าจะรอจนกว่าเรือจ้างกลับมามั๊ย (จะได้ลงเรือตามไป) แทกิลซึ่งล่วงรู้ความคิดของแทฮาบอกว่า ลองได้ลงเรือไปแล้วก็คงไปลับ จะปล่อยให้เรือกลับมาทำไม จากนั้นจึงบอกให้วังซอนเก็บของขึ้นม้าเตรียมเดินทางต่อ  (แทกิลเดาถูกเพราะแทฮาไล่คนพายเรือให้ว่ายน้ำกลับขึ้นฝั่งไป)

ขณะที่ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ไล่ล่า ส่วนอีกฝ่ายกำลังถูกตามล่า ทั้งแทกิลและแทฮาต่างก็มีไหวพริบและชั้นเชิงด้วยกันทั้งคู่ แทกิลในฐานะผู้ล่าเฝ้ารอเวลาและสถานที่เหมาะๆ ในการตะครุบเหยื่อ ส่วนเหยื่อที่ชาญฉลาด (และรู้ทันผู้ล่า) อย่างแทฮาก็วางแผนล่อนักล่าให้ตายใจ แล้วค่อยวางกับดักและล่อหลอกให้ตกหลุมพรางในภายหลัง....แล้วใครกันนะที่จะชนะในเกมนี้!!


หลังเรือของแทฮาแล่นออกไปแล้ว สามหนุ่มนักล่าก็นำแผนที่และเข็มทิศออกมาวิเคราะห์ดูว่าแทฮาจะมุ่งหน้าไปทางไหน ส่วนซอลฮวาพยายามมีส่วนร่วมในการออกความเห็น โดยอาศัยประสบการณ์ที่เคยออกตระเวนตามเมืองต่างๆ  สมัยอยู่กับคณะละครเร่

ขณะที่สามหนุ่มนักล่าทาสกำลังจะออกเดินทางอีกครั้ง ซอลฮวาก็วิ่งไปหาแทกิลซึ่งนั่งอยู่บนหลังม้า แล้วอ้อนเรียก "พี่ชาย" ถึงจะทำหน้าเหนื่อยหน่ายแต่คราวนี้แทกิลเริ่มรู้หน้าที่ เขาจึงยื่นแขนให้ซอลฮวาแล้วช่วยดึงเธอขึ้นม้าแต่โดยดี (ตอนที่แล้วซอลฮวาเป็นฝ่ายยื่นแขนให้แทกิล) 


ระหว่างที่กลุ่มแทกิลกำลังติดตามไล่ล่า แทฮาและเฮวอน (ยังอยู่ในชุดไว้ทุกข์) ก็เร่งหลบหนี เมื่อเฮวอนเริ่มอ่อนล้าและทรุดลงไปกองกับพื้น แทฮาจึงนำผ้าที่ใช้ห่อดาบมายื่นให้เฮวอนจับแล้วพาหลบหนีต่อไป  (เฮวอนไม่ยอมจับมือแทฮาในตอนที่แล้ว) แต่ในที่สุดเฮวอนก็ทรุดลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง

เฮวอนวิ่งต่อไปไม่ไหวจึงบอกให้แทฮาล่วงหน้าไปก่อน แทฮาไม่ยอมทิ้งเฮวอนจึงแวะพัก แล้วถามความเป็นมาซึ่งกันและกัน เฮวอนสงสัยว่าแท้จริงแล้วแทฮาเป็นใครจึงพยายามซักถาม แต่แทฮาพูดตัดบทให้รีบออกเดินทางต่อ เพราะกลุ่มแทกิลคงจะตามทันในไม่ช้า เฮวอนยังคงถามต่อว่ากลุ่มคนที่อยู่ริมแม่น้ำ (กลุ่มแทกิล) เป็นใคร และมาตามล่าใครกันแน่ แทฮาตอบว่า มาตามจับเฮวอน ส่วนที่เขาต้องเร่งเดินทางเป็นเพราะต้องรีบไปหาใครบางคน (แม้แทฮาไม่ยอมบอกว่าตนเองเป็นใคร แต่เขาก็บอกเป็นนัยๆ ว่าตัวเองเป็นคนดี - ไม่ได้หนีทหารและไม่ได้ทำอะไรผิดจนต้องหลบหนี)


ด้านชอลวุงยังคงถูกขังอยู่ในคุก เพราะไม่ยอมทำตามคำสั่งพ่อตาที่ต้องการให้เขาไปตามฆ่าอดีตเสนาบดี (อาจารย์ของแทฮา) และพระโอรสองค์เล็กของรัชทายาทด้วยตัวเอง ชอลวุงนึกถึงวันที่เสนาบดีเสนอตำแหน่งผู้บัญชาการค่ายฝึกทหารให้ โดยมีเงื่อนไขว่าชอลวุงจะต้องแต่งงานกับลูกสาวที่เป็นง่อยของเขาเพื่อเป็นการตอบแทน 

ขณะเดียวกัน กลุ่มนักล่าและผู้ถูกล่าต่างหยุดพักทานอาหารมื้อค่ำและพักแรมกลางทุ่งหญ้าบนเนินเขา


แทฮาเตรียมหาที่พักแรม แต่เฮวอนกลัวว่ากลุ่มนักล่าจะตามมาทัน  แทฮาจึงบอกว่าถึงจะอึดยังไงแต่พวกนักล่าก็ต้องให้ม้าพักผ่อนเหมือนกัน ซึ่งก็เป็นดังที่แทฮาคาด เพราะหลังจากเดินทางเป็นเวลายาวนาน ซอลฮวาก็ร้องโอดโอยว่าหิว เชจึงแนะนำให้หยุดพักเพราะม้าก็เหนื่อยล้าแล้วเหมือนกัน แม้จะบ่นว่าพวกโจรภูเขาอาจตามมาทัน แต่แทกิลก็สั่งให้วังซอนไปทำอาหาร 

ถึงแม้จะมีผู้หญิงติดตามมาด้วย แต่น้องเล็กวังซอนยังคงรับหน้าที่ในการทำอาหารให้ทุกคนทานเหมือนเช่นเคย เมื่อรู้ว่าซอลฮวาทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง วังซอนรู้สึกผิดหวังและหงุดหงิดมาก จึงโวยวายใส่ซอนฮวา พอถูกวังซอนตำหนิมากๆ เข้า ซอนฮวาก็ออดอ้อนพลางลูบแข้งลูบขาจนวังซอนใจอ่อนและก้มหน้าก้มตาทำกับข้าวต่อไป  


ซอลฮวาถามวังซอนว่าผู้หญิงที่แทกิลตามหาเป็นใคร  วังซอนตอบว่า เป็นทาสหลบหนีที่แทกิลตามหามาตลอด 10 ปี ซอลฮวาหันไปมองแทกิลด้วยความทึ่ง เธอกล่าวว่า ในโลกนี้จะหาผู้ชายแบบแทกิลได้ที่ไหน ที่ผ่านมาเจอแต่ผู้ชายรักสนุก พอได้ยินคำว่า 'รักสนุก' วังซอนก็เริ่มออกอาการ โดยหันไปถามซอลฮวาว่าผ่านวันนั้นของเดือนไปแล้วหรือยัง ทั้งยังชวนว่า "คืนนี้เป็นไง"

ซอลฮวาเดินไปฟ้อง (โกหก) แทกิลว่าถูกวังซอนจับก้น ขณะที่วังซอนโวยวายว่าไม่ได้ทำ ซอลฮวาขอความเห็นใจว่าถึงแม้จะมาจากคณะละครเร่ (ที่เต้นและขายเรือนร่างแลกเงิน) แต่เธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง สมควรแล้วหรือที่จะโดนลวนลามแบบนี้ แทกิลเรียกวังซอนมาตักเตือน พร้อมทั้งบอกว่าเป็นสมภารอย่ากินไก่วัดถ้าไม่อยากเดือดร้อน จากนั้นก็หันไปดุและไล่ซอลฮวาให้หัดช่วยวังซอนทำกับข้าว


เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าตัวเองก็มีดี ซอลฮวาจึงหยิบเฮกึม (ซอ 2 สายที่เธอสะพายไว้ที่หลังตลอดการเดินทาง) ออกมา แทกิลเห็นเลยบอกว่าเดี๋ยวงูก็ออกมาหรอก  (น่าจะเป็นการปล่อยมุกล้อการแสดงเป่าปี่ที่มีงูโผล่ออกมา) เธอเริ่มจากการเล่นเลียนเสียงสัตว์แบบขำๆ ทำให้สามหนุ่มค่อยๆ ยิ้ม และหัวเราะออกมาในที่สุด (แต่แทกิลกลบเกลื่อนด้วยการเอามือลูบจมูก แล้วเก๊กหน้าเข้มต่อ) จากนั้นเธอจึงเริ่มบรรเลงเพลง โดยบอกว่าเป็นเสียงความรู้สึกของหัวใจนายน้อยเมื่อหันไปเห็นคุณหนูข้างบ้าน ทำให้นักล่าทาสทั้งสามถึงกับอึ้งและเคลิ้มไปตามๆ กัน หลังบรรเลงเพลงแล้ว ซอลฮวาผู้หิวโหยก็ตักข้าวใส่ปากและยิ้มให้แทกิลอย่างมีความสุข  

อีกด้านหนึ่ง แทฮากำลังนั่งลูบดาบพลางครุ่นคิดถึงความหลังหน้ากองไฟ ส่วนเฮวอนนอนอยู่ในเพิงกันน้ำค้างที่แทฮาทำให้ พลางลูบไล้ก้อนหินที่พกติดตัวไว้ตลอด 10 ปี (เป็นหินที่นายน้อยแทกิลเคยนำไปผิงไฟให้) 


รุ่งเช้า มีกลุ่มโจรภูเขาติงต๊องบุกเข้ามาโจมตีแต่แทฮาไหวตัวทัน หลังจัดการสมุนโจรได้ 3-4 คน หนึ่งในนั้นก็ใช้มีดจ่อคอเฮวอนไว้ (โดยขู่ว่าถ้าแทฮาวาง 'ชีวิต' แล้วเขายอมไว้ 'อาวุธ')  โจรกลุ่มนี้ต้องการเรียกเก็บค่าผ่านทาง (ปล้น) แต่แทฮาใช้เวลาเพียงไม่นานก็จัดการพวกโจรได้ทั้งหมด หัวหน้าโจรเห็นท่าไม่ดีเลยคุกเข่าเรียกพี่ จากนั้นจึงรีบเผ่นหนีไป

ส่วนทางด้านกลุ่มนักล่าก็เตรียมตัวออกเดินทาง โดยน้องเล็กวังซอนทำหน้าที่เก็บข้าวของ ส่วนพี่ใหญ่เชกลบเกลื่อนร่องรอย มีเพียงสาวน้อยซอลฮวาที่ยังคงนอนหลับปุ๋ย วังซอนบอกแทกิลให้ทิ้งเธอไว้ที่นี่  แทกิลมองซอลฮวาด้วยความเอ็นดูปนขำขณะใช้ดาบเขี่ยเพื่อปลุกให้เธอลุกขึ้นมา (สีหน้าแบบนี้ซอลฮวาไม่มีทางได้เห็นในยามตื่น) พอตื่นแล้วซอลฮวาก็ร้องหาอาหาร แทกิลจึงใช้ดาบผลักให้เธอนอนต่อ แล้วบอกวังซอนว่าจะปล่อยเธอไว้ที่นี่

แทฮาทำกระดาษตกลงบนพื้นขณะต่อสู้กับโจรภูเขา เฮวอนจึงหยิบขึ้นมาแล้วส่งคืนให้  เมื่อแทฮาเปิดดูก็เผยให้เห็นภาพวาดเกี่ยวกับเหตุการณ์บนเกาะเชจู


ณ เกาะเชจู ที่ยังคงมีโรคระบาด เด็กชายคนหนึ่งยืนร้องไห้อยู่หน้าบ้าน และเด็กคนนี้ก็คือองค์ชายซกยอน พระโอรสเพียงองค์เดียวของรัชทายาทที่รอดชีวิตจากการถูกลอบวางยาพิษ 

ขณะที่นางในซึ่งทำหน้าที่ดูแลองค์ชายน้อยกำลังตักน้ำในบ่อ ก็มีมือปราบ (ที่ถูกเนรเทศมาอยู่เกาะเชจู) มาตามตื๊อเพื่อชวนให้หนีออกจากเกาะเชจูด้วยกัน นางในคนดังกล่าวไม่สนใจคำชวนและไม่ชอบที่เขาพูดลบหลู่องค์ชายน้อยจึงเดินหนี แต่เขายังคงตามตื๊อโดยบอกว่าแม้ตอนนี้เขาจะเป็นแค่มือปราบ  แต่ในอดีตเขาเป็นถึงครูฝึกในกองทัพ นางในคนดังกล่าวจึงโต้กลับว่า เขาก็แค่คนทรยศที่หักหลังแม่ทัพแทฮาเพื่อเอาตัวรอด


แท้จริงแล้วชายคนดังกล่าว คือ ฮันซัม อดีตทหารที่เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับแม่ทัพแทฮา (เคยปรากฏตัวในตอนที่ 3) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกจับตัวมาทรมานอย่างหนักพร้อมแม่ทัพแทฮาและทหารคนอื่นๆ เพื่อให้ยอมรับสารภาพว่ายักยอกของหลวง ในขณะที่คนอื่นๆ ยอมตาย แต่ไม่ยอมรับสารภาพ เพราะเป็นการจัดฉากใส่ร้ายแทฮาและพวกตน  ฮันซัมกลับสารภาพว่าแทฮาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการยักยอกในครั้งนี้ ทั้งยังบอกด้วยว่านอกจากตนแล้ว ทุกคนในที่นี้ต่างก็มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นในเรื่องดังกล่าว

ย้อนกลับไปที่กลุ่มสามหนุ่มนักล่าทาสซึ่งเดินทางไปถึงจุดที่แทฮาและเฮวอนถูกโจรภูเขาโจมตี  แทกิลสั่งซอลฮวาให้เข้าไปดมหากลิ่นผู้หญิงในเพิงชั่วคราว (ที่เฮวอนเคยนอน) ซอลฮวาหน้าบึ้งบอกตนไม่ใช่หมา แต่พอแทกิลบอกว่าจะให้กินข้าวเยอะกว่าเดิม 2 เท่า ซอลฮวาก็รีบมุดเข้าไปดมทันทีแต่ไม่ได้กลิ่นอะไร แทกิลเลยถอนคำพูดเรื่องที่จะให้เธอกินข้าวเพิ่ม


เช พบร่องรอยการต่อสู้ในบริเวณดังกล่าวจึงเรียกแทกิลไปดู ส่วนวังซอนพบร่องรอยการใช้ดาบฟันพงหญ้าขณะเดินทาง (แทฮาฟันพงหญ้าและกิ่งไม้ที่ขึ้นขวางทางเพื่อให้เฮวอนเดินทางสะดวกขึ้น) 

หลังกลุ่มแทกิลพบร่องรอยการเดินทางของแทฮาก็เริ่มตามใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เชสงสัยว่าทำไมคนฝีมือดีและมีไหวพริบอย่างแทฮาถึงทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้เห็นมากมาย แทกิลเชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะมีเรื่องกวนใจและมัวแต่รีบเร่งหลบหนี (เพราะมีร่องรอยการต่อสู้) เลยไม่มีเวลากลบเกลื่อนร่องรอย

ไม่ไกลกันนั้น แทฮาและเฮวอนกำลังนั่งพักและเตรียมอาหาร (แทฮากัดคอและถลกหนังงูต่อหน้าเฮวอน จากนั้นก็นำไปย่าง) เฮวอนถามว่าแทฮาเคยเป็นนายพรานมาก่อนรึเปล่า เพราะเห็นว่าไม่มีอะไรที่เขาจับไม่ได้ เขาตอบว่าการเอาตัวรอดในยามคับขันเป็นเรื่องสำคัญที่ทหารทุกคนต้องฝึก ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่เขาจับหรือกินไม่ได้


เธอถามว่าทิ้งรอยร่อยเอาไว้อย่างนี้ไม่กลัวคนอื่นตามมาเจอหรือ แทฮาตอบว่าถึงยังไงพวกนั้นก็ตามไม่เลิกอยู่แล้ว สู้ล่อให้ตามมาทางนี้ก่อนดีกว่า แล้วค่อยหลอกให้ไปทางอื่นทีหลัง เฮวอนถามต่อว่าเขาจะไปเกาะชงจูทำไม แทฮาบอกว่าจะแวะไปหานายที่เขาเคยทำงานรับใช้เพราะมีเรื่องจะปรึกษา เฮวอนไม่ต้องการเป็นถ่วงจึงบอกว่าจะขอแยกทางกันหลังจากลงเขา

อีกด้านหนึ่งบนเกาะชงจู อดีตเสนาบดีหรือ 'นาย' ที่แทฮากล่าวถึง กำลังนั่งเขียนข้อความด้วยหมึกล่องหน จากนั้นลูกศิษย์คนหนึ่ง (เขาคือคนที่สอดจดหมายขององค์รัชทายาทใส่เสื้อแทฮาในตอนที่ 1) ก็เข้ามารานงานว่าแทฮากำลังถูกคนตามล่าทั้งจากทางการและนักล่าทาส  อดีตเสนาบดี อิม ยองโฮ ส่งจดหมายให้ลูกศิษย์แล้วให้เขารีบนำไปส่ง โดยบอกว่าพวกเขามีเวลาไม่ถึง 2 วันในการทำตามแผน ไม่ว่าจะมีแทฮาหรือไม่ก็ตาม 

ในที่สุด เฮวอนและแทฮาก็เดินทางไปถึงโรงเตี๊ยม ซึ่งเป็นจุดที่ทั้งคู่วางแผนว่าจะแยกทางกันในวันรุ่งขึ้น ระหว่างพักค้างแรมที่โรงเตี๊ยมในคืนนั้น แทฮาถามว่าเฮวอนจะหนีไปไหน เฮวอนตอบว่าไปตามทางเรื่อยๆ แทฮารู้ว่าเฮวอนหลบหนีการแต่งงานจึงถามว่าเธอจะเดินทางไปหาคนรักหรือไม่ เฮวอนตอบเป็นนัยๆ ว่าถ้าพบกันได้ คงได้พบนานแล้ว และถ้าไปหากันได้ ป่านนี้ก็คงจะได้เจอกันแล้ว


แทฮาถามต่อว่าเขาอยู่ไกลมากเลยหรือ เฮวอนตอบว่าใช่ เขาอยู่ไกลเหลือเกิน พูดจบเฮวอนก็รำลึกถึงเรื่องราวในอดีต ตอนที่พี่ชายเธอเผาบ้านและสังหารคนในครอบครัวแทกิล จากนั้นก็ใช้เคียวฟันไปที่หน้าของแทกิลซึ่งยืนตะลึงอยู่ท่ามกลางกองไฟ (เธอเลยนึกว่าแทกิลตายแล้ว)

ด้านแทกิลซึ่งตามล่าแทฮามาติดๆ ยังคงพบร่องรอยของแทฮาอย่างต่อเนื่อง เขารู้ว่าข้างหน้ามีโรงเตี๊ยม เลยวางแผนจับตัวแทฮาที่นั่นก่อนรุ่งสาง วังซอนสงสัยว่าทั้งคู่จะเข้าพักในโรงเตี๊ยมแน่หรือ ซอลฮวาเลยถือโอกาสอธิบายว่า ในเมื่อมีที่พักแล้วผู้ชายอย่างแทฮาจะปล่อยให้ผู้หญิงที่มาด้วยนอนตากน้ำค้างได้อย่างไร 

ก่อนนอนเฮวอนถามแทฮาว่ามีครอบครัวหรือยัง เธอเห็นเขาเกล้าผมสูงจึงคิดว่าน่าจะผ่านการแต่งงานมาแล้ว แทฮาหวนนึกถึงวันที่ภรรยาและลูกถูกทหารต้าชิงสังหาร เขาไม่ตอบคำถามเฮวอน แต่กลับแนะนำวิธีการหลบหนีโดยไม่ให้เป็นจุดสังเกตแทน เฮวอนกล่าวขอบคุณแทฮาที่คอยช่วยเหลือเธอมาโดยตลอด และอวยพรให้แทฮาเดินทางปลอดภัย ส่วนแทฮาก็อวยพรให้เธอเดินทางปลอดภัยเช่นกัน



เช้าวันรุ่งขึ้น กลุ่มแทกิลไปตามจับตัวแทฮาที่โรงเตี๊ยม แต่กลับไม่พบตัวจึงคิดว่าทั้งคู่เพิ่งออกเดินทางไป (พื้นห้องยังอุ่นอยู่) สามหนุ่มกระจายกำลังกันค้นหาโดยบอกให้ซอลฮวารออยู่ที่โรงเตี๊ยม ซอลฮวาหันไปเห็นม้าด้านข้างโรงเตี๊ยมเลยกระโดดขึ้นแล้วรีบควบม้าตามแทกิลไป (เพราะกลัวโดนทิ้ง)

เมื่อถูกแทกิลถามว่าขี่ม้าเป็นด้วยหรือ ซอลฮวาตอบว่าขนาดเต้นบนเชือกยังทำได้นับประสาอะไรกับการขี่ม้า  จากนั้นเธอก็ตั้งข้อสังเกตว่าที่โรงเตี๊ยมมีม้า แต่ทำไมแทฮากับเฮวอนจึงไม่ขี่ม้าหลบหนีไป แทกิลฉุกคิดขึ้นมาได้ทันทีว่าตนกำลังตกหลุมพรางของแทฮา จึงรีบควบม้ามุ่งหน้ากลับไปยังโรงเตี๊ยมอีกครั้ง


หลังกลุ่มนักล่าทาสออกจากโรงเตี๊ยมไปแล้ว แทฮาและเฮวอนก็คลานออกมาจากใต้ถุนโรงเตี๊ยม จากนั้นแทฮาก็เอาหูแนบลงกับพื้น เมื่อรู้ว่ากลลวงใช้ไม่ได้ผลเขาก็ตรงไปยังม้าตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ เมื่อแทกิลย้อนกลับมายังโรงเตี๊ยมก็พบว่าม้าหายไป เขาจึงก้มลงเอาหูแนบพื้นแล้วบอกว่าแทฮากำลังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก จากนั้นก็รีบควบม้าออกไล่ล่าแทฮาทันที


* ภาพ captures / ละครเคบีเอส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา