วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แทกิล ยอดพยัคฆ์นักล่า ตอนที่ 6


เสนาบดีส่งชอลวุงไปฆ่าอดีตเสนาบดี กับโอรสของรัชทายาท แต่หลังจากฆ่าเสนาบดีแล้ว   แทฮาก็มาถึงพอดี ขณะที่กำลังสู้กัน แทกิลที่เข้าใจว่าชอลวุงจะมาแย่งรางวัลก็เข้ามาร่วมวงต่อสู้ด้วย แต่แทฮาได้ยินเสียงนกหวีดรู้ว่าเฮวอนมีอันตรายจึงรีบไปช่วย

เนื้อหา

ตอนที่แล้วจบลงตรงที่แทกิลรู้ตัวว่าหลงกลแทฮาเลยย้อนกลับมาที่โรงเตี๊ยม เมื่อเห็นว่าม้าหายไปเขาก็เอาหูแนบพื้นเพื่อฟังดูว่าแทฮามุ่งหน้าไปทางไหน พอรู้ว่าม้ากำลังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเขาก็ออกตามล่าทันที...


แทฮารู้ว่าถ้าขี่ม้าหลบหนีคงถูกกลุ่มแทกิลตามตัวได้ไม่ยาก เลยไล่ม้าให้วิ่งออกไปตัวเปล่าเพื่อหลอกให้แทกิลตามไปผิดทางอีกครั้ง จากนั้นเขาก็พาเฮวอนหลบหนีขึ้นไปบนภูเขาเพราะรู้ว่าข้ามเขาแล้วจะมีทางเชื่อมต่อไปยังจุดต่างๆ มากมาย ซึ่งจะทำให้ยากแก่การตามหา  (ในตอนนี้แทฮาคว้ามือเฮวอนแล้วพาหนีขึ้นเขา โดยไม่ยื่นผ้าให้จับเหมือนตอนที่ผ่านมา แต่หนีไปได้สักพักเฮวอนก็รีบดึงมือออก แทฮาเลยหน้าเจื่อนไปครู่หนึ่ง) 

หลังจากแทกิลย้อนกลับมาที่โรงเตี๊ยมเขาก็ก้มลงเอาหูแนบพื้นเพื่อฟังเสียงฝีเท้าม้า ทำให้รู้ว่าม้ากำลังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก เขารีบออกติดตามม้าตัวดังกล่าวทันที พอเห็นม้าวิ่งมาตามลำพังเขาก็รู้ตัวว่าหลงกลแทฮาอีกครั้ง จึงส่งสัญญาณบอกเชและวังซอน


หลังล่อแทกิลให้ไปผิดทางแล้ว แทฮาก็บอกเฮวอนว่า ทั้งเขาและเธอกำลังถูกตามล่าด้วยกันทั้งคู่ (ก่อนหน้านี้แทฮาเคยบอกเฮวอนว่า เธอคือคนที่โดนตามล่า...ไม่ใช่เขา) เฮวอนสงสัยว่าทำไมถึงมีคนต้องการตัวแทฮา เลยถามว่าทำไมเขาต้องหลบหนี แทฮาบ่ายเบี่ยงด้วยการชวนให้รีบหนีต่อ แต่เฮวอนคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้ แทฮาเลยตัดบทด้วยการพูดถึงแผนหลบหนีจากนั้นก็จับมือเฮวอน เฮวอนแสดงทีท่าขัดขืน (เพราะไม่อยากให้ถูกเนื้อต้องตัว และยังไม่ได้รับคำตอบ) แต่กลับถูกแทฮาฉุดข้อมือให้ลุกขึ้นเดิน

หลังโดนหลอก 2 ครั้งติดๆ แทกิลจึงตัดสินใจว่าจะไม่ออกไล่ล่าแทฮาบนภูเขา เชกลัวว่าถ้าปล่อยให้แทฮาหลุดไปได้คราวนี้จะยิ่งจับตัวยาก แต่แทกิลรู้ว่ายิ่งตามล่าตอนนี้จะยิ่งโดนหลอกให้เสียเวลา เลยบอกให้ทุกคนทานข้าวให้อิ่มก่อน เพราะกองทัพเดินได้ด้วยท้อง จากนั้นก็เรียกเจ้าของโรงเตี๊ยมมาดูรูปเฮวอนแล้วถามว่าเคยเห็นหน้าเธอไหม เมื่อเจ้าของโรงเตี๊ยมบอกว่าไม่เคยเห็น แทกิลก็ถามต่อว่ารู้จักผู้หญิงที่มีตำหนิบริเวณหน้าอกหรือเปล่า (ซึ่งเป็นการทำตามสัญญาว่าจะช่วยตามหาแม่ให้ซอลฮวา แต่ซอลฮวากลับมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก)


ระหว่างหลบหนีเฮวอนยังเพียรถามแทฮาว่าทำไมเขาถึงโดนตามล่า แทฮาตอบว่ามีคนตามล่าตัวเขาก็จริง แต่เขาไม่ได้กำลังหลบหนี เฮวอนไม่พอใจในคำตอบจึงพยายามคาดคั้น เมื่อถูกถามว่ากลุ่มคนที่กำลังไล่ล่าทั้งคู่เป็นใคร แทฮาจึงตอบว่าเป็นกลุ่ม "นักล่าทาส" เฮวอนอึ้งไปชั่วครู่แล้วพูดว่า นักล่าทาสไม่น่ามาตามจับตัวเธอ เพราะเธอ 'ไม่ใช่ทาส' ส่วนแทฮาเองก็ปฏิเสธว่า เขา 'ไม่ใช่ทาส' เหมือนกัน

* แม้ทั้งคู่ต่างปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้เป็นทาส แต่ความจริงเฮวอน คือ อดีตทาสสาวออนยอน ที่ใช้ชีวิตในฐานะคุณหนูเฮวอนมานานนับสิบปี (แต่ใจยังตกเป็นทาสของอดีตที่เศร้าโศกสมัยเมื่อครั้งที่ยังเป็นทาส) ขณะที่แทฮานั้น อดีตเคยเป็นไท ต่อมาจึงถูกกลั่นแกล้งใส่ร้ายจนกลายเป็นทาส  (แต่ใจของเขาไม่เคยคิดและไม่มีวันยอมรับว่าตนเป็นทาสใคร)   

เมื่อรู้ว่ากำลังถูกกลุ่มนักล่าทาสตามตัว เฮวอนจึงไม่ขอเดินทางร่วมกับแทฮาอีกต่อไป แทฮาไม่ยอมปล่อยให้เธอหนีไปตามลำพัง โดยอ้างว่า 1. เฮวอนไม่มีที่ไป (อย่างน้อยเธอก็น่าจะตามเขาไปที่เกาะชงจูก่อนแล้วค่อยแยกทางกัน) 2. เธอรู้ว่าเขากำลังจะมุ่งหน้าไปยังเกาะชงจู (แทฮารู้ว่ายังไงเธอก็ถูกจับแน่ และจะถูกทรมานอย่างหนักจนรับยอมสารภาพว่าเขาอยู่ที่ไหน) เมื่อจำนนต่อเหตุผล เฮวอนจึงถามย้ำอีกครั้งว่าเขาเป็นทาสหลบหนีหรือไม่ แทฮาปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่ใช่  เฮวอนจึงยอมหนีไปที่เกาะชงจูกับเขาก่อนแล้วค่อยทางใครทางมัน โดยบอกว่าเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะไม่รับฟังข้ออ้างใดๆ จากเขาอีก


เมื่อเห็นว่าการตามรอยแทฮาไม่ใช่เรื่องง่าย กลุ่มแทกิลจึงพยายามสืบหาข้อมูลว่าแทฮากำลังมุ่งหน้าไปที่ใด  พวกเขาตัดสินใจไปค้นข้อมูลเกี่ยวกับอดีตของแทฮาที่ห้องสมุดประจำท้องถิ่น เพื่ออ่านบันทึกหรือจดหมายเหตุของทางการ  (ปกติแล้วจะมีแต่พวกบัณฑิตที่เข้ามายืมหนังสือ) และเพื่อให้การค้นหาข้อมูลสะดวกขึ้น  แทกิลและวังซอนจึงร่วมมือกันหลอกเจ้าหน้าที่ประจำห้องสมุดว่าเป็นคนของศาลไต่สวน ทั้งยังสั่งให้เขาคอยดูแลไม่ให้มีใครเข้ามารบกวน ซอลฮวาได้ทีเลยสั่งให้เขาหาอาหารว่างและน้ำชามาให้ แทกิลกลัวเสียแผนเลยแก้ต่างว่าเธอเป็น 'ทาโม' (เจ้าหน้าที่หญิงของโชซอนที่รับผิดชอบดูแลงานของผู้หญิง ในที่นี้อาจหมายถึงงานเสิร์ฟน้ำชาและอาหารว่าง) 

แทฮาพบว่าตนเองมาผิดทาง จึงบอกเฮวอนว่าต้องย้อนกลับไปทางเก่า เฮวอนถามว่าแทฮาเคยทำงานให้กองทัพหรือเปล่า เขาตอบว่าเคย เธอจึงถามต่อว่า 'ทหารก็หลงทางได้ด้วยหรือ' แทฮาตอบว่าเวลาไม่มีแผนที่หรือไม่ชินทางก็อาจหลงบ้างเป็นเรื่องธรรมดา  เขาย้ำว่าเรื่องแบบนี้ผิดพลาดกันได้ จากนั้นก็หยิบยกสุภาษิตขึ้นมากล่าวอ้างประกอบการอธิบายอย่างเอาจริงเอาจัง 


แทฮาพูด (ท่องสุภาษิต) ยังไม่ทันจบ เฮวอนก็แทรกขึ้นมาว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องอธิบายก็ได้ แทฮากล่าวขอโทษแล้วหลบตา จากนั้นก็เบือนหน้าหนี เฮวอนเห็นท่าทางของแทฮาแล้วรู้สึกขำจึงแอบหัวเราะ (เป็นครั้งแรกที่เฮวอนยิ้มและหัวเราะแบบผ่อนคลายให้เห็น) แต่พอแทฮาหันกลับมามอง เธอก็หยุดหัวเราะ แล้วกล่าวคำว่าขอโทษ จากนั้นก็แอบยิ้มลับหลังแทฮา

หลังใช้เวลาอ่านบันทึกทางการเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ในที่สุดแทกิลและเชก็พบข้อมูลที่พวกเขาตามหา (ขณะที่ซอลฮวานอนตีพุงข้างโต๊ะอาหาร ส่วนวังซอนนั่งสัปหงกน้ำลายไหลยืด)


ย้อนกลับไปในช่วงเหตุการณ๋หลังองค์รัชทายาทถูกลอบปลงพระชนม์ ขณะนั้นแทฮาซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการค่ายฝึกทหาร ได้ฝ่าฝืนคำสั่งของทางราชสำนักที่ต้องการให้พวกเขายุติการไว้ทุกข์ (มีคำสั่งให้ลดระยะเวลาไว้ทุกข์จาก  3 ปีเป็น 3 วัน) หลังจากนั้น แทฮาและพวก (ยังอยู่ในชุดไว้ทุกข์) ก็ถูกจัดฉากใส่ความว่ายักยอกข้าวทางการไปขาย

เชอ่านเรื่องราวดังกล่าวของแทฮาแล้วรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล เพราะมันไม่สมเหตุสมผลที่คนอย่างแทฮาจะทำความผิดข้อหา "ขโมยข้าวหลวง"

หลังถูกกล่าวหาว่ายักยอกของหลวง แทฮาและลูกน้องก็ถูกจับตัวไปไต่สวนและทรมานอย่างหนัก แต่ไม่มีใครยอมรับสารภาพ พวกเขาถูกใส่ความว่าแอบนำข้าว (ที่ทางการส่งมอบให้เป็นเสบียงกองทัพ) ไปขาย จากนั้นก็นำผลกำไรไปมอบให้เสนาบดีฝ่ายซ้าย อิม ยองโฮ (อาจารย์ของแทฮาที่อยู่เกาะชงจู)


แทกิลอ่านบันทึกทางการแล้วรู้สึกแปลกใจที่แทฮาไม่โดนประหารชีวิต ทั้งๆ ที่กฏหมายระบุเอาไว้ว่าผู้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวย่อมมีโทษถึงตาย เชรู้สึกสังหรณ์ใจจึงแนะให้แทกิลเลิกตามล่าแทฮาก่อนที่จะสายเกินไป พอได้ยินคำว่าเลิก วังซอนซึ่งนั่งหลับน้ำลายไหลยืดก็ทักท้วงว่าเลิกไม่ได้ เพราะเสียดายค่าหัวแทฮา (แทกิลทำหน้าขยะแขยงเมื่อเห็นวังซอนน้ำลายยืด) 

เช บอกว่า โทษตายของแทฮาได้รับการละเว้น โดยถูกลดชั้นลงมาเป็นทาสแทน แทกิลฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ เลยพยายามค้นหาว่าขุนนางคนไหนที่มีส่วนพัวพันในเรื่องนี้ เพราะถ้าเป็นเกมการเมืองอยางที่เชบอกจริง ก็น่าจะมีคนได้ประโยชน์จากเหตุการณ์ดังกล่าว


และคนๆ นั้นก็คือ อี คยองชิก (พ่อตาชอลวุง) ที่วางแผนใส่ร้ายแทฮา เพื่อกดดันให้ อิม ยองโฮ ยอมลงจากตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายซ้าย (แลกกับการไว้ชีวิตแทฮา) เมื่อ อิม ยองโฮลาออกจากการเป็นเสนาบดีและกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิดบนเกาะชงจูแล้ว   อี คยองชิก ก็เข้ารับตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายซ้ายแทนอิม ยองโฮ (ส่วนซอลวุงก็เข้ารับหน้าที่แทนแทฮา)

เมื่อเห็นว่าแทฮาถูกละเว้นโทษตายหลังอิม ยองโฮลาออกจากตำแหน่ง แทกิลก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดทันที เชทักว่าเขาด่วนสรุปไปหรือเปล่า แทกิลมั่นใจว่าไม่ผิดแน่ เพราะมีหลักฐานปรากฏชัดเจน เชย้อนถามว่า แล้วถ้าไม่ใช่ล่ะ แทกิลเลยชวนให้ไปถามว่าแทฮารอดตายได้ยังไง....ที่เกาะชงจู!!



พอได้คำตอบว่าแทฮากำลังเดินทางไปหาอิม ยองโฮ ที่เกาะชงจู สามพยัคฆ์นักล่าทาส และสาวน้อยซอลฮวา ก็ออกเดินทางไปที่เกาะดังกล่าวทันที แต่คราวนี้แทกิลเอาคืนแทฮาด้วยการหลอกชาวบ้านคนหนึ่งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทางการที่มาตามจับตัวคนร้าย เขานำรูปแทฮาให้ชายชราเจ้าของบ้านดูแล้วบอกว่าถ้าแทฮาและผู้หญิงที่สวมชุดไว้ทุกข์สีขาวมาขอพักที่นี่ ก็ให้ทั้งคู่เข้าพักก่อนแล้วค่อยย่องออกไปบอกเจ้าหน้าที่


หลังถูกขังคุกหลายวัน ในที่สุด ชอลวุง ก็ยอมรับภารกิจสังหารอิม ยองโฮ และพระโอรสองค์เล็กของรัชทายาท ตามที่พ่อตาสั่ง ก่อนออกเดินทางเขาเข้าไปบอกลาภรรยาตามคำแนะนำของพ่อตา ภรรยาของเขาเขียนข้อความเตือนว่าอย่าขัดใจพ่อของเธอ เพราะพ่อของเธอเป็นคนที่น่ากลัวมาก ชอลวุงอ่านแล้วขยำทิ้ง อ้างว่าอ่านลายมือไม่ออก (เธอเขียนด้วยความยากลำบากเพราะสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย) ชอลวุงบอกให้เธอพูด แต่พอเธอพูดด้วยความยากลำบาก เขากลับบอกว่าฟังไม่รู้เรื่องเลยสักนิด จากนั้นก็เดินหนีไป


ในคืนนั้นชอลวุงแวะไปที่บ้านแม่ (ทำให้เราได้เห็นด้านที่อ่อนโยนและรอยยิ้มของเขาเป็นครั้งแรก) เขาแอบดูแม่อยู่ห่างๆ โดยไม่ให้แม่รู้ สายตาที่เฝ้ามองนั้นบ่งบอกถึงความรักและความเจ็บปวดในขณะเดียวกัน เขาเฝ้าดูจนกระทั่งแม่ปิดประตูแล้วจึงคุกเข่าคำนับที่หน้าบ้านเพื่อเป็นการอำลา และขออภัยในความผิดบาปที่เขากำลังจะทำในอีกไม่กี่วันข้างหน้า 

และแล้วก็เป็นจริงดังที่แทกิลคาด เพราะแทฮากับเฮวอนแวะที่บ้านของชายชราเพื่อขอพักค้างแรม ชายชรานึกถึงคำพูดของแทกิลจึงให้ทั้งคู่เข้าพัก และแอบย่องไปแจ้งเจ้าหน้าที่กองปราบให้มาจับตัว


ระหว่างพักผ่อนอยู่ในห้อง ทั้งคู่ก็ทำความรู้จักกันมากขึ้น เฮวอนบอกชื่อตนเองกับแทฮา แทฮาจะบอกชื่อตนเองบ้าง แต่เฮวอนชิงพูดก่อนว่า เขามาจากเมืองฮันยาง ชื่อ ซง แทฮา (แทฮาเคยแนะนำตัวที่วัด) แทฮาถามว่าเฮวอนมาจากตระกูลไหน เธออึ้งไปชั่วครู่แล้วตอบว่า ตระกูลคิม จากเมืองชอนนี (สกุลที่เธอและพี่ชายนำมาสวมรอยเป็นชนชั้นสูง)

แทฮาบอกว่าเขาเองก็มีบรรพบุรุษและญาติๆ ที่มาจากเมืองชอนนี และใช้สกุลคิมเหมือนกัน แถมยังมีอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาใช้สกุลคิมถึง 2 คน (พยายามเชื่อมโยงว่าทั้งคู่มีความเกี่ยวดองหรือเป็นพวกเดียวกัน) เฮวอนไม่เข้าใจว่าเขานับญาติทำไมในเมื่อคนส่วนใหญ่ก็ใช้สกุลเดียวกัน (สมัยนั้นชนชั้นสูงของโชซอนใช้กันอยู่ไม่กี่สกุล) เลยถามว่า 'แล้วยังไง' แทฮามองหน้าเฮวอนแบบเก้อๆ จากนั้นทั้งคู่ก็หันหน้าไปคนละทาง


แทฮาถามว่าเฮวอนมีพี่ชายเป็นญาติเพียงคนเดียวหรือ เธอตอบว่าใช่ แล้วถามกลับว่าแทฮามีครอบครัวไหม แทฮาเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับตนเองเป็นครั้งแรกว่า เขาสูญเสียครอบครัวไปในระหว่างสงครามแมนจู จากนั้นก็ไปใช้ชีวิตที่ต้าชิงเป็นเวลา 8 ปี พอกลับมาโชซอนอีกครั้งก็พบว่าผู้คนเปลี่ยนไป เฮวอนถามว่าเขาไปเป็นเชลยสงครามที่ต้าชิงใช่หรือไม่ แทฮาตอบว่า ไม่ว่าเธอจะเรียกเขาว่าอะไร แต่ทันทีที่แพ้สงคราม ทหารอย่างเขากลายเป็นนักโทษหรือเชลยไปโดยปริยาย

เฮวอนเล่าว่าเธอเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดจากสงครามครั้งนั้นเช่นนั้น โชคดีที่มี 'นายน้อย' มาช่วยเอาไว้ได้ทัน แทฮาถามว่าเขาคนนั้นคือคนรักของเธอใช่หรือไม่ เฮวอนตอบว่าใช่ แทฮาแนะนำให้เธอตัดใจจากคนรัก (เลิกจมอยู่กับอดีต) แล้วเปิดใจรับคนใหม่ เพราะคนรักของเธอจากโลกนี้ไปนานแล้ว เฮวอนตอบว่าเธอได้มอบหัวใจให้กับชายคนนั้นไปแล้ว และที่ต่างจากผู้ชายก็คือ รักแท้ของผู้หญิงไม่มีวันสิ้นสุดและไม่มีขอบเขต (แม้อยู่คนละโลกก็ยังรัก) ทำเอาแทฮาหน้าเจื่อนไปชั่วขณะ 


ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างจึงคว้าดาบแล้วรีบลุกขึ้น ขณะเดียวกันก็มีหอกพุ่งทะลุผนังเข้ามา (เฉียดหน้าแทฮาไปนิดเดียว) จากนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออก โดยมีเจ้าหน้าที่กองปราบดักรอทั้งคู่อยู่ที่ด้านนอก 

แทฮาและเฮวอนเดินออกมา แทฮาถามว่าแวะพักแรมกลางทางผิดกฏหมายด้วยหรือ เจ้าหน้าที่ตอบ มีคนแจ้งว่าแทฮาและเฮวอนเป็นขโมย หลังเจรจากันได้ไม่นาน แทฮาก็จัดการเจ้าหน้าที่จนสลบเหมือดไปตามๆ กัน (ที่ผ่านมา นอกจากข้าศึกแล้วแทฮาแทบไม่เคยเอาชีวิตใคร ผิดกับนักฆ่าสาวยูนจีที่ฆ่าคนไม่เลือกหน้า) หลังขับไล่เจ้าหน้าที่คนสุดท้ายไปแล้ว แทฮาก็หยิบนกหวีด (ที่เจ้าหน้าที่ทำตกไว้) ติดมือไปด้วย จากนั้นก็คว้าข้อมือเฮวอนแล้วรีบพาหนีไป


แทฮาเห็นว่าในเมืองมีเจ้าหน้าที่กองปราบคอยดักจับตัวเขาและแฮวอน เลยบอกให้แยกกันหนีชั่วคราว เพื่อไม่ให้เป็นจุดสังเกต แล้วค่อยพบกันใหม่อีกครั้งหลังผ่านจุดตรวจไปได้แล้ว  แทฮาแนะให้เฮวอนแกล้งบ้าถ้าถูกเจ้าหน้าที่เรียกให้หยุด (เนื่องจากเฮวอนตัดผมและอยู่ในชุดไว้ทุกข์ จึงตบตาคนได้ไม่ยากว่าเธอเสียสติเพราะผิดหวังในความรัก) เฮวอนถามว่าไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือ แทฮาไม่ตอบแต่กลับมอบนกหวีดให้เฮวอนไว้ใช้ส่งสัญญาณในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา

ด้วยความหวาดกลัวว่าอาจถูกจับ เฮวอนจึงแสดงท่าทีมีพิรุธให้เจ้าหน้าที่เห็น พอเจ้าหน้าที่สั่งให้หยุด เธอก็ตกใจแล้วรีบวิ่งหนี เจ้าหน้าที่เลยเป่านกหวีดเรียกกำลังเสริม (แทฮาได้ยินเสียงนกหวีดเลยนึกว่าเฮวอนเป่าเรียกเพื่อขอความช่วยเหลือ) แต่ในที่สุดเธอก็หนีไม่พ้น เจ้าหน้าที่จำได้ว่าเฮวอนคือผู้หญิงที่พวกเขากำลังตามหาตัว  (ข้อหาขโมย) จึงคิดที่จะจับตัวเธอกลับไป แต่ยูนจีเข้ามาขวางไว้และฆ่าเจ้าหน้าที่ตายทั้งหมด


ขณะที่ยูนจีกำลังจะฆ่า (จับตาย) เฮวอน แทฮาก็เข้ามาช่วยชีวิตเธออีกครั้ง เฮวอนตกใจมากจนอยู่ในอาการช็อค แทฮาจึงบอกให้เธอหลับตาแล้วนึกถึงคนที่เธอรักมากที่สุด (เพื่อขจัดความกลัว) เฮวอนกำก้อนหินของนายน้อยแทกิลขึ้นมาไว้แนบอกแล้วหลับตา เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มคลายความหวาดกลัว แทฮาก็นำถ่านมาระบายกระโปรงที่เปื้อนเลือดของเธอให้เป็นรูปดอกไม้ ขณะที่เฮวอนมองแทฮาด้วยความซาบซึ้งใจ 

เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว แทฮาก็กล่าวชมเฮวอนที่อดทนต่อความยากลำบากจนหนีมาที่เกาะชงจูกับเขาได้สำเร็จ เฮวอนบอกว่าเป็นเพราะเขาที่ทำให้เธออยู่รอดปลอดภัยจนถึงทุกวันนี้  เธอกล่าวขอบคุณและอวยพรให้เขาเดินทางโดยปลอดภัย แทฮามองหน้าเฮวอนด้วยสายตาสุดอาลัยแล้วเดินจากไป ไม่นานแทฮาก็หันหลังกลับไปมองเฮวอนแล้วออกเดินทางต่อ ส่วนเฮวอนก็หันกลับไปมองเขาเช่นกัน


ขณะเดียวกันชอลวุงและกลุ่มจีโฮ (กลุ่มนักล่าทาสที่เคยยิงธนูใส่แทกิลและแทฮา) ก็เดินทางไปถึงบ้านของอิม ยองโฮ ส่วนกลุ่มแทกิลที่มาถึงเกาะชงจูแล้วเช่นกัน ก็กระจายกำลังกันปฏิบัติหน้าที่ แทกิลวางแผนว่าจะบุกเข้าไปที่บ้านอิม ยองโฮทางประตูหน้า โดยให้เชบุกเข้าทางด้านทิศเหนือ ส่วนน้องเล็กวังซอนให้เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บนหลังคา ขณะที่สาวน้อยชอลฮวาถูกทิ้งให้เฝ้าม้าเหมือนเช่นเคย 

ก่อนลงมือสังหาร ชอลวุง ถามอิม ยองโฮ ว่า มีอะไรจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ อิม ยองโฮฝากบอกเสนาบดีอี คยองชิก (พ่อตาของชอลวุง) ว่า 'น้ำที่ไหลผ่านไปแล้ว ไม่อาจหมุนกังหัน (กังหันน้ำ)'  ขณะที่เสนาบดีเองก็ฝากข้อความมาถึงอิม ยองโฮ  ว่า "ไม่ว่าลำไผ่จะตั้งตรงเพียงใด ก็ไม่อาจนำมาใช้เป็นเสาหลัก" ทันทีที่พูดจบเขาก็ลงมือสังหารอิม ยองโฮ


เมื่อมาถึงบ้านอิม ยองโฮ แทฮาก็พบว่า อาจารย์ของเขาและคนในบ้านถูกชอลวุงสังหารแล้ว แทฮาและชอลวุงต่อสู้กันยังไม่ทันรู้แพ้รู้ชนะ อยู่ๆ แทกิลก็โผล่เข้ามา หลังจากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มต่อสู้กัน (แทกิลเข้าใจว่าชอลวุงเป็นนักล่าทาสที่มาตามจับตัวแทฮา)

ด้านวังซอนที่ซุ่มอยู่บนหลังคาก็ได้พบกับเรื่องไม่คาดฝัน อยู่ๆ เขาหันไปเห็นยูนจียืน (โพสท่า) อยู่บนหลังคา ตอนแรกเขาชักดาบเตรียมต่อสู้ แต่พอเห็นว่าเป็นผู้หญิงเขาเลยเก็บดาบ ยังไม่ทันซักถามถึงที่มาที่ไป ยูนจีก็เตะเข้าที่กล่องดวงใจของวังซอนอย่างจัง ทำให้เขาร่วงลงมาจากหลังคา


ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เบ็กโฮก็กำลังตามหาเฮวอนที่เกาะชงจู หลังแยกทางกับแทฮาแล้ว เฮวอนก็เห็นเบ็กโฮกำลังชูรูปของเธอให้ชาวบ้านดู เฮวอนเดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เบ็กโฮหันมาเห็นพอดี เธอจึงวิ่งหนีแล้วเป่านกหวีด โดยมีเบ็กโฮและลูกสมุนวิ่งตามมาติดๆ 

ระหว่างที่สามหนุ่ม แทฮา แทกิล และชอลวุง กำลังต่อสู้กันอย่างชุลมุน เชก็วิ่งเข้ามารับมือกับชอลวุง ส่วนแทกิลรับหน้าที่ในการต่อกรกับแทฮา ระหว่างที่กำลังต่อสู้กับแทกิล แทฮาได้ยินเสียงนกหวีดของเฮวอนจึงหยุดต่อสู้ แล้วรีบวิ่งไปช่วยเฮวอนทันที แทกิลนึกว่าแทฮาคิดหลบหนีจึงวิ่งตามไปติดๆ

ชอลวุงจะไล่ตามแทฮาไปแต่ถูกเชขวางไว้ เขาจึงโชว์เแผ่นป้ายของทางการว่าอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ด้านเชซึ่งเข้าใจว่าชอลวุงเป็นนักล่าทาส ก็อวดแผ่นป้าย (ปลอม) ของเขาให้ชอลวุงดูเช่นกัน



แทกิลไล่ตามแทฮาอย่างไม่ลดละ แต่แทฮารีบมุ่งหน้าไปหาเฮวอนโดยไม่สนใจแทกิล  เมื่อเห็นว่าวิ่งตามไม่ทันแน่ แทกิลจึงเลี่ยงไปใช้ถนนอีกเส้นเพื่อดักหน้าแทฮา ขณะที่เฮวอนยังคงวิ่งหนีเบ็กโฮแบบไม่คิดชีวิต แม้ทั้งสาม (แทกิล แทฮา และเฮวอน) ต่างก็วิ่งอยู่บนถนนคนละสาย แต่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปสู่ทางแยกเดียวกัน....

แทฮาจะช่วยเฮวอนได้หรือไม่ แทกิลจะเห็นเฮวอนหรือเปล่า และแทฮาจะรอดจากการตามล่าทั้งจากแทกิลและชอลวุงหรือไม่...โปรดติดตามในตอนต่อไป


* ภาพ captures / ละครเคบีเอส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา