วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เจจุงวอน ตำนานแพทย์แห่งโชซอน ตอนที่ 8




ฮวางจอง โดนชาวบ้านจับมือทุบจนกระดูกมือแตก หมออัลเลนจึงช่วยเข้าเฝือกมือให้ฮวางจอง จากนั้นชาวบ้านที่ได้รับการผ่าตัดก็ฟื้นขึ้นมา ชาวบ้านและภรรยาคนไข้จึงรีบขอโทษ โดยังจะจับชาวบ้านที่ก่อเหตุให้กับกองปราบ ให้กฎหมายลงโทษ ฮวางจอง บอกให้อภัยพวกชาวบ้านตนไม่เป็นไรมาก เรารักษาคนไข้สำเร็จแค่นี้ก็พอแล้ว


หมออัลเลนบอกให้ฮวางจองใส่เฝือกไว้จนกว่ากระดูกจะสมานตัวดี ถ้าเอาออกก่อนที่จะหาย มืออาจใช้ไม่ได้ตลอดชีวิต และบอกว่าต่อไปอย่าทำแบบนี้อีกมันเสี่ยงเกินไป ตนไม่สามารถเอาชีวิตใครไปเดิมพันเพื่อการรักษาได้ จากนั้นชาวบ้านและภรรยาคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดมาขอบคุณและขอโทษฮวางจองกับเรื่องมือที่บาดเจ็บ

โรงพยาบาลเริ่มมีคนไข้เยอะขึ้นหลังจากเริ่มได้รับการยอมรับจากชาวบ้าน ยองอิกได้ทูลพระเจ้าโกจงว่า ถึงเวลาที่ควรจะคุยเรื่องโรงเรียนแพทย์ ที่ฝ่าบาทเคยตรัสไว้ พระเจ้าโกจงประสงค์ที่จะตั้งโรงเรียนแพทย์ เพื่อสร้างหมอที่เก่งออกมาก่อตั้งเจจุงวอนแห่งที่สองสามต่อไป ยองอิกทูลเสนอให้มีชื่อเฉพาะเพื่อใช้เรียกแพทย์ตะวันตกว่า อึยซา

“ขงจื๊อบอกว่า บัณฑิตจะต้องมีอุดมการณ์ อีกทั้งยังต้องเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวพ่ะย่ะค่ะ ตำแหน่งของแพทย์ฝรั่งในเจจุงวอนก็เป็นแบบนี้ ดังนั้นคำว่าแพทย์รวมกับคำว่าบัณฑิต เราก็เรียกว่าอึยซาดีมั้ยพ่ะย่ะค่ะ”

“นั่นสิ ชื่อนี้น่าจะแสดงความหมายของแพทย์ในเจจุงวอนได้เป็นอย่างดี อ้า จริงสิทูตญี่ปุ่น แล้วท่านคิดว่ายังไง อึยซา คิดว่าชื่อนี้เหมาะสมดีมั้ย” พระเจ้าโกจง ตรัสถาม

“เรียกว่าอะไรไม่เห็นจะสำคัญตรงไหนเลย แต่ยังไงก็ยินดีด้วยที่เจจุงวอนสามารถดำเนินการได้แล้ว”

“อ้อ แต่ถ้าหากเมื่อไหร่ที่เกิดปัญหาขึ้นอีก ก็รับสั่งเรียกพวกกระหม่อมได้เสมอ” วาตานาเบ้ กล่าวทูล

“ข้ารู้สึกซาบซึ้ง..ในความหวังดีของพวกท่านมาตลอด”

“ถ้างั้น พวกกระหม่อมคงต้องทูลลาก่อน” ทูตญี่ปุ่น กล่าวทูล

“ฮ่า ๆ รู้สึกเหมือนของที่ติดคอมานานจู่ ๆ ก็หลุดไป ฮ่า ๆ ๆ ๆ” พระเจ้าโกจง ตรัส


หลังออกมาจากเข้าเฝ้า ทูตญี่ปุ่นต่อว่าวาตานาเบ้

“เห็นมั้ยเค้าจะเปิดโรงเรียนแล้ว ถ้าหากมีเจจุงวอนเกิดขึ้นทั่วประเทศจะทำยังไง ? และเมื่อถึงตอนนั้น แผนการกลืนกินโชซอนของจักรวรรดิญี่ปุ่น ก็คงจะพังพาบกันพอดี เหอ..ทำให้ดีหน่อย ตั้งใจหน่อย”

“ต่อไปจะไม่ผิดพลาดอีกแล้วครับ”

คนของทางการออกมาประกาศ เรื่องจะคัดเลือกคนเป็นนักเรียนแพทย์เจจุงวอน โดยไม่แบ่งชนชั้นไม่แบ่งฐานะ แค่เป็นชายอายุสิบเจ็ดปีขึ้นไป มีความฉลาดความสามารถ ก็สามารถมาสมัครได้ ซ๊อกรันเห็นประกาศก็สนใจ เพราะจะทำให้นักเรียนของเธอที่เรียนเป็นล่ามอยู่มีโอกาสมากกว่าใครเพราะต้องมีการสอบภาษาอังกฤษ ระหว่างนั้นฮวางจองตัวจริงก็ออกมาเห็นประกาศ ก็สนใจจะสอบเป็นแพทย์ตะวันตกเช่นกัน ซ๊อกรันเห็นก็เข้าไปทักเพราะนึกว่าเป็นฮวางจองผู้ช่วยของหมออัลเลน แต่ก็ถูกต่อว่าที่มาเรียกชื่อคนอื่นซี้ซั้ว

“คงจะเป็นคนชื่อเหมือนน่ะ ชื่อเหมือน บัณฑิตฮวางเปี๊ยบเลย เขียนเหมือนด้วย” ซ๊อกรัน กล่าว

“ฮวางจอง ชื่อนี้โหลจะตายไปค่ะ ไม่เหมือนมักเซง ชื่อแบบนี้ไม่มีซ้ำหรอก” มักเซง กล่าว

ชาวบ้านปวดท้องมารักษา หมออัลเลนวินิจฉัยว่าจะเป็น ราวเวิร์ม หรือพยาธิตัวกลม จึงให้ฮวางจองนำยาแซนโทนินมาให้คนไข้ดื่มแล้วบอกคนไข้ว่าพรุ่งนี้จะมีราวเวิร์มออกมาอีก ให้นับแล้วบอกด้วยว่ากี่ตัว ชาวบ้านแย้งว่าตนเองเป็นงูขาว

“ไม่ใช่งูขาวหรอก มันคือราว ๆ เวิร์ม ๆ นั่นเป็นพยาธิ พรุ่งนี้พอเข้าห้องน้ำถ่ายออกมาก็เอาไม้เขี่ยเขี่ยแล้วนับดูว่ามีกี่ตัว แล้วค่อยมาบอกนะ”

“ไม่ต้องจับมาด้วยเหรอ” ชาวบ้านถาม

“โอ้ อย่าทำอย่างนั้นเชียว โน” หมออัลเลนกล่าว

ซ๊อกรันมาดูหมออัลเลนรักษาเมื่อเห็นมือของฮวางจอง ก็สอบถามจนรู้ว่าถูกสากตำข้าวของชาวบ้าน ฮวางจองบอกว่าหมออัลเลนรักษาอย่างดีไม่เป็นอะไร จากนั้นก็พาไปพบหมออัลเลน เขาขอร้องให้ซ๊อกรันช่วย หลังจากมีผู้ป่วยที่เป็นผู้หญิงมาโรงพยาบาล แต่ไม่ยอมให้รักษาเพราะหมอเป็นผู้ชาย


ซ๊อกรันเข้ามาดูอาการคนไข้หญิงที่กินยาพิษที่ชื่อซึงยอน เมื่อนางเจอซ๊อกรันก็ดีใจ หมออัลเลนจึงบอกให้ซ๊อกรันช่วยดูอาการก่อน โดยมีฮวางจองช่วยบอกวิธีตรวจรักษา ซ๊อกรันคุยจนรู้ว่าที่นางกินยาพิษเพราะถูกตบตีจากสามีเนื่องจากอ่านหนังสือจนรู้ทั้งภาษาจีนกับอังกฤษ ขณะที่สามีกลับสอบขุนนางไม่ผ่าน

สามีของซึงยอนมาตามภรรยาถึงที่โรงพยาบาลจนเกิดการโต้เถียง ฮวางจองบอกที่นี่เป็นโรงพยาบาล สามีของซึงยอนจึงพานางกลับไปทั้งที่ยังไม่หาย


“คนไข้คนนั้นกับสามีกลับไปแล้วใช่มั้ย นึกไม่ถึงว่าเรื่องทั้งหมดมันจะลงเอยอย่างนี้ ในตอนแรก คิดว่าจะขอให้คุณมาช่วยเป็นแชปเปอโรนของโรงพยาบาล”

“คะ?” ซ๊อกรัน ไม่เข้าใจ

“เหมือนอย่างเมื่อกี้ เป็นผู้ช่วยสื่อกลางระหว่างผมกับคนไข้ผู้หญิง จะปล่อยให้คนไข้ผู้หญิงกลับไปทุกครั้งไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมเลยอยากขอให้คุณเข้ามาช่วยทำงานในเจจุงวอนด้วย แต่ว่า..” หมออัลเลน กล่าว

“ขอโทษด้วยครับ ผมผิดเองครับ” ฮวางจอง กล่าว

“มิสเตอร์ฮวาง คนเป็นแพทย์ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนไข้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ห้ามใช้กำลังในโรงพยาบาล มิสเตอร์ฮวาง คุณก็เกลียดความรุนแรงไม่ใช่หรือ?”

“ผอ.คะ โปรดเข้าใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้ด้วยค่ะ” ซ๊อกรัน กล่าว

“ต่อไปอย่าทำอย่างนี้อีก”

“ข้าจะจำไว้ครับ”

“เอาเป็นว่า มิสยูก็เอาเรื่องที่ผมเสนอกลับไปคิดดู ในเวลาที่ผมรักษาคนไข้หญิง ผมต้องการ แชปเปอโรน ที่จะเป็นทั้งมือและตาให้”

โดยังมารอพบซ๊อกรันที่บ้าน บอกว่าตนจะไปจากโชซอน


“เมื่อได้เห็นเจจุงวอน ข้าคิดว่าข้าไม่ควรจะทิ้งการเรียนไป ข้าควรมุ่งมั่นให้มากขึ้น ข้าจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทย์ในอเมริกา ข้าถึงมาถามว่า เจ้าจะไปกับข้ารึเปล่า เพราะข้าขอวีซ่าให้เจ้าแล้ว ข้าจะไปขออนุญาตท่านพ่อเจ้าให้เอง ขอแค่เจ้ายินดีไปก็พอ”

“คุณชายคะ”

“ข้ารู้ว่าข้อเสนอนี้กะทันหันเกินไป แต่นั่นเป็นที่ที่เจ้าฝันอยากไปนี่นา ยังไงการแต่งงานของเราก็ถูกกำหนดไว้นานแล้ว ดังนั้นอย่ามัวรออีกเลย แต่งงานเสร็จแล้วก็เดินทางทันที”

“ถ้าอย่างนั้นท่านจำได้มั้ยว่าทำไม ข้าถึงอยากไปจากที่นี่ ข้าไม่ได้อยากไปเพราะอยากจะรู้ว่า แม่น้ำต่างประเทศหน้าตาเป็นยังไง แต่ข้าอยากเห็นวิถีชีวิตของผู้คนริมแม่น้ำ ข้าอยากเห็นอารมณ์ของผู้คนที่อยู่กับแม่น้ำ ข้าถึงได้อยากจะไปเห็นมัน จำไม่ได้แล้วเหรอ ท่านคงจำไม่ได้ เพราะท่านคือคนที่แทบไม่เคยฟังความคิดของข้าเลย แต่ท่านเป็นคนที่ต้องการให้ข้าคอยฟังแต่ความคิดของท่าน แล้วข้าจะต่างอะไรกับต้นไม้ หรือก้อนหินไร้ชีวิต”

“ซ๊อกรัน เจ้าเข้าใจผิดแล้ว หลังจากที่เกิดเรื่องกับแม่ข้า ข้าเหลือตัวคนเดียว ตอนนั้นคนเดียวที่คอยฟังข้ามีแต่เจ้าเท่านั้น”


“นั่นสิคะ ตอนนั้นเป็นอย่างนั้น แต่ว่าตอนนี้คุณชายไม่ใช่เด็กอีกแล้ว ตัวข้าเองก็เหมือนกัน ถ้าท่านเคยตั้งใจคิดถึงความคิดหรือว่าความรู้สึกของข้าบ้างสักนิด คงไม่ทำอะไรที่คิดเอาเองฝ่ายเดียวแบบนี้ ข้าจะกลับเข้าบ้านก่อน”

ยอกจิกรู้ว่าโดยังจะไปอเมริกา จึงชวนเขามาเป็นผู้จัดการเจจุงวอนน่าจะดีกว่า เพราะตอนนี้ต้องการคนมาดูแลการเงินในโรงพยาบาล แต่โดยังปฏิเสธ บอกว่าไม่ต้องการเป็นขุนนาง แต่สนใจโรงเรียนแพทย์เจจุงวอนมากกว่า และจะไม่ไปอเมริกา ตัดสินใจเรียนต่อที่โชซอน

“งั้นรึ เหตุผลอะไรล่ะ?”

“ตอนนี้โชซอนอยู่ในช่วงสำคัญของการเปิดรับศาสตร์การแพทย์ตะวันตก ในเวลาอย่างนี้ ข้าคงไม่อาจเห็นแก่ตัวไปเรียนอเมริกาคนเดียวได้ ข้าจึงคิดว่าจะอยู่เรียนที่นี่ และทำงานช่วยประชาชนไปพร้อมกันครับ”

“ฮ่า ๆ ๆ เป็นความคิดที่ดีมาก การที่เจ้าคิดได้อย่างนี้ ข้าเองก็รู้สึกดีใจด้วยจริง ๆ เฮ้อ แล้วตำแหน่งผู้จัดการควรจะให้ใครมาทำแทนดีนะ”

“ข้าสามารถแนะนำคนเก่งคนนึงให้ใต้เท้าได้”


โดยังมาหาโอลูกน้องเก่าของพ่อ เสนอให้ไปรับตำแหน่งผู้จัดการโรงพยาบาลและโรงเรียนแพทย์ ด้านยองอิกนำเบ็กคูฮอน และโอชุงฮวาน มาแนะนำให้หมออัลเลนรู้จักโดยบอกว่าทั้งสองท่านนี้จะเข้ามาบริหารงานของเจจุงวอนทั้งหมด ทั้งหมดมานั่งหารือกันเรื่องรับนักเรียนแพทย์ ทั้งสองเสนอว่าหมออัลเลนไม่ควรเข้าร่วมในการคัดเลือกครั้งนี้ด้วยเพื่อความยุติธรรม โอมองเห็นฮวางจองยืนฟังทั้งหมดคุยกันก็สงสัยว่าเป็นใครมีสิทธิอะไรมาฟัง ฮวางจองแนะนำตัวว่าเป็นผู้ช่วยของหมออัลเลน โอสอบถามถึงคุณสมบัติที่จะมาเป็นผู้ช่วย ถึงแม้หมออัลเลนจะช่วยยืนยัน แต่โอก็บอกให้เขาต้องผ่านการสอบถึงจะเข้ามาเป็นผู้ช่วยได้

ชักแทบอกกับฮวางจองต้องเป็นแผนกำจัดฮวางจองแน่นอน แต่เขาคิดว่าผู้จัดการโอเป็นคนยุติธรรมมาก ตนจึงต้องผ่านการสอบ ชักแทบอกว่าตนเองโชคดีที่ไม่ได้ปลอมตัวเป็นชนชั้นสูง แค่นึกถึงเรื่องเรียนก็เริ่มปวดหัวขึ้นมาแล้ว

ฮวางจองมาซื้อหนังสือพจนานุกรมอังกฤษ แต่ว่าพ่อค้าได้ขายหมดไปแล้วเหลือที่คนจองไว้หนึ่งเล่ม เขาจึงขอดู เวลานั้นเจอุ๊ก ได้มาเอาหนังสือที่จองไว้ โดยังจึงบอกให้แบ่งให้ฮวางจองดูก่อน แล้วบอกว่าได้ยินว่าฮวางจองจะสอบเข้าโรงเรียนแพทย์เหมือนกัน จึงชวนให้ตั้งใจสอบด้วยกัน


ฮวางจองมีโอกาสได้พบซ๊อกรัน จึงบอกเรื่องหนังสือที่ขายหมดแสดงว่ามีคนสนใจสอบเยอะ และคุณชายเบ๊กโดก็ยังจะเข้าสอบครั้งนี้ด้วย ซ๊อกรัน บอกว่าไม่เจอโดยังหลายวันแล้วจึงไม่รู้ แล้วก็อาสาจะช่วยติวภาษาให้กับฮวางจอง หลังจากติวแล้ว เขาก็ถามเรื่องแชปเปอโรน ซ๊อกรันบอกว่าตนยังไม่ได้ปรึกษาพ่อแม่เลย

ชักแทบอกฮวางจองให้สอบเข้าโรงเรียนแพทย์ให้ได้เพราะตนชอบที่นี่แล้ว ถ้าสอบไม่ผ่านทั้งสองคนอาจจะถูกให้ออกจากที่นี่ ด้านซ๊อกรัน มาหาโดยังนำของขวัญวันเกิดมาให้ โดยังบอกว่าตนจะสอบให้ได้ที่หนึ่งของโรงเรียนแพทย์ให้ได้ และพยายามเพื่อจะเป็นหมอที่ดีให้ได้



ซ๊อกรันมาขอสมัครสอบเข้าโรงเรียนแพทย์ แทนลูกพี่ลูกน้องที่ไม่สบาย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธ ฮวางจองมาพบเข้าก็สอบถามชักแทเรื่องนามบัตรที่ข้าเคยให้ไว้ เมื่อนำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นของใต้เท้ามินยองอิก เจ้าหน้าที่จึงยอม จากนั้นซ๊อกรัน สอบถามเรื่องการท่องคำศัพท์ ฮวางจองจึงถามคำว่า บิ๊วตี้ฟูล หมายความว่าอย่างไร นางจึงบอกว่าสวยงาม เขาจึงท่องคำนี้ต่อหน้า โดยความตั้งใจจริงอยากจะบอกว่านางเป็นผู้หญิงที่สวยงามมาก

ชายที่ชื่อฮวางจองตัวจริง มาขอสมัครเข้าสอบโรงเรียนแพทย์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้สมัครเพราะมีคนชื่อนี้มาสมัครไปแล้ว ทั้งวันเดือนปีเกิดก็ตรงกัน ทำให้ฮวางจองตัวจริงประหลาดใจมาก

ฮวางจองถูกทหารจับตัว เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นคนที่ไปทำร้ายและลักพาตัวภรรยาของชายคนหนึ่งไป ทำให้ถูกนำไปขังที่คุกซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่จะเริ่มเวลาสอบแข่งขันเข้าโรงเรียนแพทย์ หมออัลเลนพยายามช่วยโดยขอพบหัวหน้ามือปราบ แต่ก็ไม่ได้พบ ใต้เท้ามินก็เข้าวังไปตั้งแต่เช้าแล้ว


ที่สนามสอบเข้าโรงเรียนแพทย์ คูฮอน พยายามที่จะช่วยโดยังให้สอบได้ ขณะที่คิมโทน ได้รับคำสั่งจากวาตานาเบ้ให้แฝงตัวเข้าไปเป็นคนเข้าสอบ แล้วก็ก่อเรื่องให้วุ่นวายไปเลย

“นี่ คนที่มาเข้าสอบวันนี้เยอะรึเปล่า” คิมโทนถาม ซ๊อกรันที่ได้ปลอมตัวเข้ามาสอบด้วย

“ก็คิดว่า น่าจะเยอะมั้ง ได้ยินว่ามีคนมาสมัครตั้งพันกว่าคน” ซ๊อกรันดัดเสียงตอบ


“อ้อ อย่างนั้นเหรอ ขอให้เจ้าสอบได้นะ” คิมโทน กล่าว

“ขอบใจมาก”

ซึงยอน มายืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า ฮวางจอง ไม่ใช่คนทำผิด และขอโทษแทนสามีของตนเอง ทำให้ฮวางจองได้รับการปล่อยตัว เขาจึงรีบเดินทางไปเพื่อให้ทันเข้าสอบ

“เดี๋ยวก่อนครับ รอก่อนครับ โปรดรอข้าด้วย ช่วยประทับตราให้ที ช่วยเร็วหน่อยได้มั้ยครับ”

“หึ ๆ ถึงจะรีบยังไงก็จะข้ามขั้นตอนไม่ได้หรอก ฮวางจองเกิดปีอึลชู เดือนสาม เข้าไปได้” เจ้าหน้าที่ กล่าว


“อย่าเพิ่งไปฮวางจอง ไม่ได้เจอกันนานนะ ข้านี่แหละฮวางจอง” ฮวางจองตัวจริงเข้ามาทัก

“ข้านี่แหละอีควัก” อีควัก กล่าว


เนื้อหา: เดลินิวส์ / ภาพจากละคร (เอสบีเอส)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา