วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เจจุงวอน ตำนานแพทย์แห่งโชซอน ตอนที่ 22




ฮวางจองกลับบ้านก็ถูกคนในหมู่บ้านจ้องจะรุมทำร้าย เพราะเขามีคดีฆ่าสัตว์เถื่อนและถูกตามล่าจากทางการ ทำให้คนในหมู่บ้านเดือดร้อนไปด้วย


“นี่เจ้า โซกึนแกนี่ เจ้าตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้..”

“คือต้องบอกว่า เรื่องมันยาวน่ะ” ชักแทบอก

“ยาวเหรอ? เรื่องมันจะมีอาไร้ ผู้หญิงท้องไม่มีพ่อยังขอความเห็นใจได้ แต่คนทำผิดกฎต้องห้ามลักลอบฆ่าสัตว์น่ะ นอกจากหนียังจะมีอะไรได้ รู้มั้ยว่าคนในหมู่บ้านต้องมาเดือดร้อนเพราะเจ้ากับหกนิ้วไปลักลอบฆ่าสัตว์มากแค่ไหน พวกมือปราบมาถึงก็ลากพวกข้าไปโบยกันทุกวัน”

“ข้าขอโทษด้วย” ฮวางจองสำนึกผิด

“ขอโทษเรอะ ตอนนี้ข้าอารมณ์ดีรีบออกไปจากหมู่บ้านซะ ไม่อย่างนั้นข้าจะทำให้เจ้าตายไม่มีที่ฝัง”

ฮวางจองถูกรุมลงทัณฑ์ ทำให้เขาและพ่อรวมทั้งชักแทอยู่กันอย่างไม่เป็นสุขนัก เพราะคนในหมู่บ้านยังไม่ยอมรับเขา


“ข้าได้ยินว่าที่เจจุงวอน มีคนที่สามารถใช้ฝีจากวัวมาทำยาป้องกันฝีดาษได้ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้าหมอนี่” เบ็กเท ผู้เฒ่าในหมู่บ้านพูดขึ้น

“เป็นข้าน้อยเองครับท่านผู้เฒ่า”

“อย่าให้ใครรู้เด็ดขาด ถ้าเจ้าพูดออกไป จะถูกลงโทษ” ชักแทรีบพูดขึ้น

“อย่างนี้นี่เอง เพราะข้าเอง ถ้าข้าไม่ไปเจจุงวอนก็ไม่เกิดเรื่อง ถ้าวันนั้นข้าไม่ไปที่เจจุงวอน ข้าก็ไม่ต้องถูกตัดขา โซกึนแกก็จะได้ใช้ชีวิตที่นั่น” มาตังแกพูดด้วยความสงสารลูกชาย

“แต่ถ้าทำอย่างนั้นเจ้าก็ต้องตายนะ หมอที่เจจุงวอนบอกอย่างนั้นนี่” ผู้เฒ่าเบ็กเทเอ่ยขึ้น

“ให้ข้าตายไปซะดีกว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นโซกึนแกจะได้ไม่ต้องกลับมาอยู่ที่นี่อีก” มาตังแกยังบ่นไม่เลิก

“เอาเป็นว่า ข้าจะไปช่วยพูดกับคนในหมู่บ้านให้เจ้าเอง เจ้าเองก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เค้าถูกไล่ออกมาจากที่นั่นแล้ว ถ้าถูกไล่ออกไปจากที่นี่อีก เค้าก็คงจะไม่มีที่ไหนให้ไปอีกแล้ว” ผู้เฒ่าเบ็กเทบอก

มาตังแกรีบคำนับขอบคุณ “พี่ใหญ่ ขอบคุณท่านมากนะ ขอบคุณมาก”

นับตั้งแต่ความแตกเรื่องฮวางจอง ทำให้ซ๊อกรันถูกนินทาเรื่องที่เคยปลอมตัวเข้าไปสอบเป็นนักศึกษาแพทย์ และถูกมองเป็นคนหลอกลวงเหมือนกับฮวางจอง ทำให้แม่ของซ๊อกรันไม่ยอมให้ลูกสาวไปทำงานที่เจจุงวอนอีก จนฮอร์ตั้นต้องมาขอร้อง



“ตอนนี้ที่แผนกนรีเวชขาดคนมาก ได้โปรดอนุญาตให้ซ๊อกรันไปทำงานที่เจจุงวอนได้มั้ยคะ?”

“ไม่ได้ ได้ยินว่าเรื่องของพวกเค้าสองคนถูกพูดนินทากันทั่วเจจุงวอนไปหมด อายแบบนี้ยังจะทำงานอะไรอีก”

“คำพูดนินทาของคนอย่างมากก็ไม่เกินสามวันหรอก ตอนนี้ที่เจจุงวอนไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้แล้ว”

“ซ๊อกรัน พ่อเองก็ไม่เห็นด้วยที่เจ้าจะกลับไปเจจุงวอน ถ้าอยากจะหาอะไรทำจริง ก็ไปสอนภาษาอังกฤษให้เด็ก ๆ กับซึงยอนสิ เจ้าว่าดีรึเปล่า?”

“ท่านพ่อคะ ข้าอยากเป็นนายแพทย์หญิงค่ะ”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้” แม่ตวาด

“ใต้เท้ายู จากนี้ไปฮวางจองจะมาที่เจจุงวอนอีกไม่ได้แล้ว” ฮอร์ตั้นยืนยัน

แม้จะเห็นใจลูกสาวแต่ล่ามยูก็เป็นห่วงซ๊อกรันไม่น้อย “ที่เจ้าบอกว่าเจ้ารู้นานแล้วว่าฮวางจองเป็นคนฆ่าสัตว์ มันทำให้พ่อตกใจมากรู้มั้ย? พอรู้ว่าเค้าเป็นเด็กหนุ่มที่เก่งและมีความสามารถ พ่อก็เลยยอมให้พวกเจ้าคบหากัน แต่ว่าฮวางจองเค้า ไม่ควรจะมาเกิดในยุคสมัยนี้เลย”



“ยุคสมัยกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อก่อนพ่อเคยบอกข้าอย่างนี้นี่คะ”

“ต่อให้เปลี่ยนไปยังไง ก็ไม่สามารถเปลี่ยนได้ในพริบตา จะรอยุคสมัยที่เค้าได้มีชีวิตเหมือนกับคนอื่น อยากจะรอให้ยุคที่ทุกคนยอมรับพวกเค้ามาถึง ยังต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรเลย”

“แต่พ่อคะ สักวันยุคแบบนั้นจะมาถึงใช่มั้ยคะ?”

“แน่นอน แต่ยังไงยุคแบบนั้นก็ยังไม่ใช่เวลานี้ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว เราอย่าไปพูดถึงอีกเลยดีมั้ย เรื่องเจจุงวอน พ่อยอมให้เจ้าไปทำงานต่อได้ ที่พ่อยอมให้ไป เพราะไม่อยากให้เจ้าต้องทิ้งความฝันที่อยากจะเป็นหมอเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ แต่จำไว้ ว่าสายตาที่ทุกคนมองเจ้ามันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เจ้าต้องจำไว้ให้ดี แล้วตั้งใจทำงาน ในเจจุงวอนให้ดี”

ซ๊อกรันดีใจมาก “ค่ะท่านพ่อ ขอบคุณท่านมากค่ะ”

ชิลบกติดโรคอหิวาตกโรคมา ซ๊อกรันและฮอร์ตั้นถามว่าไปติดมาจากไหนเพราะเป็นโรคติดต่อ สอบถามไปมาชิลบอกว่าเพิ่งไปแจมัลโปมา โดยไปกับพ่อค้ากลุ่มหนึ่ง เฮรอนบอกว่าต้องรีบไปเอาตัวพ่อค้ากลุ่มนั้นมาตรวจโดยเร็ว เพราะกลัวโรคจะระบาดไปใหญ่



พอรู้ว่าเริ่มมีโรคอหิวาต์ระบาด พระเจ้าโกจงก็แก้เคล็ดด้วยการยิงปืนไล่โรค แต่เฮรอนบอกวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

“ผมเคยทราบว่า ในโชซอนเคยมีการระบาดของโรคอหิวาตกโรคจนทำให้มีคนตายไปห้าแสนคน เราจะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีกไม่ได้”

“ถ้างั้น เราควรจะทำยังไงล่ะ” พระเจ้าโกจงตรัสถาม

“ฝ่าบาท โปรดรับสั่งให้ประชาชนหยุดกินอาหารดิบ โดยต้องทำให้สุกก่อนทุกครั้งพ่ะย่ะค่ะ”

“รวมถึงผักและผลไม้ด้วยรึเปล่า” มเหสีตรัสถามต่อ

“ใช่พ่ะย่ะค่ะ แม้แต่น้ำก็ต้องต้มให้สุกก่อนดื่ม”

“ทำแบบนั้นแล้วจะช่วยทำให้โรคไม่ระบาดได้จริง ๆ เหรอ”

“พ่ะย่ะค่ะ ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ขั้นต่อไปก่อนที่เชื้ออหิวาต์จะเกิดการแพร่ระบาดไปทั่วประเทศโชซอน ได้โปรดอนุญาตให้..เจจุงวอนส่งคนไปยับยั้งการแพร่ระบาดที่แจมัลโปด้วยพ่ะย่ะค่ะ” เฮรอนกราบทูล

เฮรอนเรียกประชุมนักเรียนแพทย์เพื่อจะเกณฑ์ให้ไปช่วยรักษาชาวบ้านที่เป็นอหิวาต์ ซ๊อกรันเข้าร่วมประชุมด้วยแต่ก็ถูกดูถูกจากคนอื่น ๆ จนเฮรอนต้องต่อว่านักเรียนแพทย์ที่ดูถูกซ๊อกรัน



“มันคงเร็วเกินไปที่เจ้าจะกลับมาทำงานที่นี่ เจ้าพักอยู่ที่บ้านอีกซักพักนึงดีกว่า” โดยังบอก

“ไม่ค่ะ ตอนนี้โรคอหิวาต์กำลังจะระบาด ข้าคงนั่งอยู่กับบ้านไปวัน ๆ ไม่ได้ อีกอย่างนึง คำครหาที่คนพูดถึง ตอนนี้ก็ค่อย ๆ ลดน้อยลงไปแล้ว”

“กฎหมายและระบบอาจจะเปลี่ยนได้ไม่ยาก แต่ความคิดของคนไม่สามารถเปลี่ยนกันได้ง่าย ๆ”

“แต่นักศึกษาฮวางยังทำได้เลย เค้าต้องถูกดูถูกเหยียดหยามอย่างไม่อาจทนได้ แต่เค้าก็ยังเข้มแข็งยืนหยัดต่อไป”

“ข้าว่าที่เค้าทำเพราะกลัวจะถูกเปิดโปงตัวตนที่แท้จริง” โดยังพูดเหน็บ

“ท่านอาจจะพูดถูก แต่ข้าคิดว่า ที่เค้าทำไปทุกอย่างก็เพราะว่าเค้าต้องการจะช่วยคน” ซ๊อกรันบอก

“ถ้าเหตุผลมีแค่อยากจะช่วยคน เค้าไม่เห็นจำเป็นจะต้องเลือกเจจุงวอนเลยนี่นา”


“ถ้าอย่างนั้นช่วยบอกข้าหน่อย แผ่นดินโชซอน มีที่ไหนบ้างที่จะยอมให้คนฆ่าสัตว์..มาเป็นหมอบ้าง? หรือท่านก็คิดว่านักศึกษาฮวางไม่คู่ควรจะได้เป็นหมอเพียงเพราะว่าเค้าเป็นคนฆ่าสัตว์?” ซ๊อกรันถามตรงประเด็น

“ไม่ใช่หรอก ข้าไม่เคยคิดอะไรอย่างนั้นเลย ความสามารถของฮวางจอง ถูกพิสูจน์แล้วหลังผ่านการสอบที่เจจุงวอน เพียงแต่ฐานะของเค้าคงจะไม่สามารถเปลี่ยนไปได้เพราะการมีความสามารถ”

“คุณชายก็ทำลายฐานะตัวเองแล้ว ท่านเองก็เคยบอกว่า จะไม่ขอเป็นชนชั้นสูงแล้วไงล่ะ” ซ๊อกรันถามกลับ

“ถูกต้อง ข้าพูดอย่างนั้น แต่ว่าคนที่เป็นปัญญาชนอย่างเรา ข้าทำเพื่อนำสังคมให้ทันสมัย ถ้าเทียบกับคนต่ำช้าเล่นละครตบตาทุกคน มันจึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง” โดยังพูดเข้าข้างตัวเอง

“เอาเป็นว่า ถึงข้าจะไม่อยากอยู่เจจุงวอน แต่ก็จะไม่ไปจากเจจุงวอน ขอให้ท่านเข้าใจด้วย” ซ๊อกรันบอก

นักศึกษาแพทย์ถูกเกณฑ์ออกไปรักษาโรคกันหมด เหลือเพียงซ๊อกรันและโกเท่านั้นที่อยู่เฝ้าเจจุงวอน โดยเฮรอนเห็นความสามารถของซ๊อกรันและคิดจะสนับสนุนให้ซ๊อกรันเป็นแพทย์เต็มตัว จึงได้จัดตารางการเรียนแพทย์เอาไว้ให้ ในขณะที่เขาและนักเรียนแพทย์คนอื่น ๆ ไปรักษาคนป่วย



ในหมู่บ้านของฮวางจองก็เกิดมีอหิวาต์ระบาดเช่นกัน ฮวางจองจึงใช้ความรู้ด้านแพทย์เข้าช่วยเหลือ พร้อมให้คำแนะนำเรื่องการปฏิบัติตัวเอง จนชาวบ้านเริ่มยอมรับในตัวฮวางจองมากขึ้น

ซ๊อกรันเจอกับชักแทโดยบังเอิญ จึงถามถึงฮวางจอง “นักศึกษาฮวาง ตอนนี้ทำอะไรอยู่เหรอ?”

“ใช้ชีวิตไปอย่างนั้นแหละ”

“แล้วเค้าใช้ชีวิตยังไงเหรอ?” ซ๊อกรันทำท่าสนใจมาก

“ก็ถ้าในหมู่บ้านมีใครป่วยเค้าก็ไปช่วยรักษาให้ ที่หมู่บ้านข้าก็มีคนป่วยเป็นอหิวาต์ด้วย แล้วโซกึนแก อ้อไม่ นายท่าน ก็กำลังช่วยรักษาคนป่วยอยู่”

“แต่เค้าไม่มียานี่นา”

“อ้อ ใช่ เค้าถึงได้ลำบากเหมือนกัน”

“ว่าแล้วว่านักศึกษาฮวางต้องไม่ยอมแพ้ ข้าช่วยจัดยาให้ได้ เดี๋ยวข้าห่อยาให้” นังนังบอก

“นังนัง เราต้องได้รับอนุญาตจากหมอฮอร์ตั้นก่อน” ซ๊อกรันรีบบอก นังนังบอกเขาจะขออนุญาตเอง

ซ๊อกรันมาที่หมู่บ้านของฮวางจองเพื่อช่วยเหลือรักษาคนป่วย มาตังแกเห็นเข้าก็กังวลเพราะกลัวล่ามยูจะรู้เรื่องและไม่พอใจ ซ๊อกรันบอกเธอมาในฐานะหมอเพื่อมาช่วยเหลือคนป่วย



“เอ่อ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ท่านมาที่ซอมซ่ออย่างนี้”

“พูดอะไรอย่างนั้น ที่นี่ทั้งอบอุ่นทั้งน่าอยู่ นักศึกษาฮวาง เคยอ่านหลุนอี่ด้วยเหรอคะ?” ซ๊อกรันมองไปรอบ ๆ บ้านและสะดุดตากับตำราเล่มหนึ่ง

“อ้อ ใช่ ตั้งแต่เค้ารู้หนังสือนั่นแหละ เค้าอ่านหนังสือมาไม่น้อยเลยนะ ตอนนั้นไม่ว่าข้าจะทั้งด่าทั้งตีเค้ายังไง ก็แก้นิสัยชอบอ่านของเค้าไม่ได้”




หลังจากรักษาคนป่วยแล้ว ซ๊อกรันก็มีโอกาสพูดคุยกับฮวางจอง “นักศึกษาฮวาง”

“ชื่อของข้าก็คือโซกึนแก โซกึนแก โซกึนแก”

“ข้าคิดถึงท่านจัง” ซ๊อกรันระบายความรู้สึกออกมา


“ท่านมาทำอะไรที่นี่ล่ะ อยากมาดูให้แน่ใจว่าข้าเป็นคนฆ่าสัตว์รึเปล่าสินะ ในเมื่อท่านได้เห็นชัดแล้ว ก็เชิญกลับไปซะเถอะ” ฮวางจองพูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ

“สำหรับข้า จะโซกึนแกหรือว่าฮวางจอง เค้าคือคนเดียวกัน”

“ท่านตื่นสักทีเถอะ ทำไมต้องทำแบบนี้ ท่านเดือดร้อนเป็นทุกข์เพราะข้ามามากแล้ว ป่านนี้ยังไม่ตื่นอีกเหรอ ท่านจะทำอะไรหะ? โปรดอย่ามองข้าอย่างนั้น ข้าไม่ใช่คนน่าสงสาร คนอื่นมองข้าเป็นแค่คนต่ำช้า แต่ในหมู่บ้านของข้า ข้าคือคนที่มีประโยชน์ ได้โปรดอย่ามาที่นี่อีก” ฮวางจองพูดจบก็หันหลังเดินไป เพราะไม่ต้องการให้ซ๊อกรันเห็นน้ำตา


ซ๊อกรันเตรียมจะกลับเจจุงวอนแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของฮวางจองมาส่ง ซ๊อกรันบอกไม่เป็นไรเพราะแค่นี้ก็ทำให้เธอมีพลังเพิ่มมากขึ้นแล้ว 

ลูกสาวของเจ้ากรมกลาโหมป่วยหนักด้วยโรคปอดอักเสบ ฮอร์ตั้นซึ่งมาส่งข่าวให้พระเจ้าโกจงเรื่องสถานการณ์การระบาดของอหิวาต์หนักมาก จึงขอดูอาการของยองอิก แต่ทางเจ้ากรมกลาโหมไม่ยอมให้หมอฝรั่งรักษา เพราะยังกลัวเรื่องที่หมอฝรั่งจะจับผ่าท้อง

“ไม่ยอมให้ท่านตรวจเหรอคะ” ซ๊อกรันถามอย่างแปลกใจ

“ใช่ ทิ้งให้ฉันรออยู่หน้าประตู เจ้ากรมกลาโหมเป็นขุนนางตำแหน่งสูงใช่มั้ย?”

“ใช่ค่ะ ถ้าเทียบกับอเมริกา..ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องว่าเทียบกับอะไร”

“แต่เป็นเจ้ากรม ก็เป็นรองแค่ท่านเสนาฝ่ายซ้ายฝ่ายขวา ขุนนางระดับสองเท่านั้น”

“แต่ถึงจะเป็นขุนนางใหญ่แค่ไหน คนป่วยก็ยังเป็นคนป่วย ถ้าฉันทิ้งคนป่วยไว้แล้ว ต้องไปแจมัลโปอย่างนี้ ฉันรู้สึกไม่ดีเลย”

“เฮ้อ เค้าไม่ได้มาหาที่เจจุงวอนเองสักหน่อย ท่านก็อย่าคิดมากไปเลย เค้าไม่มา ไม่ยิ่งดีเหรอ?”

“คุณพูดอย่างนั้นได้ยังไง?”

“แหม ตระกูลใหญ่อย่างนั้นถ้าทำอะไรไม่ถูกใจ เจจุงวอนอาจจะกลายเป็นโรงพยาบาลร้างก็ได้” โกบอก

“โรงพยาบาลร้าง หมายความว่าไง?”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ นักศึกษาโกก็พูดไปเรื่อยเปื่อยน่ะ ถ้าหากมีคนไข้เร่งด่วนจริง ๆ จะรีบโทรเลขไปบอกค่ะ”

เฮรอนรักษาผู้ป่วยและไม่ได้พักผ่อนจนร่างกายอ่อนแอ เลือดกำเดาไหล ทำให้คนเห็นก็ร้องโวยวาย

“ผมไม่เป็นไร ร้องโวยวายซะคนตกใจหมด”

“ท่านเลือดกำเดาไหลนี่”

“ท่านคงเหนื่อยเกินไปแล้ว ควรจะพักสักหน่อย” โดยังบอก

“ผมไม่เป็นไร” เฮรอนยืนยัน

“จะไม่เป็นไรได้ยังไง ตั้งแต่ออกมาจากฮันยางท่านก็เอาแต่รักษาคนไข้ไม่หายใจหายคอ ท่านไม่ได้นอนมาสองวันแล้วนะ” โซซาบ่น

“นางพูดถูกแล้วล่ะ ท่านพักหน่อยเถอะ”

“ผมยังแข็งแรงดี ไม่ต้องเป็นห่วง นักศึกษาเบ๊กเองก็กลับไปพักผ่อนเอาแรงเถอะ ส่วนผมจะรอให้ ฮอร์ตั้นมาถึงค่อยพัก”


“ถ้าทำอย่างนี้ท่านต้องป่วยแน่” โซซาเป็นห่วงหมอเฮรอนมาก

“ผมรู้จักร่างกายตัวเองดี” เฮรอนยังยืนยันคำเดิม

“โซกึนแก” มาตังแกเรียกลูกชาย

“ครับท่านพ่อ”

“พ่อว่านะ.. คือคุณหนูซ๊อกรันน่ะพ่อน่ะเห็นคุณหนูมาตั้งแต่นางยังเด็กแล้ว นางน่ะ เหมือนนางฟ้าเลย ไม่มีนางฟ้าคนไหนจะเทียบได้ เพราะว่าเป็นนางฟ้าถึงได้ยอมลดตัวมาบ้านของพวกเรา แถมยังมากินข้าวกับพวกเราอีก เป็นคนอื่นเค้าจะทำเหรอ ถือเป็นบุญจริง ๆ ที่ได้รู้จักคนอย่างคุณหนู คนที่แค่ได้มองอยู่ไกล ๆ ก็คงจะรู้สึกพอใจเป็นที่สุดแล้ว”


“ทำไมพ่อถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ” ฮวางจองถามอย่างแปลกใจ

“เอ่อ ข้าก็แค่.. อ้อจริงด้วยสิ แล้วผู้หญิง ผู้หญิงที่ตัวเล็ก ๆ คนนั่นน่ะ”

“นังนังเหรอครับ”

“ถ้าเจ้าอยากจะลงหลักปักฐานเจ้าก็ควรจะแต่งงานมีครอบครัวซะ ได้ยินว่านางเป็นสาวใช้ของนางโลมใช่มั้ย อย่างนางจะเป็นไปได้รึเปล่าหะ?” มาตังแกต้องการให้ฮวางจองตัดใจจากซ๊อกรัน ฮวางจองนิ่งไปก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง “อืม ฟืนที่บ้านของเราหมดแล้ว ข้าต้องไปหามาไว้หน่อย”

ยองอิกลูกสาวของเจ้ากรมกลาโหมอาการทรุดลง ลูกของเสนาบดีเพื่อนของโดยังจึงมาที่เจจุงวอนถามหาโดยังเพื่อให้ไปช่วยรักษาคู่หมั้นของตนเอง

“ข้าได้ยินว่าโดยังเป็นแพทย์ฝึกหัดอยู่ที่นี่เลยมาหา”

“เจ้าคงเป็นเพื่อนของโดยังหลานข้าที่สำนักศึกษาสิ อ้า แล้วมาทำอะไรที่นี่ล่ะ” คูฮอนถาม

“ตอนนี้คู่หมั้นของข้าไม่สบายมาก ไม่ทราบว่าโดยังอยู่ที่ไหน?”

“เพราะตอนนี้โรคอหิวาต์ระบาด ทุกคนก็เลยไปช่วยที่แจมัลโปกันหมด”

“ในเมื่อมีคนป่วยมาก็ต้องเชิญเข้าไปรักษาสิ เอ้านังนัง รีบไปทำความสะอาดห้องผู้ป่วยพิเศษทีสิ” คูฮอนบอกนังนัง

“แต่ที่นั่นมีคนป่วยพักอยู่แล้วค่ะ” นังนังบอก

“โธ่เอ๊ย เจ้าก็ไปบอกคนป่วยคนนั้นว่าข้าสั่งให้รีบไปเปลี่ยนห้อง แล้วพวกเจ้ายืนเฉยกันอยู่ทำไมล่ะ รีบพาคนป่วยเข้าไปสิ” คูฮอนรีบสั่ง



เจ้ากรมกลาโหมพาลูกสาวมาที่เจจุงวอน ใต้เท้าโอและคูฮอนออกมาต้อนรับ

“จำข้าได้มั้ยขอรับ ข้าเบ๊กคูฮอนไง”

“ข้าโอจุงฮวานเป็นผู้จัดการของที่นี่ครับ

“ต้องขอโทษด้วยครับเพราะอาการของนาง แต่ว่าที่นี่มีหมอหญิง ข้าถึงได้มาที่นี่” ลูกเสนาบดีบอก

“อ้า ใช่แล้ว ที่นี่มีหมอหญิงที่เก่งมาก เธอชื่อคุณหมอฮอร์ตั้น เป็นหมอหญิงที่เก่งมากเลยนะฮะ ๆ ๆ ๆ แม้แต่เด็กไม่ยอมกลับหัวนางยังช่วยทำคลอดออกมาได้สบาย ๆ เลย นางเก่งมากจริง ๆ นะฮะ ๆ ๆ”

“ผู้จัดการเบ๊ก ตอนนี้หมอฮอร์ตั้นไม่อยู่ไม่ใช่รึ?” ใต้เท้าโอถามขึ้น

“อ้อ ใช่ จริง ๆ ด้วย คือนางไปทำธุระชั่วคราว แต่พวกข้าเรียกนางกลับมาได้นะ”

“ใต้เท้า ตอนนี้อาการของยองอิกหนักมากแล้วนะ”



ซ๊อกรันและนักศึกษาโกช่วยกันตรวจร่างกายของยองอิกและพบว่านางเป็นโรคเยื่อหุ้มปอดอักเสบ ซึ่งวิธีการรักษาคือจะต้องเจาะปอด ทั้งสองจึงนำเรื่องมาบอกใต้เท้าโอ

“เจาะปอดงั้นเหรอ แล้วเจ้าทำไม่เป็นรึ”

“ครับ ตอนนี้คนที่เจาะปอดเป็นมีแค่ ผอ.เฮรอน คุณหมอฮอร์ตั้น แล้วก็นักศึกษาเบ๊กครับ” โกบอก

“งั้นเหรอ ทำยังไงดี ข้าต้องรีบโทรเลขไปบอกให้พวกเค้าคนใดคนนึงกลับมา” คูฮอนพูดอย่างร้อนใจ

“แต่ว่าแบบนั้นคงไม่ทันแน่ กว่าจะตามพวกเค้าอย่างน้อยต้องใช้เวลาครึ่งวัน แต่คนไข้อาจจะทนไม่ได้ถึงตอนนั้นค่ะ” ซ๊อกรันพูดขึ้น

“โอ๊ย ทำไงดี คราวนี้พวกเราตายแน่ ได้ตายกันหมดแน่ ข้าตายแน่” โกกังวลหนัก

“นี่ พูดอย่างนี้ก็หมายความว่าไม่มีทางอื่นแล้วงั้นรึ คนที่เจาะปอดเป็นไม่มีใครอีกแล้วจริง ๆ รึไง”

โกคิดหนักก่อนจะพูดออกมา “เอ่อ ที่จริง นักศึกษาฮวางก็ทำเป็นครับ”

“อะ อะไรนะ” คูฮอนตาโต

“นักศึกษาฮวางน่ะเหรอ” ซ๊อกรันถามขึ้น

“เจ้าพูดจริงเหรอ?” ใต้เท้าโอถามย้ำ

“ใช่ เพราะตอนที่ผอ.เฮรอนเจาะปอดรักษาคนไข้อยู่ นอกจากนักศึกษาเบ๊ก ก็ยังมีนักศึกษาฮวางอีกคน”

“ถ้าหากเค้าทำได้ แค่สองชั่วโมงเค้าก็มาถึงได้แล้ว” ซ๊อกรันพูดอย่างมีความหวัง

“หน็อยแน่ะ พวกเจ้ายังมีสติกันอยู่รึเปล่า นี่เจ้าจะปล่อยให้คนฆ่าสัตว์มารักษาลูกสาวท่านเจ้ากรมได้ไง คิดซะบ้างเซ่ คุณหนูคนนั้นจะต้องเป็นภรรยาของลูกท่านเสนาบดีเชียวนะ” คูฮอนฉุนเฉียว

“ข้าจะทำเอง เพราะว่านักศึกษาฮวางเป็นผู้ชาย เค้าคงไม่สามารถรักษาโดยตรงได้ แค่ให้นักศึกษาฮวางเป็นคนบอก แล้วข้าจะทำเอง” ซ๊อกรันพยายามหาทางออก

แต่คูฮอนยังไม่ยอม “ไม่ได้หรอก ข้าจะโทรเลขไปเรียกพวกนั้นมาเดี๋ยวนี้ เอาเป็นว่า ไม่ว่ายังไงพวกเจ้าสองคน ก็ต้องดูแลลูกสาวท่านให้ดี ถ้านางเกิดตายไป พวกเจ้าต้องรับผิดชอบ เข้าใจมั้ย ฮึ้ย.. ทำไมต้องเป็นเวลานี้ด้วยนะ เฮ้อ”

“โอ๊ย ทำยังไงดี ทำไงดี ๆ”

ซ๊อกรันตัดสินใจพูด “ผู้จัดการโอคะ เราจะไม่ทำอะไรแล้วทนดูคนไข้ตายไปเฉย ๆ เหรอ” นักศึกษาโกก็เห็นด้วย “นั่นสิ ถ้านางเกิดตายขึ้นมา เจจุงวอนของเราได้จบเห่กันแน่”



“ฮวางจองสามารถทำได้แน่ใช่มั้ย” ใต้เท้าโอตัดสินใจ

คูฮอนให้คนมาส่งข่าวให้โดยังทราบเรื่องมีคนไข้เป็นปอดอักเสบมารักษาที่เจจุงวอน โดยังจึงบอกหมอเฮรอน

“อย่างนั้นเหรอ ตอนนั้นที่นั่นไม่มีใครจะช่วยเจาะปอดได้แน่”

“เรื่องเจาะปอดเหรอ โดยังทำเป็นครับ” เจอุ๊กบอก

“ข้าอยากจะกลับไปดูสักหน่อย ถ้าข้าขี่ม้าไป คงจะใช้เวลาไม่นาน” โดยังรับอาสา

“คุณไปไหวแน่นะ เพราะคุณเองก็ไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้ว” เฮรอนพูดอย่างเป็นห่วง

“ข้าก็รู้จักร่างกายตัวเองดี ข้าจะรีบไปรีบกลับ”

“งั้นก็ได้ หมอฮอร์ตั้นใกล้จะมาถึงแล้ว เดินทางระวังด้วย”

“ครับท่าน ผอ.”

เฮรอนยังได้ข่าวเรื่องที่ซ๊อกรันจะตามฮวางจองกลับมาช่วยรักษาคนป่วยอีกด้วย

ซ๊อกรันมาหาฮวางจองที่หมู่บ้าน และเจอกับมาตังแก “เค้าใกล้กลับมาแล้วล่ะครับ”

“เดี๋ยวก็คงมาค่ะ” ไม่นานนักฮวางจองก็กลับมาถึงบ้าน ซ๊อกรันยิ้มดีใจ “นักศึกษาฮวาง คนไข้กำลังจะตาย ถ้าไม่ไปช่วยนาง ก็ไม่มีใครช่วยนางได้”

“ตอนนี้ข้าไม่ได้เป็นแพทย์ฝึกหัดแล้วนะ”

“งั้นทำไมท่านยังรักษาโรคให้คนในหมู่บ้านล่ะ ทั้งที่บอกว่าไม่ได้เป็นแพทย์ฝึกหัดแล้ว ตอนนี้คนที่รู้วิธีเจาะปอด มีแค่ท่านคนเดียวเท่านั้น” ซ๊อกรันบอก

ฮวางจองตกใจ “จะต้องเจาะปอดเหรอ?”

“คนป่วยเป็นเยื่อหุ้มปอดอักเสบ นางมีหนองเต็มปอดไปหมด นางเป็นโรคเดียวกับโรคที่พรากชีวิตท่านแม่ ของนักศึกษาฮวางไปน่ะ”



ฮวางจองลังเล “เยื่อหุ้มปอดอักเสบ แต่ถ้าข้าไปเจจุงวอนจะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ ไม่ใช่แค่คุณหนูที่จะต้องเดือดร้อน แม้แต่ข้าก็.. ครั้งนั้นพวกเค้ายอมปล่อยข้ามา แต่ครั้งนี้คงจะไม่ง่ายอย่างนั้น”

“ข้ารู้ดี แต่ว่าไม่ว่าเวลาไหนท่านเองก็ไม่เคย ปฏิเสธคนไข้เลยไม่ใช่เหรอ?” ซ๊อกรันพยายามเกลี้ยกล่อม

“ข้าขอ.. เวลาคิดอีกสักหน่อย” ฮวางจองยังไม่กล้าตัดสินใจ เพราะตอนนี้เขาไม่อยู่ในฐานะที่จะรักษาใครอีกแล้ว

“ไม่มีเวลาแล้ว เพราะตอนนี้คนไข้ กำลังหายใจลำบากแล้ว กว่าเราจะไปถึงเจจุงวอน นางอาจจะตายก่อนแล้วก็ได้”

ฮวางจองครุ่นคิดหนัก


เนื้อหา: เดลินิวส์ / ภาพจากละคร (เอสบีเอส) 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา