วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

จูมง มหาบุรุษกู้บัลลังก์ ตอนที่ 2




แฮโมซูแอบหนีไปกลางดึกเพราะไม่ต้องการให้คุณหนูยูฮวาและคนในเผ่าฮาเบคเดือดร้อน แต่สุดท้ายทุกคนในเผ่าก็ถูกหน่วยอาชาเหล็กสังหารอยู่ดี คงมีเพียงคุณหนูยูฮวาที่ถูกคุมตัวไปรับโทษประหารที่มณฑลฮยอนโท เมื่อองค์ชายกึมวามาตามหาแฮโมซูที่เผ่าฮาเบคในตอนเช้าก็พบว่าทุกคนในเผ่าถูกหน่วยอาชาเหล็กสังหารหมู่อย่างโหดเหี้ยม แต่ไม่พบศพของคุณหนูยูฮวาและไม่พบร่องรอยของแฮโมซูแต่อย่างใด


"ยอน ทาบัล" (หัวหน้าเผ่าเครู จากแคว้นโจลบน) ซึ่งกำลังนำคาราวานขนสินค้ามุ่งหน้าไปยังมณฑลฮยอนโทได้หยุดพักแรมริมทะเลสาบ พอเห็นแฮโมซูกำลังดื่มน้ำประทังชีวิตเขาก็นึกว่าแฮโมซูเป็นผู้อพยพ เลยชวนมาทานข้าวกับตนและภรรยาด้วยความรู้สึกสงสารและเห็นใจ เมื่อได้ยินว่าเผ่าฮาเบคถูกหน่วยอาชาเหล็กสังหารหมู่ ส่วนคุณหนูยูฮวาถูกนำตัวไปลงโทษประหารที่มณฑลฮยอนโท แฮโมซูก็ถึงกับช็อค ยอนทาบัลเห็นดังนั้นจึงเดาออกว่าเขาคือแฮโมซูที่กำลังถูกราชวงศ์ฮั่นตามล่านั่นเอง



ทั้งแฮโมซูและองค์ชายกึมวาต่างก็เป็นห่วงคุณหนูยูฮวา หลังสะกดรอยตามและคอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ในที่สุดองค์ชายกึมวาก็นำกำลังบุกไปชิงตัวคุณหนูยูฮวากลางดึก เมื่อรู้ว่าขบวนสินค้าของหัวหน้าเผ่าเครูกำลังมุ่งหน้าไปยังมณฑลฮยอนโท แฮโมซูจึงขอติดตามไปด้วยโดยหวังว่าจะได้พบและช่วยเหลือคุณหนูยูฮวา

ขณะเดินทางภรรยายอนทาบัลเกิดเจ็บท้องคลอดกระทันหันทำให้ต้องหยุดพักกลางคัน ระหว่างนั้นได้มีโจรป่าบุกมาปล้นขบวนสินค้าของยอนทาบัลแต่แฮโมซูช่วยปกป้องทั้งคนและสินค้าเอาไว้ได้ ยอนทาบัลซึ่งตั้งใจว่จะส่งแฮโมซูให้ผู้ว่าการมณฑลฮยอนโทเพื่อแลกกับเงินรางวัลก้อนโต เกิดเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้ายด้วยสำนึกในบุญคุณที่แฮโมซูช่วยปกป้องขบวนสินค้าและลูกสาวที่เพิ่งลืมตาดูโลกของตน (โซ ซอโน) เขาขอให้แฮโมซูรีบหนีไปเพราะถ้าขืนยังอยู่ที่นี่อาจทำให้เผ่าเครูของพวกตนตกอยู่ในสภาพเดียวกับเผ่าฮาเบค ทันใดนั้นก็มีคนมาแจ้งข่าวว่าหน่วยอาชาเหล็กที่บุกไปกวาดล้างเผ่าฮาเบคเดินทางมาถึงมณฑลฮยอนโทแล้ว แฮโมซูและยอนทาบัลจึงรีบออกไปดู และได้ยินข่าวลือว่าคุณหนูยูฮวาเสียชีวิตกลางทาง


องค์ชายกึมวาพาคุณหนูยูฮวาไปซ่อนตัวในวังโดยไม่ฟังคำทัดทานของหัวหน้าธิดาเทพที่บอกว่าคุณหนูยูฮวาจะนำภัยพิบัติมาสู่แคว้นพูยอ (หัวหน้าธิดาเทพเคยตกหลุมรักองค์ชายกึมวา) เมื่อได้รับแจ้งว่าแฮโมซูกลับมายังค่ายทาโมลอย่างปลอดภัย องค์ชายกึมวาก็รีบไปหาแฮโมซูทันที ทั้งคู่โผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ แม้จะรอดชีวิตมาได้แต่แฮโมซูก็รู้สึกผิดที่คนอื่นๆ ต้องมาตายเพราะช่วยเหลือตน องค์ชายกึมวาขอให้แฮโมซูเข้าวังไปกับตน โดยบอกว่าพระบิดาของตนรู้เรื่องทั้งหมดแล้วและต้องการพบแฮโมซู พระบิดาของตนเชื่อมั่นในตัวแฮโมซูจึงคิดที่จะร่วมมือกับแคว้นและชนเผ่าต่างๆ ทำศึกกับราชวงศ์ฮั่น อีกไม่นานความฝันที่พวกตนเฝ้ารอมานานก็จะเป็นจริง

เมื่อองค์ชายกึมวาพาแฮโมซูมาเข้าเฝ้า พระเจ้าแฮบูรูก็ขอหารือกับแฮโมซูตามลำพัง พระองค์ขอให้แฮโมซูยืนยันว่าเขาสามารถเอาชนะกองทัพของราชวงศ์ฮั่นได้ เพราะถ้าเขาไม่มั่นใจพระองค์จะไม่เปิดศึกกับราชวงศ์ฮั่น แฮโมซูชี้ว่าสาเหตุที่โกโชซอนพ่ายแพ้แก่ราชวงศ์ฮั่นเป็นเพราะเกิดความขัดแย้งขึ้นภายใน ผิดกับตอนนี้ที่เผ่าต่างๆ และบรรดาผู้อพยพซึ่งล้วนถูกราชวงศ์ฮั่นกดขี่ ต่างยินดีที่จะจับมือเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายเดียวกัน และนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่จะทำให้รบชนะ นอกจากนี้ หากเปิดศึกกันจริงๆ กองทัพฮั่นก็ต้องเคลื่อนทัพลงมาเป็นระยะทางไกล แถมราชวงศ์ฮั่นกำลังเผชิญทั้งศึกในและศึกนอก (ถูกต่างชาติรุกราน) ซ้ำยังมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนทรัพยากรซึ่งนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากเปิดศึกกับพวกตนในตอนนี้ก็สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการลุกฮือของประชาชน ที่สำคัญพวกตนยอมตายแต่ไม่มีวันยอมแพ้ ด้วยเหตุนี้ตนจึงมั่นใจว่าจะเอาชนะศึกในครั้งนี้ได้  พระเจ้าแฮบูรูได้ยินดังนั้นจึงตรัสว่าชะตาของแคว้นพูยออยู่ในมือของแฮโมซูแล้ว แฮโมซูรู้สึกซาบซึ้งใจที่ได้รับความไว้วางพระทัยจากพระเจ้าแฮบูรู


หลังเข้าเฝ้าแฮโมซูโผเข้ากอดองค์ชายกึมวาด้วยความดีใจและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ผิดกับองค์ชายกึมวาที่มีสีหน้ากังวลใจ อำมาตย์ดึกบูลยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจ้องมองทั้งคู่โผเข้ากอดกันด้วยสายอาฆาตมาดร้าย หลังจากนั้นองค์ชายกึมวาก็พาแฮโมซูไปพบคุณหนูยูฮวา แฮโมซูแทบไม่เชื่อสายตาตนเองเมื่อเห็นสาวน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้า ส่วนคุณหนูยูฮวาจ้องมองแฮโมซูด้วยน้ำตาคลอเบ้า แฮโมซูคุกเข่าขอโทษที่นำความเดือดร้อนมาให้และทำให้คนในเผ่าของเธอต้องตาย  คุณหนูยูฮวากล่าวว่าตนไม่รู้สึกเคียดแค้นแฮโมซูเลยสักนิด และขอร้องแฮโมซูให้ช่วยแก้แค้นแทนพ่อและคนในเผ่าของเธอ

หลังรู้ข่าวเรื่องที่องค์ชายกึมวาพาคุณหนูยูฮวามาอยู่ในวังและยังตกหลุมรักนาง องค์หญิงรัชทายาท "วอนฮู" (ชายาขององค์ชายกึมวา) จึงเรียกคุณหนูยูฮวามาพบเพื่อหยั่งเชิง โดยเสนอว่าจะแต่งตั้งเธอเป็นชายารองขององค์ชายกึมวาและจะดูแลเธอเสมือนน้องสาวคนหนึ่ง ปรากฏว่าคุณหนูยูฮวาปฏิเสธเพราะในใจเธอตอนนี้คิดเรื่องแก้แค้นให้พ่อและคนในเผ่าเพียงอย่างเดียว เธอตั้งใจเอาไว้ว่าจะไปอยู่ที่ค่ายทาโมลของแฮโมซูเพื่อช่วยทหารทาโมลผลิตอาวุธ เมื่อได้ยินดังนั้นวอนฮูก็โล่งใจและช่วยส่งคุณหนูยูฮวาไปที่ค่ายทาโมลทันที

องค์ชายกึมวาทูลพระบิดาว่าเผ่าต่างๆ ยินดีที่จะร่วมเปิดศึกกับราชวงศ์ฮั่นและทั้งหมดนี้ก็เป็นผลงานของแฮโมซู พระเจ้าแฮบูรูถามองค์ชายกึมวาว่าจะเริ่มทำศึกเมื่อไหร่ องค์ชายจึงทูลว่าทันทีที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ของเผ่าต่างๆ ถูกส่งมา เมื่อรู้ว่าชายาของตนส่งคุณหนูยูฮวาไปที่ค่ายทหาร องค์ชายกึมวาก็รู้สึกไม่พอใจ วอนฮูจึงบอกว่าเธอก็แค่ทำตามความต้องการของคุณหนูยูฮวา และชี้ว่าบางทีคุณหนูยูฮวาอาจต้องการอยู่เคียงข้างชายที่ตนรักอย่างแฮโมซู  และแฮโมซูก็คงคิดที่จะรับผิดชอบชีวิตคุณหนูยูฮวาเพื่อชดเชยความผิดของตนเช่นกัน


  

แฮโมซูเห็นคุณหนูยูฮวาช่วยแบ่งเบางานต่างๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจึงรู้สึกสงสารและเห็นใจ คุณหนูยูฮวากล่าวว่ามาที่นี้แล้วเธอรู้สึกโล่งใจ ที่ผ่านมาวิญญาณของพ่อและคนในเผ่ามักตามมาหลอกหลอนเธอในความฝันทุกคืน แต่พอมาอยู่ที่ค่ายทาโมลของแฮโมซูเธอก็ไม่เคยฝันร้ายอีก เธอบอกแฮโมซูว่าเขาไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด เพราะถ้าย้อนเวลากลับไปได้หรือเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันอีก เธอก็จะทำเหมือนเดิม เธอได้ยินวีรกรรมของแฮโมซู (ที่คอยช่วยเหลือผู้อพยพชาวโกโชซอน) ครั้งแรกตอนอายุ 16 และคิดมาตลอดว่าอยากช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมาย แม้ช่วยเขาแล้วเธอจะต้องพบเจอกับสิ่งเลวร้ายแต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของเขา หากเป็นโชคชะตาของเธอเอง แฮโมซูได้ยินดังนั้นจึงเดินเข้าไปกอดเธอ องค์ชายกึมวาซึ่งมาหาคุณหนูยูฮวาที่ค่ายทาโมล เห็นทั้งคู่สวมกอดกันแล้วรู้สึกปวดใจจึงหันหลังจากไปเงียบๆ

หลังกลับเข้าวังแล้วองค์ชายกึมวาก็ไปหาหัวหน้าธิดาเทพกลางดึกเพราะรู้สึกไม่สบายใจ หลังเหล้าเข้าปากพระองค์ก็บอกหัวหน้าธิดาเทพให้เลิกกังวลว่าชะตาของตนจะเปลี่ยนไปเพราะคุณหนูยูฮวา เพราะคนที่คุณหนูยูฮวามอบหัวใจให้คือแฮโมซู ทั้งยังบอกด้วยว่าถ้าคนที่คุณหนูยูฮวารักไม่ใช่แฮโมซู ตนจะทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งชิงคุณหนูยูฮวามาให้ได้ เพราะเป็นแฮโมซูตนจึงสละให้ได้ทุกสิ่งแม้แต่หญิงที่ตนรัก เพื่อต่อกรกับราชวงศ์ฮั่นเคียงบ่าเคียงไหล่แฮโมซูตนยอมสละได้แม้กระทั่งชีวิต พูดจบองค์ชายกึมวาก็หัวเราะเพราะรู้สึกสมเพชตนเอง


หลังจดๆ จ้องๆ อยู่นาน ในที่สุดแฮโมซูก็ดึงมือคุณหนูยูฮวามาสวมแหวนหน้าตาเฉย (ขอแต่งงาน) พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าถ้าหากภารกิจลุล่วงแล้ว ตนจะอยู่ดูแลคุณหนูยูฮวาชั่วชีวิต อีกด้านหนึ่งหัวหน้าธิดาเทพก็กำลังบอกอำมาตย์ดึกบูลว่า นกสามขาที่บดบังดวงอาทิตย์ของแคว้นพูยอน่าจะหมายถึงแฮโมซู เธอชี้ว่าแฮโมซูคือสายเลือดของอาณาจักรโกโชซอนที่ล่มสลาย แล้วเขาจะต่อสู้เพื่อแคว้นพูยอไปทำไม เขาช่วยเหลือผู้อพยพชาวโกโชซอนแล้วหลอกให้พูยอคอยดูแลในระหว่างกอบกู้ดินแดนอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรกลับคืนมา เมื่อสบโอกาสเขาจะต้องพาผู้อพยพเหล่านี้กลับไปก่อร่างสร้างอาณาจักรของตัวเอง ดังนั้น ทางเดียวที่จะปกป้องพูยอเอาไว้ได้ก็คือการกำจัดแฮโมซูทิ้งเสีย

อำมาตย์ดึกบูลรีบไปทูลพระเจ้าแฮบูรู โดยบอกว่าต่อให้ทำศึกชนะราชวงศ์ฮั่นแต่พูยอก็อาจล่มสลายอยู่ดี พระเจ้าแฮบูรูได้ยินดังนั้นก็ควันออกหู อำมาตย์ดึกบูลจึงเอาชีวิตตนเป็นประกันและยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดนั้นถูกต้อง เพราะแม้ชนเผ่าอื่นๆ จะมาร่วมรบกับพูยอในครั้งนี้ แต่คนที่พวกเขายกย่อง เชื่อฟัง และมอบอำนาจในการสั่งการให้ไม่ใช่พูยอหรือพระเจ้าแฮบูรูแต่เป็นแฮโมซู และที่พวกเขายอมจับมือกับพูยอก็เป็นเพราะเชื่อใจแฮโมซูเช่นกัน  แฮโมซูจึงมีอิทธิพลต่อพวกเขามากกว่าพูยอและพระเจ้าแฮบูรู ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปอิทธิพลของแฮโมซูก็จะแผ่ไพศาลออกไปเรื่อยๆ ยิ่งรบชนะบ่อยครั้งเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งกลายเป็นวีรบุรุษของชาวโกโชซอน ต่อให้แฮโมซูไม่คิดที่จะสร้างบ้านแปงเมือง แต่สุดท้ายเหล่าบรรดาผู้อพยพและชนเผ่าต่างๆ ก็จะยกย่องและผลักดันให้เขาขึ้นเป็นพระราชาอยู่ดี หากแฮโมซูเอาชนะราชวงศ์ฮั่นแล้วยึดดินแดนโกโชซอนคืนมาได้ อาณาจักรโกโชซอนของแฮโมซูก็จะถูกสถาปนาขึ้นมาใหม่และจะมีการควบรวมแคว้นและชนเผ่าต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียว หากเป็นเช่นนั้นจริงพูยอก็จะถูกกลืน เมื่อถึงเวลานั้นแคว้นเล็กๆ อย่างพูยอจะเอาอะไรไปต่อกรกับอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของแฮโมซูได้ สุดท้ายดวงอาทิตย์ของแคว้นพูยอก็จะถูกนกสามขาบดบังไปตลอดกาล


หลังได้รับรายงานว่า ผู้อพยพหลายร้อยคนกำลังจะถูกกวาดต้อนข้ามแม่น้ำกลับไปยังดินแดนของราชวงศ์ฮั่น แฮโมซูจึงก็คิดที่จะนำทหารทาโมลไปช่วย แม้องค์ชายกึมวาจะแย้งว่าการโยกย้ายกองกำลังในตอนนี้ไม่เหมาะสมเพราะพวกตนกำลังจะทำงานใหญ่ (เปิดศึกกับราชวงศ์ฮั่น)  เมื่อใดที่รบชนะผู้อพยพทั้งหมดก็จะเป็นอิสระอยู่ดี แฮโมซูแย้งว่าถ้ารบชนะผู้อพยพทุกคนจะได้รับอิสรภาพยกเว้นคนกลุ่มนี้ หากตนไม่ช่วยเหลือ พวกเขาจะถูกส่งไปเป็นทาสบนแผ่นดินอื่นและไม่มีโอกาสกลับมาเหยียบแผ่นดินเกิดอีก ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงพวกเขาคงรู้สึกโกรธแค้นตน องค์ชายกึมวาได้ยินดังนั้นจึงอาสาทำหน้าที่นี้แทน เพราะแฮโมซูยังต้องรวบรวมทหาร ไพร่พล และอาวุธยุทโธปกรณ์จากเผ่าต่างๆ แต่แฮโมซูปฏิเสธโดยบอกว่างานนี้มีเพียงตนและทหารทาโมลก็พอ

องค์ชายกึมวามาทูลขอพระบิดาเพื่อเป็นทัพหน้าบุกไปช่วยผู้อพยพแทนแฮโมซูซึ่งกำลังจะทำการใหญ่ อำมาตย์ดึกบูลกล่าวว่าองค์ชายสามารถรับหน้าที่นี้ได้หากยอมรับเงื่อนไขสองข้อ หนึ่ง ถ้าเห็นว่าทหารที่ควบคุมผู้อพยพมีกำลังมากกว่าต้องล่าถอยทันที  และสอง องค์ชายต้องไปขอฤกษ์ในการออกเดินทางจากหัวหน้าธิดาเทพ องค์ชายกึมวาจึงตอบตกลงโดยไม่รู้ว่าเป็นแผนถ่วงเวลาของอำมาตย์ดึกบูลและธิดาเทพ (ระหว่างนั้นอำมาตย์ดึกบูลยังแอบส่งข่าวให้หน่วยอาชาเหล็กทราบอีกด้วย) เมื่อองค์ชายกึมวาได้ฤกษ์ออกเดินทาง แฮโมซูก็นำกำลังออกไปช่วยเหลือผู้อพยพแล้ว กว่าจะรู้ว่าทั้งหมดเป็นกับดัก แฮโมซูและกองกำลังทาโมลก็ตกอยู่ในวงล้อมของข้าศึก (ทหารของราชวงศ์ฮั่นปลอมตัวเป็นผู้อพยพ) ทำให้ทหารของแฮโมซูถูกฆ่าตายทั้งหมด ส่วนแฮโมซูถูกหน่วยอาชาเหล็กจับไปลงโทษที่มณฑลฮยอนโท




คุณหนูยูฮวาซึ่งตามไปที่มณฑลฮยอนโทเห็นแฮโมซูโดนควักลูกตาทั้งสองข้างก็หัวใจสลาย เธอจะเดินเข้าไปหาแฮโมซูแต่ถูกองค์ชายกึมวาขวางเอาไว้ คุณหนูยูฮวาบอกองค์ชายกึมวาว่าตนกำลังตั้งท้องกับแฮโมซูจึงอยากบอกให้เขารู้ (องค์ชายกึมวาได้ยินดังนั้นก็รู้สึกปวดใจจนน้ำตาคลอ) เมื่อเห็นยางจองกำลังควบม้าตรงเข้ามา องค์ชายกึมวาก็รีบแย้งว่าหากทำเช่นนั้นเธอกับลูกจะมีอันตราย และชี้ว่าตอนนี้ทหารฮั่นจะยังไม่ฆ่าแฮโมซูแต่จะนำกลับไปสังหารที่ต้าฮั่น ดังนั้นเธอจึงควรรีบไปจากที่นี่ ส่วนตนจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตแฮโมซูให้ได้


 เนื้อหาโดย luvasianseries / ภาพ captures จากเอ็มบีซีคลาสสิก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา