วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เรื่องย่อ คู่วุ่นชุลมุนรัก (Perfect Couple)




กำกับ: หวงจื่อเฉวียน (ชาวฮ่องกง)
เขียนบท: จินเยวี่ยนเยวี่ยน, ถงหัว
แนวละคร: ย้อนยุค, โรแมนติก, คอมเมดี้
จำนวนตอน: 45
ออกอากาศ: จีน - 21 เมษายน 2557 ทางเจียงซูทีวี/เซินเจิ้นทีวี
                 ไทย - ทุกวันพุธ - ศุกร์ เวลา 9.30 - 10.30 น. ทางไทยรัฐทีวี ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 - 7 กรกฎาคม 2559

ละคร "คู่วุ่นชุลมุนรัก (Perfect Couple)" ผลิตโดย บริษัท เจ้อเจียง ดรีม สตาร์ดอม ฟิล์ม แอนด์ ทีวี คัลเจอร์ และ หัวเจี๋ย สตูดิโอ (ของฮั่วเจี้ยนหัว ซึ่งเป็นทั้งพระเอกและโปรดิวเซอร์ละครเรื่องนี้) โดยปักหลักถ่ายทำที่เหิงเตี้ยน เวิลด์ สตูดิโอ ในมณฑลเจ้อเจียงนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2556 ถึงแม้จะเป็นผลงานการผลิตละครเรื่องแรกของฮั่วเจี้ยนหัว แต่ละครเรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งยังเป็นละครที่ฮอตฮิตที่สุดบนโลกออนไลน์ โดยมียอดผู้เข้าชมผ่านทางเว็บไซต์หลักที่ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งทะลุ 1 พันล้านฮิต (ฮิต ในที่นี้หมายถึงจำนวนครั้งที่มีการร้องขอข้อมูลไปยังเว็บเซิร์ฟเวอร์) 

เรื่องย่อ




"คู่วุ่นชุลมุนรัก (Perfect Couple)" กล่าวถึงเหตุการณ์ในยุคต้นของราชวงศ์หมิง โดยนำเสนอเรื่องราววุ่นๆ ที่ทั้งฮา ทั้งป่วน และสุดแสนซาบซึ้งกินใจของ "จินหยวนเป่า"  บุตรชายเพียงคนเดียวของสกุลจินซึ่งเป็นตระกูลที่มั่งคั่งและทรงอิทธิพล กับ "อวี้ฉีหลิน"   สาวน้อยผู้เยี่ยมยุทธและฉลาดหลักแหลมซึ่งเดินทางมาเมืองหลวงเพื่อช่วยตามหาลูกชายที่พลัดพรากให้กับแม่บุญธรรม

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อไทเฮาทรงประทานงานสมรสระหว่าง "จินหยวนเป่า" ซึ่งเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของอดีตแม่ทัพใหญ่ "จิน ต้าถง" ผู้ล่วงลับ กับ "ฮูหยินจิน" (หลานไทเฮา) และ "เจียงเสี่ยวเซวียน" บุตรสาวเสนาบดี "เจียงซิ่วเซิน" โดยที่สองหนุ่มสาวไม่เคยพบหรือรู้จักกันมาก่อน





ขณะที่ขันทีนำขบวนแห่แผ่นป้ายมงคลพระราชทานที่เขียนว่า "กิ่งทองใบหยก" (หรือ  Perfect Couple ที่เป็นชื่อเรื่อง) พร้อมราชโองการมุ่งหน้ามาที่บ้านสกุลจิน... "อวี้ฉีหลิน" ได้ปลอมตัวเป็นขอทานหนุ่มมาร่วมมุงดูขบวนดังกล่าวและเกิดเหยียบเท้าหญิงสาวคนหนึ่งจนเกิดมีปากเสียงกัน "เฟยเทียนเป้า" (เสือดาวเหินเวหา) จึงถือโอกาสเดินเข้ามาด้อมๆ มองๆ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวคนดังกล่าวมีหน้าตาสะสวย เทียนเป้าจึงขโมยถุงเงินของหญิงสาวคนดังกล่าว ก่อนชูถุงเงินให้หญิงสาวดูเพื่อล่อให้เธอวิ่งตามไปติดกับหวังลักพาตัว โชคดีที่ฉีหลินมาช่วยเอาไว้เสียก่อน เทียนเป้าจึงรีบหนีไป ถึงกระนั้นฉีหลินก็ยังคงไล่ตามเทียนเป้าอย่างไม่ลดละเพื่อทวงถุงเงินคืนให้หญิงสาว แต่เทียนเป้าก็ใช้อุบายหลบหลีกไปจนได้

ในเวลาเดียวกันนั้น ว่าที่เจ้าบ่าวอย่างหยวนเป่าก็นำสองลูกน้องคนสนิท "หวังเฉียง" และ "หม่าจง" มาเฝ้าจับตาดูเทียนเป้าในฐานะที่เป็นมือปราบ โดยวางแผนว่าจะสะกดรอยตามเทียนเป้าเพื่อสาวให้ถึงตัวผู้บงการ  "หลิ่วเชียนเชียน" เห็นขันทีนำราชโองการและแผ่นป้ายมงคลมามอบให้ฮูหยินจินที่บ้านก็ทนดูไม่ไหว (เธอหลงรักหยวนเป่า) จึงคิดที่จะเดินหนี แต่ถูก "หลิ่วเหวินเจา" (หรือพ่อบ้านหลิ่ว) ผู้เป็นพี่ชายห้ามเอาไว้ (สองพี่น้องสกุลหลิ่วมีศักดิ์เป็นหลานของฮูหยินจิน)  เมื่อขันทีไม่เห็นหน้าเจ้าบ่าวจึงถามหาหยวนเป่า พอรู้ว่าลูกชายไม่อยู่บ้านฮูหยินจินจึงสั่งให้ "อาฝู" รีบออกไปตาม 



ในที่สุดฉีหลินก็ตามมาเจอเทียนเป้า หยวนเป่าเห็นดังนั้นจึงเกรงว่าจะเสียแผนเลยเข้าไปขวางและขอให้ฉีหลินปล่อยเทียนเป้าไป โดยอ้างว่าเธอไม่มีทั้งหลักฐานและพยานจึงไม่สามารถกล่าวหาใครแบบส่งเดชได้ ฉีหลินเห็นหยวนเป่าเข้าข้างเทียนเป้าจึงคิดว่าเขาเป็นหัวหน้าแก๊งโจร พอเห็นป้ายประจำตัวหยวนเป่าเธอจึงรู้สึกตกใจและถามว่าเขาเป็นมือปราบหรือ เทียนเป้าได้ยินดังนั้นก็หูผึ่งและพยายามหลบหนี แต่ถูกคนของหยวนเป่าจับตัวเอาไว้และนั่นก็ทำให้หมดโอกาสสาวถึงตัวผู้บงการ พอรู้ว่าหยวนเป่ารู้ฐานะที่แท้จริงของตน เทียนเป้าก็รีบกินหลักฐานแต่ถูกหยวนเป่าแย่งมาได้ ปรากฏว่ากระดาษแผ่นนั้นคือออเดอร์สั่งซื้อหญิงสาว หยวนเป่าเห็นว่ากระดาษชนิดนี้ทำจากเปลือกไม้ซึ่งมีราคาแพงและพบได้น้อยมากในแถบเมืองหลวงซ้ำยังพรมด้วยน้ำหอมจากภาคตะวันตก* จึงฟันธงว่าเป็นกระดาษที่มาจากหอคณิกา "เชียนเจียว" 

ภาคตะวันตกของจีนประกอบด้วย 6 มณฑล (กานซู กุ้ยโจว ชิงไห่ ส่านซี เสฉวน ยูนนาน), 5 เขตปกครองตนเอง (กวางสี มองโกเลียใน หนิงเซี่ย ทิเบต ซินเจียงอุยกูร์) และ 1 เทศบาลนคร (นครฉงชิ่ง) มีพรมแดนติดต่อกับประเทศรัสเซีย มองโกเลีย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิซสถาน อัฟกานิสถาน ปากีสถาน และอินเดีย ส่วนมณฑลยูนนานซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้มีพรมแดนติดกับเวียดนาม ลาว พม่า)  



ในเวลาเดียวกันนั้นขบวนเกี้ยวของเจ้าสาวก็กำลังเดินทางจากเมืองหนานจิง (หรือหนานกิง - อดีตเมืองหลวง)  มาที่บ้านสกุลจิน "เจียงเสี่ยวเซวียน" พยายามหลบหนีแต่ถูกสาวใช้ห้ามเอาไว้เพราะหนีไปก็ถูกนำตัวกลับมาอีกอยู่ดี (เธอพยายามหลบหนีหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ) เสี่ยวเซวียนยืนกรานว่าเธอจะหาทางหนีไปให้ได้เพราะเธอไม่อยากแต่งงานกับคนแปลกหน้า แต่สาเหตุที่แท้จริงเป็นเพราะเธอมีชายในดวงใจอยู่แล้ว และเขาคนนั้นก็อาศัยอยู่ในเมืองหลวง ระหว่างรอรับขบวนเกี้ยวของเจ้าสาวที่หน้าบ้าน "กู้ฉางเฟิง" เห็นเหวินเจาแลดูเพลียๆ หน้านิ่วคิ้วขมวด ดวงตาไม่สดใส หายใจอ่อนแรง เลยอาสาปรุงยาบำรุงให้ เหวินเจาบอกให้รอจนกว่าจะถึงวันที่ตนเบื่อโลกและขี้เกียจหายใจ หากวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ตนจะยอมกินยาของฉางเฟิง  





พอรู้ว่ามือปราบที่อยู่ตรงหน้าคือหยวนเป่า ฉีหลินก็รู้สึกดีใจและจะโผเข้ากอดหยวนเป่า แต่หยวนเป่าไม่ยอมให้เข้าใกล้ (เขาไม่ชอบให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัว)  ฉีหลินจึงแกล้งคารวะและคุกเข่าขอเป็นศิษย์โดยอ้างว่าตนชื่นชมนักสืบอันดับหนึ่งในเมืองหลวงอย่างหยวนเป่า จากนั้นก็เข้าไปกอดขาและพยายามดึงกางเกงของหยวนเป่าต่อหน้าธารกำนัล (เพื่อพิสูจน์ว่ามีปานแดงรูปจันทร์เสี้ยวบริเวณสะโพกหรือไม่) หยวนเป่าพยายามปัดป้องและหลบหลีกแต่ไม่อาจเขี่ยฉีหลินออกจากขาของตนได้เลยสั่งให้หนึ่งในลูกน้องเข้ามาช่วย หลังจากนั้นหยวนเป่าบอกให้หวังเฉียงและหม่าจงนำตัวเทียนเป้าไปขังเพื่อรอตนสอบสวน

อาฝูมาตามหยวนเป่ากลับบ้าน โดยบอกว่าที่บ้านกำลังวุ่นวายเพราะพระพันปีส่งขันทีมามอบป้ายมงคลที่ทำจากทองคำเป็นของขวัญ แต่หยวนเป่าซึ่งเป็นเจ้าบ่าวกลับไม่อยู่ ถึงกระนั้นหยวนเป่าก็ยังไม่ยอมกลับโดยบอกว่าตนมีคดีที่ต้องรีบสะสาง และจะกลับบ้านหลังเสร็จธุระที่หอเชียนเจียวแล้ว เมื่อขบวนเกี้ยวเจ้าสาวมาถึงเหวินเจาก็เข้าไปต้อนรับ แต่เสี่ยวเซวียนขอตรงไปยังที่พักเลยโดยอ้างว่ารู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ฉางเฟิงได้ยินดังนั้นจึงพยายามวิเคราะห์หาสาเหตุของการเหนื่อยล้า เขาแนะนำตัวกับเสี่ยวเซวียนโดยบอกว่าตนเป็นหมอประจำตระกูลจิน จากนั้นก็อาสาปรุงยาให้และโม้ว่าตนรู้จักตัวยาทุกชนิด เหวินเจาได้ยินดังนั้นจึงสั่งให้คนงานรีบพานางไปพักผ่อนที่โรงเตี๊ยมใหญ่สุดในเมืองหลวง  




หยวนเป่านำกำลังไปดักซุ่มหน้าหอเชียนเจียว จากนั้นก็เข้าไปข้างในกับหวังเฉียงและหม่าจงโดยบอกให้ทั้งคู่คอยฟังสัญญาณในการบุกเข้าจับคนร้ายจากตน หยวนเป่าเข้าไปดอมดมสาวๆ แต่ไม่พบหญิงที่ใช้เครื่องหอมกลิ่นเดียวกับที่พบบนกระดาษ จนกระทั่งได้พบกับนางคณิกาที่มีชื่อว่า "ฉูฉู่" จึงพบว่าตัวนางมีกลิ่นหอมที่เขากำลังตามหา ฉูฉู่ซึ่งปกติไม่ยอมรับแขกง่ายๆ รู้สึกพึงพอใจคุณชายหนุ่มรูปงามที่เพียบพร้อมด้วยฐานะและชาติตระกูลอย่างหยวนเป่าจึงพาเขาขึ้นห้อง (ฉีหลินซึ่งปลอมตัวเป็นชายและแอบเข้าไปในห้องของฉูฉู่ได้ยินเสียงทั้งคู่เดินเข้ามาในห้องจึงรีบมุดเข้าไปหลบใต้เตียง)   

ฮูหยินโกรธมากที่หยวนเป่าไม่ยอมกลับบ้านและไม่ให้ความสำคัญกับของขวัญจากพระพันปี จึงคาดคั้นอาฝูว่าตอนนี้หยวนเป่าไปทำคดีอยู่ที่ไหน พอได้ยินว่าหยวนเป่าอยู่ที่หอเชียนเจียว เหวินเจาก็รู้สึกตกใจ หลังพาหยวนเป่าเข้าห้องฉูฉู่ก็จ้องเผด็จศึก หยวนเป่าพยายามบ่ายเบี่ยงด้วยการชวนคุยทำให้รู้ว่าฉูฉู่มาจากภาคตะวันตก เมื่อเห็นว่าฉูฉู่พยายามเปิดเกมรุกเขาก็ขอให้ฉูฉู่เต้นระบำให้ดูก่อน โดยอ้างว่าตนอยากรู้ว่าเอวของฉูฉู่จะพลิ้วแค่ไหน หลังเต้นระบำหน้าท้องตามแบบฉบับของคนภาคตะวันตกเสร็จ ฉูฉู่ก็เริ่มเล้าโลมหยวนเป่า ขณะที่หยวนเป่าพยายามซักไซ้ฉูฉู่ว่านอกจากเป็นนางคณิกาแล้วเธอยังทำธุรกิจอื่นอีกหรือไม่ แต่ฉูฉู่ไม่ยอมตอบข้อซักถามใดๆ หยวนเป่าจึงแกล้งของให้ฉูฉู่ช่วยหาหญิงสาวหน้าตาดีมาคอยรับใช้เหล่าขุนนางที่จะมาร่วมงานเลี้ยงฉลองที่บ้านของตน ฉูฉู่บอกว่าเรื่องอื่นไว้ค่อยคุยกันวันหลังเพราะตอนนี้เธออยากกินหยวนเป่าใจจะขาด





ทันใดนั้นก็มีเสียงของตก (ฉีหลินซึ่งแอบดูอยู่เผลอชนหีบตกลงมา) ฉูฉู่จึงหมดอารมณ์และเกิดความหวาดระแวงจึงบอกให้หยวนเป่ากลับไปก่อน ฉีหลินได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเสียดายโอกาส (เพราะเธออยากตรวจดูสะโพกของหยวนเป่า) หลังเงี่ยหูฟังหลังฉากไม้ได้ไม่นานเธอก็ทำฉากไม้ล้มลงทำให้ฉูฉู่รู้ตัวว่ามีผู้บุกรุก ฉีหลินจึงแกล้งทำเป็นหึงหวงฉูฉู่และเกิดการต่อสู้กับหยวนเป่า ฉูฉู่เห็นดังนั้นจึงฉวยโอกาสหลบหนีไป  

แท้จริงแล้วฉีหลินต้องการถอดกางเกงของหยวนเป่าเพื่อสำรวจว่ามีปานแดงรูปจันทร์เสี้ยวหรือไม่ หวังเฉียงและหม่าจงซึ่งยืนรออยู่หน้าหอเชียนเจียวได้ยินเสียงคนต่อสู้กันในห้องของฉูฉู่จึงคิดที่จะเข้าไปช่วยหยวนเป่าแต่ถูกนักฆ่า 2 คนขวางไว้ หลังถูกฉีหลินไล่เปลื้องผ้าหยวนเป่าก็พยายามปัดป้องหลบหลีกพลางร้องขอความช่วยเหลือจากหวังเฉียงและหม่าจง ฉีหลินเกือบถอดกางเกงหยวนเป่าได้สำเร็จแต่หวังเฉียงและหม่าจงเข้ามาในห้องเสียก่อน ฉีหลินจึงรีบหลบหนีไป หวังเฉียงและหม่าจงจะไล่ตามไปแต่หยวนเป่าห้ามเอาไว้เพราะเห็นว่าทั้งคู่ไม่อาจรับมือฉีหลินได้



ฉีหลินหนีออกมาพบ "พั่งหู่" ซึ่งรออยู่ทางด้านนอกหอคณิกา พอรู้ว่าฉีหลินถอดกางเกงหยวนเป่าไม่สำเร็จ พั่งหู่จึงชวนฉีหลินกลับไปตั้งหลักที่เขาง้อไบ๊  (หรือ "เอ๋อเหมยซาน" อยู่ห่างจากเมืองเฉินตูในมณฑลเสฉวน ราว 160 กิโลเมตร) เพื่อคิดหาแผนการใหม่ แต่ฉีหลินยังไม่ยอมแพ้เพราะเธอต้องการตอบแทนบุญคุณของแม่บุญธรรม "อวี้ซี" (หวังฮุ่ยหลาน) ซึ่งพบเธอในป่าและรับเลี้ยงเธอมานาน 20 ปี เธอจึงยืนกรานว่าถ้ายังพิสูจน์ไม่ได้ว่าหยวนเป่าเป็นลูกชายของแม่บุญธรรมหรือไม่ เธอจะไม่กลับเขาง้อไบ๊ และแผนการขั้นต่อไปของเธอก็คือการแอบเข้าไปในบ้านสกุลจิน

เมื่อพบว่ากระดาษที่อยู่ในห้องของฉูฉู่เหมือนกระดาษของเทียนเป้า แถมน้ำหอมจากภาคตะวันตกที่ติดอยู่บนกระดาษยังเป็นกลิ่นเดียวกับที่ฉูฉู่ใช้ประพรมตามลำตัว หยวนเป่าจึงสันนิษฐานว่าเทียนเป้าเป็นผู้ส่งสาส์นอย่างลับๆ ของฉูฉู่ เขาคาดว่าฉูฉู่กับฉีหลินไม่เคยรู้จักกันมาก่อน  (เขาคิดว่าฉีหลินเป็นผู้ชาย)  และฉูฉู่ก็ไม่ใช่เป้าหมายของฉีหลิน เพราะฉีหลินจ้องที่จะเปลื้องผ้าเขาอย่างเดียว เพียงแต่เขายังไม่รู้ว่าฉีหลินมีวัตถุประสงค์อะไร หยวนเป่าวาดรูปฉีหลินและฉูฉู่จากนั้นก็บอกให้หวังเฉียงและหม่าจงนำกลับไปที่กองปราบเพื่อออกหมายจับ



ทันทีที่หยวนเป่ากลับถึงบ้าน เหวินเจาซึ่งเป็นทั้งพ่อบ้านและญาติของหยวนเป่าก็เข้ามาบอกว่าฮูหยินจินกำลังรออยู่ในห้องโถง พร้อมทั้งนำชุดแต่งงานมาให้เหวินเจาลองสวมโดยบอกว่าตนเลือกใช้ผ้าดีที่สุดในเมืองหลวงและตัดเย็บโดยช่างฝีมือดีจากในวัง เหวินเจากล่าวว่าตนต้องการใส่ชุดเจ้าบ่าวที่ตัดจากผ้าไหมปักลาย "หนานจิงอวิ๋นจิน (Nanjing Brocade)" ซึ่งเป็นผ้าไหมล้ำค่าสำหรับเชื้อพระวงศ์ที่ถักทอจากเส้นไหม ทอง เงิน และทองแดง (เดิมเป็นผ้าสำหรับองค์จักรพรรดิ มีประวัติยาวนานกว่า 1,500 ปี ปัจจุบันถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก) เหวินเจาเกรงว่าถ้าตัดใหม่อาจเสร็จไม่ทัน ทำให้ถูกหยวนเป่าตำหนิเป็นชุดต่อหน้าเหล่าสาวใช้และคนงานในบ้าน แถมหยวนเป่ายังบอกให้เหวินเจาเก็บชุดเจ้าบ่าวไว้ใช้ในงานแต่งงานของตัวเอง ทำให้เหวินเจารู้สึกเจ็บแค้นใจแต่ก็ทำให้เพียงอดทนอดกลั้น 

ฮูหยินจินตำหนิหยวนเป่าที่ไม่มารับป้ายมงคล "กิ่งทองใบหยก" ของไทเฮาด้วยตนเอง  หยวนเป่าให้เหตุผลว่าตนออกไปสืบคดีและตามจับโจรหวังสาวให้ถึงตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง จากนั้นก็กล่าวว่าตนไม่ต้องการเป็นกิ่งทองใบหยกดังที่ไทเฮาทรงอวยพร และไม่ต้องการแต่งงานแบบคลุมถุงชน (ตอนที่รู้ว่าจะถูกไทเฮาจับแต่งงานกับลูกสาวสกุลเจียง เขาเคยปฏิเสธมาครั้งหนึ่งแล้ว)  เขายังบอกด้วยว่าทั้งตนและเจ้าสาวต่างก็เป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน ดังนั้น งานแต่งงานในวันพรุ่งนี้จึงเป็นแค่การเล่นละครหลอกเจ้า สิ่งที่ตนต้องการไม่ใช่เจ้าสาวที่มีรูปโฉมงดงาม เพียบพร้อม และมีชาติตระกูลที่ดี แต่เป็นความรัก ความเข้าใจ และคอยส่งเสริมซึ่งกันและกัน จากนั้นก็ยืนกรานว่าจะขอยกเลิกการแต่งงาน



"หลิ่วเชียนเชียน" (น้องสาวเหวินเจา) จะไปทวงสัญญาที่ฮูหยินจินเคยรับปากกับเธอตอนเด็กๆ ว่าจะให้เธอแต่งงานกับหยวนเป่าเมื่อโตขึ้น แต่เหวินเจามาพบเข้าเสียก่อนจึงห้ามเอาไว้โดยให้เหตุผลว่าเป็นงานสมรสพระราชทานที่ใครก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ เชียนเชียนแย้งว่าถ้าปล่อยให้หยวนเป่าแต่งงาน พวกตนก็จะมีนายใหม่เพิ่มมาอีกคน แต่ถ้าตนได้แต่งงานกับหยวนเป่าสกุลหลิ่วก็จะกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง เหวินเจากล่าวว่าตนก็ไม่อยากตกอยู่ในสภาพที่เป็นนายก็ไม่ใช่ข้ารับใช้ก็ไม่เชิงแบบนี้เช่นกัน  แต่ยังไม่ถึงเวลาที่กอบกู้ศักดิ์ศรีของสกุลหลิ่วกลับคืนมา

ปรากฏว่าเหวินเจากับเทียนเป้าและฉูฉู่เป็นพวกเดียวกัน คืนนั้น "อากุ้ย" แอบรายงานเหวินเจาว่าหยวนเป่าจับตัวเทียนเป้าได้ เหวินเจากล่าวว่าตนส่งสมุนสองคนไปรับฉูฉู่ที่หอเชียนเจียว จากนั้นก็ถามอากุ้ยว่าทั้งคู่พาฉูฉู่หนีออกมาได้หรือยัง อากุ้ยกล่าวว่าทั้งคู่ยังไม่ทันได้พบฉูฉู่เพราะถูกคนของหยวนเป่าขวางเอาไว้ ทำให้ยังไม่ทราบชะตากรรมของฉูฉู่แต่ที่แน่ๆ เธอยังไม่ถูกทางการจับตัวไป

ฉีหลินและผองเพื่อนปลอมตัวเป็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่ตามตะเข็บชายแดนภาคตะวันตก (เธอมาจากเขาง้อไบ๊ซึ่งอยู่ในภาคตะวันตกเช่นกัน)  แล้วนำของขวัญแต่งงานไปที่บ้านสกุลจินหวังฉวยโอกาสเข้าไปหาหยวนเป่าในบ้าน แต่แผนการกลับล้มเหลวเพราะตระกูลจินไม่รับแขกและถูกเหวินเจาขวางเอาไว้ อีกด้านหนึ่งฉางเฟิงซึ่งนำยาไปมอบให้เสี่ยวเซวียนที่โรงเตี๊ยมก็ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าพบเช่นกัน เขาจึงฝากยาไว้กับ "สี่เอ๋อร์" ซึ่งเป็นสาวใช้ของเสี่ยวเซวียน


ฮูหยินจินพาหยวนเป่ามาที่ห้องบูชาบรรพบุรุษเพื่อถามต่อหน้าบรรพชนว่าเขาจะยอมแต่งงานในวันพรุ่งนี้หรือไม่ เมื่อหยวนเป่ายืนกรานคำเดิม ฮูหยินจินก็คุกเข่าต่อหน้าหยวนเป่าพลางกล่าวว่าที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อสกุลจิน ความจริงแล้วเธอเองก็อยากให้ลูกชายได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เขาเลือก  แต่ตอนนี้สุขภาพของฮ่องเต้ไม่สู้ดี ไทเฮาและเหล่าขุนนางผู้จงรักภักดีจึงหวังให้องค์ชายรัชทายาทซึ่งเป็นคนดีมีเมตตาได้ขึ้นครองบัลลังก์ แต่องค์ชายรองซึ่งเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูงกำลังวางแผนแย่งชิงบัลลังก์ ไทเฮาไม่อยากให้สองพี่น้องต้องมาเข่นฆ่ากัน จึงประทานงานแต่งในครั้งนี้เพื่อให้สกุลจินกับสกุลเจียงเป็นดองกัน เนื่องจากเสนาเจียงเป็นที่เคารพยกย่องและมีบทบาทสำคัญในราชสำนัก ส่วนสกุลจินไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ทั้งยังเป็นผู้ควบคุมดูแลคลังแสง การแต่งงานด้วยเหตุผลทางการเมืองระหว่างสองตระกูลจึงเป็นหนทางเดียวที่จะต่อกรและกำจัดพวกกบฏ ทั้งยังช่วยให้องค์ชายรัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์ได้สำเร็จ 

ถึงกระนั้นหยวนเป่าก็ยังไม่เห็นด้วยที่จะใช้การแต่งงานระหว่างสองตระกูลมาค้ำยันราชบัลลังก์ เขาจึงขอเวลาหาหลักฐานเพื่อจับตัวองค์ชายรองมาลงโทษ ฮูหยินจินจึงกล่าวว่าถ้าหากมีหนทางอื่นไทเฮาคงไม่เลือกใช้วิธีนี้ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาเธอรักและตามใจหยวนเป่าทุกอย่าง แต่การแต่งงานในครั้งนี้ถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้ว และเธอก็ได้อธิบายเบื้องลึกเบื้องหลังทั้งหมดให้หยวนเป่าฟัง ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของหยวนเป่าที่จะต้องพิจารณา แต่ถ้าหยวนเป่ายังยืนกรานคำเดิมเธอจะเข้าวังกับหยวนเป่าเพื่อทูลขอให้ไทเฮายกเลิกพิธีแต่งงาน หลังจากนั้นเธอก็กล่าวต่อหน้าป้ายวิญญาณบรรพชนว่าหากการเข้าวังในครั้งนี้ทำให้สกุลจินล่มสลายเธอจะขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว  หยวนเป่าเห็นแม่คุกเข่าพลางก้มศีรษะขอร้องตนจึงยอมรับการแต่งงานทั้งน้ำตา


 



คืนนั้นองค์ชายรองลอบมาพบเหวินเจาถึงที่บ้านสกุลจิน เพื่อสั่งให้เหวินเจากำจัดฉูฉู่ รวมทั้งว่าที่เจ้าสาวของหยวนเป่าเพื่อล้มงานแต่งงาน หลังเข้าบ้านสกุลจินไม่สำเร็จฉีหลินจึงลอบเข้าไปในโรงเตี๊ยมเพื่อแฝงตัวปะปนกับคนในบ้านสกุลเจียงหวังตามเข้าบ้านสกุลจินแบบเนียนๆ ในวันรุ่งขึ้น ขณะที่หยวนเป่าเองก็แอบมาพบว่าที่เจ้าสาวที่โรงเตี๊ยมเช่นกัน  ส่วนทางด้านเสี่ยวเซวียนยังคงรอโอกาสที่จะหนีไปหาคุณชายหลี่ซึ่งเป็นคนรักตลอดเวลา ระหว่างอาบน้ำให้เสี่ยวเซวียน สี่เอ๋อร์เห็นว่าเสี่ยวเซวียนยังตัดใจจากคุณชายหลี่ไม่ได้ จึงให้ข้อคิดว่าถ้าคุณชายหลี่ซึ่งพักอยู่ในเมืองหลวงมีใจให้เสี่ยวเซวียนจริงป่านนี้คงรีบบึ่งมาหาที่โรงเตี๊ยมแล้ว เพราะข่าวงานแต่งงานพระราชทานระหว่างสองตระกูลเป็นที่โจษจันไปทั่วทั้งเมืองตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน เสี่ยวเซวียนได้ยินดังนั้นจึงไม่สบอารมณ์เลยขออาบน้ำตามลำพัง ทันใดนั้น ฉีหลินก็ร่วงตกจากหลังคาลงมาอยู่ในอ่างอาบน้ำกับเสี่ยวเซวียน เสี่ยวเซวียนร้องกรี๊ดด้วยความตกใจทำให้เหล่าผู้คุ้มกันนำกำลังมาที่ห้องพักของเธอ


เสี่ยวเซวียนอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป เมื่อเหวินเจาบุกเข้ามาในห้องเพื่อลอบสังหารเสี่ยวเซวียนตามคำสั่งองค์ชายรองก็ได้พบกับฉีหลิน เขาก็นึกว่าเธอเป็นเจ้าสาวของหยวนเป่าจึงถือดาบตรงเข้าทำร้ายทันที แม้ฉีหลินจะสู้ด้วยมือเปล่าแต่เธอก็สามารถรับมือเหวินเจาได้ เหวินเจาเห็นว่าเธอมีวรยุทธ์สูงส่งจึงรีบหลบหนี (ระหว่างหลบหนีเขาเห็นหยวนเป่าแอบมาพบว่าที่เจ้าสาวที่โรงเตี๊ยมกลางดึก)  หลังเหวินเจาออกไปแล้ว หยวนเป่า (ซึ่งถูกหมางับก้น หลังมุดรูหมาลอดบริเวณกำแพงทางด้านหลังของโรงเตี๊ยม) ก็เดินกระเผลกเข้ามาในห้อง พอเห็นฉีหลินเขาก็เข้าใจว่าเธอคือเสี่ยวเซวียน (ฉีหลินยังแต่งตัวไม่เสร็จเลยรีบหันหลังและไล่หยวนเป่าออกจากห้อง)  หยวนเป่าหันหลังกลับพลางพูดว่า งานสมรสพระราชทานในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง พวกตนจึงต่างก็เป็นเหยื่อ ดังนั้นห้ามตกหลุมรักตนโดยเด็ดขาดถ้าไม่อยากช้ำใจ ถึงแม้ว่าหลังแต่งงานแล้วพวกตนจะต้องนอนร่วมเตียงแต่ตนจะไม่แตะต้องตัวเธอแม้ปลายนิ้ว หากองค์รัชทายาทขึ้นครองราช์เมื่อไหร่พวกตนจะหาโอกาสแยกทางกันทันที

ฉีหลินไม่สามารถออกจากห้องพักของเสี่ยวเซวียนได้ เพราะหลังจากเกิดเรื่อง เหวินเจา (ซึ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วย้อนกลับมาในฐานะพ่อบ้านตระกูลจิน) ได้นำกำลังเสริมจากบ้านสกุลจินมาคุมเข้มรอบห้องพักของเสี่ยวเซวียน สี่เอ๋อร์แทบช็อคเมื่อฉีหลินบอกว่าเสี่ยวเซวียนหนีไปแล้ว เพราะถ้าหากงานสมรสพระราชทานล่ม ทั้งเธอและเหล่าข้ารับใช้ที่ติดตามมาทั้งหมดจะมีโทษถึงตาย ฉีหลินจึงต้องสวมรอยเป็นเจ้าสาว และถือโอกาสพิสูจน์ปานแดงที่สะโพกของหยวนเป่าในคืนแต่งงาน

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน "คู่วุ่นชุลมุนรัก (Perfect Couple)" ทางไทยรัฐทีวี

* เนื้อหาโดย luvasianseries


นักแสดงนำ


 ฮั่วเจี้ยนหัว (วอลเลซ ฮั่ว)
รับบท จินหยวนเป่า
(นักแสดง นักร้อง ชาวไต้หวัน)



ถังเยียน (ทิฟฟานี่ ถัง)
รับบท อวี้ฉีหลิน
(นักแสดง นักร้อง ชาวจีน)



ก้งหมี่
รับบท เจียงเสี่ยวเซวียน
(นักแสดง นักร้อง ชาวจีน)



หวงหมิง
รับบท กู้ฉางเฟิง
(นักแสดง ชาวจีน)



หวังหยาง
รับบท หลิ่วเหวินเจา
(นักแสดง ชาวจีน)



อูจวินเหมย (วิเวียน อู)
รับบท ฮูหยินจิน
(นักแสดง ชาวจีน / สัญชาติอเมริกัน)



หวังจิ้งหลวน
รับบท หลิ่วเชียนเชียน
(นักแสดง ชาวจีน)



ฝานเฮ่าหลุน
รับบท อากุ้ย
(นักแสดง ชาวจีน)



เจิ้งหลง
รับบท อาฝู
(นักแสดง ชาวจีน)



คลิปจาก youtube/thairath




รวมคลิปเบื้องหลัง


*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

1 ความคิดเห็น:

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา