วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เรื่องย่อ ชะตารัก สะดุดเลิฟ (Fated to Love You )




กำกับ: ลี ดงยุน, คิม ฮีวอน
เขียนบท: ชู ชานอก, ชู จินกุก
แนวละคร: โรแมนติก, คอมเมดี้
จำนวนตอน: 20
ออกอากาศ: เกาหลี - 2 กรกฎาคม 2557 - 4 กันยายน 2557 ทางเอ็มบีซี
                      ไทย - ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.15 น. ทางช่อง 3 เอสดี (ช่อง 28) ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2560 - 22 กุมภาพันธ์ 2560

ละคร "ชะตารัก สะดุดเลิฟ (Fated to Love You)" ดัดแปลงมาจากซีรีย์ไต้หวันสุดฮอตฮิตเรื่อง "ชะตารักกำหนดเลิฟ (Fated to Love You)" นำแสดงโดย "เฉินเฉียวเอิน" (โจ เฉิน) และ "หร่วนจิงเทียน" (อีธาน หร่วน) ออกอากาศครั้งแรกทางช่องทีทีวี เมื่อปี พ.ศ. 2551 สำหรับเวอร์ชั่นละครเกาหลีนี้ รับบทนำโดย "จางฮยอก" และ "จาง นารา" ซึ่งโคจรมาพบกันเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี หลังเคยร่วมงานกันในละครเรื่อง "Successful Story of a Bright Girl" ที่ออกอากาศทางช่องเอสบีเอส เมื่อปี ค.ศ. 2002 (ปี พ.ศ. 2545)

เรื่องย่อ



"ชะตารัก สะดุดเลิฟ (Fated to Love You)" นำเสนอเรื่องราวของหญิงสาวที่แสนจะธรรมดาคนหนึ่งซึ่งไม่มีอะไรโดดเด่นไม่ว่าจะเป็น หน้าตา ประวัติการศึกษา หรือความสามารถ แต่แล้วอยู่ๆ ชีวิตของเธอก็พลิกผันเมื่อความรักแวะมาทักทายโดยไม่ทันตั้งตัวขณะเดินทางไปพักผ่อนที่มาเก๊า หลังบังเอิญมีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับคนแปลกหน้าและเกิดตั้งครรภ์ ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แถมความรักที่โชคชะตานำพามาในครั้งนี้ยังเปลี่ยนผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างเธอให้กลายเป็นหญิงเลอค่าอีกด้วย

เรื่องย่อตอนที่ 1-2

ละครเปิดฉากขึ้นในกองถ่ายโฆษณาแชมพูสระผม นางแบบสาว "ฮเยจิน" (รับบทโดย "คลาร่า") ไม่พอใจที่เธอต้องสระผมจริงและต้องถ่ายทำซ้ำๆ ทั้งๆ ที่โฆษณายาสระผมอื่นๆ ต่างใช้แสตนด์อินกันทั้งนั้น ผู้จัดการของเธอจึงชี้ว่าในสัญญาระบุเอาไว้ว่านางแบบต้องเป็นคนสระผมด้วยตนเอง เมื่อผู้กำกับขอร้องให้ถ่ายใหม่อีกครั้ง ฮเยจินก็ชี้ว่าตนได้รับเลือกจากเหล่าบรรดาซีอีโอให้เป็นนางแบบผมสวยที่ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมต้องการคว้าตัวมาเป็นพรีเซ็นเตอร์มากที่สุดติดต่อกันถึง 4 ปี หากเธอสระผมด้วยแชมพูกระจอกๆ แล้วผมเสียใครจะรับผิดชอบ เธอเห็นแก่ทีมงานจึงยอมถ่ายทำฉากสระผมใหม่อีกครั้งแต่ขอใช้แชมพูนำเข้าจากฟินแลนด์แทนแชมพูของผู้ว่าจ้าง



ขณะที่การถ่ายทำกำลังจะเริ่มต้นขึ้นใหม่อีกครั้ง อยู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะ เขาถอดนาฬิกาและแว่นกันแดดออก แล้วเดินเข้าไปยืนอยู่หน้ากล้องแทนที่นางแบบสาวท่ามกลางความตกตะลึงของทีมงาน เขาจ้องหน้าผู้กำกับจากนั้นก็ถอดสูทออกแล้วเทน้ำราดศีรษะตนเอง ตากล้องเห็นว่าเขาบรรเลงลีลาการสระผมด้วยท่วงท่าสุดเซ็กซี่ราวกับเป็นนายแบบมือโปรจึงบันทึกเทปเก็บเอาไว้ หลังสระผมอย่างเมามันแล้วเขาก็จุ่มศีรษะลงไปในน้ำแล้วแกว่งไปมา ก่อนยกศีรษะขึ้นแล้วสะบัดพลางพูดว่า ถึงผมจะเปียกหรือแสงไฟจะร้อนแรงแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัว ทำตัวให้เป็นธรรมชาติเหมือนอยู่ที่บ้านของตนเอง หลังจากนั้นเขาก็แหวกเสื้อเชิ้ตที่เปียกโชกออกเพื่อโชว์กล้ามเนื้ออันงดงามพลางบอกว่าอย่าลังเล จากนั้นก็บรรยายสรรพคุณของแชมพูว่าเป็นผลงานสร้างสรรค์ของผู้เชี่ยวชาญที่สืบทอดกันมาสามชั่วอายุคน แชมพูนี้จะฟื้นฟูผมที่แห้งเสียให้กลับมามีสุขภาพดีตั้งแต่รากจรดปลาย เธอ (นางแบบ) ต้องถ่ายทอดความรู้สึกนี้ให้เต็มที่ แล้วปิดท้ายด้วยความรู้สึกประทับใจหลังใช้แชมพู

หลังสั่งคัท ผู้กำกับซึ่งยังคงรู้สึกงงๆ อดเอ่ยปากชมไม่ได้ เมื่อเห็นว่าทั้งทีมงานและนางแบบสาวต่างสงสัยว่าตนเป็นใคร ชายคนดังกล่าวจึงแนะนำตัวโดยบอกว่า ตนคือ "ลี กอน" ซีอีโอของบริษัท ชางอิน เคมีคอล (ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ฯลฯ) จากนั้นก็ชี้ว่าแชมพูของตนไม่ใช่แชมพูกระจอกๆ แต่เป็นผลิตภัณฑ์ชั้นนำและผลิตภัณฑ์อันดับหนึ่งของบริษัทตน แชมพูขวดนี้ได้รับความเชื่อถือและมีประวัติศาสตร์อันยาวนานสามชั่วอายุคน สาเหตุที่ตนไม่ใช้สแตนด์อินเป็นเพราะตนต้องการให้นางแบบถ่ายทอดความรู้สึกและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ไปสู่ลูกค้า เขาย้ำว่าผลิตภัณฑ์ของตนไม่ใช่แชมพูกระจอกๆ จากนั้นก็บอกให้ "ผู้จัดการทัก" เตรียมค่าปรับเอาไว้ เพราะเขาจะฉีกสัญญาที่ทำกับนางแบบสาว

"ประธานวัง" (ย่าของ "ลี กอน") ถูกเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลลีแห่งชอนจู (ตระกูลนี้สืบทอดเชื้อสายมาจาก "ลี ซองกเย" หรือ "พระเจ้าแทโจ" ผู้ก่อตั้งราชวงศ์โชซอน) กดดันให้จับกอนแต่งงานให้ได้ภายในปีนี้ ซ้ำยังบีบให้เธอลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรว่ากอนจะแต่งงานภายใน 100 วัน เพราะประธานวังเคยสัญญาเอาไว้เมื่อสามปีก่อนว่าจะให้กอนแต่งงานตอนอายุ 30 แต่จนป่านนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ สาเหตุที่ประธานวังถูกกดดันอย่างหนักเป็นเพราะเหล่าผู้อาวุโสเกรงว่าตระกูลของพวกตนจะไม่มีผู้สืบสกุลในรุ่นต่อไป เนื่องจากกอนเป็นทายาทเพียงคนเดียวของครอบครัวและของลูกหลานรุ่นที่ 9 (ตระกูลของเขามีผู้ชายน้อย แถมผู้ชาย (สายปู่ของเขา) ยังเสียชีวิตในวัย 30 ปี เพราะเป็นโรคทางกรรมพันธุ์)

กอนรู้ว่าย่าต้องถูกผู้อาวุโสกดดันในที่ประชุมราวกับเป็นจำเลยแน่ๆ เลยตามมาประชุมด้วย เขาเตือนเหล่าผู้อาวุโสเรื่องที่ย่าของตนเป็นคนก่อร่างสร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จ แล้วตนก็รับช่วงในการบริหารต่อจนบริษัทประสบความสำเร็จในระดับโลก แถมมูลค่าหุ้นยังเพิ่มขึ้นกว่าห้าเท่า ทำให้เหล่าผู้อาวุโสทุกท่านพลอยมีชีวิตที่สุขสบายและไม่ต้องกังวลเรื่องการเงินเหมือนแต่ก่อน หลังจากนั้นเขาก็ประกาศอย่างมั่นใจในที่ประชุมว่าตนจะแต่งงานในฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึง เพราะคนที่ตนรักกำลังจะกลับมาเกาหลี เพื่อความสบายใจของเหล่าผู้อาวุโสเขาจึงลงนามรับรองเรื่องการแต่งงานด้วยตนเอง


"คิม มียอง" ซึ่งถูกทุกคนในออฟฟิศรุมใช้งานเยี่ยงทาส หอบกาแฟ ขนม และอาหารเช้า เต็มสองมือเข้ามาเสิร์ฟเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศ แม้ตนเองจะมีงานล้นมือและไม่เคยได้รับคำขอบคุณ แต่มียองก็ไม่เคยปฏิเสธคำไหว้วานและก้มหน้าก้มตาทำงานตามที่ถูกเรียกใช้โดยไม่พร่ำบ่น เธอเปรียบตัวเองว่าเป็นเหมือน "โพสต์อิท" (ที่เพื่อนร่วมงานนำมาแปะไว้ที่โต๊ะทำงานของเธอเพื่อสั่งงาน และเป็นฉายาของเธอด้วย) ซึ่งแม้จะเป็นสิ่งที่จำเป็นแต่ก็ไม่สำคัญ ทั้งยังใช้งานง่ายและโยนทิ้งได้ง่ายเช่นกัน "ชอน จียอน" (เพื่อนร่วมงาน รูมเมท และเพื่อนของมียอง) เห็นมียองโดนเอาเปรียบจึงบอกให้มียองหัดปฏิเสธคนอื่นเสียบ้าง ครั้นพอถูกเจ้านายใช้งานและไหว้วานให้ไปทำธุระส่วนตัว (ซื้อของฝากให้ลูกสาว) มียองจึงลองปฏิเสธเป็นครั้งแรก แต่สุดท้ายก็รับปากอยู่ดี


หลังประชุมกับเหล่าผู้อาวุโสแล้ว กอนก็แวะร้านเพชรที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อแหวนเตรียมขอ "คัง เซรา" แต่งงาน (เซรากำลังเดินทางกลับเกาหลีหลังทำตามความฝันในกรุงนิวยอร์กไม่สำเร็จ โดยขึ้นเครื่องบินลำเดียวกับ "แดเนียล") อีกด้านหนึ่งมียองก็ออกไปซื้อลูกกวาดให้ลูกสาวเจ้านายที่ห้างสรรพสินค้าเดียวกัน พนักงานขายเห็นว่ามียองซื้อลูกกวาดเต็มตระกร้าเลยแถมอมยิ้มรูปหัวใจกลิ่นเชอร์รี่พิงค์ซึ่งเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นลูกอมเลิฟเลิฟ (ลูกอมสื่อรัก) และเป็นสินค้าขึ้นชื่อของทางร้านให้เธอ หลังได้แหวนเพชรที่ถูกใจแล้ว กอนก็เปิดกล่องออกดูพลางนึกถึงเซรา เมื่อมียองถือตระกร้าลูกกวาดเดินออกมาที่โถงเอเทรียมกลางห้าง เธอเห็นเด็กน้อยคนหนึ่งเดินเตาะแตะไปที่บันไดเลื่อนตามลำพังเลยคิดที่จะไปช่วย แต่เกิดชนกับเด็กที่ถือตระกร้าลูกบอลเด้งทำให้ลูกบอลร่วงเกลื่อนพื้น มียองเหยียบลูกบอลทำให้ลื่นไถลเข้าหากอน เธอจึงคว้าตัวเขาเอาไว้ทำให้เสียหลักทั้งคู่ และนั่นก็ทำให้ลูกกวาดในตระกร้าที่มียองถือมา ตลอดจนแหวนแต่งงานของกอนกระเด็นขึ้นไปในอากาศก่อนร่วงตกลงบนพื้น

กอนเห็นแหวนแต่งงานกลิ้งลงบันไดเลื่อนจึงรีบวิ่งตาม มียองรู้สึกผิดเลยวิ่งตามลงไปช่วย บังเอิญว่าทางด้านล่างกำลังจัดงานเอ็กซ์โปเกี่ยวกับน้องหมา แหวนแต่งงานของกอนจึงถูกน้องหมาเตะกลิ้งไปมาก่อนเข้าไปหยุดอยู่ไนในกรงขนาดใหญ่ของน้องหมาพันธุ์ร็อตไวเลอร์ซึ่งกำลังนอนหลับปุ๋ย กอนกลัวหมาเลยบอกให้มียองเป็นคนหยิบ แต่มียองเองก็กลัวเจ้าร็อตไวเลอร์เช่นกัน ถึงกระนั้นเธอก็ปฏิเสธใครไม่เป็น เธอจึงก้มตัวลงไปหยิบแหวนโดยให้กอนช่วยประคองร่างเธอเอาไว้ มียองจะเอื้อมมือคว้าแหวนแต่เกิดปัดชามใส่อาหารหมาซึ่งทำจากโลหะเสียงดังสนั่น หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ถูกเจ้าร็อตไวเลอร์วิ่งไล่จึงพากันวิ่งหนีตายสุดชีวิต


มียองตั้งหน้าตั้งตาวิ่งโดยไม่หันกลับไปมองข้างหลังราวกับกำลังแข่งวิ่งในสนาม เมื่อถึงทางแยกกอนชี้บอกให้น้องหมาวิ่งตามมียองแต่น้องหมายังคงวิ่งไล่ตามเขา (ทั้งคู่วิ่งหนีกันคนละฟากเพราะตรงกลางเป็นสวนไม้ประดับ) เขาจึงวิ่งพลางรำพึงรำพันในใจว่า หรือนี่จะเป็นจุดจบของตน เช่นเดียวกับเหล่าบรรพบุรุษที่ล้วนจบชีวิตในวัย 30 ไม่ว่าจะเป็นพ่อ ปู่ ทวด หรือคนรุ่นก่อนหน้า แต่พอคิดได้ว่าถ้านี่เป็นจุดจบของตนจริงๆ ตนก็จะตายเหมือนหมา เขาเลยบอกตัวเองว่าจะไม่ยอมตาย ครั้นพอหันไปเห็นมียองวิ่งตามมาจนทันและกำลังจะวิ่งแซงตน กอนก็นึกสงสัยว่าเธอเป็นใคร ทำไมถึงวิ่งเร็วนัก (สายตามียองจับจ้องไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว) เมื่อมียองวิ่งแซงหน้าเขาก็ร้องบอกเธอในใจว่าอย่าทิ้งตนไว้ข้างหลังและพยายามเอื้อมมือไปหาเธอ


มียองสวมวิญญาณนักวิ่งลมกรดหมายให้พ้นคมเขี้ยวน้องหมาที่ยังคงวิ่งไล่ตามอย่างไม่ลดละ แต่สุดท้ายทั้งคู่กลับวิ่งมาเจอทางตัน ทำให้ต้องเผชิญหน้ากับเจ้าร็อตไวเลอร์ซึ่งยืนเห่าน้ำลายกระเด็นอยู่ตรงหน้า หลังอยู่ในสภาพจนตรอก กอนก็พยายามทำใจดีสู้หมาโดยสวมวิญญาณสุภาพบุรุษที่คอยปกป้องหญิงสาว เขากัดฟันปลอบมียองว่าไม่ต้องกลัว จากนั้นก็ถอดสูทออกมาใช้เป็นอาวุธป้องกันตัว เมื่อน้องหมาพุ่งเข้าไปหาทั้งคู่ กอนจึงหลับหูหลับตาใช้สูทฟาด (ระหว่างที่เขาฟาดสูทอย่างกล้าหาญเสียงเพลงประกอบละครเรื่อง "แทกิลฯ" ก็ดังขึ้น) ครั้นพอหันไปดูอีกทีเขาก็พบว่าน้องหมากำลังเลียกระเป๋ากางเกงมียองเพราะได้กลิ่นอมยิ้มรสเชอร์รี่ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเธอ (น้องหมาไม่ได้วิ่งไล่กัดแต่ไล่ตามอมยิ้มสื่อรักกลิ่นเชอร์รี่) หลังสถานการณ์คลี่คลายลงแล้วกอนก็ถามมียองว่าเก็บแหวนให้ตนได้หรือไม่ มียองชูแหวนบนนิ้วชี้ให้กอนดูด้วยความภาคภูมิใจ แต่กอนรีบดึงออกด้วยความโกรธโดยไม่สนว่ามียองจะเจ็บหรือไม่ เขาไม่พอใจที่เธอสวมแหวนแต่งงานของเซรา และโวยลั่นว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ เขายังบอกด้วยว่าหากแผนขอแต่งงานของตนล้มเหลวเป็นเพราะเธอที่เป็นตัวซวย พูดจบเขาก็เดินหนีไปด้วยความโมโห

เนื่องในโอกาสครบรอบสิบปีของบริษัท เจ้านายของมียองจึงนำนามบัตรของพนักงานมาจับรางวัลแพคเกจที่พักสุดหรูในมาเก๊า (แต่ต้องซื้อตั๋วเครื่องบินเอง) ปรากฏว่าผู้โชคดีคือมียอง หลังจียอนและแม่ปฏิเสธที่จะไปด้วย เธอจึงชวน "ทนายมิน" (ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งเข้ามาตีสนิทมียองได้ไม่นาน) ไปสานสัมพันธ์ที่มาเก๊าด้วยกันโดยออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง ขณะที่กอนเองก็ถือโอกาสช่วงที่ต้องไปเจรจาธุรกิจกับโรงแรมที่มาเก๊า ชวนเซราไปสวีทและวางแผนขอเธอแต่งงานที่นั่น โดยมอบหมายให้ทางโรงแรมเป็นผู้จัดเตรียมงาน (กอนเดินทางล่วงหน้าไปก่อน และให้เซราบินตามไปพร้อม "ผู้จัดการทัก")

ขณะเดียวกัน "ประธานปาร์ค" (อดีตเจ้าของโรงงานสบู่บนเกาะยออูล) และชายหนุ่มจากตระกูล "ชเว" (พี่เขยของมียอง / สามีของมีจา) ได้แอบตามกอนไปที่มาเก๊าโดยแฝงตัวเป็นพนักงานโรงแรม ทั้งยังนัดแนะหญิงบริการที่ชื่อ "มิสคิม" ให้มาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการด้วย ทั้งคู่ผสมยาบางอย่างลงในขวดน้ำแร่หมายให้กอนดื่ม แต่เกิดทำขวดน้ำแร่ตกลงไปในบ่อน้ำที่ไหลเวียนอยู่ภายในโรงแรม ทำให้ขวดน้ำแร่ลอยไปตามกระแสน้ำ



มียองกับทนายมินเข้าพักที่ห้อง 2006 ของโรงแรมหรู (ที่เดียวกับกอน) พอรู้ว่าที่โรงแรมมีคาสิโน ทนายมินจึงรีบไปสำรวจโดยอ้างว่าจะออกไปเดินดูรอบๆ โรงแรม เมื่อเขาเข้าไปในคาสิโนก็ได้พบกับมิสคิม มียองเห็นทนายคิมหายไปนานเลยรู้สึกเป็นห่วง เธอจึงออกไปตามหา ครั้นพอโดนอากาศเย็นเธอก็เริ่มจาม หลังเดินตามหาได้สักพักมียองก็นั่งพักริมกำแพงน้ำตก เธอไม่รู้ว่าในตอนนั้นกอนกำลังนั่งอยู่บนม้านั่งยาวในสนามหญ้าที่อยู่ไม่ไกลกันนัก (มียองรู้ว่ามีผู้ชายนั่งอยู่แต่เห็นหน้าไม่ถนัด) ครั้นพอกอนซ้อมขอเซราแต่งงานด้วยคำพูดสุดซึ้ง มียองจึงนั่งฟังด้วยความรู้สึกประทับใจก่อนจามออกมา พอได้ยินเสียงผู้หญิงจาม กอนก็พยายามมองหาว่าใครแอบฟังตน มียองซึ่งเริ่มคันคอและมีอาการไอรีบมองหาที่หลบ เมื่อพบขวดน้ำแร่ลอยอยู่ในบ่อน้ำเธอจึงหยิบติดมือแล้วรีบวิ่งไปแอบหลังกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่ จากนั้นก็ดื่มน้ำแร่ (ผสมยา) เข้าไปหลายอึกเพื่อบรรเทาอาการระคายคอ

ในขณะที่ผู้จัดการทักและเซรากำลังจะเดินทางไปมาเก๊า เซราก็ได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้าคณะบัลเลต์ในกรุงนิวยอร์ก เขาบอกเซราว่าเธอได้รับเลือกให้เป็น "พรีม่า บัลเลริน่า" (นักบัลเล่ต์หญิงดาวเด่นที่มีความสามารถขั้นสูงและเป็นนักแสดงหลัก) ของทางคณะ และมอบบท "โอเดตต์" ให้เธอ ("โอเดตต์" คือชื่อเจ้าหญิงที่ถูกสาปให้กลายร่างเป็นหงส์ในเวลากลางวัน และเป็นมนุษย์ในเวลากลางคืน ในการแสดงบัลเลต์เรื่อง "สวอนเลค") แต่มีข้อแม้ว่าเธอต้องรีบบินกลับนิวยอร์กในทันที




ประธานปาร์คและพี่เขยของมียอง ตามกอนไปที่ห้องนวดตัวแล้วติดสินบนพนักงานเพื่อสวมรอยเป็นหมอนวดแทน จากนั้นก็ยื่นน้ำแร่ผสมยา (ที่ผสมใหม่ในปริมาณมากกว่าขวดเดิมสองเท่า เพราะยาดันทะลักออกจากถุง) ให้กอนดื่ม หลังดื่มจนแทบหมดขวดแล้วกอนถึงได้นึกออกว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือประธานปาร์ค หลังถูกจับได้ประธานปาร์คและพี่เขยของมียองจึงรีบคุกเข่าขอความเห็นใจจากกอน เพราะหลังกอนซื้อโรงงานสบู่บนเกาะยออูล (บ้านเกิดมียอง) แล้วก็ไล่พนักงานทั้งหมดออก ทำให้บรรดาชาวเกาะเดือดร้อนเพราะไม่มีงานทำ แต่กอน (ซึ่งเคยถูกร้องขอให้พิจารณาเรื่องนี้ใหม่มาครั้งหนึ่งแล้ว) ไม่ยอมเปลี่ยนใจ เขากล่าวว่าอีกสองอาทิตย์ตนจะไปที่นั่นและจะปิดโรงงานดังกล่าวอย่างแน่นอน สองหนุ่มจึงได้แต่ร้องขอความเห็นใจ

กอนจะเดินกลับห้องพักแต่ไม่นานก็เข่าอ่อนและทรุดตัวลง  (พี่เขยมียองบอกประธานปาร์คว่ายากระตุ้นอารมณ์ที่ตนนำมาจากเกาะยออูลออกฤทธิ์แล้ว) ถึงกระนั้นกอนก็พยายามลากสังขารและเดินโซเซกลับห้อง (ห้อง 2009) จนได้  พอนึกขึ้นได้ว่าต้องไปรับเซราเขาก็หมดสติบนที่นอนเสียก่อน ประธานปาร์คและพี่เขยมียองสวมรอยเป็นพนักงานทำความสะอาด จากนั้นก็ตามไปถอดเสื้อผ้ากอนถึงในห้อง ก่อนเอาลิ่มไม้ดันประตูไว้เพื่อไม่ให้ปิดล็อค ขณะที่ทั้งคู่พยายามเข็นรถเข็นกลับ ด้ามไม้ถูพื้นที่ยื่นออกมาจากรถเข็นบังเอิญไปปัดโดนหมายเลขห้อง ทำให้เลข 9 กลับกลายเป็นเลข 6

มียอง (ซึ่งดื่มน้ำแร่ผสมยากระตุ้นเช่นกัน) เดินโซเซกลับห้อง พอเจอห้อง 2006 เธอจึงเปิดประตูเข้าไปโดยหารู้ไม่ว่าความจริงแล้วเธอเข้าห้อง 2009 หลังเข้าห้องแล้วเธอก็คลานขึ้นเตียงทันที มิสคิมซึ่งรับงานจากประธานปาร์คและพี่เขยมียอง (หมายแบล็คเมล์กอน) รู้สึกแปลกใจที่ไม่มีห้องหมายเลข 2009 แต่กลับมีห้อง 2006 ถึงสองห้อง เธอจึงยืนงงว่าจะเข้าห้องไหนดี ในที่สุดกอนกับมียองซึ่งตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยาก็เริ่มโผเข้าหากันท่ามกลางความมืด ในเวลาเดียวกันนั้นย่าของกอนซึ่งกำลังยืนดูภาพถ่ายบรรพบุรุษของครอบครัว (ส่วนใหญ่เป็นรูปขณะยังหนุ่ม) ได้อธิษฐานขอให้สามีและลูกชายผู้ล่วงลับช่วยให้กอนขอแฟนสาวแต่งงานได้สำเร็จ และให้พาแฟนกลับมาพร้อมทายาทในครรภ์



 


วันรุ่งขึ้น ทั้งกอนและมียองต่างกรีดร้องด้วยความตกใจเมื่อพบว่าต่างฝ่ายต่างเป็นคนแปลกหน้า ทันใดนั้น ประธานปาร์คและพี่เขยของมียองก็เข้ามาในห้องพร้อมกล้องวิดีโอ เพื่อบันทึกภาพขณะที่กอนอยู่บนเตียงกับผู้หญิงในสภาพเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ กอนเห็นดังนั้นจึงร้องบอกให้หยุดถ่าย ประธานปาร์คประกาศว่า "ลี กอน ซีอีโอ บริษัทชางอิน เคมิคอล เป็นศัตรูตัวฉกาจของเกาะยออูล" จากนั้นก็ชี้ว่ากอนประกาศสงครามกับพวกตนก่อน ดังนั้นจงอย่าโทษพวกตนที่เอาคืนแบบนี้ พี่เขยมียองเห็นว่าฝ่ายหญิงยังคงซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มจึงเปิดผ้าออกพลางนำเสนอด้วยความภาคภูมิใจว่า "เธอคือฮีโร่หญิงของเกาะเรา มาตา ฮารี... มิสคิม" ("มาตา ฮารี" คือ หญิงสาวชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นนางระบำ หญิงงามเมือง และสายลับสองหน้าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ภายหลังถูกประหารที่ประเทศฝรั่งเศส) ครั้นพอเปิดผ้าห่มแล้วพบว่าคนที่อยู่กับกอนไม่ใช่มิสคิมแต่เป็นน้องภรรยาเขาก็ถึงกับอึ้ง กอนได้ยินมียองเรียกชายคนดังกล่าวว่า "พี่เขย" จึงคิดว่าทั้งหมดรวมหัวกันแบล็คเมล์ตน เขาจะคว้าตัวมียองแต่มียองรีบวิ่งหนีเข้าห้องน้ำ เขาจึงรีบดึงผ้าปูที่นอนมาคลุมร่างหมายยึดวิดีโอจากประธานปาร์ค ประธานปาร์คและพี่เขยมียองเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเผ่น


กอนรีบโทรฯ บอกเจ้าหน้าที่โรงแรมให้แจ้งตำรวจว่ามีคนบุกรุกห้องของตน แถมแฟนสาวของตนยังหายตัวไป มียองจึงฉวยโอกาสออกมาคว้าเสื้อผ้าก่อนวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำอีกครั้ง พอกวาดตามองห้องน้ำมียองถึงได้รู้ตัวว่าตนเองเข้าห้องผิดและยอมออกจากห้องน้ำแต่โดยดี ครั้นพอเห็นหน้ากันชัดๆ ทั้งคู่จึงจำได้ว่าเคยวิ่งตามแหวนและหนีหมามาด้วยกัน และนั่นก็ยิ่งทำให้กอนปักใจเชื่อว่ามียองคิดจับเขาตั้งแต่ต้นและหาว่าเธอเป็นนักขุดทอง มียองพยายามอธิบายว่ากอนเข้าใจเธอผิดแต่กอนไม่ฟังและยังคงกล่าวหาเธอต่างๆ นานา เขาพามียองไปที่แผนกรักษาความปลอดภัยเพื่อชี้ตัวประธานปาร์คกับพี่เขยมียองจากกล้องวงจรปิด จากนั้นก็พาพนักงานรักษาความปลอดภัยไปตามจับตัวทั้งคู่โดยลากตัวมียองไปด้วย หลังประธานปาร์คถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยล็อคตัวเขาจึงคิดที่จะโยนกล้องวิดีโอให้พี่เขยมียองแต่ดันโยนพลาดทำให้กล้องตกน้ำ แม้จะสูญเสียหลักฐานทั้งหมดที่มีแต่ทั้งคู่ก็ฉวยโอกาสหลบหนีไปจนได้

หลังเดินทางมาถึงเกาหลีแดเนียลก็ตรงไปหาแม่ชีที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า (เขาเคยอยู่ที่นั่นแต่ปัจจุบันเป็นผู้อุปถัมภ์) เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการตามน้องสาวที่พลัดพรากจากกันตั้งแต่เด็ก แต่แล้วก็ต้องผิดหวังอีกตามเคยเพราะยังไม่พบเบาะแสใดๆ


ในที่สุดกอนก็รู้ว่าเซราไม่ได้มามาเก๊าแต่บินกลับนิวยอร์กเพื่อไปเอาดีด้านบัลเล่ต์ ทั้งๆ ที่เธอเองก็รู้อยู่เต็มอกว่ากอนชวนเธอมาที่มาเก๊าทำไมและรู้ว่าเขาจะต้องผิดหวังเสียใจมาก เธอขอโอกาสทำตามความฝันอีกครั้งเพื่อจะได้ไม่รู้สึกเสียใจภายหลัง (กลับเกาหลีคราวนี้เธอรู้สึกเหมือนคนล้มเหลว) และสัญญาว่าหลังทุ่มเททั้งชีวิตให้กับการแสดงและประสบความสำเร็จแล้ว เธอจะกลับมาหากอนอีกครั้ง หลังฟังข้อความทางโทรศัพท์ด้วยน้ำตาคลอเบ้าแล้ว กอนก็ได้แต่ยืนมองพนักงานโรงแรมเก็บแบนเนอร์และของตกแต่งที่เขาเตรียมไว้เซอร์ไพรส์เซรา

หลังจากนั้นกอนก็กลับไปโวยมียอง (ซึ่งยังคงอยู่ที่แผนกรักษาความปลอดภัยของทางโรงแรม) อีกครั้งด้วยข้อกล่าวหาเดิมๆ เขาไม่เชื่อคำพูดของเธอและไม่เชื่อว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องบังเอิญ ทั้งยังบอกด้วยว่าประธานปาร์คกับพี่เขยของเธอต่างพากันหนีเอาตัวรอดและทิ้งเธอไว้ที่นี่ ตอนนี้เธอถูกคนในครอบครัวทอดทิ้งแล้ว ถึงกระนั้นมียองก็ยังเชื่อว่าที่เป็นเช่นนั้นต้องมีสาเหตุบางอย่าง เพราะประธานปาร์คกับพี่เขยของเธอเป็นคนดี กอนได้ยินดังนั้นก็หัวเราะและเหน็บว่าคนดีจะทิ้งเธอไว้แบบนี้งั้นหรือ เขาสงสัยว่ามียองอาจไม่ใช่แขกของทางโรงแรมด้วยซ้ำ แต่หัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยยืนยันว่ามียองเป็นแขกห้อง 2006 จริง ถึงกระนั้นกอนก็ยังไม่ปักใจเชื่อและขอไปพิสูจน์ให้เห็นกับตา

ในที่สุดเขาก็พบว่าหมายเลขห้องของตนเปลี่ยนจาก 2009 เป็น 2006 เพราะเลข 9 เกิดกลับหัวทำให้มียองเข้าห้องผิด แถมยังมีคนนำลิ่มไม้มาวางขวางประตูไว้เพื่อไม่ให้ประตูปิดล็อคมียองจึงเปิดประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย หลังพิสูจน์ความจริงได้แล้วมียองก็ขอโทษที่ก่อเรื่องวุ่นวาย เธอเป็นห่วงประธานปาร์คกับพี่เขยจึงขอร้องกอนว่าอย่าเอาเรื่องทั้งคู่ เพราะเธอกลัวว่าพวกเขาจะติดคุก กอนเพิ่งเห็นว่ามียองถูกตนเองลากไปโน่นมานี่โดยไม่ได้สวมรองเท้าก็เริ่มรู้สึกสงสาร  เขาจึงเตือนเธอว่าเอาตัวเองให้รอดเสียก่อนแล้วค่อยห่วงคนอื่น จากนั้นก็เดินเข้าห้องของตนและพบรองเท้ามียองวางอยู่ข้างเตียง



เมื่อมียองกลับไปที่ห้อง 2006 ก็พบว่าทนายมินกำลังนวดให้มิสคิมอยู่บนเตียง ครั้นพอเห็นมียองเดินเข้าห้องมา ทนายมินก็เรียกเธอว่าที่รักเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มิสคิมเดาว่ามียองคงเป็นคนที่ทนายมินเล่าว่าหลงเขาเสียจนหัวปักหัวปำ เธอเห็นมียองขอบตาคล้ำจึงกล่าวว่ามียองคงไปสนุกที่ไหนมาทั้งคืน มียองพยายามถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทนายมินถามกลับว่าทำไมเธอถึงไม่สวมรองเท้าและหายไปไหนมาทั้งคืน เขาเห็นมียองยืนช็อคจึงบอกให้เธอนั่งลงก่อน จากนั้นก็ออกตัวว่าพวกตนมาที่นี่เพื่อหาความสุขและให้คิดเสียว่าเป็นการเปลี่ยนคู่นอน มียองได้ยินแล้วยิ่งช็อคหนักขึ้น เธอไม่นึกฝันว่าทนายมินจะเป็นคนแบบนี้ มิสคิมเห็นแล้วรู้สึกรำคาญจึงลุกหนีพลางบอกทนายมินว่ารสนิยมในการเลือกผู้หญิงของเขาห่วยแตก

มียองเห็นมิสคิมสวมต่างหูของตนจึงทวงคืน มิสคิมกล่าวอย่างดูถูกว่าแค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นของแบกะดิน จากนั้นก็ขว้างต่างหูของมียองลงบนพื้น มียองทรุดตัวลงไปเก็บต่างหูที่พื้นด้วยน้ำตานองหน้า ทนายมินเห็นดังนั้นก็รู้สึกสมเพชจึงบอกให้เธอโยนทิ้งไป  มียองไล่ทนายมินออกจากห้อง และกล่าวด้วยความน้อยใจว่าเขาไม่รู้ว่าเธอมีความสุขและชอบเขามากแค่ไหน ทนายมินแย้งว่ามียองคิดไปเองว่าพวกตนเป็นแฟนกัน เขาแค่คบเธอเล่นขำๆ เพราะเห็นว่าเธอเป็นคนใสซื่อ แต่เธอดันตกหลุมรักเขาเอง เขาเตือนเธอว่าอย่าสำคัญตนผิดเพราะเธอมันก็แค่สาวโพสต์อิทที่ตนจะหยิบมาใช้เล่นและโยนทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ เขายังบอกอีกว่าตนเป็นถึงทนายจะมาคบกับพนักงานชั่วคราวอย่างเธอได้ยังไง และเปรียบว่าชนชั้นสูงที่ไหนจะคบหากับไพร่ชั้นต่ำ



กอนจะนำรองเท้ามาคืนมียองที่ห้องเลยได้ยินและได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขานำรองเท้าเข้าไปให้และบอกให้เธอใส่รองเท้า จากนั้นก็ช่วยประคองให้ลุกขึ้นแล้วบอกว่าอย่ามัวเสียเวลากับคนอย่างทนายมิน เลย เขาชี้ว่าทนายมินไม่ใช่ชนชั้นสูงแต่เป็นแค่ขยะ คนอย่างทนายมินไม่อาจเทียบชั้นกับไพร่ได้เลยด้วยซ้ำ พูดจบเขาก็ประคองมียองออกจากห้องไป

กอนทั้งเห็นใจและหงุดหงิดที่มียองยอมให้ทนายมินโขกสับ ทั้งยังไม่เข้าใจว่าต่างหูสำคัญอะไรกับเธอนักหนา มียองร่ำไห้พลางพร่ำบอกว่ามันเป็นของเธอ จากนั้นก็เล่าว่าเธอไม่เคยจับฉลากได้อะไรมาก่อนในชีวิต หลังได้รางวัลเป็นแพคเกจห้องพักในมาเก๊า เธอเลยเดินทางมาท่องเที่ยวโดยคิดว่าในที่สุดตัวเองก็มีโชคกับเขาเสียที เธอก็แค่อยากรักใครสักคนจนหมดใจเลยทุ่มเทเต็มที่ แล้วนี่เธอทำผิดตรงไหน กอนเห็นมียองร้องไห้เพราะคนอย่างทนายมินแล้วยิ่งหงุดหงิด เขาจึงตะคอกบอกให้เธอหยุดร้อง มียองตะคอกกลับว่าน้ำตามันไหลไม่หยุดเอง กอนจึงบอกให้เธอเข้มแข็งและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ แต่ไม่วายเหน็บว่ารสนิยมเรื่องผู้ชายของเธอแย่สุดๆ มียองกล่าวว่าเธอชอบทนายมินมากเพราะเขาเป็นคนเดียวในออฟฟิศที่ไม่เห็นเธอเป็นแค่โพสต์อิท เธอเลยคาดหวังและตั้งตารอทริปนี้มาก ทั้งยังเตรียมทุกอย่างเอาไว้พร้อม




กอนเริ่มรู้สึกว่าตนเองหัวอกเดียวกับมียองเลยโวยลั่นว่า ตลกสิ้นดี!  ทำไมคนที่ทำร้ายคนอื่นถึงไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่คนที่ถูกทำร้ายกลับเป็นฝ่ายเจ็บปวดและน่าเวทนา เขาคว้าแขนมียองและบอกให้เธอไปกับตน ก่อนบอกว่าต่อจากนี้เธอจะไม่ใช่โพสต์อิทแต่เป็นกาวตราช้าง ใครที่กล้าดึงเธอออกรับรองหนังถลอกแน่ ตนจะทำให้เธอเห็นเองว่าตัวเธอน่ะเจ๋งแค่ไหน หลังจากนั้นกอนก็พามียองไปหาสไตลิสต์และเมคอัพอาร์ติสเพื่อแปลงโฉมใหม่หมดตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นก็ควงเธอไปเอาคืนทนายมินที่คาสิโนโดยบอกว่า จากนี้ไปเธอคือราชินีและจะไม่ใครกล้าถูกเธอได้อีกต่อไป

กอนควงมียองไปเล่นไพ่โต๊ะเดียวกับมิสคิมและทนายมิน ทั้งคู่เห็นมียองโฉมใหม่แล้วถึงกับตาค้าง กอนต่อให้ก่อนโดยยอมให้ทนายมินเป็นฝ่ายชนะและเพิ่มเงินเดิมพันมากขึ้นเรื่อยๆ  ครั้นพอถึงตาสุดท้ายกอนก็ยื่นชิพให้มียองช่วยอวยพรให้เขาโชคดี มียองจึงตั้งใจอธิษฐานแบบจริงจัง หลังรับชิพคืนมาแล้วกอนก็เล่นแบบทุ่มหมดหน้าตัก ทนายมินจึงเล่นตามบ้างแต่คราวนี้เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จนหมดตัว ทนายมินขอแก้มืออีกครั้งแต่กอนปฏิเสธ เขาจึงอ้อนวอนมียองโดยเรียกเธอว่าที่รัก กอนบอกทนายมินว่าตนจะคืนเงินให้แต่มีข้อแม้ว่าเขาต้องคุกเข่าขอโทษมียองอย่างจริงใจ


ทนายมินยอมละทิ้งศักดิ์ศรีแต่ไม่ยอมหมดตัวจึงคุกเข่าขอโทษมียองต่อหน้าทุกคน มียองอึ้งไปชั่วขณะก่อนบอกให้ทนายมินลุกขึ้นแล้วเดินหนีไป มียองบอกกอนว่าสาเหตุที่เธอทิ้งโอกาสในการแก้แค้นไม่ได้เป็นเพราะทนายมินน่าสงสาร แต่เป็นเพราะเธอเห็นทนายมินคุกเข่าตรงหน้าเพื่อเงินแล้วรู้สึกว่าตัวเองน่าสมเพช ทนายมินเป็นคนไม่ดีก็จริงแต่ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขามาจากใจจริง กอนกล่าวว่าเธอกับเขาหัวอกเดียวกัน เขาเองก็โดนทิ้งเพราะเซราไม่ยอมมามาเก๊า ทั้งๆ ที่ตนเตรียมขอเธอแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่ พอได้ยินชื่อเซรา มียองจึงรู้ว่าที่แท้ชายที่ซ้อมขอแต่งงานเมื่อวานนี้คือกอน เธอขอโทษกอนโดยบอกว่าแผนขอแต่งงานของเขาล้มเหลวเพราะเธอเป็นตัวซวยอย่างที่เขาเคยพูด แต่กอนแย้งว่าที่ตนพูดเช่นนั้นเป็นเพราะกำลังโมโห ความจริงแล้วไม่ใช่ความผิดของเธอ

มียองขอร้องกอนไม่ให้เอาเรื่องประธานปาร์คและพี่เขยของเธอ เขายอมทำตามที่เธอร้องเพราะเห็นว่าทั้งเธอและเขาต่างตกเป็นเหยื่อด้วยกันทั้งคู่ ในเมื่อเธอไม่ถือโทษโกรธสองคนนั้น ตนก็จะยอมละเว้นและติดใจไม่เอาความ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็แนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการ มียองยอมรับว่าตอนแรกที่เจอเขาเธอคิดว่าเขาเป็นคนประหลาด แต่ความจริงแล้วเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด ก่อนจากกันกอนมอบชิพนำโชคให้มียองเป็นที่ระลึก โดยบอกว่าคนเราไม่อาจเอาชนะเกมชีวิตได้เสมอไป แต่ตราบใดที่เธอมีชิพนี้ เธอจะยังมีโอกาสและมีความหวัง เธอจึงควรเก็บรักษามันไว้ให้ดี มียองรับไว้แล้วมอบอมยิ้มสื่อรักรูปหัวใจให้กอนเป็นการตอบแทน กอนแย้งว่านี่เป็นอมยิ้มที่เจ้าร็อตไวเลอร์เลียอย่างเอร็ดอร่อย  มียองจึงบอกว่านี่เป็นอันที่เธอซื้อมาใหม่ คนขายบอกเธอว่าอมยิ้มอันนี้จะช่วยให้สมหวังในความรักและเธอก็อยากให้มันเป็นเช่นนั้น เธอยังบอกกอนด้วยว่าคนที่ชอบของหวานคือคนที่อยากมีความสุข กอนออกตัวว่าปกติแล้วตนไม่ใช่คนที่เชื่อเรื่องแบบนี้ แต่ตนจะรับอมยิ้มเอาไว้


กอนจำต้องบอกลามียองหลังมีลีมูซีนมารับ ขณะจะเดินไปขึ้นรถกอนหันกลับมาบอกให้มียองลืมเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มียองอึ้งไปชั่วขณะก่อนรับปากด้วยรอยยิ้มและบอกว่าถึงยังไงก็คงไม่ได้พบกันอีกแล้ว เขาเตือนเธอว่าอย่าดีเกินไปและให้มั่นใจในตัวเองมากกว่านี้ มียองจึงบอกว่าจะพยายาม หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ยิ้มให้กันก่อนจากลา ขณะที่ลีมูซีนแล่นผ่านมียองก้มศีรษะให้กอนอย่างนอบน้อม กอนเหลียวมองมียองแล้วก้มลงมองอมยิ้มอย่างครุ่นคิด ส่วนมียองซึ่งถูกทิ้งไว้เบื้องหลังมองชิพในมือแล้วได้แต่ถอนใจ

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน "ชะตารัก สะดุดเลิฟ (Fated to Love You )" ทางช่อง 3 เอสดี

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ภาพจาก เอ็มบีซี


นักแสดงนำ 



จางฮยอก
รับบท ลี กอน

"ลี กอน" เป็นทายาทเพียงคนเดียวของครอบครัวนักธุรกิจผู้มั่งคั่ง และเป็นผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวของครอบครัว แม้ภายนอกเขาจะแลดูเหมือนเป็นคนหยาบกระด้าง เอาแต่ใจ และมักพูดจาแบบขวานผ่าซาก แถมยังชอบระเบิดหัวเราะดุจคนเสียสติ แต่ลึกๆ แล้วเขาเป็นคนจิตใจดี มีความรับผิดชอบ เนื่องจากผู้ชายในตระกูลของเขาล้วนเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ทำให้พากันอายุสั้น ย่าของเขาจึงอยากให้เขารีบแต่งงานจะได้มีทายาทไว้สืบสกุล พอรู้ว่าคนรักซึ่งเป็นนักเต้นบัลเล่ต์ที่อเมริกาจะกลับมาใช้ชีวิตที่เกาหลี กอนจึงวางแผนขอเธอแต่งงานที่โรงแรมสุดหรูในมาเก๊าและเตรียมงานอย่างยิ่งใหญ่ แต่สุดท้ายกลับลงเอยด้วยการมีความสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าอย่าง "มียอง" โดยไม่ตั้งใจ ซ้ำยังทำให้เธอท้อง เขาจึงถูกย่าบังคับให้แต่งงานแบบมีเงื่อนไขกับมียอง



จาง นารา
รับบท คิม มียอง
(นักแสดง / นักร้อง)

"คิม มียอง" เกิดและเติบโตบนเกาะเล็กๆ บริเวณชายฝั่งทางตอนใต้ เธอเป็นผู้หญิงบ้านๆ ที่หน้าตาแสนจะธรรมดา แถมความสามารถก็ไม่โดดเด่น ทำงานเป็นพนักงานสัญญาจ้างที่บริษัทกฏหมายแห่งหนึ่ง ด้วยความที่เป็นคนขี้เกรงใจและจิตใจดีเกินเหตุ เธอจึงไม่เคยปฏิเสธคำร้องขอหรือไหว้วานของใครทำให้มีฉายาว่า "สาวโพสต์อิท" วันหนึ่งเธอได้รับรางวัลจากการจับสลากที่ออฟฟิศเป็นแพคเกจโรงแรมสุดหรูในมาเก๊า การเดินทางท่องเที่ยวในครั้งนั้นเองที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ หลังโชคชะตานำพาให้เข้าห้องผิดมียองก็มีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับกอนโดยไม่ได้ตั้งใจและเกิดตั้งท้อง ทั้งคู่จึงถูกบังคับให้แต่งงานกัน



ชเว จินฮยอก
รับบท แดเนียล

"แดเนียล" เป็นดีไซเนอร์ชื่อดังสัญชาติเกาหลี-อเมริกันที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังหนุ่ม เป้าหมายเดียวในชีวิตของเขาคือการตามหาน้องสาวที่พลัดพรากจากกันตั้งแต่เด็ก หลังได้พบกับหญิงสาวจิตใจดีอย่างมียองโดยบังเอิญเขาก็เกิดความประทับใจและสนใจในตัวเธอ นับจากนั้นเขาก็ทำตัวเป็น 'พี่ชายแถวบ้าน' ที่คอยห่วงใยและให้กำลังใจในยามที่มียองท้อแท้ ทั้งยังยื่นมือเข้ามาช่วยเสมอในยามที่เธอต้องการความช่วยเหลือ



วัง จีวอน
รับบท คัง เซรา
(นักแสดง / นางแบบ / นักเต้นบัลเล่ต์)

"คัง เซรา" เป็นนักบัลเล่ต์ในกรุงนิวยอร์กและคนรักของกอน แม้เธอจะรักและคบหากับกอนมานาน 6 ปี แต่เธอให้ความสำคัญกับอาชีพนักบัลเล่ต์มากกว่าการแต่งงาน และฝันอยากเป็น "พรีม่า บัลเลริน่า" ในคณะบัลเล่ต์ชั้นนำ หลังไล่ล่าความฝันไม่สำเร็จ เธอจึงตัดสินใจเลิกเต้นบัลเล่ต์และเดินทางกลับเกาหลีใต้หมายแต่งงานกับกอน  ซึ่งกอนเองก็เตรียมขอเซราแต่งงานเช่นกัน แต่แล้ว อยู่ๆ เธอก็ได้รับแจ้งข่าวดีทางโทรศัพท์ว่าเธอถูกเลือกให้เป็น "พรีม่า บัลเลริน่า" ที่คณะบัลเล่ต์ในกรุงนิวยอร์ก เธอจึงรีบบินกลับนิวยอร์กและเลื่อนการแต่งงานอีกครั้ง




รวมคลิปตัวอย่าง เอ็มบีซีดราม่า และ 장혁 Just...JangHyuk000



รวมเพลงประกอบจาก 1theK (원더케이)



รวมคลิปเบื้องหลังจาก เอ็มบีซีดราม่า


*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา