วันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เรื่องย่อ ประกาศิตนางมาร (Sister Gan Nineteen)




กำกับ: จางฮุยลี่, เฉินหย่งเกอ
เขียนบท: หรงเยว่
แนวละคร: กำลังภายใน
จำนวนตอน: 34
ออกอากาศ: จีน - 14 กุมภาพันธ์ 2558 ทางช่องหูเป่ย
                 ไทย - ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 08.00 น. และ 19.15 น. ทางโมโนพลัส ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2560 - 8 ธันวาคม 2560





เรื่องย่อ



ละคร "ประกาศิตนางมาร (Sister Gan Nineteen)" ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง "กานสือจิ่วเม่ย"  ของ "เซียวอี้" เนื้อหากล่าวถึงเรื่องราวความบาดหมางอันนำไปสู่เหตุการณ์นองเลือดระหว่าง "เจ็ดผู้เยี่ยมยุทธ" (อู่หลินชีซิว)  แห่งมณฑลหูหนานและอันฮุย กับ "สุ่ยหงเสา" สาวงามแห่งพรรคมาร "ตานเฟิ่งเซวียน" ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลยูนนาน

ชนวนของความบาดหมางเกิดจากความโลภและอยากเป็นใหญ่ของ "ฝานจงซิ่ว" (หนึ่งในเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธ) เขาต้องการแย่งชิงยอดคัมภีร์จากสุ่ยหงเสาจึงสร้างสถานการณ์ให้นางเป็นมารร้ายและฆาตกรจิตใจอำมหิตในสายตาเหล่าเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธ ทั้งยังทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสุ่ยหงเสาและ "เสี่ยนปิง" เจ้าสำนักเยว่หยางเหมิน (หนึ่งในเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธ) อีกด้วย หลังถูกฝานจงซิ่วและเหล่าเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธลวงไปฆ่าด้วยการเผาทั้งเป็นจนใบหน้าเสียโฉม สุ่ยหงเสาจึงกลายเป็นนางมารจิตใจโหดเหี้ยมและเต็มไปด้วยความเคียดแค้น หลังบ่มเพาะความแค้นนาน 16 ปี นางจึงส่งลูกศิษย์นามว่า "กานสือจิ่วเม่ย" มาล้างแค้นเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธและผู้เกี่ยวข้อง โดยได้รับความร่วมมือจากกลุ่มแก๊งต่างๆ ที่อยู่ทางตอนเหนือของมณฑลอันฮุย ได้แก่ "เหมิงเฉิงจิ่วโฉ่ว" หรือ "9 อัปลักษณ์แห่งเมืองเหมิงเฉิง" (เมืองเหมิงเฉิงอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลอันฮุย), "จินเตาเหมิง" (มีดทอง) และ "สือซานป่าเตา" (สิบสามมีด) ฯลฯ




ละครเปิดฉากขึ้นในยุคต้นของราชวงศ์หมิง "สุ่ยหงเสา" บุกเดี่ยวไปหา "เสี่ยนปิง" ซึ่งเป็นคู่หมั้นที่สำนักเยว่หยางเหมิน (เสี่ยนปิงเป็นเจ้าสำนัก และผู้เยี่ยมยุทธลำดับที่เจ็ดเพื่อขอเหตุผลที่เขาเลื่อนการแต่งงานออกไปอย่างไม่มีกำหนด ครั้นพอไปถึงกลับถูกเหล่าบรรดาลูกศิษย์ของเยว่หยางเหมินขัดขวางจนเกิดการปะทะกัน  สุ่ยหงเสามีวรยุทธที่เหนือกว่าไม่นานก็ปราบศิษย์ของเยว่หยางเหมินจนอยู่หมัด หลังฝ่าวงล้อมของศิษย์เยว่หยางเหมินซึ่งนำโดย "เซี่ยซาน" ไปได้แล้ว  สุ่ยหงเสาก็เข้าไปในเยว่หยางเหมินโดยมุ่งหน้าไปยังห้องของเสี่ยนปิง "หลี่เถี่ยซิน" (ศิษย์น้องของเสี่ยนปิง) ซึ่งยืนอยู่หน้าห้องกับ "เย่หม่านซี" (ลูกพี่ลูกน้องของเฝิงซิวถัง ซึ่งหลงรักสุ่ยหงเสาตั้งแต่แรกพบ) เห็นว่าเธอจะบุกเข้าไปในห้องจึงรีบขัดขวางแต่ก็ต้านเอาไว้ไม่อยู่  สุ่ยหงเสายังไม่ทันเข้าไปในห้อง เสี่ยนปิงก็ชิงจู่โจมเสียก่อนเพราะนึกว่ามีผู้บุกรุก 

ทันทีที่เห็นหน้าคนรัก สุ่ยหงเสาก็ถึงกับน้ำตาร่วงด้วยความน้อยใจ เธอตัดพ้อเสี่ยนปิงที่พยายามขัดขวางไม่ให้เธอเข้ามาพบ ทั้งยังขอคำอธิบายว่าทำไมอยู่ๆ เขาถึงไม่อยากแต่งงานกับเธอ เสี่ยนปิงไม่มีอารมณ์มาต่อล้อต่อเถียงหรือชี้แจงเรื่องใดๆ กับเธอในตอนนี้ เพราะ "ฟางเอ๋อร์" (เสี่ยวฟาง) ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของเขา (ลูกสาว "เฝิงซิวถัง"เพิ่งถูกส่งตัวมาที่นี่หลังโดนพิษร้าย เขาบอกสุ่ยหงเสาว่ามีเด็กคนหนึ่งกำลังเผชิญความเป็นความตายอยู่ภายในห้องและขอตัวไปดูอาการเด็กก่อน แต่สุ่ยหงเสาไม่เชื่อ เธอคิดว่าเสี่ยนปิงพยายามหาเหตุผลมาบ่ายเบี่ยงหลบหน้าจึงไม่ยอมให้เขากลับเข้าห้องและจ่อดาบไปที่ลำคอของเขาด้วยน้ำตานองหน้า จากนั้นก็คาดคั้นให้เขาบอกเธอว่าทำไมถึงไม่อยากแต่งงาน เมื่อเสี่ยนปิงยังคงนิ่งเงียบ "เฝิงซิวถัง" (พี่สี่แห่งเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธและพ่อของฟางเอ๋อร์) จึงเดินออกมาบอกว่าเพราะเธอเป็นศิษย์ "เซียนร้อยพิษ" แห่งพรรคมาร "ตานเฟิ่งเซวียน" และอาจารย์ของเธอได้ลบหลู่เจ็ดผู้เยี่ยมยุทธอย่างพวกตน




ทันใดนั้น "เว่ยเชี่ยนอวิ๋น" (ภรรยา "เฝิงซิวถัง") ก็ออกมาตามเสี่ยนปิงให้เข้าไปช่วยฟางเอ๋อร์ โดยบอกว่าฟางเอ๋อร์ตายแล้ว สุ่ยหงเสาซึ่งยังคงยืนร่ำไห้อยู่หน้าห้องได้ยินเว่ยเชี่ยนอวิ๋นพูดว่าฟางเอ๋อร์ตายเพราะกินลูกไม้มีพิษเข้าไป เธอจึงปาดน้ำตาแล้วรีบเข้าไปดูอาการฟางเอ๋อร์ เสี่ยนปิงนึกว่าสุ่ยหงเสาจะระบายความโกรธแค้นลงที่เด็กเลยรีบขัดขวาง สุ่ยหงเสาชี้ว่าตนแค่ต้องการช่วยเด็กหญิง หลังตรวจดูแล้วพบว่าฟางเอ๋อร์ยังไม่ตายซ้ำยังมีทางรอด เธอจึงอาสาช่วยชีวิตฟางเอ๋อร์โดยมีเงื่อนไขว่าเฝิงซิวถังจะต้องยอมให้เสี่ยนปิงแต่งงานกับตน เฝิงซิวถังได้แต่ยืนอ้ำอึ้งเพราะไม่อาจตัดสินใจได้โดยลำพัง เว่ยเชี่ยนอวิ๋นร้อนใจอยากช่วยลูกจึงชิงรับปากแทน ทั้งยังกดดันให้เสี่ยนปิงรับปากด้วย เมื่อเสี่ยนปิงตกปากรับคำสุ่ยหงเสาจึงออกเดินทางไปหาสมุนไพรที่เรียกว่า "หญ้าเซียวเซียง" มาถอนพิษให้ฟางเอ๋อทันที

สุ่ยหงเสาข้ามทะเลสาบต้งถิงเพื่อไปซื้อหญ้าเซียวเซียงที่บ้านหมอเทวดาแซ่อู๋ (พ่อของ "อู๋ชิ่ง") ระหว่างสืบหาที่อยู่ของหมออู๋เธอได้ยินว่าคัมภีร์เซียวเหยาจิง (คัมภีร์สราญ) ที่หมออู๋เก็บรักษาไว้ กำลังเป็นที่หมายปองเหล่าชาวยุทธ (หนึ่งในนั้นก็คือ "ฝานจงซิ่ว" หรือพี่ห้าแห่งเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธ) แม้แต่ภรรยาของหมออู๋ยังชอบนำออกมาดู (เธอรู้ว่าเป็นยอดวิชาแต่ไม่แสดงออกและมักนำออกมาศึกษา) "ลู่เจี๋ย"  สมุนของฝานจงซิ่วพาคนไปดักซุ่มที่หน้าบ้านหมออู๋ เลยเห็นสุ่ยหงเสาเดินไปเคาะประตูแล้วร้องเรียกคนในบ้านก่อนบอกว่าตนมาขอซื้อหญ้าเซียวเซียงเพื่อนำไปถอนพิษให้เด็กที่กำลังจะตาย ภรรยาของหมออู๋เกรงว่าสุ่ยหงเสาจะเป็นคนร้ายที่มาแย่งชิงคัมภีร์จึงไม่ยอมเปิดประตูให้โดยอ้างว่าบ้านตนไม่มีสมุนไพรชนิดดังกล่าว แต่หมออู๋ต้องการช่วยชีวิตคนจึงเปิดประตูให้สุ่ยหงเสา หมออู๋เห็นว่าสุ่ยหงเสามีความรู้เรื่องยาและวิธีรักษาก็รู้สึกแปลกใจ สุ่ยหงเสาจึงบอกตามตรงว่าที่เธอมีความรู้เรื่องยาพิษเพราะเธอเป็นศิษย์ของเซียนร้อยพิษแห่งพรรคตานเฟิ่งเซวียน 




หมออู๋รีบเก็บคัมภีร์ก่อนเดินไปหยิบสมุนไพรให้สุ่ยหงเสา แต่กลับถูกสมุนของฝานจงซิ่วซัดอาวุธลับใส่กลางหลังจนล้มลงไปนอนแน่นิ่ง ภรรยาหมออู๋เห็นดังนั้นก็นึกว่าเป็นฝีมือของสุ่ยหงเสา ไม่นานลูกน้องของลู่เจี๋ยก็บุกเข้ามาขโมยคัมภีร์ในบ้าน สุ่ยหงเสาตามไปชิงคัมภีร์คืนจึงเกิดการต่อสู้กับคนร้ายที่หน้าบ้าน หลังทวงดีๆ แล้วไม่คืนให้ซ้ำยังคิดลอบโจมตี  สุ่ยหงเสาจึงฆ่าคนร้ายตายในดาบเดียว ลู่เจี๋ยเห็นฝีมืออันร้ายกาจของสุ่ยหงเสาก็นึกสงสัยว่าเธอเป็นใครกันแน่และคิดที่จะสืบประวัติเธอ หลังชิงคัมภีร์คืนได้แล้วสุ่ยหงเสาก็กลับเข้าไปในบ้านหมออู๋แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า (ทุกคนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย) สุ่ยหงเสาจึงนำหญ้าเซียวเซียงและคัมภีร์กลับสำนักเยว่หยางเหมิน

"อิ่นเยี่ยนหลิง" (พี่สามแห่งเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธ) พา "เสี่ยวซื่อ" (อิ่นเจี้ยนผิง) ผู้เป็นบุตรชาย (และคู่หมั้นคู่หมายของฟางเอ๋อร์) มาเยี่ยมดูอาการฟางเอ๋อร์ที่สำนักเยว่หยางเหมิน เมื่อเห็นว่าฟางเอ๋อร์ยังคงหลับใหล เสี่ยวซื่อจึงเป่าขลุ่ยอยู่เคียงข้างหมายให้นางฟื้นคืนสติ หลังทำงานไม่สำเร็จลู่เจี๋ยก็กลับไปรายงานฝานจงซิ่ว  (พี่ห้า) ว่าคัมภีร์ถูกสุ่ยหงเสาชิงไป และตอนนี้เธออยู่ที่เยว่หยางเหมิน ฝานจงซิ่วได้ยินดังนั้นจึงสั่งให้ลู่เจี๋ยไปบอกเซี่ยซานซึ่งเป็นสายของตนให้คอยจับตาดูสุ่ยหงเสา

ในที่สุดฟางเอ๋อร์ก็รอดชีวิตหลังทานยาถอนพิษของสุ่ยหงเสา เสี่ยนปิงต้องออกจากสำนักเยว่หยางเหมินเพื่อไปทำธุระกับอิ่นเยี่ยนหลิง (พี่สาม) และเฝิงซิวถัง (พี่สี่) ราวสามถึงห้าวัน จึงบอกให้สุ่ยหงเสารอตนที่สำนัก สุ่ยหงเสาบอกให้เสี่ยนปิงกลับมาภายในสามวันและขอใช้ห้องลับของเยว่หยางเหมินระหว่างที่เขาไม่อยู่ ตอนแรกเสี่ยนปิงปฏิเสธทันควัน พอรู้ว่าสุ่ยหงเสาจะใช้ห้องลับเพื่อฝึกเคล็ดวิชาในคัมภีร์เซียวเหยาจิง เสี่ยนปิงจึงยอมให้เธอใช้ห้องแต่โดยดีเพราะรู้ว่าคัมภีร์ดังกล่าวกำลังเป็นที่หมายปองของชาวยุทธ จึงจำเป็นต้องฝึกอย่างลับๆ มิเช่นนั้นจะนำภัยมาสู่ทุกคน เมื่อสุ่ยหงเสาบอกเสี่ยนปิงว่าเธอเตรียมของขวัญไว้ชิ้นหนึ่ง  เสี่ยนปิงก็นึกว่าเป็นหยกกันพิษอีกชิ้น (ก่อนหน้านี้สุ่ยหงเสาเคยมอบหยกกันพิษให้เสี่ยนปิงไว้ป้องกันตัว ส่วนตัวเธอเก็บไว้เองชิ้นหนึ่ง) ที่แท้สุ่ยหงเสาฝากปิ่นมุกขจัดพิษให้ฟางเอ๋อร์เพราะร่างกายเธอยังมีพิษตกค้างอยู่ 




หลังแอบฟังสุ่ยหงเสากับเสี่ยนปิงพูดคุยกัน เซี่ยซานก็แอบออกไปพบลู่เจี๋ยเพื่อแจ้งข่าวว่าสุ่ยหงเสาอยู่ที่สำนักเยว่หยางเหมินตามลำพัง ลู่เจี๋ยจึงบอกว่าพวกตนจะบุกชิงคัมภีร์จากสุ่ยหงเสาในคืนนี้ เมื่อสุ่ยหงเสาเปิดคัมภีร์ดูก็พบว่าเนื้อหาบางช่วงบางตอนหายไป แถมเนื้อหาในคัมภีร์ยังเป็นบทประพันธ์ของจวงจื่อ (จอมปราชญ์จีนและปรมาจารย์ฝ่ายเต๋า)  หลังสุ่ยหงเสาเข้าไปในห้องลับได้ไม่นาน หลี่เถี่ยซินก็พาศิษย์เยว่หยางเหมินจำนวนหนึ่งมาเฝ้าหน้าประตู (โดยไม่รู้ว่าสุ่ยหงเสาอยู่ในห้อง)  เซี่ยซานเห็นดังนั้นจึงสั่งให้ชายชุดดำจำนวนหนึ่งมาล่อหลี่เถี่ยซินกับพวกให้วิ่งไปทางอื่น หลังจากนั้นเขาและศิษย์น้องที่ชื่อ "ข่งเจ๋อจู๋" ก็เข้าไปเปิดกลไกห้องลับให้เหล่านักฆ่าของฝานจงซิ่ว (เซี่ยซานจับตาดูสุ่ยหงเสามาตลอดทั้งวันเลยเห็นเธอโรงผงบางอย่างไว้ที่กลไกก่อนเข้าไปในห้อง เขาจึงใช้ผ้าจับกลไกเปิดห้องลับเพื่อไม่ให้ปรากฏหลักฐาน)

ลู่เจี๋ยนำเหล่านักฆ่าบุกไปชิงคัมภีร์จากสุ่ยหงเสาในห้องลับ แต่สุดท้ายกลับไม่มีใครรอดเพราะถูกสุ่ยหงเสาสังหารด้วยพิษร้ายแรง หลังเปิดประตูห้องลับให้นักฆ่าแล้วเซี่ยซานและข่งเจ๋อจู๋ก็แกล้งตามหลี่เถี่ยซินไปจัดการผู้บุกรุก เซี่ยซานจะป้ายความผิดให้หลี่เถี่ยซินจึงยื่นผ้าเปื้อนผงสีม่วงให้เช็ดคราบเลือด แต่หลี่เถี่ยซินเห็นว่าไหนๆ เสื้อผ้าของตนก็ขาดและเปื้อนเลือดแล้วจึงดึงชายเสื้อมาเช็ดกระบี่ ข่งเจ๋อจู๋เห็นดังนั้นจึงคว้าผ้าในมือเซี่ยซานมาเช็ดดาบของตนแทน  เซี่ยซานห้ามไม่ทันเลยได้แต่อึ้งพูดไม่ออก

หลังได้รับรายงานว่าสุ่ยหงเสาเข้าไปในห้องลับและสังหารผู้บุกรุกด้วยยาพิษร้ายแรง หลี่เถี่ยซินจึงรีบตรงไปยังห้องลับและตำหนิสุ่ยหงเสาที่ใช้วิชามารฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยม เขาเกรงว่าหากมีคนภายนอกรู้เข้าจะทำให้ชื่อเสียงของเยว่หยางเหมินซึ่งเป็นสำนักคุณธรรมต้องมัวหมอง สุ่ยหงเสาแย้งว่าหากใครรู้เข้าว่ามีคนบุกเข้ามาในสำนักเยว่หยางเหมินอย่างง่ายดายทั้งที่มีเวรยามแน่นหนาจะเสื่อมเสียยิ่งกว่า จากนั้นก็ชี้ว่าเยว่หยางเหมินมีศิษย์ทรยศ หลี่เถี่ยซินยืนกรานว่าศิษย์เยว่หยางเหมินทุกคนล้วนจงรักภักดี ไม่มีทางทรยศเด็ดขาด สุ่ยหงเสาเลยเคาะระฆังเรียกศิษย์เยว่หยางเหมินทุกคนมารวมตัวกันเพื่อตรวจสอบดูว่าใครเป็นไส้ศึก




ในที่สุด สุ่ยหงเสาก็พบว่ามือของข่งเจ๋อจู๋เปื้อนผงสีม่วง เธอจึงจ่อดาบไปที่ลำคอของข่งเจ๋อจู๋พลางประกาศว่าเขาคือศิษย์ทรยศ หลังได้ยินว่าข่งเจ๋อจู๋จะถูกคุมตัวเพื่อรอให้เสี่ยนปิงกลับมาสอบสวน ฝานจงซิ่วซึ่งแอบดูอยู่ห่างๆ ก็ซัดเข็มพิษใส่ข่งเจ๋อจู๋ หลี่เถี่ยซินและเหล่าบรรดาศิษย์เยว่หยางเหมินเห็นดังนั้นก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นฝีมือของสุ่ยหงเสาจึงพากันรุมประณามเธอ หลี่เถี่ยซินเชื่อสนิทใจว่าสุ่ยหงเสาเป็นนางมารชั่วช้าที่ฆ่าศิษย์ร่วมสำนักตนอย่างโหดเหี้ยมจึงรู้สึกโกรธแค้น  สุ่ยหงเสายืนกรานว่าตนไม่ได้สังหารข่งเจ๋อจู๋ และลั่นวาจาว่าจะรอเสี่ยนปิงอยู่ที่นี่โดยไม่คิดหนีไปไหน

สุ่ยหงเสาดีใจมากเมื่อเห็นเสี่ยนปิงกลับมา เธอหวังว่าเขาจะพิสูจน์ข้อเท็จจริงและคืนความเป็นธรรมให้เธอ นึกไม่ถึงว่าเขาจะมองเธอเป็นคนร้ายที่ฆ่าข่งเจ๋อจู๋เช่นเดียวกับคนอื่นๆ  ซ้ำยังคิดกักตัวเธอไว้ในสำนัก เพราะหลักฐานพยานต่างๆ ล้วนบ่งชี้ว่าเป็นฝีมือเธอ สุ่ยหงเสาทั้งเสียใจและผิดหวังที่เสี่ยนปิงไม่เชื่อใจเธอ ทั้งยังไม่เชื่อว่าเยว่หยางเหมินมีไส้ศึก เซี่ยซานซึ่งคอยสอดแนมความเคลื่อนไหวของทุกคน แอบฟังเสี่ยนปิงคุยกับหลี่เถี่ยซินทำให้รู้ว่าเสี่ยนปิงจะออกไปตรวจดูศพกลุ่มชายชุดดำ (ที่บุกเข้าไปในห้องลับ)  คืนเดียวกันนั้นสุ่ยหงเสาได้รับจดหมายตัดสัมพันธ์ของเสี่ยนปิง เธอจึงไปหาเสี่ยนปิงที่ห้องด้วยความโกรธแค้น เมื่อพบว่าเขาไม่อยู่เธอจึงประกาศตัดสัมพันธ์กับเสี่ยนปิงต่อหน้าหลี่เถี่ยซินและไปจากเยว่หยางเหมินทันที  เสี่ยนปิงรู้สึกแปลกใจที่อยู่ๆ สุ่ยหงเสาก็ไปจากเยว่หยางเหมิน ซ้ำยังประกาศตัดสัมพันธ์กับตนแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย หลังสุ่ยหงเสาไปจากเยว่หยางเหมิน เซี่ยซานก็นำซองใส่เข็มพิษ (แบบเดียวกับที่ใช้สังหารข่งเจ๋อจู๋) มาให้เสี่ยนปิงดู โดยอ้างว่าพบในห้องของสุ่ยหงเสา เสี่ยนปิงจึงสั่งให้หลี่เถี่ยซินนำคนไปสืบหาเบาะแสของสุ่ยหงเสา จากนั้นก็สั่งให้เซี่ยซานนำเข็มพิษไปเก็บและให้นำจดหมายไปมอบให้ "หลิวเผิงจวี่" (พี่ใหญ่) ที่เขาเฟิ่งหวงหมายเชิญมาช่วยสืบสวนเรื่องยาพิษ




เซี่ยซานรายงานฝานจงซิ่วว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน แต่ยังอดเป็นกังวลเรื่องที่เสี่ยนปิงเชิญหลิวเผิงจวี่มาช่วยสืบสวนเรื่องยาพิษไม่ได้ ฝานจงซิ่วชี้ว่าหลิวเผิงจวี่มีความรู้เรื่องพิษก็จริงแต่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องอาวุธลับเหมือน "หวงสือเซวียน" (พี่รอง) ถึงกระนั้นหวงสือเซวียนก็ไม่มีทางรู้จักเข็มพิษ  "ซี่อวี่หลีฮัว"  (เข็มพิรุณโปรยปรายของตนเพราะเข็มชนิดนี้หายสาบสูญจากยุทธภพนานแล้ว ฝานจงซิ่วมอบยาพิษให้เซี่ยซานสองขวดโดยบอกให้นำมาใช้ในกรณีที่ผลลัพธ์ไม่เป็นดังคาด และย้ำว่าถ้านำมาใช้ต้องทำให้แนบเนียนเหมือนตายด้วยยาพิษของสุ่ยหงเสา เซี่ยซานเสนอให้ใช้โอกาสนี้กำจัดเสี่ยนปิงและหลี่เถี่ยซินเสียเลย ฝานจงซิ่วรู้ว่าเซี่ยซานอยากเป็นเจ้าสำนักเยว่หยางเหมินเต็มแก่จึงกล่าวว่าหากทำงานให้ตนสำเร็จเซี่ยซานจะสมปรารถนาอย่างแน่นอน

ปรากฏว่าหลิวเผิงจวี่ (พี่ใหญ่) พาหวงสือเซวียน (พี่รอง) มาที่เยว่หยางเหมินด้วย เสี่ยนปิงนำซองใส่เข็มพิษที่เซี่ยซานอ้างว่าพบในห้องของสุ่ยหงเสามาให้ทั้งคู่ดู หลังดูเข็มพิษแล้วหวงสือเซวียน  (พี่รอง) ก็ขอตรวจดูศพผู้ตายทั้งหมด เสี่ยนปิงอยากให้ทั้งคู่พักผ่อนก่อน แต่พี่น้องร่วมสาบานทั้งสองไม่อยากรอช้าจึงขอให้พาไปดูศพทันที หลิวเผิงจวี่ (พี่ใหญ่) พบว่าชายชุดดำในห้องลับโดนยาพิษร้ายแรงที่ชื่อ "ชีปู้ต้วนฉางหง" (เจ็ดก้าวคร่าวิญญาณ) ซึ่งเสี่ยนปิงจำได้ว่านั่นเป็นยาที่อาจารย์ของสุ่ยหงเสาเคยปรุงไว้แต่ไม่ได้นำมาใช้ ขณะที่ข่งเจ๋อจู๋ตายเพราะพิษอีกชนิดหนึ่งซึ่งไม่ร้ายแรงเท่าพิษของพรรคตานเฟิ่งเซวียน หลังตรวจดูเข็มพิษที่พบในตัวข่งเจ๋อจู๋แล้วหวงสือเซวียน (พี่รอง) ก็รู้ทันทีว่าเป็นเข็ม "ซี่อวี่หลีฮัว"  (เข็มพิรุณโปรยปรายและผู้ที่ใช้เข็มพิษชนิดนี้จะต้องเป็นยอดฝีมือ เสี่ยนปิงฟันธงว่าต้องเป็นฝีมือของสุ่ยหงเสา แต่หวงสือเซวียนแย้งเป็นนัยๆ ว่าความจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น

หลังอยู่ในห้องตามลำพังกับหลิวเผิงจวี่ หวงสือเซวียนจึงเล่าประวัติความเป็นมาของเข็มพิษซี่อวี่หลีฮัวให้ฟัง โดยบอกว่าสมัยตนอายุ 9 ขวบเคยติดตามอาจารย์ไปที่บ้านสหายท่านหนึ่งและได้เห็นเข็มพิษซี่อวี่หลีฮัวในห้องเก็บอาวุธลับโดยบังเอิญ เมื่ออาจารย์มาพบเข้าจึงบอกให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับเพราะสหายท่านนี้ของอาจารย์เคยก่อกรรมทำเข็ญเป็นมหาโจร หลังกลับตัวกลับใจจึงเก็บซ่อนอาวุธต่างๆ มากมายเอาไว้ในห้องลับเพราะไม่อยากให้ใครรู้เบื้องลึกเบื้องหลัง ความจริงแล้วตนเคยสาบานกับอาจารย์เอาไว้ว่าจะไม่ปริปากพูดเรื่องนี้ แต่เนื่องจากเรื่องนี้มีความเกี่ยวพันกับเสี่ยนปิง (น้องเจ็ด) และสำนักเยว่หยางเหมินตนเลยจำต้องผิดสัญญา ในที่สุดเขาก็บอกหลิวเผิงจวี่ว่าความจริงแล้วเจ้าของเข็มพิษดังกล่าวคือบิดาของฝานจงซิ่ว (ทั้งคู่ไม่รู้ว่าเซี่ยซานแอบฟังอยู่ทางด้านนอก)  




วันรุ่งขึ้นหลิวเผิงจวี่และหวงสือเซวียนถูกพบเป็นศพอยู่ภายในห้อง เซี่ยซานบอกเสี่ยนปิงว่าทั้งคู่ถูกพิษ "ชีปู้ต้วนฉางหง" (เจ็ดก้าวคร่าวิญญาณ) ของพรรคตานเฟิ่งเซวียน เสี่ยนปิงจึงส่งจดหมายไปแจ้งเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธที่เหลือว่าสุ่ยหงเสาลอบสังหารพี่ใหญ่พี่รองของพวกตน เมื่อสุ่ยหงเสาส่งจดหมายนัดพบมาให้ เสี่ยนปิงก็ออกไปพบเธอด้วยความอาฆาตแค้น พอรู้ว่าเสี่ยนปิงยังไม่ล้างมลทินให้เธอ ซ้ำยังยัดเยียดข้อหาใหม่โดยกล่าวหาว่าเธอลอบสังหารหลิวเผิงจวี่และหวงสือเซวียนทั้งๆ ที่เธอไม่รู้จักและไม่มีเรื่องบาดหมางกับทั้งคู่ สุ่ยหงเสาก็รู้สึกจุกในอก เมื่อเสี่ยนปิงบอกให้เธอกลับไปรับโทษที่เยว่หยางเหมิน  สุ่ยหงเสาก็หมดความอดทน เธอจึงท้าสู้กับเสี่ยนปิงเพื่อระบายความโกรธแค้น ถึงกระนั้นเธอก็ยั้งมือไม่ฆ่าเขาทั้งที่ฝีมือเหนือกว่าและนั่นก็ทำให้เธอโดนคมดาบของเสี่ยนปิงจนบาดเจ็บที่แขน  เสี่ยนปิงชะงักไปครู่หนึ่งแต่ยังไม่หยุดโจมตีสุ่ยหงเสา เธอจึงถีบหน้าอกเสี่ยนปิงแล้วเก็บดาบจากนั้นก็บอกให้เขาฆ่าเธอเสีย เสี่ยนปิงฆ่าสุ่ยหงเสาไม่ลงจึงประกาศตัดสัมพันธ์แล้วเดินจากไป  สุ่ยหงเสาได้ยินดังนั้นก็ถึงกับน้ำตาร่วง

"อิ่นเยี่ยนหลิง" (พี่สาม) ตำหนิเสี่ยนปิงที่ยังคงนิ่งดูดายไม่ยอมนำตัวสุ่ยหงเสามาลงโทษ ทั้งๆ ที่เธอฆ่าศิษย์สำนักเยว่หยางเหมินและพี่ใหญ่พี่รองของพวกตน เสี่ยนปิงสงสัยว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลจึงอยากสืบเรื่องราวให้กระจ่างกว่านี้ ที่สำคัญสุ่ยหงเสายืนกรานหนักแน่นว่าเธอไม่รู้จักพี่ใหญ่พี่รองและไม่ได้ฆ่าศิษย์เยว่หยางเหมิน แต่อิ่นเยี่ยนหลิงไม่เชื่อคำพูดของสุ่ยหงเสาและต้องการกำจัดเธอ ถึงกระนั้นเขาก็ยอมรับในหลักการเหตุผลของเสี่ยนปิง คืนนั้นเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธที่เหลืออยู่ (ยกเว้นเสี่ยนปิง) นัดหารือกัน (เย่หม่านซีติดตามเฝิงซิวถังมาเข้าประชุมด้วย)  "หมี่หรูเยียน" (พี่หก) รู้สึกไม่พอใจที่เสี่ยนปิงออกโรงปกป้องสุ่ยหงเสา ส่วนฝานจงซิ่วฟันธงว่าสุ่ยหงเสาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างแน่นอน พอรู้ว่าเสี่ยนปิงจะสืบหาข้อเท็จจริงให้กระจ่างเสียก่อน ฝานจงซิ่วก็บอกทุกคนว่าขืนรอช้าสุ่ยหงเสาคงหนีไปแล้ว เขากล่าวว่าตนมีแผนการบางอย่างมาเสนอทุกคน จากนั้นก็ขอให้เย่หม่านซีออกจากห้องไปก่อน เมื่อเย่หม่านซีออกไปแล้วเขาก็บอกทุกคนว่าแผนการนี้ต้องแอบทำอย่างลับๆ โดยไม่ให้เสี่ยนปิงรู้

ฝานจงซิ่วรู้ว่าเย่หม่านซีรู้วิชาแปลงโฉมจึงเรียกมาพบเป็นการส่วนตัว เขาสั่งให้เย่หม่านซีสะกดรอยตามเสี่ยนปิงซึ่งจะขึ้นไปเจรจากับสุ่ยหงเสาบนเขาหู่มู่เฟิง หากเสี่ยนปิงใจอ่อนหรือเกลี้ยกล่อมสุ่ยหงเสาให้เดินทางไปที่เขาเฟิ่งหวง (ซึ่งเป็นบ้านของหลิวเผิงจวี่กับหวงสือเซวียน)  ไม่สำเร็จ เย่หม่านซีจะต้องสวมรอยเป็นเสี่ยนปิงแล้วมอบจดหมาย (ที่ตนเตรียมไว้) ให้สุ่ยหงเสา  หากทำงานสำเร็จตนจะตบรางวัลให้อย่างงาม เมื่อเห็นย่หม่านซีมีทีท่าลังเล ฝานจงซิ่วจึงกล่อมว่าภารกิจของย่หม่านซีมีผลต่อความอยู่รอดของยุทธภพ แม้จะกลัวถูกสุ่ยหงเสาจับได้แต่ย่หม่านซีอยากเป็นผู้กล้า (ทั้งยังมีใจให้สุ่ยหงเสา) จึงยอมทำตามแต่โดยดี




เสี่ยนปิงพยายามงอนง้อและขอโทษสุ่ยหงเสา จากนั้นก็ชวนเธอไปพบญาติๆ พี่ใหญ่พี่รองของตนบนเขาเฟิ่งหวงเพื่อชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดตามคำแนะนำของพี่ๆ เจ็ดผู้เยี่ยมยุทธ (ที่เหลืออยู่) โดยบอกว่าวิธีนี้ไม่เพียงช่วยให้เธอล้างมลทิน  แต่พี่น้องร่วมสาบานของตนยังรับปากว่าหากเธอยอมไปเขาเฟิ่งหวงจะเลิกขัดขวางการแต่งงานของพวกตน เมื่อเห็นว่าสุ่ยหงเสายังคงยืนนิ่ง เสี่ยนปิงจึงบอกว่าตนจะไปเขาเฟิ่งหวงตามลำพังและหันหลังเดินออกจากห้องทันที  แต่สุ่ยหงเสาไม่ยอมให้เสี่ยนปิงจากเธอไปอีก หลังคืนดีกันแล้วสุ่ยหงเสาก็บอกตามตรงว่า เธอใช่ว่าไม่อยากไปเขาเฟิ่งหวงตามที่เขาร้องขอ เพียงแต่ไม่เชื่อคำพูดพี่น้องร่วมสาบานของเสี่ยนปิง เธอยังบอกอีกว่าเข็มพิษที่ใช้สังหารข่งเจ๋อจู๋ไม่ใช่ของตนแต่อาจารย์เคยเล่าให้ฟังว่ามหาโจรคนหนึ่งเคยใช้อาวุธลับชนิดนี้เมื่อนานมาแล้ว 

สุ่ยหงเสาตั้งข้อสังเกตว่าการที่พี่น้องร่วมสาบานของเสี่ยนปิงเปลี่ยนท่าทีกระทันหันแสดงว่าทุกคนมีแผนการบางอย่าง ก่อนหน้านี้ทุกคนเดินทางมาที่เยว่หยางเหมินเพราะต้องการสังหารตนหมายล้างแค้นให้พี่ใหญ่พี่รอง  แต่แล้วอยู่ๆ กลับบอกว่าหากตนไปเขาเฟิ่งหวงแล้วจะไม่ขัดขวางการแต่งงาน สุ่ยหงเสาคิดว่านี่คือกับดักที่ทุกคนแอบวางแผนกันอย่างลับๆ โดยไม่บอกให้เสี่ยนปิงรู้ เสี่ยนปิงมัวแต่ครุ่นคิดถึงท่าทีของอิ่นเยี่ยนหลิง (พี่สาม) ที่มาคุยกับตนก่อนหน้านี้และแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการสังหารสุ่ยหงเสา เขาจึงไม่ได้ยินที่สุ่ยหงเสาบอกว่าอยากไปจากยุทธภพแล้วใช้ชีวิตในป่าเขาเคียงข้างกันตลอดไป หลังครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วเสี่ยนปิงชักเริ่มคล้อยตามและเป็นห่วงความปลอดภัยของสุ่ยหงเสา เขาจึงบอกว่าถ้าเธอไม่อยากไปเขาเฟิ่งหวงก็รอตนอยู่ที่นี่

เย่หม่านซีซึ่งแปลงโฉมเป็นเสี่ยนปิงตั้งแต่ตอนขึ้นเขา คอยเงี่ยหูฟังทั้งคู่คุยกันและดักซุ่มอยู่ทางด้านนอกตลอดทั้งคืน เขานึกในใจว่าหากตนเป็นเสี่ยนปิงจะออกจากยุทธภพและอยู่เคียงข้างสุ่ยหงเสาตลอดชีวิต  เมื่อเสี่ยนปิงกลับไปในตอนรุ่งสางโดยทิ้งข้อความเอาไว้ว่าตนจะไปเขาเฟิ่งหวงตามลำพัง  เย่หม่านซีก็ย่องเข้ามาสวมรอยเป็นเสี่ยนปิง เขาแอบดูสุ่ยหงเสานอนหลับครู่หนึ่ง พอหันไปเห็นข้อความของเสี่ยนปิงเขาก็หยิบขึ้นมาอ่านแล้วเก็บซ่อนไว้ในเสื้อ เขาจะนำจดหมายของฝานจงซิ่วมาวางทิ้งไว้แทนแต่สุ่ยหงเสาตื่นขึ้นมาเสียก่อน เขาจึงเก็บจดหมายไว้ในเสื้อดังเดิม พอโดนสุ่ยหงเสาสวมกอดจากทางด้านหลังเขาก็ถ่ายทอดข้อความของเสี่ยนปิงให้เธอฟังและขอตัวกลับทันทีเพราะกลัวถูกจับได้ (เขากลัวจนตัวสั่น) ครั้นถูกสุ่ยหงเสายื้อไว้เขาก็แสดงความกังวลใจที่ต้องไปเขาเฟิ่งหวงคนเดียว สุ่ยหงเสาไม่อยากให้เสี่ยนปิงโดนพี่น้องร่วมสาบานรุมรังแกเพราะเกลี้ยกล่อมตนไม่สำเร็จจึงรับปากว่าอีกสามวันจะเดินทางไปเขาเฟิ่งหวง หลังภารกิจสำเร็จเย่หม่านซีในคราบเสี่ยนปิงก็รีบขอตัวกลับ สุ่ยหงเสาจึงหอมแก้มเขาเพื่อเป็นการสั่งลา




เย่หม่านซี (ในคราบเสี่ยนปิง) รีบวิ่งลงจากเขาด้วยหัวใจพองโต ปรากฏว่าฝานจงซิ่วมาดักรอเขาที่กลางทาง พอรู้ว่าอีกสามวันสุ่ยหงเสาจะไปเขาเฟิ่งหวง ฝานจงซิ่วจึงมอบตั่๋วเงินให้เย่หม่านซีและบอกให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ทั้งยังกำชับว่าห้ามบอกแม้กระทั่งพี่ชาย (เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเฝิงซิวถังหรือพี่สี่) และเพื่อป้องกันความลับรั่วไหล ฝานจงซิ่วจึงขอให้เย่หม่านซีไปจากทุกคนชั่วคราว เย่หม่านซีอยากบอกลาเฝิงซิวถังก่อนไปแต่ฝานจงซิ่วกล่าวว่าตนบอกลาให้แล้ว ฝานจงซิ่วยังบอกให้เย่หม่านซีนำกระบี่ปลอม (ที่ทำขึ้นเลียนแบบกระบี่คู่กายของเสี่ยนปิง) ไปทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน จากนั้นก็ห้ามไม่ให้ปลอมเป็นเสี่ยนปิงอีก

พอรู้ว่าสุ่ยหงเสาติดกับพวกตน หมี่หรูเยียน (พี่หก) ก็รู้สึกดีใจที่จะได้แก้แค้นให้พี่ใหญ่พี่รอง เฝิงซิวถัง (พี่สี่) สงสัยว่าฝานจงซิ่ว (พี่ห้า) ใช้วิธีอะไรหลอกล่อให้สุ่ยหงเสาตกหลุมพรางเพราะก่อนหน้านี้เสี่ยนปิงเพิ่งบอกพวกตนว่าสุ่ยหงเสาจะไม่ไปเขาเฟิ่งหวง ฝานจงซิ่วขออุบเอาไว้ก่อนจากนั้นก็ย้ำกับอิ่นเยี่ยนหลิง (พี่สาม) ว่าอย่าให้เสี่ยนปิงรู้เรื่องนี้โดยเด็ดขาด อิ่นเยี่ยนหลิงขอให้ทุกคนช่วยคิดหาวิธีไม่ให้เสี่ยนปิงไปเขาเฟิ่งหวง ปรากฏว่าหมี่หรูเยียนคิดได้วิธีหนึ่ง เย่หม่านซียังคงเดินถือกระบี่ปลอมที่มีตราสัญลักษณ์ของเยว่หยางเหมินห้อยอยู่ เขาไม่อาจลืมช่วงเวลาและความรู้สึกดีๆ ตอนที่โดนสุ่ยหงเสาหอมแก้มได้เลยนึกเป็นห่วงเธอ พอคิดได้ดังนั้นเขาก็รีบตามไปที่เขาเฟิ่งหวงเพราะกลัวว่าเธอจะถูกฆ่า

หลี่เถี่ยซินรับหน้าที่นั่งเฝ้าเสี่ยนปิงหลังเขาถูกหมี่หรูเยียน (พี่หก) วางยาหมายให้หลับยาว ระหว่างเดินทางไปเขาเฟิ่งหวงเฝิงซิวถัง (พี่สี่) ชักเริ่มลังเลเพราะคิดว่าพวกตนทำเกินไปและรู้สึกผิดต่อเสี่ยนปิง แต่อิ่นเยี่ยนหลิง (พี่สาม) แย้งว่าพวกตนไม่มีทางเลือกและที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพื่อล้างแค้นให้พี่ใหญ่พี่รอง ปรากฏว่าเสี่ยนปิงฟื้นคืนสติเร็วเกินคาดเพราะหยกกันพิษของสุ่ยหงเสาช่วยสลายฤทธิ์ยาให้ พอรู้ว่าพี่น้องร่วมสาบานวางแผนสังหารสุ่ยหงเสาที่เขาเฟิ่งหวง เสี่ยนปิงก็รีบควบม้าตามไปทันที เมื่อสุ่ยหงเสาไปที่เขาเฟิ่งหวงก็เรียกหาเสี่ยนปิงแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า  เย่หม่านซีซึ่งแอบสะกดรอยตามมาติดๆ พยายามคิดหาวิธีห้ามไม่ให้สุ่ยหงเสาเข้าไปในห้องแต่ก็สายเกินไป ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าประตูสุ่ยหงเสาก็ถูกขังไว้ด้านในและโดนลอบกัดด้วยค่ายกลแต่เธอก็เอาตัวรอดได้ ถึงกระนั้นเธอก็ไม่คาดคิดว่าเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธที่ได้รับการยกย่องในยุทธภพจะใช้วิธีสกปรกเล่นงานเธอ




หลังจากนั้นไม่นานสุ่ยหงเสาก็ถูกหลอกล่อให้ตกลงไปในโพรงถ้ำใต้ดิน เธอจึงเดินสำรวจพื้นที่โดยรอบเพื่อหาทางออก ฝานจงซิ่วลอบมองเธอจากช่องลับทางด้านบนก่อนชี้ว่าที่นี่มีทางออกทางเดียว เมื่อสุ่ยหงเสาถามหาเสี่ยนปิง ฝานจงซิ่วก็เยาะเย้ยว่าเธอถูกคนรักหักหลัง แม้ไม่เห็นหน้าแต่สุ่ยหงเสาก็รู้ว่าเขาคือคนเจ้าเล่ห์ฝานจงซิ่ว (พี่ห้า) ฝานจงซิ่วยอมรับว่าเป็นตนและเผยธาตุแท้ว่าที่เขาลงทุนลงแรงไปทั้งหมดก็เพื่อแย่งชิงคัมภีร์เซียวเหยาจิง (คัมภีร์สราญ) จากเธอ โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของอิ่นเยี่ยนหลิง (พี่สาม ซึ่งขึ้นเป็นผู้นำเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธแทนพี่ใหญ่ที่ตายไป) สุ่ยหงเสาขอให้ปล่อยตนออกไปก่อนเพราะตนไม่ได้พกคัมภีร์มาด้วย ฝานจงซิ่วไม่เชื่อเพราะก่อนมาที่นี่เขาเข้าไปค้นห้องพักเธอแล้วไม่เจอคัมภีร์ เมื่อสุ่ยหงเสาไม่ยอมมอบคัมภีร์ให้แต่โดยดี ฝานจงซิ่วจึงบอกว่าจะเผาเธอพร้อมยอดคัมภีร์ 

หลังจากนั้นก็เริ่มมีหินถล่มลงมาพร้อมกองไฟ สุ่ยหงเสาได้ยินเสียงเฝิงซิวถัง (พี่สี่) ร้องเรียกฝานจงซิ่วจึงขอร้องให้เขาช่วยเธอเพราะเธอเคยช่วยชีวิตฟางเอ๋อร์ลูกสาวเขา แต่เฝิงซิวถังเดินไปทางอื่นเสียก่อนเลยไม่ได้ยิน สุ่ยหงเสาประณามเฝิงซิวถังที่ไม่รู้บุญคุณคนก่อนลั่นวาจาว่าจะสังหารเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธทุกคน เมื่ออิ่นเยี่ยนหลิง (พี่สาม) และเฝิงซิวถัง (พี่สี่) ออกมายืนที่ปากถ้ำแล้วได้ยินสุ่ยหงเสาประณามสาปแช่งพวกตนก็รู้สึกผิดและสลดใจ ฝานจงซิ่วเห็นทั้งคู่ (โดยเฉพาะเฝิงซิวถัง) ไม่สบายใจจึงปลอบว่าพวกตนทำถูกแล้ว อีกไม่นานนางมารร้ายสุ่ยหงเสาจะกลายเป็นเถ้าถ่านอยู่ที่นี่ หมี่หรูเยียน (พี่หก) เห็นด้วยว่าไม่ควรใจอ่อนและบอกให้ทุกคนกลับไปก่อน ส่วนตนจะอยู่เฝ้าที่นี่ แต่ฝานจงซิ่วบอกว่าตนจะเฝ้าปากถ้ำเอง

เมื่อเสี่ยนปิงมาถึงแล้วได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของสุ่ยหงเสา เขารีบวิ่งไปที่กลไกเปิดประตูถ้ำแต่ฝานจงซิ่วมาเจอเข้าเสียก่อน หลังถูกฝานจงซิ่วจ่อปลายดาบเข้าที่ลำคอ เสี่ยนปิงก็ตำหนิที่ทิ้งตนไว้เบื้องหลัง ฝานจงซิ่วอ้างว่านั่นเป็นแผนของหมี่หรูเยียน (พี่หก) เสี่ยนปิงขอร้องฝานจงซิ่วให้ปล่อยตัวสุ่ยหงเสา โดยบอกว่าอิ่นเยี่ยนหลิง (พี่สาม) รับปากตนแล้วว่าหากเธอพิสูจน์ตนเองได้จะคืนความเป็นธรรมให้เธอ ฝานจงซิ่วอ้างว่าสุ่ยหงเสาจะฆ่าพวกตน พวกตนจึงไม่มีทางเลือก เสี่ยนปิงไม่เชื่อจึงขอเข้าไปพบสุ่ยหงเสาในถ้ำเพื่อสอบถามความจริง เมื่อฝานจงซิ่วยืนกรานว่าจะเผาสุ่ยหงเสาทั้งเป็นให้ได้  ทั้งคู่จึงต่อสู้กันที่หน้าถ้ำ 




ทันใดนั้นก็มีเสียงคน  (เย่หม่านซี) ร้องตะโกนว่าไฟไหม้หอเฟิ่งหวง ฝานจงซิ่วจึงกล่าวหาเสี่ยนปิงว่าเป็นคนวางเพลิง เสี่ยนปิงแย้งว่าตนไม่ได้ทำและจะเปิดประตูถ้ำให้สุ่ยหงเสา พอรู้ว่าพี่น้องร่วมสาบานคนอื่นๆ ล้วนอยู่ในหอที่ถูกเพลิงไหม้เขาก็รู้สึกตกใจ  ฝานจงซิ่วบอกให้เสี่ยนปิงรีบตามตนไปช่วยพี่น้องร่วมสาบานคนอื่นๆ แต่เสี่ยนปิงเลือกที่จะเปิดประตูให้สุ่ยหงเสาก่อน ทันทีที่ประตูถ้ำเปิด สุ่ยหงเสาก็วิ่งเตลิดออกมาด้วยความหวาดกลัวและหมดสติลงตรงหน้าเสี่ยนปิง (ใบหน้าด้านหนึ่งของเธอมีแผลฉกรรจ์) เมื่อได้ยินเสี่ยนปิงร้องเรียก สุ่ยหงเสาก็รู้สึกตัวอีกครั้ง ครั้นพอเห็นหน้าเสี่ยนปิงเธอก็ร่ำไห้และวิ่งหนีเพราะอับอายที่ใบหน้าเสียโฉม เสี่ยนปิงจะเดินเข้าไปหาแต่สุ่ยหงเสาขู่ว่าหากเขาเข้ามาใกล้เธอจะฆ่าตัวตาย หลังตำหนิเสี่ยนปิงแล้วเธอก็ลั่นวาจาว่าจะแก้แค้นทุกคนและวิ่งหนีไป 

เหล่าพี่น้องร่วมสาบานของเสี่ยนปิงต่างตกอยู่ในสภาพมอมแมมหลังเกิดเพลิงไหม้ หมี่หรูเยียน (พี่หก) มั่นใจว่าถ้าไม่ใช่เสี่ยนปิงก็ต้องเป็นศิษย์เยว่หยางเหมินที่ฉวยโอกาสวางเพลิง เพราะเขาพบตราสัญลักษณ์ของเยว่หยางเหมิน (ที่ห้อยติดดาบปลอมของเย่หม่านซี) ในที่เกิดเหตุ เสี่ยนปิงยืนกรานกับอิ่นเยี่ยนหลิง (พี่สาม) ว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อิ่นเยี่ยนหลิงไม่ติดใจเรื่องวางเพลิง เขาอยากรู้แค่ว่าตอนนี้สุ่ยหงเสาอยู่ที่ไหนเพราะถ้าหากเธอรอดชีวิต ทุกคนจะมีภัย เมื่อเสี่ยนปิงยืนกรานว่าตนไม่รู้ หมี่หรูเยียนจึงประกาศตัดความสัมพันธ์กับเสี่ยนปิงก่อนชักดาบหมายสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่งแต่พี่ๆ ทุกคนห้ามไว้ เสี่ยนปิงคุกเข่าต่อหน้าทุกคนพลางบอกว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด เขาเชื่อว่าสักวันความจริงจะปรากฏ จากนั้นก็ขอขมาพี่ๆ ทุกคนและเดินจากไป




เย่หม่านซีเห็นสุ่ยหงเสานอนหมดสติกลางป่าจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยก่อนที่กลุ่มชายชุดดำซึ่งถูกส่งมาฆ่าเธอจะพบเข้า จากนั้นก็แบกเธอไปรักษาตัวในถ้ำ เมื่อสุ่ยหงเสารู้สึกตัวก็สงสัยว่าเย่หม่านซีเป็นใคร ทำไมถึงช่วยเธอ เย่หม่านซีโกหกว่าตนชื่อ "เย่หยวน" บังเอิญผ่านมาพบเข้าจึงช่วยเหลือเพราะกลัวว่าเธอจะตาย

"หลานไฉ่อิง"    ศิษย์น้องของเฝิงซิวถัง (พี่สี่) (ภายหลังเป็นแม่บุญธรรมของ "หลานเอ๋อร์" หรือ "อวี้ฉือหลานซิน") มาเยี่ยมหลานๆ ที่บ้านเฝิงซิวถังและหารือกับเขาเรื่องสุ่ยหงเสา (ระหว่างนั้นฟางเอ๋อร์พาน้องสาวตัวน้อย "หลานเอ๋อร์" ออกไปเล่นในสวน พอน้องร้องไห้เธอก็มอบปิ่นมุกให้น้องเพื่อเป็นการปลอบใจ  โดยปิ่นดังกล่าวเป็นปิ่นมุกกันพิษที่สุ่ยหงเสามอบให้เธอไว้ขจัดพิษในกาย) หลานไฉ่อิงตำหนิเหล่าเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธที่ทำกับสุ่ยหงเสาอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตเกินไป เฝิงซิวถังเองก็รู้สึกผิดต่อสุ่ยหงเสาแต่ไม่อาจย้อนเวลาแก้ไขอะไรได้ หลานไฉ่อิงเชื่อว่าหลังใบหน้าที่เคยงดงามต้องมีอันเสียโฉมสุ่ยหงเสาคงยิ่งเคียดแค้น จากนั้นก็เตือนว่าจากนี้ไปเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธคงอยู่อย่างไม่สงบแน่ เฝิงซิวถังรู้สึกค้างคาใจจึงเล่าให้ศิษย์น้องของตนฟังว่า ตอนที่อยู่บนเขาเฟิ่งหวงตนได้ยินฝานจงซิ่วเอ่ยปากขอคัมภีร์เซียวเหยาจิง (คัมภีร์สราญ) จากสุ่ยหงเสา หลานไฉ่อิงรู้สึกแปลกใจที่ฝานจงซิ่วรู้ว่าคัมภีร์ดังกล่าวอยู่ในมือสุ่ยหงเสา ซึ่งเฝิงซิวถังเองก็สงสัยในเรื่องนี้เช่นกัน 

สุ่ยหงเสามองแผลไฟไหม้บนใบหน้าของตนในกระจก จากนั้นก็สั่งให้เย่หยวน (เย่หม่านซี) ไปสืบข่าวเฝิงซิวถัง (พี่สี่) และตรวจสอบดูว่าปิ่นมุกที่เธอเคยมอบให้ฟางเอ๋อร์ยังอยู่หรือไม่ เมื่อสุ่ยหงเสาสั่งให้วาดแผนผังบ้านเฝิงซิวถังมาให้ตนโดยละเอียด เย่หยวน (เย่หม่านซี)  ก็รู้สึกตกใจเพราะเฝิงซิวถังมีศักดิ์เป็นพี่ชายตน เขาถามสุ่ยหงเสาว่าจะเอาแผนผังไปทำอะไรแต่สุ่ยหงเสาไม่ยอมบอก ถึงกระนั้นเขาก็ยอมทำตามทุกอย่างเพราะความรักที่มีต่อสุ่ยหงเสา 




อิ่นเยี่ยนหลิง (พี่สาม) นำของขวัญวันเกิดไปมอบให้เฝิงซิวถัง (พี่สี่) ที่บ้าน และถือโอกาสปรึกษาเรื่องราวบางอย่าง ในตอนนั้นฟางเอ๋อร์และหลานเอ๋อร์กำลังเล่นปิดตาซ่อนหา หลังจากหลานเอ๋อร์แอบไปซ่อนหลังโขดหินได้ไม่นาน สุ่ยหงเสาก็บุกมาทวงปิ่นมุกกับฟางเอ๋อร์ ฟางเอ๋อร์ไม่ยอมบอกว่าปิ่นมุกอยู่กับน้องสาวแต่กลับลวงสุ่ยหงเสาเข้าไปในห้องลับ (หอฝึกยุทธของพ่อ) ที่เต็มไปด้วยกับดักและอาวุธลับแทน หลังทั้งคู่ถูกขังอยู่ในตาข่าย สัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้น สุ่ยหงเสาโกรธที่โดนเด็กหลอกและบอกให้ฟางเอ๋อร์พาตนออกไป ฟางเอ๋อร์ไม่ยอมทำตาม ซ้ำยังบอกอย่างไม่เกรงกลัวว่าพ่อของตนกำลังพาคนมาที่นี่ สุ่ยหงเสาจึงชักดาบแล้วจ่อไปลำคอของฟางเอ๋อร์ นึกไม่ถึงว่าฟางเอ๋อร์ไม่กลัวตาย แถมยังขู่กลับว่าหากตนถูกสังหาร พ่อและน้าสุ่ยซึ่งชำนาญเรื่องยาพิษไม่ปล่อยเธอไว้แน่ (ฟางเอ๋อร์ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเธอคือสุ่ยหงเสา) สุ่ยหงเสาได้ยินดังนั้นจึงสกัดจุดให้เด็กน้อยหมดสติแล้วพยายามฟันตาข่ายให้ขาด

อิ่นเยี่ยนหลิง (พี่สาม) และเฝิงซิวถัง (พี่สี่) ได้ยินสัญญาณเตือนจึงรีบมาที่หอฝึกยุทธ พอรู้ว่าฟางเอ๋อร์ถูกผู้บุกรุกจับเป็นตัวประกันทั้งคู่ก็รู้สึกตกใจ เมื่อสุ่ยหงเสาขู่ว่าจะฆ่าฟางเอ๋อร์หากไม่ยอมปล่อยตนจากค่ายกล อิ่นเยี่ยนหลิงจึงอาสาเข้าไปดูฟางเอ๋อร์ทางด้านในโดยบอกให้เฝิงซิวถังคอยคุมค่ายกลทางด้านนอก เขาเห็นหน้าสุ่ยหงเสาไม่ถนัดจึงถามว่าคนจวนเฝิงทำอะไรผิดต่อเธอถึงได้จับฟางเอ๋อร์เป็นตัวประกัน เขาขอให้เธอปล่อยตัวฟางเอ๋อร์แล้วหันมาเจรจากัน หากเธอยอมปล่อยตัวฟางเอ๋อร์พวกตนก็จะยอมปล่อยเธอ เขานึกไม่ถึงว่าเธอจะรู้วิธีแก้ค่ายกลของเฝิงซิวถัง และไม่คาดคิดว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคือสุ่ยหงเสา หลังแก้ค่ายกลแล้วสุ่ยหงเสาก็โยนฟางเอ๋อร์ให้อิ่นเยี่ยนหลิงแล้วจู่โจมเขาทันที  อิ่นเยี่ยนหลิงต่อสู้ไม่ถนัดเพราะต้องอุ้มฟางเอ๋อร์ เขาจึงได้แต่คอยหลบหลีกคมดาบของสุ่ยหงเสาทำให้ตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำและได้รับบาดเจ็บ ในที่สุดสุ่ยหงเสาก็ชิงตัวฟางเอ๋อร์กลับคืนมาและสังหารอิ่นเยี่ยนหลิงโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว




เมื่อสุ่ยหงเสานำตัวฟางเอ๋อร์ซึ่งยังคงหมดสติออกมาทางด้านนอก เฝิงซิวถังก็รู้สึกเอะใจที่อิ่นเยี่ยนหลิงไม่ได้ตามออกมาด้วย พอเห็นสุ่ยหงเสาหัวเราะด้วยความสะใจ เฝิงซิวถังก็เดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจะล้างแค้นให้อิ่นเยี่ยนหลิงแต่เนื่องจากฟางเอ๋อร์อยู่ในมือสุ่ยหงเสาเขาเลยลงมือไม่ถนัด เขาห้ามไม่ให้ลูกน้องลงมือและรีบส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่สุ่ยหงเสาชิงลงมือก่อน (โดยใช้ฟางเอ๋อร์เป็นโล่ เฝิงซิวถังกลัวลูกสาวเป็นอันตรายจึงไม่กล้าตอบโต้ทำให้ถูกสุ่ยหงเสาใช้พลังภายในซัดยาพิษร้ายแรงใส่ ไม่นานเขาก็ล้มลงไปนอนแน่นิ่ง ขณะที่สุ่ยหงเสากำลังต่อสู้กับลูกน้องของเฝิงซิวถัง เย่หยวน (เย่หม่านซี) ก็กระโดดลงมาจากหลังคาแล้วปาระเบิดควันเพื่อเปิดทางให้สุ่ยหงเสาหลบหนี ขณะเดียวกันก็แอบโยนยาถอนพิษไว้ให้เฝิงซิวถัง สุ่ยหงเสานำตัวฟางเอ๋อร์ไปอยู่กับตนด้วย จากนั้นก็ให้เธอกินยาลบความทรงจำแล้วตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "กานสือจิ่วเม่ย"  หลังถ่ายทอดและฝึกวิชาให้กานสือจิ่วเม่ยอย่างเข้มงวดแล้ว สุ่ยหงเสาก็ส่งเธอไปล้างแค้นเจ็ดผู้เยี่ยมยุทธ (ที่ยังมีชีวิตอยู่) ในอีก 16 ปีต่อมา 

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรติดตามชมได้ใน "ประกาศิตนางมาร (Sister Gan Nineteen)" ทางช่องโมโนพลัส

* เนื้อหาโดย luvasianseries






นักแสดง

 

จางติ้งหาน
รับบท กานสือจิ่วเม่ย / ฟางเอ๋อร์ (ลูกสาวเฝิงซิวถัง)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

ชุยเผิง
รับบท อิ่นเจี้ยนผิง / เสี่ยวซื่อ (ลูกชายอิ่นเยี่ยนหลิง)
(นักแสดง / ผู้ดำเนินรายการ ชาวจีน)


 

ฉินเสวี่ย
รับบท สุ่ยหงเสา
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เริ่นหาน
รับบท อวี้ฉือหลานซิน / หลานเอ๋อร์ (น้องสาวกานสือจิ่วเม่ย)
(นักแสดง ชาวจีน)


  

ซ่งหมินอวี่
รับบท ฝานอิ๋นเจียง (ลูกชายฝานจงซิ่ว)
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)


 

ซุนปินฮ่าว
รับบท เยี่ยนชุนเหลย
(นักแสดง ชาวจีน)


 

ต่งป๋อรุ่ย
รับบท หร่วนสิง
(นักแสดง ชาวจีน)


 

อิ่นเจี้ยน
รับบท อู๋ชิ่ง
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หลี่ว์หยวนเถียน
รับบท เย่หยวน / เย่หม่านซี (ลูกพี่ลูกน้องของเฝิงซิวถัง)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เผยเจียงถง
รับบท หลี่เถี่ยซิน
(นักแสดง ชาวจีน)



จ้าวไห่หาน
รับบท ฮัวเอ้อร์หลาง
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หวังเจิน
รับบท เหมียวซี่เยว่
(นักแสดง ชาวจีน)


เจ็ดผู้เยี่ยมยุทธ


หลี่ไห่ตง 
รับบท หลิวเผิงจวี่ (ผู้เยี่ยมยุทธลำดับที่หนึ่ง) 
(นักแสดง ชาวจีน)
** ไม่พบรูปนักแสดง**


 

จี้หย่งชิง 
รับบท หวงสือเซวียน (ผู้เยี่ยมยุทธลำดับที่สอง)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

อวี๋หมิงหยาง 
รับบท อิ่นเยี่ยนหลิง (ผู้เยี่ยมยุทธลำดับที่สาม / พ่อของอิ่นเจี้ยนผิง) 
(นักแสดง ชาวจีน)


 

โหมวเสี่ยวตง
รับบท เฝิงซิวถัง  (ผู้เยี่ยมยุทธลำดับที่สี่ / พ่อของฟางเอ๋อร์และหลานเอ๋อร์)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

จางเจิน
รับบท ฝานจงซิ่ว (ผู้เยี่ยมยุทธลำดับที่ห้า)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หม่าเหยียน
รับบท หมี่หรูเยียน (ผู้เยี่ยมยุทธลำดับที่หก / เจ้าสำนักซวงเฮ่อถัง)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หวังอวี่
รับบท เสี่ยนปิง  (ผู้เยี่ยมยุทธลำดับที่เจ็ด)
(นักแสดง ชาวจีน)



ตัวอย่างตอนสำคัญ


*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา