วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เรื่องย่อ ปิ๊งรักหมดใจยัยมือปราบ (Double Happiness)




กำกับ: จงสู่เจีย
เขียนบท: หลี่เจิ้งหู่, หูเสี่ยวซ่วย, อวี๋เหมี่ยว, เยี่ยหนาน
แนวละคร: ย้อนยุค, สืบสวน, คอมเมดี้
จำนวนตอน: 36
ออกอากาศ: ไทย - ทุกคืนวันพุธ-ศุกร์ เวลา 02.30-03.30 น. ทางไทยรัฐทีวี (หมายเลข 32) ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2561 - 20 กันยายน 2561

 

  


เรื่องย่อ



ละคร "ปิ๊งรักหมดใจยัยมือปราบ (Double Happiness)" นำเสนอเรื่องราวในสมัยราชวงศ์หมิง เนื้อหากล่าวถึงสองสาว "ตงฟางเล่อ" กับ "ลู่เสี่ยวฮวน" ซึ่งมีภูมิหลัง เป้าหมาย และบุคลิกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแต่ชะตาฟ้าลิขิตให้มาพบและเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข แถมทั้งคู่ยังจับพลัดจับผลูมาเป็นคู่หูมือปราบของสำนัก "ไคว่เตาเหมิน" (สำนักกระบี่เร็ว) จึงต้องร่วมมือกันไขคดีสำคัญๆ ให้กับทางราชสำนัก จนกระทั่งได้พบรักแท้

ละครเปิดฉากด้วยการอ้างถึงอาเพศหรือปรากฏการณ์ประหลาดเมื่อครั้งในอดีต เมื่ออยู่ๆ ก็มีหินเพลิง (อุกกาบาต) พุ่งลงมาจากท้องฟ้าและถล่มเมืองหลวง เป็นเหตุให้บ้านเรือนพังพินาศและมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก โดยเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้กลายเป็นตำนานเล่าขานและยังคงเป็นที่เคลือบแคลงว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ แต่แล้วอยู่ๆ ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดที่สร้างความโกลาหลขึ้นในเมืองหลวงอีกครั้ง เมื่อเงินในท้องพระคลังอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้ "จางฮองเฮา" กริ้วหนักมาก องค์หญิง "เจียชิ่ง" ได้ยินข้ารับใช้สาวพูดคุยกันเรื่องนางจิ้งจอกเก้าหางที่สวมชุดสีขาวบุกเดี่ยวเข้ามาขโมยเงินในยามวิกาล ซ้ำยังมีอิทธิฤทธิ์แก่กล้าเป็นที่หวาดกลัวแก่ผู้พบเห็น จึงแย้งว่าในวังไม่มีนางจิ้งจอก และขู่ว่าถ้าใครเอ่ยถึงนางจิ้งจอกให้ได้ยินอีกจะโดนตัดลิ้น

ทันใดนั้นก็มีเสียงคนร้องเรียกนางจิ้งจอก ปรากฏว่า "ลู่เสี่ยวฮวน" กำลังวิ่งไล่จับหญิงชุดขาวที่บุกเข้ามาในวังหลวงโดยใช้วิชาตัวเบาอันล้ำเลิศ (ลู่เสี่ยวฮวนไม่รู้วิชาตัวเบาเลยได้แต่วิ่งตามทางด้านล่าง) องค์หญิงเจียชิ่งได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโกรธจึงวิ่งเข้ามาขวางลู่เสี่ยวฮวนพลางหยิบกรรไกรออกมาขู่ว่าจะตัดลิ้น แต่ลู่เสี่ยวฮวนไม่สนใจ เธอต้องการจับนางจิ้งจอกให้ได้จึงผลักองค์หญิงให้พ้นทาง ที่แท้หญิงสาวที่ลู่เสี่ยวฮวนตามไล่ล่าและหลงคิดว่าเป็นนางจิ้งจอกคือ "ตงฟางเล่อ" เธอเหินลงมาเหยียบหลังองค์หญิงเจียชิ่ง (ซึ่งกำลังจะลุกขึ้นหลังโดนผลักจนล้มคว่ำ) ก่อนสปริงตัวขึ้นหลังคาแล้วหนีไปอีกครั้ง




ขณะเดียวกันเหล่าทหารยามได้กระจายกำลังออกติดตามผู้ที่บุกรุกเข้ามาในวังหลวง หลังหลบหลีกทหารยามจนรอดพ้น ตงฟางเล่อก็เดินบ่นด้วยความหงุดหงิดที่มีคนมาป่วนจนเสียเรื่องและเกือบทำให้ชุดเธอหมดสวย เธอไม่ทันระวังตัวเลยถูกลู่เสี่ยวฮวนจ่อดาบเข้าที่ลำคอ ไม่นานเหล่าทหารยามก็ตามมาพบจึงตรงเข้าจับกุมทั้งคู่ ลู่เสี่ยวฮวนประกาศว่าตนเป็นมือปราบของสำนักไคว่เตาเหมิน ได้รับมอบหมายให้มาสืบคดีปล้นเงินท้องพระคลัง หลังโดนลู่เสี่ยวฮวนตราหน้าว่าขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เหล่าทหารยามจึงลังเลไม่กล้าจับกุม ครั้นองค์หญิงเจียชิ่งตามมาพบจึงสั่งให้ทหารจับกุมทั้งคู่ ตงฟางเล่อกับลู่เสี่ยวฮวนเห็นท่าไม่ดีเลยรีบเผ่น

ฮ่องเต้บังคับให้ขันทีคนสนิทสวมชุดมังกรแล้วสวมรอยเป็นตนโดยให้แกล้งนอนป่วยอยู่บนเตียง เมื่อขันทีหนุ่มคุกเข่าขอร้องให้ทรงเปลี่ยนพระทัย ฮ่องเต้จึงห้ามไม่ให้เรียกตนว่าฝ่าบาทเพราะนับจากนี้ตนจะเป็นเพียงสามัญชนที่มีชื่อว่า "หลี่เจียงหู"  และจะกลับตำหนักในอีก 3 วันข้างหน้า ในเวลาเดียวกันนั้น ตงฟางเล่อกับลู่เสี่ยวฮวนได้พร้อมใจกันวิ่งหนีเหล่าทหารและองค์หญิงเข้ามาในเขตพระราชฐาน จึงเริ่มทำความรู้จักและผูกมิตรกัน หลังได้รับรายงานว่าเหล่าทหารยังจับผู้บุกรุกหญิงทั้งสองคนไม่ได้ จางฮองเฮาจึงกริ้วมากและขู่ว่าหากทหารเหล่านั้นไม่มีปัญญาจับแม้กระทั่งผู้หญิงจะมีโทษประหารทั้งหมด

พอรู้ว่าพวกตนอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นใน ตงฟางเล่อเลยขอให้ลู่เสี่ยวฮวนพาตนไปที่ตำหนักฮ่องเต้โดยบอกว่าจะพาเหาะขึ้นหลังคาเป็นการตอบแทน ลู่เสี่ยวฮวนได้ยินดังนั้นจึงตกปากรับคำทันที ในตอนนั้นฮ่องเต้ (ซึ่งสวมชุดแบบสามัญชน) กำลังถีบขันที (ซึ่งสวมชุดมังกรและพยายามยื้อยุดฉุดขาฮ่องเต้) จนหงายหลังลงไปกองกับพื้น ตงฟางเล่อได้ยินเสียงคนคุยกันทางด้านในจึงชักมีดสั้นแล้วปรี่เข้าไปในห้องหมายปลงพระชนม์ เธอไม่ทันเห็นว่ามีคนนอนกองอยู่บนพื้นจึงสะดุดขา (ขันที) แล้วเสียหลักโผเข้าหาฮ่องเต้ในสภาพปากชนปาก ก่อนพากันล้มลงทั้งคู่โดยที่ปากยังคงชนกัน ขันทีจะร้องเรียก 'ฝ่าบาท' ด้วยความเป็นห่วง ฮ่องเต้เลยรีบเอามือปิดปากไว้




ลู่เสี่ยวฮวนเห็นตงฟางเล่อเงื้อมีดสั้นเข้าหาขันที (เพราะคิดว่าเป็นฮ่องเต้) จึงเอาตัวขวางไว้และเตือนว่าตนเป็นมือปราบ ตงฟางเล่อแย้งว่าลู่เสี่ยวฮวนเป็นเพียงโจรภูเขา ลู่เสี่ยวฮวนเถียงว่าวันนี้เป็นโจรแต่พรุ่งนี้ตนจะได้เป็นมือปราบ ตนจึงมีหน้าที่ปกป้องฮ่องเต้ ฮ่องเต้เห็นดังนั้นจึงขอขัดจังหวะด้วยการถามชื่อแซ่ตงฟางเล่อ ตงฟางเล่อนึกว่าเขาเป็นขันทีจึงขู่ว่าถ้าไม่อยากตายก็อย่ามายุ่ง ฮ่องเต้จึงบอกว่าตนชื่อหลี่เจียงหู แฝงตัวอยู่ที่นี่มานาน 3 ปีหมายลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เช่นเดียวกับเธอ แต่ลงมือทีไรก็เจอแต่ตัวปลอม เขาบอกเธอว่าฮ่องเต้ที่อยู่ตรงหน้าก็เป็นตัวปลอมเช่นกัน จากนั้นก็เปิดผ้าให้สาวๆ เห็นเต็มสองตาว่าชายคนดังกล่าวเป็นขันทีจริง สองสาวเห็นดังนั้นจึงกรี๊ดลั่นจนเหล่าทหารได้ยิน ฮ่องเต้ (ต่อจากนี้จะเรียกว่า "หลี่เจียงหู") เลยแกล้งทุบขันทีจนสลบก่อนพาสองสาวหนีไปทางอุโมงค์ลับ

หลี่เจียงหูสงสัยว่าทำไมตงฟางเล่อถึงคิดลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้ ตงฟางเล่อจึงเล่าว่าแท้จริงแล้วตนชื่อ "วังหมิงจู" เป็นลูกสาวขุนนางใหญ่ "วังเหวินเหยียน" ซึ่งจงรักภักดีต่อฮ่องเต้ แต่ภายหลังกลับโดนใส่ร้ายและถูกประหารทั้งครอบครัวเมื่อสามปีก่อน ตนเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตจึงเปลี่ยนชื่อแซ่และรอโอกาสแก้แค้นมาตลอดสามปี ตงฟางเล่อเชื่อว่าฮ่องเต้เป็นคนสั่งประหารคนในครอบครัวเธอจึงคิดปลงพระชนม์เพื่อเป็นการล้างแค้น หลี่เจียงหูแย้งว่าเธอเข้าใจผิด ก่อนพูดกลบเกลื่อนว่าตนไม่เคยเห็นฮ่องเต้ยุ่งเกี่ยวเรื่องราชกิจ ถึงกระนั้นตงฟางเล่อยังคงปักใจเชื่อว่าฮ่องเต้เป็นตัวการจึงหมายมั่นว่าสักวันจะสังหารฮ่องเต้ให้ได้

วันรุ่งขึ้นสำนักไคว่เตาเหมิน และ "สำนักอวี้ซ่านเหมิน" (สำนักพัดหยก) ได้จัดงานประลองเพื่อคัดเลือกยอดฝีมือมาเป็นมือปราบใหม่ "ไช่เสี่ยวเม่ย" เข้ามารายงาน "ซ่างกวนจูโหว" ซึ่งนั่งดูเวทีฝ่ายตรงข้ามเปิดการประลองอย่างยิ่งใหญ่ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ว่า ไทเฮามีรับสั่งให้พวกตนคลี่คลายคดีเงินท้องพระคลังภายในสามวันมิเช่นนั้นจะยึดป้ายสำนักมือปราบอันดับหนึ่ง ใต้เท้าซ่างกวนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกหนักใจเพราะสำนักไคว่เตาเหมินของตนไม่รุ่งโรจน์เหมือนในอดีตและกำลังอยู่ในช่วงขาลง  ไช่เสี่ยวเม่ยจึงปลอบว่าการประลองวันนี้จะทำให้ยอดฝีมือปรากฏ หากได้พวกเขามาร่วมสำนักก็จะช่วยกอบกู้สถานการณ์ ใต้เท้าซ่างกวนจึงชี้ว่ายอดฝีมือน่ะมีแน่แต่แห่ไปประลองที่สำนักอวี้ซ่านเหมินจนหมด (เจ้าสำนักอวี้ซ่านเหมินไม่เพียงรับสมัครยอดฝีมือ แต่ยังรับคนฝีมือพอใช้ได้เข้าสำนักด้วย ทั้งนี้เพื่อไม่ให้คนเหล่านั้นไปเข้าสำนักไคว่เตาเหมิน) 




หลังหนีออกจากวังได้แล้ว หลี่เจียงหูจึงชวนสองสาวไปเปลี่ยนชุด แต่ลู่เสี่ยวฮวนร้อนใจจึงรีบแยกตัวไปก่อน ปรากฏว่าในตลาดมีทหารกระจายกำลังออกตามล่าสองสาวแทบทุกหนทุกแห่ง ถึงกระนั้นลู่เสี่ยวฮวนก็ยังหนีมาเข้าร่วมการประลองบนเวทีขนาดเล็กและแสนเงียบเหงาของสำนักไคว่เตาเหมินจนได้ (เธอฝันอยากเข้าร่วมสำนักมือปราบอันดับหนึ่ง) และยังได้พบลูกน้องสองคนที่ลงเขามาด้วยกันอีกด้วย ตงฟางเล่อมาตามหาลู่เสี่ยวฮวนที่ลานประลองโดยมีหลี่เจียงหูวิ่งตามมาด้วย ครั้นได้ยินว่าถ้าเข้าร่วมสำนักอวี้ซ่านเหมินจะมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ เธอจึงคิดที่จะเขาร่วมการประลอง ความจริงแล้วตงฟางเล่อมีความรอบรู้เรื่องเพลงยุทธ์ของสำนักต่างๆ ทั้งยังสามารถวิเคราะห์กระบวนท่า จุดแข็งจุดอ่อน และประเมินฝีมือของผู้ใช้วิชาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ น่าเสียดายที่เธอเก่งด้านทฤษฎีมากกว่าการปฏิบัติ ผิดกับลู่เสี่ยวฮวนที่นอกจากการขโมยแล้วแทบไม่รู้อะไรสักอย่าง แต่ใจกล้าบ้าบิ่น มีความเชื่อมั่น และพร้อมลุยทุกเมื่อ

ใต้เท้าซ่างกวนเห็นตงฟางเล่อกำลังวิเคราะห์ฝีมือผู้เข้าประลอง (ของสำนักอวี้ซ่านเหมิน) ให้หลี่เจียงหูฟัง ก็เห็นแววว่าจะเป็นมือปราบที่ดีได้จึงชี้ให้ไช่เสี่ยวเม่ยดู ตงฟางเล่อใช้วิชาตัวเบาอันล้ำเลิศเหินขึ้นไปบนเวทีประลองของสำนักอวี้ซ่านเหมิน เจ้าสำนักเห็นดังนั้นจึงบอก "หลินอวี่เยียน" ผู้เป็นลูกสาวว่ายอดฝีมือปรากฏตัวแล้ว แต่หลินอวี่เยียนไม่คิดเช่นนั้น ตงฟางเล่อตั้งใจว่าจะเหินขึ้นไปยืนบนกลองอย่างโดดเด่นและสง่างามแต่กลองกลับหมุนติ้วจนเธอทรงตัวไม่อยู่และพลัดตกจากเวทีต่อหน้าธารกำนัล (ทำให้แพ้ตั้งแต่ยังไม่สู้) โชคดีที่หลี่เจียงหูวิ่งมารับทัน




ทันใดนั้นก็มีเหล่าทหารควบม้าตรงมายังลานประลองหลี่เจียงหูจึงรีบพาตงฟางเล่อหนี ขณะที่ลู่เสี่ยวฮวนชวนสมุนทั้งสองหนีไปอีกทางหนึ่ง (ใต้เท้าซ่างกวนกับไช่เสี่ยวเม่ยเห็นดังนั้นก็รู้สึกเสียดายเพราะหมายตาสองสาวไว้) หลี่เจียงหูพาตงฟางเล่อหนีเข้าไปในตลาดที่มีคนพลุกพล่านและเกิดพลัดหลงกันระหว่างหลบขบวนทหารที่ขี่ม้าผ่านมา ตงฟางเล่อจึงออกตามหาลู่เสี่ยวฮวน ลู่เสี่ยวฮวนอาสาช่วยลูกน้องแบกเสบียงกลับไปฝากคนที่ป้อมโดยให้แยกกันกลับเพื่อความปลอดภัย (เธอเป็นผู้นำป้อมบนเขาอู่หลง) ตงฟางเล่อเห็นดังนั้นจึงสะกดรอยตามลู่เสี่ยวฮวนไปยังป้อมบนภูเขา ครั้นเห็นทหารบุกมาที่ป้อมตงฟางเล่อจึงรีบปิดประตูแล้วร้องเตือนลู่เสี่ยวฮวน ปรากฏว่าทหารจับลูกน้องวัยเด็กของลู่เสี่ยวฮวนเป็นตัวประกันโดยขู่ว่าจะฆ่าทิ้งเสียหากลู่เสี่ยวฮวนไม่ยอมมอบตัวแต่โดยดี ลู่เสี่ยวฮวนจึงบอกลาทุกคนแล้วออกไปมอบตัวโดยมีตงฟางเล่อตามออกไปด้วย และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน

ขณะที่ทหารกำลังจะควบคุมตัวสองสาว ใต้เท้าซ่างกวนก็เข้ามาขวางในนามเจ้าสำนักไคว่เตาเหมิน เขาชูป้ายทองแล้วอ้างว่าทั้งคู่เป็นมือปราบที่ตนส่งไปสืบหาเบาะแสนางจิ้งจอกในวังหลวง หลังพบว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดเหล่าทหารจึงถอนกำลังทันที นับจากนั้นสองสาวจึงกลายเป็นมือปราบของสำนักไคว่เตาเหมิน และภารกิจแรกของพวกเธอก็คือการไขปริศนาคดีขโมยเงินในท้องพระคลัง

* เนื้อหาโดย luvasianseries




รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ

 

เจียงข่ายถง
รับบท ตงฟางเล่อ (วังหมิงจู)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

สงไหน่จิ่น
รับบท ลู่เสี่ยวฮวน
(นักแสดง ชาวจีน)


 

ไจ๋เทียนหลิน
รับบท หลี่เจียงหู
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เว่ยเชียนเสียง
รับบท หวงเสี่ยวอวี๋
(นักแสดง ชาวจีน)

อื่นๆ

 

หลินอวี้คุน
รับบท จินอู๋ฮัว
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เถียนอวี่ถิง
รับบท หลินอวี่เยียน
(นักแสดง / โปรดิวเซร์ ชาวจีน)


 

เจียงซีหยวน
รับบท ชุ่ยเตี๋ย
(นักแสดง ชาวจีน)




*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

1 ความคิดเห็น:

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา