กำกับ: ชเว อึนคยอง, ลี ฮยองซอน
เขียนบท: ฮา ชองอ๊ก
แนวละคร: ครอบครัว, โรแมนติก คอมเมดี้
จำนวนตอน: 50
ออกอากาศ: เกาหลี - 6 เมษายน 2556 - 22 กันยายน 2556 ทางเอ็มบีซี
ไทย - ทุกวันพุธ-ศุกร์ เวลา 9.00-11.00 น.และ 20.30 - 22.30 น. ทางพีพีทีวี ออกอากาศ 6 สิงหาคม 2557 - 29 ตุลาคม 2557
เรื่องย่อ
ละคร "บ้านป่วนก๊วนไฮโซ" หรือที่รู้จักกันในชื่อ I Summon You, Gold! / Let The Gold Come Forth / Show Me the Gold / Gold, Out! และ Pots of Gold นำเสนอเรื่องราวของชนชั้นกลางในเกาหลีใต้ที่ต้องการอัพเกรดตัวเองให้เป็นไฮโซ (ด้วยการแต่งงานกับลูกเศรษฐี) โดยละครสะท้อนค่านิยมและเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมผ่านมุมมองของความรัก การใช้ชีวิตคู่ และการหย่าร้าง
"จอง มงฮี" และ "ซอน ยูนา" เป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาเหมือนกันดุจฝาแฝด แต่ถ้าตัดเรื่องหน้าตาออกไปแล้ว ทั้งคู่กลับมีชีวิตที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว มงฮี เป็นคนสดใส ร่าเริง และสู้ชีวิต ด้วยความที่ไม่ได้เรียนต่อเพราะต้องเสียสละให้น้อง เธอจึงเลี้ยงชีพและหาเงินจุนเจือครอบครัวด้วยการตั้งแผงขายเครื่องประดับและของแต่งตัวข้างถนน โดยฝันว่าสักวันจะเป็นนักออกแบบจิวเวลรี่ ขณะที่ ยูนา เป็นทั้งลูกบุญธรรมและสะใภ้เศรษฐีที่มีนิสัยเย่อหยิ่ง เย็นชา พูดจาขวานผ่าซาก ไม่แคร์ความรู้สึกของคนรอบข้าง
สามีของยูนา คือ "ปาร์ก ฮยอนซู" ลูกชายคนโตของนักธุรกิจจิวเวลรี่ ขณะที่ทั้งคู่มีปัญหาและกำลังจะหย่าร้างกัน ฮยอนซูก็กำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะ "ฮยอนจุน" น้องชายต่างมารดาซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทจิวเวลรี่ ต้องการแย่งตำแหน่งผู้สืบทอดและซีอีโอไปจากเขา เขาจึงต้องเร่งพิสูจน์ตัวเองให้พ่อเห็นทั้งในเรื่องงานและเรื่องครอบครัว หลังยูนาย้ายออกไปแล้ว เขาจึงขอร้อง (จ้าง) ให้มงฮีซึ่งหน้าตาเหมือนยูนามาสวมรอยเป็นภรรยาเพื่อสร้างภาพว่าตนเองไม่มีปัญหาเรื่องชีวิตคู่
เรื่องราวในละครเริ่มต้นขึ้นที่กรุงโซล ขณะที่ "จอง มงฮี" ซึ่งลักลอบตั้งแผงลอยขายเครื่องประดับและของแต่งตัวข้างถนนกำลังร้องเรียกลูกค้า เธอก็ถูกเจ้าของร้านขายของที่เปิดทำการอย่างถูกต้องออกมาไล่ หลังเคยเตือนหลายหนแล้วว่าอย่าตั้งแผงบังหน้าร้าน ครั้นพอเห็นมงฮีนำของแบบเดียวกันมาวางขายตัดหน้าในราคาที่ถูกกว่า เธอก็หมดความอดทนจึงโทรฯ ไปร้องเรียนเทศกิจ มงฮีเห็นดังนั้นจึงเข้าไปขัดขวางพลางขอร้องไม่ให้คู่กรณีเอาเรื่องตน ทำให้ถูกผลักจนเซถลาไปชนแผงเครื่องประดับ พอเห็นเครื่องประดับหล่นกระจายเกลื่อนพื้นมงฮีก็โวยวายลั่นพลางร้องเรียกค่าเสียหาย เจ้าของร้านขายของจึงโทรฯ แจ้งตำรวจ มงฮีเห็นดังนั้นเลยรีบขอโทษและรับปากว่าจะไม่ตั้งแผงบังหน้าร้านอีก
ขณะที่มงฮียืนจ้องเครื่องประดับเพชรที่หน้าร้านจิวเวลรี่อย่างชื่นชม "ยูน ชิมด็อก" (แม่ของมงฮี) ซึ่งทำงานในร้านดังกล่าวก็ออกมาเตือนว่าถ้าพนักงานในร้านเห็นเข้าจะไม่พอใจ (เพราะมงฮีแต่งกายซอมซ่อ) แต่มงฮีหาได้แคร์ไม่ เธอถามแม่ว่าสร้อยเพชรเส้นนี้ราคาเท่าไหร่ ชิมด็อกตอบว่าถ้าคนหาเช้ากินค่ำอย่างพวกตนอยากได้สร้อยแบบนี้ก็ต้องขายบ้านกันเลยทีเดียว มงฮีเห็นลูกค้าคนหนึ่งกำลังเดินตรงมาที่ร้านจึงรีบบอกแม่ แต่ความจริงแล้วคนที่มงฮีเห็นคือ "จาง ต๊อกฮี" ภรรยาเจ้าของร้านนั่นเอง
ต๊อกฮีมาเลือกดูเครื่องประดับเพื่อนำไปเป็นของขวัญวันเกิดให้ลูกสะใภ้ใหญ่ตามคำสั่งของสามี ระหว่างนั้นมงฮียังคงด้อมๆ มองๆ อยู่ทางด้านนอก เมื่อเห็นสร้อยเพชรเส้นที่เธอชอบถูกนำใส่ถาดไปให้ต๊อกฮีดู มงฮีก็ได้แต่ถอนใจ (แค่ดูเฉยๆ ยังไม่มีบุญ) พลางนึกสงสัยว่าผู้หญิงแบบไหนกันที่ใส่สร้อยเพชรราคาแพงเช่นนี้
ต๊อกฮีมาเลือกดูเครื่องประดับเพื่อนำไปเป็นของขวัญวันเกิดให้ลูกสะใภ้ใหญ่ตามคำสั่งของสามี ระหว่างนั้นมงฮียังคงด้อมๆ มองๆ อยู่ทางด้านนอก เมื่อเห็นสร้อยเพชรเส้นที่เธอชอบถูกนำใส่ถาดไปให้ต๊อกฮีดู มงฮีก็ได้แต่ถอนใจ (แค่ดูเฉยๆ ยังไม่มีบุญ) พลางนึกสงสัยว่าผู้หญิงแบบไหนกันที่ใส่สร้อยเพชรราคาแพงเช่นนี้
ปรากฏว่าเจ้าของสร้อยเพชรเส้นดังกล่าวก็คือ "ซอน ยูนา" ภรรยาของ "ปาร์ก ฮยอนซู" (ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของ "ปาร์ก ซุนซัง" เจ้าของร้านจิวเวลรี่) เธอมีสีหน้าเรียบเฉยและไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรหลังได้รับสร้อยเพชรเส้นใหญ่เป็นของขวัญ ซ้ำยังทำหน้าเหนื่อยหน่ายเมื่อได้รับคำอวยพรจากทุกคนในครอบครัวของฮยอนซู พอรู้ว่าพ่อสามีเตรียมจัดงานวันเกิดให้ ยูนาก็หักหน้าด้วยการบอกให้ยกเลิก โดยอ้างว่าเธอจะไปฉลองวันเกิดที่คลับบาร์กับเพื่อนสนิท ซุนซังแย้งว่าแขกที่ตนเชิญมาร่วมงานล้วนเป็นคนสำคัญของบริษัท ยูนาแย้งกลับอย่างไม่แยแสว่า คนพวกนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับเธอ และเธอก็ไม่อยากได้คำอวยพรจากคนแปลกหน้า
ต๊อกฮีเตือนยูนาว่า แม้เธอจะเติบโตที่อเมริกาทำให้ไม่รู้จักมารยาททางสังคมของชาวเกาหลี แต่การพูดเช่นนั้นถือเป็นการลบหลู่พ่อสามี และอาจทำให้คนอื่นคิดว่าเธอขาดการอบรม ยูนากล่าวว่าเธอเป็นแค่เด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง แถมพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไม่ได้รักเธอเลยสักนิดแล้วจะให้เธอถูกอบรมมาดีได้อย่างไร ทุกคนถึงกับช็อคเมื่ออยู่ๆ ยูนาก็ขอหย่ากับฮยอนซู เธอกล่าวว่าที่ขอหย่าเป็นไม่ได้เป็นเพราะฮยอนซู แต่เป็นเพราะพ่อสามี เธอไม่ต้องการเป็นหุ่นเชิดและไม่อาจทนอยู่อย่างอึดอัดได้อีกต่อไป
หลังกลับมาถึงบ้าน ฮยอนซูบอกยูนาว่าเขาและเธอหย่ากันไม่ได้ ยูนาสวนทันควันว่าจะให้เธอทนอยู่เพื่อใคร เพื่อพ่อของเขาที่ใช้เงินลูกสะใภ้ในการทำธุรกิจ หรือเพื่อตัวฮยอนซูเองที่ต้องกลายเป็นหมาหัวเน่าหลังแม่แท้ๆ ของเขาถูกเขี่ยออกจากบ้าน แต่หลังจากมีเธอเคียงข้างก็ทำให้เขากลายเป็นคนสำคัญอีกครั้ง ยูนาให้เหตุผลว่าถึงยังไงเธอกับเขาก็ต้องเลิกกันสักวันอยู่แล้ว ฮยอนซูจึงขอความเห็นใจเพราะเขากำลังตกที่นั่งลำบาก ยูนารู้ว่าการที่เขาต้องทนอยู่กับผู้หญิงที่ตัวเองไม่ได้รักทุกคืนมันน่าอึดอัดใจไม่ใช่น้อย และเขาก็คงลำบากใจมากที่ต้องแกล้งทำเป็นรักเธอ แต่ยิ่งเขาพยายามมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่น่าสมเพช
ฮยอนซูรู้ว่ายูนานำความคับแค้นใจทั้งหมดมาระบายลงที่ตน แต่การถูกภรรยาหักหน้าต่อหน้าครอบครัวครั้งแล้วครั้งเล่าก็ทำให้เขากลายเป็นคนที่น่าสมเพชในสายตาคนอื่นเช่นกัน เขาจึงบอกยูนาว่าอย่างน้อยก็ควรไว้หน้ากันบ้างเพราะถึงยังไงเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอ พูดจบฮยอนซูก็เดินออกจากห้อง แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดกึกเมื่อยูนากระชากสร้อยเพชรออกจากคอแล้วเขวี้ยงทิ้งอย่างไม่ใยดีพลางกรีดร้องว่าเธอไม่เคยอยากได้ของแบบนี้เลยสักนิด
ฮยอนซูรู้ว่ายูนานำความคับแค้นใจทั้งหมดมาระบายลงที่ตน แต่การถูกภรรยาหักหน้าต่อหน้าครอบครัวครั้งแล้วครั้งเล่าก็ทำให้เขากลายเป็นคนที่น่าสมเพชในสายตาคนอื่นเช่นกัน เขาจึงบอกยูนาว่าอย่างน้อยก็ควรไว้หน้ากันบ้างเพราะถึงยังไงเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอ พูดจบฮยอนซูก็เดินออกจากห้อง แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดกึกเมื่อยูนากระชากสร้อยเพชรออกจากคอแล้วเขวี้ยงทิ้งอย่างไม่ใยดีพลางกรีดร้องว่าเธอไม่เคยอยากได้ของแบบนี้เลยสักนิด
ในขณะที่ยูนาไม่เห็นค่าของสร้อยเพชรราคาแพงที่เธอได้มาง่ายๆ มงฮีกลับต้องดิ้นรนหาเงินตัวเป็นเกลียว แต่ดูเหมือนว่าวันนี้โชคจะไม่เข้าข้างเธออีกครั้ง เพราะขณะที่เธอกำลังขายหมวกให้ลูกค้าก็มีคนตะโกนบอกว่าเทศกิจกำลังมา เธอจึงรีบเก็บข้าวของแบบลวกๆ แล้วลากรถเข็นหนีทำให้กิ๊บและที่คาดผมหล่นหายไปเป็นจำนวนมาก เธอจึงตัดสินใจซื้อรถขายของมือสองเพื่อลดความเสียหาย และเพื่อความสะดวกในการหลบหนีเจ้าหน้าที่เทศกิจ
ในเวลาเดียวกันนั้น ยูนานั่งรถหรูมาที่ร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนม ต๊อกฮีเห็นยูนาเลือกเสื้อเพียงตัวเดียว จึงบอกให้ยูนาเลือกดูอีกโดยบอกว่าสามีเธอเป็นคนจ่าย ยูนาจึงชี้นิ้วบอกพนักงานแบบส่งเดช จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าบนราวมา 3-4 ชุดแล้วยื่นให้พนักงาน เมื่อเห็นพนักงานขายจ้องแหวนเพชรเม็ดโตของเธออย่างตกตะลึง ยูนาก็ถามว่าไม่เคยเห็นคนใส่แหวนหรือ พนักงานคนดังกล่าวรีบขอโทษแล้วบอกว่าเธอไม่เคยเห็นเพชรเม็ดใหญ่กับตามาก่อน (เคยเห็นแต่ในรูปภาพ) ยูนาตัดบทด้วยการบอกให้พนักงานขายนำเสื้อผ้าไปใส่ถุงโดยไม่ยอมลอง เมื่อพนักงานขายถามว่าจะรับน้ำชาระหว่างรอไหม ยูนาก็บอกว่าเธอจะไม่ดื่มอะไรซี้ซั๊วเวลาอยู่นอกบ้าน ต๊อกฮีตำหนิยูนาที่พูดจาไม่ไว้หน้าคนอื่น ยูนาจึงอ้างว่าถ้าไม่ได้พูดในสิ่งที่คิดเธอจะรู้สึกอึดอัดจนต้องอาเจียนออกมา จากนั้นก็บ่นว่ารู้สึกปวดหัวและขอตัวไปพักผ่อนในรถ
ต็อกฮีเห็นยูนาถอดแหวนเพชรใส่กล่องรับบริจาคช่วยเหลือเด็กป่วย จึงทักท้วงว่านั่นเป็นแหวนแต่งงาน ยูนาตอบแบบไม่แคร์ว่า เธอและฮยอนซูกำลังจะหย่ากัน แหวนวงนั่นจึงไม่มีความหมายสำหรับเธออีกต่อไป เธอเลยอยากนำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์.... ผิดกับมงฮีที่รู้สึกใจหายหลังต้องกดเงิน 5 ล้านวอน (ราว 1.6 แสนบาท) มาซื้อรถขายของมือสอง หลังออกรถแล้วเธอก็ขับรถไปขายของพลางร้องเพลงอย่างมีความสุข ระหว่างจอดติดไฟแดง มงฮีอธิษฐานให้วันนี้ขายได้ 1.5 แสนวอน (เกือบ 5 พันบาท) หลังจากนั้นไม่นานรถของเธอก็เริ่มขัดข้องและเครื่องดับกลางถนน กว่าจะรู้ตัวว่าโดนหลอกให้ซื้อรถหมดสภาพ คนขายก็ปิดมือถือหนีแล้ว
ซุนซังฟังลูกชายคนรอง "ปาร์ก ฮยอนจุน" (ลูกชายต็อกฮี) พรีเซนต์แผนงานด้วยความภาคภูมิใจ หลังออกจากห้องประชุมแล้วเขากล่าวชม "ซองอึน" (สะใภ้รอง) ว่าทีมออกแบบทำงานได้ดีมาก จากนั้นก็หันไปถามชิมด็อกว่ายอดขายเพิ่มขึ้นไหม ชิมด็อกกล่าวว่ามีเพียงลูกค้าระดับบนสุด (กลุ่มมหาเศรษฐีซึ่งมีเพียง 1% ของประชากรทั้งหมด) เท่านั้นที่มาซื้อสินค้าในร้าน จึงไม่ได้ทำการโฆษณาอย่างเต็มที่ (ฮยอนจุนและซองอึนถึงกับหน้าถอดสี) ซุนซังถามชิมด็อก (เขาเรียกเธอว่าผู้จัดการยูน ) ว่าทำไมถึงไม่เข้าร่วมการประชุม เขาอยากฟังความเห็นจากคนที่ติดต่อกับลูกค้าโดยตรงจึงบอกให้ชิมด็อกเข้าร่วมประชุมคราวหน้า ชิมด็อกดีใจมากที่ซุนซังให้ความสำคัญกับตน
หลังซุนซังออกไปแล้ว ซองอึนก็ถามชิมด็อกด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า "คิดว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิวเวลรี่หรือไง" ชิมด็อกไม่อยากมีปัญหาเลยโทรฯ ไปบอกซุนซังว่าเธอติดงานสำคัญจึงเข้าประชุมครั้งหน้าไม่ได้
"จอง มงฮยอน" เห็นมงฮีเก็บตัวอยู่แต่ในห้องจึงเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง ปรากฏว่ามงฮียังคงเจ็บใจที่สูญเงินก้อนใหญ่ (ซึ่งเป็นเงินที่เธอเก็บสะสมไว้เรียนต่อด้านการออกแบบ) ทำให้ไม่มีอารมณ์กินข้าว มงฮยอนซึ่งรู้ความจริงทุกอย่างพยายามหว่านล้อมให้มงฮีหาอะไรรองท้องบ้าง เธอจะนำอาหารขึ้นมาให้ที่ห้องแต่มงฮีปฏิเสธและกำชับว่าอย่าบอกแม่เด็ดขาด มงฮยอนเห็นอาการพี่สาวแล้วรู้สึกสงสารและเห็นใจแต่เธอก็ไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้
ต็อกฮีนำสร้อยเพชรที่ยูนากระชากและเขวี้ยงทิ้งจนขาดมาให้ชิมด็อกส่งซ่อม ทำให้ได้เจอมงฮยอนซึ่งบังเอิญมาหาแม่ที่ร้าน เธอรู้สึกประทับใจในกิริยามารยาทอันงดงามของหญิงสาวจึงอยากได้มาเป็นสะใภ้เล็ก เมื่อกลับถึงบ้านเธอก็เลียบๆ เคียงๆ ถามซุนซังเกี่ยวกับชิมด็อก ซุนซังกล่าวอย่างชื่นชมว่าชิมด็อกทำงานกับตนมานานและเป็นพนักงานที่ซื่อสัตย์ เขาไม่รู้เลยว่าที่ผ่านมาชิมด็อกโดนสะใภ้รองของเขาดูถูกและโขกสับตลอดเวลา
แม้จะทำงานที่ร้านเพชรมาโดยตลอด แต่ชิมด็อกไม่เคยมีเพชรเป็นของตัวเอง เธอจึงได้แต่ฝันว่าสักวันจะมีชีวิตที่ร่ำรวย เมื่อทำตามฝันไม่ได้เธอก็ส่งต่อความฝันมายังรุ่นลูก ไม่ว่าจะเป็นการตั้งชื่อลูกๆ ให้ไพเราะเหมือนบรรดาลูกไฮโซ และการเตรียมมงฮยอนให้มีคุณสมบัติเพียบพร้อมสำหรับการเป็นสะใภ้เศรษฐี เธอลงทุนซื้อเสื้อผ้าดีๆ ให้มงฮยอนและจับมงฮยอนนัดบอดกับลูกคนรวยทุกอาทิตย์ แม้มงฮยอนจะมีสมบัติผู้ดีและแลดูเพียบพร้อม แต่บรรดาคู่เดทต่างพากันเผ่นแน่บเมื่อรู้ว่าพ่อของเธอไม่มีงานทำ (เกษียณจากตำแหน่งหัวหน้าแผนกของบริษัทเล็กๆ) แถมพี่ชายยังว่างงาน ส่วนพี่สาวเป็นแม่ค้าที่ตั้งแผงลอยขายเครื่องประดับข้างถนน
หลังโดนหลอกให้ซื้อรถหมดสภาพ มงฮีก็ออกตามหาคนขายรถที่ชื่อ "โอ ซังกู" เพื่อทวงเงินคืน พอไปเห็นบ้านของซังกูซึ่งอยู่ในสภาพโกโรโกโส แถมแม่ของเขายังต้องหาเลี้ยงตนเองและหลานด้วยการเก็บเศษกระดาษขายทั้งๆ ที่อายุมากแล้ว เธอก็ชักไม่แน่ใจว่าจะได้เงินคืนหรือไม่ ซ้ำร้ายแม่ซังกูยังบอกว่าลูกชายเธอไม่ได้อยู่ที่นี่ นานๆ ครั้งจึงกลับมาเยี่ยมบ้านสักที ผิดกับครอบครัวมงฮีที่อยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก แถมยังมียายอีกคนซึ่งคอยดูแลงานบ้านแทนแม่ของเธอ แต่ปัญหาก็คือยายกับย่าของเธอไม่ค่อยลงรอยกัน
เมื่อเห็นสามีหงุดหงิดที่ลูกชายคนเล็ก "ปาร์ก ฮยอนแท" ออกไปก่อเรื่องนอกบ้านอีกตามเคย ต็อกฮีจึงแนะนำให้จับฮยอนแทแต่งงานกับมงฮยอน โดยหวังว่าแต่งงานแล้วฮยอนแทจะเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น ซึ่งซุนซังเองก็ไม่ขัดข้อง (ฮยอนแทดังในทางลบ จึงไม่มีตระกูลไหนอยากให้ลูกสาวมาแต่งงานด้วย) เขาบอกให้ต็อกฮีไปถาม "มิน ยองเอ" (ภรรยารอง) ซึ่งเป็นแม่แท้ๆ ของฮยอนแทดูก่อนว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ พอรู้ว่า (ว่าที่) สะใภ้ของตนเป็นเพียงลูกสาวพนักงานในร้าน ยองเอก็โวยลั่น ต็อกฮีจึงตัดบทด้วยการบอกว่าเธอและสามีตัดสินใจแล้ว
มงฮีกลับไปที่บ้านซังกูอีกครั้งและพบว่าแม่ของเขากำลังหอบเสื่อผ้าพาหลานออกจากบ้าน เพราะที่ดินแถบนั้นกำลังจะถูกเวนคืน เธอกับหลานเช่าบ้านอยู่เลยไม่ได้เงินชดเชย มิหนำซ้ำยังค้างค่าเช่าบ้านทำให้โดนยึดเงิดมัดจำ เธอไม่มีทางเลือกเลยต้องนำหลานไปฝากไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก ส่วนตัวเธอเองจะไปอยู่ที่บ้านพักคนชรา มงฮีเห็นสองย่าหลานต้องพลัดพรากจากกันแล้วรู้สึกสะเทือนใจจนน้ำตาคลอเบ้า
คืนนั้น พ่อของฮยอนซูโทรฯ มาบอกว่ายูนาขับรถไปประสบอุบัติเหตุ พอรู้ว่าผู้ชายที่อยู่ในรถยูนาไม่ใช่ลูกชายคนโตของตน พ่อของฮยอนซูก็โกรธมาก เขาเรียกฮยอนซูมาที่บ้านแล้วดุด่าอย่างรุนแรงโทษฐานที่เอาภรรยาไม่อยู่ ซ้ำยังพูดเหน็บแนมถึงแม่ของเขา (โกรธแม่แต่มาลงที่ลูก) และขู่ว่าถ้ายูนาพูดเรื่องหย่าอีกครั้งเขาได้กลายเป็นหมาหัวเน่าแน่ ต็อกฮีได้ยินดังนั้นก็แอบสะใจ (เธอเคยบอกฮยอนซูว่าที่พ่อเกลียดเขาเป็นเพราะแม่ของเขาแอบมีชู้) ขณะที่ฮยอนซูได้แต่นั่งน้ำตาคลอเบ้า
มงฮีนั่งรอซังกูริมถนนจนดึกดื่น พอเจอซังกูเธอก็รีบตะครุบแขนพลางบอกว่าไม่ต้องหนีเพราะเธอไม่ได้มาทวงเงิน เธอแค่อยากขอร้องให้เขาเลี้ยงดูลูกชายด้วยตนเองถึงแม้ว่าจะแร้นแค้นเพียงใดก็ตาม ซังกูสารภาพว่าที่เขาหลอกลวงเธอก็เพราะเหตุนี้ เขาอยากนำเงินไปเช่าบ้านหลังใหม่ที่สามารถเข้าอยู่ได้ทันที แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขากลับละอายใจจนไม่กล้าใช้เงินเธอ เมื่อซังกูยื่นซองเงินคืนให้ มงฮีก็นึกถึงตอนที่ลูกชายของซังกูร้องไห้จ้าหลังถูกส่งตัวไปสถานรับเลี้ยงเด็ก เธอจึงปฏิเสธที่จะรับเงินคืน
หลังจากนั้นก็เริ่มมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นในครอบครัวของมงฮี เมื่อต็อกฮีนัดเจอชิมด็อกเพื่อขอมงฮยอนไปเป็นสะใภ้เล็ก ส่วนมงฮีเพิ่งซ่อมรถขายของเสร็จและพร้อมลุยขายอีกครั้ง เธอราดโซจูใส่รถเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยพลางขอให้เงินทองไหลมาเทมา แต่ขับออกไปได้ไม่นานก็มีรถหรูคันหนึ่งตัดหน้า มงฮีเบรคไม่ทันจึงชนรถคันดังกล่าวเข้าอย่างจัง เธอรีบลงไปต่อว่าคู่กรณีด้วยความโมโห ปรากฏว่าคนที่ขับรถหรูตัดหน้าเธอก็คือ ฮยอนซู!
ฮยอนซูถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นหน้ามงฮี (หน้าเหมือนภรรยาของเขาเปี๊ยบ) เขาจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนถามด้วยความสงสัยว่าเธอเป็นใครมาจากไหน และจ้องมองเธออย่างไม่วางตา เมื่อเห็นเขาเดินตรงเข้ามาหาราวกับต้องมนต์ มงฮีก็ผลักอกเขาออกแล้วตรงไปสำรวจรถ แต่ฮยอนซูกลับคว้าแขนมงฮีเอาไว้ เพื่อที่จะดูหน้าเธอให้ชัดๆ อีกครั้ง
และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นติดตามชมได้ใน "บ้านป่วนก๊วนไฮโซ (I Summon You, Gold!)"
* เนื้อหาโดย luvasianseries
นักแสดงนำ
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา