วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2564

เรื่องย่อ บันทึกรักสิบสองปีศาจ (Twelve Legends)




กำกับ: เฉินซูเหลียง, เจี่ยฟาง
เขียนบท: จางเชา
แนวละคร: แฟนตาซี, ย้อนยุค
จำนวนตอน: 32
ออกอากาศ: จีน - 27 มีนาคม 2564 ทางโยวคู่
                  ไทย - ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 น. ทางช่อง MONO29 ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 - 21 ธันวาคม 2564 (ดูครบทุกตอนได้ทาง MONOMAX)



 


เรื่องย่อ



ละคร "บันทึกรักสิบสองปีศาจ" (Twelve Legends) ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง "สือเอ้อร์ถาน" (十二谭) ของ "หนีหลัว" เหตุการณ์หลักในละครเกิดขึ้นยุคสาธารณรัฐจีน เนื้อหากล่าวถึงตำนานรักพันปีระหว่างศิลาเทพกับมุกราตรี "จินซิ่งเจียน" และ "เย่หมิง" ตลอดจนความรักต่างเผ่าพันธุ์ระหว่างมนุษย์กับเหล่าปีศาจ 

เรื่องราวในละครสืบเนื่องจากเหตุการณ์ยุคบรรพกาล (เนื้อหาในที่นี้ไล่เรียงตามลำดับเหตุการณ์ เน้นเฉพาะเรื่องราวของตัวละครหลัก) หลังผานกู่เบิกฟ้า (แยกฟ้าดินออกจากกัน) เจ้าแม่หนี่วาได้นำศิลามาอุดรอยรั่วบนท้องฟ้า ศิลาแปดก้อนของเจ้าแม่หนี่วาได้ตกลงสู่แดนมนุษย์และก่อตัวเป็นเขาอวี้ (ภูผาหยก) โดยศิลาทั้งแปดก้อนนี้คือร่างจริงของ "จินซิ่งเจียน" ส่วน "เย่หมิง" เดิมเป็นดาวบนท้องฟ้ายามราตรี เธอไม่ชอบความเงียบเหงามืดมนและไม่อยากลงเอยด้วยการเป็นดาวตก เลยกลายร่างเป็นมุกราตรีแล้วตกลงสู่เขาอวี้บนโลกมนุษย์ (ซึ่งเป็นการทำผิดกฏสวรรค์) เย่หมิงมีสถานะเป็นปีศาจ เธอไม่เคยรู้เลยว่าที่ผ่านมาตนเองไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว เพราะนับแต่ครั้งบรรพกาลจินซิ่งเทียนได้คอยเฝ้ามองและอยู่เคียงข้างเธอมาโดยตลอด (เขาอวี้ที่เธอพักพิงคือจินซิ่งเทียน) นอกจากนี้ เขายังช่วยปกป้องเธอจากอสนีบาตเพราะเธอเข้าไปหลบอยู่ภายในถ้ำที่ลึกมากๆ ของเขาอวี้ (เย่หมิงทำผิดกฏสวรรค์เลยต้องเผชิญอสนีบาตทุกหนึ่งพันปี แต่จินซิ่งเจียนซึ่งเป็นภูเขารับอสนีบาตครั้งแรกแทนเธอ นั่นจึงทำให้เขาบาดเจ็บและต้องฟื้นฟูพลังใหม่) 


 

วันหนึ่งเย่หมิงพบเด็กชายตัวน้อยบุกรุกเข้ามาในบ้านและเรียกเธอว่า 'พี่สาว' (เขารู้ว่าเธอเป็นปีศาจ) เย่หมิงรู้สึกแปลกใจเมื่อพบว่าร่างเดิมของเด็กน้อยคือศิลาก้อนเล็กๆ เพราะเธอไม่เคยได้ยินว่ามีศิลาที่กลายร่างเป็นปีศาจ เด็กน้อยชี้ว่าตนไม่ใช่ปีศาจแต่เป็นเทพ ครั้นรู้ว่าเดิมทีเด็กน้อยเป็นศิลาบนเขาคุนหลุน เธอจึงเดาว่าเขาคงเป็นศิลาวิเศษที่เจ้าแม่หนี่วานำมาใช้ซ่อมฟ้า เด็กน้อยคอยตามติดเย่หมิงไม่ห่างโดยอ้างว่าตนไม่มีที่ไป เย่หมิงยอมให้เด็กน้อยอยู่ร่วมชายคาในฐานะน้องชาย และบอกให้เขาเรียนรู้วิถีมนุษย์จากตน  เด็กน้อยแย้งว่าตนไม่ได้มาที่นี่เพื่อเรียนรู้การเป็นมนุษย์แต่ตั้งใจมาหาเย่หมิงโดยเฉพาะ เย่หมิงนึกว่าเด็กน้อยพูดเพ้อเจ้อแต่เขาพูดจากใจจริง เธอเห็นว่าเด็กน้อยยังไม่มีชื่อเลยตั้งชื่อตามร่างจริงว่า "เสี่ยวสือโถ้ว" (ศิลาน้อย)

เสี่ยวสือโถ้วตะลึงมองเย่หมิงพลางกล่าวชมเธอว่างดงามยิ่งนัก เย่หมิงตำหนิเสี่ยวสือโถ้วว่าเป็นเด็กแก่แดด และห้ามเขาพูดจาเยี่ยงนี้ (เกี้ยวพาเธอ) ต่อหน้าผู้อื่น แม้ร่างเป็นเด็กแต่เสี่ยวสือโถ้วถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุคบรรพกาลและเฝ้าดูเย่หมิงมานาน เขาจึงหวงแหนและคอยขัดขวางทั้งคนและปีศาจที่มาชอบเธอ ทั้งยังลั่นวาจาว่าหากตนโตขึ้นเมื่อไหร่จะคอยปกป้องเธอ เขาจริงใจถึงขั้นนำศิลา (หยก) ทั้งแปดของตนมาแกะสลักเป็นตราประทับแล้วมอบให้เย่หมิง เย่หมิงไม่รับเพราะรู้ว่าเป็นร่างจริงของเสี่ยวสือโถ้ว ทั้งยังเตือนว่าไม่ควรนำศิลาของตนไปมอบให้คนอื่น แต่เสี่ยวสือโถ้วแย้งว่าเย่หมิงไม่ใช่คนอื่นสำหรับตน




ครั้นเย่หมิงคบหากับบัณฑิตหนุ่ม (มนุษย์) นาม "อวี๋เส้าไป๋"  เสี่ยวสือโถ้วจึงคอยกลั่นแกล้งและกีดกัน เพื่อไม่ให้ทั้งคู่สมหวังและอยากให้เย่หมิงเลิกมองตนเป็นน้องชาย เสี่ยวสือโถ้วจึงจำแลงร่างเป็นชายหนุ่ม แต่เย่หมิงยังคงปฏิบัติกับเขาเสมือนเป็นน้องชายดังเดิม (เนื่องจากเสี่ยวสือโถ้วโตเป็นหนุ่มภายในวันเดียว เย่หมิงเลยบอกอวี๋เส้าไป๋ว่าเขาเป็นน้องชายอีกคน) อวี๋เส้าไป๋เบื่อหน่ายความยากจนและไม่อยากจมปลักจึงทิ้งเย่หมิงไปสมัครเป็นทหารแนวหน้าโดยไม่สนว่าเธอจะรอหรือไม่ (เสี่ยวสือโถ้วโกรธมากที่เขาทิ้งเย่หมิงไป) เย่หมิงเป็นห่วงอวี๋เส้าไป๋จึงตามไปช่วย (ชุบ) ชีวิตเขาในสนามรบหลายครั้งหลายคราโดยไม่ฟังคำเตือนของเสี่ยวสือโถ้วที่บอกว่าเธอกำลังฝืนลิขิตสวรรค์

เมื่ออวี๋เส้าไป๋รู้ว่าเย่หมิงมีพลังพิเศษเขาจึงคิดไม่ซื่อ หลังเย่หมิงแบ่งมุกราตรีให้ครึ่งหนึ่ง เขาจึงวางแผนชิงมุกราตรีอีกครึ่งเพื่อที่ตนจะได้มีพลังพิเศษและเป็นอมตะบ้าง เขารู้ตัวว่าตราบใดที่ตนยังเป็นมนุษย์ย่อมไม่มีทางชิงมุกราตรีจากเย่หมิงได้ ทางเดียวคือต้องทำให้ตัวเองกลายปีศาจ เขาจึงกินเลือดของราชาค้างคาว (มุกราตรีครึ่งหนึ่ง + เลือดราชาค้างคาวในตัวทำให้เขากลายร่างเป็นปีศาจ) หลังจากนั้นอวี๋เส้าไป๋ก็กลายเป็นราชาปีศาจค้างคาวตนใหม่ เขาจะชิงมุกราตรีอีกครึ่งจากเย่หมิงแต่เสี่ยวสือโถ้วขวางไว้เสียก่อน อวี๋เส้าไป๋นำความเป็นความตายของตนไปผูกติดกับเย่หมิงเพื่อหลีกเลี่ยงความตาย (หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อีกฝ่ายจะลงเอยเช่นเดียวกัน) นั่นจึงทำให้เสี่ยวสือโถ้วไม่อาจลงมือกำจัดอวี๋เส้าไป๋ ถึงกระนั้นเสี่ยวสือโถ้วก็ให้คำมั่นว่าจะนำมุกราตรีอีกครึ่งหนึ่งมาคืนเย่หมิงให้จงได้




หลังจากนั้น เสี่ยวสือโถ้วกับเย่หมิงก็อยู่เคียงข้างกันเกือบพันปี แต่เธอยังคงปฏิบัติกับเขาเสมือนเป็นน้องชายดังเดิม เมื่ออวี๋เส้าไป๋ปรากฏตัวอีกครั้ง (พร้อมพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิม) หมายชิงมุกราตรีอีกครึ่งจากเย่หมิง เสี่ยวสือโถ้วกับนักปราบปีศาจ "เหลียนเสวียน" จึงช่วยกันรับมืออวี๋เส้าไป๋และเหล่าสมุนค้างคาว เสี่ยวสือโถ้วจำต้องลงมือกับอวี๋เส้าไป๋เพื่อไม่ให้เขาชิงมุกราตรีอีกครึ่งจากเย่หมิงได้สำเร็จ แต่พอเห็นเย่หมิงพลอยเจ็บหนักไปด้วยเขาเลยจำต้องยั้งมือ เหลียนเสวียนโกรธมากที่เสี่ยวสือโถ้วเห็นแก่เย่หมิงมากกว่าส่วนรวม (อวี๋เส้าไป๋เป็นค้างคาวดูดเลือดที่เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์มากมาย) เย่หมิงซึ่งบอบช้ำหนักคิดกำจัดอวี๋เส้าไป๋ด้วยการฆ่าตัวตาย (หากเธอตายเขาจะตายด้วย) แต่เสี่ยวสือโถ้วขวางไว้และลบความทรงจำของเธอ (เพื่อไม่ให้เธอคิดฆ่าตัวตายอีก) หลังจากนั้นเขาก็ใช้ตราประทับผนึกอวี๋เส้าไป๋ไว้ในภาพวาดก่อนอุ้มเย่หมิงจากไป เหลียนเสวียนเก็บภาพวาดนั้นไว้แต่สุดท้ายกลับทำหาย เขารับปากว่าจะออกตามหาภาพวาดแล้วไปพบเสี่ยวสือโถ้วที่เซี่ยงไฮ้ในอีกสิบปีข้างหน้า ขณะที่เสี่ยวสือโถ้วรับปากเหลียนเสวียนว่าจะไม่ปลุกเย่หมิงจนกว่าจะเจอภาพวาดดังกล่าว 


 

สิบปีผ่านไป เสี่ยวสือโถ้วเป็นที่รู้จักในนาม "จินซิ่งเจียน" เจ้าของร้านฮั่วเสวี่ยไจซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สัมปทานของอังกฤษในเมืองเซี่ยงไฮ้ ร้านของเขารับแกะสลักตราประทับหยกและค้าของโบราณล้ำค่า แต่จะเปิดให้บริการตามอำเภอใจ ตลอดสิบปีที่ผ่านมาจินซิ่งเจียนซ่อนเย่หมิงไว้ในห้องลับใต้ดินที่ฮั่วเสวี่ยไจโดยให้เธอนอนบนเตียงหยกแล้วร่ายมนต์คุ้มกันไว้อีกชั้นหนึ่ง ครั้นรู้ว่าเหลียนเสวียนยังหาภาพวาดไม่เจอจินซิ่งเจียนจึงไม่รออีกต่อไป  เพื่อให้เย่หมิงฟื้นคืนสติจินซิ่งเจียนจำต้องรวบรวม 'ลูกแก้วปีศาจ' (หรือ "เยาตาน" ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นขุมพลังทั้งหมดของปีศาจตนนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น พลังตบะ พลังเวทย์ พลังปีศาจ พลังชีวิต และพลังจิตวิญญาณ)  มาให้เธอ ด้วยเหตุนี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเขาจึงปราบปีศาจ (ร้าย) มาแล้วไม่น้อย 

สำหรับมนุษย์แล้วจินซิ่งเจียนคือผู้เชี่ยวชาญด้านการแกะสลักและจารึกอักษรบนศิลา (หยก) ที่ทำทุกอย่างตามใจปรารถนา แต่ในหมู่ปีศาจจินซิ่งเจียนถูกโจษขานว่าเป็นจอมมารที่ออกล่าลูกแก้วปีศาจหมายเพิ่มพลังตบะของตน หลังจินซิ่งเจียนรวบรวมลูกแก้วปีศาจมาช่วยเย่หมิงจนครบตามจำนวนที่ต้องการ เย่หมิงก็ตื่นจากหลับใหลพร้อมความทรงจำที่หายไป ความทรงจำเดียวที่เหลืออยู่คือช่วงเวลาที่เธอได้พบเสี่ยวสือโถ้วครั้งแรกและรับเขาเป็นน้องชาย เย่หมิงรู้สึกตกใจเมื่อพบว่าจินซิ่งเจียนคือเสี่ยวสือโถ้ว ถึงกระนั้นเธอก็เห็นเขาเป็นน้องชายดังเดิม เพื่อปกป้องเย่หมิงจากอวี๋เส้าไป๋ จินซิ่งเจียนจึงขังเธอไว้ในห้องลับใต้ดินต่อไป (เขาแต่งตัวเนี้ยบตลอดเวลาเพราะอยากดูดีในสายตาเย่หมิง)

ในขณะที่เหลียนเสวียนออกล่าปีศาจและตามหาภาพวาด จินซิ่งเจียนเองก็ต้องเร่งตามหาตราประทับ (ทั้งแปด)  ที่หายไปสี่อัน เพื่อเตรียมปกป้องเย่หมิงจากอวี๋เส้าไป๋และอสนีบาตครั้งต่อไป (เย่หมิงไม่รู้ว่าตนจะต้องเผชิญอสนีบาตในไม่ช้า) ในเวลาเดียวกันนั้นอวี๋เส้าไป๋ซึ่งถูกผนึกอยู่ในภาพวาดได้ตื่นขึ้นเช่นกัน เขาจึงติดต่อกับเย่หมิงผ่านทางความฝัน และบอกเธอว่าพวกตนเคยรักกันแต่จินซิ่งเจียนคอยขัดขวาง เย่หมิงพยายามเค้นถามความจริงจากจินซิ่งเจียน แต่เขาไม่ยอมปริปากและปล่อยให้เธอเข้าใจผิด เหลียนเสวียนหลุดปากบอกเย่หมิงว่าจินซิ่งเจียนเป็นคนลบความทรงจำของเธอ เขายอมรับว่าเย่หมิงกับอวี๋เส้าไป๋เคยรักกันจริง แม้ไม่อาจบอกอะไรมากไปกว่านี้แต่เขายืนยันว่าจินซิ่งเจียนไม่มีวันทำร้ายเย่หมิง และอวี๋เส้าไป๋ไม่ใช่คนดี




หลังหนีออกจากฮั่วเสวี่ยไจ เย่หมิงก็จับพลัดจับผลูไปเป็นนักร้องที่โรงเต้นรำโดยได้รับความช่วยเหลือจากนักร้องดาวเด่นที่ชื่อ "เสี่ยวเถา" (ซึ่งมีแฟนเป็นปีศาจค้างคาวดูดเลือด) จินซิ่งเจียนปล่อยให้เย่หมิงเป็นอิสระแต่ยังคอยเฝ้าดูห่างๆ โดยมีเหลียนเสวียนกับปีศาจหนอน "เสี่ยวชิง" ช่วยเป็นหูเป็นตา อวี๋เส้าไป๋ชักนำเย่หมิงไปที่กระท่อมกลางป่าหลังหนึ่งหมายให้เธอช่วยปลดผนึกตนจากภาพวาด แม้อวี๋เส้าไป๋จะฟื้นความทรงจำให้เย่หมิงไม่ได้ แต่เขาเผยให้เธอเห็นภาพความทรงจำของตนเมื่อหนึ่งพันปีก่อน  ตอนที่ยังรักกันและตอนที่เธอช่วยชุบชีวิตเขาในสนามรบ เย่หมิงเห็นแล้วถึงกับน้ำตาร่วง เธอช่วยปลดผนึกให้อวี๋เส้าไป๋เพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนกันแน่

ความจริงแล้วจินซิ่งเจียนจงใจปล่อยเย่หมิงไปหาอดีตคนรัก เพื่อที่เขาจะได้รู้แหล่งกบดานของอวี๋เส้าไป๋และรอโอกาสลงมือ เหลียนเสวียนไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจึงตำหนิจินซิ่งเจียนที่เห็นแก่คนรักโดยไม่สนความเป็นตายของผู้อื่น ทั้งที่จินซิ่งเจียนเคยลั่นวาจาว่าจะปราบปีศาจร้ายและปกป้องผู้บริสุทธิ์ เหลียนเสวียนอยากกำจัดเย่หมิงให้สิ้นเรื่องสิ้นราวมาตั้งแต่ต้น เพราะถ้าเย่หมิงตายทุกอย่างก็จบ เขาจึงไม่พอใจที่จินซิ่งเจียนมัวแต่รีรอจนอวี๋เส้าไป๋ออกมาจากภาพวาดและได้ตัวเย่หมิงไป



อวี๋เส้าไป๋บอกเย่หมิงว่าเธอถูกจินซิ่งเจียนลบความทรงจำ จากนั้นก็เล่า (เรื่องจริงปนเท็จ) ว่า เดิมทีพวกตนรักกันมาก แม้ต้องอดมื้อกินมื้อแต่พวกตนก็มีความสุขดี ทว่าตอนนั้นตนถูกจินซิ่งเจียนระรานมาโดยตลอด ตนอยากพิสูจน์ว่าปกป้องเย่หมิงได้จึงเข้าร่วมการเกณฑ์ทหารและได้ไปออกรบ แต่จินซิ่งเจียนไม่อยากให้ตนรอดชีวิตกลับมาจึงสังหารตนในสนามรบ เขายังบอกด้วยว่าแม้เย่หมิงจะสละมุกราตรีครึ่งหนึ่งให้ตน แต่นั่นก็ทำให้ตนประสบชะตากรรมอันเลวร้ายและกลายเป็นเหยื่อของเหล่าปีศาจ เขาเล่าว่าปีศาจค้างคาวดูดเลือดพันปีตัวหนึ่งต้องการชิงมุกราตรีในร่างตน แต่ทว่ามุกราตรีมีพลังแก่กล้ากว่าเลยดูดซับพลังทั้งหมดของปีศาจค้างคาวดูดเลือดมาไว้ในร่างตน นับจากนั้นตนก็กลายเป็นปีศาจ (เป็นราชาค้างคาวดูดเลือดตนใหม่) จินซิ่งเจียนไม่ต้องการให้พวกตนครองรักกันเลยผนึกตนไว้ในภาพวาด (อวี๋เส้าไป๋ให้เย่หมิงเห็นภาพความทรงจำเฉพาะตอนที่พวกตนถูกจินซิ่งเจียนทำร้าย)



อวี๋เส้าไป๋กล่าวว่าทั้งหมดเป็นความผิดของจินซิ่งเจียน จินซิ่งเจียนไม่เคยเห็นเย่หมิงเป็นพี่สาวและหลงรักเย่หมิงแบบหน้ามือตามัวมาช้านาน จินซิ่งเจียนผนึกตนไว้ในภาพวาดโดยนำเรื่องที่ตนกลายเป็นปีศาจมาเป็นข้ออ้าง แม้ตอนนั้นตนจะเป็นปีศาจแล้วแต่ไม่อาจช่วยเย่หมิงได้ ตนได้แต่มองจินซิ่งเจียนพรากเย่หมิงที่กำลังบาดเจ็บไปจากตน เย่หมิงได้ยินดังนั้นเลยคิดที่จะไปเอาเรื่องจินซิ่งเจียน แต่อวี๋เส้าไป๋ขอให้เย่หมิงอยู่เคียงข้างตนตามลำพังหลังพลัดพรากจากกันมานาน เย่หมิงจึงคอยดูแลอวี๋เส้าไป๋ที่ร่างกายเหมือนไม้ใกล้ผุพัง ซ้ำยังโดนแสงแดดไม่ได้ เธอยังไม่ปักใจเชื่อว่าจินซิ่งเจียนจะเป็นอย่างที่อวี๋เส้าไป๋พูด  ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่าหากจินซิ่งเจียนเลวร้ายจริง ทำไมเขาถึงผนึกอวี๋เส้าไป๋แทนที่จะฆ่าทิ้ง อวี๋เส้าไป๋ชี้ว่าการมีชีวิตแบบอยู่ก็ไม่ใช่ตายก็ไม่เชิงทรมานยิ่งกว่าการโดนฆ่าตายเสียอีก

เย่หมิงเห็นจินซิ่งเจียนยืนมองเธอที่หน้าบ้านเลยกลัวว่าเขาจะมากำจัดอวี๋เส้าไป๋ แต่จินซิ่งเจียนแค่มาดูว่าเธอปลอดภัยหรือไม่ เย่หมิงกล่าวอย่างไม่ไยดีว่าตนอยู่กับคนรักในอดีตย่อมต้องปลอดภัย จินซิ่งเจียนรู้สึกผิดหวังที่เย่หมิงเชื่อคำลวงของอวี๋เส้าไป๋ ทั้งที่เธอเคยบอกว่าจะไม่เชื่อใครจนกว่าความทรงจำจะฟื้นคืน ด้านเย่หมิงเองก็ผิดหวังเช่นกันที่จนป่านนี้จินซิ่งเจียนยังไม่ยอมปริปากถึงเรื่องราวในอดีต จินซิ่งเจียนขอให้เธอรักษาตัว และบอกเพียงว่าความจริงย่อมมีชัย เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกสิ่ง เมื่อจินซิ่งเจียนกลับฮั่วเสวี่ยไจแล้วพบว่าตราประทับทั้งหมดที่อยู่ในมือหายไป เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นฝีมือของอวี๋เส้าไป๋ (ตอนนั้นจินซิ่งเจียนมีตราประทับในมือหกอัน และตราประทับของเขาช่วยเพิ่มพลังให้ปีศาจได้)

อวี๋เส้าไป๋พยายามเล่นละครเพื่อหลอกให้เย่หมิงเชื่อใจและเห็นใจตน ทั้งยังสร้างสถานการณ์ให้เย่หมิงบาดหมางกับจินซิ่งเจียนหนักขึ้น หลังจินซิ่งเจียนไม่มีตราประทับร่างกายเขาจึงอ่อนแอลง เหลียนเสวียนแทบไม่เชื่อหูเมื่อจินซิ่งเจียนบอกว่าจะปล่อยให้อวี๋เส้าไป๋ฟื้นตัวและมีพลังแก่กล้าขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นจึงค่อยยุติเรื่องราวก่อนเกิดอัสนีบาต เหลียนเสวียนสงสัยว่าในเมื่อจินซิ่งเจียนไม่มีตราประทับ และไม่สามารถปกป้องตนเองได้ด้วยซ้ำ แล้วเขายุติเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างไร จินซิ่งเจียนกล่าวว่าตนไม่เพียงคิดชิงตราประทับคืนมา แต่จะคืนมุกราตรีครึ่งหนึ่ง (ที่อยู่ในตัวอวี๋เส้าไป๋) ให้เย่หมิงด้วย แม้เขาจะไม่มั่นใจนักเพราะสูญเสียตราประทับไป แต่มีเพียงวิธีนี้ที่จะช่วยชีวิตเย่หมิงได้



หลังขโมยตราประทับมาได้แล้ว อวี๋เส้าไป๋และพวกก็เริ่มแผนกำจัดจินซิ่งเจียน โดยให้ตำรวจชั่ว "ไป๋จินกัง" จับจินซิ่งเจียนไปขังคุกโดยยัดข้อหาให้ที่หลบซ่อนตัวนักโทษ จินซิ่งเจียนไม่ยอมให้จับเลยถูกไป๋จินกังยิง (ความจริงแล้วคมกระสุนธรรมดาทำอะไรเขาไม่ได้ แต่นี่เป็นกระสุนมนตราที่สมุนอวี๋เส้าไป๋จัดให้โดยเฉพาะ) จินซิ่งเจียนไม่อาจใช้พลังได้เลยถูกจับขังคุกในสภาพบาดเจ็บ คืนเดียวกันนั้นเย่หมิงเห็นกับตาว่าอวี๋เส้าไป๋จะชิงมุกราตรีอีกครึ่งไปจากเธอ แม้เขาจะพยายามแก้ตัวแต่เย่หมิงไม่เชื่อใจเขาอีกต่อไป

สองพี่น้องสกุลเย่ซึ่งเปิดร้านตัดเสื้อติดกับฮั่วเสวี่ยไจ พยายามทำทุกวิถีทาง (แม้กระทั่งยอมปิดกิจการ) เพื่อช่วยจินซิ่งเจียนออกจากคุก หลังถูกกดดันไป๋จินกังจึงแสร้งปล่อยตัวจินซิ่งเจียนแล้วนำเขามากำจัดนอกคุก (สมุนอวี๋เส้าไป๋แนะให้ไป๋จินกังใช้ระเบิดสังหารจินซิ่งเจียนเพราะเขาเป็นศิลา) โชคดีที่เย่หมิงมาช่วยจินซิ่งเจียนก่อนที่ระเบิดจะทำงานแบบฉิวเฉียด หลังรู้ว่าจินซิ่งเจียนปกป้องตัวเองไม่ได้เพราะถูกอวี๋เส้าไป๋ขโมยตราประทับไป เย่หมิงจึงเริ่มสงสัยว่าอวี๋เส้าไป๋มีแผนการบางอย่าง เมื่ออวี๋เส้าไป๋ออกจากบ้านยามวิกาล (ออกไปถ้ำค้างคาวเพื่อกินเลือดมนุษย์ที่สมุนจับมาให้) เธอจึงลองค้นห้องว่ามีตราประทับของจินซิ่งเจียนหรือไม่แต่หาไม่พบ ครั้นรู้ว่าเย่หมิงไม่ไว้ใจตนอีกต่อไป อวี๋เส้าไป๋จึงทำให้เย่หมิงรู้สึกผิดเพื่อรั้งเธอไว้และหลอกใช้เธอ


เขาบอกเย่หมิงว่า สำหรับมนุษย์แล้วความตายเป็นเรื่องที่น่ากลัวและทุกข์ทรมาน ตนควรดับสิ้นตั้งแต่เมื่อพันปีก่อน แต่เย่หมิงทำให้ตนประสบกับความตายครั้งแล้วครั้งเล่า (เธอชุบชีวิตเขา) ในที่สุดเย่หมิงก็มอบมุกราตรีครึ่งหนึ่งให้ตนเพื่อที่ตนจะได้อยู่กับเย่หมิงตลอดไป ยามนี้ตนกลายเป็นปีศาจ ตนสามารถอยู่กับเย่หมิงได้ตลอดกาลแต่เย่หมิงกลับไม่ต้องการตนแล้ว เขากล่าวว่าตนกำลังตาย  (อ้างว่าร่างจะสลายกลายเป็นเถ้าเพราะถูกจินซิ่งเจียนผนึกไว้ในภาพวาด) ตนหวังว่าคราวนี้จะไม่ฟื้นคืนชีพอีก ที่ตนออกจากภาพวาดเพราะอยากพบเย่หมิงเท่านั้น เย่หมิงได้ยินดังนั้นจึงรู้สึกผิด เธอรับปากว่าจะหาทางช่วยเขา ทั้งยังยินดีมอบมุกราตรีอีกครึ่งให้เขาเพื่อที่เขาจะได้หลุดพ้นจากความตาย (เป็นอมตะ)  อวี๋เส้าไป๋ปฏิเสธโดยบอกว่าหากไม่มีมุกราตรีเย่หมิงจะต้องตาย เช่นนั้นแล้วตนจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวต่อไปเพื่ออะไร ครั้นอวี๋เส้าไป๋บอกว่าลูกแก้วปีศาจของจิ้งจอกเก้าหางช่วยคงสภาพร่างกายตนได้ เย่หมิงจึงรับปากว่าจะไปหามาให้ 


ครั้นได้พบจิ้งจอกขาวเก้าหางและรับรู้เรื่องราวความรักของเธอกับมนุษย์เย่หมิงก็เปลี่ยนใจ เธอคิดว่าไหนๆ อวี๋เส้าไป๋ก็กำลังจะตาย เช่นนั้นแล้วมิสู้ตายด้วยกันเลย (เธอไม่รู้ว่าอวี๋เส้าไป๋กำลังฟื้นฟูพลังด้วยการกินเลือดมนุษย์ และดูดซับพลังจากตราประทับของจินซิ่งเจียน) จินซิ่งเจียนรู้สึกเจ็บปวดใจที่เย่หมิงเชื่ออวี๋เส้าไป๋มากกว่าตน เขาชี้ว่าอวี๋เส้าไป๋จะไม่สลายกลายเป็นเถ้าเพียงเพราะถูกตนผนึกไว้ในภาพวาด อวี๋เส้าไป๋แค่ต้องการลูกแก้วปีศาจของจิ้งจอกเก้าหางมาเพิ่มพลังของตน จินซิ่งเจียนเตือนว่าเย่หมิงกำลังถูกหลอกใช้ เป้าหมายของอวี๋เส้าไป๋คือมุกราตรีอีกครึ่งหนึ่งในตัวเธอ เพียงแต่ตอนนี้พลังภายในของอวี๋เส้าไป๋ยังไม่แกร่งพอที่จะรับมุกราตรีอีกครึ่ง จึงต้องนำลูกแก้วปีศาจของจิ้งจอกขาวเก้าหางมาเพิ่มพลังภายในก่อน (ถ้าฝืนรับมาพลังทั้งหมดและมุกราตรีครึ่งหนึ่งในตัวเขาจะถูกดูดออกมาแทน) เย่หมิงฟังแล้วยังไม่ปักใจเชื่อเลยสืบหาความจริงด้วยตนเอง




หลังได้ตราประทับอันหนึ่งคืนจากปีศาจงู จินซิ่งเจียนจึงบุกมาที่ถ้ำค้างคาวพร้อมเหลียนเสวียนเพื่อทวงตราประทับที่ถูกขโมย เย่หมิงไม่เพียงพบว่าอวี๋เส้าไป๋ขโมยตราประทับมาจริง แต่เธอยังรู้ด้วยว่าความเป็นตายของตนกับอวี๋เส้าไป๋เชื่อมต่อกัน (เหตุการณ์นี้ทำให้จินซิ่งเจียนได้ตราประทับคืนมา 7 อัน อันสุดท้ายที่ไม่ได้คืนมาอยู่กับอวี๋เส้าไป๋) หลังอวี๋เส้าไป๋ลวงจิ้งจอกเก้าหางให้มอบลูกแก้วปีศาจให้ตน เขาก็ลงมือชิงมุกราตรีอีกครึ่งจากเย่หมิงแต่ทำไม่สำเร็จเลยรีบหนีไป จินซิ่งเจียนตามมาช่วยเย่หมิงและพาเธอมารักษาตัวที่ห้องใต้ดินดังเดิม (ที่ผ่านมาจินซิ่งเจียนรอให้อวี๋เส้าไป๋ฟื้นฟูพลังจนแข็งแกร่ง เพื่อที่อวี๋เส้าไป๋จะได้ชิงมุกราตรีอีกครึ่งของเย่หมิง เมื่อพลังมุกราตรีหลอมรวมกัน ความเป็นความตายของอวี๋เส้าไป๋กับเย่หมิงจะไม่เชื่อมต่อกันอีกต่อไป แต่เนื่องจากร่างกายของอวี๋เส้าไป๋ไม่อาจต้านทานพลังมุกราตรีได้เลยทำไม่สำเร็จ แถมเย่หมิงยังพลอยบาดเจ็บไปด้วย) เหลียนเสวียนรู้ว่าจินซิ่งเจียนจะเผชิญอสนิบาตในไม่ช้าจึงชวนเสี่ยวชิงไปหาตราประทับอันสุดท้ายที่อยู่ในมืออวี๋เส้าไป๋ 

ความจริงแล้วสาเหตุที่อวี๋เส้าไป๋ชิงมุกราตรีอีกครึ่งหนึ่งในตัวเย่หมิงไม่สำเร็จ ทั้งที่ได้ลูกแก้วปีศาจของจิ้งจอกเก้าหางแล้ว เป็นเพราะเขายังอยู่ในร่างมนุษย์ตั้งแต่เมื่อพันปีก่อน เขาต้องการเปลี่ยนมาใช้ร่างอมตะของอดีตราชาค้างคาว (ซึ่งเก็บรักษาไว้ในน้ำแข็งพันปี) จึงลวงเหลียนเสวียนให้มาติดกับเพราะรู้ว่าเลือดของนักปราบปีศาจละลายน้ำแข็งพันปีได้ หลังได้ร่างใหม่ที่เป็นอมตะอวี๋เส้าไป๋ก็กลายเป็นปีศาจที่มีพลังแก่กล้าเกินกว่าเหลียนเสวียนจะรับมือไหว อวี๋เส้าไป๋จะฆ่าเหลียนเสวียนแต่เสี่ยวชิงเอาตัวเองเข้ามาขวางทำให้ลูกแก้วในกายแตกสลาย แม้แต่จินซิ่งเจียนก็ไม่อาจช่วยชีวิตเสี่ยวชิงได้




หลังฟื้นความทรงจำ ความสัมพันธ์ของจินซิ่งเจียนกับเย่หมิงก็กลับมาดีดังเดิม เหลียนเสวียนยังทำใจเรื่องเสี่ยวชิงไม่ได้ เขาโทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเย่หมิงกับจินซิ่งเจียน และย้ำว่าตอนนี้อวี๋เส้าไป๋ได้ร่างอมตะแล้ว ทางเดียวที่จะกำจัดอวี๋เส้าไป๋ได้คือสังหารเย่หมิง เพื่อยุติเรื่องราวทั้งหมดเย่หมิงจึงคิดที่จะจบชีวิตตนเองพร้อมอวี๋เส้าไป๋ เธอไปหาอวี๋เส้าไป๋เพื่อขอแลกมุกราตรีกับตราประทับอันสุดท้ายของจินซิ่งเจียน อวี๋เส้าไป๋ยอมแลกแต่โดยดีหลังเย่หมิงขู่ว่าจะทำลายมุกราตรีอีกครึ่งในตัวเธอ  หลังมุกราตรีออกจากร่างของเย่หมิงแล้วหลอมรวมกับมุกราตรีอีกครึ่งในตัวอวี๋เส้าไป๋ ความเป็นความตายของทั้งคู่ก็ไม่เชื่อมต่อกันอีกต่อไป จินซิ่งเจียนสบโอกาสจัดการอวี๋เส้าไป๋แบบไม่ยั้ง ครั้นเห็นว่าอวี๋เส้าไป๋มีพลังแก่กล้าขึ้นมาก เขาจึงนำตราประทับทั้งแปดมาวางค่ายกลเพื่อสะกดพลังของอวี๋เส้าไป๋ ก่อนนำมุกราตรีมาคืนเย่หมิง เหลียนเสวียนฉวยโอกาสสังหารอวี๋เส้าไป๋ อวี๋เส้าไป๋เย้ยว่าความตายของตนไม่ใช่จุดจบแต่เป็นจุดเริ่มต้นของมหันตภัย หลังจากนั้นร่างของเขาก็สลายกลายเป็นเถ้าสีดำปกคลุมท้องฟ้า 

ในเวลาต่อมาได้มีโรคระบาดแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมือง ที่แท้โรคดังกล่าวเกิดจากเชื้อโรคที่อยู่ในร่างอดีตราชาค้างคาวดูดเลือดมานานนับพันปี เมื่ออวี๋เส้าไป๋นำร่างนี้มาใช้และถูกสังหารจนร่างสลายกลายเป็นเถ้า เขาได้ปล่อยเชื้อโรคพันปีออกมาเข่นฆ่าผู้คน โรคนี้ยังไม่มียารักษาเพราะแพทย์ยุคปัจจุบันไม่เคยตรวจพบมาก่อน ครั้นเห็นว่าผู้คนจำนวนมากกำลังจะล้มตายจินซิ่งเจียนจึงตัดสินใจใช้ตราประทับทั้งแปด (ร่างจริงของตน) หยุดยั้งโรคระบาด ทั้งที่รู้ว่าหากไม่มีตราประทับเขาจะต้องตายเพราะอัสนีบาต หลังตราประทับแตกสลายกลายเป็นผุยผงแล้วฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งเมืองผู้คนก็หายจากโรคระบาด ขณะที่จินซิ่งเจียนอ่อนล้าลงทุกวัน



ครั้นรู้ว่าจินซิ่งเจียนทำลายตราประทับทั้งแปดเพื่อปกป้องชีวิตผู้คนเย่หมิงก็พูดไม่ออก เธอได้ยินว่าเขากำลังจะเผชิญอสนีบาตเลยไม่อาจทนดูเขาตายต่อหน้า เธอนึกถึงเขาอวี้ที่ตนเคยใช้เป็นที่กำบังอสนีบาตเมื่อพันปีก่อนเลยพาจินซิ่งเจียนเดินทางไปที่นั่นหมายให้เขาหลบซ่อนตัวในถ้ำของเขาอวี้ แต่พอไปถึงกลับไม่พบขุนเขาขนาดมหึมาที่เคยตั้งตระหง่านเมื่อหนึ่งพันปีก่อน เย่หมิงจึงตัดสินใจว่าจะเผชิญอสนีบาตด้วยกัน เมื่อถึงเวลาเย่หมิงจึงรู้ว่าผู้ที่ต้องเผชิญอสนีบาตไม่ใช่จินซิ่งเจียนแต่เป็นตัวเธอ จินซิ่งเจียนรีบเอาตัวเข้ากำบังและรับอสนีบาตแทนเย่หมิง เย่หมิงน้ำตาร่วงเมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วจินซิ่งเจียนคอยอยู่เคียงข้างและปกป้องเธอมาช้านาน หลังสารภาพว่าหลงรักเย่หมิงมานับพันปี จินซิ่งเจียนก็กลายร่างเป็นหินแล้วก่อตัวเป็นเขาอวี้ปกคลุมเธอไว้  ครั้นพบว่าตัวเองอยู่ในถ้ำ เย่หมิงถึงได้รู้ว่าจินซิ่งเจียนคือเขาอวี้ที่ปกป้องเธอจากอสนีบาตเมื่อพันปีก่อน และตอนนี้เขาก็กำลังรับอสนีบาตแทนเธออีกครั้ง 



สิบปีต่อมา เย่หมิงยังคงอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว (เธอยังคงสวมแหวนที่จินซิ่งเจียนใช้ขอเธอแต่งงาน) ทันใดนั้นก็มีเสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งเรียกเธอว่า 'พี่สาว' และถามว่าเธอเป็นปีศาจใช่หรือไม่ (พูดเหมือนตอนที่เสี่ยวสือโถ้วทักทายเธอครั้งแรก) ครั้นพบว่าเด็กชายคนดังกล่าวถอดแบบมาจากจินซิ่งเจียนตั้งแต่เสื้อผ้ายันท่ายืน เย่หมิงก็ยิ้มทั้งน้ำตา

 * เนื้อหาโดย luvasianseries / ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่ 





รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ


กู่ลี่น่าจา
รับบท เย่หมิง
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)



หลิวอี่หาว
รับบท จินซิ่งเจียน
(นักแสดง / นักร้อง ชาวไต้หวัน)



กู่เจียเฉิง
รับบท เหลียนเสวียน
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)



หลิวช่าง
รับบท อวี๋เส้าไป๋ (มนุษย์/ปีศาจค้างคาว)
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)



โจวจวิ้นเหว่ย
รับบท เย่ชิงชุน
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)



เฉินอวี่ซือ
รับบท เย่ลี่น่า
(นักแสดง ชาวจีน)



หยางจืออิ๋ง
รับบท เสี่ยวชิง (ปีศาจหนอน)
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)

อื่นๆ

เติ้งเอินซี
รับบท เสี่ยวอวี๋ (ปีศาจปลา)
(นักแสดง ชาวจีน)



เฉินเจ๋อหย่วน
รับบท ไป๋อวี้ซู
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)



หลี่อวี้
รับบท หงโต้ว เซียงซือจวิน (ปีศาจเมล็ดพุทรา)
(นักแสดง ชาวจีน)



สวีมู่ฉาน
รับบท ไป๋อี (ปีศาจหนู)
(นักแสดง ชาวจีน)



ติงเฉียว
รับบท เจียเป้ยเล่อ
(นักแสดง ชาวจีน)



จ้าวซุ่นหราน
รับบท อินชิง (ปีศาจค้างคาวดูดเลือด)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)



จางเล่ออวิ้น
รับบท เสี่ยวเถา
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)



เปียนเฉิง
รับบท เย่เสียวหู่ (ปีศาจแมว)
(นักแสดง ชาวจีน)



อันหู่
รับบท ผู้บัญชาการต้วน
(นักแสดง / นักร้อง / ผู้ดำเนินรายการ ชาวจีน)



วังหยาง
รับบท อาวาน (ปีศาจงู)
(นักแสดง ชาวจีน)



จิ่งหรูหยาง
รับบท ไป๋อาจิ่ว (จิ้งจอกเก้าหาง)
(นักแสดง ชาวจีน)



หลิวอวี้หาน
รับบท ลู่จิ่นจือ
(นักแสดง ชาวจีน)



จางเฉียวเอ๋อร์
รับบท ลู่เทียนเจียว
(นักแสดง ชาวจีน)



เว่ยเจ๋อหมิง
รับบท เมิ่งโม่ (สัตว์อสูรในตำนานโบราณ กินความฝันมนุษย์)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)





*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา