วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เรื่องย่อ I Do, I Do




กำกับ: คัง แดซอน
เขียนบท: โจ จองฮวา
แนวละคร: โรแมนติก, คอมเมดี้
จำนวนตอน: 16
ออกอากาศ:  เกาหลี - 30 พฤษภาคม 2555 - 19 กรกฎาคม 2555 ทางเอ็มบีซี
                 ไทย - ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.30-23.00 น. ทางช่องเวิร์คพอยท์ทีวี ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2556- 19 กันยายน 2556

เรื่องย่อ



ละคร "I Do, I Do" นำเสนอเรื่องราวของ  "ฮวาง จีอัน" นักออกแบบรองเท้าระดับแถวหน้า วัย 32 ปี ที่มักโดนก็อปปี้ผลงาน จนทำให้ตามท้องตลาดมีรองเท้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่ราคาถูกกว่าและหน้าตาเหมือนรองเท้าที่เธอออกแบบวางจำหน่ายเต็มไปหมด และคนหนึ่งที่ชอบหากินกับผลงานเธอก็คือ "ปาร์ก เทกัง" นักออกแบบหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงและมีพรสวรรค์ แต่กลับร่วมมือกับพ่อก็อปปี้ผลงานของจีอันเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง

และแล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็พาทั้งคู่มาพบกัน วันนั้นทั้งจีอันและเทกังต่างก็เจอเรื่องแย่ๆ  ทั้งคู่เลยไปนั่งดื่มเหล้าดับทุกข์ด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างเมามายไร้สติทำให้ลงเอยด้วยการมีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน หลังจากนั้นทั้งคู่ต่างให้คำมั่นว่าจะไม่พบหน้ากันอีก แต่แล้ววันหนึ่งบริษัทของจีอันก็ว่าจ้างพนักงานใหม่ และเขาคนนั้นก็คือ 'เทกัง' ซ้ำร้ายจีอันยังพบว่าเธอกำลังตั้งท้องกับเทกังอีกด้วย


เรื่องราวในละครเริ่มต้นขึ้นที่ห้องบอลรูมของโรงแรมแห่งหนึ่ง จีอันแอบย่องออกจากห้องบอลรูมโดยไม่ให้ใครเห็นแล้วรีบวิ่งลงบันได แต่เนื่องจากเธอสวมรองเท้าส้นสูงทำให้วิ่งลงบันไดไม่สะดวก แถมรองเท้ายังหลุดไปหนึ่งข้าง เธอจึงถอดรองเท้าส้นสูงออกแล้วถือรองเท้าวิ่งลงบันไดออกมาทางด้านนอกโรงแรม 

อีกด้านหนึ่ง เทกังก็ถูก "ปาร์ก กวางซอก" ผู้เป็นบิดาดึงหูแล้วลากตัวมาที่สำนักงานเขต เมื่อไปถึงเคาน์เตอร์บริการ กวางซอกก็ยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่แล้วขอให้ย้ายชื่อเทกังออกจากทะเบียนบ้าน * เทกังเห็นดังนั้นก็ยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่บ้าง จากนั้นก็บอกว่า "ช่วยย้ายชื่อผมออกจากทะเบียนบ้านลุงคนนี้ด้วยครับ"   กวางซอกถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินลูกชายเรียกตนว่า "ลุง" เทกังจึงให้เหตุผลว่าถ้าย้ายชื่อตนออกจากทะเบียนบ้านแล้ว ตนกับพ่อก็จะกลายเป็นคนแปลกหน้ากันทันที กวางซอกได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเหลืออดจึงเงื้อมือขึ้นหมายตบสั่งสอน แต่เทกังก็รีบหลบและตั้งการ์ดป้องกันได้ทันควัน

* การย้ายชื่อเทกังออกจากทะเบียนบ้านในที่นี้ไม่ได้หมายถึงคัดชื่อออกอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการถอนชื่อออกจากทะเบียนครอบครัว ตัดออกจากกองมรดก และตัดความเป็นพ่อลูกภายใต้ระบบ "โฮจู" ซึ่งเกาหลีใต้ยกเลิกระบบนี้ไปแล้วตั้งแต่ต้นปีค.ศ. 2008 เพราะเป็นระบบที่กำหนดให้ผู้ชายเท่านั้นที่มีสิทธิเป็นหัวหน้าครอบครัว ผู้เป็นสามีหรือพ่อจึงมีอำนาจในการจัดการเรื่องต่างๆ แต่เพียงผู้เดียว (หากสามีตายลูกชายคนโตก็จะรับหน้าที่แทน) ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมทางเพศ


เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่สาวได้แต่นั่งอึ้ง  กวางซอกก็หันไปต่อว่าและเร่งให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวรีบดำเนินการตามที่ตนร้องขอ เทกังเห็นดังนั้นก็ถามพ่อว่าพาลใส่เจ้าหน้าที่ทำไม กวางซอกจึงหันไประบายอารมณ์กับลูกอีกครั้ง ก่อนหันกลับไปดุเจ้าหน้าที่สาวว่าทำไมถึงยังไม่รีบดำเนินการ สุดท้ายสองพ่อลูกก็ต้องเดินออกจากสำนักงานเขตแบบเซ็งๆ กวางซอกบ่นอุบว่า "เค้าแก้ไขระบบทะเบียนราษฎร์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน" เทกังย้อน "ทำยังกับเค้าต้องขออนุญาตพ่อก่อนงั้นแหล่ะ อย่างน้อยๆ พ่อก็น่าจะหาข้อมูลก่อน... จริงๆ เล้ยย!!" กวางซอกเงื้อมือขึ้นเหมือนจะซัดเทกังอีกครั้ง คราวนี้เทกังไม่หลบแถมยังท้าให้พ่อตีตนโดยขู่ว่าจะไปแจ้งตำรวจ กวางซอกไม่อยากขึ้นโรงพักและไม่ต้องการเสียค่าปรับ จึงบอกว่า "ที่ชั้นยั้งมือเอาไว้เพราะไม่อยากเปลืองแรงหรอก...จะบอกให้"

เทกังต่อว่ากวางซอกว่าเป็นคนใจแคบ คิดจะตัดพ่อตัดลูกเพียงเพราะโกรธที่ตนเอาเงินเก็บ (ของพ่อ) ไปซื้อรถมอเตอร์ไซค์ กวางซอกแย้งว่าเงินที่เทกังพูดถึงได้มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของตน ตนต้องทำงานงกๆ จนปวดหลังปวดเข่านานถึง 3 ปีกว่าจะเก็บเงินก้อนนี้ได้ เทกังแย้งว่าตนก็มีส่วนช่วยพ่อเก็บเงินด้วยการไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย กวางซอกจึงสวนว่า "ไม่ใช่แกไม่เรียนต่อ แต่แกไม่มีปัญญาเข้าเรียน เด็กอะไรวะสมองทึบจริงๆ  เอาเถอะ...ถึงแม้กฏหมายจะไม่ยอมให้เราตัดขาดกัน แต่หัวใจของชั้นได้ทอดทิ้งแกไปแล้ว" เทกังแหย่พ่อว่าใช้สำนวนไพเราะราวกับเป็นนักกวี คราวนี้กวางซอกชักเริ่มทนไม่ไหวจึงร้องโวยวายใส่เทกังเสียงดังลั่น แต่เทกังกลับหัวเราะร่วน กวางซอกจึงระบายอารมณ์ด้วยการเตะรถมอเตอร์ไซค์คันใหม่เอี่ยมอ่องของเทกัง 2 ทีแล้วเดินหนีไป 

เทกังรีบวิ่งเข้าไปสำรวจรถว่าเป็นรอยหรือบุบสลายหรือไม่ ก่อนตะโกนไล่หลังกวางซอกว่า "เอาเลย พ่ออยากทำอะไรก็เชิญ และขอให้นอนกอดเงินไปตลอดชีวิต" พูดจบเขาก็หันมาเช็ดรอยเปื้อนที่รถพลางถามว่า "เจ็บมั๊ยจ๊ะ! ให้ตายสิ พ่อนี่จริงๆ เล้ยยย... บียอนเซ่! นับแต่นี้ชีวิตชั้นเหลือแต่เธอเท่านั้นนะ"


วันต่อมา เทกังควบบียอนเซ่ (รถมอเตอร์ไซค์) ออกไปซิ่งบนท้องถนนอย่างมีความสุข แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งตัดหน้ารถ เขาจึงเบี่ยงหลบทำให้เสียหลักล้มคว่ำ ปรากฏว่าคนที่วิ่งตัดหน้ารถเทกังก็คือ จีอัน ซึ่งกระโดดหลบจนสะดุดล้มลงไปกองกับพื้นเช่นกัน โชคดีที่ต่างฝ่ายต่างก็ได้รับบาดเจ็บกันเพียงเล็กน้อย  จีอันรีบลุกขึ้นมาสอบถามอาการเทกังด้วยความเป็นห่วง แต่กลับถูกเทกังตวาดใส่เสียงดังลั่นว่าข้ามถนนโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ จีอันแย้งว่าเธอกำลังข้ามทางม้าลาย  (เขาจึงควรเป็นฝ่ายหยุดรถ) เทกังชี้ไปที่รถแล้วถามว่า "ไม่เห็นเหรอว่าบียอนเซ่ของผมได้รับบาดเจ็บ คุณรู้มั๊ยว่าค่าตัวของเธอตั้งเท่าไหร่" จีอันจึงตำหนิว่าเขาควรห่วงความปลอดภัยของคนก่อนเป็นลำดับแรก 

เทกังใช้สายตาสแกนทั่วร่างจีอันอย่างรวดเร็วแล้วบอกว่าเธอก็ดูปกติดี จีอันชักเริ่มโมโหจึงเอากระเป๋าถือชี้หน้าเทกังแล้วกล่าวว่า "รู้ได้ไง ตานายเป็นเครื่องเอ็มอาร์ไอ* งั้นเหรอ" เทกังสวนกลับทันทีว่า "ป้านี่! รึว่าป้าเป็นพวก 18 มงกุฏที่หากินกับบริษัทประกัน ป้าจงใจวิ่งตัดหน้ารถเพื่อจะได้เรียกร้องเงินจากบริษัทประกันของผมใช่มั๊ย" จีอันโมโหจนพูดไม่ออก เธอชี้หน้าเทกังแล้วบอกว่าเขาโชคดีที่วันนี้เธอกำลังรีบไปธุระ แต่ก็ไม่วายเตือนเทกังให้ระวังมากกว่านี้เวลาขับรถ พูดจบเธอก็เดินออกไปยืนรอรถริมถนน  แต่ในตอนนั้นการจราจรบนถนนใหญ่เป็นอัมพาตอย่างหนักและไม่มีทีท่าว่าจะขยับเขยื้อน เธอจึงหันไปมองเทกังซึ่งยังคงนั่งร้องไห้คร่ำครวญตรงหน้าบียอนเซ่

* Magnetic Resonance Imaging หรือ เอ็มอาร์ไอ คือ การตรวจร่างกายโดยเครื่องตรวจที่ใช้คลื่นสนามแม่เหล็กความเข้มสูงและคลื่นความถี่ในย่านความถี่วิทยุ เพื่อสร้างภาพเหมือนจริงของอวัยวะภายในร่างกาย โดยเฉพาะ สมอง หัวใจ กระดูก กล้ามเนื้อ และส่วนที่เป็นมะเร็ง ด้วยคอมพิวเตอร์รายละเอียดและความคมชัดสูงในลักษณะ  3 มิติ ภาพที่ได้จึงชัดเจนกว่าการตรวจเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ แบบ CT Scan ทำให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยความผิดปกติในร่างกายได้อย่างแม่นยำ 




จีอันถอยกลับไปหาเทกังพร้อมทั้งยื่นข้อเสนอว่า เธอจะออกค่าซ่อมรถให้ถ้าหากเขายอมไปส่งเธอ เทกังได้ยินแล้วหูผึ่ง เขาพาจีอันลัดเลาะและซิ่งไปตามถนนแคบๆ จีอันรู้สึกหวาดเสียวจึงร้องกรี๊ดๆ ทุกครั้งที่เข้าโค้งและข้ามทางแยก ทั้งยังกอดเอวเทกังแน่น ในที่สุด เทกังก็พาจีอันไปถึงโรงแรมอีกแห่งได้ทันเวลา หลังตะกายลงจากรถแล้วจีอันก็วิ่งเข้าไปโรงแรมด้วยความเร่งรีบโดยลืมว่าตนเองยังสวมหมวกกันน็อค  ลูกน้องของจีอันเห็นแล้วก็แอบขำและพากันชี้ไปที่หัวของเธอ จีอันจึงพยายามดึงหมวกออกจากหัวอย่างทุลักทุเล

สาเหตุที่จีอันรีบร้อน เป็นเพราะลูกน้องโทรฯ มาแจ้งว่าเกิดความผิดพลาดในการจัดเตรียมรองเท้าให้นางแบบคนสำคัญสวมในงานแสดงแฟชั่นโชว์ สาเหตุเนื่องมาจากรองเท้าที่เตรียมมาผิดไซส์  ลูกน้องของจีอันยืนยันว่าพวกตนตรวจสอบขนาดรองเท้าของนางแบบแต่ละคนมาเป็นอย่างดีแล้ว และดูเหมือนนางแบบฝรั่งคนที่ว่าจะไม่ใช่คนเดียวกับที่เคยมาฟิตติ้ง ขณะที่ลูกน้องอีกคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า ประธานบริษัทแทฮยอง (ผู้จัดแฟชั่นโชว์) มีบางอย่างน่าสงสัยเพราะอยู่ดีๆ ก็เตรียมรองเท้าสำรอง (ของยี่ห้ออื่น) มาด้วย บางทีข่าวลือที่ว่าผู้จัดแฟชั่นโชว์รับสินบนจากบริษัทคู่แข่งให้มาทำลายชื่อเสียงของพวกตนอาจเป็นเรื่องจริง 


จีอันตำหนิลูกน้องที่มัวแต่ทำตัวเป็นนักสืบแทนที่จะช่วยกันหาทางแก้ไข เธอมองรองเท้าเจ้าปัญหาครู่หนึ่งแล้วร้องหากรรไกร จากนั้นก็ตัดชายกระโปรงลูกน้องคนหนึ่งหน้าตาเฉย แล้วมอบหมายงานให้แต่ละคนทำทันที  เมื่อได้อุปกรณ์ต่างๆ ครบตามที่ต้องการแล้ว จีอันก็ทำการแปลงโฉมรองเท้าแล้วนำไปให้นางแบบคนสำคัญลองสวม ปรากฏว่านางแบบใส่ได้พอดีเป๊ะ ถึงกระนั้นผู้จัดฯ ก็ยังคงยืนกรานว่าจะให้นางแบบคนดังกล่าวสวมรองเท้าแบรนด์อื่น โดยอ้างว่าตนได้แจ้งไปที่สำนักงานใหญ่แล้ว จีอันจึงบอกว่าเธอจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง 

เมื่อผู้จัดฯ ยืนกรานว่าเปลี่ยนรองเท้าของนางแบบคนดังกล่าวให้ได้ จีอันจึงสั่งให้ลูกน้องขนรองเท้ากลับทั้งหมด รวมทั้งรองเท้าที่บรรดานางแบบคนอื่นๆ กำลังสวมใส่อยู่ด้วย ทำให้เกิดการยื้อยุดรองเท้าเป็นที่ชุลมุน เพราะแฟชั่นโชว์กำลังจะเริ่มต้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า  เมื่อผู้จัดฯ ขู่ว่าจะฟ้อง จีอันก็ไม่สะทกสะท้านและบอกว่าเธอเป็นสาวโสดที่ไม่มีภาระผูกพันจึงไม่กลัวว่าจะติดคุก และถ้าหากต้องติดคุกจริงๆ เธอก็จะคิดเสียว่ากำลังอยู่ในหอพัก... ก่อนการแสดงแฟชั่นโชว์จะเริ่มต้นขึ้นเพียงหนึ่งนาที จีอันก็ถามผู้จัดฯ เป็นครั้งสุดท้ายว่า จะให้เธอรับผิดชอบหรือจะให้เธอติดคุก ในที่สุด นางแบบทุกคนก็สวมรองเท้าส้นสูงของจีอันเดินบนแคทวอล์คในงาน 'ฮิลด้า แฟชั่นโชว์' 


หลังเคลียร์ปัญหาจบแล้วจีอันก็ใช้ให้เทกังไปส่งที่โรงแรมเดิม ทันทีที่ไปถึงจีอันก็รีบตรงดิ่งเข้าไปในโรงแรม เทกังเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งตามไปดักหน้าแล้วทวงค่าซ่อมรถ จีอันกำลังร้อนใจเลยบอกว่าจะรีบไปรีบมาและขอให้เขารอก่อน พอไปถึงห้องบอลรูมจีอันก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปห้อง แต่แล้วกลับพบว่าภายในห้องว่างเปล่าไม่มีแขกเหรื่อสักคน คงมีเพียงพนักงานกลุ่มหนึ่งที่กำลังเก็บข้าวของ เมื่อรู้ว่างานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบ 70 ปีของพ่อเธอถูกยกเลิกกระทันหัน จีอันก็โทรฯ ถามแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ของจีอัน (ซึ่งกำลังจะขึ้นรถไฟกลับบ้านพร้อมพ่อ) ถามกลับว่าเธอหายไปไหนมาและบอกว่าตอนนี้พ่อของเธอโกรธมาก พ่อจีอันเห็นภรรยาตนกำลังคุยโทรศัพท์เลยแย่งมือถือมาดูแล้วตัดสายทิ้ง

เทกังเข้าไปยืนรอจีอันที่หน้าบันไดอย่างกระวนกระวาย เมื่อเห็นจีอันเดินลงบันไดมาเทกังก็แบมือ (ขอเงิน) ด้วยทีท่านอบน้อมพร้อมทั้งยิ้มหวาน แต่จีอันกลับเดินเลยไปหน้าตาเฉย เมื่อเห็นว่าเทกังยังคงยืนงง จีอันเลยหยุดเดินแล้วกวักมือเรียกให้เทกังตามมา เทกังจึงเดินตามไปแบบงงๆ

ปรากฏว่าจีอันใช้ให้เทกังไปส่งที่สถานีรถไฟ พอไปถึงเธอก็รีบวิ่งลงบันไดที่ลาดชันทั้งๆ ที่สวมรองเท้าส้นสูงโดยมีเทกังวิ่งตามมาติดๆ อย่างเหนื่อยหอบ เมื่อเห็นพ่อกับแม่กำลังจะเดินขึ้นรถไฟ จีอันก็ตะโกนเรียกแม่แล้วถามว่าทำไมอยู่ๆ ถึงรีบกลับ แม่จีอันมองหน้าพ่อ (ที่กำลังงอน) อย่างเกรงใจแล้วถามจีอันว่า ทำไมอยู่ๆ เธอก็หนีออกจากงานไปโดยไม่บอกกล่าว จีอันตอบแม่ว่าเธอตั้งใจจะออกไปทำธุระแค่แป็บเดียว จากนั้นก็เดินไปหาพ่อแล้วขอโทษแต่พ่อของเธอแกล้งทำเป็นไม่สนใจ จีอันเลยกล่าวขอโทษพ่ออีกครั้ง แม่จีอันพยายามเกลี้ยกล่อมสามีให้หายโกรธโดยบอกว่าไหนๆ ลูกก็ขอโทษแล้ว แต่กลับถูกสามีตวาดใส่เสียงดังลั่น ทำให้ทั้งแม่จีอันและเทกังที่ยืนดูอยู่ห่างๆ ถึงกับตกใจ


จีอันตำหนิพ่อที่เหวี่ยงใส่แม่ พ่อของจีอันซึ่งกำลังอยู่ในอาการน้อยใจหันมามองหน้าลูกสาวด้วยสายตาเจ็บปวด  ด้านจีอันเองก็เจอเรื่องแย่ๆ มาตลอดทั้งวันจึงรู้สึกเหลือทน เธอต่อว่าพ่อที่มักทำให้คนรอบข้างอึดอัดใจเสมอไม่เว้นแม้กระทั่งในวันเกิดของตัวเอง ทั้งๆ ที่เธอจัดงานวันเกิดให้พ่อโดยเลือกจองโรงแรมที่ดีที่สุด ทั้งยังจัดเตรียมเมนูอาหารและการแสดงดีๆ มารับรองแขกเหรื่อเพื่อรักษาหน้าพ่อ จีอันบอกพ่อว่าเธอทำดีที่สุดแล้ว แต่พ่อก็ยังเอาเรื่องที่เธอหายตัวไปมาเป็นข้ออ้างในการล้มเลิกงาน พ่อของจีอันสวนกลับด้วยความโกรธว่า  จีอันคงหนีไปทำงานไม่เว้นแม้กระทั่งในงานศพตน ทำให้จีอันถึงกับอึ้งพูดไม่ออก พ่อของเธอยังคงพูดต่อว่า ตนไม่ได้เดินทางมาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิด แต่มาเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอหน้าลูกสาวคนเดียวอีก จากนั้นก็ถามว่าการที่ตนรู้สึกผิดหวังเพราะไม่ได้เจอหน้าลูกมันเป็นเรื่องเลวร้ายมากนักหรือไง และตนทำอะไรผิดนักหนา 

พูดจบพ่อจีอันก็คืนเงินที่เธอส่งไปให้ แล้วบอกว่า ตนจะจำเอาไว้ว่าจีอันต้องใช้พยายามอย่างหนักเพื่อทำหน้าที่ลูกสาว นับแต่นี้จีอันไม่ต้องจัดงานวันเกิดและไม่ต้องส่งเงินให้ตนอีกแล้ว ขอให้ความเป็นพ่อลูกจบลงที่ตรงนี้ จีอันฟังแล้วแทบไม่เชื่อหูตัวเอง  พ่อของเธอยังคงพูดต่อว่า "ไหนๆ แกก็คิดจะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งพ่อแม่เพื่อจะได้ทำงานให้เต็มที่อยู่แล้ว หรือว่าแกจะให้พ่อกับแม่ย้ายชื่อแกออกจากทะเบียนบ้านเสียเลย" พูดจบพ่อจีอันก็หันไปตะคอกสั่งภรรยาเสียงดังลั่นว่าให้รีบขึ้นรถไฟ แม่จีอันถึงกับสะดุ้งด้วยความกลัว เธอทำได้เพียงบอกลูกว่า "แล้วแม่จะโทรฯ หานะ"


 

จีอันยืนมองรถไฟเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาด้วยความเศร้าใจ เทกังซึ่งเห็นเหตุการณ์โดยตลอดได้แต่ยืนมองจีอันอยู่ห่างๆ และเข็นรถมอเตอร์ไซค์ตามก้นจีอันต้อยๆ เมื่อจีอันเข้าไปนั่งทำใจในสวนหย่อม เทกังก็นั่งมองอยูห่างๆ ทางด้านหลัง ไม่นานน้ำตาจีอันก็ไหลอาบแก้ม เทกังส่งทิชชูให้จีอันพร้อมรอยยิ้ม จีอันจึงรับทิชชูมาซับน้ำมูกน้ำตา แต่แล้วเธอก็พบว่าตัวเองเข้าใจผิด  เทกังไม่ได้ส่งทิชชูให้เธอซับน้ำตา หากเป็นการทวงค่าซ่อมรถ เพราะเขาลิสต์รายการที่ต้องซ่อมพร้อมค่าเสียหายทั้งหมดลงบนกระดาษทิชชูแผ่นนั้น  (รวมเป็นเงิน 305,000 วอน หรือประมาณ 8,754 บาท) เมื่อเห็นจีอันนั่งมองค่าเสียหายบนกระดาษ เทกังก็อธิบายว่าเธอไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะเจรจาต่อรอง เขาเลยต้องวางบิลแทน แถมยังบอกเสร็จสรรพว่าถ้าจะขอลดราคาก็หักออกไปเลย 5 พันวอน (ราว 144 บาท) แล้วจ่ายตนมา 300,000 ถ้วน

จีอันถึงกับพูดไม่ออก เธอเพิ่งผ่านเรื่องแย่ๆ มาแถมน้ำตาก็ยังคลอเบ้า จึงไม่มีอารมณ์โต้เถียงหรือโวยวายใส่เทกัง หลังได้รับเงินแล้วเทกังก็กล่าวขอบคุณและก้มศีรษะให้จีอันอย่างนอบน้อมก่อนเดินจากไป แต่แล้วอยู่ๆ เทกังก็หันกลับมาแล้วบอกจีอันว่า "ไม่ต้องห่วง เขาถอนชื่อคุณออกจากทะเบียนบ้านไม่ได้หรอก  พ่อผมเพิ่งไปสำนักงานเขตเพื่อย้ายชื่อผมออก แต่เขาแก้กฏหมายใหม่แล้ว  ตอนนี้มันถูกเปลี่ยนเป็นทะเบียนบ่งชี้ความสัมพันธ์ทางครอบครัว* หรืออะไรทำนองนั้นแหล่ะ เฮ้อ!... อะไรจะดีปานนี้  พวกเขาปกป้องสิทธิของลูกแย่ๆ มากกว่าสิทธิของพ่อแม่เสียอีก"  จีอันถามย้ำว่าพ่อของเทกังไปที่สำนักงานเขตเพื่อถอนชื่อเขาออกจากทะเบียนบ้านจริงๆ หรือ เมื่อเทกังยืนยันว่าจริง จีอันก็หัวเราะทั้งน้ำตา

* กฏหมายใหม่กำหนดให้สมาชิกแต่ละคนในครอบครัวมีสิทธิ มีเสียง และมีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ด้วยตนเอง แทนที่จะให้อำนาจเด็ดขาดกับหัวหน้าครอบครัว เช่น ลูกๆ สามารถเลือกใช้นามสกุลของฝ่ายพ่อหรือแม่ได้ เป็นต้น


หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไปดื่มเหล้าฉลองในโอกาสที่ต่างฝ่ายต่างก็โดนพ่อตัดหางปล่อยวัด จีอันถามเทกังว่าทำไมถึงโดนตัดพ่อตัดลูก เทกังตอบว่าเขาและพ่อความเห็นไม่ตรงกัน ซ้ำยังนินทาพ่อว่า "ถ้าคุณเป็นลูกสาวพ่อผม คุณจะกลายเป็นลูกสาวที่แสนดี เพราะพ่อผมขี้งกจะตาย ต่อให้ไม่เจอหน้ากันเป็นปีหรือสัก 10 ปี แต่ถ้ามีเงินให้เยอะๆ พ่อผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก ในโลกนี้ไม่มีใครขี้ตืดเหมือนพ่อผมอีกแล้ว พนันกันได้เลยว่าวันจบการศึกษาผมเป็นคนเดียวที่นั่งกินจาจังมยอน (บะหมี่ชนิดหนึ่ง) อยู่กับบ้าน จีอันฟังแล้วก็พูดขึ้นบ้าง "ชั้นก็พนันได้เลยว่า ชั้นเป็นคนเดียวที่ทำให้งานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบ 70 ปีของพ่อตัวเองต้องล่มกลางคัน"

เทกังถามจีอันว่าเธอทำงานอะไร จีอันตอบ "ก็แค่มนุษย์เงินเดือนธรรมดา" เทกังแย้งว่ามนุษย์เงินเดือนธรรมดาจะจัดงานวันเกิดให้พ่อที่โรงแรมสุดหรูขนาดนั้นได้ยังไง จีอันตอบ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังถูกพ่อตะคอกใส่อยู่ดี เพราะพ่อคิดว่าเธอใช้เงินแก้ปัญหาทุกอย่าง หลังจากนั้นจีอันก็ถามเทกังว่าเขาเป็นนักศึกษารึเปล่า เทกังโม้ว่าความจริงแล้วตนสอบเข้าวิทยาลัยได้ แต่ค่าเทอมแพงมากเลยสู้ไม่ไหว ตอนนี้ตนกำลังจะเริ่มทำธุรกิจของตนเอง จีอันถามว่าธุรกิจอะไร เทกังบ่ายเบี่ยงว่าถึงบอกไปเธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เมื่อเห็นจีอันทำหน้าเหมือนรู้ทัน เทกังเลยยอมรับว่าตนยังไม่ได้เริ่มต้นวางแผนธุรกิจ แต่ก็ไม่ว่ายโม้ว่าธุรกิจของตนจะต้องสำเร็จแน่ๆ และตนจะสร้างตึก 20 ชั้นย่านกังนัมในอีก 10 ปีข้างหน้า แถมหมอดูยังบอกด้วยว่าตนจะได้ลาภโดยไม่คาดฝัน


จีอันฟังเทกังฝันเฟื่องแล้วก็ได้แต่แอบขำ เธอรินเหล้าให้เทกังดื่มแล้วอวยพรให้เขาเฮงสุดๆ ในทุกเรื่องที่ทำ หลังจากนั้นเทกังก็รินเหล้าให้จีอันบ้าง พอเทกังเริ่มเมาได้ที่เขาก็กอดขวดเหล้าแล้วแนะนำจีอันว่า เธอไม่ควรทำตัวเป็นหญิงแกร่ง ผู้หญิงควรแลดูบอบบางน่าทะนุถนอม รู้จักแกล้งโง่ ขยันหว่านเสน่ห์ และดวงตาหวานหยาดเยิ้ม เขายังบอกจีอันด้วยว่าที่เธอไม่ได้ออกเดทเป็นเพราะปากเสีย จีอันแย้งว่าเธอไม่อยากออกเดทเองต่างหาก เพราะผู้ชายเหมือนกันหมด ชอบทำตัวเป็นเด็กๆ ใจแคบ แล้วก็งี่เง่า

เทกังเปรยว่าจีอันคงเจ็บปวดเพราะผู้ชายมาเยอะ จีอันบีบแก้มเทกังอย่างแรงพลางบอกให้เขากลับบ้านไปกินนมแม่แล้วค่อยกลับมาใหม่ เทกังร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดก่อนบอกว่าตนไม่มีแม่ พ่อบอกว่าหลังคลอดตนแล้วแม่ก็หอบเงินหนีไป ทุกครั้งที่คิดถึงแม่ตนจะนึกถึงหน้า "คิม แฮจา" (นักแสดงรุ่นเดอะ ที่รับบทแม่ในภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง "มาเธอร์") เพราะมีรูปเธอติดอยู่ที่ผนัง  จีอันฟังแล้วน้ำตาคลอเบ้าด้วยความสงสาร แต่เทกังไม่ชอบให้ใครมองตนแบบนั้น เขาจึงแก้ตัวแทนแม่แล้วยืนยันว่าตนไม่เป็นไรจริงๆ

เทกังประคองจีอันที่อยู่ในสภาพเมาปลิ้นออกจากร้าน แล้วถามว่าบ้านเธออยู่ที่ไหน จีอันตบหัวเทกังจนหน้าหงายแล้วโวยวายว่ากล้าดียังไงถึงถามทางไปบ้านซึ่งเธออาศัยอยู่คนเดียว เมื่อเห็นแท็กซี่วิ่งผ่านมา เทกังก็รีบโบกมือเรียกแล้วจับจีอันยัดเข้าไปรถก่อนบอกลาด้วยความโล่งใจ แต่จีอันดันบอกคนขับรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่ต่างจังหวัด (บ้านพ่อแม่) ทำให้โดนไล่ลงจากรถ เทกังเลยต้องดูแลและช่วยประคองจีอันซึ่งยืนแทบไม่ไหว ถึงกระนั้นเธอก็ยังโวยวายด้วยความโกรธและบอกว่าจะร้องเรียนคนขับแท็กซี่ที่ปฏิเสธผู้โดยสาร ทั้งยังพยายามเรียกรถแท็กซี่คันใหม่ด้วยการออกไปยืนขวางหน้ารถ เทกังเลยต้องคอยยื้อยุดฉุดเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้โดนรถชน


ในที่สุด จีอันก็ทรุดตัวลงนั่งริมถนนแล้วกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่าเธอก็แค่อยากกลับไปหาพ่อเพื่อถามว่าเธอทำอะไรผิดนักหนาพ่อถึงได้โกรธจนถึงขั้นตัดพ่อตัดลูก ทันใดนั้นฝนก็เทลงมา เทกังทำหน้าอ่อนใจก่อนทรุดตัวลงนั่งข้างๆ จีอันแล้วบอกว่า ตนอาจจะแลดูเหมือนคนที่เป็นมิตรและจิตใจดี แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น เขากล่าวขอโทษจีอันแล้วส่งกระเป๋าสะพายคืนให้ก่อนเดินจากไป ทิ้งให้จีอันนั่งร้องไห้ตากฝนข้างถนนด้วยความรู้สึกอ้างว้างและน้อยใจในโชคชะตา

อยู่ๆ จีอันก็รู้สึกเหมือนฝนหยุดตก เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเทกังกำลังยืนกางร่มอันใหญ่ยักษ์ (ร่มสนาม) ให้เธอ จีอันรู้สึกซาบซิ้งใจที่เขาไม่คิดทอดทิ้ง แต่ก็ปิดบังความรู้สึกเอาไว้และบอกว่าเขาเป็นคนใจอ่อนเกินไป เทกังยิ้มแล้วบอกว่าทั้งเธอและเขาต่างก็ถูกทอดทิ้ง จึงควรอยู่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หลังจากนั้นเขาก็ชวนจีอันไปดื่มเหล้าต่อ



เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ทั้งจีอันและเทกังต่างก็แทบช็อคเมื่อพบว่าทั้งคู่นอนอยู่บนเตียงเดียวกันโดยไม่สวมเสื้อผ้า  เทกังไม่กล้าสู้หน้าจีอันแต่ก็ทำใจดีสู้เสือด้วยการกล่าวทักทายโดยไม่หันไปมอง จีอันยังคงมึนงงและนึกไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้นจึงถามเทกังด้วยความตกใจว่าเขาเป็นใคร เทกังกล่าวว่า "เอ่อ ผมเหรอ เมื่อวานนี้ไง...มอเตอร์ไซค์" เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจีอันก็เอามือกุมขมับแล้วถามเทกังแก้เก้อว่า "หลับสบายดีไหม"  ทั้งคู่พยายามทำตัวเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และต่างก็แกล้งทำเป็นจำเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ไม่ได้

จีอันบอกให้เทกังออกไปก่อนเพราะถ้าออกจากโรงแรมพร้อมกันมันจะดูไม่ดี เทกังบอกว่าตนก็อยากทำเช่นนั้นใจจะขาด ติดอยู่ตรงที่ว่ากางเกงในของตนอยู่ฝั่งจีอัน  จีอันพลิกตัวไปดูข้างเตียงโดยดึงผ้าห่มมาปิดหน้าอกไว้ทำให้ปลายผ้าห่มฝั่งเทกังถูกดึงออกตามไปด้วย เทกังกลัวโป๊เลยรีบขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ จีอันพลางบอกว่าไม่ใช่ตรงนั้น เขาหันหลังจีอันแล้วบอกว่ากางเกงในตนอยู่ใต้หมอนเธอ จีอันหยิบกางเกงในเทกังขึ้นมาดูแล้วรีบโยนคืนเทกัง แต่เธอกะระยะผิดทำให้กางเกงในตกลงไปอยู่ข้างเตียง เทกังเลยต้องเอื้อมแขนลงไปเก็บโดยดึงผ้าห่มมาปิดบังลำตัวไว้ไม่ให้โป๊  จีอัน (ซึ่งเอาปลายผ้าห่มอีกด้านพันตัวไว้) เลยกลิ้งเข้าไปชนหลังเทกังอย่างจัง หลังจากนั้น เทกังก็รีบมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มเพื่อสวมกางเกงในอย่างทุลักทุเล พอสวมเสร็จแล้วเขาก็บอกลาจีอัน ก่อนจะลุกขึ้นมาสวมเสื้อผ้าที่เหลืออย่างเร่งรีบแล้วออกจากโรงแรมไป


จีอันกลับไปอาบน้ำที่บ้านแล้วแต่งตัวไปทำงาน เมื่อไปถึงที่ทำงานลูกน้องของเธอต่างก็พากันทำหน้าสลดแล้วขอโทษสำหรับเรื่องยุ่งๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เห็นได้ชัดว่าลูกน้องทุกคนต่างก็เกรงกลัวเธอ แต่วันนี้จีอันกลับไม่ติดใจเอาความและถามถึงงานชิ้นต่อไป ลูกน้องของเธอจึงรีบแยกย้ายกันไปทำงาน มิหนำซ้ำจีอันยังใจดีเกินคาด เธอเรียกลูกน้องนามว่า "อึม แดรี" แล้วยื่นเครดิตการ์ดให้ โดยบอกให้เอาไปซื้อกระโปรงตัวไหม่ (จีอันตัดชายกระโปรงของเธอมาตกแต่งรองเท้าเมื่อวาน) แดรีจึงรับเครดิตการ์ดมาแบบงงๆ

หลังออกจากโรงแรมแล้วเทกังก็กลับไปเอารถมอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไว้หน้าร้านอาหารเมื่อคืน ลี ชุงเบ็ค (พนักงานร้านอาหารที่เทกังพาจีอันมานั่งดื่มจนเมาปลิ้นเมื่อคืนนี้) เห็นเทกังกลับมาเอารถมอเตอร์ไซค์ จึงถามว่าเมื่อคืนไปนอนที่ไหนมาและบอกว่าพ่อเทกังโทรฯ มาหาตนตั้งแต่เช้า เทกังยังไม่ทันตอบชุงเบ็คก็ถามไปหาวไปว่า "เมื่อคืนนายอยู่กับผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม" เทกังร้อนตัวจึงรีบปฏิเสธด้วยท่าทีมีพิรุธว่าตนและจีอันไม่ได้มีอะไรกัน  แต่ชุงเบ็ครู้ทันและขำกลิ้งเมื่อพบว่าเทกังเสียความบริสุทธิ์ให้กับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าและเพิ่งพบกัน ทั้งๆ ที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาพยายามรักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ให้ผู้หญิงที่ใช่


เทกังค่อยๆ ย่องเข้าบ้านเพื่อไม่ให้พ่อรู้  แต่ปาร์ก กวางซอก (พ่อของเทกัง) แอบย่องเข้ามาล็อคคอเทกังจากทางด้านหลัง แล้วดุด่าเทกังที่หายตัวไปทั้งคืน เมื่อถูกคาดคั้นว่าไปอยู่ที่ไหนกับใครมาทั้งคืน เทกังก็โกหกพ่อว่าตนอยู่กับเพื่อนที่เคยเป็นคู่หูตอนฝึกทหาร (ลี ชุงเบ็ค) กวางซอกรู้ได้ทันทีว่าเทกังโกหกเพราะชุงเบ็คบอกเขาว่าเทกังนั่งดื่มเหล้ากับผู้หญิงตั้งแต่หัววันยันดึกดื่น เขาจึงคาดคั้นเทกังว่าผู้หญิงคนเมื่อคืนเป็นใคร เทกังบอกตามตรงว่าเป็นแค่คนรู้จัก แต่พ่อของเขายังคงคาดคั้นว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เทกังจึงโวยวายลั่นว่านั่นเป็นเรื่องส่วนตัวของตน  (ความจริงแล้วเขาเองก็ไม่รู้ว่าจีอันเป็นใคร)  

กวางซอกบอกลูกชายว่า ตนไม่ถือโทษโกรธอะไรหากเทกังออกไปพบเพื่อนหญิงแล้วอยู่ด้วยกันทั้งคืน แต่ขอให้ระวังตัวและอย่าให้เลยเถิด (อย่าทำผู้หญิงท้อง)  ไม่อย่างนั้นเทกังจะตกอยู่ในสภาพเดียวกับตน หลังสั่งสอนลูกแล้วกวางซอกก็สั่งให้เทกังออกไปพบตนตอน 9 โมง ไม่อย่างนั้นเขาจะอดกินข้าวเที่ยง หลังกวางซอกเดินออกจากบ้านไปแล้ว เทกังก็บ่นด้วยความคับแค้นใจว่า กวางซอกต้องไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของตนแน่นอน และถ้ามีเงินเมื่อไหร่ตนจะไปตรวจดีเอ็นเอ


จีอันออกไปสำรวจตลาดแล้วพบว่าช่วงนี้รองเท้าที่เธอออกแบบขายไม่ค่อยดี เพราะมีคนทำรองเท้าเลียนแบบออกมาขายในราคาถูกกว่า จีอันชักเริ่มเหลืออดที่ตำรวจยังกวาดล้างตัวการทำรองเท้าละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ได้เสียที เธอจึงคิดที่จะจับคนร้ายด้วยตัวเอง และต้องการให้คนร้ายได้รับโทษอย่างสาสม ในขณะที่จีอันกำลังหัวเสีย เธอก็ได้ยินลูกค้าคนหนึ่งบ่นว่ารองเท้าของทางร้านสวมใส่ไม่สบาย ใส่แล้ววิ่งไม่ถนัด (รองเท้าส้นสูง) แถมราคาก็แพงกว่ารองเท้าก็อปตั้งสองเท่า ถ้าแพงและใส่ไม่สบายอย่างนี้สู้ไปซื้อของก็อปราคาถูกมาใส่เล่นยังดีเสียกว่า

จีอันฟังแล้วของขึ้นจึงไล่ลูกค้าคนดังกล่าวออกจากร้าน โทษฐานที่บังอาจเอารองเท้าของเธอไปเปรียบเทียบกับรองเท้าละเมิดลิขสิทธิ์ ที่สำคัญร้านของเธอขายรองเท้าส้นสูงไม่ได้ขายรองเท้าวิ่ง ลูกค้าคนดังกล่าวโกรธมากจึงถอดรองเท้า (ที่ลองสวม) ออก แล้วปาใส่จีอันก่อนเดินออกจากร้านไป จีอันโกรธมากที่เห็นลูกค้าเขวี้ยงรองเท้าลงพื้นเลยคิดที่จะตามไปราวีแต่ถูกพนักงานขายห้ามไว้ หลังสงบสติอารมณ์ได้แล้วจีอันก็หยิบรองเท้าขึ้นมาดูแล้วใช้แขนเสื้อเช็ดทำความสะอาดอย่างทะนุถนอม จากนั้นก็พูดปลอบใจรองเท้าเหมือนเป็นลูกคนหนึ่ง (รองเท้าสีแดงคู่ดังกล่าวเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด) 


อีกด้านหนึ่งเทกังก็กำลังเร่ขายรองเท้าส้นสูงสีแดง (แบบเดียวกับรองเท้าของจีอันเป๊ะ) โดยโม้ว่าเหมือนของแบรนด์เนมมากถึงขนาดส่งไปซ่อมหรือรับบริการหลังการขายที่ร้านของดีไซเนอร์ได้เลย ปรากฏว่าคนที่ทำรองเท้าก็อปออกมาขายก็คือกวางซอก พ่อของเทกังนั่นเอง เทกังรู้สึกไม่ดีและคิดว่าเป็นการเสียศักดิ์ศรีที่ต้องมาขายรองเท้าละเมิดลิขสิทธิ์ แถมยังต้องแอบผลิตแบบหลบๆ ซ่อนๆ เพราะกลัวโดนจับ จึงพยายามหว่านล้อมพ่อซึ่งเป็นช่างทำรองเท้าฝีมือดี ให้หันมาผลิตและสร้างแบรนด์รองเท้าของตนเอง แต่พ่อของเขาห่วงปากท้องมากกว่าความถูกต้องและศักดิ์ศรีจึงไม่เห็นด้วยกับไอเดียของเทกัง

ทันใดนั้น ชุงเบ็คก็โผล่พรวดเข้ามาในห้อง ทำให้สองพ่อลูกหัวใจจะวายเพราะนึกว่าตำรวจบุกเข้ามาจับ ชุงเบ็คลากเทกังออกมาคุยข้างนอกแล้วชี้ให้ดูหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งมีรูปจีอันอยู่บนหน้าปก  แล้วบอกว่าจีอันไม่ได้เป็นแค่มนุษย์เงินเดือนอย่างที่เธอบอก แต่เป็นถึงหัวหน้าดีไซเนอร์ชื่อดังและเป็นผู้อำนวยการแบรนด์รองเท้าหรูที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง คืนนั้นเทกังนอนอ่านหนังสือชีวประวัติของจีอันด้วยความรู้สึกทึ่ง จากนั้นก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและเธอ ก่อนจะรู้สึกผิดที่เขาและพ่อหากินด้วยการลอกเลียนผลงานจีอัน


วันหนึ่ง จีอันนั่งเคี้ยวขนมตุ้ยๆ อยู่ในห้องทำงานโดยไม่ยอมออกไปทานข้าวเที่ยงตามเคย ลูกน้องคนหนึ่งของเธอเข้ามารายงานความคืบหน้าเรื่องการร้องขอให้ตำรวจเร่งสืบหาตัวผู้ที่ลักลอบผลิตรองเท้าละเมิดลิขสิทธิ์ จีอันบอกลูกน้องว่าไม่ควรหวังพึ่งตำรวจเพียงอย่างเดียว แต่ควรออกไปลุยจับคนร้ายด้วยตัวเองโดยเน้นไปที่ย่านอีแทวอนและทงแดมุน แม้ลูกน้องของเธอจะแย้งว่าตอนนี้ทุกคนกำลังงานล้นมือและต้องทำงานอย่างหนักถึง 4 ทุ่มทุกวัน แต่จีอันก็ไม่สนและสั่งให้ทุกคนเลิกงานตอน 2 ทุ่มนับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เพื่อจะได้ช่วยกันออกตามล่าหาคนร้าย

คุณหมอที่โรงพยาบาลเรียกตัวจีอันให้มาพบเพื่อบอกผลการตรวจร่างกาย โดยเกริ่นว่าจีอันฟังแล้วอาจทำใจไม่ได้  จีอันถึงกับหน้าถอดสีเพราะนึกว่าตนเป็นโรคร้าย และรีบปฏิเสธว่าเธอเข้ารับการผ่าตัดไม่ได้เพราะยังมีงานต้องทำมากมายไปจนถึงสิ้นปี  แต่สิ่งที่หมอต้องการบอกก็คือ ฮอร์โมนของเธออยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติมาก  ตอนนี้มดลูกของเธอเหมือนมดลูกของผู้หญิงวัย 50 ปี ถ้าขืนยังเป็นอย่างนี้ต่อไป เธอจะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเร็วกว่าปกติในอีก 1-2 ปีข้างหน้า 


วันเดียวกันนั้น แม่ของจีอันโทรฯ มาบอกด้วยความตื่นเต้นว่า มีหมอสูตินรีเวชคนหนึ่งสนใจที่จะออกเดทดูตัวกับเธอ จีอันโวยวายลั่นว่าเธอไม่ชอบการนัดบอด แต่แม่เธอขอร้องว่าแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว จีอันเลยตอบตกลงทำให้แม่และพ่อของเธอดีใจมาก ปรากฏว่าคู่เดทของเธอก็คือ "โจ อึนซอง" เขาเปิดฉากชมว่าเธอสวยและมีบางอย่างคล้าย 'แม่' ของเขา  จีอันฟังแล้วถึงกับหน้าเจื่อน หลังคุยกันได้สักพักจีอันก็เริ่มหาวด้วยความเบื่อ แต่แล้วอยู่ๆ อึนซองก็ขอดูหน้าผากของจีอันโดยบอกว่า "คือ... แม่ผมบอกว่าผู้หญิงหน้าผากกว้างมักเก่งเรื่องงานบ้านงานเรือน และเป็นคนจิตใจดี ท่านเลยกำชับผมให้พิจารณาหน้าผากผู้หญิงก่อนเป็นลำดับแรก แม่ผมเองก็หน้าผากกว้าง ผมเลยฝันเอาไว้ตั้งแต่เด็กๆ ว่าจะแต่งงานกับผู้หญิงที่มีลักษณะคล้ายแม่"

จีอันได้แต่นั่งหาวและอดทนฟังอึนซองที่พูดถึงแม่ตลอดเวลา อึนซองเห็นจีอันหาวไม่หยุดเลยถามว่าเรื่องที่เขาเล่าน่าเบื่อมากเลยหรือ จีอันปฏิเสธโดยบอกว่าเรื่องแม่ของเขาฟังดูแล้วก็น่าสนใจดี แต่เธอป่วยเป็นโรคเรื้อรัง จากนั้นก็เล่าเรื่องมดลูกของเธอให้อึนซองฟังในฐานะที่เขาเป็นหมอสูติฯ อึนซองถามว่าตนกำลังถูกปฏิเสธหรือเปล่า จีอันตอบว่าไม่ใช่ แต่เธอกำลังขอให้เขาปฏิเสธเธอต่างหาก เพราะเธอไม่เคยคิดที่จะแต่งงาน ถ้าหากเธอปฏิเสธการแต่งงานคราวนี้ เธออาจโดนพ่อกับแม่ตัดทางปล่อยวัดจริงๆ เธอเลยอยากขอร้องให้เขาเป็นฝ่ายปฏิเสธเธอ



อึนซองฟังแล้วรู้สึกขำ เพราะสิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมด (เกี่ยวกับแม่และหน้าผาก) ก็เพื่อให้เธอปฏิเสธเช่นกัน เขาเองก็ไม่อยากแต่งงานเลยแกล้งทำตัวเป็นลูกแหง่ต่อหน้าเธอ  หลังต่างฝ่ายต่างเปิดใจ ทั้งคู่ก็พูดคุยกันอย่างถูกคอเพราะเป็นคนบ้างานด้วยกันทั้งคู่ อึนซองสารภาพว่าถ้าแผนแรกไม่สำเร็จ เขาจะหยิบมาสคาร่าออกมาโชว์และขอตัวไปปัดขนตาในห้องน้ำ ทำให้จีอันขำกลิ้ง

หลังจากนั้นจีอันก็ขอตัวโดยบอกว่ามีภารกิจที่ต้องทำ  อึนซองตามมาส่งจีอันที่รถแล้วขอนัดพบเธออีกในฐานะเพื่อน  แต่จีอันปฏิเสธและขอยุติความสัมพันธ์ที่ตรงนี้ อึนซองแอบเสียดายแต่ก็เคารพในการตัดสินใจของจีอัน และบอกเธอว่า "ผมหวังว่าเราคงไม่บังเอิญพบกันอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โรงพยาบาล"


อีกด้านหนึ่ง เทกังกับพ่อกำลังขนรองเท้าละเมิดลิขสิทธิ์วิ่งหนีตำรวจ โดยแยกกันหนีไปคนละทาง ส่วนจีอันที่เพิ่งแยกกับอึนซองมาหมาดๆ ก็กำลังเดินหาแหล่งผลิตและจำหน่ายรองเท้าละเมิดลิขสิทธิ์ เทกังหิ้วถุงรองเท้าวิ่งออกจากซอยด้วยความเร่งรีบและชนจีอันอย่างจังจนถุงรองเท้าหลุดมือ ทำให้รองเท้ากระจายเกลื่อนบนถนน ส่วนจีอันและเทกังต่างก็ล้มลงไปกองกับพื้นด้วยเช่นกัน

เมื่อลุกขึ้นได้เทกังก็โวยวายใส่จีอันที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ จากนั้นก็เก็บรองเท้าที่วางเกลื่อนอยู่บนถนนมาใส่ถุง  จีอันหันไปเห็นรองเท้าร่วงอยู่บนพื้นจึงหยิบขึ้นมาดูด้วยความตกใจเพราะเหมือนรองเท้าที่เธอออกแบบเปี๊ยบ และเมื่อทั้งคู่หันไปมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างก็ต้องตกตะลึง เทกังทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างแล้วรีบวิ่งหนีไป จีอันจะถอดรองเท้าส้นสูงแล้ววิ่งตามแต่ถอดไม่ทัน เธอจึงได้แต่ตะโกนเรียกให้เขาหยุดด้วยความโกรธ






เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน I Do, I Do

* เนื้อหาโดย luvasianseries


นักแสดงนำ



คิม ซอนอา 
รับบท ฮวาง จีอัน



ลี จางวู 
รับบท ปาร์ก เทกัง  



ปาร์ก กอนฮยอง 
รับบท โจ อึนซอง



อิม ซูฮยาง 
รับบท ยอม นารี

* ภาพจากเอ็มบีซี





* ดูคลิปเพิ่มเติมจากช่องเอ็มบีซีได้ ที่นี่


*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา