กำกับ: ลี จองซบ
เขียนบท: คัง อึน กยอง
แนวละคร: โรแมนติก ดราม่า
จำนวนตอน: 24
ออกอากาศ: เกาหลี - ระหว่างวันที่ 12 ตุลาคม 2554 - 28 ธันวาคม 2554 ทางเคบีเอส2
ไทย - ทุกวันพุธ-ศุกร์ เวลา 20.50 น. ทางเวิร์คพอยท์ทีวี (เริ่ม 6 ธันวาคม 2555)
เรื่องย่อ (ตอนที่ 1)
ละครเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของยูน แจอิน และคิม ยองกวาง สองหนุ่มสาวที่โชคชะตาเล่นตลกให้พบกับชะตากรรมอันเลวร้ายและต้องฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนามมากมาย ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา และพบรักกันในที่สุด
คิม ยองกวาง เป็นอดีตผู้ตี (แบตเตอร์) ตำแหน่งที่ 4 ของทีมเบสบอลเมเจอร์ลีก (สังกัดทีมดราก้อน) ต่อมาถูกลดชั้นให้เป็นผู้เล่นในลีกรองโทษฐานทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมทีม มิหนำซ้ำ เขายังถูกโค้ชยื่นคำขาดให้เร่งพัฒนาฝีมือภายใน 2 เดือน มิเช่นนั้นจะโดนไล่ออกจากทีม เขาจึงพยายามฝึกซ้อมเพื่อที่จะกลับไปแข่งในศึกเมเจอร์ลีกให้ได้ (เมื่อ 7 ปีก่อนเขาเคยทำโฮมรันในการแข่งขันฟีนิกซ์คัพ และนั่นก็เป็นผลงานสร้างชื่อครั้งแรกและสุดท้ายที่เขาทำให้ทีม)
คู่ปรับตลอดกาลของยองกวาง ก็คือซอ อินวู ซึ่งเป็นผู้ขว้าง (พิทเชอร์) ชื่อดังของทีมดราก้อน แม้ทั้งคู่จะอายุเท่ากัน แต่อินวูกลับมีชื่อเสียง มีฝีมือ และมีอนาคตอันสดใสรุ่งโรจน์ แถมฐานะทางบ้านยังร่ำรวยอีกต่างหาก และเขาก็คือต้นเหตุที่ทำให้ยองกวางถูกลดชั้นลงมาเป็นผู้เล่นในทีมลีกรอง
ระหว่างที่อินวูกำลังลงแข่ง โดยมีแฟนๆ คอยชูป้ายและตะโกนเชียร์ดังลั่นสนาม ยองกวางก็กำลังซุ่มฝึกซ้อมในสนามที่ว่างเปล่าโดยมีเพียงโค้ชและเพื่อนร่วมทีมลีกรองคอยลุ้นให้เขาตีโดนลูก (เสียที) แม้จะอยู่กันคนละสนาม แต่โชคชะตาก็เล่นตลกให้ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บในเวลาไล่เลี่ยกัน อินวูถูกลูกเบสบอลอัดเข้าที่จมูกอย่างจังจนเลือดสาด ส่วนยองกวางก็พุ่งชนเพื่อนร่วมทีมขณะพยายามทำโฮมรัน ทำให้กระเด็นลงไปฟาดพื้นแน่นิ่ง เขารู้สึกเจ็บและใกล้หมดสติเต็มที แต่ก็พยายามนึกถึงสาเหตุที่ทำให้ตนดันทุรังอยากเป็นนักเบสบอล
ผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้คิม ยองกวาง หันมาเอาดีทางด้านเบสบอลก็คือ ยูน แจอิน เด็กสาวที่คาบช้อนทองมาเกิด แต่โชคชะตาพลิกผันให้พรัดพรากจากพ่อแม่ตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิง และต้องไปอยู่ภายใต้การดูแลของแม่ชี ถึงกระนั้นเธอก็ยังสดใส ร่าเริง คิดบวก จิตใจดี และมีความใฝ่ฝันว่าสักวันจะเป็นนางพยาบาล
วันที่ยองกวางหมายมั่นว่าจะเป็นนักเบสบอลอาชีพที่เก่งขั้นเทพ คือวันแรกที่เขาได้เจอแจอิน และวันนั้นก็เป็นวันที่แจอินต้องประสบกับชะตากรรมอันเลวร้าย... เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 17 ปีก่อนตอนที่ทั้งคู่ยังเป็นเด็กประถม ขณะนั้นพ่อของยองกวางเป็นคนขับรถให้ประธานอิลกู (พ่อของแจอิน)... วันเกิดเหตุแม่แจอินอนุญาตให้ยองกวางมาร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดของแจอิน หลังพายองกวางไปร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดที่บ้านแจอินแล้ว พ่อของยองกวางก็ขับรถไปรับท่านประธานอิลกูที่ออฟฟิศทันที
ยองกวางพบแจอินครั้งแรกในงานดังกล่าว เขารู้สึกประทับใจในตัวเธอตั้งแต่แรกเห็น เพราะเธอเป็นเด็กน่ารัก จิตใจดี ไม่รังเกียจที่เขาเป็นเพียงลูกชายคนขับรถ ผิดกับอินวู (ลูกชายรองประธาน) ที่พูดจาดูถูกเหยียดหยามเขาต่อหน้าเด็กคนอื่น ทั้งยังท้าให้มาแข่งเบสบอลกัน (เพราะเป็นกีฬาที่ตนเองถนัด และรู้ว่าลูกชายคนขับรถคงไม่มีเงินทุนฝึกเล่นเบสบอล ) ยองกวางไม่เคยเล่นเบสบอลมาก่อนแต่ก็ยอมรับคำท้า ทำให้ถูกอินวูขว้างลูกบอลใส่หน้าจนเลือดกำเดาไหล แต่ยองกวางก็หลับหูหลับตาเล่นต่อและสามารถทำโฮมรันได้แบบงงๆ ทำให้อินวูไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
ขณะกำลังจะกลับบ้านเพื่อไปร่วมงานวันเกิดของลูกสาว พ่อของแจอินก็ได้รับข่าวร้ายจากอัยการวูว่า บริษัทของเขาถูกสำนักงานอัยการตั้งข้อหา หลังพบหลักฐานว่ามีการตั้งกองทุนลับเพื่อติดสินบนทางธุรกิจ อัยการวูแนะนำให้เขามอบตัวและให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ แต่พ่อของแจอินยืนกรานว่าตนไม่เคยทำเรื่องผิดกฏหมายและไม่เคยใช้วิธีสกปรกในการทำธุรกิจ อัยการวูจึงแนะนำให้ไปสอบถามเรื่องนี้กับรองประธานซอ แจ-มยอง (พ่อของอินวู)
อิลกูชวนแจมยองออกไปทำธุระข้างนอก ระหว่างที่อยู่ในรถ (พ่อยองกวางเป็นคนขับ) ทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกัน อิลกูรู้ว่าแจมยองทำผิดจริงจึงคิดพาไปมอบตัวและให้ปากคำที่สำนักงานอัยการ แต่แจมยองไม่ยอมไปและสั่งให้พ่อยองกวางกลับรถ พ่อยองกวางไม่ยอมทำตาม จึงเกิดการยื้อยุดพวงมาลัย เป็นเหตุให้รถเสียหลักพุ่งชนกับรถคันอื่นก่อนที่จะไถลตกลงไปในแม่น้ำ
แจมยองเป็นคนเดียวที่ยังมีสติสัมปชัญญะ เขาจึงพยายามกระเสือกกระสนออกจากรถที่จมอยู่ใต้น้ำ พอออกจากรถได้เขาก็คว้ามือชายคนหนึ่งเอาไว้และพาว่ายน้ำขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย โดยเข้าใจว่าชายคนดังกล่าวคืออิลกู พ่อของแจอิน แต่แล้วเขากลับพบว่าชายที่ตนช่วยชีวิตเอาไว้ก็คือคนขับรถ ส่วนร่างของเพื่อนรักยังคงจมอยู่ใต้น้ำ
ในเวลาเดียวกันนั้น เด็กหญิงแจอินกำลังทำแผลให้ยองกวางโดยหันหน้าออกไปทางแม่น้ำ ยองกวางสารภาพว่าตนไม่เคยเล่นเบสบอลมาก่อน และเพิ่งทำโฮมรันได้เป็นครั้งแรก แจอินจึงกล่าวชมยองกวางว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ ยองกวางถามแจอินว่า "เธอจะแต่งงานเขาไหม ถ้าโตขึ้นแล้วเขากลายเป็นเจ้าพ่อโฮมรัน" แจอินยังไม่ทันตอบ แม่ของเธอก็วิ่งมาตามโดยบอกให้รีบเดินทางไปหาพ่อ ยองกวางวิ่งตามไปที่รถแล้วมอบลูกเบสบอล (ที่เขาเพิ่งตีโฮมรันได้เป็นครั้งแรกในชีวิต) ให้แจอินเป็นของขวัญ แจอินรับลูกเบสบอลแล้วพูดพลางพยักหน้าเล็กน้อยว่า "อื้ม!" โดยบอกว่าเป็นคำตอบของคำถามเมื่อสักครู่ และย้ำว่าเขาจะต้องเป็นสุดยอดนักเบสบอลให้ได้
แจมยองยืนตัวสั่นต่อหน้าศพของเพื่อนรัก อัยการวูเข้ามาดูศพอิลกูด้วยความตกใจ เธอจ้องมองแจมยองด้วยความสงสัยแกมจับผิด จากนั้นก็คาดคั้นถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ พ่อยองกวางเห็นรองประธานแจมยองได้แต่ยืนอ้ำอึ้ง จึงตอบแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตด้วยการสารภาพว่า เป็นความผิดของตนที่ประคองรถไม่อยู่ เนื่องจากในตอนนั้นฝนตกถนนลื่น ทำให้รถเสียหลักก่อนพุ่งตกลงไปในน้ำ
แม่แจอินรีบบึ่งรถฝ่าสายฝนด้วยใจที่จดจ่อถึงสามี จึงไม่มีสมาธิและไม่ทันระวังว่ากำลังขับอยู่บนถนนที่ลื่นและคดเคี้ยว ทำให้รถเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำหลายตลบ จากนั้นก็ตกลงมาริมฝั่งแม่น้ำ แม่ของแจอินบาดเจ็บสาหัสและติดอยู่ในซากรถ ส่วนแจอินไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าร่างของเธออาจกระเด็นตกลงไปในแม่น้ำ ยองกวางเห็นข่าวครอบครัวแจอินในทีวีแล้วถึงกับช็อค ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งบอกแม่ว่าจะเป็นนักเบสบอล และยังหว่านล้อมให้แม่ซื้ออุปกรณ์ให้
เมื่อประธานบริษัทประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ส่วนภรรยาก็บาดเจ็บสาหัสและอยู่ในสภาพที่เป็นตายเท่ากัน เหล่ากรรมการบริษัทจึงเสนอให้แจมยองทำหน้าที่ประธานบริษัทแทนประธานคนเก่าที่เพิ่งเสียชีวิต ขณะที่แจมยองกำลังครุ่นคิดถึงแผนการบางอย่าง ตำรวจก็โทรศัพท์มาแจ้งว่ามีคนนำเด็กหญิงลักษณะตรงกับเด็กที่เขาแจ้งหายมาส่งให้ที่โรงพัก แต่เด็กไม่ยอมพูดยอมจา ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่อง จึงอยากให้เขาไปดูว่าใช่เด็กกำลังตามหาหรือไม่
อัยการวูนำหมายเรียกมามอบให้แจมยอง พลางบอกให้เขาไปรายงานตัวที่สำนักงานอัยการในวันรุ่งขึ้น เพื่อชี้แจงเรื่องกองทุนลับและสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ แจมยองถือโอกาสโยนความผิดให้เพื่อน โดยอ้างว่าเขาแค่ทำตามคำสั่งประธานเท่านั้น แต่อัยการวูรู้ทันจึงพูดดักคอว่า นอกจากจะโยนความผิดให้เพื่อนแล้วเขายังคิดที่จะฮุบบริษัทของเพื่อนด้วยใช่ไหม แจมยองฟังแล้วไม่สะทกสะท้าน เขาอ้างว่าในเมื่อภรรยาประธานมีอาการโคม่า แถมลูกสาวประธานก็หายตัวไป เขาจึงต้องเข้ามาช่วยดูแลบริษัทให้ และถ้ามีเรื่องสงสัยก็ให้ไปคุยกับทนายความของตนแทน
อัยการวูเป็นรุ่นพี่ของแม่แจอิน เธอจึงคิดปกป้องธุรกิจและครอบครัวรุ่นน้อง โดยสั่งให้ลูกทีมเร่งตามหาแจอินที่หายตัวไป เพราะเธอเป็นทายาทเพียงคนเดียวของประธานอิลกู แจมยองรู้ว่าอัยการวูกำลังตามหาแจอิน จึงสั่งให้พ่อยองกวางไปที่โรงพักเพื่อตรวจสอบว่าเด็กที่ตำรวจพูดถึงคือแจอินจริงหรือไม่
พ่อยองกวางเห็นแจอินก็รีบเข้าไปหาและสำรวจตามตัวว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จากนั้นก็คว้าตัวแจอินเข้ามากอด แจอินซึ่งอยู่ในอาการช็อค เหม่อลอย ไม่พูดไม่จา สวมกอดพ่อของยองกวางโดยที่มือข้างหนึ่งยังคงถือลูกเบสบอล (ที่ยองกวางให้) เอาไว้ แม้พ่อยองกวางจะสงสารและเห็นใจในชะตากรรมของแจอิน แต่เขาเพิ่งได้รับคำสั่งจากแจมยองให้เปลี่ยนชื่อเธอแล้วนำตัวเธอไปส่งในที่ๆ ไม่มีคนรู้จัก พ่อยองกวางจึงพาแจอินไปฝากไว้กับแม่ชีที่โบสถ์แห่งหนึ่ง แต่ยังคงให้เธอใช้ชื่อเดิม
เมื่อประธานบริษัทประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ส่วนภรรยาก็บาดเจ็บสาหัสและอยู่ในสภาพที่เป็นตายเท่ากัน เหล่ากรรมการบริษัทจึงเสนอให้แจมยองทำหน้าที่ประธานบริษัทแทนประธานคนเก่าที่เพิ่งเสียชีวิต ขณะที่แจมยองกำลังครุ่นคิดถึงแผนการบางอย่าง ตำรวจก็โทรศัพท์มาแจ้งว่ามีคนนำเด็กหญิงลักษณะตรงกับเด็กที่เขาแจ้งหายมาส่งให้ที่โรงพัก แต่เด็กไม่ยอมพูดยอมจา ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่อง จึงอยากให้เขาไปดูว่าใช่เด็กกำลังตามหาหรือไม่
อัยการวูนำหมายเรียกมามอบให้แจมยอง พลางบอกให้เขาไปรายงานตัวที่สำนักงานอัยการในวันรุ่งขึ้น เพื่อชี้แจงเรื่องกองทุนลับและสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ แจมยองถือโอกาสโยนความผิดให้เพื่อน โดยอ้างว่าเขาแค่ทำตามคำสั่งประธานเท่านั้น แต่อัยการวูรู้ทันจึงพูดดักคอว่า นอกจากจะโยนความผิดให้เพื่อนแล้วเขายังคิดที่จะฮุบบริษัทของเพื่อนด้วยใช่ไหม แจมยองฟังแล้วไม่สะทกสะท้าน เขาอ้างว่าในเมื่อภรรยาประธานมีอาการโคม่า แถมลูกสาวประธานก็หายตัวไป เขาจึงต้องเข้ามาช่วยดูแลบริษัทให้ และถ้ามีเรื่องสงสัยก็ให้ไปคุยกับทนายความของตนแทน
อัยการวูเป็นรุ่นพี่ของแม่แจอิน เธอจึงคิดปกป้องธุรกิจและครอบครัวรุ่นน้อง โดยสั่งให้ลูกทีมเร่งตามหาแจอินที่หายตัวไป เพราะเธอเป็นทายาทเพียงคนเดียวของประธานอิลกู แจมยองรู้ว่าอัยการวูกำลังตามหาแจอิน จึงสั่งให้พ่อยองกวางไปที่โรงพักเพื่อตรวจสอบว่าเด็กที่ตำรวจพูดถึงคือแจอินจริงหรือไม่
พ่อยองกวางเห็นแจอินก็รีบเข้าไปหาและสำรวจตามตัวว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จากนั้นก็คว้าตัวแจอินเข้ามากอด แจอินซึ่งอยู่ในอาการช็อค เหม่อลอย ไม่พูดไม่จา สวมกอดพ่อของยองกวางโดยที่มือข้างหนึ่งยังคงถือลูกเบสบอล (ที่ยองกวางให้) เอาไว้ แม้พ่อยองกวางจะสงสารและเห็นใจในชะตากรรมของแจอิน แต่เขาเพิ่งได้รับคำสั่งจากแจมยองให้เปลี่ยนชื่อเธอแล้วนำตัวเธอไปส่งในที่ๆ ไม่มีคนรู้จัก พ่อยองกวางจึงพาแจอินไปฝากไว้กับแม่ชีที่โบสถ์แห่งหนึ่ง แต่ยังคงให้เธอใช้ชื่อเดิม
ยองกวางไปตามหาพ่อที่งานศพของพ่อแจอิน พอเจออินวูเขาก็ถามว่าพบตัวแจอินแล้วหรือยัง อินวูตอบว่า "แจอินตายแล้ว" จากนั้นก็ดูถูกยองกวางว่าเป็นคนชั้นต่ำ ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน สุดท้ายยองกวางก็ต้องอยู่ในสถานะที่ต่ำกว่าตนวันยังค่ำ ยองกวางพยายามข่มใจแต่แล้วก็มีเรื่องชกต่อยกับอินวูจนได้
หลังเสร็จสิ้นพิธีศพประธานอิลกู แจมยองก็เข้ารับตำแหน่งประธานคนใหม่ ขณะที่แม่แจอินยังคงนอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัว อัยการวูได้แต่เฝ้ามองรุ่นน้องด้วยความเป็นห่วงแต่เธอก็ยังไม่ละความพยายามในการออกตามหาแจอิน ด้านแจอินก็กำลังนั่งท่องชื่อตัวเองอยู่ในโบสถ์ ส่วนพ่อยองกวางก็กลายมาเป็นคนขับรถให้ "ประธานแจมยอง" และอินวู
ยองกวางยืนดูพ่อทำงานรับใช้ครอบครัวอินวูด้วยความคับแค้นใจ วันหนึ่งเขาถือไม้เบสบอลเข้าไปหาอินวูในสนามซ้อม จากนั้นก็ชี้ไม้เบสบอลไปที่อินวูแล้วลั่นวาจาว่าสักวันเขาจะต้องเอาชนะและอยู่เหนือกว่าอินวูให้ได้!!!
แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังตีลูกไม่ค่อยถูก ขณะที่ทักษะและฝีมือของอินวูพัฒนาขึ้นทุกวัน ยองกวางโตขึ้นมาเป็นนักเบสบอลภายใต้สังกัดเดียวกันกับอินวู แต่วิธีฝึกซ้อมและฟิตร่างกายต่างกันราวฟ้ากับเหว (ตามกำลังทรัพย์) เขาเป็นนักเบสบอลโนเนม ส่วนอินวูเป็นนักเบสบอลดาวรุ่งชื่อดัง...
หลัง (นอน) นึกถึงเรื่องราวต่างๆ ยองกวางก็สรุปกับตนเองว่าคนจนมักจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้คนรวยเสมอ และเขาต้องใช้เวลานานถึง 17 ปีเพื่อพิสูจน์ความจริงข้อนี้...
แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังตีลูกไม่ค่อยถูก ขณะที่ทักษะและฝีมือของอินวูพัฒนาขึ้นทุกวัน ยองกวางโตขึ้นมาเป็นนักเบสบอลภายใต้สังกัดเดียวกันกับอินวู แต่วิธีฝึกซ้อมและฟิตร่างกายต่างกันราวฟ้ากับเหว (ตามกำลังทรัพย์) เขาเป็นนักเบสบอลโนเนม ส่วนอินวูเป็นนักเบสบอลดาวรุ่งชื่อดัง...
ยองกวางหมดสติและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่ไม่มีใครสนใจ ผิดกับอินวูที่พอมาถึงโรงพยาบาล ทั้งแพทย์ พยาบาล นักข่าว เพื่อนร่วมทีม ฯลฯ ต่างกรูกันเข้ามารับและวิ่งตามเข้าไปในห้องตรวจ ยองกวางนอนเจ็บอยู่บนเตียงตามลำพังโดยไม่มีแพทย์และพยาบาลคอยดูแล แม้แต่โค้ชที่มาด้วยกันก็ยังทิ้งเขา แล้ววิ่งไปดูอินวูทันทีที่ทราบข่าวว่าอินวูได้รับบาดเจ็บ
ยองกวางปวดหัวมากจึงพยายามเรียกให้คนช่วยแต่ไม่มีใครสนใจ เขาจึงพยายามลุกขึ้นนั่งอย่างอ่อนแรง แต่เกิดหน้ามืดจนเกือบตกลงจากเตียง โชคดีที่สาวน้อยคนหนึ่งวิ่งเข้ามารับตัวเขาไว้ได้ทัน แถมเธอยังจำหน้า จำชื่อ และจำผลงานที่เขาเคยสร้างไว้เมื่อ 7 ปีก่อนได้ เธอออกอาการตื่นเต้นดีใจมากที่ได้เจอยองกวาง และบอกว่าเธอเป็นแฟนคลับ (เพียงหนึ่งเดียว) ของเขา ยองกวางถามว่าเธอเป็นใคร เธอจึงยิ้มแล้วแนะนำตัวว่า ตนชื่อ "ยูน แจอิน"
ยองกวางพูดทวนชื่อเธอแล้วนึกในใจว่า ในช่วงเวลาที่เขาตกต่ำถึงขีดสุด คนที่ช่วยฉุดดึงเขาขึ้นมาก็คือสาวน้อยคนนี้ คนที่มีชื่อว่า "ยูน แจอิน"
ทั้งคู่จะจำกันได้หรือไม่และจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ติดตามชมได้ทางช่องเวิร์คพอยท์ทีวี
* เนื้อหาโดย luvasianseries
ยองกวางปวดหัวมากจึงพยายามเรียกให้คนช่วยแต่ไม่มีใครสนใจ เขาจึงพยายามลุกขึ้นนั่งอย่างอ่อนแรง แต่เกิดหน้ามืดจนเกือบตกลงจากเตียง โชคดีที่สาวน้อยคนหนึ่งวิ่งเข้ามารับตัวเขาไว้ได้ทัน แถมเธอยังจำหน้า จำชื่อ และจำผลงานที่เขาเคยสร้างไว้เมื่อ 7 ปีก่อนได้ เธอออกอาการตื่นเต้นดีใจมากที่ได้เจอยองกวาง และบอกว่าเธอเป็นแฟนคลับ (เพียงหนึ่งเดียว) ของเขา ยองกวางถามว่าเธอเป็นใคร เธอจึงยิ้มแล้วแนะนำตัวว่า ตนชื่อ "ยูน แจอิน"
ยองกวางพูดทวนชื่อเธอแล้วนึกในใจว่า ในช่วงเวลาที่เขาตกต่ำถึงขีดสุด คนที่ช่วยฉุดดึงเขาขึ้นมาก็คือสาวน้อยคนนี้ คนที่มีชื่อว่า "ยูน แจอิน"
ทั้งคู่จะจำกันได้หรือไม่และจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ติดตามชมได้ทางช่องเวิร์คพอยท์ทีวี
* เนื้อหาโดย luvasianseries
นักแสดง
ชอน จองมยอง
รับบท คิม ยองกวาง
ปาร์ค มินยอง
รับบท ยูน แจอิน
ลี จางวู
รับบท ซอ อินวู
ปาร์ค ซองอุน
รับบท ซอ อินชอล
ซน ชางมิน
รับบท ซอ แจมยอง
* ภาพจากเคบีเอส
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา