กำกับ: ปาร์ก จินซอก, ซอง ฮยอนวุก
เขียนบท: ฮวาง อึนคยอง
แนวละคร: โรแมนติก, คอมเมดี้
จำนวนตอน: 16
ออกอากาศ: เกาหลี - 6 สิงหาคม 2555 - 25 กันยายน 2555 ทาง เคบีเอส2
ไทย - ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 22.00 - 23.30 น. ทาง เวิร์คพอยท์ทีวี
ไทย - ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 22.00 - 23.30 น. ทาง เวิร์คพอยท์ทีวี
ละครโรแมนติกคอมเมดี้เรื่องนี้ นำเสนอเรื่องราวของพนักงานอัยการคนหนึ่งซึ่งแฝงตัวเข้าไปอยู่กับครอบครัวมาเฟียในย่านแฮอุนแดของเมืองปูซาน แต่แล้วก็มีเหตุให้เขาสูญเสียความทรงจำระหว่างปฏิบัติหน้าที่และเกิดไปรักกับลูกสาวหัวหน้าแก๊งค์มาเฟีย หลังความทรงจำกลับคืนมา เขาจึงต้องตัดสินใจว่าจะหันหลังให้คนรักแล้วจับพวกเธอเข้าคุก หรือลาออกจากงานเพื่อมาใช้ชีวิตอยู่กับเธอในฐานะสมาชิกคนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรม
ละคร "แฮอุนแด เลิฟเวอร์ส (Haeundae Lovers)" เปิดฉากด้วยภาพการปฏิบัติหน้าที่ของอัยการ "ลี แทซอง" ซึ่งนำเจ้าหน้าที่มาซุ่มดูความเคลื่อนไหวของนักค้ายาเสพติดรายใหญ่บนรถบรรทุก... หลังลงไปซื้อเสบียงให้ตนเองทีมงานแล้ว แทซองก็เดินกลับไปที่รถพลางเคี้ยวแฮมเบอร์เกอร์ตุ้ยๆ (ขณะที่เขากำลังจะขึ้นรถเจ้าหน้าที่จางก็เดินสวนลงมาเพราะมีอาการท้องเสีย) เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเห็นแทซองซื้อแฮมเบอร์เกอร์มาฝากพวกตนอีกตามเคย เลยโวยวายว่าพวกตนกินแฮมเบอร์เกอร์ติดต่อกันเป็นวันที่สี่แล้ว แทซองกล่าวพลางใช้แขนปัดเศษขยะลงจากโต๊ะโดยไม่ละสายตาจากจอมอนิเตอร์ (ดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ทั่วบริเวณ) ว่า "ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน แต่กินเสร็จแล้วทำไมไม่รู้จักเอาขยะไปทิ้ง"
หัวหน้าแก๊งค์ค้ายาเสพติด "โอ จองชอล" นัดส่งมอบยาเสพติดบนเรือลำหนึ่งที่จอดอยู่ในท่าเทียบเรือ โดยไม่รู้ว่าถูกกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ทุกขั้นตอน เมื่อได้หลักฐานเอาผิดแล้วแทซองก็หมายมั่นว่าคราวนี้ต้องจับจองชอลได้แน่ แต่แล้วเจ้าหน้าที่จางซึ่งออกไปปลดทุกข์ (ท้องเสีย) ก็ถูกสมุนของจองชอลลากขึ้นไปบนเรือ เมื่อจองชอลและลูกสมุนเห็นซองปืน (ซองเปล่า) ที่เอวเจ้าหน้าที่จาง เขาก็เริ่มไหวตัวทันจึงสั่งให้ทุกคนรีบหนี ซ้ำยังโปรยยาเสพติดลงทะเลเพื่อทำลายหลักฐาน
หัวหน้าแก๊งค์ค้ายาเสพติด "โอ จองชอล" นัดส่งมอบยาเสพติดบนเรือลำหนึ่งที่จอดอยู่ในท่าเทียบเรือ โดยไม่รู้ว่าถูกกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ทุกขั้นตอน เมื่อได้หลักฐานเอาผิดแล้วแทซองก็หมายมั่นว่าคราวนี้ต้องจับจองชอลได้แน่ แต่แล้วเจ้าหน้าที่จางซึ่งออกไปปลดทุกข์ (ท้องเสีย) ก็ถูกสมุนของจองชอลลากขึ้นไปบนเรือ เมื่อจองชอลและลูกสมุนเห็นซองปืน (ซองเปล่า) ที่เอวเจ้าหน้าที่จาง เขาก็เริ่มไหวตัวทันจึงสั่งให้ทุกคนรีบหนี ซ้ำยังโปรยยาเสพติดลงทะเลเพื่อทำลายหลักฐาน
เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามคาด แทซองก็คิดที่จะออกไปจับจองชอลด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่ๆ อยู่ในรถบรรทุกพยายามห้ามปรามโดยบอกว่ากำลังเสริม (ตำรวจ) กำลังเดินทางมา แถมข้างนอกก็มีแต่แก๊งค์ค้ายาและพวกมาเฟีย เขาคนเดียวคงรับมือไม่ไหว แต่แทซองไม่ต้องการเสียโอกาสและไม่อาจทนรออีกต่อไป เขาจึงออกไปลุยเดี่ยวโดยใช้โทรศัพท์มือถิอเป็นอาวุธ (แทซองนำโทรศัพท์มาใส่กระเป๋าซิปของเสื้อกั๊ก แล้วเอาช่วงคอของเสื้อกั๊กมาพันมือ จากนั้นก็ฟาดเสื้อส่วนที่มีกระเป๋าและมือถือใส่เหล่านักเลงอย่างดุเดือด ทำให้หลายคนถึงกับล้มคว่ำ - น่าแปลกที่ไม่มีใครพกอาวุธเลย)
แม้จะโดนนักเลงคนหนึ่งทุ่มลงไปกองกับพื้นและถูกเหยียบแขนซ้ำ แต่แทซองก็ใช้ขาเกี่ยวคนร้ายให้ล้มลงแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว จองชอลเห็นท่าไม่ดีจึงรีบวิ่งหนีแต่แทซองเองก็กัดไม่ยอมปล่อย เขาจึงพยายามฝ่าสมุนของจองชอลแล้วไล่ตามไป แต่จองชอลและสมุนอีก 2 คนกลับลงเรือเล็กหนีไปเสียก่อน ทั้งยังโบกมือบ๊ายบายแทซอง (ซึ่งอยู่บนเรือลำใหญ่) อย่างเยาะเย้ย แทซองไม่ยอมปล่อยให้คนร้ายหลุดมือไปต่อหน้าต่อตา เขาจึงกระโดดลงเรือของจองชอล จากนั้นก็ชกและผลักลูกสมุนของจองชอลจนร่วงลงไปในทะเล แต่สุดท้ายก็โดนจองชอลชกจนหน้าคว่ำและพลัดตกน้ำไปอีกคน
จองชอลรีบขับเรือหนีโดยมีเรือของตำรวจไล่ตาม ส่วนแทซองยังคงไม่ละความพยายามเขาจึงว่ายน้ำตามเรือจองชอลไป จองซอลรู้ว่าขืนหนีทางน้ำต่อไปคงไม่รอดแน่เขาจึงนำเรือเทียบท่า แทซองเห็นดังนั้นก็ปีนขึ้นเรือประมงของ "โก โซรา" แล้วตามไล่ล่าจองชอลต่อไป
หลังหนีขึ้นฝั่งพร้อมกระเป๋าเงินที่เพิ่งได้จากการค้ายาเสพติด จองชอลก็จี้รถเก๋งคันหนึ่งเพื่อขับหลบหนี เมื่อเห็นแทซองวิ่งตรงเข้ามาหา จองชอลก็ขับรถชนแทซองจนร่างกระเด็นมากระแทกกระจกหน้าอย่างจังทำให้กระจกแตกร้าวจนมองข้างหน้าแทบไม่เห็น ถึงกระนั้นจองชอลก็ยังฝืนขับรถคันดังกล่าวเข้าไปในเมืองท่ามกลางการไล่ล่าของตำรวจ แม้จะถูกรถชนอย่างจังแต่แทซองจอมอึดยังคงวิ่งไล่ล่าจองชอลไปตามถนนในสภาพเปียกโชกและน่วมไปทั้งตัว จองชอลซึ่งกำลังจอดรถติดไฟแดงเห็นแทซองยืนหลอกหลอนอยู่กลางถนนจึงรีบสละรถแล้ววิ่งหนีไปพร้อมกระเป๋าใส่เงิน
แทซองวิ่งไล่ตามจองชอลไปที่ชายหาดแฮอุนแดซึ่งเต็มไปด้วยผู้คน จองชอลเห็นแทซองตื๊อไม่เลิกจึงโปรยเงินขึ้นฟ้าเพื่อเปิดทางหนี เมื่อนักท่องเที่ยวที่อยู่บนชายหาดเห็นเงินปลิวว่อนก็พากันไล่เก็บเงินเป็นที่ชุลมุน แทซองไม่สามารถฝ่าด่านผู้คนทำให้จองชอลหนีไปได้
ในเวลาเดียวกันนั้น โซรา แอนด์ เดอะแก๊งค์ ยังคงออกเรือหาปลา ทุกคนต่างมีความสุขที่จับปลาได้เป็นจำนวนมาก และต่างก็ช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็ง หลังจากนั้น โซราก็ทำหน้าที่ฝังเข็มปลาเป็นๆ (ให้ปลาเป็นอัมพาตชั่วขณะ) เพื่อรักษาคุณภาพ ความสด และรสชาติของเนื้อปลา (วิธีนี้จะช่วยให้ปลาสดนานขึ้นเหมือนเพิ่งจับมาใหม่ๆ จึงเหมาะสำหรับนำไปทำปลาดิบ)
หลังจองชอลหลบหนีไปอย่างลอยนวล แทซองก็กลับมาที่ท่าเรืออีกครั้ง เจ้าหน้าที่จางเห็นแทซองเดินมาหาก็รีบกล่าวขอบคุณอย่างสุดซึ้งเพราะนึกว่าแทซองอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเหลือ แทซองกระชากคอเสื้อเจ้าหน้าที่จางด้วยความโกรธ ความจริงแล้วเขาไม่ได้บุกเข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่จาง แต่บุกเข้าไปจับจองชอลหลังเจ้าหน้าที่จางทำเสียแผน เมื่อจองชอลหลบหนีไปได้แทซองจึงโกรธมากและโทษว่าเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่จางที่เกิดท้องเสียกระทันหัน
หลังหัวหน้าโทรฯ มาตามให้รีบไปงานสำคัญ แทซองก็บอกทีมงานว่าตนจะเดินทางไปทำธุระที่กรุงโซลสักพัก ระหว่างนั้นให้โทรฯ มารายงานความคืบหน้าทุก 3 ชั่วโมงโดยไม่เว้นแม้กระทั่งในช่วงเวลากลางคืน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งสงสัยว่าทำไมอยู่ๆ แทซองถึงรีบเดินทางไปกรุงโซล เจ้าหน้าที่จางจึงบอกว่าแทซองต้องรีบไปเข้าพิธีแต่งงาน พอแต่งเสร็จปุ๊บก็จะกลับมาฮันนีมูน (?) ที่ปูซานทันที (เพราะเขากำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ปูซาน)
"ลี ซุนชิน" พยายามเคาะประตูห้องปลุกโซราพลางร้องเรียก "คุณหนูๆ" เมื่อเห็นว่าโซรายังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นทั้งๆ ที่สายโด่งแล้ว เขาจึงเข้าไปปลุกในห้อง แต่แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าโซรากำลังนอนแผ่อวดเรียวขา เขาจึงเอามือบังตาพลางบ่นว่าเธอนอนกินบ้านกินเมือง ซุนชินยกขาโซราเข้าไปเก็บในผ้าห่มแล้วพยายามปลุกให้เธอตื่น แต่โซรากลับพลิกตัวไปอีกด้านทำให้ขาและก้นโผล่ออกมานอกผ้าห่มอีกอีกครั้ง
หลังปลุกเท่าไรก็ไม่เป็นผลซุนชินจึงกระซิบข้างหูโซราโดยบอกว่า "ว่าไงนะ คุณเป็นอัยการพิเศษจากปูซานงั้นเหรอ แล้วนี่คุณมาทำอะไรที่บ้านของเรา" โซราได้ยินคำว่า 'อัยการ' ก็ลืมตาตื่นด้วยความตกใจ เธอรีบลุกขึ้นแล้วร้องบอกว่า "พ่อชั้นไม่ได้เป็นหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียแล้วนะ" ระหว่างที่ลุกขึ้นแขนของโซราเหวี่ยงไปโดนหน้าซุนชินอย่างจังจนเลือดออกจมูก โซราเห็นดังนั้นถึงกับหน้าเสีย แต่ซุนชินไม่ใส่ใจเพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เขาบอกให้โซรารีบลุกขึ้น พอนึกขึ้นได้ว่าวันนี้คือ 'วันนั้น' โซราก็รีบลุกไปล้างหน้าแปรงฟันทันที
ระหว่างนั้น อดีตสมาชิกแก๊งค์มาเฟียต่างช่วยกันทำงานบ้านอย่างขมักเขม้น โดย "ลี ดงเบ็ก" รับหน้าที่พ่อครัว ส่วน "บู ยองโด" ซึ่งสวมผ้ากันเปื้อนสีชมพูและมีรอยสักรูปเฮลโลคิตตี้ที่แขนก็กำลังรีดผ้า ขณะที่ซุนชินรับหน้าที่จัดโต๊ะอาหาร (ด้านหลังของซุนชินมีภาพถ่ายครอบครัวติดอยู่บนผนัง เหนือรูปภาพมีข้อความในกรอบไม้ที่ระบุว่า "กรุณาทำตัวให้เป็นประโยชน์")
ระหว่างที่ซุนชินกำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหาร โซราก็ร้องเรียก "อาคะ ผ้าขนหนู!" ซุนชินรู้หน้าที่จึงรีบหยิบผ้าขนหนูพร้อมแปรงหวีผมและกระจกเข้าไปบริการโซราถึงในห้องน้ำ ส่วนยองโดเข้าไปอีกห้องแล้วร้องเรียก "พี่ใหญ่ๆ" เมื่อเปิดผ้าห่มดูก็พบว่าบนที่นอนมีแต่ตุ๊กตาหมีและหมอนกองอยู่ เขารู้ว่าพี่ใหญ่ของตนแอบหลบอยู่หลังม่าน (ขาโผล่) แต่ก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นและเดินหาทั่วห้อง ระหว่างที่ยองโดแกล้งเปิดหาในตู้เสื้อผ้า "โก จุงชิก" (พ่อโซรา) ก็ค่อยๆ ย่องออกมาตีก้นยองโดพลางกล่าวด้วยความภาคภูมิใจในตัวเองว่า "เฮ้อ! ไอ้บื้อ! ชั้นแอบอยู่ตรงนี้แท้ๆ แกยังหาชั้นไม่เจออีกเรอะ คนอะไรวะซื่อบื้อ แกนี่มันซื่อบื้อจริงๆ" (บนผนังห้องมีภาพถ่ายวันที่จุงชิกเป็นประธานเปิดตัวโรงแรมแฮอุนแดเมื่อ 26 ปีก่อน - มีซูนชินและยองโดอยู่ในภาพด้วย)
เมื่อจุงชิกเดินมาที่โต๊ะอาหาร ทั้งซุนชินและดงเบ็กต่างก้มศีรษะคำนับอย่างนอบน้อมแล้วร้องทักทายเป็นเสียงเดียวกันว่า "อรุณสวัสดิ์ครับพี่ใหญ" หลังจุงชิกนั่งลงแล้วทุกคนจึงนั่งตาม ครั้นพอจุงชิกบอกให้ทุกคนทานอาหาร อดีตสมาชิกแก๊งค์มาเฟียทั้งสามจึงก้มศีรษะคำนับแล้วกล่าวขอบคุณ ระหว่างที่ทุกคนกำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ก็มีชายลึกลับโทรฯ เข้ามือถือของซุนชิน โดยบอกกว่าโทรฯ มาจากสำนักงานอัยการ ทันทีที่ได้ยินคำว่า 'อัยการ' ทุกคนก็อ้าปากค้างและพยายามเงี่ยหูฟังการสนทนา
ชายคนดังกล่าวบอกว่าบัญชีเงินฝากของซุนชินมีปัญหา และต้องสงสัยว่าอาจมีส่วนพัวพันกับเรื่องผิดกฏหมาย ตนจึงโทรฯ มาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ว่าแล้วชายคนนั้นก็ขอหมายเลขบัตรและพาสเวิร์ดของซุนชิน ซุนชินถึงกับช็อคและบอกทุกคนว่าตนถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ จากนั้นก็สั่งเสียว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับตน ฝากทุกคนดูแลพี่ใหญ่และคุณหนูแทนตนด้วย ดงเบ็กสงสัยว่าตระกูลยางอาจอยู่เบื้องหลังเรื่องดังกล่าว โซราได้ยินดังนั้นจึงแย่งโทรศัพท์มาพูดเสียเอง โดยถามปลายสายว่า เขาเป็นคนของตระกูลยางใช่ไหม และมีหลักฐานในการกล่าวหาหรือเปล่า
ชายคนดังกล่าวอ้างว่าตนต้องการตรวจสอบให้แน่ชัด จึงโทรฯ มาถามหมายเลขบัตรเครดิต 16 หลักพร้อมพาสเวิร์ด โซราตอบด้วยความใสซื่อว่า เธอไม่มีบัตรเครดิต แต่ 'กวานซุน' มี แถมยังอธิบายเสร็จสรรพว่ากวานซุนเป็นลูกสาวของซุนชิน แต่เธอขโมยบัตรเครดิตและหนีออกจากบ้านไปแล้ว ซุนชินได้ยินโซราเอ่ยถึงลูกสาวจึงถามด้วยความตกใจว่ากวานซุนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ด้วย เมื่อรู้ว่าซุนชินไม่มีบัตรเครดิตอยู่ในมือ แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ก็ขอรหัสพินเพื่อเข้าดูหมายเลขโฉนดและข้อมูลส่วนตัว ดงเบ็กรู้ทันทีว่าปลายสายเป็นแก๊งค์ต้มตุ๋นจึงแย่งโทรศัพท์มาคุย ก่อนด่าไฟแล่บแบบไม่มีเว้นวรรคจนยองโดต้องเอามืออุดหูโซราเอาไว้ (ไม่ให้คำหยาบระคายหูเธอ)
ถึงกระนั้น ซุนชินก็ยังเชื่อว่าคนที่โทรฯ มาหาเป็นอัยการจริงๆ ดงเบ็กได้ยินแล้วยิ่งหงุดหงิดจึงโวยวายใส่ซุนชินว่าทำไมไม่รู้จักดูข่าว จากนั้นก็บ่นว่าทำไมทุกคนถึงได้โง่อย่างนี้ จุงชิกได้ยินดังนั้นก็หยิบชามมาเคาะหัวดงเบ็กแล้วบอกว่าตนไม่ได้โง่ ดงเบ็กก้มศีรษะรับการลงโทษแต่โดยดี ขณะที่คนอื่นๆ รวมทั้งโซรารีบเข้ามาห้ามจุงชิกเอาไว้ หลังห้ามทัพแล้วโซราก็กล่าวว่า "รู้มั๊ยวันนี้เป็นวันอะไร เรามากินกันก่อนดีกว่า" ซุนชินตอบว่า "แน่นอน วันนี้เป็นวันพิเศษ" ยองโดไม่รู้เรื่องด้วยจึงหันไปถามอย่างเกรงใจ "ว่าแต่คุณหนู... วันนี้เป็นวันอะไรเหรอ"
หลังทานข้าวเสร็จแล้วโซราก็บอกข่าวดีกับทุกคนว่า วันนี้เป็นวันชำระเงินกู้งวดสุดท้าย หลังนำเงิน 818,000 วอน (ราว 2.4 หมื่นบาท) ไปใช้หนี้แล้ว ร้านอาหารก็จะเป็นของพวกตนทันที ทุกคนลุกขึ้นหัวเราะและโอบไหล่กันด้วยความดีใจ แต่แล้วอยู่ๆ ยองโดก็ทำหน้าเศร้าแล้วกล่าวว่า ทุกคนต้องออกหาปลาเป็นเวลา 10 ปีเต็มกว่าจะได้เป็นเจ้าของร้านนี้ แล้วต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะเอาโรงแรมกลับคืนมาได้ โซรายืนยันว่าหลังหมดหนี้แล้วต้องได้โรงแรมคืนมาโดยเร็วแน่ ทุกคนจึงฝันหวานว่าจะได้เป็นผู้บริหารโรงแรมอีกครั้ง
ยองโดหันไปมองจุงชิกที่นำเบ็ดตกปลาของเล่นมาตกปลาในตู้หน้าร้านด้วยความสงสาร พลางกล่าวว่า ได้โรงแรมคืนมาแล้วจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อพี่ใหญ่ของพวกตนตกอยู่ในสภาพนี้ ซุนชินเดินเข้าไปปลอบจุงชิกแล้วบอกว่าพวกตนจะเริ่มต้นใหม่ โซราเห็นสภาพอันน่ารันทดของผู้เป็นพ่อแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจ เธอหันไปจ้องปฏิทินโรงแรมแฮอุนแด แล้วให้คำมั่นกับตัวเองว่าจะเอาโรงแรมกลับคืนมาให้ได้
ยองโดและดงเบ็กตามมาส่งโซราที่รถโดยสวมชุดปูและปลาหมึกท่ามกลางแดดจัดริมชายหาด โซราซึ่งกำลังจะออกไปส่งปลาเห็นชุดหนาเตอะของทั้งคู่จึงเป็นห่วงว่าจะพากันเป็นลมแดดระหว่างแจกใบปลิว ยองโดบอกว่าถึงร้อนพวกตนก็จะอดทนเพราะตอนนี้เป็นช่วงไฮซีซั่น จากนั้นก็หลุดปากว่าพวกตนต้องเร่งทำงานหาเงินใช้หนี้อีกก้อน ดงเบ็กรีบเอามือปิดปากยองโดแล้วแก้ตัวกับโซราว่า ยองโดลืมไปว่าพวกเราใช้หนี้หมดแล้ว ระหว่างนั้นเพื่อนของโซราโทรฯ มาบอกว่าเห็นกวานซุนทำงานที่ไนท์คลับแห่งหนึ่ง โซราไม่อยากให้คนที่บ้าน (โดยเฉพาะซุนชิน) รู้ว่ากวานซุนทำงานกลางคืนจึงบอกยองโดและดงเบ็กว่ากวานซุนแอบไปทำงานที่ร้านเสื้อผ้า ยองโดบ่นเรื่องที่กวานซุนรูดบัตรเครดิตเป็นว่าเล่น แล้วเม้าท์ว่ากวานซุนน่ากลัวกว่าดอกเบี้ยผ่อนชำระบัตรเครดิต 36 เดือนเสียอีก ดงเบ็กได้ยินดังนั้นจึงแก้ตัวแทนกวานซุน
โซราบอกทั้งคู่ว่าระหว่างส่งของเธอจะออกตามหากวานซุนไปด้วย โดยขอร้องว่าอย่าเพิ่งบอกซุนชิน เพราะกลัวว่าเขาจะผิดหวังหากเธอยังพากวานซุนกลับบ้านไม่ได้ ดงเบ็กเตือนโซราว่าอย่าเหยียบเบรกกระทันหัน เพราะตนใส่ปลาให้ลูกค้าจนเกือบล้นถังทำให้ฝาฝิดไม่สนิท หลังโซราขับรถออกไปแล้ว ยองโดก็บ่นด้วยความเสียดายว่า พวกตนเกือบปลดหนี้ได้แล้วแต่มินกู (ว่าที่เจ้าบ่าวของโซรา) ดันมีปัญหาด้านการเงิน พวกตนเลยต้องนำเงินมาให้มินกูยืม (แถมยังกู้เงินมาให้เพิ่มอีกต่างหาก) ดงเบ็กบ่นด้วยความเสียดายที่โซราจะได้แต่งงานกับคนอย่างมินกู แต่ยองโดบอกว่าพวกตนไม่มีทางเลือกตราบใดที่พี่ใหญ่ยังคงอยู่ในสภาพนี้
อีกด้านหนึ่ง "ลี เซนา" ซึ่งอยู่ในชุดเจ้าสาว ก็กำลังนั่งรอแทซองด้วยความกระวนกระวายใจ เธอชะเง้อมองประตูสลับกับมองโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา "ฮวาง จูฮี" เห็นเซนาตกอยู่ในสภาพนี้จึงบอกว่าเธอเลือกคนผิด เพราะเขาไม่เคยไปเวดดิ้งสตูดิโอกับเธอ ไม่เคยช่วยเตรียมงาน แถมยังมางานแต่งงานสายอีกต่างหาก จูฮีบอกให้เซนาโทรฯ จิก แต่เซนากลัวว่าแทซองอาจประสบอุบัติเหตุหากรับโทรศัพท์ระหว่างขับรถเลยได้แต่อดทนรอ
เซนาบอกจูฮีว่า เธอรู้สึกขอบคุณพ่อแม่เป็นครั้งแรกในชีวิตหลังได้พบกับแทซอง เพราะถ้าเธอเกิดมาในครอบครัวธรรมดา คนอย่างแทซองคงไม่แต่งงานกับเธอ อยู่ๆ เซนาก็มีอาการปวดท้อง เธอคิดว่าเป็นเพราะกังวลมากเกินไปจึงขอยาช่วยย่อยจากจูฮี
แทซองวิ่งเข้ามาในบริเวณงานอย่างเร่งรีบ พ่อแทซองมองสภาพอันมอมแมมของลูกชายอย่างตกตะลึง ยิ่งรู้ว่าลูกชายเพิ่งบู๊กับพวกนักเลงมาก็ยิ่งเป็นห่วง จึงรีบตรวจเช็คร่างกายลูกว่ามีอะไรบุบสลายไหม เมื่อเห็นว่าลูกไม่มีส่วนไหนบอบช้ำเขาก็โล่งใจ ระหว่างเปลี่ยนชุดเจ้าบ่าว แทซองบ่นกับพ่อด้วยความเสียดายว่านักค้ายาหนีไปได้ เขาอยากเลื่อนการฮันนีมูนออกไปก่อนเพื่อจะได้กลับไปไล่ล่าจองชอลหลังเสร็จพิธีแต่งงาน พ่อแทซองสอนลูกให้รู้จักปล่อยวางและเปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ได้แสดงฝีมือบ้าง หลังโดนพ่อบ่นเป็นชุดแทซองก็ยอมแพ้และบอกพ่อว่าจะไปฮันนีมูนตามแผน พ่อแทซองสวมกอดลูกแล้วบอกว่าแทซองคือลูกชายที่ตนภาคภูมิใจมากที่สุด (แทซองเป็นอัยการ ส่วนพ่อบุญธรรมของเขาเป็นทนายความและเจ้าของบริษัทกฏหมาย)
หลังผู้เป็นพ่อออกไปรับโทรศัพท์ แม่เลี้ยงของแทซองก็เดินเข้ามาในห้องแล้วตบหน้าเขาเต็มแรง เธอไม่พอใจที่แทซองแต่งงานก่อนลูกตัวเอง ทั้งๆ ที่อายุน้อยกว่า แถมเจ้าสาวยังเป็นถึงลูกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เธอบอกแทซองว่าอย่าเพิ่งมีลูก เพราะเธอรับไม่ได้ที่คนชั้นต่ำอย่างแทซองทำตัวเหมือนเป็นลูกชายคนโตของครอบครัวเธอ แม่เลี้ยงแทซองยังบอกด้วยว่าเธอจะให้เลขานำใบสละมรดกมาให้เขาเซ็นในวันพรุ่งนี้ แทซองบอกว่าไม่จำเป็น เพราะเขาไม่ต้องการมรดกแค่ได้เป็นลูกพ่อเขาก็พอใจแล้ว แต่แม่เลี้ยงแทซองไม่เชื่อและหาว่าเขาเสแสร้ง ก่อนออกจากห้องเธอยังบอกแทซองด้วยว่าอย่ายิ้มหรือทำหน้าระรื่นในระหว่างเข้าพิธีแต่งงาน เพราะเธอคงทนดูไม่ได้ แค่มาร่วมงานที่นี่เธอก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว
โซรารีบซิ่งเพื่อนำปลาไปส่งโดยลืมคำเตือนของดงเบ็กทำให้น้ำกระเซ็นออกมาเต็มถนน ระหว่างจอดติดไฟแดง เธอเห็นคู่แต่งงานที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งเลยพูดกับตัวเองว่า "ชั้นก็อยากแต่งงานที่โรงแรมของพวกเราเหมือนกัน" ระหว่างนั้นมีหญิงชราคนหนึ่งเดินข้ามถนนผ่านหน้ารถของเธอและเกือบโดนมอเตอร์ไซค์ส่งของเฉี่ยว โชคดีที่ทั้งรถและคนต่างก็หลบทัน ถึงกระนั้นหญิงชราคนดังกล่าวก็เสียหลักล้มลง โซรารีบลงไปดูอาการหญิงชราแล้วอาสาว่าจะไปส่ง หญิงชราได้ยินดังนั้นก็ดีใจและบอกว่าเธอกำลังจะเอากิมจิแตงกวาไปให้ใครคนหนึ่งที่โรงแรมแฮอุนแด
ขณะที่ "ยุก ทัมฮี" กำลังขับรถสปอร์ตเปิดประทุนไปตามถนนด้วยอาการลั้นลา สายตาเธอก็เหลือบไปเห็นรถส่งปลาของร้าน "ซัมชน ซูซาน" ซึ่งกำลังมุ่งตรงไปที่โรงแรมของตน เธอจึงรีบขับถามพลางโทรฯ สั่งรปภ.ว่าอย่าให้รถคันสีขาวเข้าไปในโรงแรม รปภ.มัวแต่รับโทรศัพท์โซราเลยซิ่งผ่านป้อมยามเข้าไปที่หน้าโรงแรมก่อนแล้ว เมื่อถูกเบลบอยคนหนึ่งวิ่งตัดหน้ารถโซราก็เบรคเอี๊ยด ทำให้ทั้งน้ำและปลาเป็นๆ กระเด็นออกมานอกรถ ในตอนนั้นทัมฮีขับรถสปอร์ตเข้ามาจอดข้างๆ รถส่งปลาของโซราพอดี เลยโดนน้ำกระเด็น (สาด) ใส่แบบเต็มๆ ทั้งรถทั้งคน
โซราเห็นปลาที่ลูกค้าสั่งนอนดิ้นกระแด่วๆ อยู่บนพื้นนับสิบตัวจึงหยิบถังมาไล่เก็บ พอเห็นว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ในรถตัวเปียกโชกเธอก็รีบเข้าไปขอโทษแล้วบอกว่าจะชดใช้ให้ (พนักงานโรงแรมต่างพากันตกใจเมื่อเห็น 'คุณนาย' ของพวกตนอยู่ในสภาพที่ทั้งเปียกทั้งเหม็นคาว) ทัมฮีลงจากรถในสภาพที่มีปลาหมึกเกาะอยู่บนหัว แถมขนตาปลอมยังหลุดลงมาติดแก้ม พอรู้ว่าเป็นทัมฮี โซราก็ตกตะลึง ทัมฮีอาศัยทีเผลอตบหน้าโซราเต็มแรงต่อหน้าพนักงาน แขก และรองประธานคนใหม่ (เพิ่งเดินทางมาถึง) ที่มายืนมุงดู ทัมฮีจะตบโซราอีกครั้งแต่โซราคว้ามือทัมฮีเอาไว้แล้วบอกว่าเธอไม่ใช่เด็กมัธยมคนเดิมสมัยเมื่อ 10 ปีก่อนอีกแล้ว (ทั้งคู่รู้จักกันเป็นอย่างดี)
ทัมฮีไล่ให้โซราเอารถส่งปลาเหม็นๆ ออกไปจากโรงแรมของเธอ จากนั้นก็หันไปต่อว่ารปภ.ที่ไม่ยอมขวางรถโซราเอาไว้ตามที่เธอสั่ง เมื่อรู้ว่าทัมฮีสั่งให้พนักงานวิ่งตัดหน้ารถ โซราก็ของขึ้น เธอบอกทัมฮีว่า "คนที่ตัวเหม็นเหมือนปลาไม่ถือว่าเป็นลูกค้า เลยเข้าโรงแรมไม่ได้งั้นเหรอ โรงแรมแฮอุนแดไม่เคยเลือกปฏิบัติซักหน่อย" (เป็นนโยบายของพ่อเธอ ซึ่งเป็นคนก่อตั้งโรงแรมแห่งนี้) แต่ทัมฮีบอกว่า "นั่นมันเมื่อก่อนย่ะ แต่ตอนนี้พวกเราเลือกที่จะไม่ต้อนรับคนบางกลุ่ม... คนเชยๆ สกปรก แล้วก็ตัวเหม็นอย่างเธอไม่มีสิทธิเข้าไปเหยียบข้างในโรงแรมของเรา ทำไมน่ะเหรอ เพราะแม้แต่ถังขยะที่อยู่ข้างในยังสะอาดกว่าเธอเลย แล้วนี่เธอจะชดใช้เรื่องที่ทำให้รถแล้วก็เสื้อผ้าของชั้นเสียหายยังไง มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนอย่างเธอที่จะต้องมาจ่ายค่าเสียหายให้ของแพงๆ อย่างนี้ จริงมั๊ย?"
โซรายิ้มแล้วกล่าวว่า "เนื่องจากคนที่ก่อเรื่องทั้งหมดก็คือเธอ ชั้นเลยอยากได้ยินคำขอโทษก่อนที่จะตกลงเรื่องค่าเสียหาย เบลบอยโรงแรมแบบไหนกันที่วิ่งตัดหน้ารถลูกค้า เธอบอกชั้นว่าเลือกลูกค้าแต่ดันคัดเลือกพนักงานได้ห่วยแตก มิน่าถึงมีข่าวลือไปทั่วว่าเดี๋ยวนี้โรงแรมไม่เหมือนเมื่อก่อน.... ชั้นกำลังจะเอาปลาไปส่งให้ลูกค้าที่โซล แต่กลับต้องมาเสียเวลา เสียสุขภาพกายแล้วก็สุขภาพจิต เธอจะชดใช้ค่าเสียหายให้ชั้นยังไง แถมชั้นยังโดนตบหน้าอีกต่างหาก.... ชั้นถูกเธอทำร้ายร่างกายเห็นๆ !"
ทัมฮีคว้าถังน้ำ (ที่พนักงานหิ้วมาทำความสะอาดพื้น) แล้วนำมาราดใส่หัวโซราท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน จากนั้นก็บอกว่าหายกัน โซราชี้ให้ทัมฮีหันไปดูกลุ่มคนที่มายืนมุงดูแล้วบอกว่าอีกไม่นานคงมีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่าภรรยาเจ้าของโรงแรมตบหน้าแล้วก็สาดน้ำใส่ลูกค้า ทัมฮีจึงเดินเข้าไปไล่โซราในระยะประชิดเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน แต่โซราบอกว่าเธอยังไม่เสร็จธุระ หลังจากนั้นโซราก็รีบวิ่งไปที่รถแล้วช่วยประคองร่างหญิงชรา พลางกล่าวขอโทษที่ไม่สามารถเข้าไปส่งในโรงแรมได้ เพราะเธอต้องรีบไปทำธุระที่กรุงโซล
เมื่อโซราขับรถออกไปแล้ว หญิงชราคนดังกล่าวก็เดินเข้าไปหาทัมฮีแล้วแซวว่าเธอคงเย็นและรู้สึกสดชื่นมากๆ เพราะสมัยทำงานในดิสโก้เธค เธอเก่งเรื่องเปลื้องผ้าโชว์แล้วเทน้ำราดตัวเอง ทัมฮีรีบแก้ตัวต่อหน้าทุกคนว่าเธอไม่เคยทำงานอย่างนั้น ปรากฏว่าหญิงชรากำลังจะนำกิมจิแตงกวาไปให้เจ้าของโรงแรม
ในระหว่างที่ทัมฮีกำลังอาละวาดใส่พนักงานและเอ่ยปากไล่รปภ. ออกโทษฐานขัดคำสั่ง ลูกน้องคนหนึ่งก็รายงานว่ารองประธานมาถึงแล้ว หลังยืนดูอยู่นาน "ชเว จุนฮยอก" ก็เดินเข้ามาหาทัมฮีพลางแนะนำตัว ทัมฮียื่นมือทักทายแต่จุนฮยอกไม่ยอมจับมือด้วย แถมยังแนะนำให้เธอไปอาบน้ำก่อน เขายังช่วยหยิบขนตาปลอมออกมาจากแก้มเธอแล้วส่งคืนให้ จากนั้นก็หยิบเน็คไทในกระเป๋ามาเช็ดมือ
หลังเข้าไปชมห้องทำงานส่วนตัวแล้ว จุนฮยอกก็ถูกเชิญให้เข้าห้องประชุมท่ามกลางผู้บริหารและคณะกรรมการของโรงแรม แทนที่จะนั่งหัวโต๊ะ (ซึ่งเป็นที่ๆ พนักงานจัดไว้ให้) เขากลับไปนั่งรวมกับผู้บริหารคนอื่นๆ ระหว่างที่ผู้จัดการกำลังเล่าประวัติของโรงแรม โดยบอกว่าโรงแรมแฮอุนแดถูกก่อตั้งบนชายหาดแฮอุนแดเมื่อ 25 ปีก่อน ภายในมี 540 ห้อง อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของประธานบริหารคนแรก "ยาง มานโฮ"
จุนฮยอกแย้งว่า "เท่าที่ผมรู้ ประธานผู้ก่อตั้งโรงแรมนี้คือ "โก จุงชิก" ไม่ใช่เหรอ... เขาเป็นเจ้านายคนแรกของแฮอุนแด ส่วนยาง มานโฮ ซึ่งเคยเป็นสมุนมือขวา คือแกนนำในการก่อหวอดที่เขี่ยเจ้านายตัวเองลงจากเก้าอี้ ก่อนฮุบกิจการมาเป็นของตนเองแบบคนหน้าเนื้อใจเสือ และทุกคนในที่นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการก่อหวอดในครั้งนั้น"
จุนฮยอกแย้งว่า "เท่าที่ผมรู้ ประธานผู้ก่อตั้งโรงแรมนี้คือ "โก จุงชิก" ไม่ใช่เหรอ... เขาเป็นเจ้านายคนแรกของแฮอุนแด ส่วนยาง มานโฮ ซึ่งเคยเป็นสมุนมือขวา คือแกนนำในการก่อหวอดที่เขี่ยเจ้านายตัวเองลงจากเก้าอี้ ก่อนฮุบกิจการมาเป็นของตนเองแบบคนหน้าเนื้อใจเสือ และทุกคนในที่นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการก่อหวอดในครั้งนั้น"
ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างพากันอึ้งเพราะนึกไม่ถึงว่าคนที่เพิ่งเดินทางมาจากอเมริกาจะรู้ลึกรู้จริง ผู้จัดการได้ยินดังนั้นจึงถามว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดได้อย่างไร จุนฮยอกกล่าวว่าศึกชิงโรงแรมในครั้งนั้นเป็นข่าวครึกโครมในหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่มีใครในปูซานที่ไม่รู้เรื่องนี้ เพราะฉะนั้น อย่ามาสร้างเรื่องหลอกลวงตน และถ้าเรียกตนมาประชุมเพราะเรื่องนี้ก็ไม่จำเป็น เพราะตนศึกษาข้อมูลทั้งหมดมาเป็นอย่างดีตั้งแต่ก่อนเดินทางมาที่นี่แล้ว ขณะที่จุนฮยอกกำลังจะเดินออกจากห้อง ทัมฮีก็เดินสวนเข้ามาพอดี จุนฮยอกเลยถามทัมฮีว่าเธออยู่ในตำแหน่งอะไรกันแน่ และเตือนว่าถ้าไม่ได้อยู่ในทีมผู้บริหารก็อย่าเข้ามายุ่งย่ามในห้องประชุม
หลังแต่งตัวเสร็จแทซองก็เดินไปที่ห้องบอลรูม จูฮีเห็นแทซองจึงเดินไปต่อว่าเรื่องที่เขาไม่ค่อยเอาใจใส่ดูแลเซนา เธอมองว่าเขาเป็นแค่อัยการแต่เซนาเป็นถึงลูกสาวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงควรให้เกียรติและดูแลเซนามากกว่านี้ แทซองกล่าวว่าเพราะตนกำลังจะเป็นลูกเขยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมตนจึงรีบมาที่นี่ ทั้งๆ ที่ตนไม่เคยวางมือหากยังจับคนร้ายไม่ได้ นั่นเป็นเพราะเงินเดือนของตนมาจากภาษีของประชาชนซึ่งต้องทำงานอย่างเหนื่อยยาก เขายังบอกด้วยว่า อีกไม่นานพ่อของเซนาจะมาทำงานให้พ่อของตน จูอีถึงกับอึ้งเมื่อรู้ว่าพ่อของแทซองคือลี อังโช เจ้าของ บริษัทกฏหมายระดับแถวหน้าของเกาหลี
หลังจากนั้น แทซองก็เข้าพิธีแต่งงานกับเซนาโดยทำหน้าบอกบุญไม่รับตลอดทั้งงาน (ทำตามที่แม่เลี้ยงสั่ง) ระหว่างเดินทางไปสนามบิน (เพื่อไปฮันนีมูนที่ปูซาน) แทซองเอาแต่อ่านรายงานและบ่นเรื่องที่ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ โดยไม่ทันสังเกตว่าเซนามีอาการปวดท้องตลอดเวลา เซนาพยายามชวนแทซองคุยโดยถามว่า เขาจำพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดที่อยู่ปูซานไม่ได้เลยหรือ (แทซานเคยบอกเธอว่า จำได้แต่ชื่อตัวเองและจำได้ว่าตอนเด็กๆ ตนพูดสำเนียงปูซาน) แทซานตอบว่า เขาจำได้แต่แผ่นหลังของพ่อตอนที่เดินจากไปและก็รอยยิ้มเศร้าๆ ของแม่ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นความจริงหรือความฝัน เซนาถามว่าที่เขามาปูซานเพราะต้องการตามหาพ่อแม่ด้วยใช่ไหม แทซองรีบตัดบทโดยบอกว่าต่อไปอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก
เมื่อเห็นว่าเซนาก็มีอาการปวดท้องเขาก็บอกให้เธออดทนเพราะที่สนามบินมีร้านขายยา หลังได้รับรายงานจากตำรวจสืบสวนว่า แฟนสาวของโอ จองชอลทำงานอยู่ในย่านชอนโอที่กรุงโซล (แทซองเองก็กำลังอยู่ในโซล) เขาจึงรู้สึกคันไม้คันมือแต่ก็ทำได้แค่บอกให้ทุกคนคอยจับตาดูแล้วโทรฯ รายงานตนทุกชั่วโมง ทันใดนั้น เซนาก็มีอาการคลื่นไส้และปวดท้องอย่างรุนแรงจนถึงขั้นหมดสติจึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
หมอบอกว่าเซนามีอาการไส้ติ่งอักเสบจึงต้องรีบผ่าตัดด่วน ทำให้การฮันนีมูนต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน แถมเซนายังต้องพักฟื้นอีกหนึ่งอาทิตย์ เมื่อรู้ว่าต้องใช้เวลาในการผ่าตัดราว 5 ชั่วโมง แทซองก็ตามไปสมทบกับตำรวจสืบสวนที่แคริเบียน ไนท์คลับในย่านชอนโอทันที
หมอบอกว่าเซนามีอาการไส้ติ่งอักเสบจึงต้องรีบผ่าตัดด่วน ทำให้การฮันนีมูนต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน แถมเซนายังต้องพักฟื้นอีกหนึ่งอาทิตย์ เมื่อรู้ว่าต้องใช้เวลาในการผ่าตัดราว 5 ชั่วโมง แทซองก็ตามไปสมทบกับตำรวจสืบสวนที่แคริเบียน ไนท์คลับในย่านชอนโอทันที
บังเอิญว่าโซราก็มาตามหากวานซุนที่ไนท์คลับดังกล่าวเช่นกัน เมื่อเห็นว่าน้องสาวกำลังถูกเจ้านายดุด่าโทษฐานที่ทำขวดเหล้าตกแตก เธอจึงรีบเข้าไปปกป้องโดยบอกว่าจะชดใช้ให้ แต่พอรู้ว่าค่าเสียหายสูงถึง 1 ล้านวอน (ราว 3 หมื่นบาท) โซราก็ถึงกับอึ้งและหันไปทุบตีกวานซุนเสียเอง ผู้จัดการไนท์คลับบังคับให้กวานซุนโชว์ระบำนางโลม (แทนแฟนของจองชอลที่ลางานกระทันหัน) เพื่อเป็นการใช้หนี้ กวานซุนอ้างว่าเธอเต้นระบำเปลื้องผ้าไม่เป็นจึงขอให้โซราเต้นแทน โซราปฏิเสธทันควัน แต่พอเจอมุกตีหน้าเศร้าเคล้าน้ำตาของกวานซุน โซราก็ใจอ่อน เธอจึงจับกวานซุนมัดไว้ในรถแล้วกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดนางโลม
ส่วนทางด้านแทซองและทีมตำรวจสืบสวนก็วางแผนแทรกซึมเข้าไปในไนท์คลับ โดยจะปลอมตัวเป็นนักแสดงศิลปะการต่อสู้และจอมพลัง เพื่อให้มีโอกาสใกล้ชิดกับนักแสดงนางโลม (แฟนจองชอล) เจ้าหน้าที่คนหนึ่งแนะนำให้แทซองแกล้งเข้าไปขอซื้อยากับนางโลมคนดังกล่าว เพราะเธอทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างจองชอลกับผู้ซื้อ แต่ในการติดต่อขอซื้อยาจะต้องใช้ 'รหัสลับ' ที่รู้กันในหมู่ผู้ซื้อและผู้ขายเท่านั้น
หลังแต่งตัวเสร็จโซราก็มุ่งหน้าไปที่ห้องสแตนด์บาย ระหว่างทางมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาขวางและทำตัวรุ่มร่ามกับเธอ ก่อนบอกว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกแบบนี้" เมื่อเห็นโซราทำหน้างงๆ ชายคนดังกล่าวก็พูดซ้ำอีกครั้ง ทำให้ถูกโซราจับทุ่มลงไปกองกับพื้น
แทซองและเจ้าหน้าที่จางเห็นโซราเดินตรงไปที่ห้องสแตนด์บายจึงค่อยๆ ย่องตาม โซราไม่รู้ว่ามีคนเดินตามหลังจึงปิดประตูกระแทกศีรษะแทซองอย่างจัง โซรารีบออกมาขอโทษ แทซองกล้ำกลืนความเจ็บปวดแล้วกระซิบบอกโซราว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกแบบนี้" ยังไม่ทันพูดจากันให้รู้เรื่อง โซราก็ถูกตามให้ขึ้นไปแสดงบนเวที เจ้าหน้าที่จางบอกแทซองว่าการล่อซื้อได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว อีกไม่นานคงได้ตัวจองชอล แทซองจึงตามไปดูโซราแสดงรำบำเปลื้องผ้าที่หน้าเวที
หลังเต้นระบำได้ไม่นาน โซราก็เริ่มถอดหมวกและเสื้อคลุมตัวนอกออกท่ามกลางเสียงเชียร์ "ถอดเลยๆ" โซราทำใจไม่ได้จึงไม่ยอมถอด ทำให้โดนแขกโห่และถูกปาของใส่ ผู้จัดการร้านเห็นดังนั้นจึงสั่งให้ลูกน้องขึ้นไปลากตัวโซราลงมา โซรารีบวิ่งหนีโดยมีคนของไนท์คลับและแทซองวิ่งตามมาติดๆ เมื่อเห็นท่าไม่ดี โซราก็วิ่งเข้าไปแอบในห้องๆ หนึ่ง แทซองเห็นโซราแอบอยู่ใต้โต๊ะเลยย่องตามเข้าไปจ๊ะเอ๋ แล้วพูดว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกแบบนี้" โซราไม่อยากจะเชื่อว่าแทซองยังคงตามตื๊อเธอแม้ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน หลังจากนั้นแทซองก็รีบชวนเธอหนี แม้จะรู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้ามีท่าทางเพี้ยนๆ แต่โซราตามแทซองไปแต่โดยดี
ทั้งคู่ยังไม่ทันออกจากห้องพวกนักเลงก็กลับเข้ามา แทซองกับโซราจึงต้องถอยไปหลบด้านหลังประตู ในสภาพตัวติดกัน (โซรายืนหันหลังให้แทซอง) โซราเริ่มรู้สึกอึดอัดจึงคิดที่จะหันกลับมาบ่นทำให้ประตูหลุดมือแทซอง โชคดีที่แทซองคว้าประตูกลับมาบังเอาไว้ได้ทัน แต่นั่นก็ทำให้โซราโผเข้าสู่อ้อมกอดของแทซอง แถมใบหน้าของเธอยังอิงแอบบนเนินอกอันเปลือยเปล่าของแทซองอีกด้วย ทั้งคู่ต่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะต้องอยู่ในสภาพนั้นจนกว่าพวกนักเลงจะออกจากห้องไป
พอพวกนักเลงออกจากห้องไปแล้ว โซราก็บ่นเรื่องที่แทซองกอดเธอแน่นจนแทบหายใจไม่ออก แทซองแย้งว่าถ้าไม่ทำอย่างนั้นประตูก็จะเปิดออก และถามเธอว่าทำไมต้องหนี โซราตอบว่าเป็นเพราะเรื่องเงิน ระหว่างที่โซราแง้มประตูแล้วโผล่หน้าออกไปดูว่าทางสะดวกหรือยัง แทซองก็กระซิบบอกโซราอีกครั้งว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกแบบนี้" โซราได้ยินแล้วถึงกับอ่อนใจ และเข้าใจว่าแทซองเพี้ยนไปแล้วจริงๆ (โซราคิดว่าแทซองตามตื๊อเพราะชอบเธอ ส่วนแทซองเข้าใจผิดคิดว่าโซราเป็นแฟนนักค้ายา "โอ จองชอล" จึงพยายามบอกรหัสลับเพื่อล่อซื้อยา)
โซราพยายามออกจากห้องแต่ออกไม่ได้เพราะกระโปรงถูกประตูหนีบทำให้เริ่มรู้สึกหงุดหงิด ขณะที่แทซองเองก็เริ่มโมโหที่โซราไม่ยอมพาไปพบจองชอลเสียที ทั้งๆ ที่ตนบอกรหัสลับตั้งหลายรอบ โซราตัดบทว่าออกจากที่นี่ให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน หลังจากนั้นเธอก็พยายามดึงตัวเองออกจากประตูทำให้กระโปรงขาดร่วงลงไปกองกับพื้น โซรารีบคว้ากระโปรงขึ้นมาคลุมลำตัวเอาไว้แล้วถอยกลับเข้าไปในห้องทำให้ประตูฟาดเข้าที่ศีรษะแทซองอย่างจัง หลังผูกกระโปรงเข้าที่เอวเสร็จแล้วโซราก็คิดสั่งสอนแทซองด้วยการเตะก้านคอ โชคดีที่แทซองคว้าข้อเท้าโซราเอาไว้ได้
* เนื้อหาโดย luvasianseries
นักแสดงนำ
รับบท ยูน เซนา
* ภาพจากเคบีเอส
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา