วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2564

เรื่องย่อ ข้านี่เเหละองค์หญิงสาม (The Romance of Tiger and Rose)




กำกับ: ฉาฉวนอี้
เขียนบท: หนานเจิ้น
แนวละคร: โรแมนติก, ย้อนยุค
จำนวนตอน: 24
ออกอากาศ: จีน - 18 พฤษภาคม 2563 ทางเถิงซวิ่น (Tencent)
                ไทย - ออกอากาศพร้อมจีนทาง WeTV.vip  และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 14.20 น. ทางช่อง 8 (หมายเลข 27) ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2564 - 7 พฤศจิกายน 2564





เรื่องย่อ




ละคร "ข้านี่เเหละองค์หญิงสาม" (The Romance of Tiger and Rose) นำเสนอเรื่องราวของนักเขียนรุ่นใหม่ที่โสดมาตั้งแต่เกิด  "เฉินเสี่ยวเชียน" นอกจากนิยายออนไลน์แล้วเธอยังเป็นผู้เขียนบทละครย้อนยุค เรื่อง "猛虎嗅蔷薇"  (พยัคฆ์ดอมดมกุหลาบ) พล็อตเรื่องเดิมที่เธอเขียนกล่าวถึงเรื่องราวความรักความแค้นระหว่างสองเมือง เมืองหนึ่งคือ "ฮวาหยวน" ซึ่งยกย่องสตรีเหนือบุรุษ ส่วนอีกเมืองคือ "เสวียนหู่" ซึ่งยกย่องบุรุษเหนือสตรี นางเอกในเรื่องคือ "เฉินฉูฉู่" ท่านหญิงรองแห่งเมืองฮวาหยวน ส่วนพระเอก คือ "หานซั่ว" เจ้าเมืองน้อยแห่งเมืองเสวียนหู่ (เจ้าเมืองน้อย คือ ผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าเมือง) ทั้งสองต่างรักมั่นแต่มีเหตุให้ต้องเข่นฆ่ากัน สุดท้ายหานซั่วถูกเฉินฉูฉู่ฆ่าตาย

เสี่ยวเชียนเฝ้ารอเงินค่าเขียนบทด้วยใจจดจ่อ แต่ทว่าละครเรื่องดังกล่าวส่อแววว่าจะเลื่อนวันเปิดกล้อง เพราะนักแสดงนำชายต้องการให้ปรับแก้เนื้อหา เขามองว่าการที่เสี่ยวเชียนเขียนให้พระเอกซึ่งมาจากเมืองที่ผู้ชายเป็นใหญ่ หลงรักนางเอกตั้งแต่แรกพบเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล (นางเอกอยู่ในเมืองที่สตรีเป็นใหญ่เขาเดาว่าเสี่ยวเชียนคงไม่เคยมีความรักจึงแนะให้เธอหาแฟนสักคนจะได้เขียนเรื่องราวความรักได้อย่างสมจริง แม้จะโกรธที่โดนหยามแต่พอได้รับเงินค่าผลงานเสี่ยวเชียนก็เร่งแก้ไขเนื้อหาแบบหามรุ่งหามค่ำหมายแสดงฝีมือ หลังแก้เนื้อหาเสร็จเธอถึงกับสลบไสลเพราะไม่สบายและเหนื่อยล้า 

เมื่อฟิ้นคืนสติอีกครั้งเสี่ยวเชียนก็พบว่าตนเข้ามาอยู่ในโลกที่ตัวเองเป็นคนสร้างขึ้น (อยู่ในบทละครที่เธอเขียน) แถมเธอยังกลายเป็น "เฉินเชียนเชียน" ท่านหญิงสามแห่งเมืองฮวาหยวน (เมืองที่ผู้หญิงเป็นใหญ่ในสังคม ส่วนผู้ชายถูกกดขี่) ซึ่งเป็นตัวละครสมทบที่เธอกำหนดให้ตายในตอนที่สามเพราะถูกพระเอกวางยาพิษ และเธอดันกลายเป็นเฉินเชียนเชียนขณะเรื่องราวดำเนินมาถึงตอนที่สามพอดี นั่นหมายความว่าเธอกำลังจะตาย ด้วยความที่รู้คาแรคเตอร์ตัวละครและพล็อตเรื่องเป็นอย่างดี เธอจึงหลีกหนีเภทภัยทำให้เรื่องราวกลับตาลปัตร (คาแรคเตอร์และพล็อตเรื่องเปลี่ยน) แถมหานซั่วยังหลงรักท่านหญิงสามแทนที่จะเป็นท่านหญิงรอง แม้แต่เสี่ยวเชียนเองก็หลงรักตัวละครหลักอย่างหานซั่วเช่นกัน  เพื่อไม่ให้หานซั่วจบชีวิตอย่างน่าอนาถตามบทที่ตนเขียน เสี่ยวเชียนในคราบท่านหญิงสามจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเขา 

เนื้อหาตอนที่หนึ่ง



ละครเปิดฉากขึ้นที่เมืองฮวาหยวนซึ่งไม่ลงรอยกับเมืองเสวียนหู่มาแต่ไหนแต่ไร หลังรบรากันอย่างดุเดือดแล้วเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เมืองเสวียนหู่เลยต้องส่งเจ้าเมืองน้อยนาม "หานซั่ว" มาแต่งกับหนึ่งในธิดาของเจ้าเมืองฮวาหยวน (แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง) เมื่อรถม้าของหานซั่วแล่นเข้าสู่ประตูเมืองฮวาหยวน เหล่าสตรีที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวจึงชี้ชวนกันดูพลางจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์อย่างเมามัน บ้างลุ้นว่าหานซั่วจะแต่งงานกับท่านหญิงคนใด บ้างกล่าวว่าเมืองเสวียนหู่รู้ทั้งรู้ว่าที่นี่สตรีมีสถานะเหนือบุรุษและเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่พวกเขายังส่งเจ้าเมืองน้อยของตนมาเป็นตัวประกันที่นี่หมายครอบครองเหมืองอูสือ (เหมืองหินมีค่า ลักษณะสีแดงเข้ม) 

หานซั่วเป็นบุรุษหนุ่มรูปงามที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องชื่นชม โชคร้ายที่เขาเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด หมอทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาจะอยู่ได้ไม่เกินอายุ 20 ปีและตอนนี้เขาอายุ 19 ปีแล้ว เหล่าสตรีเมืองฮวาหยวนต่างรู้เรื่องนี้ พวกเธอจึงรู้สึกไม่ดีที่เมืองเสวียนหู่ส่งคนใกล้ตายมาที่เมืองของตน ความจริงแล้วหานซั่วยอมแต่งเข้าเมืองฮวาหยวนเป็นเพราะเขาต้องการ "หลงกู่" ซึ่งเป็นสมบัติลับและของคู่บ้านคู่เมืองของเมืองฮวาหยวน ทั้งนี้เพราะหลงกู่รักษาได้ทุกโรคและหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว (มีเพียงชิ้นเดียว) หานซั่วจึงต้องการนำหลงกู่มาทำยาอายุวัฒนะเพราะนั่นเป็นทางเดียวที่จะยืดอายุตน  

* หลงกู่ คือ ชิ้นส่วนฟอสซิลโครงกระดูกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในสมัยโบราณ (เป็นหนึ่งในตำรับยาจีน)




เพื่อบรรลุเป้าหมายหานซั่วจึงจัดฉากสร้างสถานการณ์ 'วีรบุรุษช่วยหญิงงาม' หวังให้ "เฉินฉูฉู่" (ท่านหญิงรองแห่งเมืองฮวาหยวน) หลงรักตนตั้งแต่แรกพบ เพื่อจะได้ชิงหลงกู่มาเป็นของตน แม้วางแผนมาเป็นอย่างดีแต่สถานการณ์กลับพลิกผัน เพราะหญิงงามที่เขาช่วยไม่ใช่เฉินฉูฉู่แต่กลับเป็นท่านหญิงสาม "เฉินเชียนเชียน"  (เธอบังคับให้ทุกคนเรียกตนว่า "องค์หญิงสาม") ครั้นรู้ว่าชายหนุ่มที่ช่วยตนไว้คือเจ้าเมืองน้อยของเมืองเสวียนหู่ เฉินเชียนเชียนจึงสั่งให้จับเขาไปขัดสีฉวีวรรณแล้วส่งเข้าจวนเธอคืนนี้ (เธอเห็นว่าเขาหน้าตาดี และไหนๆ เขาก็จะแต่งเข้าเมืองฮวาหยวนอยู่แล้ว)  "จื่อรุ่ย" เห็นว่านายหญิงของตนกำลังจะแหกกฎจึงรีบทัดทาน ด้วยเกรงว่าเธอจะถูกเจ้าเมืองลงโทษ แต่เฉินเชียนเชียนไม่สน ตั้งแต่เล็กจนโตไม่มีอะไรที่เธออยากได้แล้วไม่ได้ เธอตั้งใจว่าจะไปขออนุญาตมารดาเดี๋ยวนี้แล้วแต่งงานกับหานซั่ววันพรุ่งนี้เลย หานซั่วแสร้งอาการกำเริบหมายให้เฉินเชียนเชียนเปลี่ยนใจแต่ไม่เป็นผล เธอยืนกรานว่าจะแต่งงานกับเขาวันพรุ่งนี้ และให้เขาคิดเสียว่าดวงซวยที่มาพบเธอ 

เหล่าชาวบ้านเห็นเฉินเชียนเชียนบังคับชิงตัวเจ้าบ่าวกลางตลาดก็วิจารณ์กันสนั่น ทุกคนรู้ดีว่าเฉินเชียนเชียนถูกเจ้าเมืองตามใจจนเสียคน แต่เจ้าบ่าวที่ขี้โรคและใกล้ตายอย่างหานซั่วจะอยู่กับเฉินเชียนเชียนได้สักกี่วัน หานซั่วได้ยินชาวบ้านนินทาตนแบบเผาขนก็ยิ่งรู้สึกโกรธที่โดนลบหลู่ ขณะพักในอี้จ้าน "ไป๋จี" (บ่าวของหานซั่ว) รายงานหานซั่วว่า เฉินเชียนเชียนเป็นคนไร้เหตุผล ไร้สาระ ไม่เคารพกฎเกณฑ์ ทั้งยังโง่เขลา และเป็นโรคเจ้าหญิง (หลงตัวเอง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ชอบเรียกร้องความสนใจ) แถมเธอยังสั่งให้ทุกคนในเมืองเรียกตนว่า "องค์หญิงสาม" หน้าตาเฉย หลังผิดแผนหานซั่วจึงคิดที่จะเล่นตามน้ำและปรับเปลี่ยนแผนไปตามสถานการณ์

* ความจริงแล้วเฉินเชียนเชียนเป็นเพียง "ท่านหญิง" (จวิ้นจู่) แต่เธอบังคับให้ทุกคนเรียกตนว่า "องค์หญิง" (กงจู่) 


เหตุการณ์ข้างต้นคือเนื้อหาส่วนหนึ่งของบทละครเรื่อง "พยัคฆ์ดอมดมกุหลาบ" ที่ "เฉินเสี่ยวเชียน" เขียนขึ้น เธอรู้สึกฟินสุดๆ ที่เขียนเรื่องราวเช่นนี้ออกมาได้ (พระเอกช่วยผิดคนเลยถูกตัวละครสมทบลากเข้าจวนไปแต่งงาน) หลังตรวจสอบยอดเงินในบัญชีแล้วพบว่ามีเพียง 573 หยวน (ประมาณ 3 พันบาท) เสี่ยวเชียนจึงสงสัยว่าเมื่อไหร่จะได้เงินค่าต้นฉบับเสียที ครั้นบอสจางโทรฯ มาหาเธอจึงคิดที่จะสอบถามเรื่องเงินค่าผลงานแต่ไม่มีโอกาส บอสจางแจ้งว่าตอนนี้เรื่องบทละครยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะ "คุณหาน" (นักแสดงนำแซ่หาน) มีคำถามเกี่ยวกับบทของตน บอสจางขอให้เสี่ยวเชียนไปพบและเคลียร์เรื่องบทกับคุณหาน โดยบอกว่าหากเธอกล่อมเขาสำเร็จพวกตนจะได้เริ่มต้นถ่ายทำ



เสี่ยวเชียนจำต้องออกไปหานักแสดงนำแซ่หานที่กองถ่าย แต่เขากำลังง่วนอยู่กับการถ่ายทำฉากโหนสลิงเลยพูดคุยกันไม่สะดวก (เขาถูกสลึงดึงขึ้น-ลงเป็นระยะ) ถึงกระนั้นเขาก็บอกเธอว่าคาแรคเตอร์ของตัวละครหลัก (หานซั่ว) มีปัญหา เขามองว่าการที่เสี่ยวเชียนเขียนให้ "หานซั่ว" หลงรัก "เฉินฉูฉู่" แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เพียงเพราะเฉินฉูฉู่เป็นนางเอก และ 'วีรบุรุษย่อมพ่ายหญิงงาม' เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล เสี่ยวเชียนแย้งว่าเฉินฉูฉู่ทั้งฉลาด มีไหวพริบ รูปโฉมงดงาม และจิตใจดี นักแสดงแซ่หานชี้ว่าความสัมพันธ์ของคนเราจะราบรื่นต่อเมื่อมีความเสมอภาคทางเพศ แต่กฎของเมืองฮวาหยวนบุรุษต้องเชื่อฟังสตรี ส่วนเมืองเสวียนหู่สตรีต้องเชื่อฟังบุรุษ เขาจึงมองว่าคนอย่างหานซั่วไม่มีทางตกหลุมรักสตรีคนใดในเมืองฮวาหยวน เพราะหานซั่วยึดมั่นในแนวคิดที่ว่าบุรุษเป็นใหญ่ (เนื้อหาข้างต้นนักแสดงแซ่หานไม่ได้พูดรวดเดียว แต่ทันทีที่เท้าแตะพื้นแม้เพียงช่วงสั้นๆ เขาจะเป็นฝ่ายพูด เสี่ยวเชียนแทบไม่มีโอกาสอธิบายหรือโต้แย้ง เพราะเขาถูกสลิงดึงขึ้นไปเสียก่อน)

เสี่ยวเชียนชักเริ่มหงุดหงิดเพราะพูดคุยกันได้ไม่กี่คำนักแสดงแซ่หานก็ถูกสลิงดึงขึ้นไปกลางอากาศ นักแสดงแซ่หานชี้ว่าคนสองคนที่ไม่เสมอภาคไม่อาจสื่อสารกันได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นเรื่องตกหลุมรักไม่ต้องพูดถึง เช่นเดียวกับเขาและเธอในตอนนี้ (ที่พูดคุยกันแทบไม่รู้เรื่องเพราะคนหนึ่งอยู่บนพื้นส่วนอีกคนลอยอยู่กลางอากาศ) เขาถามเสี่ยวเชียนว่า (ในสถานการณ์ ณ ตอนนี้) เธอจะตกหลุมรักเขาไหม เขาชี้ว่าแม้เสี่ยวเชียนจะใส่แนวคิดแบบสตรีนิยม (สนับสนุนความเสมอภาคของสตรี) ลงในบทละคร แต่เขากลับมองว่ามันไม่ต่างจากแนวคิดชายเป็นใหญ่ที่เธอครหา  (สตรีเมืองฮวาหยวนกดขี่บุรุษ) ดังนั้น ความเสมอภาคที่เธอปรารถนาจึงไม่ใช่ความเสมอภาคที่แท้จริง เขาเดาว่าเสี่ยวเชียนไม่เคยมีความรักเลยแนะให้ลองหาแฟนสักคน โดยบอกว่าวิธีนี้จะช่วยให้เธอเขียนเรื่องราวความรักได้อย่างสมจริง




เสี่ยวเชียนกลับห้องพักด้วยความโกรธ เธอโวยลั่นขณะคุยกับบอสจางทางโทรศัพท์ว่า ไม่ใช่เธอไม่ให้ความร่วมมือแต่เธอคุยกับนักแสดงแซ่หานไม่รู้เรื่อง พอจะอ้าปากพูดเขาก็ลอยหนีทุกครั้ง เธอตะโกนจนเสียงแหบเสียงแห้งแต่เขาไม่ฟังเธอเลย (บอสจางพยายามเกลี้ยกล่อมเสี่ยวเชียนแต่เธอไม่ฟังเช่นกัน) ทันใดนั้นก็มีคนโอนเงินเข้าบัญชีของเสี่ยวเชียน หลังเช็คยอดเงินแล้วพบว่าเงินในบัญชีมีอยู่ 27,573 หยวน (กว่า 1.42 แสนบาท) เสี่ยวเชียนก็หายโกรธเป็นปลิดทิ้ง เธอจึงพูดกับบอสจางด้วยท่าทีที่อ่อนลงและยอมแก้ไขบทแต่โดยดี เสี่ยวเชียนต้องการพิสูจน์ฝีมือให้นักแสดงแซ่หานได้เห็น จึงทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปรับแก้เนื้อหาตามที่เขาท้วงติง 


เนื้อหาส่วนหนึ่งที่เธอเขียนขึ้นใหม่มีใจความว่า ...หานซั่วสังหารเฉินเชียนเชียนก่อนหลอกลวงเฉินฉูฉู่ ครั้นได้หลงกู่มารักษาโรคหัวใจเขาจึงเริ่มตีเมืองฮวาหยวน ปลิดชีพเจ้าเมือง และเข่นฆ่าราษฎร เขาเปลี่ยนเป็นคนละคนในชั่วพริบตา... หานซั่วหลงรักเฉินฉูฉู่หลังเล่นละครตบตาเธอ เขายึดเมืองฮวาหยวนแต่ยอมปล่อยเธอไป หลังจากนั้นเฉินฉูฉู่ได้ซุ่มวางแผนตอบโต้ ในที่สุดทั้งคู่ก็เปิดศึกขั้นแตกหัก... สุดท้ายแล้วเฉินฉูฉู่ได้ครองตำแหน่งเจ้าเมือง ในพิธีเข้ารับตำแหน่งของเฉินฉูฉู่ได้บังเกิดสัญญาณมงคล ทั้งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ต่างเปล่งแสงเจิดจ้าบนท้องฟ้า ประตูสวรรค์เปิดออก ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงเรืองรอง - จบบริบูรณ์



หลังโหมงานต่อเนื่องแบบนอนสต็อปจนสำเร็จลุล่วง เสี่ยวเชียนก็หลับผล็อยเพราะความอ่อนเพลีย  (เธอเร่งแก้ไขบทเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อกำหนดถ่ายทำ) แต่พอตื่นขึ้นมาเธอกลับพบว่าตนอยู่ในสถานที่ๆ ไม่คุ้นเคย ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รอบตัว (รวมทั้งภาพวาด) ล้วนเป็นของโบราณ ตอนแรกเธอนึกว่าตัวเองแต่งคอสเพลย์มาเที่ยวไนท์คลับ เพราะในห้องมีชายหนุ่มสวมชุดแบบโบราณนอนกองกันอยู่อีกมุมหนึ่ง เมื่อทุกคนตื่นขึ้นแล้วเรียกเธอว่า "องค์หญิงสาม" เสี่ยวเชียนก็เริ่มเอะใจ ครั้นเห็นเหล่าชายหนุ่มสวมสร้อยข้อมือเชือกร้อยจี้รูปดอกบัวและลูกกระพรวน ซึ่งเป็นเครื่องประดับที่ทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับเหล่านักดนตรีของ 'เจี้ยวฟางซือ' ในบทละครของเธอ เสี่ยวเชียนจึงวิ่งขึ้นไปดูบรรยากาศโดยรอบบนหอสูง และพบว่าตนติดอยู่ในบทละครที่ตัวเองเป็นคนเขียน

* "เจี้ยวฟางซือ" เดิมเป็นกองการสังคีตสังกัดกรมพิธีการ ส่วนใหญ่เป็นสตรี มีหน้าที่เล่นดนตรี ร้องเพลง และร่ายรำในพิธีการต่างๆ หรือในงานต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง แต่บางยุคสมัยได้กลายเป็นสถานเริงรมย์ของราชสำนักที่มีแม้กระทั่งหญิงคณิกา แต่หญิงคณิกาที่นี่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี มีความสามารถในการร้องรำทำเพลง ส่วนใหญ่ให้บริการเฉพาะเชื้อพระวงศ์ ชนชั้นสูง และผู้มีอำนาจวาสนา

เสี่ยวเชียนเล่าว่าบทละครของเธอกล่าวถึงเรื่องราวในเมืองฮวาหยวนซึ่งยกย่องสตรีเหนือบุรุษ สตรีจึงเป็นหัวหน้าครอบครัวและมีสถานะทางสังคมที่สูงกว่า หากบ้านใดได้ทารกเพศหญิงพวกเขาจะปลาบปลื้มยินดี แต่ถ้าทารกที่คลอดออกมาเป็นเพศชายทุกคนจะพากันผิดหวัง ที่เมืองฮวาหยวนขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ล้วนเป็นสตรี บุรุษไม่อาจเป็นขุนนาง ไม่มีสิทธิ์เรียนหนังสือ ทั้งยังมีสถานะทางสังคมต่ำสุดจึงเป็นฝ่ายถูกสตรีกดขี่ข่มเหงและแทะโลม นอกจากนี้ เหล่าศิลปิน (ร้องเพลง ร่ายรำ บรรเลงดนตรี) ในเมืองฮวาหยวนล้วนเป็นบุรุษทั้งสิ้น



เสี่ยวเชียนแทบทรุดเมื่อพบว่าตนได้กลายเป็นองค์หญิงสาม "เฉินเชียนเชียน" ซึ่งเป็นคนสำมะเลเทเมา (ตอนนี้เธออยู่ที่เจี้ยวฟางซือกับเหล่านักดนตรีหนุ่ม) ชอบความหรูหราฟุ้งเฟ้อ ไร้ความรู้ความสามารถ กล้าชิงตัวเจ้าบ่าวกลางถนนตอนกลางวันแสกๆ แถมยังถูกตัวละครหลัก (หานซั่ว) วางยาพิษในสุราคืนวันแต่งงาน ครั้นนึกขึ้นได้ว่าเฉินเชียนเชียนเป็นตัวละครสมทบที่จะตายในตอนที่สาม เสี่ยวเชียนเลยสงสัยว่าตอนนี้เรื่องราวดำเนินมาถึงตอนไหนแล้ว ครั้นบ่าวรับใช้นำชุดแต่งงานที่เพิ่งปักลวดลายเสร็จหมาดๆ มาให้ลองสวม เสี่ยวเชียนจึงรู้ว่าเฉินเชียนเชียนกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานในวันนี้ นั่นหมายความว่าเนื้อเรื่องดำเนินมาถึงตอนที่สาม และวันนี้ก็เป็นวันตายของเฉินเชียนเชียน เสี่ยวเชียนรู้ชะตากรรมของเฉินเชียนเชียนเลยสั่งให้จื่อรุ่ยนำชุดเจ้าสาวออกไป  เธอกล่าวอย่างเดือดดาลว่านี่ไม่ใช่ชุดแต่งงานแต่เป็นชุดไว้ทุกข์ เธอจะไม่แต่งงานกับหานซั่วโดยเด็ดขาด และจะอยู่ให้ห่างจากเขาให้มากที่สุดเพราะเขาเป็นตัวซวย (ต่อจากนี้จะเรียกเสี่ยวเชียนว่า "เฉินเชียนเชียน") 


ไป๋จี๋เห็นขบวนรับตัวเจ้าบ่าว (รับขึ้นเกี้ยวแล้วแห่ไปเข้าพิธีแต่งงาน) มารอที่หน้าประตูตั้งแต่เมื่อคืนก็รู้ได้ทันทีว่าพวกตนถูกเมืองฮวาหยวนคอยจับตา ขณะที่เมืองเสวียนหู่ของหานซั่วได้ส่งสายลับและเหล่านักฆ่าแฝงตัวมาอยู่ในเมืองฮวาหยวนเป็นจำนวนมาก ครั้นแผนการเปลี่ยนกระทันหัน (เจ้าสาวกลายเป็นเฉินเชียนเชียนแทนที่จะเป็นเฉินฉูฉู่) สายลับหญิงคนหนึ่ง (ซึ่งเจ้าเมืองเสวียนหู่ส่งมา) จึงมาพบหานซั่วเพื่อสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไป๋จีออกตัวว่าเดิมทีตนทำตามคำสั่งของหานซั่ว โดยจัดฉากสร้างสถานการณ์ให้เขาได้มีโอกาสใกล้ชิดท่านหญิงรองเฉินฉูฉู่ เพราะเธอคู่ควรกับตำแหน่ง 'เจ้าเมืองน้อย' ที่สุดในสายตาราษฎรและเหล่าขุนนาง หากหานซั่วใกล้ชิดเธอย่อมมีโอกาสชิงหลงกู่มารักษาโรคหัวใจ นึกไม่ถึงว่าคนบนหลังม้าที่กำลังตื่นตกใจจะกลายเป็นองค์หญิงสามเฉินเชียนเชียน หานซั่วเลยช่วยผิดคนและถูกชิงตัวไป 

หานซั่วเดาว่ามีคนจงใจทำให้เรื่องกลายเป็นเช่นนี้เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร ถึงกระนั้นเขาก็มองว่าข้ออ้างเรื่องที่ตนร่างกายอ่อนแอเพราะโรคหัวใจอาจช่วยลดความหวาดระแวงของชาวเมืองฮวาหยวนลงได้บ้าง สายลับหญิงกล่าวว่าขอเพียงหานซั่วออกคำสั่ง สายลับทุกคนที่แฝงตัวอยู่ในเมืองฮวาหยวนพร้อมลงมือทันที รับรองว่าเฉินเชียนเชียนไม่มีทางได้ดั่งใจแน่ หานซั่วตั้งใจว่าจะเล่นตามน้ำไปก่อน เขาบอกไป๋จีว่าในเมื่อองค์หญิงสามอยากแต่งงานกับตนจนตัวสั่น ตนก็จะทำให้เธอสมหวังแล้วค่อยวางยาพิษกำจัดเธอในคืนนี้ จากนั้นค่อยทำตามแผนเดิม คือช่วยให้เฉินฉูฉู่ได้ขึ้นครองตำแหน่งแล้วหลอกชิงหลงกู่ หลังได้สมบัติลับเมืองฮวาหยวนและรักษาโรคหัวใจแล้ว ตนจะส่งสัญญาณให้ทัพเมืองเสวียนหู่บุกตีเมืองฮวาหยวนทันที หานซั่วสั่งให้ไป๋จีสังหารผู้ที่ทำงานผิดพลาดจนแผนการล้มเหลว ไป๋จีขอโอกาสให้ทุกคน (โดยเฉพาะตนเอง) อีกครั้ง หานซั่วยืนกรานว่าจะสังหารตัวต้นเหตุเพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ไป๋จีจึงสังหารม้าโดยอ้างว่าเป็นตัวการที่ทำให้ผิดแผน


ครั้นรู้ว่าหานซั่วสังหารม้า เฉินเชียนเชียนก็ยิ่งตื่นตระหนก เธอเชื่อว่าหานซั่วต้องการข่มขวัญและบอกเป็นนัยว่าคิวต่อไปคือเธอ แต่จื่อรุ่ยไม่คิดเช่นนั้น เขามองว่าเสวียนหู่ก็แค่เมืองชายแดนเล็กๆ ที่ส่งเจ้าเมืองน้อยมาเป็นตัวประกันที่นี่ แถมหานซั่วยังป่วยหนักจนหมดสภาพ หานซั่วสติแตกถึงขั้นระบายโทสะลงที่ม้าแต่สุดท้ายก็ต้องอยู่ในโอวาทเธออยู่ดี เฉินเชียนเชียนรู้ดีว่าหานซั่วเป็นคนอย่างไร โหดร้ายแค่ไหน (เพราะเธอเป็นคนแต่งเรื่องนี้) เธอจึงบอกจื่อรุ่ย (ซึ่งมักพูดเป็นต่อยหอย) ว่าถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ห้ามพูดเช่นนี้ต่อหน้าหานซั่ว เฉินเชียนเชียนมองชุดแต่งงานพลางครุ่นคิดด้วยความสงสัยว่า หากเธอปล่อยให้เหตุการณ์เป็นไปตามพล็อตเรื่องเดิม โดยยอมดื่มสุราที่หานซั่ววางยาพิษในคืนแต่งงานและตายไป เธอจะตื่นขึ้นมาสู่โลกความจริงไหม จื่อรุ่ยจะชี้แจงรายละเอียดและขั้นตอนงานแต่งอันยิ่งใหญ่อลังการให้เฉินเชียนเชียนฟัง แต่เฉินเชียนเชียนสั่งยกเลิกธรรมเนียมปฏิบัติและพิธีการทั้งหมด คงเหลือเพียงการส่งตัวเข้าหอและการคล้องแขนดื่มสุรามงคล จื่อรุ่ยถามว่าถ้าเช่นนั้นจะบอกเจ้าเมืองกับท่านหญิงรองว่าอย่างไร เฉินเชียนเชียนสั่งให้บอกทั้งคู่ว่าตนร้อนใจและอยากเข้าหอกับหานซั่วจนอดใจรอไม่ไหว


"จื่อจู๋" (บ่าวรับใช้ของเฉินฉูฉู่) รายงานเฉินฉูฉู่ว่าองค์หญิงสามสั่งยกเลิกขบวนรับตัวเจ้าบ่าว (เดิมทีเฉินฉูฉู่จะต้องไปรับในฐานะพี่สาวและเป็นผู้นำขบวน) เขาได้รับแจ้งว่าหานซั่วอยากเข้าหอกับองค์หญิงสามเร็วๆ แต่เขาและคนอื่นๆ ต่างคิดว่าน่าจะเป็นองค์หญิงสามมากกว่าที่อดใจรอไม่ไหว เฉินฉูฉู่เตือนว่าเฉินเชียนเชียนเป็นน้องสาวตน (ห้ามพูดจาลบหลู่) เธอกล่าวว่าหากหานซั่วคือคนที่ใช่สำหรับเฉินเชียนเชียนก็นับว่าประเสริฐยิ่ง หลังแต่งงานแล้วเฉินเชียนเชียนจะได้มีความสุขุมมากขึ้น


ไป๋จีมอบพิษปลิดวิญญาณ (ต้วนหุน) ให้หานซั่ว โดยบอกว่าหลังละลายในน้ำแล้วจะไร้สีไร้กลิ่น ผู้ได้รับพิษจะเสียชีวิตอย่างฉับพลันขณะนอนหลับ เขาได้ยินว่าองค์หญิงสามมีดีเพียงเรื่องเดียวคือวรยุทธที่แก่กล้าเลยมอบมีดสั้นให้หานซั่วไว้ป้องกันตัว (ปกติสตรีจะเป็นฝ่ายพกมีดสั้นไว้ฆ่าตัวตายเพื่อรักษาเกียรติและความบริสุทธิ์หากมีใครคิดย่ำยี) หานซั่วถามกลับว่าหากมีบางอย่างขึ้นในคืนนี้ใครจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แม้หัวใจอ่อนแอแต่หานซั่วไม่ใช่คนไร้ฝีมือ เขาปาถ้วยสุราใส่แจกัน (ถ้วยฝังติดกับผนังห้อง) ก่อนกล่าวว่าเฉินเชียนเชียนนิสัยใจคอโหดเหี้ยม โอหัง ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ แต่เจ้าเมือง (ฮวาหยวน) กลับตามใจเธอ คืนนี้...ถึงเธอตายก็มิอาจลบล้างความผิดที่ได้กระทำ หลังรู้ว่าองค์หญิงสามสั่งยกเลิกขบวนแห่เกี้ยวเจ้าบ่าวและให้ส่งหานซั่วเข้าหอในจวนเยว่หลีทันที ไป๋จีจึงไม่พอใจที่องค์หญิงสามหยามเกียรตินายของตน แต่หานซั่วยอมทำตามแต่โดยดี


ขณะที่ "เผยเหิง" กำลังเขียนข้อความสำหรับใช้ในพิธีบวงสรวงสวรรค์ (เป็นพิธีการหนึ่งในงานแต่งขององค์หญิงสาม) บ่าวรับใช้คนหนึ่งของเขาแอบบ่นว่า องค์หญิงสามกับนายของพวกตนหมั้นหมายกันมาตั้งแต่ยังเยาว์ แต่องค์หญิงสามกลับแต่งงานกับเจ้าเมืองน้อยเมืองเสวียนหู่ทำให้นายของพวกตนเสียหน้า องค์หญิงสามแต่งงานกับคนอื่นแล้วนายของตนจะแต่งกับใคร บ่าวอีกคนเตือนว่าอย่าพูดเสียงดัง เขารู้ว่าเผยเหิงไม่ชอบให้ใครพูดถึงการหมั้นหมายระหว่างตนกับองค์หญิงสาม (ที่ผ่านมาเผยเหิงรังเกียจนิสัยและพฤติกรรมขององค์หญิงสามจึงพยายามยกเลิกการหมั้นหมายหลายครั้ง) และมองว่าการที่องค์หญิงสามถูกหานซั่วคว้าไปครองไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร เพราะหานซั่วจะอยู่ได้ไม่เกินอายุ 20 เช่นนี้แล้วจึงไม่นานเกินรอสำหรับนายของพวกตน ครั้นมีคนมาแจ้งว่าองค์หญิงสามสั่งยกเลิกพิธีบวงสรวงสวรรค์ เผยเหิงจึงหยุดเขียนบทอธิษฐานทันที


หลังได้รับแจ้งว่าองค์หญิงสามสั่งยกเลิกพิธีคำนับบิดามารดา "เจ้าเมืองฮวาหยวน" (มารดาองค์หญิงสาม) จึงบ่นอุบ ถึงกระนั้นเธอก็ยอมทำตามความประสงค์ของธิดา "ซางฉี" เกรงว่าหานซั่วซึ่งสุขภาพไม่สู้ดีจะตายคามือองค์หญิงสาม เจ้าเมืองกล่าวว่าแล้วแต่ฟ้าลิขิต แต่ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาจริงๆ ก็คิดเสียว่าเชียนเชียนช่วยขจัดปัญหาให้ตน



ขณะรอเจ้าสาวอยู่ในห้องหอ หญิงคนหนึ่งอ่านเงื่อนไขการหย่าร้าง 7 ข้อ (ชีชู*) ให้หานซั่วฟัง แต่หานซั่วท่องจำมาก่อนแล้ว เขายอมปฏิบัติตามธรรมเนียมเมืองฮวาหยวนแต่โดยดี  (ทั้งที่ในเมืองเสวียนหู่ถือเป็นธรรมเนียมของสตรี)  และยอมรับแม้กระทั่งการสวมผ้าคลุมหน้าเจ้าบ่าว คงมีเพียงการแต้มจุดแดงพรหมจรรย์บนร่างกาย (โส่วกงซา) ที่เขาไม่อาจยอมรับและยืนกรานปฏิเสธ (แต้มไว้ตรวจสอบว่าเขากับองค์หญิงสามได้ร่วมหลับนอนกันหรือไม่ หากร่วมหอกันจุดแดงจะจางหายไป) เมื่อเฉินเชียนเชียนมาถึงทุกคนจึงออกจากห้องไป

* ความจริงแล้ว "ชีชู" (七出) หรือ "เจ็ดขับ" คือ เงื่อนไขเจ็ดประการที่บุรุษสามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการหย่าร้างหรือขับภรรยาออกจากเรือน หากภรรยามีพฤติกรรมตรงกับข้อใดข้อหนึ่ง (เป็นหลักปฏิบัติที่เอาเปรียบฝ่ายหญิง มีอยู่จริงในสมัยโบราณ) ประกอบด้วย 1. อกตัญญู (ไม่ปรนนิบัติพ่อแม่สามี) 2. ไร้ทายาทสืบสกุล 3. คบชู้ 4. อิจฉาริษยา (ห้ามริษยาภรรยาน้อย) 5. เป็นโรคร้ายแรง 6. ปากมาก 7. ลักขโมย (เนื่องจากเมืองฮวาหยวนสตรีเป็นใหญ่ กฎหรือหลักปฏิบัติของบุรุษ/สตรีจึงกลับตาลปัตร กลายเป็นบุรุษที่โดนกดขี่ และจะเป็นฝ่ายถูกขับออกจากเรือนหากมีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ดังกล่าวข้างต้น)


เฉินเชียนเชียนถามหานซั่วว่าพวกตนควรทำตามลำดับพิธีการหรือเข้าประเด็นกันเลย หานซั่วชวนดื่มสุรามงคลโดยอ้างว่าเป็นการดื่มฉลองในคืนแต่งงาน แต่เฉินเชียนเชียนรู้ว่าเขาต้องการวางยาพิษเธอ เธอตั้งใจว่าจะดื่มสุราพิษแล้วตายตอนที่สามตามพล็อตเรื่องที่เธอเขียน โดยหวังว่าวิธีนี้จะทำให้เธอกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง หานซั่วแอบเทยาพิษลงในจอกสุราแล้วยื่นให้เฉินเชียนเชียนดื่ม เขานึกว่าเฉินเชียนเชียนจะแลกจอกสุราดื่มกับตน แต่เธอกลับคล้องแขนเขาและจะดื่มสุราที่อยู่ในมือ (ซึ่งไม่มียาพิษ) หานซั่วแสร้งไอแล้วแอบสลับจอกสุรา หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง หานซั่วจะคล้องแขนดื่มสุราตามธรรมเนียมเมืองฮวาหยวน แต่คราวนี้เฉินเชียนเชียนดันยื่นจอกสุรา (พิษ) ให้เขา (เธอจะแลกจอกสุราดื่มตามธรรมเนียมเมืองเสวียนหู่) หานซั่วแสร้งไอกลบเกลื่อนอีกครั้ง และนั่นก็ทำให้เฉินเชียนเชียนชักเริ่มหงุดหงิด 


เฉินเชียนเชียนเห็นว่าหานซั่วยังคงสวมผ้าคลุมหน้าเลยช่วยถอดออกให้ (ตามธรรมเนียมเมืองฮวาหยวน เมื่อผ้าคลุมหน้าเจ้าบ่าวถูกเจ้าสาวถอดออก เขาจะต้องติดตามเธอชั่วชีวิตและไม่อาจเปลี่ยนใจไปรักคนอื่น) หานซั่วเห็นท่าไม่ดีเลยแอบเทสุราผสมยาพิษทิ้ง ครั้นเห็นใบหน้าหานซั่วชัดๆ เฉินเชียนเชียนก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะเขาหน้าตาเหมือนนักแสดงแซ่หานไม่มีผิด เธอนึกว่านักแสดงหนุ่มเข้ามาอยู่ในบทละครเหมือนตนจึงถามว่าไหนบอกจะไม่แสดง หานซั่วไม่รู้ว่าเฉินเชียนเชียนกำลังพูดเรื่องอะไร เขาสงสัยว่าเธออาจรู้ว่าตนแอบวางยาพิษในสุรา เฉินเชียนเชียนกล่าวว่าในสุรามียาพิษหรือไม่เขาย่อมรู้อยู่แก่ใจ ครั้นรู้ตัวว่าถูกจับได้หานซั่วจึงแสร้งไออีกครั้ง เฉินเชียนเชียนไม่รู้ว่าหานซั่วเทสุราผสมยาพิษทิ้งไปแล้ว เธอจึงผสมสุราทั้งสองจอกเข้าด้วยกันแล้วเทสลับไปมาก่อนชวนหานซั่วดื่ม โดยบอกว่าหากวันนี้เธอตาย เธอจะลากเขาไปด้วย หานซั่วจะใช้ตะเกียบสังหารเฉินเชียนเชียนแต่ทำไม่สำเร็จเพราะเธอร้องเรียกบ่าวเสียก่อน เมื่อบ่าวที่อยู่ข้างนอกกรูเข้ามาในห้อง หานซั่วจึงส่งสายตาบอกไป๋จีว่าแผนการล้มเหลว 




เพื่อเอาคืนนักแสดงที่ไม่เห็นเธออยู่ในสายตา (ชอบโหนสลิงหนี) เฉินเชียนเชียนจึงสั่งให้จื่อรุ่ยจับหานซั่วไปแขวนโดยบอกว่าเขาชอบลอยกลางอากาศ จากนั้นจึงประกาศว่าหานซั่วคิดวางยาพิษเธอ เพื่อเป็นการพิสูจน์เฉินเชียนเชียนจึงดื่มสุราทั้งสองจอกและชิมอาหารทุกจานบนโต๊ะ ครั้นพบว่าในสุราอาหารไม่มียาพิษ เธอจึงสงสัยว่าเขา (นักแสดงแซ่หาน) อาจเพิ่มซีนให้ตัวเองด้วยการป้ายยาพิษไว้ที่ริมฝีปาก เธอจึงจุ๊บปากเขาต่อหน้าทุกคน หานซั่วโกรธมากจึงขู่ว่าเธอได้ตายวันนี้แน่ เฉินเชียนเชียนได้ยินดังนั้นเลยเชื่อว่าตนกำลังจะตายเพราะยาพิษ เธอสั่งจื่อรุ่ยให้ลงโทษหานซั่วด้วยวิธีห้าม้าแยกร่างและให้ประหารครอบครัวเขาเก้าชั่วโคตร ทันใดนั้น เฉินเชียนเชียนก็เริ่มมีอาการผิดปกติ (ตาลาย ลิ้นแข็ง เวียนหัว) เธอสงสัยว่ายาเริ่มออกฤทธิ์จึงเดินโซเซไปที่เตียงและหมดสติในที่สุด 

** จบตอนที่ 1 **

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่





รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ
[ผลไม้แต่ละชนิดที่อยู่ท้ายชื่อตัวละคร คือผลไม้ที่ "เฉินเชียนเชียน" หยิบยกมากล่าวอ้างแทนการเอ่ยชื่อตัวบุคคล ระหว่างหารือกับบรรดานักเล่านิทาน]




จ้าวลู่ซือ
รับบท เฉินเสี่ยวเชียน / เฉินเชียนเชียน [ส้ม]
(นักแสดง ชาวจีน)




ติงอวี่ซี
รับบท นักแสดงแซ่หาน / หานซั่ว [กล้วย]
(นักแสดง ชาวจีน)

เมืองฮวาหยวน (สตรีมีเกียรติและสถานะสูงส่งกว่าบุรุษ)




โจวจื่อซิน
รับบท เฉินฉูฉู่ [แอปเปิ้ล]
(นักแสดง ชาวจีน)




เซิ่งอิงหาว
รับบท เผยเหิง [ลูกท้อ]
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)




จ้าวซิน
รับบท เฉินหยวนหยวน
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)




เฉวียนเพ่ยหลุน
รับบท ซูมู่
(นักแสดง / นักวาดภาพ ชาวจีน)




หูไฉ่หง
รับบท เจ้าเมืองฮวาหยวน
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หลี่อั๋ง
รับบท ซางฉี
(นักแสดง ชาวจีน)




เฉินหมิงหาว
รับบท ซูจื่ออิง [อิงเถา - เชอร์รี่]
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)




เว่ยเซี่ยว
รับบท หลินชี [แตงผลเบี้ยว]
(นักแสดง ชาวจีน)




อู๋อี้เจีย
รับบท จื่อรุ่ย
(นักแสดง ชาวจีน)

เมืองเสวียนหู่ (บุรุษมีเกียรติและสถานะสูงส่งกว่าสตรี)




หลิวซูหยวน
รับบท ไป๋จี
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)




จางฮ่าวเฉิง
รับบท เจ้าเมืองเสวียนหู่
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)




จางถิงถิง
รับบท ภรรยาเจ้าเมืองเสวียนหู่
(นักแสดง ชาวจีน)


 

กัวเจียอี
รับบท หยางซือฮู่
(นักแสดง ชาวจีน)

อื่นๆ



เสิ่นฉือ
รับบท เมิ่งกั้ว
(นักแสดง ชาวจีน)





*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา