วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

เรื่องย่อ คำสาปรัก ชายาผมขาว (Princess Silver)




กำกับ: หลี่ฮุ่ยจู
เขียนบท: เฉิงถิงอวี้
แนวละคร: ย้อนยุค, โรแมนติก
จำนวนตอน: 58
ออกอากาศ: จีน - 15 พฤษภาคม 2562 ทางอ้ายฉีอี้, เถิงซวิ่น, โยวคู่
                  ไทย - ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.55 น. ทางช่อง MONO29 ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2564 - 16 ธันวาคม 2564




เรื่องย่อ



ละคร "คำสาปรัก ชายาผมขาว" (Princess Silver) ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง "ไป๋ฟ่าหวังเฟย" (白发王妃) ของ "โม่เหยียนซาง" เนื้อหาในละครกล่าวถึงหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตนสูญเสียความทรงจำ แม้ทุกคนจะบอกว่าเธอคือ "หรงเล่อ" องค์หญิงแห่งแคว้นซีฉี (ฉีตะวันตก) แต่มีหลายสิ่งที่ทำให้เธอเคลือบแคลง เธอจึงสงสัยว่าตนเป็นใครกันแน่ ครั้น "หรงฉี" (ฮ่องเต้แคว้นซีฉี / พระเชษฐาของหรงเล่อ) ช่วยคลี่คลายทุกข้อสงสัยและแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ เธอจึงเชื่อใจเขาและใช้ชีวิตในฐานะหรงเล่อ หลังถูก "ไทเฮา" บังคับให้อภิเษกกับองค์ชายเจ็ดแห่งแคว้นเป่ยหลิน (หลินเหนือ) นาม "จงเจิ้งอู๋โยว" (หลีหวัง) หรงเล่อจึงดั้นด้นเดินทางไปอภิเษกเชื่อมสัมพันธ์ที่แคว้นเป่ยหลิน แต่พอไปถึงอู๋โยวกลับไม่ยอมอภิเษกกับเธอ (เขาไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานทางการเมือง) 

เพื่อยื้อเวลาให้ภารกิจลุล่วงหรงเล่อจึงขอเวลาครึ่งปี โดยบอกว่าหากตอนนั้นอู๋โยวยังคงยืนกรานปฏิเสธ เธอจะยอมรับและอภิเษกกับคนอื่นแทน ด้วยความที่ไม่อาจเปิดเผยโฉมหน้าเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น (จนกว่าจะเข้าพิธีอภิเษก) หรงเล่อจึงลอบออกมาทำภารกิจลับนอกจวนในฐานะ "ม่านเยา" เจ้าของโรงน้ำชาหล่งเยว่ ภารกิจที่ว่าคือการสืบหาที่ซ่อนตำรา 'ซานเหอจื้อ' ของตระกูลฉิน ซึ่งอู๋โยวเองก็กำลังตามหา (ตามคำสั่งพระบิดา) เช่นกัน ทั้งนี้ อู๋โยวเป็นศิษย์ของ "ฉินหย่ง" อดีตเสนาบดีที่ถูกใส่ร้ายว่าเป็นกบฏเมื่อหลายปีก่อนและเป็นผู้เขียนตำราดังกล่าว ในตอนแรกอู๋โยวตั้งใจว่าจะหลอกให้ม่านเยาหลงรักแล้วสืบหาความจริงจากเธอ เพราะสงสัยว่าเธอมีเบาะแสของตำราซานเหอจื้อ แต่เขาเกิดหลงรักเธอจริงๆ (เขาไม่รู้ว่าเธอคือว่าที่เจ้าสาวของตน)  ขณะที่เธอเองก็มีใจให้เขาเช่นกัน

หรงเล่อทั้งเสียใจและผิดหวังเมื่อรู้ว่าหรงฉีสมคบคิดกับแม่ทัพเป่ยหลินนาม "ฟู่โฉว" มานาน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอล้วนถูกเขาวางหมากเอาไว้ตั้งแต่ต้น แม้แต่การมัดมือชกให้อภิเษกกับฟู่โฉวแทนอู๋โยวก็เป็นแผนของหรงฉีเช่นกัน หลังอู๋โยวเผยความในใจที่มีต่อม่านเยา ความรักของทั้งคู่ก็ผลิบานจนมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งต่อกัน แต่ทว่าวันรุ่งขึ้นหรงเล่อกลับพบว่าแม้แต่อู๋โยวก็เข้าหาเธอเพื่อตำราซานเหอจื้อเช่นกัน อู๋โยวยอมรับว่าเดิมทีเขามีแผนเช่นนั้นจริง แต่เขาเห็นเธอสำคัญกว่าตำราซานเหอจื้อ หรงเล่อไม่เชื่อและไม่ไว้ใจเขาอีกต่อไป  

หรงฉีรู้ว่าหรงเล่อพบที่ซ่อนตำราซานเหอจื้อแล้วจึงขอให้เธอนำตำรามามอบให้ตน มิหนำซ้ำเขายังนำชีวิตสาวใช้และคนสนิทของหรงเล่อมาข่มขู่ หมายให้เธอยอมเข้าพิธีอภิเษกกับฟู่โฉว หรงเล่อไม่มีทางเลือกเลยยอมทำตามแต่โดยดี ในที่สุดอู๋โยวก็รู้ว่าแท้จริงแล้วม่านเยาคือองค์หญิงหรงเล่อ เขาจึงบุกไปชิงตัวเธอกลางงานอภิเษกแล้วพาไปที่สุสาน "อวิ๋นกุ้ยเฟย" (มารดาอู๋โยว) โดยอยู่ด้วยกันในนั้นนานสามวันสามคืน อู๋โยวพยายามหว่านล้อมแต่หรงเล่อปฏิเสธที่จะกลับไปหาเขา (เธอทำข้อตกลงหนึ่งปีกับฟู่โฉว) อู๋โยวยอมแพ้และไปจากเธอแต่โดยดี หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้พบกันนานนับปีเพราะอู๋โยวลงไปปฏิบัติภารกิจที่ชายแดนตอนใต้ ตลอดเวลาที่ครองคู่กัน (ในนาม) ฟู่โฉวพยายามเอาใจหรงเล่อถึงแม้เธอจะยืนกรานว่าพวกตนไม่มีวันลงเอยกันจริงๆ เขาจริงใจถึงขั้นยอมตัดสัมพันธ์ (ลับ) กับแคว้นซีฉีเพราะไม่อยากทำอะไรลับหลังเธอ (เขาเป็นนายน้อยสำนักเทียนโฉว)




หรงเล่อสงสัยว่ายาที่หรงฉีส่งมาให้ตนดื่มทุกเดือนอาจไม่ใช่ยารักษาอาการปวดหัว และคิดว่าตนอาจไม่ใช่องค์หญิงแคว้นซีฉี ระหว่างนั้นความสัมพันธ์ระหว่างหรงเล่อกับฟู่โฉวเริ่มเป็นไปในทางที่ดีขึ้น แต่แล้วฟู่โฉวกลับหลอกใช้เธอ ทั้งยังส่งคนไปลอบสังหารอู๋โยวขณะเดินทางกลับเมืองหลวง หลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างหรงเล่อกับฟู่โฉวก็เกิดรอยร้าวจนยากประสาน ขณะที่หรงเล่อกับอู๋โยวกลับมาคืนดีกันอีกครั้งหลังปรับความเข้าใจ

หลังรอโอกาสมานาน ในที่สุดฟู่โฉวกับ "หลินเซิน" (เจ้าสำนักเทียนโฉว) ก็ร่วมกันก่อกบฏโดยโยนความผิดให้อู๋โยว หลังจากนั้นฟู่โฉวจึงเปิดเผยตัวตนในฐานะพระโอรสของฮ่องเต้ เขาบอกทุกคนว่าตนเป็นโอรสของฝูยวน (หนึ่งในอดีตพระสนมของฮ่องเต้เป่ยหลิน) และเป็นผู้มีสิทธิ์ในการสืบทอดราชบัลลังก์ ฟู่โฉวเสียใจมากหลังรู้ว่าหรงเล่อเหลือเวลาอีกไม่นานเพราะถูกวางยาพิษ เขายอมละวางความเกลียดชังและความแค้น ขอเพียงหรงเล่อหนีไปกับตนและใช้เวลาทั้งหมดที่เหลืออยู่ด้วยกัน แต่หรงเล่อขอเวลาตรองดูก่อน คืนนั้นฟู่โฉวดื่มสุราจนเมาหนักเพราะกลุ้มเรื่องหรงเล่อ "เหินเซียง" เลยถือโอกาสปลอมตัวเป็นหรงเล่อแล้วช่วยปลอบประโลมเขา วันรุ่งขึ้นหรงเล่อมาหาฟู่โฉวที่ห้องแล้วเห็นเขาอยู่กับคนที่ปลอมตัวเป็นเธอ ฟู่โฉวพยายามอธิบายแต่หรงเล่อไม่สน เธอมาเพื่อบอกว่าในใจตนมีเพียงอู๋โยว ฟู่โฉวโกรธเหินเซียงมากและยิ่งเคียดแค้นอู๋โยวหนักขึ้น เขาจึงคิดที่จะให้เหินเซียงปลอมตัวเป็นหรงเล่อแล้วสังหารอู๋โยว แต่หรงฉีกลับวางยาหรงเล่อแล้วแอบนำเธอมาแทนที่เหินเซียง 

ฟู่โฉวกรอกยาพิษหรงเล่อด้วยนึกว่าเธอคือเหินเซียง จากนั้นจึงนำเธอ (ซึ่งอยู่ในสภาพทุรนทุราย) มาบีบให้อู๋โยวคุกเข่ายอมแพ้ตนต่อหน้าเหล่าทหารและขุนนาง  อู๋โยวมิอาจทนเห็นหรงเล่อทนทุกข์ทรมานจากพิษร้ายจึงยอมจำนน  หลังได้ยาถอนพิษจากฟู่โฉวเขาจึงรีบนำไปช่วยชีวิตหรงเล่อ แต่หรงเล่อถูกวางยาจนเกิดภาพหลอนเลยแทงอู๋โยวถึงสองครั้งเพราะเห็นเขาเป็นศัตรู ถึงกระนั้นอู๋โยวก็ฝืนป้อนยาเธอได้สำเร็จก่อนสิ้นสติ ครั้นรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปหรงเล่อก็กรีดร้องด้วยหัวใจที่แตกสลาย ทันใดนั้น ผมของเธอก็แปรเปลี่ยนเป็นสีขาว ฟู่โฉวตกใจมากเมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่เหินเซียงแต่เป็นหรงเล่อ

หลังจากนั้นแผ่นดินเป่ยหลินก็แบ่งเป็นแดนเหนือแดนใต้ แดนเหนือปกครองโดยฟู่โฉว (ในฐานะผู้สำเร็จราชการ) ซึ่งเพิ่งพบ "ฝูยวน" (มารดา) หลังพลัดพรากกันมานาน ส่วนแดนใต้ปกครองโดยอู๋โยว หลังหรงเล่อถูกใส่ร้ายว่าเป็นนางมารผมขาวที่ชั่วช้า อู๋โยวจึงดื่มยา 'นี่เสวี่ย' เพื่อให้ผมของตนเปลี่ยนเป็นสีขาวเหมือนหรงเล่อแม้ต้องทนทุกข์ทรมานและอายุสั้นลง 10 ปีก็ตาม ทั้งคู่ต่างรักมั่นและสาบานว่าจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป แม้มีคนพยายามจัดฉากสร้างสถานการณ์ให้เกิดความร้าวฉาน แต่ทั้งสองต่างเชื่อใจและพร้อมฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน 

หลินเซินสมคบคิดกับเจิ้นเป่ยหวังแห่งแคว้นเฉินนาม "หนิงเชียนอี้" สร้างสถานการณ์ให้อู๋โยวและฟู่โฉวเข่นฆ่ากัน (ฝูยวนกับหลินเซินยื่นข้อเสนอว่าจะสนับสนุนให้เจิ้นเป่ยหวังได้ขึ้นครองบัลลังก์แคว้นเฉินแทนฮ่องเต้วัยเยาว์) อู๋โยวและฟู่โฉวต่างคิดว่าอีกฝ่ายทำร้ายหรงเล่อจึงฟาดฟันกันอย่างดุเดือดจนบาดเจ็บทั้งคู่ โชคดีที่หรงเล่อเข้ามาห้ามเอาไว้ได้ทัน เธอเพิ่งรู้ว่าอู๋โยวกับฟู่โฉวเป็นพี่น้องฝาแฝด แท้จริงแล้วมารดาฟู่โฉวไม่ใช่ฝูยวนแต่เป็นอวิ๋นกุ้ยเฟย ฟู่โฉวนึกไม่ถึงว่าตนถูกหลอกใช้มานาน เจิ้นเป่ยหวังสั่งให้ทหารฆ่าไม่เว้น แต่ฮ่องเต้น้อยนำทหารบุกมาช่วยทุกคนเสียก่อน หลังแผนชั่วถูกเปิดโปงเจิ้นเป่ยหวังจึงดื่มสุราพิษฆ่าตัวตาย 




หรงเล่อหมดสติและถูกตรวจพบว่ากำลังตั้งครรภ์ ขณะที่เธอนอนหลับใหลหรงฉีใช้คมกระบี่ของ "เซียวซา" (องครักษ์ของหรงเล่อ) กรีดมือตัวเองแล้วป้อนเลือดให้หรงเล่อ ไม่นานหรงเล่อก็ฟื้นคืนสติ อู๋โยวกับหรงเล่อมัวแต่ดีใจที่พวกตนกำลังจะมีลูกจึงไม่มีใครสนใจหรงฉี หรงฉีเห็นทั้งคู่มีความสุขก็รู้สึกเจ็บแปลบและเดินจากไปเงียบๆ ขณะตั้งครรภ์หรงเล่อมักหลับใหลไม่ได้สติบ่อยครั้งและหลับนานขึ้นเรื่อยๆ "เซียวเข่อ" (น้องสาวเซียวซา และศิษย์หมอเทวดา) รู้สึกตกใจเมื่อพบว่าพิษร้ายในกายหรงเล่อคือ 'เทียนมิ่ง' และทางเดียวที่จะช่วยชีวิตหรงเล่อได้คือการถ่ายพิษทั้งหมดสู่ลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ อู๋โยวต้องการช่วยชีวิตหรงเล่อก่อนแล้วค่อยหาทางช่วยลูกน้อย แต่หรงเล่อไม่ต้องการให้ลูกน้อยรับเคราะห์แทนตน 

ฟู่โฉวสืบจนพบอดีตสาวใช้ของฝูยวนที่รู้เห็นเหตุการณ์เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ทำให้รู้ว่าเดิมทีฝูยวนเป็นองค์หญิงแคว้นเฉิน หลังเป่ยหลินถูกแคว้นเฉินยึดครองเหล่าเชื้อพระวงศ์จึงต้องยอมสวามิภักดิ์ต่อแคว้นเฉิน ครั้นฝูยวนได้พบ "จงเจิ้งอวิ่นเฮ่อ" (บิดาของอู๋โยวกับฟู่โฉว ขณะนั้นยังไม่ได้เป็นฮ่องเต้) เธอก็ยืนกรานว่าจะอภิเษกกับเขา หลังจงเจิ้งอวิ่นเฮ่อได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้แคว้นเฉินให้คุมกำลังทหาร เขากับ "หรงอี้" ก็ร่วมกันก่อกบฏจนแคว้นเฉินแตกพ่าย จงเจิ้งอวิ่นเฮ่อได้แคว้นเป่ยหลินกลับคืน ส่วนหรงอี้ได้ปกครองแคว้นซีฉี หลังสกุลฝู (ของฝูยวน) ถูกกวาดล้าง สกุลหนิงก็ขึ้นมาแทนที่และคิดชิงแผ่นดินคืน ด้วยเหตุนี้จงเจิ้งอวิ่นเฮ่อเลยเชิญหรงอี้มาที่จงซาน (เมืองหลวง) เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ นึกไม่ถึงว่าหรงอี้จะหลงใหลในความงามของอวิ๋นกุ้ยเฟยถึงขั้นเอ่ยปากขอเธอจากจงเจิ้งอวิ่นเฮ่อ

จงเจิ้งอวิ่นเฮ่อกับอวิ๋นกุ้ยเฟยรักกันตั้งแต่ยังเยาว์ ทั้งสองตั้งใจว่าจะกลับมาครองรักกันหลังสถาปนาบ้านเมืองขึ้นมาใหม่ จงเจิ้งอวิ่นเฮ่อไม่คิดส่งอวิ๋นกุ้ยเฟยให้หรงอี้ แต่เนื่องจากเป่ยหลินเพิ่งถูกสถาปนาขึ้นมาใหม่รากฐานเลยยังไม่มั่นคง เขาไม่ต้องการบาดหมางกับแคว้นซีฉีเพราะเรื่องผู้หญิงจึงวางยาฝูยวนแล้วส่งเธอให้หรงอี้แทน หลังฝูยวนถูกหรงอี้ย่ำยี จงเจิ้งอวิ่นเฮ่อจึงส่งเธอไปอยู่ตำหนักเย็น เพื่อไม่ให้เรื่องดังกล่าวแพร่งพรายออกไปจงเจิ้งอวิ่นเฮ่อจึงสั่งฆ่าบ่าวไพร่ทั้งหมดของฝูยวน และให้ฝูยวนกินยาพิษที่เรียกว่า 'เทียนมิ่ง' เพื่อให้เธอสูญเสียความทรงจำ หลังรู้ความจริงทั้งหมดฟู่โฉวจึงสงสัยว่า หากเด็กชายที่ฝูยวนให้กำเนิดในตำหนักเย็นไม่ใช่ตน แล้วเด็กคนนั้นคือใคร ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เขานึกถึงหรงฉีจึงส่งจดหมายลับไปสอบถาม (นั่นจึงทำให้หรงฉีรู้ความเป็นมาของตน)

ครั้นเหินเซียงส่งกระดิ่งมานัดพบ หรงเล่อจึงออกไปพบเหินเซียงโดยไม่บอกอู๋โยวเพราะอยากรู้ว่าตนเป็นใครกันแน่ (เธอจำกระดิ่งได้ และรู้ว่าแท้จริงแล้วเหินเซียงคือ "ฉินเซียง" ธิดาอดีตเสนาบดี "ฉินหย่ง" ผู้เป็นอาจารย์ของอู๋โยว) เธอไม่เพียงพบว่าเหินเซียงได้ให้กำเนิดลูกสาว (ลูกของฟู่โฉว) แต่ยังพบว่าตนคือ "ฉินม่าน" พี่สาวฝาแฝดของเหินเซียง (ฉินเซียง) เธอบอกเหินเซียงว่าศัตรูที่แท้จริงของพวกตนไม่ใช่จงเจิ้งอวิ่นเฮ่อ แต่เป็นสำนักเทียนโฉวและฝูยวน ทั้งยังบอกด้วยว่าอู๋โยวกับฟู่โฉวเป็นโอรสฝาแฝดของอวิ๋นกุ้ยเฟย หลังพบว่าหรงเล่อเริ่มหมดสตินานขึ้น อู๋โยวจึงถามเซียวซาว่าหรงฉีเป็นคนวางยาเธอหรือไม่ เซียวซาไม่รู้ว่าใครเป็นคนวางยาหรงเล่อ แต่เขาเห็นกับตาว่าเลือดของหรงฉีทำให้หรงเล่อฟื้นคืนสติได้ หรงฉีต้องการช่วยชีวิตหรงเล่อและลูกน้อยในครรภ์จึงพาเธอไปเร้นกายที่หมู่บ้านเล็กๆ บนภูเขาเป็นเวลาครึ่งปี ขณะอยู่ที่นี่ความทรงจำของหรงเล่อเริ่มฟื้นคืนมาเป็นระยะ เธอจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าตนกับหรงฉีเคยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขที่นี่ ขณะอยู่ด้วยกันตามลำพังหรงฉีมีความสุขมากที่สุดในชีวิตถึงแม้ว่าอาการเขาจะทรุดลงก็ตาม ทุกครั้งที่หรงเล่อหมดสติเขาจะใช้มีดกรีดมือตัวเองแล้วหลั่งเลือดให้เธอดื่ม

ครั้นเห็นว่าหรงเล่อเจ็บท้องใกล้คลอดหรงฉีจึงส่งข่าวไปบอกอู๋โยว แต่ไทเฮาแคว้นซีฉีนำกำลังบุกมาที่บ้านหลังดังกล่าวเสียก่อน ที่แท้เธอคือ 'ฝูยวน' มาที่นี่เพื่อคุมตัว หรงฉี หรงเล่อ และทารกน้อย (เพศชาย) กลับวังแคว้นซีฉี หรงฉีรู้ว่าตนคือโอรสที่เกิดในตำหนักเย็นแคว้นเป่ยหลิน พระมารดาจึงมองว่าเขาคือผลผลิตของความอัปยศเพราะเกิดจากการที่เธอถูกหรงอี้ย่ำยี (ฝูยวนถ่ายพิษเทียนมิ่งทั้งหมดมาไว้ในตัวหรงฉี เขาจึงเกิดมาพร้อมพิษร้ายและต้องทานยากดพิษเรื่อยมา นั่นจึงทำให้เลือดเขาช่วยยับยั้งพิษของหรงเล่อได้) หรงฉีรู้สึกผิดหวังที่พระมารดาพรากแม้กระทั่งความปรารถนาเดียวในชีวิตของตนไป (เขาอยากใช้วาระสุดท้ายอยู่กับหรงเล่ออย่างสงบโดยไม่มีใครมารบกวน) ครั้นได้สติแล้วไม่พบลูกน้อย หรงเล่อจึงคิดว่าตนถูกหรงฉีหลอกลวงอีกตามเคย หรงฉีขอให้หรงเล่อเชื่อใจตนเป็นครั้งสุดท้าย แต่หรงเล่อไม่ฟังและต้องการลูกคืน (เธอถูกฝูยวนขังไว้ในตำหนักเย็นแคว้นซีฉี และคิดว่าหรงฉีพรากลูกตนไป)




ขณะยืนอยู่ในลานด้านนอกของตำหนักเย็นแคว้นซีฉี หรงเล่อเริ่มจำได้ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยอยู่ที่นี่ ในตอนนั้นหลินเซินเล่าว่าฮ่องเต้แคว้นเป่ยหลินสั่งประหารครอบครัวเธอ เขาเป็นคนช่วยเธอไว้แล้วพาเธอมาอยู่แคว้นซีฉี จากนั้นจึงฝึกวิชาให้เธอในตำหนักเย็น วันหนึ่งเธอเห็นองค์หญิงหรงเล่อตัวจริงผูกคอตายในตำหนักเย็นต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้นหลินเซินก็สั่งให้เธอสวมรอยเป็นองค์หญิงหรงเล่อหวังส่งเธอไปอภิเษกที่แคว้นเป่ยหลิน โดยบอกว่าเขาจะช่วยให้เธอได้ล้างแค้น หรงเล่อจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนวางยาพิษตน และสงสัยว่าหรงฉีเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ 

ในเวลาเดียวกันนั้นหรงฉีมาหยุดยืนที่หน้าประตูตำหนักเย็น (เขากับหรงเล่ออยู่คนละฝั่งกำแพง) เขาหวนนึกถึงวันที่พบ "ม่านเอ๋อร์" (หรงเล่อ) ครั้งแรกหลังต่างฝ่ายต่างปีนกำแพงตำหนักเย็นขึ้นมาเจอกัน ในตอนนั้นเขายังเป็นเพียงองค์ชาย ทั้งคู่สานสัมพันธ์กันเรื่อยมาจนกลายเป็นคนรักในที่สุด ครั้นพบว่าม่านเอ๋อร์ถูกบังคับให้สวมรอยเป็นน้องสาวตน (ซึ่งถูกกักขังอยู่ในตำหนักเย็นมาตลอด) หรงฉีจึงคัดค้านและยืนกรานว่าจะอภิเษกกับเธอ แม้ไม่เคยพบหน้าน้องสาวแต่เขารู้ว่าม่านเอ๋อร์ไม่ใช่น้องสาวตน เพราะเขาเคยได้ยินหลินเซินพูดว่าม่านเอ๋อร์เป็นบุตรีของ "ฉินหย่ง" นาม "ฉินม่าน" ซ้ำยังรู้ด้วยว่าฉินหย่งถูกพระมารดาใส่ร้ายจนถูกประหารทั้งครอบครัว หลินเซินจับได้ว่าม่านเอ๋อร์แอบฟังเลยลากตัวเธอออกมา ม่านเอ๋อร์โกรธมากเมื่อรู้ความจริงเรื่องครอบครัว ฝูยวนกับหลินเซินเอาชีวิตหรงฉีมาข่มขู่โดยบีบให้เธอกินยาพิษเทียนมิ่งหมายลบความทรงจำของเธอ เพื่อปกป้องหรงฉี (ซึ่งถูกหลินเซินบีบคอ) ม่านเอ๋อร์เลยยอมกินยาพิษทำให้หรงฉีเสียใจมาก หรงฉีแอบเตรียมชุดดำ อาวุธ และขนมหวาน ไว้ให้ม่านเอ๋อร์ใช้หลบหนี ม่านเอ๋อร์จึงสวมชุดดำแล้วควบม้าหนีไปแต่ถูกหลินเซินจับตัวกลับมา หลังจากนั้นเธอก็ลืมหรงฉีและกลายเป็นหมากของฝูยวน 

ตัดกลับมาที่ช่วงเวลาปัจจุบัน ฝูยวนกับหลินเซินนำหลายชีวิต (หรงเล่อและลูกน้อย, ลูกสาวของเหินเซียงกับฟู่โฉว และฮ่องเต้แคว้นเป่ยหลิน) มาล่ออู๋โยวกับฟู่โฉวให้ติดกับ หรงฉียอมสละชีวิตตนเองเพื่อช่วยชีวิตหรงเล่อ โดยใช้เลือดล้างเลือดชีวิตแลกชีวิต ก่อนหน้านั้นเขาจงใจทำให้หรงเล่อเข้าใจผิดและเกลียดชังตน เพื่อไม่ให้หรงเล่อรู้สึกเสียใจในยามที่ตนจากไป ฝูยวนวางแผนให้จงเจิ้งอวิ่นเฮ่อ (ซึ่งถูกกรอกยาพิษจนมีสภาพเหมือนตายทั้งเป็น) ได้เห็นอู๋โยวกับฟู่โฉวเข่นฆ่ากันจนตายไปข้างหนึ่ง แต่กลับพบว่าลูกตน (หรงฉี) กลายเป็นร่างไร้วิญญาณ หลังฟื้นคืนสติหรงเล่อก็จำความหลังระหว่างตนกับหรงฉีได้ เธอเสียใจมากเมื่อรู้ว่าหรงฉียอมตายเพื่อช่วยชีวิตตน ในเวลาเดียวกันนั้น อู๋โยว ฟู่โฉว และเหินเซียง ต่างช่วยกันปกป้องคนในครอบครัวและกำจัดหลินเซินอย่างสุดกำลัง (ฟู่โฉวเพิ่งรู้ว่าตนมีลูกกับเหินเซียง) แต่ไม่วายเกิดความสูญเสียขึ้นจนได้

บทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ทาง MONO29 และดูครบทุกตอนทาง MONOMAX

เนื้อหาตอนที่หนึ่ง



หญิงสาวคนหนึ่งถูกกลุ่มชายชุดดำสวมหน้ากากตามไล่ล่าอย่างไม่ลดละ เธอจึงควบม้าหนีเข้าไปในป่าท่ามกลางสายฝนยามราตรี แม้ต้องสู้เพียงลำพังแต่เธอกลับไม่หวั่น ทั้งยังสังหารเหล่าชายชุดดำที่ตามราวีเธอจนหมดสิ้น ขณะกำลังจะเดินออกจากป่าเธอรู้ตัวว่ามีใครคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังจึงเปิดฉากจู่โจมทันที แต่ทว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาจึงถูกทำร้ายจนหมดสติ ที่แท้เขาคือเจ้าสำนักเทียนโฉวนาม "หลินเซิน" ซึ่งมาตามจับเธอกลับไปด้วยตนเอง



หลังรู้สึกตัวหญิงสาวพบว่าตนอยู่ในสถานที่ๆ ไม่คุ้นเคย แถมภายในห้องยังมีแต่คนที่ไม่คุ้นหน้า เธอจึงหวาดระแวงทุกคน เมื่อ "หลิงเยว่" (สาวใช้) ร้องบอกว่า 'องค์หญิง' ฟื้นแล้ว "หรงฉี" (ฮ่องเต้แคว้นซีฉี) จึงปรี่ไปนั่งข้างเตียงก่อนตัดพ้อว่า แม้ไม่เห็นด้วยกับการอภิเษกเชื่อมสัมพันธ์ แต่เธอไม่ควรแอบหลบหนีไปตามลำพังจนทำให้ตัวเองบาดเจ็บและโดนตำหนิ หญิงสาวได้ยินแล้วยิ่งสับสน เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใครและตอนนี้ตนอยู่ที่ไหน หรงฉีกล่าวว่า ตอนนี้เธออยู่ในวังของแคว้นซีฉี ตนเป็นฮ่องเต้แคว้นซีฉี ส่วนเธอคือองค์หญิง "หรงเล่อ" ทั้งยังเป็นน้องสาวตน เขาคนยาในถ้วยพลางกล่าวว่าหากทานยาตรงเวลาความทรงจำของเธอจะค่อยๆ ฟื้นคืนมา จากนั้นก็ยื่นถ้วยยาให้เธอ หรงเล่อไม่วางใจจึงปฏิเสธและปัดถ้วยยาทิ้ง หรงฉีเก็บเศษถ้วยที่แตกเกลื่อนพื้นอย่างใจเย็น ก่อนให้คำมั่นว่าจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้ความทรงจำของเธอกลับคืนมา

เมื่อทุกคนออกจากห้องไปแล้ว หรงเล่อจึงเดินไปส่องกระจกเพราะสงสัยว่าตนเป็นใครกันแน่ แม้ทุกคนจะบอกว่าเธอคือองค์หญิงที่มีพระเชษฐาเป็นฮ่องเต้ และเธอกำลังจะแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น แต่เธอกลับจำอะไรไม่ได้เลย ครั้นพบว่ามือตนทั้งด้านและหยาบไม่สมกับเป็นมือองค์หญิง เธอเลยไม่ปักใจเชื่อและสงสัยว่าตนเป็นใครกันแน่ 


วันต่อมา หลิงเยว่พาหรงเล่อเดินชมพระราชอุทยาน หรงเล่อไม่อยากเชื่อว่าตนเคยอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน (ในวัง) หลิงเยว่เล่าว่าหรงเล่อเป็นพระขนิษฐาเพียงองค์เดียวของฝ่าบาท ด้วยเหตุนี้ฝ่าบาทจึงรักเธอมาก ต่อให้มีราชกิจที่ต้องสะสางมากเพียงใด ฝ่าบาทก็ไม่ลืมที่จะแวะมาหาเธอที่นี่ ขณะที่เธอเองก็ติดฝ่าบาทมากเช่นกัน หรงเล่อไม่เชื่อว่าตนเป็นองค์หญิงจึงคิดหลบหนีแต่กลับวิ่งไปพบกลุ่มขันทีและสาวใช้ ทุกคนต่างพากันคารวะเมื่อพบเธอ ทั้งยังเรียกเธอว่าองค์หญิง หรงเล่อเห็นดังนั้นเลยยิ่งสับสน เธอพยายามวิ่งหนีแต่หรงฉีมาพบเข้าเสียก่อน


หรงฉีพาหรงเล่อมาที่ห้องชงชาก่อนบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ตนช่วยฟื้นความทรงจำให้ได้หากหรงเล่อต้องการ ดังนั้นเธอควรหยุดทำตัวบุ่มบ่าม เพราะการทำเช่นนี้นอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังอาจทำให้เธอเจ็บตัวและโดนตำหนิ เขากล่าวว่าที่นี่เคยเป็นสถานที่ๆ เธอโปรดปราน เขาพาเธอมาที่นี่เผื่อว่าเธอจะรู้สึกคุ้นเคยและนึกอะไรได้บ้าง เขาเล่าว่าเมื่อก่อนเธอชอบเข้ามาชงชาในห้องนี้ ฝีมือชงชาเธอยอดเยี่ยมมาก ทั่วทั้งวังหลวงยากหาใครเทียม เขาจึงแนะให้เธอลองชงชาดู   แม้สูญเสียความทรงจำแต่ฝีมือชงชาของหรงเล่อยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเช่นเคย (ทักษะและพรสวรรค์ของเธอยังคงอยู่) หลังพบว่าหรงฉีไม่ได้โกหกหรงเล่อจึงเริ่มยิ้มออก แต่เธอยังไม่ยอมทานขนมที่หรงฉีเตรียมไว้ให้ถึงแม้เขาจะบอกว่าเป็นของโปรดเธอก็ตาม



นอกจากการชงชาแล้ว หรงฉียังคิดที่จะช่วยฟื้นความทรงจำของหรงเล่อด้วยเพลงฉิน เขากล่าวว่าตนจะบรรเลงเพลงที่หรงเล่อเคยชอบมากที่สุดและมักขอให้ตนบรรเลงให้ฟัง ตนมักคิดเสมอว่ายามที่ได้บรรเลงเพลงฉินและชงชาด้วยกันคือช่วงเวลาที่พวกตนมีความสุขมากที่สุดในชีวิต พูดจบเขาก็เริ่มบรรเลงเพลงฉินด้วยใบหน้าเศร้าหมอง แต่ทันทีที่หรงเล่อหันไปมองเขาก็หันมายิ้มให้เธอ 

หลังกลับมาที่ตำหนัก หรงเล่อพบกระดาษแผ่นหนึ่งเสียบอยู่ในหนังสือม้วนไม้ไผ่จึงหยิบขึ้นมาดู (ข้อความบนกระดาษเป็นการคัดลอกเนื้อหาส่วนหนึ่งของบทกวีดังในสมัยโบราณ โดยหยิบยกมา 2 วรรค (维以不永伤, 维以不永怀) ความจริงแล้วหรงฉีต้องการปลอบประโลมหรงเล่อว่า อย่าจมจ่อมกับความโศกตรมหากความทรงจำฟื้นคืน และอวยพรให้เธอไร้ทุกข์โศกตลอดไป) หรงเล่อลองเขียนข้อความดังกล่าวแล้วนำมาเปรียบเทียบกัน ครั้นพบว่าลายมือที่ปรากฏบนกระดาษไม่เหมือนกับลายมือตนหรงเล่อก็รู้สึกแปลกใจ เมื่อหลิงเยว่ยกถ้วยยามาให้ หรงเล่อจึงนำแผ่นกระดาษไปให้หลิงเยว่ดูแล้วถามว่าใช่ลายมือตนหรือไม่ หลิงเยว่ยืนยันว่าใช่โดยบอกว่าตนเห็นหรงเล่อเขียนเองกับมือ หรงเล่อรู้สึกคาใจเลยเก็บกระดาษแผ่นดังกล่าวไว้ในแขนเสื้อ 



ทันใดนั้น "ไทเฮา" ก็บุกเข้ามาในตำหนักของหรงเล่อแล้วสั่งให้ข้ารับใช้จับตัวเธอทันที ไทเฮากล่าวว่าเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น หรงเล่อจะต้องเดินทางไปอภิเษกที่แคว้นเป่ยหลินไม่ว่าเธอจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม หรงฉีดักรอมารดาที่หน้าตำหนัก เขาคุกเข่าขอความเมตตาโดยกล่าวว่าหรงเล่อละเมิดกฏ (หนีออกจากวัง) เพราะสูญเสียความทรงจำ ไทเฮาไม่สนเรื่องความทรงจำของหรงเล่อและยืนกรานว่าจะส่งเธอไปอภิเษกเชื่อมความสัมพันธ์ หรงฉีขอความเห็นใจแทนหรงเล่อโดยกล่าวว่าแคว้นเป่ยหลินอยู่ห่างไกลจากที่นี่ เมื่อเดินทางไปแล้วหรงเล่ออาจไม่มีโอกาสกลับมาอีก ที่เธอไม่ยอมไปเป็นเพราะร่างกายและจิตใจยังไม่พร้อม (ยังคงบาดเจ็บและสับสนจากการสูญเสียความทรงจำ) เขาจึงอยากให้เลื่อนการอภิเษกออกไปก่อน ไทเฮาแย้งว่าตอนนี้แคว้นซีฉีกำลังเผชิญทั้งศึกนอกศึกใน ทัพของแคว้นเฉินกำลังบุกประชิดชายแดน ขณะที่ภายในแคว้นยังรบรากัน พวกตนจึงไม่พร้อมรับมือข้าศึก เธอกล่าวว่าตอนนี้ชะตาบ้านเมืองกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย หากพวกตนเป็นพันธมิตรกับเป่ยหลิน แคว้นเฉินจะถูกกดดันจนถอยทัพไปเอง 

ไทเฮาไม่พอใจที่หรงฉีเห็นแก่หรงเล่อจนไม่กล้าตัดสินใจ หรงฉีรับปากว่าจะคิดแผนรับมือแคว้นเฉินและขอให้เลื่อนการอภิเษกของหรงเล่อออกไปก่อน ไทเฮาขู่ว่าจะเอาชีวิตหรงเล่อ เธอกล่าวว่าตนไว้ชีวิตและแต่งตั้งหรงเล่อเป็นองค์หญิงได้ ย่อมทำให้หรงเล่อตายไร้ที่ฝังได้เช่นกัน  หรงฉีได้ยินดังนั้นจึงร้องขอความเมตตา ไทเฮาประกาศว่างานอภิเษกของหรงเล่อจะจัดขึ้นในอีกเจ็ดวัน จากนั้นก็บีบให้หรงฉีเลือกว่าจะส่งหรงเล่อไปแคว้นเป่ยหลินหรือเตรียมจัดงานศพตน (เธอขู่ว่าจะดื่มสุราพิษกลางท้องพระโรง หากเขาไม่ส่งหรงเล่อขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวในวันที่กำหนด)



กลางดึกคืนนั้น หรงฉีแอบพาหรงเล่อหนีออกจากวัง เขาพาเธอมาที่เรือนไม้หลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนลำน้ำท่ามกลางแมกไม้โดยบอกว่าครั้งหนึ่งเธอเคยมาพักที่นี่ หรงเล่อไม่เพียงรู้สึกคุ้นเคยแต่คล้ายจำอะไรได้บางอย่างเมื่อเห็นไม้แกะสลักรูปคน (เธอเห็นภาพตนอิงแอบกับชายหนุ่มแบบเลือนลาง และบนโต๊ะมีอุปกรณ์แกะสลักไม้หลายอัน) เธอคาใจเรื่องลายมือบนกระดาษเลยหยิบออกมาให้หรงฉีดู หรงฉียังไม่ทันเปิดอ่านก็เอ่ยข้อความจากบทกวีดัง (ที่อยู่ในกระดาษ) ให้หรงเล่อฟัง แถมบนผนังยังมีข้อความดังกล่าวแขวนประดับอยู่ หรงเล่อเปรยว่าลายมือที่ปรากฏบนผนังคล้ายกับลายมือตน แต่หรงฉียืนยันว่าตนเป็นคนเขียนข้อความดังกล่าวเอง เขากล่าวว่าหรงเล่อชอบลายมือตนมากเลยหัดเขียนเลียนแบบลายมือตนในยามว่าง ข้อความบนกระดาษคือลายมือที่หรงเล่อเขียนเลียนแบบตน

หรงเล่อคุ้นเคยกับที่นี่แต่กลับรู้สึกแปลกแยกเมื่ออยู่ในวัง เธอจึงสงสัยว่าหากตนเป็นองค์หญิงที่เติบโตในวัง เพราะเหตุใดตนถึงไม่คุ้นเคยกับวังหลวงเลยสักนิด   หรงฉีเล่าว่าหรงเล่อเกิดและถูกเลี้ยงดูที่ตำหนักเย็น มารดาเธอเป็นสามัญชนที่มีรูปโฉมงดงาม หลังทำให้พระบิดากริ้วมารดาเธอเลยถูกขับออกจากวัง ในตอนนั้นมารดาเธอกำลังตั้งท้องและได้ให้กำเนิดเธอที่ตำหนักเย็นในอีกแปดเดือนต่อมา หรงเล่อเปรยว่าเพราะอย่างนี้ไทเฮาถึงได้จงเกลียดจงชังตนนัก หรงฉีชี้ว่าหลังมีเหตุให้เสียโฉมไทเฮาก็เปลี่ยนเป็นคนละคน ครั้นเห็นหรงเล่อสงสัยเรื่องมือด้าน เขาจึงเล่าว่าเมื่อก่อนหรงเล่อมักแอบฝึกยุทธ์กับทหารองครักษ์คนหนึ่งที่ตำหนักเย็น เขากับหรงเล่อพบกันครั้งแรกขณะยังเยาว์ หรงเล่อเคยบอกว่าหากเขาโดนรังแก เธอจะเป็นคนแรกที่ออกโรงปกป้องเขา



หรงฉีกล่าวว่า ที่ตนไม่เล่าให้ฟังก่อนหน้านี้เพราะไม่ต้องการให้หรงเล่อฟื้นความทรงจำที่ไม่น่าอภิรมย์ นึกไม่ถึงว่าหรงเล่อจะหวาดระแวงตน เขาบอกเธอว่าสิ่งที่อยู่หัวเป็นเพียงภาพลวงตา ที่ควรเชื่อมั่นคือหัวใจตัวเอง เขายื่นแผ่นกระดาษ (ที่เขียนบทกลอน) คืนเธอ และขอให้เธอเชื่อว่าตนคือคนที่อยากเห็นหรงเล่อมีความสุขมากที่สุด หรงเล่อได้ยินดังนั้นจึงเริ่มวางใจในตัวหรงฉี ทันใดนั้นก็มีกลุ่มนักฆ่าบุกมาเข้ามาในเรือน "เซียวซา" (องครักษ์ของหรงฉี) รีบเข้ามาอารักขาทั้งคู่ แต่เนื่องจากนักฆ่ามากันหลายคนหรงฉีซึ่งร่างกายอ่อนแอเลยจำต้องรับมือนักฆ่า แต่เขาทำได้เพียงปัดป้องจึงถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ หรงเล่อเห็นดังนั้นก็หายตกตะลึงและช่วยต่อกรกับเหล่านักฆ่า หรงฉีไม่สนความเป็นความตายของตน เขาบอกให้เซียวซารีบพาหรงเล่อหนีไป แต่หรงเล่อตัดสินใจพาเขากลับไปรักษาตัวในวัง 



ไทเฮาโทษหรงเล่อว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้หรงฉีบาดเจ็บ (เธออ้างว่านักฆ่าเป็นคนของแคว้นเฉิน) และสั่งโบยเซียวซาแปดสิบไม้ เธอพาหรงเล่อออกไปดูกำลังพลทางด้านนอก พลางเล่าว่ายามนี้แผ่นดินไม่สงบเพราะเกิดศึกนอกศึกใน ซ้ำยังขาดความอุดมสมบูรณ์ กองทัพอ่อนแอ  ท้องพระคลังแทบว่างเปล่าเพราะต้องนำเงินไปใช้เพื่อการศึก พวกตนจำต้องสร้างความสงบสุขเพื่อลดความเสียหายและฟื้นฟูบ้านเมือง เธอชี้ว่าทหารที่เพิ่งเกณฑ์เข้ามาใหม่ล้วนมีแต่คนชราและคนอมโรค หากส่งคนเหล่านี้ไปเผชิญหน้ากับทัพของแคว้นเว่ยและแคว้นเฉินก็เท่ากับส่งพวกเขาไปตาย หากหรงเร่อไม่อภิเษกเชื่อมสัมพันธ์ แคว้นซีฉีจำต้องทำศึกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้   หลังเล่าสถานการณ์บ้านเมืองให้หรงเล่อฟังแล้ว ไทเฮาก็นำชะตาบ้านเมือง ตลอดจนชีวิตของเหล่าทหารและหรงฉี (ซึ่งร่างกายอ่อนแอเกินกว่าจะสู้รบ) มากดดันหรงเล่อ 


นอกจากนี้ เหล่าขุนนางยังมารวมตัวกันที่หน้าตำหนักของหรงฉีเพื่อสนับสนุนการอภิเษกเชื่อมสัมพันธ์ ด้วยเห็นว่าเป็นทางเดียวที่จะทำให้บ้านเมืองอยู่รอด พวกเขาถึงขั้นยอมให้ส่งบุตรีของพวกตนไปอภิเษกที่แคว้นเป่ยหลิน หากหรงฉีไม่ยอมสละหรงเล่อ หรงฉียืนกรานว่าจะไม่นำชีวิตของสตรีมาแลกกับความสงบสุขของแคว้นซีฉี แต่หรงเล่อตัดสินใจแล้วว่าจะยอมอภิเษกเพื่อส่วนรวม หลังประกาศการตัดสินใจต่อหน้าเหล่าขุนนางโดยไม่ปรึกษาหรงฉีก่อน หรงเล่อจึงพยายามงอนง้อและพูดจาหว่านล้อมให้หรงฉีคลายความกังวล  โดยบอกว่าแคว้นเป่ยหลินทั้งมั่งคั่ง เรืองอำนาจ และอุดมสมบูรณ์ ไปอยู่ที่นั่นแล้วชีวิตเธออาจดีขึ้น เธอชงชาให้หรงฉีหมายเอาใจ หลังดื่มชาเลิศรสแล้วหรงฉีก็ยิ้มออก เขาขอบใจหรงเล่อและเตือนให้เธอดื่มยา โดยบอกว่าหมอหลวงแนะให้เธอดื่มเป็นประจำทุกเดือนเพื่อฟื้นความทรงจำ 

หรงเล่อนำแผ่นกลอนมาวางบนโต๊ะก่อนจ้องมองดอกไม้อย่างเหม่อลอย เมื่อหลิงเยว่นำมงกุฎและชุดเจ้าสาวมาให้ หรงเล่อจึงเปรยว่าหลังย้ายไปอยู่เป่ยหลินแล้วไม่รู้เมื่อใดจะได้กลับมาอีก หลิงเยว่ปลอบว่าหลังแคว้นซีฉีแข็งแกร่งหรงเล่อต้องได้กลับบ้านแน่ ส่วนตนนั้นอยู่ตัวคนเดียวมาทั้งชีวิตเลยเป็นสาวใช้ที่ใดก็ได้ หรงเล่อเอ็นดูหลิงเยว่จึงกล่าวว่า เวลาอยู่กับตนอย่าคิดว่าตัวเองเป็นสาวใช้ 



ในที่สุดก็ถึงวันที่หรงเล่อต้องเดินทางไปอภิเษกกับ "หลีหวัง จงเจิ้งอู๋โยว" ที่แคว้นเป่ยหลิน ("หลีหวัง" คือชื่อตำแหน่ง ส่วน "จงเจิ้งอู๋โยว" เป็นชื่อจริง)  หรงฉีเดินไปส่งหรงเล่อขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว (รถม้า) ด้วยตนเอง ก่อนจากกันเขามอบหยกผิงอันที่พกติดตัวตั้งแต่เด็กให้หรงเล่อเพื่อเป็นสิ่งแทนใจ และแต่งตั้ง "เซียวซา" เป็นองครักษ์ข้างกายเธอ ระหว่างทางหรงเล่อได้ยิน "เหลียนซิน" คุยกลับหลิงเยว่เรื่องว่าที่เจ้าบ่าวของตน เหลียนซินได้ยินว่าหลีหวังแห่งแคว้นเป่ยหลิน (องค์ชายเจ็ด) เป็นพระโอรสองค์โปรดของฮ่องเต้ แถมยังรูปร่างหน้าตาดีอีกด้วย หลิงเยว่อดสงสัยไม่ได้ว่า หากหลีหวังเลิศเลอเพียงนั้น เหตุใดจึงยังเป็นโสดตราบจนป่านนี้

หรงเล่อนึกถึงคำพูดของหรงฉีที่เคยเล่าว่า แม้หลีหวังจะรักสันโดษและแทบไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวในราชสำนัก แต่สายลับที่แฝงตัวอยู่ในเป่ยหลินรายงานว่า หลีหวังทั้งฉลาดเป็นกรดและวางกลอุบายได้อย่างแยบยล ครั้งหนึ่งแม่ทัพ "ฟู่โฉว" แห่งแคว้นเป่ยหลินนำความสงบมาสู่ชายแดนตอนใต้ได้สำเร็จทั้งที่มีกำลังทหารเพียง 3 หมื่นนาย การที่เขาเอาชนะข้าศึกที่มีกำลังทหารนับแสนนายได้นั้น เป็นผลมาจากแผนการทำศึกของหลีหวัง หลังการเดินทางอันยาวไกล ในที่สุดขบวนเกี้ยวเจ้าสาวจากแคว้นซีฉีก็เดินทางมาถึงแคว้นเป่ยหลิน เมื่อหรงเล่อสวมหน้ากากเจ้าสาว หลิงเยว่จึงเตือนว่าหน้ากากนี้ใส่แล้วไม่อาจถอดได้ตามใจชอบ มิเช่นนั้นจะโชคร้าย 



หลังนำขบวนเจ้าสาวมาถึงแคว้นเป่ยหลินแล้วพบว่ามีเพียงเหล่าขุนนางวัยกลางคนมารอต้อนรับ เซี่ยวซาจึงไม่พอใจเป็นอย่างมากที่หลีหวังไม่มาต้อนรับองค์หญิงหรงเล่อด้วยตนเอง "หยางเหวย" รีบชี้แจงว่าหลีหวังติดภารกิจเลยมาต้อนรับไม่ทัน ครั้น "เฉินหวัง จงเจิ้งอู๋อวี้" (องค์ชายเก้า) เดินทางมาถึง  เขาจึงตรงไปที่รถม้าและทักว่าข้างในคงเป็นองค์หญิงหรงเล่อแห่งแคว้นซีฉี หรงเล่อทักทายเฉินหวังอย่างสุภาพ แต่เขากล่าวกับเธออย่างไม่ให้เกียรติว่า ตนได้ยินว่าองค์หญิงหรงเล่อหน้าตาอัปลักษณ์และมีนิสัยประหลาด จนป่านนี้เลยยังไม่ได้อภิเษกเสียที นึกไม่ถึงว่าจะมีน้ำเสียงที่รื่นหู หรงเล่อสั่งให้เหลียนซินเปิดม่านรถม้า เธอไม่ใส่ใจคำเหน็บแนมของเฉินหวัง ทั้งยังขอบคุณสำหรับคำชม และกล่าวอย่างถ่อมตัวว่าเสียงตนอาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่พอไปวัดไปวาได้ 

เฉินหวังรู้สึกผิดคาดที่หรงเล่อไม่โกรธ เขาได้ยินว่าองค์หญิงหรงเล่อดื้อรั้นเอาแต่ใจ ไร้ความเป็นกุลสตรี แต่ที่ตนเห็นกลับไม่เป็นเช่นนั้น อย่างน้อยเธอก็มีกิริยาที่ผู้เป็นองค์หญิงพึงมีและรู้จักประมาณตน หยางเหวยบอกเฉินหวังว่าตนช่วยรับหน้าแทนให้แล้ว เขาขอให้เฉินหวังช่วยไปทูลหลีหวังให้มาต้อนรับเจ้าสาวด้วยตนเอง เฉินหวังรู้นิสัยพี่ชายดีจึงแย้งว่าหาก 'พี่เจ็ด' ไม่อยากให้เธออยู่ที่นี่ตนจะทำเช่นไรได้ เขาแนะให้หยางเหวยกลับไปก่อน เพราะหากเขาทำให้พี่เจ็ดโกรธตนอาจช่วยรักษาคอเอาไว้ให้ไม่ได้  หรงเล่อได้ยินแล้วชักเริ่มหงุดหงิด นับว่ายังดีที่ฮ่องเต้แคว้นเป่ยหลินส่งคนมาเชิญเธอเข้าวังเสียก่อน 



เมื่อหรงเล่อและคณะมาเข้าเฝ้าฮ่องเต้ "จงเจิ้งอวิ่นเฮ่อ" ในท้องพระโรง สายตาทุกคู่ของเหล่าขุนนางต่างจับจ้องมาที่เธอ "รัชทายาท" (นาม "จงเจิ้งเสี่ยวเหริน") สงสัยว่าเหตุใดหรงเล่อจึงสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า หรงเล่อชี้ว่าเป็นธรรมเนียมของแคว้นซีฉีที่เจ้าบ่าวจะต้องเป็นคนถอดหน้ากากเจ้าสาวในวันแต่งงาน ทันใดนั้น ขันทีคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในท้องพระโรงด้วยท่าทางตื่นตระหนก เขาทูลฮ่องเต้ว่าหลีหวังกำลังพักผ่อนอยู่ในจวนเลยมิอาจมาเข้าเฝ้า ฮ่องเต้ได้ยินข้ออ้างข้างๆ คูๆ แบบไม่ไว้หน้าจึงพยายามระงับโทสะ พระองค์สั่งให้เฉินหวังและหัวหน้าองครักษ์ "เซี่ยงเฉิง" ไปที่จวนหลีหวัง โดยกำชับว่าต้องนำตัวหลีหวังมาให้ได้ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม พระองค์ยังขู่ด้วยว่าหากเฉินหวังทำไม่สำเร็จจะถูกปลดออกจากราชสำนัก และต้องไปเฝ้าสุสานหลวงที่ชานเมืองฝั่งตะวันตกชั่วชีวิต เฉินหวังถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาเกรงว่าจะทำให้พี่เจ็ดโกรธและยิ่งไม่อยากไปเฝ้าสุสานหลวงจึงพยายามต่อรอง   แต่พอเห็นสายตาอันคมกริบของพระบิดา เขาก็ทำได้เพียงน้อมรับพระบัญชา



ในเวลาต่อมา เฉินหวังเข้ามาทูลพระบิดาว่าพี่เจ็ดมาแล้ว ฮ่องเต้ได้ยินดังนั้นจึงยิ้มออก แต่ไม่นานก็หุบยิ้ม หรงเล่อรู้สึกแปลกใจที่สีหน้าฮ่องเต้แปรเปลี่ยนกระทันหัน แถมบรรยากาศภายในท้องพระโรงยังเปลี่ยนไป ด้วยความที่เธอยืนอยู่หน้าพระพักตร์ฮ่องเต้เลยไม่รู้เหล่าขุนนางที่อยู่ด้านหลังพากันตกตะลึงตาค้างราวกับเห็นผี เมื่อฮ่องเต้ลุกจากบัลลังก์พลางตะลึงมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า หรงเล่อจึงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อหันไปมองแล้วเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า 

** จบตอนที่หนึ่ง **

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่





รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ



จางเสวี่ยอิ๋ง
รับบท หรงเล่อ / ม่านเยา / ฉินม่าน
(นักแสดง ชาวจีน)




หลี่จื้อถิง
รับบท จงเจิ้งอู๋โยว (หลีหวัง)
(นักแสดง / นักร้อง / นักดนตรี ชาวฮ่องกง)




จิงเชา
รับบท ฟู่โฉว
(นักแสดง ชาวจีน)




หลัวอวิ๋นซี
รับบท หรงฉี
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)




เฉินซินอวี่
รับบท เหินเซียง / ฉินเซียง
(นักแสดง ชาวจีน)

เป่ยหลิน



หลิวซีหมิง
รับบท จงเจิ้งอวิ่นเฮ่อ
(นักแสดง / นักร้อง ชาวฮ่องกง)




เหมาฝาน
รับบท จงเจิ้งเสวียนหมิง
(นักแสดง ชาวจีน)




หลิวฮั่นหยาง
รับบท จงเจิ้งเสี่ยวเหริน
(นักแสดง ชาวจีน)




ซูย่าซิ่น
รับบท จงเจิ้งอู๋อวี้ (เฉินหวัง)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)




ไต้เหวินเหวิน
รับบท ซุนหย่าหลี
(นักแสดง ชาวจีน)




เหวินจู๋
รับบท ท่านหญิงเจาอวิ๋น
(นักแสดง ชาวจีน)




เกาก่วงเจ๋อ
รับบท เซี่ยงอิ่ง
(นักแสดง ชาวจีน)




หูอี้
รับบท ฉางเจียน
(นักแสดง ชาวจีน)




หนีหานจิ้น
รับบท เหลิ่งเหยียน
(นักแสดง ชาวจีน)




หลี่ซือหยาง
รับบท อู๋เซียงจื่อ
(นักแสดง ชาวจีน)




ลู่จง
รับบท ซุนจี้โจว
(นักแสดง ชาวจีน)




หลี่ไต้คุน
รับบท หลัวจี๋
(นักแสดง ชาวจีน)




หลูจั๋ว
รับบท อวี๋เหวินเจี๋ย
(นักแสดง นายแบบ ชาวจีน)




หวังเกอ
รับบท ชิวอี๋
(นักแสดง ชาวจีน)



เติ้งซา
รับบท อวิ๋นกุ้ยเฟย
(นักแสดง ชาวจีน)




ติงจื่อจวิ้น
รับบท ฉินหย่ง
(นักแสดง / ผู้กำกับ / นักเขียนบท ชาวฮ่องกง)

ซีฉี (ฉีตะวันตก)



เถียนไห่หรง
รับบท ฝูยวน
(นักแสดง ชาวจีน)




เถียนเหลย
รับบท หลินเซิน
(นักแสดง ชาวจีน)




หวังอวี๋
รับบท หลิงเยว่ (ชิงหู)
(นักแสดง ชาวจีน)




เกาส่วง
รับบท เซียวซา
(นักแสดง ชาวจีน)




หมี่มี
รับบท เซียวเข่อ (เข่อเอ๋อร์)
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)




หวังฉุน
รับบท หลงเยว่
(นักแสดง ชาวจีน)

อาณาจักรเฉิน



สวีเข่อ
รับบท หนิงเชียนอี้ (เจิ้นเป่ยหวัง)
(นักแสดง ชาวจีน)




หวงช่านช่าน
รับบท เฉินอวี๋ (ลั่วเหยียน)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)




รวมคลิปตัวอย่างและเพลงประกอบ




รวมคลิปเบื้องหลัง

** คลิปจาก 耀客傳媒官方頻道 YOUHUG MEDIA Official Channel **


*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา