กำกับ: ซอน จองฮยอน
เขียนบท: ควอน กียอง
แนวละคร: โรแมนติก, คอมเมดี้
จำนวนตอน: 18
ออกอากาศ: เกาหลี - 3 สิงหาคม 2554 - 29 กันยายน 2554 ทางเอสบีเอส
ไทย - ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.25-22.10 น. ทางพีพีทีวี ออกอากาศ 17 พฤศจิกายน 2557 - 30 ธันวาคม 2557
ละคร "เจ้านายข้าใครอย่าแตะ (Protect the Boss)" นำเสนอเรื่องราวของ "โน อึนซอล" อดีตสาวซ่าแห่งพัลซันดง (ย่านหนึ่งในกรุงโซล) ที่หางานประจำทำไม่ได้เสียทีเนื่องจากมีประวัติด่างพร้อยสมัยยังเป็นนักเรียน ตอนอยู่ชั้นมัธยมอึนซอลใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการยกพวกลุยคู่อริต่างสถาบันทำให้ผลการเรียนย่ำแย่ ครั้นพอเรียนมหาวิทยาลัยเธอพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่โดยทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนและการทำงานพาร์ทไทม์ แต่ก็ยังไม่วายเป็นแกนนำในการประท้วง หลังเดินสายสมัครงานมาหลายแห่งแต่ก็พบกับความผิดหวังมาโดยตลอด ในที่สุดเธอก็ได้งานทำที่บริษัทใหญ่ยักษ์ในตำแหน่งเลขานุการ
เจ้านายของเธอก็คือ "ชา จีฮอน" หัวหน้าแผนกและลูกชายสุดหล่อของ "ประธานชา" แห่งดีเอ็นกรุ๊ป ซึ่งชอบทำตัวเหลวไหล ไม่ใส่ใจเรื่องงาน และไม่รู้จักโต ผิดกับญาติของเขา "ชา มูวอน" ที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ขยันทำงาน มีความรับผิดชอบ เรียกได้ว่าเป็นผู้บริหารหนุ่มหล่อไฟแรงที่แสนเพอร์เฟค และมูวอนคนนี้ก็คือคนที่รับอึนซอลเข้าทำงาน
หลังได้งานทำสมใจแล้วอึนซอลก็ตั้งใจทำงานสุดชีวิตเพราะไม่อยากกลับไปเตะฝุ่นอีก เธอคอยช่วยเหลือและให้กำลังใจจีฮอนทั้งในเรื่องงาน สุขภาพ และเรื่องส่วนตัว จนจีฮอนกลายเป็นคนใหม่ที่มีความตั้งใจและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น แต่ปัญหาก็คือทั้งจีฮอนและมูวอนต่างตกหลุมรักอึนซอลด้วยกันทั้งคู่ สองหนุ่มจึงต้องกลายเป็นคู่แข่งทั้งในเรื่องงานและความรัก
เจ้านายของเธอก็คือ "ชา จีฮอน" หัวหน้าแผนกและลูกชายสุดหล่อของ "ประธานชา" แห่งดีเอ็นกรุ๊ป ซึ่งชอบทำตัวเหลวไหล ไม่ใส่ใจเรื่องงาน และไม่รู้จักโต ผิดกับญาติของเขา "ชา มูวอน" ที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ขยันทำงาน มีความรับผิดชอบ เรียกได้ว่าเป็นผู้บริหารหนุ่มหล่อไฟแรงที่แสนเพอร์เฟค และมูวอนคนนี้ก็คือคนที่รับอึนซอลเข้าทำงาน
หลังได้งานทำสมใจแล้วอึนซอลก็ตั้งใจทำงานสุดชีวิตเพราะไม่อยากกลับไปเตะฝุ่นอีก เธอคอยช่วยเหลือและให้กำลังใจจีฮอนทั้งในเรื่องงาน สุขภาพ และเรื่องส่วนตัว จนจีฮอนกลายเป็นคนใหม่ที่มีความตั้งใจและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น แต่ปัญหาก็คือทั้งจีฮอนและมูวอนต่างตกหลุมรักอึนซอลด้วยกันทั้งคู่ สองหนุ่มจึงต้องกลายเป็นคู่แข่งทั้งในเรื่องงานและความรัก
ละครเริ่มต้นขึ้นด้วยภาพเหตุการณ์ในอดีตตอนที่อึนซอลและเพื่อนซี้ "ลี มยองรัน" บุกไปที่โกดังร้างเพื่อช่วยเพื่อนที่ถูกกลุ่มนักเรียนชายต่างโรงเรียนรังแก แม้จะมากันตามลำพังแต่สองสาวก็เล่นงานเหล่านักเรียนชายนับสิบคนจนสะบักสะบอมไปตามๆ กัน
หลายปีผ่านไป อึนซอลซึ่งอยู่ในระหว่างเดินสายสัมภาษณ์งานกล่าวกับผู้คัดเลือกพนักงานของบริษัทต่างๆ ด้วยความภาคภูมิใจว่า แม้สมัยมัธยมเธอจะสร้างวีรกรรมเอาไว้เยอะจนผลการเรียนย่ำแย่ แต่นั่นก็ทำให้เธอรู้ซึ้งถึงความหมายของคำว่า "มิตรภาพ" ส่วนเรื่องที่เคยเป็นแกนนำนักศึกษาสมัยมหาวิทยาลัย (ในการประท้วงและกดดันให้ทางมหาวิทยาลัยลดค่าเล่าเรียน ตลอดจนขอขึ้นค่าจ้างในการทำงานพาร์ทไทม์) ก็ทำให้เธอได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ในการเป็น "ผู้นำ"
จีฮอนแอบไปรักษาโรคแพนิค ที่โรงพยาบาลโดยไม่บอกให้ใครรู้ เมื่อเห็นว่าอาการของตนไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ซ้ำยังแย่ลงเรื่อยๆ เขาจึงโวยวายและโทษว่าเป็นความผิดของหมอที่ให้เขาเข้ารับการบำบัดร่วมกับผู้ป่วยคนอื่นๆ เพราะหลังจากได้ฟังผู้ป่วยแต่ละคนบอกเล่าถึงอาการของตนแล้ว จีฮอนก็เริ่มมีอาการผิดปกติตามไปด้วยทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีอาการดังกล่าว (เช่น อาการกลัวเชื้อโรค และทนเห็นทิชชูหล่นอยู่บนพื้นไม่ได้)
หลังเข้ารับการบำบัดที่โรงพยาบาลแล้ว จีฮอนก็ตรงไปที่บริษัทและนำเสนอแผนงานต่อหน้าเหล่าผู้บริหาร พอถูกมูวอนตั้งคำถาม อาการป่วยของเขาก็กำเริบหนักและรู้สึกวิงเวียนจนไม่สามารถนำเสนองานต่อไปได้ ทำให้ถูกประธานชา (พ่อ) ตะคอกใส่เสียงดังลั่นด้วยความโกรธ จีฮอนกลัวว่าตนเองจะเป็นลมต่อหน้าทุกคนจึงหยุดนำเสนองานกลางคันทั้งๆ ที่ยังพูดไม่จบโดยอ้างว่าตนมัวแต่ยุ่งเลยเตรียมตัวมาแค่นี้ จากนั้นก็เดินออกจากห้องประชุมทันที มูวอนเห็นดังนั้นจึงถือโอกาสแสดงความคิดเห็นต่อที่ประชุม
หลังออกจากห้องประชุมแล้ว จีฮอนก็บอกให้เลขาคิมยกเลิกงานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการประชุมหรือการเซ็นเอกสาร จากนั้นก็ไล่ให้เลขาคิมออกไปจากห้อง เลขาคิมพยายามทักท้วงโดยบอกว่าหากจีฮอนไม่ยอมเซ็นเอกสารท่านประธานจะไล่ตนออก แต่จีฮอนไม่สนใจ (เขารู้ดีว่าลายเซ็นของตนไม่มีผลและไม่มีความหมายอะไร) หลังเลขาคิมออกจากห้องไปแล้วจีฮอนก็โยนกล่องยาทิ้งด้วยความโมโห
ในที่สุดก็มีบริษัทแห่งหนึ่งรับอึนซอลเข้าทำงาน พอไปถึงเธอกลับพบว่าบริษัทตั้งอยู่ในห้องแถวโทรมๆ มิหนำซ้ำ นายจ้างของเธอยังแลดูเหมือนหัวหน้ากลุ่มนักเลงอันธพาลมากกว่านักธุรกิจเพราะมีบอดี้การ์ดรายรอบ (จริงๆ แล้วเขาเป็นเจ้าพ่อเงินกู้) แถมยังมือไว และดูหื่นๆ ยังไงชอบกล
หลังเลิกงานจีฮอนพยายามหลบหน้าประธานชาแต่หลบไม่ทัน เขาจึงรีบวิ่งหนีเข้าไปในลิฟต์โดยมีเลขาคิมวิ่งตามไปติดๆ แต่ประธานชาและเลขาจางก็วิ่งตามเข้าไปในลิฟต์จนได้ ระหว่างลงลิฟต์ (ชั้น 20) ประธานชาก็สั่งสอน (ดึงหูและใช้กำลัง) จีฮอนที่ทำตัวเหลวไหลขายหน้าในห้องประชุม สองเลขาเห็นดังนั้นก็ช่วยกันบังกล้องวงจรปิด เมื่อเลขาจางเตือนว่าลิฟต์ลงมาถึงชั้นสามแล้ว ประธานชาก็หยุดลงโทษจีฮอน สองพ่อลูกต่างจัดแต่งทรงผม เสื้อผ้า และสงบจิตสงบใจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนเดินออกจากลิฟต์ที่ชั้นหนึ่งแบบชิลๆ
จีฮอนจำใจไปที่คลับเพื่อร่วมสังสรรค์กับทีมพัฒนาซอฟท์แวร์ของบริษัทตามที่พ่อบอก แต่เขาก็ไปแค่พอเป็นพิธี ซ้ำยังทำงานกร่อยเพราะไม่ยอมสุงสิงหรือแม้กระทั่งชนแก้วและจับมือกับใคร (กลัวติดเชื้อโรค)
อีกด้านหนึ่งนายจ้างก็พาอึนซอลและพนักงานใหม่อีกคนไปเลี้ยงต้อนรับที่คลับเดียวกัน หลังลวนลามอึนซอลไม่สำเร็จ นายจ้างก็หันไปแทะโลมพนักงานหญิงอีกคนซึ่งไม่กล้าปัดป้อง อึนซอลเห็นดังนั้นจึงพยายามข่มใจแต่สุดท้ายก็หมดความอดทน เธอจึงเข้าไปห้ามและขู่นายจ้างว่าจะแจ้งตำรวจหากเขายังไม่หยุดคุกคามทางเพศ ทำให้โดนนายจ้างสาดไวน์แดงใส่หน้าแบบเต็มๆ ที่ผ่านมาอึนซอลพยายามปล่อยวางและเลิกใช้กำลังกับคนอื่น แต่คราวนี้เธอไม่ยอมให้เรื่องจบลงง่ายๆ จึงตามไปสั่งสอนนายจ้างถึงในห้องน้ำผู้ชายและใช้เน็คไทผูกคอเขาไว้กับซิงค์ เพราะโกรธที่เขานำเรื่องงานมาเป็นข้ออ้างในการเล่นสนุกและล่อลวงผู้หญิง ในขณะที่เธอต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อให้ได้งานทำ
ในที่สุดจีฮอนก็ทนนั่งต่อไปไม่ไหวและขอตัวกลับบ้าน ทำให้เหล่าพนักงานพากันโล่งใจและหายอึดอัด ขณะเดินออกจากคลับ เขาโทรฯ บอกเลขาคิมให้รีบเตรียมรถ และบังเอิญเดินชนกับอึนซอลจนโทรศัพท์ร่วงลงพื้น อึนซอลซึ่งกำลังผิดหวังเสียใจ (แถมหน้าตายังเลอะคราบมาสคาร่าและไวน์แดง) รีบกล่าวขอโทษแล้วเดินจากไป จีฮอนไม่พอใจที่อึนซอลไม่ยอมเก็บโทรศัพท์ให้จึงร้องเรียกเธอด้วยความโมโห อึนซอลเก็บโทรศัพท์แต่ยังไม่ส่งคืนให้เพราะอยากได้ยินคำขอโทษจากจีฮอนบ้าง แต่จีฮอนยืนกรานว่าตนไม่ผิด อึนซอลไม่อยากเซ้าซี้เลยโยนโทรศัพท์คืนให้
เมื่อถูกกลุ่มนักเลงอันธพาล (ลูกน้องอดีตนายจ้างโรคจิต) ตามมาเอาเรื่อง อึนซอลก็สู้ไม่ถอยจนรองเท้าส้นสูงหลุดกระเด็น จีฮอนมัวแต่ยืนงงเลยโดนลูกหลง (หมัดอึนซอล) จนล้มคว่ำ หลังปราบกลุ่มนักเลงจนอยู่หมัดแล้วอึนซอลก็ถอดรองเท้าส้นสูงข้างที่เหลืออยู่แล้วบอกจีฮอนว่า หากตนนับสองแล้วให้รีบเผ่น จีฮอนแย้งว่าทำไมตนต้องหนีด้วย ทันใดนั้นก็มีนักเลงอีกกลุ่มตามมาสมทบ อึนซอลเดินเข้าหากลุ่มนักเลงโดยใช้รองเท้าส้นสูงข้างหนึ่งเป็นอาวุธ จีฮอนซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่พลอยตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของพวกนักเลง เขาจึงได้แต่หลบอยู่ทางด้านหลังอึนซอลและพยายามดึงแขนเธอเพื่อชวนหลบหนี พอสบโอกาสอึนซอลก็วิ่งหนีไป แต่จีฮอนหนีไม่ทันเลยโดนนักเลงรุมยำ
หลังได้รับคำสั่งให้นำรถมารับภายใน 1 นาที เลขาคิมก็เตรียมรถมารอรับจีฮอนบริเวณด้านหน้าคลับ แต่ผ่านไปนานกว่า 20 นาทีจีฮอนก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะออกมาเลขาคิมจึงรู้สึกหงุดหงิด พอเห็นจีฮอนเดินถือรองเท้าส้นสูงข้างหนึ่งออกมาจากคลับในสภาพสะบักสะบอมเลขาคิมก็รู้สึกตกใจ จีฮอนบรรยายลักษณะของอึนซอลด้วยท่าทีมึนงงแล้วถามเลขาคิมว่าเห็นผู้หญิงลักษณะดังกล่าวบ้างไหม เมื่อเลขาคิมตอบว่าไม่เห็นจีฮอนก็ยิ่งโมโหที่คนของตนทำอะไรไม่ได้ดั่งใจและไม่รู้จักเข้าไปตามตนทางด้านใน เขาจึงสั่งให้เลขาคิมไปตามหาเจ้าของรองเท้าโดยบอกว่าถ้ายังหาไม่เจอไม่ต้องมาให้เห็นหน้า
อึนซอลไปหามยองรันที่ค่ายมวยแล้วร้องไห้โฮ มยองรันเห็นอึนซอลเหม่อมองอาคารสำนักงานที่อยู่เบื้องหน้าด้วยแววตาเศร้าสร้อย จึงได้แต่ปลอบใจว่าสักวันจะต้องมีบริษัทดีๆ รับอึนซอลเข้าทำงานอย่างแน่นอน
จีฮอนแอบย่องเข้าบ้านกลางดึกเพราะไม่อยากให้ใครเห็นรอยฟกช้ำบนใบหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าประธานชามานั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นด้วยความเป็นห่วง (และรู้สึกผิดที่ทำรุนแรงกับจีฮอนก่อนหน้านี้) จีฮอนรีบหันหลังและใช้มือปกปิดใบหน้า ประธานชาไม่พอใจที่จีฮอนยืนหันหลังให้จึงบอกให้หันหน้ามาคุยกันอย่างเปิดอก ครั้นพอเห็นใบหน้าอันยับเยินของจีฮอนประธานชาก็รู้สึกตกใจ ถึงจะชอบใช้ความรุนแรงกับลูกแต่ประธานชาก็รักและห่วงจีฮอนมากถึงขนาดสั่งให้พรรคพวกเล่นงานเหล่าอันธพาลที่รุมทำร้ายจีฮอนและตามไปเทศนาด้วยตนเอง
เลขาคิมรู้สึกอึดอัดที่ตนเองมีประวัติการศึกษาที่ดี แต่ต้องมาตกเป็นเบี้ยล่างของคนไม่เอาไหนอย่างจีฮอน ทั้งยังต้องพลิกแผ่นดินตามหาเจ้าของรองเท้าส้นสูง เขาจึงหลุดปากพูดกับเพื่อนทางโทรศัพท์ว่า แท้จริงแล้วประธานชาเป็นพวกมาเฟีย หลังลูกชายโดนนักเลงรังแกนิดๆ หน่อยๆ ประธานชาก็สั่งให้คนของตนไปจัดการนักเลงกลุ่มดังกล่าวด้วยการจับโยนลงน้ำแล้วดึงตัวขึ้นมาสั่งสอนอย่างโหดเหี้ยม หลังพูดจนหมดเปลือกแล้วเลขาคิมถึงได้รู้ตัวว่า มีนักข่าวคนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ และได้ยินทุกอย่าง
วันต่อมา ประธานชาได้รับรางวัลบุคคลตัวอย่างในภาคธุรกิจจากทางรัฐบาล และมีการจัดงานเลี้ยงฉลองอย่างสมเกียรติ พอเห็นว่า "ชิน ซุกฮี" พี่สะใภ้และคู่กัดตลอดกาลของตนมาเสนอหน้าในงานด้วย ประธานชาก็รู้สึกไม่พอใจ แม้ทั้งคู่จะไม่ถูกกันแต่เวลาอยู่ต่อหน้าสื่อ ซุกฮี (ซึ่งเป็นซีอีโอของบริษัทในเครือดีเอ็นกรุ๊ป) กับประธานชาจะพร้อมใจสร้างภาพโดยแกล้งทำเป็นญาติดีกัน (ประธานชาเรียกซุกฮีว่านังแม่มด ส่วนซุกฮีโทษประธานชาว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้สามีของเธอตาย)
ในที่สุดก็มีข่าวลือแพร่สะพัดทางอินเตอร์เน็ตและตามสื่อต่างๆ ว่าประธานชาเป็นพวกมาเฟีย ทั้งยังส่งคนไปล้างแค้นเหล่านักเลงที่รุมทำร้ายลูกชายของตน ทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเสียหายจนหุ้นตก ส่วนประธานชาเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและกำลังจะถูกดำเนินคดี ด้วยความเป็นห่วงลูกชายเขาจึงสั่งให้ลูกน้องลบรูปและข้อมูลของจีฮอนออกจากสารบบ หลังเกิดเรื่องวุ่นๆ แล้ว เลขาคิมก็นำรองเท้าส้นสูงมาคืนจีฮอน พร้อมทั้งสารภาพว่าตนเป็นคนปล่อยข่าวโดยไม่ได้ตั้งใจ จีฮอนจึงบอกให้เลขาคิมหางานใหม่ (ไล่ออก) และรีบหนีไปก่อนที่พ่อตนจะรู้ความจริง เลขาคิมจึงถือโอกาสพูดระบายความรู้สึกคับแค้นหลังต้องรองรับอารมณ์และทนทำงานกับจีฮอนมานาน 3 เดือน พร้อมทั้งเตือนว่าหากจีฮอนไม่ยอมปรับปรุงตัวจะไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย
ประธานชาถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดและถูกลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่ให้รอลงอาญา 2 ปีและต้องบำเพ็ญประโยชน์ให้กับชุมชน (ช่วงที่โดนสอบสวนเขาแกล้งป่วยเลยถูกควบคุมตัวที่โรงพยาบาลแทนการถูกกักขังในเรือนจำ) ประธานชาต้องการกันจีฮอนออกจากเรื่องอื้อฉาว จึงส่งจีฮอนไปอยู่ต่างประเทศชั่วคราวแล้วก้มหน้ารับโทษทัณฑ์ ขณะที่จีฮอนได้แต่เคียดแค้นและโทษว่าอึนซอลเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด
หลังพบว่าการเงินของตนติดลบอย่างหนัก อึนซอลก็ฮึดสู้ด้วยการหว่านใบสมัครงานอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอแก้ไขประวัติส่วนตัวใหม่โดยเลิกใช้ถ้อยคำที่สวยหรูเพื่อให้ตัวเองดูดี แล้วเขียนตามความเป็นจริงแทน (บอกแม้กระทั่งว่าตนคืออดีตนักเรียนนักเลงเจ้าของตำนานอันลือลั่นแห่งพัลซันดง) ในที่สุดเธอก็ถูกบริษัทในเครือดีเอ็นกรุ๊ป (ของประธานชา) เรียกตัวไปสัมภาษณ์ โดยที่มูวอนเป็นหนึ่งในคณะกรรมการคัดเลือกพนักงานใหม่ด้วย
ปรากฏว่ามีการเรียกตัวผู้สมัครเข้ามาสัมภาษณ์พร้อมกันครั้งละ 5 คน แต่อึนซอลเป็นคนเดียวที่ไม่ถูกกรรมการตั้งคำถามทำให้เธอรู้สึกผิดหวังและไม่พอใจมาก เธอจึงถามคณะกรรมการว่าทำไมถึงไม่มีใครสัมภาษณ์เธอเลย กรรมการคนหนึ่งตอบว่า บริษัทของตนกำลังมองหาเลขาแต่อึนซอลไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ อึนซอลแย้งว่าทางบริษัทไม่ได้ระบุว่ารับเฉพาะผู้ที่มีประสบการณ์หรือมีความเชี่ยวชาญ และผู้สมัครที่อยู่ในห้องนี้ก็ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญทุกคน มูวอนได้ยินดังนั้นจึงเริ่มสนใจในตัวอึนซอล
อึนซอลยอมรับว่าเธอไม่ได้จบจากสถาบันการศึกษาชั้นนำ แต่ทางบริษัทก็ไม่ได้ระบุเอาไว้เช่นกันว่าผู้สมัครต้องจบจากสถาบันอันเลื่องชื่อ กรรมการคนหนึ่งจึงขอโทษและขอเริ่มสัมภาษณ์เธอใหม่ อึนซอลปฏิเสธและบอกด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ถึงยังไงทางบริษัทก็ไม่รับเธอเข้าทำงานอยู่ดี เธอรู้ว่าเวลาของทางบริษัทมีค่ามากแต่เวลาของเธอก็มีค่าด้วยเช่นกัน หากคิดว่าเธอไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ก็ไม่ควรเรียกเธอมาที่นี่ตั้งแต่ต้น เธอจะได้ไม่ต้องมานั่งเป็นหัวหลักหัวตอให้เสียทั้งเวลาและความรู้สึกแบบนี้ พูดจบเธอก็ขอตัวและเดินออกจากห้องไป มูวอนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกประทับในตัวอึนซอล
อึนซอลถึงกับช็อคเมื่อได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่าทางดีเอ็นกรุ๊ปรับเธอเป็นเลขาฯ พอไปทำงานวันแรกอึนซอลก็เจอศึกหนักเพราะมีข่าวลือแพร่สะพัดว่าเธอเป็นเด็กเส้นของมูวอน ทำให้ถูกพนักงานคนอื่นๆ หมั่นไส้ แถมพนักงานที่แผนกเลขาฯ ก็มีท่าทีที่ไม่ค่อยเป็นมิตรและไม่ใครอยากสุงสิงกับเธอ พอรู้ว่ามูวอนเป็นคนรับตนเข้าทำงาน อึนซอลก็ขอเข้าพบมูวอนเพื่อถามว่า เขาเลือกเธอเพราะเห็นว่าเธอสวยเหมือนรักแรกของเขา หรือเป็นเพราะเขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกเห็นกันแน่ เมื่อมูวอนตอบว่าไม่ใช่ทั้งสองอย่าง อึนซอลจึงถามว่าทำไมเขาถึงเลือกเธอ
มูวอนถามกลับว่าเธอเคยได้ยินข่าวของประธานชาไหม เมื่ออึนซอลตอบว่าเธอเคยเห็นข่าวในทีวี มูวอนก็บอกว่าเจ้านายเธอคือลูกชายคนเดียวของประธานชา ที่ผ่านมาไม่มีเลขาคนไหนทนจีฮอนได้ มูวอนยังไม่ทันตอบคำถามของอึนซอล ประธานชาก็โทรฯ มาถามว่าทำไมเขาถึงเลือกคนอย่างอึนซอลมาเป็นเลขาของลูกชายตน มูวอนตอบต่อหน้าอึนซอลว่า แม้อึนซอลจะขาดคุณสมบัติบางประการ แต่เธอมีความตั้งใจและกระตือรือร้นที่จะทำงานมากกว่าเลขาคนก่อนๆ เป็นร้อยเท่า เลขาแบบนี้แหล่ะที่จีฮอนต้องการ อึนซอลได้ยินดังนั้นก็รู้สึกพอใจ
หลังกลับเกาหลีจีฮอนก็ต้องเจอเรื่องหงุดหงิดผิดหวัง เมื่อพบว่าย่าของตนมารอรับที่สนามบินแถมยังบังคับให้ไปทำงานอีกต่างหาก เขาพยายามหาทางหลบหนีออกจากตึกแต่ประธานชามาเห็นเข้าเสียก่อนจึงถูกลากตัวขึ้นลิฟต์และเดินขากระเผลกออกมา (โดนพ่อสั่งสอนในลิฟต์อีกตามเคย) พนักงานคนหนึ่งเห็นจีฮอนเดินเข้ามาจึงรีบบอกอึนซอลว่าเจ้านายเธอมาแล้ว อึนซอลรีบลุกขึ้นแล้วก้มศีรษะคำนับพลางแนะนำตัว จีฮอนได้ยินดังนั้นจึงเดินกลับมาดูหน้าอึนซอลชัดๆ และทำท่าทางเหมือนพยายามจับผิดอะไรบางอย่าง
เรื่องราวต่อจากนี้จะฮา สนุกสนาน และซาบซึ้งใจแค่ไหน ติดตามชมได้ใน "เจ้านายข้าใครอย่าแตะ (Protect the Boss)" ทางช่องพีพีทีวี
* เนื้อหาโดย luvasianseries
นักแสดงนำ
รับบท ชา จีฮอน
รับบท โน อึนซอล
รับบท ชา มูวอน
รับบท ซอ นายูน
รับบท ประธานชา
ชา ฮวายอน
รับบท ชิน ซุกฮี
* ดูคลิปตัวอย่างเพิ่มเติมได้ ที่นี่
* ดูคลิปเบื้องหลังได้ ที่นี่
* ดูเพลงประกอบและเอ็มวีได้ ที่นี่
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
เรื่องนี้สนุกมาก
ตอบลบ