วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เรื่องย่อ รักสุดท้ายของมาดามจิน (JINTAI-PAN)




บทประพันธ์: ไป๋เซียนหย่ง
กำกับ: จวีเจว๋เลี่ยง (ชาวฮ่องกง)
เขียนบท: เซี่ยเหม่ยหัว
แนวละคร: ดราม่า
จำนวนตอน: 36
ออกอากาศ: จีน - 26 กันยายน 2552 ทางเจียงซูทีวี
                    ไทย - ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.50-11.15 น. ทางช่อง 3 แฟมิลี่ (หมายเลข 13) ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2561 - 19 มิถุนายน 2561

เรื่องย่อ



ละคร "รักสุดท้ายของมาดามจิน (JINTAI-PAN)" ผลิตโดย บริษัท ฟ่านปิงปิง สตูดิโอ ของนางเอกสาว "ฟ่านปิงปิง" เนื้อหาสะท้อนภาพสังคมและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองเซี่ยงไฮ้ ยุคปี 1948 (พ.ศ. 2491) ซึ่งเป็นช่วงปลายของ "สาธารณรัฐจีน"  (ก่อนที่พรรคคอมมิวนิสต์จะเข้าปกครองจีนแผ่นดินใหญ่ จนทำให้พรรคก๊กมินตั๋งต้องถอยร่นไปยังเกาะไต้หวัน โดยในวันที่ 1 ตุลาคม 1949 (พ.ศ. 2492) เหมาเจ๋อตงได้ประกาศสถาปนา "สาธารณรัฐประชาชนจีน") โดยกล่าวถึงชีวิตที่พลิกผันและรักที่พลัดพรากของนักเต้นรำสาวนามว่า "จินจ้าวลี่

ละครเปิดฉากขึ้นในปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ "จินจ้าวลี่" ในวัยชรามาชมนิทรรศการภาพถ่ายระดับนานาชาติของ "เซิ่งเยว่หรู" เมื่อเห็นว่าหนึ่งในภาพที่ถูกนำมาจัดแสดงคือภาพถ่ายสมัยที่ตนยังเป็นนักเต้นรำ เธอก็หวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต...



เซี่ยงไฮ้ ปี 1948 

โรงเต้นรำสุดหรู "พาราเมาท์" ได้จัดแข่งขันเต้นรำชิงตำแหน่ง 'ราชินีนักเต้น' ในหมู่นักเต้นรำหญิง (หรื "dance hostess" มีหน้าที่เป็นคู่เต้นรำให้ลูกค้า ไม่ได้ขายบริการ) ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวระหว่างดาวเด่นและแชมป์สองสมัยอย่างจ้าวลี่ กับ "เหรินไต้ไต้" เมื่อถึงเวลาแข่งขันพิธีกรรู้ว่า "กัวซื่หง" ลูกค้าและคู่เต้นขาประจำของจ้าวลี่ยังมาไม่ถึงจึงคิดช่วยประวิงเวลา แต่ไต้ไต้ไม่ยอมและเริ่มต้นการแข่งขันโดยเปิดฉากเต้นรำในจังหวะแทงโก้ทันที ถึงกระนั้นจ้าวลี่ก็ไม่รู้สึกร้อนใจ เธอนั่งดูไต้ไต้เต้นรำกับคู่เต้นอย่างใจเย็นก่อนออกไปโชว์ลีลาแบบฉายเดี่ยว เมื่อซื่อหงมาถึงและเห็นว่าจ้าวลี่เอาอยู่ (สามารถครองเวทีแต่เพียงลำพังและดึงดูดสายตาผู้ชม) เขาจึงเฝ้าดูอยู่ห่างๆ อย่างชื่นชมโดยยังไม่เข้าไปขัดจังหวะ ไต้ไต้จึงถือโอกาสชิงตัวซื่อหงมาเป็นคู่เต้นของตนหน้าตาเฉย

แม้จะโดนฉกคู่เต้นไปต่อหน้าต่อตาแต่จ้าวลี่กลับไม่อนาทรร้อนใจ เธอมีความสุขที่ได้เต้นรำจึงไม่สนว่ารักษาตำแหน่งราชินีนักเต้นเอาไว้ได้หรือไม่ (ลูกค้าคนอื่นไม่อาจหาญเต้นคู่กับเธอ) ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าจ้าวลี่แล้วพาเธอออกไปเต้นรำกลางเวที ที่แท้เจ้าชายขี่ม้าขาวที่ช่วยให้จ้าวลี่รักษาตำแหน่ง 'ราชินีนักเต้น' เอาไว้ได้ก็คือ "จินจ้าวเลี่ยง" พี่ชายต่างสายเลือดของจ้าวลี่ที่เพิ่งกลับมาเซี่ยงไฮ้นั่นเอง ซื่อหงเปิดแชมเปญฉลองชัยชนะให้จ้าวลี่พลางชมว่าเธอกับจ้าวเลี่ยงเต้นเข้าขากันเป็นอย่างดี จ้าวลี่จึงเล่าว่าเธอกับจ้าวเลี่ยงเต้นรำด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ และเขาก็เป็นคู่เต้นคนแรกของเธอ เพื่อนร่วมงานของจ้าวลี่และซื่อหงไม่เคยเห็นหน้าจ้าวเลี่ยงมาก่อนจึงต่างสงสัยว่าเขาเป็นใคร จ้าวเลี่ยงกล่าวว่าตนเป็นใครไม่สำคัญ... จากนั้นก็คว้าแขนจ้าวลี่ด้วยความโมโหพลางพูดว่า ...ที่สำคัญคือจ้าวลี่ไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นใคร จ้าวเลี่ยงจะพาจ้าวลี่ไปจากโรงเต้นรำแต่ถูกซื่อหงขวางเอาไว้ จ้าวเลี่ยงจึงยอมถอยโดยบอกให้จ้าวลี่อยู่ฉลองความสำเร็จกับเพื่อนๆ และซื่อหง ส่วนตนจะออกไปรอข้างนอก


ซื่อหงมองตามจ้าวเลี่ยงอย่างเอาเรื่องและทำท่าเหมือนจะตามออกไป แต่จ้าวลี่ห้ามเอาไว้และชวนทุกคนมาสนุกกันต่อ หลังดื่มฉลองเสร็จแล้วจ้าวลี่ก็ออกไปหาจ้าวเลี่ยงและกระโดดกอดเขาด้วยความดีใจหลังไม่ได้เจอกันนานสองปี ที่แท้จ้าวเลี่ยงกลับมาเซี่ยงไฮ้เพื่อทวงทุกอย่างคืนให้จ้าวลี่หลังล่วงรู้ชาติกำเนิดของเธอ ที่สำคัญเขาไม่อาจทนเห็นเธอทำงานในสถานบันเทิงยามค่ำคืนดังเช่นทุกวันนี้ เขาไม่รู้ว่าจะบอกเธอยังไงจึงอยากให้เธอได้ยินจากปาก "แม่จิน" ซึ่งถูกผีพนันเข้าสิงและเป็นคนก่อเรื่อง หลังถูกลูกชายบังคับแม่จินจึงยอมเผยความลับที่ปกปิดมานาน 23 ปีต่อหน้าจ้าวลี่ จ้าวลี่ยังคงไม่ปักใจเชื่อหลังรู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของแม่จิน แต่เป็นลูกคนมีฐานะที่ถูกแม่จินสลับตัวกับลูกสาวแท้ๆ หลังลืมตาดูโลกได้ไม่นาน จ้าวเลี่ยงอธิบายว่าทั้งตน พ่อ และปู่ต่างเป็นโรคโลหิตจางซึ่งติดต่อทางกรรมพันธุ์ แต่จ้าวลี่กลับไม่เป็นโรคนี้ จ้าวลี่ไม่อยากยอมรับความจริงจึงพยายามหาเหตุผลข้างๆ คูๆ มาสนับสนุนความคิดของตน จ้าวเลี่ยงจึงชี้ว่าตอนนี้น้องสาวแท้ๆ ของตนซึ่งเกิดวันเดือนปีเดียวกันกับจ้าวลี่และเป็นโรคโลหิตจางเช่นเดียวกับตนกำลังเสวยสุขอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่กลางเมืองเซี่ยงไฮ้

หลังจากนั้นจ้าวเลี่ยงก็พาจ้าวลี่ไปดูคฤหาสน์สกุลอวี้โดยบอกว่านี่คือบ้านของเธอ หากเธอต้องการตนจะเป็นคนเปิดประตูบ้านให้และจะช่วยทวงทุกสิ่งทุกอย่างคืนมาให้เธอ จ้าวลี่รู้สึกสับสนและยังทำใจยอมรับไม่ได้จึงหันหลังเดินกลับไปที่รถ บังเอิญว่าในตอนนั้นคุณหนูสกุลอวี้ "อวี้ข่ายหลุน" (น้องสาวแท้ๆ ของจ้าวเลี่ยง) อาการกำเริบและหมดสติ จึงถูกบ่าวไพร่อุ้มมารอรถที่หน้าบ้าน โดยมี "คุณนายอวี้" (แม่แท้ๆ ของจ้าวลี่ ซึ่งไม่รู้ว่าลูกสาวถูกสลับตัวหลังคลด) คอยดูแลไม่ห่าง จ้าวเลี่ยงหันไปมองหน้าจ้าวลี่ จ้าวลี่เห็นว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายจึงเสนอให้คุณนายอวี้ใช้รถของตน คุณนายอวี้เลยมอบนามบัตรของ "วี้หย่งเฉียว" ผู้เป็นสามีและผู้อำนวยการโรงพยาบาลให้จ้าวลี่


จ้าวเลี่ยงแนะให้จ้าวลี่ตามไปพบพ่อแม่แท้ๆ ที่โรงพยาบาล แต่จ้าวลี่ปฏิเสธเพราะไม่รู้ว่าจะไปในฐานะอะไร หลังได้เห็นอาการเจ็บป่วยของข่ายหลุนเองกับตาจ้าวลี่ก็รู้สึกสงสารและเห็นใจ วันต่อมาจ้าวลี่แวะไปหาแม่จินที่บ้านในย่านชุมชนแออัด เมื่อพบว่าแม่จินกำลังถูกคนของบ่อนตามมาทวงหนี้พนันก้อนโตถึงที่บ้าน  จ้าวลี่จึงเข้าห้ามปรามอย่างไม่ยำเกรง แม่จินฉวยโอกาสเอาตัวรอดโดยบอกให้พวกนักเลงทวงเงินกับจ้าวลี่เพราะเธอเป็นถึงนักเต้นรำระดับแนวหน้าของโรงเต้นรำพาราเมาท์สุดหรู พวกนักเลงจึงคิดจับตัวจ้าวลี่แต่กลับโดนตบสั่งสอน แถมจ้าวลี่ยังขู่ด้วยว่าคนของพาราเมาท์มีมาเฟียคุ้มครอง หากกล้าแตะต้องตนแม้เพียงปลายเล็บรับรองว่าศพไม่สวยแน่ เธอบอกให้คนของบ่อนนำหลักฐานการเป็นหนี้ของแม่จินไปให้เธอที่พาราเมาท์ หากไม่สร้างหลักฐานเท็จเธอจะใช้หนี้แทนทั้งหมด

แม่จินพยายามหาข้ออ้างมาแก้ตัวแต่จ้าวลี่รู้ทัน หลังแม่จินเสียพนันจนนำอพาร์เมนท์ที่เธอซื้อให้ไปใช้หนี้เธอก็ไม่คิดทำอะไรเพื่อแม่จินอีก ที่เธอมาวันนี้เพราะอยากรู้ที่อยู่ของพี่ชายแต่แม่จินไม่ยอมบอกโดยอ้างว่าตนไม่รู้ จ้าวลี่เลยควักเงินปึกหนึ่งมาล่อ แม่จินรีบคว้าเงินมานับพลางกล่าวว่าตนไม่รู้จริงๆ เพราะหลังจากจ้าวเลี่ยงรู้ว่าจ้าวลี่ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ ตอนที่เขาอายุได้ 15 ปี เขาก็โกรธแค้นและไม่ดูดำดูดีตนอีกเลย จ้าวลี่เห็นว่าพี่ชายไม่กล้าสู้หน้าตนจึงเปรยว่าสักวันจ้าวเลี่ยงจะเข้าใจว่าเขามีค่าและสำคัญกับตนมากกว่าสกุลอวี้เป็นสิบเท่า แม่จินได้ยินดังนั้นจึงกล่าวว่าที่จ้าวเลี่ยงโกรธตนนับว่าสมควรแล้วเพราะตนไม่เคยใส่ใจจ้าวลี่ ซ้ำยังทำให้จ้าวลี่มีชีวิตที่ยากลำบากและต้องเหน็ดเหนื่อยกายใจมาโดยตลอด จ้าวลี่เข้าใจดีว่าที่แม่จินขายตน จนตนต้องกลายมาเป็นนักเต้นรำดังเช่นทุกวันนี้ เพราะต้องการนำเงินมารักษาจ้าวเลี่ยงที่อาการทรุดหนัก หากไม่ได้เงินก้อนนั้นจ้าวเลี่ยงคงอยู่ไม่ถึงวันนี้  ข่ายหลุนเองก็เช่นกัน เธออาการหนักกว่าจ้าวเลี่ยงมากหากไม่ได้อยู่บ้านสกุลอวี้คงจากโลกนี้ไปนานแล้ว จ้าวลี่ไม่คิดถือโทษโกรธใครเพราะเห็นว่าตนลำบากแค่คนเดียวแต่ช่วยได้ถึงสองชีวิต เธอจึงกล่าวว่าแม่จินทำเพื่อลูกในไส้อย่างเต็มที่แล้ว ถึงกระนั้นแม่จินก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าลูกทั้งสองของตนจะยังมีชีวิตอีกนานแค่ไหน


เมื่อซื่อหงจะขึ้นรถไปทำงานก็ถูกจ้าวเลี่ยง (ซึ่งแอบอยู่บนรถพร้อมลูกน้อง) ชักปืนขู่ ก่อนพามาเจรจากันตามลำพังในที่เปลี่ยว จ้าวเลี่ยงรู้ว่าซื่อหงกำลังสืบประวัติตน จึงบอกว่าตนสืบประวัติซื่อหงเรียบร้อยแล้ว เขารู้ว่าซื่อหงเป็นผู้นำเข้า-ส่งออกรายใหญ่ มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย ทั้งยังมีใจให้จ้าวลี่ จึงไม่พอใจที่ซื่อหงยังคงปล่อยให้จ้าวลี่เต้นกินรำกินในโรงเต้นรำแทนที่จะช่วยเธอ เมื่อจ้าวเลี่ยงบอกให้ทิ้งภรรยาที่กำลังป่วยหนักเพื่อจะได้มาอยู่กับจ้าวลี่ ซื่อหงก็รู้สึกโกรธ เขาชี้ว่าตนไม่มีวันทอดทิ้งภรรยาเว้นเสียแต่ว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ตนไม่สามารถแต่งงานกับจ้าวลี่ได้ จ้าวเลี่ยงกล่าวว่าชีวิตของจ้าวลี่จะมีความสุขหรือไม่ขึ้นอยู่กับซื่อหง จากนั้นก็ใช้ปืนข่มขู่หมายให้ซื่อหงยอมแต่งงานกับจ้าวลี่แต่ซื่อหงไม่ยินยอม แม้จะถูกปืนที่ขึ้นลำแล้วจ่อเข้าที่คอแต่ซื่อหงกลับไม่เกรงกลัว เขาจ้องมองจ้าวเลี่ยงด้วยแววตาแข็งกร้าวพลางบอกให้จ้าวเลี่ยงแต่งกับจ้าวลี่เอง (ซื่อหงไม่รู้ว่าจ้าวเลี่ยงเป็นพี่ชายของจ้าวลี่) จ้าวเลี่ยงเห็นว่าข่มขู่ยังไงก็ไม่สำเร็จแน่จึงยอมถอดใจ

ทันใดนั้นก็มีคนขับรถพุ่งตรงเข้ามาหมายชนจ้าวเลี่ยง ซื่อหงจึงร้องเตือนก่อนชักปืน (ที่เอว) ยิงใส่ยางรถ หลังไปต่อไม่ได้คนร้ายจึงลงมาเล็งปืนใส่จ้าวเลี่ยงแต่จ้าวเลี่ยงลั่นไกเร็วกว่า แม้ชายคนดังกล่าวจะล้มลงไปนอนแน่นิ่งหลังถูกยิง แต่จ้าวเลี่ยงจงใจไม่ยิงเข้าที่จุดสำคัญเขาจึงไม่ถึงแก่ชีวิต ซื่อหงสงสัยว่าทำไมถึงมีคนอยากฆ่าจ้าวเลี่ยง จ้าวเลี่ยงไม่ตอบแต่ถามกลับว่าในเมื่อซื่อหงพกปืนแล้วทำไมถึงไม่นำออกมายิงสู้ตน ซื่อหงตอบว่าเพราะตนเห็นสายตาของจ้าวลี่ที่มองจ้าวเลี่ยงขณะเต้นรำ ตนจึงไม่มีวันเป็นศัตรูกับจ้าวเลี่ยง จ้าวเลี่ยงฝากจ้าวลี่ไว้กับซื่อหงก่อนเตือนว่าอย่าก้าวเท้าเข้ามายุ่งเรื่องของตน เขาบอกให้ซื่อหงรีบไปจากที่นี่ส่วนเรื่องคนร้ายตนจะจัดการเอง ขณะที่ซื่อหงกำลังจะเดินขึ้นรถ จ้าวเลี่ยงร้องบอกชื่อแซ่ของตนก่อนเฉลยว่าตนเป็นพี่ชายของจ้าวลี่



คุณนายอวี้นั่งเฝ้าข่ายหลุนซึ่งยังคงหลับใหลไม่ได้สติด้วยน้ำตาคลอเบ้า ขณะที่จ้าวลี่นำช่อดอกไม้มาเยี่ยมข่ายหลุนที่โรงพยาบาล เธอได้ยินหมอที่เดินสวนมาพูดคุยกันถึงอาการของข่ายหลุน เมื่อชำเลืองมองชื่อที่หน้าอกหมอคนหนึ่งก็พบว่าเขาคือพ่อแท้ๆ ของเธอ จ้าวลี่เห็นพ่อบังเกิดเกล้าเดินเข้าไปในห้องของข่ายหลุนจึงฝากช่อดอกไม้ไว้ที่พยาบาล และพยายามทำตัวร่าเริงขณะเดินออกจากโรงพยาบาล เธอบังเอิญเดินชนทายาทนายธนาคารผู้มั่งคั่งนามว่า "เซิ่งเยว่หรู" เข้าอย่างจังจนกระเช้าผลไม้นำเข้าที่เขาหิ้วมาฝากคนไข้ร่วงเกลื่อนพื้น เมื่อเยว่หรูเห็นหน้าจ้าวลี่เขาก็ตกตะลึงในความงามและตกหลุมรักเธอทันที

และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความรักอันรุ่มร้อนระหว่างนักศึกษาหนุ่มอนาคตไกลกับนักเต้นรำสาว แต่ความรักที่ผลิบานท่ามกลางกระแสคัดค้านและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม จะต้องแลกด้วยอะไรบ้าง และจะลงเอยอย่างไร ติดตามชมได้ใน "รักสุดท้ายของมาดามจิน (JINTAI-PAN)" ทางช่องสามแฟมิลี่

* เนื้อหาโดย luvasianseries 



 


รายชื่อนักแสดง 


ฟ่านปิงปิง
รับบท จินจ้าวลี่ / จินต้าปัน
(นักแสดง / นางแบบ / นักร้อง / ผู้ผลิตละคร ชาวจีน)



โจววี๋หมิน (วิค โจว / ไจ๋ไจ๋)
รับบท เซิ่งเยว่หรู
(นักแสดง / นายแบบ / นักร้อง ชาวไต้หวัน)



ฟางจงซิ่น (อเล็กซ์ ฟง)
รับบท กัวซื่หง
(นักแสดง ชาวฮ่องกง)



ฟ่านเหวินฟาง (ฟ่านน์ หว่อง)
รับบท เหรินไต้ไต้
(นักแสดง / นักร้ง / นางแบบ ชาวสิงคโปร์)



หวงเส้าฉี (อีริค หวง)
รับบท จินจ้าวเลี่ยง
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)



หวงชิวเซิง (แนโธนี่ หว่ง)
รับบท เฉินหรงฟา
(นักแสดง ชาวฮ่องกง)



ฉินเพ่ย (พล ชุน)
รับบท เซิ่งเหวินต๋า
(นักแสดง ชาวฮ่องกง)



หานเสี่ยว
รับบท อู๋สี่ขุย
(นักแสดง ชาวจีน)



หวังเสวียฉี
รับบท วี้หย่งเฉียว
(นักแสดง / ผู้กำกับ ชาวจีน)





*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา