วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

เรื่องย่อ ลิขิตรักปีศาจสาว (Demon Girl)




กำกับ: เริ่นไห่เย่า, หลิวเจิ้นหมิง
เขียนบท: อวี๋เจิ้ง
แนวละคร: แฟนตาซี, โรแมนติก
จำนวนตอน: (ภาคแรก) 20 / (ภาคสอง) 20
ออกอากาศ: จีน - 30 มิถุนายน 2561 ทาง หมางกั่วทีวี (Mango TV)
                    ไทย - ทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 09.50 น. ทางช่อง 7 เอชดี ตั้งแต่วันที่  6 มิถุนายน 2561- 23 กรกฎาคม 2561




เรื่องย่อ



เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงปลายราชวงศ์ชิง เมื่อองค์ซูสีไทเฮาต้องการตามหาหญิงสาวนิรนามที่อยู่ในภาพปริศนา เพราะคิดว่าหญิงสาวคนนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของบ้านเมืองได้ แต่หญิงสาวผู้อยู่ในภาพนั้นกลับกลายเป็นปีศาจและได้พบรักกับทหารองครักษ์ของพระองค์ ทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกันคือ "เนี่ยชิงเฉิง" ซึ่งเธอไม่รู้ว่าตนเองมีสายเลือดของปีศาจแฝงอยู่ เธอได้พบกับ "หมิงเซีย" ชายหนุ่มรูปงามที่เกิดในตระกูลร่ำรวยและมีจิตใจงดงาม และตกหลุมรักเขา จนเกิดเรื่องราวที่ทำให้เธอต้องกลายร่างเป็นปีศาจ และมีเหตุให้เนี่ยชิงเฉิงต้องทำร้ายคนที่เธอรัก เธอจะทำอย่างไรต่อไป มาร่วมลุ้นและติดตามเรื่องราวความรักระหว่างคนกับปีศาจได้ใน “ลิขิตรักปีศาจสาว” (Demon Girl)

* ข้มูลจาก ช่ง 7 เชดี

เนื้อหาตอนที่ 1 

ละครเปิดฉากด้วยการบรรยายเรื่องราวของปีศาจ โดยอ้างอิงคำบอกเล่าของผู้ที่เคยพบเห็น (ในละคร) ซึ่งระบุว่าเหล่าปีศาจมีลักษณะภายนอกเหมือนมนุษย์ทุกอย่าง สิ่งเดียวที่แตกต่างคือการมีเล็บสีทองแวววาว พวกเขาสามารถกลายร่างได้  ขณะกลายร่างจะมีปีกงอกออกมา หูและเล็บจะยาวขึ้น ม่านตาจะมีสีที่ต่างไปจากเดิม น้ำตาจะเป็นสีทองและมีเลือดสีชมพู นอกจากความสามารถในการบินด้วยความเร็วสูงและมีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งแล้ว พวกเขาแทบไม่มีอะไรแตกต่างจากมนุษย์เพราะมีเกิดแก่เจ็บตาย ทั้งยังต้องการอาหารและเสื้อผ้าเช่นกัน แต่ทว่าพวกเขาต้องจำศีลในช่วงฤดูหนาวมิเช่นนั้นจะเสียชีวิต หลังตายแล้วร่างของพวกเขาจะละลายกลายเป็นน้ำ ก่อนแปรสภาพเป็นเด็กทารกช้าๆ หลังต้องแสงอาทิตย์ จากนั้นจึงดำเนินชีวิตต่อไปโดยปราศจากความทรงจำในอดีตชาติ




เรื่องราวในละครเริ่มต้นขึ้นโดยอ้างอิงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ณ เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 1900 (พ.ศ. 2443) ซึ่งเป็นช่วงปลายของราชวงศ์ชิง เมื่อกองกำลังพันธมิตรแปดชาติ (รัสเซีย, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, สหรัฐ, ญี่ปุ่น, เยอรมนี, อิตาลี, ออสเตรีย-ฮังการี) ได้บุกโจมตีปักกิ่ง (เป็นการบุกครั้งที่ 2 เพื่ตอบโต้ที่พระนางซูสีไทเฮาสั่งกลุ่มอี้เหอถวน (กบฏนักมวย) โจมตีสถานทูตต่างชาติ) ทั้งยังปล้นสะดม วางเพลิง และเข่นฆ่าผู้คนอย่างโหดเหี้ยม เหล่าชาวบ้านจึงพากันอพยพออกจากเมืองเพื่อหนีตาย ซึ่งในจำนวนนี้มีครอบครัวของบัณฑิตหนุ่ม "เนี่ยหรูเฟิง" รวมอยู่ด้วย ขณะออกจากประตูเมื "อิ้งเตี๋ย" (เสี่ยวเตี๋ย) ภรรยาขเนี่ยหรูเฟิง เห็นชาวบ้านถูกทหารต่างชาติเข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมทารุณก็อดรนทนไม่ไหว เธอจึงบอกลาและฝากลูกสาวทั้งสองไว้กับสามี จากนั้นก็ปิดประตูเมืองขังตัวเองไว้ด้านในแล้วหันไปเผชิญหน้ากับกองกำลังต่างชาติตามลำพัง หลังจากนั้นเธอก็กลายร่างเป็นปีศาจสาวแล้วตรงเข้าโจมตีผู้รุกรานทันที แม้เธอจะกำจัดทหารต่างชาติได้หลายคนในคราวเดียวกัน แต่สุดท้ายก็ต้องมาจบชีวิตลงหลังถูกระดมยิง  (ชายชาวจีนคนหนึ่งเห็นเธอกลายร่างและสังหารทหารต่างชาติเต็มสองตา) เนี่ยหรูเฟิงซึ่งอยู่ทางด้านนอกได้ยินเสียงปืนดังขึ้นก็รู้สึกเจ็บปวดใจ เขามองประตูเมืองด้วยน้ำตาคลอเบ้าแต่ยังหวังว่าสักวันจะได้พบภรรยาอีกครั้ง




เนี่ยหรูเฟิงพาลูกสาวทั้งสองลี้ภัยไปอยู่เซี่ยงไฮ้โดยหาเลี้ยงชีพด้วยการสอนหนังสือที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง หลังผ่านไปนาน 15 ปี (ปี ค.ศ. 1915 (พ.ศ. 2458) - หลังราชวงศ์ชิงล่มสลาย 3 ปี และเป็นยุคสาธารณรัฐจีน"เนี่ยชิงเฉิง"  ลูกสาวคนโตของเนี่ยหรูเฟิงกับอิ้งเตี๋ยได้เติบโตเป็นสาวสะพรั่ง เธอต้องการแบ่งเบาภาระพ่อจึงแอบไปทำงานที่โรงเต้นรำเซียนเล่อซือ    หวังนำเงินมาส่งเสียน้องสาว  "เนี่ยชิงซิน" ซึ่งกำลังเรียนหนังสือในโรงเรียนของพวกผู้ดีมีสกุล วันหนึ่งขณะที่ชิงเฉิงซึ่งเป็นดาวเด่นของเซียนเล่อซือกำลังเตรียมตัวขึ้นแสดงบนเวที อยู่ๆ แขนของเธอก็มีแสงสว่างวาบบริเวณปานที่มีรูปร่างคล้ายไม้กางเขน หลังจากนั้นก็มีปีก (ลักษณะโปร่งแสง) งอกออกมาจากหลังของเธอ โดยปีกได้กางออกแล้วหุบลงก่อนเลือนหายไป เมื่อชิงเฉิงเหลือบมองกระจกในห้องแต่งตัวแล้วเห็นแว๊บๆ ว่าตนมีปีกก็รู้สึกตกใจ เธอจึงเดินเข้าไปส่องกระจกใกล้ๆ ครั้นไม่พบความผิดปกติใดๆ เธอเลยคิดว่าตัวเองตาฝาด (เธอไม่รู้ว่าตนเองเป็นครึ่งคนครึ่งปีศาจ)
 



ขณะที่ชิงเฉิงกำลังเต้นรำบนเวที "หมิงเซี่ย" นายตำรวจหนุ่มที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้กำกับคนใหม่ ได้แวะมาที่เซียนเล่อซือตามคำเชิญของเจ้าพ่อและหัวหน้าแก๊งมาเฟียแซ่อู่ ปรากฏว่าหัวหน้าอู่ต้องการให้หมิงเซี่ยคืนของเถื่อนทั้งหมดที่ยึดไปจากท่าเรือของตนจึงนำทองแท่งเต็มกล่องมาติดสินบน หมิงเซี่ยปฏิเสธทันควันโดยอ้างว่าตนไม่ชอบทองคำ หัวหน้าอู่เห็นหมิงเซี่ยหันไปดูชิงเฉิงเต้นรำบนเวทีด้วยความสนใจจึงสั่งให้ลูกน้องลากตัวชิงเฉิงลงมาจากเวทีแล้วนำตัวมามอบให้หมิงเซี่ย ชิงเฉิงเห็นว่าเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระจึงคิดที่จะเดินกลับขึ้นไปบนเวที แต่แล้วก็ถึงกับสะดุ้งเมื่อพบว่ามีปืนจ่อที่ด้านหลังลำคอในระยะประชิด หมิงเซี่ยเห็นดังนั้นจึงรีบห้ามปราม หัวหน้าอู่เลยถามว่าหมิงเซี่ยยอมรับข้อเสนอของตนแล้วใช่ไหม  หมิงเซี่ยชี้ว่าใครๆ ก็รู้ตนเป็นทายาทสกุลที่ร่ำรวยที่สุดในเซี่ยงไฮ้ ซ้ำยังเป็นผู้กำกับสน.ในท้องที่นี้ หากตนต้องการผู้หญิงสักคนคงมีคนมาขออยู่ด้วยเพียบ จึงไม่จำเป็นต้องใช้กำลังบังคับผู้หญิง




ชิงเฉิงเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตนจึงขอตัว หัวหน้าอู่รู้สึกโกรธที่ชิงเฉิงไม่เห็นหัวตนจึงเล็งปืนไปที่เธออีกครั้ง โชคดีที่หมิงเซี่ยยกแขนหัวหน้าอู่ขึ้นทันเวลาทำให้กระสุนถูกยิงขึ้นทางด้านบน หัวหน้าอู่บีบให้หมิงเซี่ยยอมรับสินบนโดยจ่อปืนไปที่หัวเขา หมิงเซี่ยจึงส่งสัญญาณบอกลูกน้องที่แฝงตัวอยู่ในบริเวณนั้นให้ปรากฏตัว ซึ่งในจำนวนนั้นมีลูกสมุนของหัวหน้าอู่รวมอยู่ด้วย เขากล่าวว่าที่ตนหันหลังให้ชีวิตอันแสนเพียบพร้อมและสุขสบาย แล้วผันตัวมาเป็นผู้กำกับ (ตำรวจ) ก็เพราะเหลืออดกับคนอย่างหัวหน้าอู่เต็มทน เขาเตือนให้หัวหน้าอู่กลับตัวกลับใจก่อนที่จะถูกตนกวาดล้างจนสิ้นซาก จากนั้นก็พาชิงเฉิงออกจากร้านไป




แม้จะแอบประทับใจในอุดมการณ์ของหมิงเซี่ยแต่พอโดนลากออกมานอกร้านเธอก็รีบสะบัดมือออก จากนั้นก็ชี้ว่าตนไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายและจะไม่ยอมก้มหัวให้เพียงเพราะเขามีตำแหน่งใหญ่โต  หมิงเซี่ยได้ยินดังนั้นก็ชอบใจ ชิงเฉิงเห็นหมิงเซี่ยจ้องมองชุดเต้นรำแสนเซ็กซี่ที่เธอสวมจึงรีบเอามือมาปิดบังไว้ หมิงเซี่ยเลยขอชี้แนะเธอสามเรื่องโดยบอกว่า หนึ่ง ผู้ชายไม่ได้หื่นเหมือนกันทุกคน สอง ในเมื่อเธอเลือกทำอาชีพนี้แล้วก็ควรทำใจยอมรับการรุกคืบของผู้ชายให้มากกว่านี้ (อย่ามัวถือสาเวลาถูกแทะโลมด้วยสายตาหรืโดนแตะเนื้อต้องตัวนิดๆ หน่ยๆ) และสาม หัวหน้าอู่ไม่ใช่คนที่เธอควรมีเรื่องมีราวด้วย หากวันนี้ตนไม่แกล้งทำเป็นสนใจเธอ สักวันเขาคงตามมาราวีเธออีก เมื่อถึงวันนั้นเธอจะเอาอะไรมาสู้  พูดจบเขาก็เรียกรถลากให้เธอทั้งยังถอดสูทให้เธอสวมทับชุดเต้นรำอีกด้วย เมื่อชิงเฉิงร้องถามว่าจะให้เธอคืนสูทเมื่อไหร่ หมิงเซี่ยตอบเพียงว่าหากมีวาสนาพวกตนคงได้พบกันอีก

ชิงเฉิงแอบย่องเข้าบ้านกลางดึกแต่กลับพบพ่อถ่างตารออยู่ด้วยความเป็นห่วง เนี่ยหรูเฟิงไม่รู้ว่าชิงเฉิงทำงานที่โรงเต้นรำจึงถามว่าที่บริษัทงานยุ่งมากนักหรื ครั้นพเห็นชิงเฉิงแต่งตัวแปลกๆ แถมยังสวมสูทขงผู้ชายเขาก็ยิ่งรู้สึกสงสัยว่าชิงเฉิงไปทำอะไรที่ไหนมา ชิงซินเห็นพี่สาวได้แต่ยืนอ้ำอึ้งจึงช่วยโกหกว่าชิงเฉิงไปงานแต่งงานเพื่อนและตนเป็นคนเลือกชุดให้เอง ชิงเฉิงกล่าวเสริมว่าเพื่อนร่วมงานของตนเห็นว่าคืนนี้อากาศเย็นเลยให้ยืมสูท แม้เหตุผลจะพอฟังขึ้นแต่เนี่ยหรูเฟิงยังคงตำหนิชิงเฉิงที่กลับบ้านดึก โดยบกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีสกุลรุนชาติและยังเป็นพี่สาวจึงควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ถึงตอนนี้พวกตนจะไม่ร่ำรวยเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ควรรักษารากเหง้าของตระกูลเอาไว้




ขณะาบน้ำในอ่างด้วยกัน ชิงซินอดบ่นไม่ได้ว่าเมื่อสักครู่ชิงเฉิงเกือบถูกพ่อจับได้ หากพ่อรู้ว่าชิงเฉิงเป็นนักเต้นรำที่เซียนเล่อซือมีหวังโกรธจนลมจับ ชิงเฉิงย้อนว่าทั้งหมดเป็นเพราะชิงซินเข้าเรียนในโรงเรียนที่แพงแสนแพง เธอชี้ว่าการหางานทำในเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่เรื่องง่าย ขนาดผู้ชายยังหางานทำไม่ได้นับประสาอะไรกับผู้หญิงอย่างตน อุตส่าห์ได้ทำงานเป็นนักเต้นก็นับว่าบุญโขแล้ว ชิงซินรู้ดีว่า่ชิงเฉิงทำทุกอย่างเพื่อตนจึงสัญญาว่าหากวันหน้าตนประสบความสำเร็จจะตอบแทนด้วยการดูแลชิงเฉิงชั่วชีวิต ชิงเฉิงแย้งกลับว่าใครจะอยากให้น้องสาวมาคอยดูแล แถมยังพูดเป็นนัยๆ ว่าอีกหน่อยจะมีคนอื่นมาคอยดูแลตน ชิงซินได้ยินดังนั้นจึงสงสัยว่าชิงเฉิงแอบซ่อนใครเอาไว้ในใจโดยไม่บอกตน เมื่อชิงเฉิงไม่ยอมบอกชิงซินจึงพยายามคาดคั้น ในระหว่างที่สองพี่น้องกำลังหยอกล้อกันอยู่นั้น อยู่ๆ ปานที่แขนของชิงเฉิงก็เปล่งแสงสีทอง หลังจากนั้นอ่างาบน้ำก็เริ่มแตกร้าว ชิงเฉิงเห็นดังนั้นก็ได้แต่งุนงงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ชิงซินสงสัยว่าชิงเฉิงมีใจให้เจ้าของสูท แต่ชิงเฉิงปฏิเสธโดยบอกว่าตนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้เจอเขาอีกครั้งเมื่อไหร่ ในเวลาต่อมารุ่นพี่ที่ทำงานเห็นชิงเฉิงยังคงยืนถือสูทรอหมิงเซี่ยที่หน้าโรงเต้นรำด้วยใจจดจ่อก็ดูออกว่าชิงเฉิงมีใจให้หมิงเซี่ย แม้ชิงเฉิงจะไม่ยอมรับแต่เธอก็ให้แง่คิดในฐานะที่มีประสบการณ์มากกว่าว่า... ผู้ชายที่ชอบเที่ยวโรงเต้นรำไม่ใช่คนดี คนดีๆ จะไม่มาสถานที่แบบนี้ ดังนั้นชิงเฉิงจึงไม่ควรรอให้เสียเวลา ชิงเฉิงแอบหวังว่าสักวันจะได้พบหมิงเซี่ยอีกครั้งจึงดูแลรักษาเสื้อสูทเป็นอย่างดี แถมเธอยังคิดถึงเขาจนถึงขั้นเก็บไปฝันหวานอีกด้วย




ชิงซินอยากไปร่วมงานปาร์ตี้ของเหล่าไฮโซเหมือนเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ จึงอุตส่าห์เก็บเงินซื้อตั๋ว แต่กลับโดนดูถูกเหยียดหยามว่าฐานะทางบ้านยากจนและไม่มีสถานะทางสังคม เจ้าภาพจึงไม่ขายตั๋วให้ เมื่อชิงเฉิงรู้เข้าจึงอาสาพาชิงซินไปร่วมงานดังกล่าวด้วยตนเอง แม้จะลักลอบเข้าไปในงานได้แต่เพื่อนนักเรียนที่มาร่วมงานต่างพากันตั้งแง่รังเกียจชิงซิน ชิงเฉิงเห็นน้องสาวโดนเพื่อนนักเรียนดูถูกว่าเป็นคนต่ำต้อยด้อยค่าที่ไม่รู้จักธรรมเนียมหรือค่านิยมสมัยใหม่ จึงแย้งว่าชิงซินเต้นรำเก่ง ครั้นโดนตอกกลับว่าคนอย่างชิงซินคงไม่มีผู้ชายคนไหนอยากขอเต้นรำด้วย ชิงเฉิงจึงพาชิงซินไปเปิดฟลอร์เต้นรำแล้วแนะนำให้ทุกคนรู้จัก เหล่าบรรดาหนุ่มๆ เห็นความสามารถในด้านการเต้นรำของชิงซินจึงแห่กันมาขอเธอเต้นรำ




ชิงเฉิงรู้สึกร้อนและอึดอัดใจที่เห็นผู้คนในงานต่างสวมหน้ากากเข้าหากันจึงปลีกตัวออกมาเดินสูดอากาศบริเวณสวนด้านนอก และนั่นก็ทำให้เธอได้พบหมิงเซี่ยอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าหมิงเซี่ยถูกผู้หญิงคนหนึ่งตามตื๊อไม่เลิกทั้งที่เขาพยายามปฏิเสธ แถมเธอยังรุกหนักถึงขั้นยื่นหน้าเข้าไปหาหมายจูบหมิงเซี่ย ชิงเฉิงเห็นแล้วอดรนทนไม่ไหวจึงเข้าไปขัดจังหวะ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็โกหกว่าพวกตนเป็นแฟนกัน ผู้หญิงคนดังกล่าวเห็นทั้งคู่หอมแก้มกันและกันต่อหน้าต่อตาก็รู้สึกโกรธและเสียหน้าจึงเดินจากไปทันที  หมิงเซี่ยขอโทษที่ล่วงเกินชิงเฉิงก่อนหน้านี้ แต่ชิงเฉิงไม่ถือสาและบอกว่าพวกตนหายกันแล้ว (คราวก่อนเขาช่วยเธอ คราวนี้เธอเป็นฝ่ายช่วยเขา) หมิงเซี่ยจึงแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ หมิงเซี่ยยังไม่อยากเข้างานเพราะเป็นช่วงที่ทุกคนกำลังเต้นรำตามธรรมเนียมสมัยใหม่พอดี ชิงเฉิงเห็นว่าหมิงเซี่ยต้องเข้าสังคมบ่อยครั้งแต่กลับเต้นรำไม่เป็นจึงช่วยสอนเต้นรำให้เขา และกลายเป็นครูสอนเต้นรำส่วนตัวของเขานับแต่นั้นมา

เมื่อคนหัวโบราณอย่างเนี่ยหรูเฟิงรู้ว่าชิงเฉิงแอบไปทำงานที่โรงเต้นรำก็ทั้งโกรธและรับไม่ได้ เขาจึงขังชิงเฉิงไว้ในห้อง ชิงเฉิงเลยจำต้องแอบหนีลงมาทางหน้าต่างเพราะไม่อยากให้หมิงเซี่ยรอเก้อ (เธอมีนัดสอนเขาเต้นรำทุกวัน) เธอบอกเขาด้วยใบหน้าเศร้าหมองว่าต่อจากนี้ตนคงไม่ได้ออกมาสอนเต้นรำอีกแล้ว จากนั้นก็ระบายความอัดอั้นโดยเล่าว่าพ่อไม่อยากให้เธอเป็นสาวนักเต้นที่เซียนเล่อซือเลยขังเธอไว้ในห้อง เธอรู้ว่าพ่อหวังดีแต่พ่อไม่รู้ว่าเธอรู้สึกแย่แค่ไหนเวลาเห็นพ่อเหนื่อยล้าจากการตรากตรำทำงานมาตลอดทั้งวัน  พ่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงหางานยากแค่ไหน และไม่รู้ว่าถ้าขาดเงินเดือนส่วนนี้ไปครอบครัวจะเดือดร้อนหนัก (ค่าเทอมของชิงซินแพงมาก) ตนก็แค่อยากทำงานหาเงินเพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่ดี การที่ตนทำเช่นนี้มันผิดมากเลยหรือ




หมิงเซี่ยถามว่าชิงเฉิงเคยเปิดอกคุยกับพ่อแล้วหรือยัง ชิงเฉิงกล่าวว่าถึงพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะพ่อเธอไม่มีทางรับฟัง แต่หมิงเซี่ยไม่คิดเช่นนั้น สมัยยังเด็กเคยมีคนบอกเขาว่า หากเราบอกความปรารถนาให้สวรรค์รับรู้ สวรรค์จะช่วยให้เราสมปรารถนา หลังโดนหมิงเซี่ยยุ ชิงเฉิงจึงร้องตะโกนตามที่เขาบอก "ชั้นขให้พ่อเข้าใจชั้น! ชั้นอให้ทุกคนเข้าใจชั้น!" หมิงเซี่ยมองชิงเฉิงร้องตะโกนพลางคิดในใจว่า ก่อนหน้านี้ตนนึกว่าชิงเฉิงเป็นเพียงผู้หญิงสวย จิตใจดี และเป็นดาวเด่น ไม่นึกว่าเธอจะเป็นผู้หญิงแกร่ง ทั้งยังร่าเริงสดใส และใส่ใจผู้อื่นด้วย เขานึกถึงคำกล่าวที่ว่า มีบางคนและบางสิ่งที่ฟ้าลิขิตให้คนเราต้องพบเจอ เขาจึงเชื่อว่าการที่ตนได้พบกับชิงเฉินเป็นเรื่องของชะตาฟ้าลิขิตเช่นกัน

*** จบตนที่หนึ่ง ***

* เนื้อหาโดย luvasianseries





รายชื่อนักแสดง (ภาคแรก)


จางเจ๋อฮั่น
รับบท หมิงเซี่ย
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)



หลี่อีถง
รับบท เนี่ยชิงเฉิง
(นักแสดง ชาวจีน - ประเดิมเล่นละครเรื่งนี้เป็นเรื่งแรก)



หมี่เร่อ
รับบท โยวถง
(นักแสดง ชาวจีน)



เหอรุ่ยเสียน
รับบท เจียงเสวี่ยอู่
(นักแสดง ชาวจีน)



หวังเม่าเหล่ย
รับบท เนี่ยหรูเฟิง
(นักแสดง ชาวจีน)



หลิวหมิ่น
รับบท ฟางหย่าฉิง
(นักแสดง ชาวจีน)



ซีเหมิงจื่อ
รับบท เสี่ยวโยวถง
(นักแสดง ชาวจีน)



จางซือฟาน
รับบท สวีเสี่ยวไป๋
(นักแสดง ชาวจีน)



ไต้เซี่ยงอวี่
รับบท ต้วนเส้าเชียน
(นักแสดง ชาวจีน)



สวีไห่เฉียว
รับบท หวังเสี่ยวถัง
(นักแสดง ชาวจีน)



อันอี่เซวียน
รับบท อิ้งเตี๋ย
(นักแสดง / นักร้อง ชาวไต้หวัน)



เฉินจื่อหาน
รับบท ฮัวเย่ว์หนง
(นักแสดง ชาวจีน)



เฉิงจื่อหนิง
รับบท เนี่ยชิงซิน
(นักแสดง ชาวจีน)



หลินเผิง
รับบท เฉาเยี่ยนเยี่ยน
(นักแสดง ชาวจีน)



เหอเฟิ่งเทียน
รับบท เซิ่งเจียอวี้
(นักแสดง ชาวจีน)



วังตงเฉิง
รับบท โยวหย่วน
(นักแสดง / นักร้อง / ผู้ดำเนินรายการ / นายแบบ ชาวไต้หวัน)



เหอหงซาน
รับบท เพียนเพียน
(นักแสดง / ช่างภาพ ชาวจีน)



หนานเซิง
รับบท เสี่ยวผิง
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)




*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา