วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2561

เรื่องย่อ อิทธิฤทธิ์กระบี่เซียนหยวน ภาคหมอกแห่งฮั่น (Xuanyuan Sword: Han Cloud)




กำกับ: พานเหวินเจี๋ย, จินซา
เขียนบท: หลี่เหวินเฉียง, เยียหม่า, เกาเมิ่งตาน, เหลียงเยี่ยนหลง, หลี่เยวี่ยเจีย
แนวละคร: แฟนตาซี, กำลังภายใน
จำนวนตอน: 58
ออกอากาศ: จีน - 8 สิงหาคม 2560 ทางดราก้อนทีวี
                ไทย - ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ 14.00 น. ทางช่อง 9 MCOT HD (หมายเลข 30) ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2561 - 7 ตุลาคม 2561





เรื่องย่อ



ละคร "อิทธิฤทธิ์กระบี่เซียนหยวน ภาคหมอกแห่งฮั่น" (Xuanyuan Sword: Han Cloud) ดัดแปลงมาจากเกมอาร์พีจีชุด "กระบี่เซียนหยวน" ซึ่งพัฒนาโดย DOMO Studio ของค่ายเกมซอฟต์สตาร์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ประเทศไต้หวัน เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2550

เกม

เนื้อหาในเกมมีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นละคร โดยในเกมกล่าวถึงเหตุการณ์ยุคสามก๊ก (ปลายราชวงศ์ฮั่น) ที่มีการเปิดศึกเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ระหว่างรัฐเว่ย [วุยก๊ก], สู่ [จ๊กก๊ก],  และ อู๋ [ง่อก๊ก] ทั้งยังหยิบยกตัวละครสำคัญและเหตุการณ์ในวรรณกรรมเรื่องสามก๊กมาดัดแปลงเป็นเนื้อหาในเกมอีกด้วย เรื่องราวกล่าวถึง "จูเก่อเลี่ยง" [ขงเบ้ง] เสนาบดีรัฐสู่ซึ่งพยายามยกทัพบุกเหนือเพื่อพิชิตรัฐเว่ยหลายครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ (รัฐเว่ยมีหน่วยทหารลับที่ชื่อ "ถงเชว่") ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ยอมถอดใจ เพราะต้องการทำความปรารถนาสุดท้ายของ "หลิวเป้ย" (เล่าปี่ - ผู้ก่อตั้งรัฐสู่) ในการฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่นให้กลายเป็นจริง กองกำลังลับที่มีชื่อว่า "เฟยอวี่" ของต้าฮั่น ซึ่งก่อตั้งโดย "จ้าวอวิ๋น" [จูล่ง] จึงต้องออกโรงร่วมรบกับจูเก่อเลี่ยงจนเกิดเป็นเรื่องราวต่างๆ มากมาย

หมายเหตุ: 

* "Xuanyuan Sword" หมายถึง กระบี่ของเซวียนหยวน ("เซวียนหยวน" เป็นอีกชื่อหนึ่งของ "จักรพรรดิเหลือง" (หวงตี้)) ส่วน "Han Cloud" หรือ "ฮั่นจืออวิ๋น" มาจากคำพูดของ "จ้าวอวิ๋น" (หรื "จูล่ง" แห่ง "สามก๊ก") ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งทัพ "เฟยอวี่" ที่กล่าวว่าชื่อของตนและ "หวงฝู่เฉาอวิ๋น" (หรือ "เยียนเฝิง" - พระเอก) ต่างก็มีคำว่า "อวิ๋น" (แปลว่า เมฆ) เหมืนกัน และพวกตนยังเป็นกำลังหลักขงต้าฮั่นด้วยกันทั้งคู่ (จ้าววิ๋นเป็นผู้ชุบเลี้ยงและาจารย์ขงพระเกในเวร์ชั่นเกม)

** ทัพ "เฟยอวี่" มาจากชื่อของพี่น้องร่วมสาบานและแม่ทัพรัฐสู่ "จางเฟย" [เตียวหุย]  กับ  "กวนอวี่" [กวนอู] แบ่งออกเป็นสองหน่วย คือ "หน่วยเฟย" และ "หน่วยอวี่" หน่วยเฟย ประกอบด้วย ตวนเหมิง (หัวหน้า), จู้หลี, ซางเหิง เจาหยาง และ ซ่างจาง ส่วน หน่วยอวี่ ประกอบด้วย เยียนเฝิง (ผู้นำสิบยดขุนพลเฟยอวี่ และหัวหน้าหน่วยอวี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในร่างจุติขงวิญญาณกระบี่เซวียนหยวน), โหยวจ้าว, เฉียงอู๋, ถูเหว่ย และเหิงอ้าย ทั้งสิบคนที่กล่าวมานี้เป็นสิบดนักรบขทัพเฟยอวี่ (อันดับงแต่ละคนเรียงตาม "เทียนกาน" หรื "10 ตัวอักษรภาคสวรรค์" ในแผนภูมิสวรรค์ ซึ่งใช้สำหรับการนับวันและปีแบบดั้งเดิมในโหราศาสตร์ของจีน ได้แก่ (เจี่ย) เยียนเฝิง(อี่) ตวนเหมิง(ปิ่ง) โหยวจ้าว(ติง) เฉียงอู๋(อู้) ถูเหว่ย (จี่) จู้หลี(เกิง) ซางเหิง(ซิน) เจาหยาง(เหริน) เหิงอ้าย และ (กุ่ย) ซ่างจาง)

ละคร



เนื้หาในละครกล่าวถึงเรื่องราวที่สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ยุคโบราณ  หลัง "จักรพรรดิเหลือง" ทรงปราบหมู่มารแล้วกระบี่คู่กายหักเป็นสองท่อนก่อนตกลงบนโลกมนุษย์ หลังจากนั้นราวสองพันปีซึ่งตรงกับปีสุดท้ายของราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ก่อนยุคสามก๊ก) พลังจิตวิญญาณในกระบี่ทั้งสองท่อนได้มาจุติในร่างมนุษย์โดยถือกำเนิดเป็นสองพี่น้อง "เฉาอวิ๋น" กับ "มู่อวิ๋น" โชคร้ายที่ทั้งคู่ต้องพลัดพรากจากกันตั้งแต่ยังเด็กขณะเกิดสงคราม เมื่อเวลาผ่านเลยไปเฉาอวิ๋นได้กลายเป็นผู้นำสิบยอดขุนพลของทัพ "เฟยอวี่"  ส่วนมู่อวิ๋นเป็นหนึ่งในหกยอดฝีมือขององค์กรลับนามว่า "ถงเชว่"  (มู่วิ๋นฝีมือสูงส่งเป็นอันดับหนึ่ง) 

สองพี่น้องได้พบและเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรกบริเวณพรมแดนเชื่อมต่อระหว่างแคว้น "เหยาฮั่น" (ในเกมคือ "รัฐสู่") กับ "เซียวเยว่"  (ในเกมคือ "รัฐเว่ย") แต่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของกันและกัน (เฉาอวิ๋นใช้นามแฝงว่า "เยียนเฝิง" ส่วนมู่อวิ๋นมีฉายาว่า "ไป๋อี" หรือชุดขาว) ด้วยความที่ทั้งสองแคว้นเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน สองพี่น้องซึ่งอยู่ต่างแคว้นจึงเป็นศัตรูคู่อาฆาตและเปิดศึกฟาดฟันกันบ่อยครั้ง โดยเฉาอวิ๋นมีภารกิจในการช่วยเสนาบดี  "กงหยางซั่ว" (ในเกมคือ "จูเก่อเลี่ยง" หรือ "ขงเบ้ง") ขยายดินแดนเหยาฮั่นขึ้นไปทางตอนเหนือ ส่วนมู่อวิ๋นทำงานให้ทัพ "ถงเชว่" ของแคว้นเซียวเยว่หมายทดแทนหนี้น้ำใจ เมื่อเฉาอวิ๋นล่วงรู้ความจริงว่ามู่อวิ๋นคือน้องชายที่พลัดพรากเขาจึงช่วยชีวิตมู่อวิ๋น หลังตระหนักว่าไฟสงครามทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบากยากแค้น สองพี่น้องจึงตัดสินใจว่าจะคืนชีวิตที่สงบสุขให้ประชาชน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ร่วมมือกันฟันฝ่าอุปสรรคโดยมีสาวน้อย "เยียย่าซี" แห่งเผ่า "ชางอู๋" (ในเกมคือ "รัฐอู๋") คอยช่วยเหลือ  

หมายเหตุ:

"จักรพรรดิเหลือง" (หวงตี้/เซวียนหยวน) เป็นหนึ่งใน "สามราชาห้าจักรพรรดิ" หรือกลุ่มผู้ปกครองบ้านเมืองจีนโบราณช่วงประมาณ 2852 ปีก่อนคริสตกาล ถึง 2070 ปีก่อนคริสตกาล โดยราชาทั้งสามเป็นกึ่งเทวะซึ่งใช้อำนาจสร้างสรรค์มนุษยชาติและถ่ายทอดความรู้ความสามารถ ส่วนจักรพรรดิทั้งห้าเป็นปรัชญาเมธีซึ่งทรงคุณธรรมล้ำเลิศ

เนื้อหาตอนที่ 1


ทางลำเลียงเสบียง "หลิวหม่าเยวียน"

เมื่อครั้งโบราณกาล "จักรพรรดิเหลือง" ได้ปราบปรามเหล่ามารเป็นเหตุให้กระบี่คู่กาย  (กระบี่เซวียนหยวน) หักเป็นสองท่อน สองพันปีให้หลังพลังจิตวิญญาณในกระบี่ทั้งสองท่อนได้มาจุติเป็นสองพี่น้อง "เฉาอวิ๋น" กับ "มู่อวิ๋น" ซึ่งพลัดพรากจากกันตั้งแต่ยังเด็ก ในเวลาต่อมาแคว้น "เหยาฮั่น" กับ "เซียวเยว่" ได้เปิดศึกสงครามบ่อยครั้ง แต่การทำศึกที่ยืดเยื้อยาวนานทำให้เสบียงอาหารของทัพเหยาฮั่นซึ่งปักหลักอยู่บนเขาโยวซานเริ่มขาดแคลน เสนาบดี "กงหยางซั่ว" แห่งเหยาฮั่นจึงส่งคนไปเร่งสร้างทางลำเลียงลยฟ้า "หลิวหม่าเยวียน" หมายลำเลียงเสบียงาหารนับแสนกระสไปให้เหล่าทหารและม้าที่ยู่แนวหน้าโดยเร็วที่สุด 



หลังก่อสร้างแล้วเสร็จ ผู้นำทัพเฟยอวี่ "โตวเหวินสื่อ" (หรื "ทูตโตวเหวิน" เรียกสั้นๆ ว่า "สื่อจวิน" (ท่านทูต) ในเกมคือทูตลิ้นทอง "เติ้งจือ" [เตงจี๋] แห่งสามก๊ก)  ซึ่งถูกเสนาบดีมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการคุ้มกันเสบียงนับแสนกระสอบ ได้มาตรวจดูความพร้อมก่อนลำเลียง ปรากฏว่า "หน่วยอวี่" ของ "เยียนเฝิง" (นามแฝงของเฉาอวิ๋น) เป็นกำลังหลักในการคุ้มกันหลิวหม่าเยวียนและการลำเลียงเสบียงทั้งหมด เมื่อ "เหิงอ้าย" รายงานแผนคุ้มกันให้โตวเหวินสื่อทราบโดยกล่าวว่า หน่วยอวี่ของตน (ซึ่งประกอบด้วย เยียนเฝิง (หัวหน้า), โหยวจ้าว, เฉียงอู๋, ถูเหว่ย และเหิงอ้าย) รวมทั้ง  "ซางเหิง" (หนึ่งในสิบยอดขุนพลเฟยอวี่ที่อยู่หน่วย "เฟิง") จะกระจายกำลังคุ้มกันตามจุดต่างๆ โดยมีเยียนเฝิงเป็นทัพหน้าคอยคุ้มกันทางลำเลียงหลัก โตวเหวินสื่อก็รู้สึกเบาใจ เขากล่าวว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง หากขนส่งเสบียงไม่สำเร็จจะมีผลต่อแผนยกทัพบุกแดนเหนือของท่านเสนาบดี ในเมื่อคำสั่งของเสนาบดีเป็นบัญชาการทางทหาร หากภารกิจในการปกป้องเสบียงล้มเหลวตนจะรับผิดชอบด้วยการนำกฏอัยการศึกมาสำเร็จโทษตัวเอง เหิงอ้ายได้ยินดังนั้นก็แอบเป็นกังวลเพราะสังหรณ์ใจว่าเส้นทางลำเลียงหลิวหม่าเยวียนอาจตกเป็นเป้าโจมตีขงศัตรู 




"มู่อวิ๋น" ถูกวิญญาณกระบี่ในกายเข้าครอบงำและเกือบสังหาร "จื่ออีจุนเจ่" (ชื่อที่เรียกอย่างยกย่อง) หรือ "จื่ออีซางรุ่ย" ("จื่ออี" คืฉายาแปลว่า "ชุดม่วง" ส่วน "ซางรุ่ย " คืชื่จริง) ซึ่งมู่อวิ๋นนับถือเป็นพี่ชายและเป็นคนเดียวในโลกที่เขาไว้ใจ  พอรู้สึกตัวมู่อวิ๋นก็รีบขอโทษจื่ออี ที่เขาเป็นเช่นนี้เพราะสภาพจิตใจอ่อนแอเนื่องจากวันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของ "หลานอิน" (อดีตคนรัก) เขาสงสัยว่าจื่ออีจะช่วยชุบชีวิตหลานอินได้จริงหรือ จื่ออีให้คำมั่นว่าสักวันตนต้องพาหลานอินกลับมาหามู่อวิ๋นได้แน่แต่ขอเวลาอีกระยะ จากนั้นก็ชี้แจงวัตถุประสงค์ที่มาหามู่อวิ๋นโดยออกตัวว่า ตนรู้ดีว่ามู่อวิ๋นไม่ชอบโลกที่มีแต่การรบราฆ่าฟัน ที่ผ่านมาตนจึงไม่เคยให้มู่อวิ๋นเข้ามามีส่วนร่วมในการทำศึก แต่คราวนี้สถานการณ์ค่อนข้างคับขันเพราะทัพเฟยอวี่ของแคว้นเหยาฮั่นปรากฏตัวบนเขาโยวซาน เขาชี้ว่าสิบยอดขุนพลเฟยอวี่ล้วนมีฝีมือโดดเด่นและมักทำภารกิจลับให้เหยาฮั่นจนมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำที่ชื่อเยียนเฝิงซึ่งมีความสามารถ ฉลาดหลักแหลม และยากจะต่อกร ตนเลยจำต้องบากหน้ามาหามู่อวิ๋น มู่อวิ๋นได้ยินดังนั้นจึงยอมช่วยเหลือโดยไม่ลังเล และชี้ว่าตนไม่ได้ทำเพื่อแคว้นเซียวเยว่แต่ทำเพื่อพี่ชายอย่างจื่ออี



ขณะที่เยียนเฝิงกำลังยืนคุ้มกันการลำเลียงเสบียง อยู่ๆ ก็มีฝูงผีเสื้อพิษบินตรงมาที่หลิวหม่าเยวียนแบบมืดฟ้ามัวดิน เยียนเฝิงพยายามใช้ทวนวงเดือน "ฟางเทียนฮั่ว" ซึ่งเป็นอาวุธคู่กายปราบผีเสื้อพิษ แต่ผีเสื้อที่สองยอดฝีมือถงเชว่แห่งแคว้นเซียวเยว่  "หวงอีก่วนซื่อ" (หวงอี แปลว่า ชุดเหลือง) กับ "ชิงอีจิ่วโยว" (ชิงอี แปลว่า ชุดเขียว) ส่งมานั้นมีปริมาณมหาศาล ทั้งยังบุกโจมตีเหล่าทหารและคนงานที่กำลังขนเสบียงจนบาดเจ็บกันถ้วนหน้า "โหยวจ้าว" กับ "ถูเหว่ย" เห็นดังนั้นจึงร้องบอกทหารให้ช่วยกันปกป้องเสบียง เมื่อเยียนเฝิงสั่งให้ตั้งค่ายกล ซางเหิงซึ่งเชี่ยวชาญด้านเวทมนต์และการตั้งค่ายกลจึงออกโรงทันที




"อูอีหานหลง" (อูอี แปลว่า ชุดดำ) ฉวยโอกาสนำกำลังบุกโจมตีเหล่าทหารเหยาฮั่นที่กำลังถูกผีเสื้อพิษเล่นงาน "เฉียงอู๋" ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการยิงธนูระยะไกลเห็นดังนั้นจึงยิงธนูสยบมาร (ฝูโหมว) ตบโต้  มู่อวิ๋นตรงเข้าเล่นงานเยียนเฝิงโดยดึงพลังกระบี่เซวียนหยวนในตัวมาใช้ เยียนเฝิงนึกไม่ถึงว่าถงเชว่จะมียอดฝีมือที่เก่งกาจอย่างมู่อวิ๋น (เขาเรียกมู่อวิ๋นว่า  "ไป๋อี" ซึ่งแปลว่า ชุดขาว)  โหยวจ้าวและถูเหว่ยช่วยกันรับมือหวงอี (ชุดเหลือง) กับ ชิงอี (ชุดเขียว) เหิงอ้ายเห็นซางเหิงกำลังเผชิญหน้ากับ "ชื่ออีชิ่งเอ๋อร์" (ชื่ออี แปลว่า ชุดแดง) จึงอาสารับมือแทน โดยบอกให้ซางเหิงไปคุ้มกันโตวเหวินสื่อ ที่แท้เธอกับชื่ออี (ชื่อจริง "ชิ่งเอ๋อร์") เป็นพี่น้องที่พลัดพรากจากกันมานาน (ความจริงแล้วทั้งคู่เป็นเทพธิดาที่ถูกส่งมาตามหากระบี่เซวียนหยวนหมายรวมวิญญาณกระบี่เป็นหนึ่ง) แต่ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างทำงานให้แคว้นที่เป็นศัตรูกัน แม้จะรู้สึกเป็นห่วงเมื่อเห็นสัญลักษณ์ปรากฏที่แขนของน้องสาว แต่เหิงอ้ายกลับแกล้งทำเป็นจำชิ่งเอ๋อร์ไม่ได้ทำให้ชิ่งเอ๋อร์รู้สึกเสียใจ



เยียนเฝิงกับมู่อวิ๋นต่อสู้กันอย่างดุเดือดบนชักรอกลำเลียงเสบียง ครั้นเห็นโตวเหวินสื่อยืนสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ มู่อวิ๋นจึงฉวยโอกาสจับเขาเป็นตัวประกัน จากนั้นจึงสั่งให้เยียนเฝิงทำลายระบบชักรอกลำเลียงเสบียงเพื่อแลกกับชีวิตโตวเหวินสื่อ โตวเหวินสื่อยอมตายแต่ไม่ยอมให้ภารกิจล้มเหลวจึงบอกให้เยียนเฝิงสั่งพลธนูระดมยิงลูกศรมาที่ตนและมู่อวิ๋น มู่อวิ๋นเห็นว่าเยียนเฝิงรับมือได้ยากจึงคิดใช้โตวเหวินสื่อเป็นเครื่องมือในการหลอกล่อให้เยียนเฝิงไขว้เขว จากนั้นจึงค่อยฉวยโอกาสทำลายหลิวหม่าเยวียนด้วยตนเ เยียนเฝิงรู้ตัวดีว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายชุดขาว เขาจึงคิดที่จะใช้สติปัญญารับมือแทน ครั้นเห็นว่าซางเหิงกับเหิงอ้ายอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก เยียนเฝิงจึงลั่นวาจาว่าจะแก้แค้นให้โตวเหวินสื่อจากนั้นก็สั่งให้ยิงธนู มู่อวิ๋นได้ยินดังนั้นก็รู้สึกผิดคาด เขาจึงผลักโตวเหวินสื่อตกเขา โชคดีที่ซางเหิง เยียนเฝิง และเหิงอ้าย ช่วยกันรับไว้ได้ทัน หลังจากนั้น มู่อวิ๋นก็นำพลังกระบี่เซวียนหยวนมาทำลายหลิวหม่าเยวียนจนแหลกลาญในชั่วพริบตา เหิงอ้ายเห็นดังนั้นจึงรู้ว่ามู่อวิ๋นคืออีกหนึ่งร่างจุติของกระบี่เซวียนหยวน เธอไม่นึกฝันว่าวิญญาณกระบี่เซวียนหยวนอีกส่วนจะอยู่ในแคว้นของศัตรู แถมพลังกระบี่เซวียนหยวนในตัวมู่อวิ๋นยังมีอานุภาพร้ายแรงทั้งๆ ที่วิญญาณกระบี่ทั้งสองส่วนยังไม่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว และมู่อวิ๋นยังควบคุมพลังกระบี่ไม่ได้ด้วยซ้ำ




หลังภารกิจล้มเหลวเยียนเฝิงพร้อมเหล่าขุนพลหน่วยอวี่ (ยกเว้นเหิงอ้าย)  และซางเหิง จึงไปคุกเข่าขอรับโทษแทนโตวเหวินสื่อท่ามกลางสายฝนในยามค่ำคืน เมื่อ "ตวนเหมิง", "จู้หลี"  และ "เจาหยาง" ซึ่งเป็นสิบยอดขุนพลเฟยอวี่ที่อยู่หน่วย "เฟิง" เดินทางมาถึงในวันรุ่งขึ้น (เพิ่งกลับจากการทำภารกิจลับ) จึงร่วมคุกเข่าขอรับโทษทันที ("หน่วยเฟย" ประกอบด้วย ตวนเหมิง (หัวหน้า), จู้หลี, ซางเหิง เจาหยาง และ ซ่างจาง) เฉียงอู๋ถามตวนเหมิงว่าสืบะไรมาได้บ้าง ตวนเหมิงจึงเล่าว่าเมื่อสองวันก่อนตนลอบเข้าไปสืบข่าวในจวนแม่ทัพ "อวี่เหวินอี๋" (ในเกมคือ "ซือหม่าอี้ " [สุมาอี้]) แห่งแคว้นเซียวเยว่ แล้วได้ยินคนของถงเชว่ที่สวมชุดสีม่วงพูดกับแม่ทัพอวี่ว่า เขามีคนที่สามารถทำลายทางลำเลียงหลิวหม่าเยวียนได้ ตนได้ยินแล้วรู้สึกเป็นกังวล ชายชุดม่วงเหมือนจะอ่านใจคนได้เพียงแรกเห็น เขาจึงล่วงรู้ฐานะที่แท้จริงของตนทันที ขณะที่คนอื่นๆ ก็ถูกเปิดโปงเช่นกัน ตน จู้หลี และเจาหยาง จำเป็นต้องหลบหนี มีเพียงซ่างจางที่ยังคงแฝงตัวสืบข่าวบนเขาโยวซานโดยใช้มนต์ล่องหน จู้หลีสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ เฉียงอู๋จึงบอกว่าเสบียงกองทัพนับแสนถูกทำลาย เจาหยางได้ยินดังนั้นจึงอดเป็นห่วงโตวเหวินสื่อไม่ได้ ขณะที่เยียนเฝิงได้แต่ภาวนาให้เหิงอ้ายกลับมาไวๆ


โตวเหวินสื่อคุมตัวเองออกมายังลานด้านนอก แล้วสั่งให้ทหารลงมือประหารตนโดยไม่ฟังคำทัดทานของทัพเฟยอวี่และทหารหน่วยอื่นๆ ที่พากันร้องขอให้ประหารพวกตนด้วย โชคดีที่เหิงอ้ายมาทันเวลา เธอชูป้ายคำสั่งทหารของเสนาบดีกงหยางซั่วแล้วประกาศว่า ท่านเสนาบดีมีคำสั่งให้โตวเหวินสื่อกับเยียนเฝิงไปรายงานตัวโดยด่วน ครั้นไปถึงเยียนเฝิงก็ขอรับโทษตายแต่เพียงผู้เดียว เสนาบดีแย้งว่าแม้จะมีโทษหนักแต่ก็ไม่ร้ายแรงถึงขั้นประหาร เขากล่าวว่าสงครามกำลังจะเริ่มต้นขึ้นจึงนับเป็นโอกาสที่เยียนเฝิงจะได้ชดใช้ความผิดพลาด แต่หลังจากเสบียงนับแสนถูกทำลาย ขวัญและกำลังใจเหล่าทหารก็ลดน้อยถอยลง ตนเกรงว่าการทำศึกในครานี้คงไม่จบลงในเร็ววัน (โตวเหวินสื่อได้ยินแล้วรู้สึกตกใจที่เสนาบดีคิดสู้ไม่ถอย) ในเมื่อเยียนเฝิงไม่อาจปกป้องเสบียงนับแสนของตนก็ต้องหามาทดแทน ปรากฏว่าภารกิจใหม่ของเขาคือการปกป้องและส่งมอบเสบียงที่เผ่าชางอู๋สัญญาว่าจะให้ยืม ซึ่งนับเป็นภารกิจที่เต็มไปด้วยอันตรายและยังเป็นความหวังสุดท้ายของเหยาฮั่น



ขณะร่ายรำเพลงกระบี่ จื่ออี (ชุดม่วง) เห็นว่า ชิ่งเอ๋อร์บรรเลงเพลงผีผาด้วยอาการเหม่อลอยจึงถามว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจหรือ ชิ่งเอ๋อร์รู้สึกซาบซึ้งใจที่เขาใส่ใจเธอ และกล่าวว่าตนมาอยู่โลกมนุษย์เป็นร้อยปีแล้วแต่ไม่เคยเจอพี่สาว กระทั่งเมื่อวานนี้ตนได้เจอพี่สาวอีกครั้ง  จื่ออีถามว่าเธอหมายถึง "เซิงเอ๋อร์" (เหิงอ้าย) ใช่ไหม ชื่ออียอมรับและกล่าวว่าพี่สาวตนไม่ได้สูญสลายหายไปในทะเลเพลิงแต่ดูเหมือนเธอจะจำอะไรไม่ได้ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเป็นใครและยังต่อสู้กับตนด้วย  จื่ออีปลอบว่าเป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว หากเซิงเอ๋อร์จำชิ่งเอ๋อร์ได้ แล้วเธอจะอธิบายเรื่องที่มาครองคู่อยู่กับตนได้อย่างไร ทั้งเธอและพี่สาวต่างเป็นเทพธิดา การมีความรักกับผู้ที่ไม่ใช่เทพเซียนด้วยกัน (เช่น มาร ปีศาจ หรือเทพที่ถูกลดชั้น ฯลฯ) เป็นสิ่งต้องห้าม หากฝ่าฝืนจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส และถ้าหากหลงรักมนุษย์จะสูญสลาย ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นชะตาฟ้าลิขิต

เขายังบอกด้วยว่าตนจะหากระบี่เซวียนหยวนทั้งสองส่วนให้เจอ และจะช่วยให้ชิ่งเอ๋อร์กับพี่สาวได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขและปลอดภัย ถึงกระนั้นชิ่งเอ๋อร์ก็ยังอดเป็นห่วงเรื่องการทำศึกบนเขาโยวซานไม่ได้ จื่ออีปลอบว่าตอนนี้ทางลำเลียงหลิวหม่าเยวียนขเหยาฮั่นถูกทำลายแล้ว เสนาบดีกงหยางซั่วเลยจำเป็นต้งขยืมเสบียงจากชางอู๋ สายของตนอยู่ที่ชางอู๋เรียบร้อยแล้วและได้ทำการสืบจนรู้ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในการขนส่งเสบียง หากมู่อวิ๋นหาคนๆ นั้นเจอ ชิ่งเอ๋อร์ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากนั้นตนจะพาชื่ออีกลับลั่วเฉิง (เมืองหลวง) และไม่มาเหยียบเหยาฮั่นอีก ดังนั้นจงอย่ากังวลว่าจะต้องเผชิญหน้ากับพี่สาวในฐานะศัตรูอีกเลย



คืนนั้นเหิงอ้ายช่วยจัดเตรียมสัมภาระสำหรับการเดินทางไปทำภารกิจให้เยียนเฝิง ขณะที่เหิงอ้ายกำลังนั่งเย็บผ้ากลางดึก เธอเผลอยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงใบหน้าเปื้อนยิ้มของเยียนเฝิง แต่แล้วอยู่ๆ เธอก็รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจ แถมปลายนิ้วข้างหนึ่งเริ่มส่อแววว่าจะเลือนหาย (เป็นอาการค่อยๆ สูญสลายหรือตายช้าๆ ของเทพธิดาที่หลงรักมนุษย์) เหิงอ้ายเห็นดังนั้นก็รู้สึกตกใจ เธอเพิ่งรู้ตัวว่าตนตกหลุมรักเยียนเฝิงเข้าแล้ว และสงสัยว่าตนจะมีสัญลักษณ์ปรากฏบนร่างกายเหมือนชิ่งเอ๋อร์หรือไม่ (ชิ่งเอ๋อร์ไม่ได้ตกหลุมรักมนุษย์เลยไม่สูญสลาย) ทั้งยังนึกสงสัยว่าอมนุษย์ที่ชิ่งเอ๋อร์ตกหลุมรักเป็นใครกันแน่

เยียนเฝิงจะเข้ามาเอาสัมภาระสำหรับเดินทางไปรับเสบียง ครั้นเห็นว่าเหิงอ้ายยังคงนั่งเย็บผ้าอยู่เขาก็รู้สึกแปลกใจ เหิงอ้ายเตือนเยียนเฝิงให้ระวังตัวขณะเดินทางผ่านเขากุยหลิง เยียนเฝิงรู้ดีว่าที่นั่นเต็มไปด้วยอันตรายและมีปีศาจต้นไม้จึงรับปากว่าจะระวังตัว เหิงอ้ายเปรยว่าหากเสนาบดีไม่สั่งระดมทหารสร้างป้อม ตนคงจัดกำลังพลให้เยียนเฝิงได้มากกว่านี้ เยียนเฝิงเห็นสัมภาระที่เหิงอ้ายจัดเตรียมไว้จึงกล่าวขอบคุณและยิ้มให้  เหิงอ้ายเห็นดังนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจอีกครั้ง เธอออกตัวว่าพวกตนเป็นเพื่อนกันจึงไม่จำเป็นต้องขอบคุณ จากนั้นก็อ้างว่าเธอเย็บผ้าเสร็จแล้วและขอตัวทันที เยียนเฝิงเห็นเหิงอ้ายรีบออกจากห้องไปโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยก็ได้แต่นั่งงง ขณะวิ่งออกจากห้องเหิงอ้ายพยายามหักห้ามใจไม่ให้หลงรักมนุษย์ ถูเหว่ยผ่านมาเห็นาการขเหิงอ้ายก็รู้ทันทีว่าเธอกำลังจะเริ่มสูญสลายจึงได้แต่ลอบมองด้วยความเป็นห่วง เขาเห็นเธอเดินออกมาจากห้องที่เยียนเฝิงนั่งอยู่ จึงสงสัยว่าเหิงอ้ายอาจหลงรักเยียนเฝิง



จื่ออี (ชุดม่วง) รู้ว่าเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างชางอู๋กับเหยาฮั่นมีอยู่ทางเดียว เขาจึงวางแผนให้หวงอี (ชุดเหลือง) ร่ายมนต์บังตา จากนั้นก็ให้มู่อวิ๋นลวงคนขนเสบียงเข้าไปในป่า หลังคนของเผ่าชางอู๋หลงทาง มู่อวิ๋นจึงแสดงตัวโดยอ้างว่าตนมาจากเหยาฮั่นชื่อ "เยียนเฝิง" ครั้นเห็นสาวน้อย "เยียย่าซี" เดินตรงมาหา เขาก็ถามถึงเสบียงทันที เมื่อเยียย่าซีกล่าวว่าเธอนี่แหล่ะคือเสบียง มู่อวิ๋นก็รู้สึกแปลกใจ  อีกด้านหนึ่งเยียนเฝิงนำกำลังไปรอรับขบวนเสบียงจากเผ่าชางอู๋ แต่เลยเวลานัดหมายแล้วยังคงซึ่งไร้วี่แวว แถมสถานการณ์ยังเงียบผิดปกติ ครั้นทหารรายงานว่าตรวจดูเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังชางอู๋จนทั่วแล้ว ยกเว้นเส้นทางบนเขากุยหลิง เยียนเฝิงก็รู้สึกสังหรณ์ใจ


มู่อวิ๋นลวงเยียย่าซีและผู้ติดตามเข้าไปในป่าลึก หลังเดินจนขาลากเยียย่าซีก็เริ่มสงสัยว่าทำไมยังไม่ถึงเหยาฮั่นสักที เยียย่าซีเห็นมู่อวิ๋นเอาแต่ยืนจ้องหน้าเธอโดยไม่พูดจาจึงอดถามไม่ได้ว่าทำไมจ้องหน้าตนจัง มู่อวิ๋นถามคำเดิมว่าเสบียงอยู่ที่ไหน เยียย่าซีตบกระเป๋าสะพายใบเล็กๆ แล้วบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่าอยู่ในนี้ แค่พาตนไปเหยาฮั่นก็เรียบร้อย (ในตอนนั้นเยียนเฝิงกำลังควบม้าตรงไปยังเส้นทางที่พาดผ่านเขากุยหลิง) มู่อวิ๋นถามเยียย่าซีว่าเธอกำลังเล่นตลกกับตนหรือ (เพราะสิ่งที่เขากำลังตามหาคือเสบียงนับแสนกระสอบที่เผ่าชางอู๋ส่งมาช่วยเหลือทัพเหยาฮั่น) เยียย่าซีจึงเหน็บว่ากับคนหน้าไร้อารมณ์อย่างเขา ต่อให้ตนล้อเล่นขำๆ ก็คงเปล่าประโยชน์ เธอยืนยันว่าเมื่อมู่อวิ๋นพาตนไปเหยาฮั่นก็จะได้เสบียงตามที่ต้องการ หลังภารกิจของพวกตนสำเร็จลุล่วง ตนจะได้รีบกลับไปทำธุระ เธอชี้ว่าตนไม่ได้กำลังเล่นตลกและขอให้เขารีบนำทางไปเหยาฮั่น เยียย่าซีจะเดินทางต่อแต่มู่อวิ๋นห้ามไว้เพราะรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ (ปีศาจต้นไม้เริ่มเคลื่อนไหว) 



เมื่อเยียนเฝิงควบม้าเข้ามาในบริเวณดังกล่าวก็ถูกปีศาจต้นไม้เล่นงาน ในตอนนั้นม้าของเยียนเฝิง ตลอดจนเยียย่าซีและผู้ติดตามต่างถูกปีศาจต้นไม้รัดแน่นและลากตัวไป มู่อวิ๋นพยายามช่วยเหลือเยียย่าซีแต่ช่วยไม่ทัน เยียนเฝิงเห็นดังนั้นจึงช่วยปลดปล่อยเธอจากเงื้อมือปีศาจ เขาเห็นว่าลายปักบนกระเป๋าสะพายของเธอเหมือนภาพวาดที่เสนาบดีมอบให้จึงถามว่าเธอมาจากชางอู๋ใช่หรือไม่ เยียย่าซีคิดว่าเขาเป็นคนร้ายจึงไม่ยอมบอกข้อมูลใดๆ เยียนเฝิงเห็นมู่อวิ๋นกำลังสู้กับปีศาจต้นไม้ก็รู้ได้ทันทีว่าพวกถงเชว่ต้องการขัดขวางไม่ให้คนของชางอู๋ขนเสบียงไปช่วยเหยาฮั่น เมื่อสองหนุ่มเผชิญหน้าก็ตรงเข้าฟาดฟันกันทันที  หลังรู้ตัวว่าหยก "เยียนสุ่ยหลิงอวี้" ถูกปีศาจต้นไม้แย่งชิงไป เยียย่าซีจึงรีบตามไปชิงคืนทำให้ถูกปีศาจต้นไม้จับตัวไปอีกครั้ง เธอจึงร้องบอกมู่อวิ๋น (โดยเรียกเขาว่า "เยียนเฝิง") ให้รีบมาช่วยเธอ เยียนเฝิงได้ยินดังนั้นจึงรีบเข้าไปช่วยก่อนที่เยียย่าซีจะถูกดูดเข้าไปในต้นไม้ ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็ยังไม่วายตกลงไปในโพรงลึกใต้ดิน



หลังฟื้นคืนสติเยียย่าซีเห็นเยียนเฝิงนอนจับแขนตนอยู่จึงคิดว่าเขาเป็นคนชอบฉวยโอกาส เธอเลยทุบสั่งสอนเต็มแรงแต่เยียนเฝิงยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติง ครั้นเห็นหยกของตนตกอยู่ไม่ไกลเธอจึงรีบเดินไปเก็บ  ก่อนหันกลับไปปลุกเยียนเฝิงด้วยการเตะขาเขาสองครั้ง ในตอนแรกเยียย่าซีคิดจะหนีออกจากโพรงตามลำพังแต่เธอกลัวว่าจะถูกปีศาจต้นไม้เล่นงานอีกเลยจำต้องพึ่งพาเยียนเฝิง แม้เธอจะสงสัยว่าเขาอาจเป็นคนร้ายที่หวังแย่งชิงเสบียงแต่เขาเพิ่งช่วยชีวิตเธอ หลังพยายามเรียกให้เยียนเฝิงฟื้นคืนสติแล้วไม่ได้ผล ทั้งยังพบว่าเขาได้รับบาดเจ็บ เยียย่าซีจึงช่วยรักษาแผลให้โดยจับเขาถอดเสื้อแล้วมัดแขนเขาเอาไว้เพื่อความปลอดภัย เมื่อเยียนเฝิงรู้สึกตัวก็พบว่าเยียย่าซีกำลังใส่ยารักษาแผลให้ เขาจึงเปรยว่าที่แท้เธอก็เป็นคนดีและขอให้เธอช่วยแก้มัด แต่เยียย่าซีไม่ไว้ใจเยียนเฝิงเลยไม่ยอมแก้มัดให้

เยียนเฝิงยอมถูกมัดแต่โดยดีและพยายามชวนเธอพูดคุยจนเธอยอมบอกชื่อแซ่ ทั้งแถมยังหลุดปากบอกว่าเธอกำลังเดินทางไปเหยาฮั่น เมื่อเยียย่าซีโวยลั่นว่าเธอโดนหลอกถาม เยียนเฝิงก็ยืนยันว่าตนเป็นคนดีและมาที่นี่เพื่อคุ้มกันคนของชางอู๋ แต่เยียย่าซีไม่เชื่อและคิดว่าเขาต้องการแย่งชิงเสบียงจึงไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก เธอเดินหนีเยียนเฝิงแต่ไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกปีศาจต้นไม้รัดแน่น เยียนเฝิงเห็นดังนั้นจึงแก้มัดให้ตัวเองอย่างง่ายดาย จากนั้นก็รีบสวมเสื้อแล้วตรงเข้าโจมตีปีศาจต้นไม้ก่อนพาเธอหนีออกจากโพรง



เยียนเฝิงเห็นว่าเยียย่าซีทำรองเท้าหายข้างหนึ่งจึงบอกให้เธอรอตนอยู่ที่นี่ เยียย่าซีคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดีจึงไม่อยากรอแต่เธอกลัวปีศาจต้นไม้เลยไม่กล้าหนีไปไหน ในที่สุดเยียนเฝิงก็กลับมาพร้อมรองเท้าข้างที่หายไป  เขาใช้ชายเสื้อของตนเช็ดเท้าให้เยียย่าซีก่อนสวมรองเท้าให้เธออย่างอ่อนโยน เยียย่าซีรู้สึกซาบซึ้งใจจึงยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เขา หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ช่วยกันตามหา "ท่านปู่ซุน" (ชายที่เดินทางมากับเยียย่าซี) ซึ่งถูกปีศาจต้นไม้ลากตัวไป


 


ทันใดนั้น เยียนเฝิงก็ถูกมู่อวิ๋นลอบโจมตีและชิงตัวเยียย่าซีไป หลังได้ยินเยียย่าซีเรียกมู่อวิ๋นว่า "เยียนเฝิง" เองกับหู เขาจึงประณามมู่อวิ๋นที่ไม่เพียงทำร้ายพี่น้องตน แต่ยังกล้าสวมรอยเป็นตนอีกด้วย เยียย่าซีได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตกใจ หลังรู้ตัวว่าโดนหลอกเธอจึงถามมู่อวิ๋นว่าเขาเป็นใครกันแน่ มู่อวิ๋นไม่ตอบและเปิดฉากต่อสู้กับเยียนเฝิงทันที ขณะที่ทั้งคู่กำลังห้ำหั่นกันเหิงอ้ายก็ซัดอาวุธลับขัดขวางไม่ให้มู่อวิ๋นใช้พลังกระบี่เซวียนหยวนทำร้ายเยียนเฝิง มู่อวิ๋นซึ่งได้รับมอบหมายให้มาทำลายเสบียงจึงคิดกำจัดเยียย่าซีเพื่อไม่ให้เธอตกอยู่ในมือแคว้นเหยาฮั่น หลังหลอกล่อเยียนเฝิงและเหิงอ้ายให้หลงกล เขาจึงฉวยโอกาสเล่นงานเยียย่าซีทันที แต่แล้วเขาก็รู้สึกแปลกใจเมื่อถูกพลังจากหยกของเยียย่าซีต้านเอาไว้ แถมหยกยังดูดพลังบางอย่างออกมาจากกระบี่ของมู่อวิ๋นอีกด้วย มู่อวิ๋นแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นหลานอินปรากฏกายตรงหน้า แต่หลังจากนั้นไม่นานวิญญาณของเธอก็ถูกดูดเข้าไปอยู่ในหยกของเยียย่าซี และนั่นก็ทำให้เยียย่าซีรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจ ทันใดนั้น พื้นดินตรงที่เยียย่าซียืนอยู่ก็เริ่มทรุดทำให้เธอตกลงไปในโพรงใต้ดิน มู่อวิ๋นเห็นดังนั้นจึงร้องเรียกหลานอินแล้วกระโดดตามลงไปต่อหน้าเยียนเฝิงกับเหิงอ้าย

*** จบตนที่หนึ่ง ***

* เนื้อหาโดย luvasianseries





รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ

 

จางอวิ๋นหลง
รับบท เยียนเฝิง (หวงฝู่เฉาอวิ๋น)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

อวี๋เหมิงหลง
รับบท สวีมู่อวิ๋น (หวงฝู่มู่อวิ๋น) / ไป๋อี (ชุดขาว)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)


 

กวนเสี่ยวถง
รับบท เยียย่าซี
(นักแสดง ชาวจีน)


 

จางเจียหนิง
รับบท เหิงอ้าย (เทพธิดาเซิงเอ๋อร์)
(นักแสดง ชาวจีน)

*** เซิงเอ๋อร์ เป็นหนึ่งในสี่เทพเซียนที่กลายร่างมาจากเครื่งดนตรีแดนสวรรค์ โดยกลายร่างมาจาก "เซิง" หรืแคนจีน เธอเป็นหนึ่งในสิบยอดขุนพลเฟยอวี่ โดยประจำอยู่หน่วย "อวี่" และเป็นยอดขุนพลลำดับที่เก้า *** 


 

จวีจิ้งอี
รับบท หลานอิน
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน - สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป SNH48)

*** หลานอิน เป็นธิดามังกร "อิ้นหลง" ในตำนาน แต่มาทำหน้าที่สาวใช้ที่จวนแม่ทัพจางหาน เธอเป็นใบ้ แต่ก็เป็นเพื่อนในวัยเด็กและรักแรกของมู่อวิ๋น เธอเสียชีวิตขณะพยายามปกป้องมู่อวิ๋นจากการถูกวิญญาณกระบี่เข้าครอบงำ หลังจากนั้นวิญญาณของเธอก็สิงสถิตอยู่ในกระบี่คู่กายของมู่อวิ๋น ***


 

เกาเหว่ยกวง
รับบท จื่ออีซางรุ่ย (ชุดม่วง)
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)

*** ซางรุ่ย เป็นผู้ก่อตั้ง "ถงเชว่" เขาทั้งฝีมืออ่อนด้อยและร่ายเวทย์มนต์ไม่เป็น แต่เป็นผู้หยั่งรู้ จอมวางแผน และเก่งเรื่องการ (หลอก) ใช้คน ทั้งยังเป็นเชื้อพระวงศ์ของแคว้นเซียวเยว่ โดยเป็นถึงพระเชษฐาของเจ้าครองแคว้น (แต่ไม่สนใจยศฐาบรรดาศักดิ์) เขาถูกจอมมารที่เคยต่อกรกับจักรพรรดิเหลืองเมื่อครั้งโบราณกาลสิงสู่อยู่ในร่างมาเนิ่นนาน หมายหลอมรวมพลังจิตวิญญาณของกระบี่เซวียนหยวนเข้าด้วยกันเพื่อจะได้ยึดครองสามโลก ***

สิบยดนักรบ "เฟยวี่"

 

หลี่จงหลิน
รับบท ซ่างจาง (น้องชายตวนเหมิง)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวไต้หวัน)


 

ไต้ซือ (มู่เค่อไต้ซือ คู่เอ่อร์ปัน)
รับบท ตวนเหมิง (หัวหน้าหน่วย "เฟย")
(นักแสดง ชาวจีน - เป็นชาวเมืองอุรุมชี (อูหลู่มู่ฉี) เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์)


 

เยี่ยนซี
รับบท ถูเหว่ย
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เกาไท่อวี่
รับบท โหยวจ้าว
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)


 

อู๋ซวี่ตง
รับบท เฉียงอู๋
(นักแสดง ชาวจีน)


 

สวีหยาง
รับบท จู้หลี
(นักแสดง ชาวจีน)


 

จูเจียฉี
รับบท เจาหยาง
(นักแสดง ชาวจีน)


 

จ้าวเจิ้นถิง
รับบท ซางเหิง
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)

หกยอดฝีมือ "ถงเชว่"

 

หวังรุ่ยจื่อ
รับบท ชื่ออีชิ่งเอ๋อร์ (ชุดแดง)
(นักแสดง ชาวจีน)

*** ชิ่งเอ๋อร์ เป็นหนึ่งในสี่เทพเซียนที่กลายร่างมาจากเครื่งดนตรีแดนสวรรค์ โดยเธอกลายร่างมาจาก "เปียนชิ่ง" หรือ "ระฆังหิน" *** 


 

จางจวิ้นหมิง
รับบท หวงอีก่วนซื่อ (ชุดเหลือง)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

ตานซือหาน
รับบท ชิงอีจิ่วโยว (ชุดเขียว)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

ถังกั๋วจง
รับบท อูอีหานหลง (ชุดดำ)
(นักแสดง / นายแบบ ชาวไต้หวัน)

อื่นๆ

 

กานถิงถิง
รับบท เทพธิดาแห่งเขาอูซาน
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หม่าเต๋อจง
รับบท จางหาน (แม่ทัพใหญ่ของเซียวเย่ว / อาจารย์ของมู่อวิ๋น)
(นักแสดง ชาวฮ่องกง)


 

จ้าวเหวินเซวียน
รับบท กงหยางซั่ว
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)


 

โจวไห่เม่ย
รับบท กู้อวี่เซียง
(นักแสดง ชาวฮ่องกง)


 

หลูซิงอวี่
รับบท โตวเหวินสื่อ
(นักแสดง ชาวจีน)







* ดูคลิปเบื้งหลังได้ ที่นี่
* ดูละครย้อนหลังทาง youtube/9 MCOT Official ได้ ที่นี่

*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา