วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เรื่องย่อ รักมั้ยนะ เลขาคิม? (What's Wrong with Secretary Kim?)




กำกับ: ปาร์ค จุนฮวา
เขียนบท: แพค ซอนอู, ชเว โบริม
แนวละคร: โรแมนติก, คอมเมดี้, ดราม่า
จำนวนตอน: 16
ออกอากาศ: เกาหลี - 6 มิถุนายน 2561 - 26 กรกฎาคม 2561 ทางทีวีเอ็น
                    ไทย - ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15-21.45 น. ทางพีพีทีวี (หมายเลข 36) ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2561 - 25 ตุลาคม 2561


 


เรื่องย่อ



ละคร "รักมั้ยนะ เลขาคิม?" (What's Wrong with Secretary Kim?) ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเรื่องเดียวกันของ "ชง คยงยุน" ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่ปี พ.ศ. 2556 และถูกนำมาทำเป็นซีรีส์การ์ตูนบนคาคาโเพจเมื่ปี 2558

เนื้หาในละครกล่าวถึง "ลี ยองจุน"งประธานกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่วัย 33 ปี ที่ทั้งฉลาด รูปหล่ หุ่นดี ร่ำรวย มีความสามารถในการบริหารงานเป็นเลิศ และพูดได้ 5 ภาษา แต่หลงตัวเงสุดๆ จนละเลยความรู้สึกคนอื่ ทั้งยังตีความทุกย่างเข้าข้างตนเงเลยไม่รู้เห็นและไม่เข้าใจสถานการณ์จริงที่ยู่ตรงหน้า ซ้ำยังไม่สนใจในสิ่งที่เลขาขงเขาพยายามบกมาโดยตลด เขาไม่เคยรักใคร ไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับหญิงคนไหน และไม่ยมให้ผู้หญิงเข้าใกล้  ยกเว้น "คิม มีโซ" สุดยดเลขานุการ วัย 29 ปี ซึ่งอุทิศตนทำงานย่างหนักให้เขามาตลด 9 ปี (เธไม่มีทางเลืกเพราะต้แบกรับภาระและหนี้สินก้นโตขงทางบ้าน) เธเป็นเลขามากฝีมืที่ขยัน อึด อดทน และมีใบหน้าเปื้ยิ้มตลดเวลา แต่แล้วยู่ๆ เธอก็ประกาศว่าจะลาอกทำให้ยองจุนถึงกับช็ค เขาไม่เคยนึกฝันว่าคนที่ได้รับกียรติให้มาเป็นเลขาส่วนตัวขงเขา แถมเงินเดือนและสวัสดิการยังดีที่สุดในแวดวงเลขาฯ จะยมทิ้งทุกสิ่งย่างแล้วไปจากเจ้านายที่สุดแสนเพร์เฟ็คอย่างเขา เขาจึงสงสัยว่าเกิดะไรขึ้นกับเลขาคิมกันแน่ และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่รั้งเธไว้

เนื้หาตนที่ 1


"ลี ยองจุน" ไปร่วมงานปาร์ตี้ริมสระน้ำที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง เขาเป็นที่รู้จักขแขกที่มาร่วมงานในฐานะงประธานหนุ่มแห่งยู-มยองกรุ๊ป ผู้ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีกำไรเพิ่มขึ้นเป็นสงเท่าหลังเข้ารับตำแหน่ง เลยได้ขึ้นทำเนียบซีอีอที่ายุน้ยและประสบความสำเร็จมากที่สุด ทั้งยังเพียบพร้มไปด้วยรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติจนเหล่าบรรดาชายหนุ่มอิจฉา เมื่หญิงสาวคนหนึ่งพูดถึงข่าวลือที่ว่ายองจุนไม่ยมให้ผู้หญิงเข้าใกล้  นางแบบสาว "โอ จีรัน" จึงปฏิเสธข่าวลืดังกล่าวโดยบกว่าเธเพิ่งคบกับยองจุนเมื่ไม่นานมานี้ ถึงกระนั้นก็ยมรับว่าเขารักษาระยะห่างกับเธอจริง ครั้นไปถึงบริเวณงานยองจุนปลีกตัวไปนั่งตามลำพังโดยไม่สนใจใคร (รวมทั้งจีรัน) จากนั้นก็นั่งกลุ้มพลางครุ่นคิดว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ หลังคิดไม่ตกเขาจึงรำพึงรำพันกับตัวเงว่า...เกิดะไรขึ้นกับเลขาคิมกันแน่?



ย้นกลับไปยังเหตุการณ์ก่นหน้า "เลขาคิม" ไปที่บ้านยองจุนแต่เช้าเพื่อจัดเตรียมน้ำชา เลืกเครื่งแต่งกาย ผูกเน็คไท และดูแลความเรียบร้ยขงเสื้อผ้าหน้าผมให้เขา หลังมองตัวเองในกระจก ยองจุนก็เอ่ยปากชมตัวเองที่ดูดีจนร่าเปล่งประกายเจิดจ้า เลขาคิมได้แต่ยิ้มและเห็นด้วย พรู้ว่าผอ.คิมโทรฯ มา ยองจุนก็บเลขาคิมว่าไม่ต้งรับสาย เขารู้ว่าอ.คิมจะแจ้งเรื่การเจรจาธุรกิจที่เวียดนามไม่ประสบความสำเร็จ เลยเลขาคิมว่าตนไม่ยากรับสาย 'คนผิดบาป' ให้เสียารมณ์ จากนั้นก็ชี้ว่าคนที่ไร้ความสามารถแล้วยังไม่รู้ตัวนับเป็นความผิดบาปย่างหนึ่ง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราถึงปล่ยให้ตัวเงไร้ประสิทธิภาพได้ขนาดนี้ แค่ขยันและทำมันให้สำเร็จ เรื่งง่ายๆ แค่นี้ทำไมถึงทำกันไม่ได้ เลขาคิมชี้ "ใช่ว่าทุกคนจะเหมืนคุณนี่คะ...งประธาน" (ยองจุนยืดอกรับคำชม) "ตั้งแต่เกิดมาชั้นยังไม่เคยเห็นใครสมบูรณ์แบบเหมืนคุณเลยค่ะ...ท่านงฯ" (ยองจุนยิ้มอย่างพึงพอใจ) ทันใดนั้นก็มีสายเข้าอีกครั้ง เมื่เลขาคิมแจ้งว่าเป็นสายขง 'คนบาปหนา' ยองจุนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่



เมื่อไปถึงบริษัทฯ เลขาคิมก็ตามยองจุนไปที่ห้องอ.โจ (คนบาปหนา) ทันทีที่เห็นยองจุน อ.โจรีบแก้ตัวว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด ยองจุนตำหนิอ.โจที่แอบไปสถานบริการทางเพศในเวลางาน เป็นเหตุให้มีคนนำเรื่องดังกล่าวมาแฉบนโลกโซเชียล (แม้ไม่ระบุชื่อแต่บอกใบ้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่) จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ทำให้ภาพลักษณ์ผู้บริหารและกลุ่มบริษัทฯ เสียหาย หลังตำหนิอ.โจแล้ว ยองจุนก็หันมาถามตารางงานเลขาคิม เลขาคิมแจ้งว่าเขาต้องเข้าประชุมบอร์ดบริหารเรื่องการขยายธุรกิจใหม่ ยองจุนจะจุดบุหรี่สูบแก้กลุ้มแต่เลขาคิมดึงบุหรี่ออกจากปากเขาพลางเตือนว่าห้ามสูบบุหรี่ในอาคาร ยองจุนยอมเชื่อฟังแต่โดยดี เขาหันกลับไปมองอ.โจครู่หนึ่งก่อนเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดจา

อ.โจพยายามร้องขอความเมตตาจากยองจุนแต่ไม่เป็นผล เขาจึงได้แต่ทรุดตัวร่ำไห้  เลขาคิมเห็นดังนั้นจึงเข้าไปปลอบใจ และชี้ว่าโครงการที่อ.โจรับผิดชอบถูกยกเลิก แถมยังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาอีก ท่านรองเลยโกรธเพราะตั้งความหวังในตัวอ.โจไว้สูงมาก ประกอบกับท่านรองต้องใช้ความพยายามไม่น้อยในการลบชื่อบริษัทออกจากข่าวฉาวของอ.โจ เลขาคิมบอกให้อ.โจจดจำบทเรียนในครั้งนี้แล้วเริ่มต้นใหม่ให้ดีกว่าเดิม จากนั้นก็แนะให้เขากลับไปพักผ่อนที่บ้าน เมื่ออ.โจกลับไปแล้วเลขาอิม (เลขาอ.โจ) จึงถามว่าอ.โจยังทำงานที่นี่ต่อได้ใช่ไหม  เลขาคิมไม่ตอบแต่กลับโทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาเก็บของที่ห้องทำงานของอ.โจ จากนั้นจึงหันไปถามเลขาอิมว่า "เคยเห็นรองประธานให้โอกาสคนเป็นครั้งที่สองด้วยเหรอคะ" 


ขณะประชุมผู้บริหาร "ปาร์ค ยูชิก" (ผู้บริหารระดับสูงและเพื่นสนิทขยองจุน) นำเสนแผนเข้าซื้กิจการสายการบินนานาชาติที่มีผลประกบการเป็นอันดับสามขงเกาหลี โดยจะผลักดันให้เป็นสายการบินอันดับหนึ่งขงประเทศและติดอันดับท็ปเท็นขงโลกภายใน 5 ปี หลังยูชิกชี้แจงงบการเงินโดยระบุว่าปัจจุบันสินทรัพย์หมุนเวียนงสายการบินดังกล่าวยู่ที่ 2,024 ล้านล้านวอน (ราว 58.5 หมื่นล้านบาท) ส่วนหนี้สินหมุนเวียนอยู่ที่ 9.4 แสนล้านวอน (ราว 2.7 หมื่นล้านบาท)  ดังนั้น อัตราส่วนสภาพคล่องทางการเงินจึงยู่ที่ประมาณ  275 เปอร์เซ็นต์ ยองจุนได้ยินดังนั้นจึงแย้งทันทีว่าอัตราส่วนสภาพคล่องทางการเงินที่ถูกต้องคือ 215.319149 เปอร์เซ็นต์ ทำเอาเหล่าผู้บริหารที่เข้าร่วมการประชุมถึงกับอึ้ง ถึงกระนั้นเขาก็บอกให้ยูชิกเดินหน้าทำตามแผนและออกจากห้องไป บรรยากาศอันตึงเครียดในห้องประชุมจึงผ่อนคลายลงทันที หลังได้ยินเหล่าผู้บริหารพากันบ่นว่ายองจุนเคร่งเครียดจริงจังเกินไปจนทำให้พวกตนหวาดผวา ยูชิกจึงแกล้งหลกว่ายองจุนเดินกลับเข้ามาในห้อง ทุกคนเลยรีบลุกขึ้นยืนโดยพร้อมเพรียงกัน ครั้นพอรู้ว่าโดนหลอกผู้บริหารคนหนึ่งจึงบ่นว่ายูชิกคงไม่อยากให้พวกตนพูดลับหลังยองจุนในทางไม่ดี เพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน


เลขาคิมพูดภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์อย่างคล่องแคล่ว โดยบอกปลายสายว่ายองจุนได้รับเชิญไปงานเลี้ยงส่วนตัวของสถานทูตสเปน เธอจึงขอติดต่อกลับเพื่อทำการนัดหมายใหม่ในวันรุ่งขึ้น ยองจุนได้ยินดังนั้นจึงชมว่าภาษาอังกฤษของเลขาคิมดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับเก้าปีก่อนตอนที่พวกตนไปอเมริกาด้วยกันครั้งแรก ซึ่งในตอนนั้นเธอแทบสื่อสารกับชาวต่างชาติไม่ได้เลย เลขาคิมกล่าวว่าทั้งหมดเป็นเพราะท่านรองฯ ช่วยชี้แนะ ยองจุนเห็นด้วยและกล่าวว่าตนคอยช่วยเหลือเธออย่างจริงจังมาโดยตลอด เลขาคิมเสริมว่าทุกครั้งที่เธอพูดผิดหรือออก "accent" (สำเนียง) ผิดเพี้ยน เขาจะทักให้เธออับอายหรือไม่ก็ตำหนิอย่างแรง และนั่นก็เป็นแรงผลักดันให้เธอเร่งพัฒนาตนเอง ยองจุนไม่รู้ว่ากำลังโดนเลขาคิมเหน็บ ซ้ำยังคิดไปเองว่าการตำหนิหรือทำให้อับอายช่วยพัฒนาเลขาคิมได้ เขาจึงตัดสินใจว่าจะใช้วิธีนี้กับเธอต่อไป จากนั้นก็ชี้ว่าก่อนหน้านี้เลขาคิมเพิ่งพูดคำว่า "accent" ผิด และออกเสียงที่ถูกต้องให้ฟัง



คืนนั้นเลขาคิมกับยองจุนควงคู่กันไปร่วมงานเลี้ยงสุดหรูของสถานทูตสเปน เลขาคิมสวมเดรสสีแดงสุดหรู ส่วนยองจุนสวมทักซิโด้ราคาแพง เลขาคิมคอยแนะให้ยองจุนทักทายแขกคนสำคัญโดยเริ่มจากท่านทูตสเปนคนใหม่ ยองจุนจึงเข้าไปทักทายและแสดงความยินดีเป็นภาษาสเปน หลังจากนั้นยองจุนก็พูดแนะนำบริษัทของตนเป็นภาษาต่างๆ กับแขกเหรื่อชาวต่างชาติที่มาร่วมงาน สามสาวชาวเกาหลีเห็นยองจุนแล้วต่างพากันชื่นชมในเสน่ห์อันล้นเหลือ พวกเธอรู้สึกตื่นเต้นเมื่อยองจุนทำท่าเหมือนจะเดินมาหาพวกเธอ แต่แล้วเขากลับเดินผ่านเลยไปและหยุดยืนตรงหน้ากระจกเพื่อตรวจสอบความหล่อของตน เลขาคิมเห็นดังนั้นจึงเข้าไปเตือนว่าท่านทูตรออยู่ ยองจุนถามโดยไม่ละสายตาจากกระจกว่า ตอนนี้ตนดูเป็นไงบ้าง เมื่อเลขาคิมยืนยันว่าเขาสมบูรณ์แบบสุดๆ ยองจุนจึงละสายตาจากกระจกแล้วเดินตามเลขาคิมไป




ขณะเดินทางกลับ ยองจุนอดสงสัยไม่ได้ว่าเลขาคิมพูดภาษาสเปนได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ (เขาเห็นเธอยืนคุยกับหนุ่มสเปนที่เข้ามาจีบตั้งนาน) เลขาคิมสารภาพว่าเธอไม่รู้ภาษาสเปน ก่อนชี้ว่าเธอทำงานให้เขาทั้งวันแล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปเรียน ขนาดภาษาอังกฤษกับภาษาจีนยังหาเวลาเรียนไม่ได้ เธอแค่ใช้ไหวพริบนิดหน่อยโดยสังเกตภาษากายของพวกเขา แต่ถ้าใครรุกหนักเธอจะแกล้งโชว์แหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย (ซึ่งได้มาจากการแข่งขันกีฬา) เพื่อให้เขาเลิกยุ่งกับเธอ ยองจุนได้ยินดังนั้นจึงยิ้มอย่างพึงพอใจและชมว่าเธอสุดยอดมาก เลขาคิมไม่นึกฝันว่าจะได้รับคำชมจากเจ้านาย ยองจุนจึงแสดงความยินดีกับเธอที่ได้รับคำชม เขากล่าวว่าวันนี้เธอทำดีมาก ไม่ว่าเธออยากได้อะไรเขาจะให้เธอทุกอย่าง และจะไม่ยอมรับคำปฏิเสธของเธอ เลขาคิมกล่าวว่าเธอมีเรื่องจะบอก ยองจุนจึงพูดดักคอว่าห้ามสารภาพรักโดยเด็ดขาด และย้ำว่าพวกตนใกล้ชิดกันเพราะเรื่องงานเท่านั้น ยองจุนแทบไม่เชื่อหูเมื่อเลขาคิมบอกให้เขาเตรียมหาเลขาคนใหม่...เพราะเธอกำลังจะลาออก เขาถามว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจลาออกกระทันหัน เลขาคิมอ้างว่าเป็นเหตุผลส่วนตัว เขาจึงกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่าหากเธอต้องการเช่นนั้นก็ตามใจ แม้จะทำเหมือนไม่แคร์แต่คืนนั้นยองจุนกลับนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย และได้แต่สงสัยว่าทำไมตนจึงหลับไม่ลง



เช้าวันรุ่งขึ้น "ชอง ชีอิน" นำข่าวเด็ดเรื่เลขาคิมจะลาออกมาบกเพื่นร่วมงาน แต่กลับไม่มีใครเชื่เขาสักคนด้วยเห็นว่าเลขาคิมได้รับความไว้วางใจจากรงประธานเป็นย่างมาก เมื่อเลขาคิมมาถึงจึงยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง ทุกคนต่างพากันสงสัยว่าทำไมอยู่ๆ เธอก็ลาออกและพากันคาดเดาเหตุผลไปต่างๆ นานา (เช่น ลาออกไปแต่งงาน ได้งานใหม่ เรียนต่อเมืองนอก หรือถูกท่านรองฯ เหวี่ยงใส่) แต่เลขาคิมปฏิเสธว่าไม่ใช่ทั้งหมด โดยบอกเพียงว่าเป็นเหตุผลส่วนตัว เมื่อยองจุนมาถึงเลขาคิมก็รีบไปเตรียมน้ำชาและอาหารว่างในห้องแพนทรี่ "บง เซรา" (หัวหน้าบง) จึงชวน "ลี ยอง-อก" ตามไปคุยกับเลขาคิม เซราคอยจับตาดูวิธีจัดเตรียมอาหารว่างให้ยองจุน เพราะคิด (ไปเอง) ว่าเธอจะได้ทำหน้าที่แทนเลขาคิม เธอเห็นว่ายองจุนให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของเลขามาก นอกจากเลขาคิมแล้ว ทั้งออฟฟิศก็มีเพียงเธอที่คู่ควรกับตำแหน่งนี้ หลังโดนเซราเหน็บว่าหน้าตางั้นๆ ยอง-อกก็เดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องด้วยความโกรธ ส่วนเลขาคิมฉวยโอกาสเดินหนีตอนที่เซราหันไปมองนาฬิกาพลางมโนว่าอีกหน่อยเธอคงต้องมาทำงานเร็วขึ้นเพราะงประธานมาถึงออฟฟิศตอนเจ็ดโมง



เลขาคิมยกอาหารว่างไปวางบนโต๊ะยองจุน ครั้นเห็นยองจุนทิ้งตัวลงบนเก้าอี้แล้วมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด เธอจึงพิมพ์ข้อความลงบนโทรศัพท์ทันที ยองจุนเดาว่าเลขาคิมต้องการเปลี่ยนเก้าอี้ให้ตนและโม้ว่าตนล่วงรู้ความคิดของเลขาคิม เขาถามเลขาคิมว่าเธอคงไม่คิดลาออกจริงๆ ใช่ไหม เลขาคิมตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่าคราวนี้เขาเดาผิด  ยองจุนถามต่อว่าเป็นเพราะตนใช้งานเธอหนักเกินไปและมักให้เธอทำงานจนดึกดื่นโดยไม่เว้นแม้กระทั่งวันหยุดใช่ไหม เลขาคิมไม่ตอบและตัดบทว่าเธอจะรีบลงประกาศรับสมัครงาน โดยให้คำมั่นว่าจะสรรหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดมาให้ยองจุนเลือกและสัมภาษณ์รอบสุดท้าย ยองจุนหมดปัญญายื้อจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

เลขาคิมพิมพ์คุณสมบัติและคำบรรยายลักษณะงานของเลขาที่ต้องการ จากนั้นก็โพสต์ลงอินเตอร์เน็ต ครั้นเงยหน้าขึ้นเธอก็รู้สึกตกใจเมื่อเห็นยองจุนยืนอยู่ตรงหน้า ซ้ำยังจ้องมองเธอด้วยท่าทางเอาเรื่อง แต่แล้วเขากลับบอกเพียงว่าตนจะไปพบผอ.ปาร์ค (ยูชิก) จึงขอให้เธอช่วยเลื่อนการประชุมเป็นช่วงบ่าย และวันนี้ตนจะทานมื้อกลางวันที่บ้านใหญ่ (บ้านพ่อแม่) ดังนั้นเธอเตรียมอาหารกลางวันให้ตัวเองก็พอ เลขาคิมดีใจมากที่มีเวลาส่วนตัวกับเขาเสียทีถึงแม้จะเป็นเพียงชั่วเวลาสั้นๆ ก็ตาม เธอจึงรีบออกจากออฟฟิศโดยไม่สนใจเซราที่ลงทุนซื้ออาหารมาประจบประแจง



ยองจุนไปที่ห้องทำงานของยูชิก และยังคงครุ่นคิดหาสาเหตุว่าทำไมอยู่ๆ เลขาคิมถึงต้องการลาออกจากงาน แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกทั้งๆ ที่ปกติแล้วเขามักมองเธอทะลุปรุโปร่ง ยูชิกเห็นเพื่นสมงไม่แล่นจึงเปิดตู้เซฟแล้วนำเจลลี่โสมแดงมาให้ยองจุนทาน  ยองจุนปฏิเสธโดยอ้างว่าในนั้นอุดมไปด้วยน้ำตาลและมีปริมาณโสมแดงเพียงน้อยนิด ใจของเขาจดจ่ออยู่กับการหาคำตอบว่าทำไมอยู่ๆ เลขาคิมถึงคิดลาออก เขาจึงมาหายูชิกหมายให้ช่วยกันขบคิด ยูชิกถามยองจุนว่า เขาไม่รู้จริงๆ หรือว่าการที่เลขาคิมอดทนทำงานอย่างหนักให้เขามานานถึงเก้าปีนับเป็นเรื่องเหลือเชื่อมาก ผู้หญิงอย่างเธอถ้าไม่ใช่พระโพธิสัตว์หรือก็ต้องเป็นนักบุญ

ยูชิกกล่าวว่าเมื่อถึงเวลาอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เขาชี้ว่าความสัมพันธ์คนเรามักแย่ลงเรื่อยๆ ทุก 3-6-9 ปี (อาถรรพ์รัก) เขายกตัวอย่างชีวิตคู่ระหว่างตนเองกับภรรยาที่เดิมรักกันมากแต่จืดจางลงหลังครบรอบปีที่สาม แย่ลงปีที่หก จบลงปีที่เก้า สุดท้ายก็หย่าร้างกันในปีที่สิบ ยองจุนเห็นยูชิกน้ำตาซึมหลังพูดถึงดีตภรรยาจึงห้ามไม่ให้เขาร้งไห้และขอให้พูดเข้าประเด็น ยูชิกกล่าวว่าแอปเปิ้ลที่มีรอยช้ำเพียงแค่เฉือนบริเวณที่ช้ำออกก็ยังคงทานส่วนที่เหลือได้ แต่คนเรามักเลือกหยิบลูกอื่นๆ ที่สภาพดีกว่ามากินแทน เมื่อทิ้งแอปเปิ้ลที่มีรอยช้ำไว้กับแอปเปิ้ลลูกอื่นๆ ที่อยู่ในสภาพดี แอปเปิ้ลทั้งหมดจะพลอยช้ำและเน่าในที่สุด เขาชี้ว่าก่อนที่ความสัมพันธ์ระหว่างยองจุนกับเลขาคิมจะเป็นเหมือนแอปเปิ้ลเน่า ยองจุนควรรีบปรับความเข้าใจและเอาชนะใจเลขาคิมให้ได้ ยองจุนทวนคำว่า 'เอาชนะใจ' เขาครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนดีดนิ้วแล้วบอกว่าไม่ยาก จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป



เลขาคิมใช้เวลาว่างช่วงพักกลางวันไปชำระหนี้เงินกู้งวดสุดท้ายที่ธนาคารและเผลอลงชื่อ "เลขาคิม" แทนที่จะเป็น "คิม มีโซ" ทันใดนั้นโทรศัพท์ขงเธก็ดังขึ้น ปรากฏว่ายองจุนโทรฯ มาบอกให้เธอไปทานข้าวกลางวันที่บ้านใหญ่ด้วยกัน เลขาคิมจึงรีบวิ่งกลับไปที่บริษัททันที แม้จะเหนื่อยแทบขาดใจและหายใจแทบไม่ทัน แต่พอไปถึงเธอก็ปั้นหน้ายิ้มและไม่แสดงท่าทีเหนื่อยหอบให้ยองจุนเห็น ขณะอยู่ในรถเลขาคิมอดถามไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนใจให้เธอไปด้วย ยองจุนเผลอตอบว่า "เอาชนะใจ" ก่อนนิ่งเงียบไป (เขากำลังครุ่นคิดว่าจะเอาชนะใจเธออย่างไรดี) 




เมื่อไปถึงบ้านพ่อแม่ยองจุนก็เตือนเลขาคิมว่าเขาไม่เคยให้โอกาสครั้งที่สองกับใคร แต่เขาจะมอบโอกาสนั้นให้เธอเป็นกรณีพิเศษ มันเป็นโอกาสเดียวในชีวิตดังนั้นเธอควรซาบซึ้งใจ หลังจากนั้นยองจุนก็ยื่นข้อเสนอเป็นชุดโดยไม่เปิดโอกาสให้เลขาคิมโต้แย้ง เขาบอกว่าจะเลื่อนตำแหน่งให้เธอเป็นถึงระดับผอ. หากเธองานล้นมือเขาจะจ้างคนมาเป็นผู้ช่วย และจะมอบรถประจำตำแหน่งให้เธอหนึ่งคัน ถ้าหากเธอต้องการเขาจะควักกระเป๋าซื้อบ้านให้และจะช่วยปลดหนี้ทั้งหมดที่มีให้เธอ ดังนั้นขอให้ขยันทำงานต่อไป รับรองว่าไม่มีที่ไหนให้เธอได้เท่านี้ ที่สำคัญไม่ว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหนก็ไม่มีวันเจอเจ้านายสุดแสนเพอร์เฟ็คอย่างตน ต่อให้เธอรีบตะครุบข้อเสนอทั้งหมดที่ว่ามาตนจะไม่ว่าเธอสักคำ ดังนั้นจงรับมันไว้แล้วทำงานกับตนต่อไป เลขาคิมพยายามปฏิเสธมาตั้งแต่ต้นแต่ไม่มีโอกาสพูด ครั้นยองจุนพูดจบ  "ชเว ยอซา" (แม่ของยองจุน) ก็เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน


ขณะนั่งร่วมโต๊ะอาหาร เลขาคิมช่วยจัดเน็คไทให้ยองจุน "ประธานลี" และยอซาเห็นดังนั้นก็ยิ้มด้วยความปลาบปลื้ม ประธานลีบ่นยองจุนที่ไม่ค่อยกลับบ้านทำให้ตนแทบไม่เห็นหน้ายองจุนทั้งที่ทำงานตึกเดียวกัน ยองจุนอ้างว่าตนกำลังยุ่งเรื่องผอ.โจ ประธานลีแย้งว่าผอ.โจเป็นคนมีความสามารถ ต้องทำกันขนาดนั้นเลยหรือ ยองจุนชี้ว่าภาพลักษณ์องค์กรเสียหายในชั่วพริบตา ในเมื่อพ่อมอบหมายให้ตนดูแลบริษัท ตนก็จะจัดการตามที่เห็นเหมาะสม ประธานลีฟังแล้วได้แต่นั่งอ้าปากค้าง ขณะที่ยอซารีบให้ท้ายยองจุน (ดูเหมือนทั้งคู่พยายามยิ้มแย้มต่อหน้ายองจุน ราวกับต้องการกลบเกลื่อนความจริงบางอย่าง) อยู่ๆ ยองจุนก็ถามพ่อกับแม่ว่าความรักของทั้งคู่จืดจางลงบ้างไหม ประธานลีได้ยินแล้วถึงกับสำลักน้ำ ยอซาแอบหลิ่วตาให้ประธานลีก่อนปฏิเสธเป็นพัลวัน และกล่าวว่าทุกปัญหาแก้ได้ด้วยการเปิดอกคุยกัน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พร้อมใจกันหัวเราะแบบไม่มีเหตุผล ยอซาเปรยว่าดูเหมือนยองจุนจะสูงขึ้น ยองจุนชมว่าที่ตนสมบูรณ์แบบได้ขนาดนี้เป็นเพราะแม่ให้มา เพราะอย่างนี้ตนจึงนับถือแม่มาก ประธานลีจ้องหน้ายองจุนหมายรอรับคำชมแบบเดียวกัน แต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อยองจุนแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้


หลังทานอาหารกลางวัน ยองจุนรายงานความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ให้ประธานลีทราบ ยองจุนเห็นบิดานั่งใจลอยจึงร้องเรียก ประธานลีแกล้งทำเป็นไอกลบเกลื่อน แต่ยองจุนรู้ทันจึงถามว่ามีะไรจะพูดกับตน ประธานลีถามว่ายองจุนไม่คิดที่จะแต่งงานจริงๆ หรือ ยองจุนตอบทันควันว่าใช่ ประธานลีเลยเอามือจับหน้าอกข้างซ้ายแล้วทำท่าเหมือนคนป่วยหนัก จากนั้นก็บอกยองจุนว่าตนเหลือเวลาอีกไม่นาน ยองจุนแย้งว่าตนเห็นผลตรวจสุขภาพของพ่อแล้ว และในนั้นก็ระบุชัดว่าสุขภาพของพ่อแข็งแรงดี แม้จะถูกจับได้ว่าโกหกแต่ประธานลีไม่ยอมรับทั้งยังอ้างว่าตนรู้จักร่างกายตนเองดีกว่าใคร เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเหมือนคนอ่อนแรงว่าสิ่งเดียวที่ตนต้องการก่อนตายคือการได้อุ้มหลาน ตนไม่เคยตั้งมาตรฐานว่าที่ลูกสะใภ้เลยด้วยซ้ำ อยู่ๆ ประธานลีก็ตะคอกถามยองจุนว่าเลขาคิมจะลาออกใช่ไหม ยองจุนยืนยันหนักแน่นว่าไม่มีทางเป็นเช่นนั้นแน่


ขณะดื่มชา ยอซาเลียบๆ เคียงๆ ถามเลขาคิมเรื่องผู้หญิงของยองจุน เธอได้ยินว่ายองจุนมักควงผู้หญิงไปออกงานไม่ซ้ำหน้า แต่ไม่ยอมสานต่อความสัมพันธ์หรือคิดจริงจังกับใครเลยถูกมองว่าเป็นการจัดฉากสร้างภาพ แถมยองจุนยังไม่ยอมให้ผู้หญิงแตะเนื้อต้องตัวอีกด้วย เธอจึงอยากรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงใช่ไหม เมื่อเลขาคิมยืนยันว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง เธอเลยสงสัยว่ายองจุนอาจเป็นเกย์แต่ไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ เลขาคิมรู้ว่ายอซากังวลเรื่องอะไรจึงยืนยันว่ายองจุนไม่ได้เป็นเกย์แน่นอน เธอรู้เรื่องนี้ดีเพราะทำงานให้เขามานาน ยอซาได้ยินดังนั้นก็โล่งใจ

ยอซายอมรับว่าตนกับประธานลีเป็นห่วงยองจุนในเรื่องนี้มาก เพราะนอกจากเลขาคิมแล้วเขาไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ แต่พวกตนไม่สามารถพูดหรือถามตรงๆ ได้ เธอถามเลขาคิมว่ายองจุนในสายตาผู้หญิงเป็นอย่างไร เลขาคิมตอบว่าเขาเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบจนหาที่ติไม่ได้ ยอซาได้ยินแล้วรู้สึกปลาบปลื้มแต่ยังไม่วายอดเป็นกังวลที่จนป่านนี้ลูกชายตนยังไม่มีแฟนเสียที เธอหวังว่ายองจุนจะมีคนคอยดูแล ใครสักคนที่เหมือนกับเลขาคิม แม้ยอซาจะออกตัวว่าตนแค่พูดเล่นขำๆ แต่เธอกลับพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า ถ้ามีใครเหมือนเลขาคิมตนจะยกยองจุนให้ทันที พูดจบเธอก็หัวเราะกลบเกลื่อนพลางบอกว่าตนล้อเล่น แต่เลขาคิมไม่ขำด้วย ถึงกระนั้นเลขาคิมก็พยายามฝืนยิ้ม โชคดีที่ยองจุนมาตามเธอกลับก่อนที่เธอจะรู้สึกอึดอัดมากไปกว่านี้


ขณะเดินไปขึ้นรถ ยองจุนถามเลขาคิมว่าแม่ของตนทำให้เธอลำบากใจใช่ไหม เลขาคิมยอมรับและบอกว่าแม่ของเขาเหมือนพยายามจับคู่พวกตน ยองจุนเก๊กหล่อก่อนถามว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นไหมที่โดนจับคู่กับตน เลขาคิมปฏิเสธทันควัน เธอกล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้เธอแน่ใจแล้วว่าตนเองตัดสินใจถูก เธอต้องรีบลาออกโดยเร็วที่สุดเพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ยองจุนได้ยินดังนั้นก็ถึงกับอึ้งเพราะนึกว่าพวกตนคุยกันรู้เรื่องแล้ว เลขาคิมยอมรับว่าข้อเสนอของเขายิ่งใหญ่และสุดยอดมาก แต่เธอยืนยันคำเดิมว่าจะลาออกและจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ ยองจุนนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนเตือนเลขาคิมว่าอย่าปลุกนิสัยชอบเอาชนะของตน


หลังเลิกงาน เลขาคิมไปนั่งทานอาหารปิ้งย่างกับ "คิม พิลนัม" และ "คิม มัลฮี" ผู้เป็นพี่สาว แต่เธอยังคงติดนิสัยเลขาจึงลงมือทำเองทุกขั้นตอนโดยให้พี่ทั้งสองรอคีบหนังหมูย่างเข้าปากอย่างเดียว ครั้นเห็นพี่ๆ แลดูอ่อนล้าเธอจึงถามว่างานที่โรงพยาบาลหนักมากเลยหรือ ทั้งคู่เห็นน้องสาวคนเล็กคอยใส่ใจดูแลพวกตนจึงยิ่งรู้สึกผิด (เลขาคิมเป็นคนหาเงินส่งเสียพี่ๆ เรียนหนังสือ และใช้หนี้ทางบ้าน) พิลนัมกล่าวว่าตนเป็นพี่คนโตแท้ๆ แต่กลับไม่ได้เป็นฝ่ายดูแลน้องสาว นอกจากจะเห็นแก่ตัวแล้วยังเป็นภาระให้อีก เลขาคิมแย้งว่าพอพี่ๆ เริ่มทำงานก็เจียดเงินเดือนมาช่วยตนใช้หนี้ อย่างน้อยพี่ๆ ก็ไม่ขยันสร้างเรื่องเดือดร้อนให้ตนเหมือนพ่อ พี่ทั้งสองได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตกใจจึงถามว่าพ่อก่อเรื่องอะไรอีก พอรู้ว่าพ่อไปกู้เงินนอกระบบมา 30 ล้านวอน (ราว 8.7 แสนบาท) เมื่อตอนต้นเดือน พิลนัมก็รู้สึกอ่อนใจ ส่วนมัลฮีถามว่าทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้ เลขาคิมกล่าวว่าตนไม่อยากให้พี่ๆ ไม่สบายใจ เลยขายรถแล้วนำไปใช้หนี้ มัลฮีสงสัยว่าน้องสาวมีรถใช้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เลขาคิมเล่าว่ารองประธานซื้อให้หลังตนตกรถเมล์แล้วไปทำงานสาย 10 นาที ตนขับได้แค่อาทิตย์เดียวก็ขายทิ้ง เลขาคิมเล่าไปยิ้มไปเหมือนเป็นเรื่องชิลๆ ก่อนกล่าวว่าพอหมดหนี้แล้วตนรู้สึกโล่งใจมาก พูดจบเธอก็หัวเราะคิกคักแต่เห็นได้ชัดว่าเป็นการฝืนหัวเราะเพื่อให้พี่ทั้งสองสบายใจ



ยูชิกขำกลิ้งหลังรู้ว่ายองจุนเกลี้ยกล่อมเลขาคิมไม่สำเร็จ ยองจุนสงสัยว่าทำไมเลขาคิมถึงตัดสินใจลาออกโดยไม่มีทีท่าลังเลหรืออาลัยอาวรณ์เลยสักนิด ทั้งๆ ที่พวกตนใช้เวลาส่วนใหญ่ด้วยกันมานาน ยูชิกเตืนว่ายองจุนเป็นคนย้ำมาโดยตลอดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเลขาคิมเป็นเรื่องงานล้วนๆ ยองจุนคิดไม่ตกว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เลขาคิมตัดสินใจลาออก ยูชิกชี้ว่า มีโซ (เลขาคิม) ไม่ได้ลาออกเพราะยากได้ข้เสนอที่ยองจุนจัดให้แบบถล่มทลายสักหน่อย เขาแนะให้ยองจุนลองคิดดูให้ดีเพราะน่าจะมีอะไรมากระตุ้นให้เธอตัดสินใจเช่นนั้น ยองจุนทวนคำว่า 'ตัวกระตุ้น' ก่อนหวนนึกถึงเหตุการณ์วันที่เลขาคิมบอกว่าจะลาออก ในที่สุดเขาก็สงสัยว่าอาจเป็นเพราะจีรัน

พิลนัมเห็นเลขาคิมนั่งจามเพราะอาการภูมิแพ้กำเริบจึงตำหนิที่เธอไม่ยอมพกยาติดตัว ขณะควานหายาแก้แพ้ในกระเป๋า (ที่เตรียมมาเผื่อ) พิลนัมก็บ่นว่าทำไมเลขาคิมถึงเป็นคนเดียวที่แพ้เกสรดอกไม้ มัลฮีสงสัยว่าเลขาคิมรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองแพ้แล้วทำไมยังฝืนจับดอกไม้อีก จากนั้นก็ถามว่ารองประธานสั่งใช่ไหม เลขาคิมถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนหวนนึกถึงวันที่ไปร่วมงานเลี้ยงของสถานทูตสเปน



วันนั้นจีรันถูกเชิญมาร่วมงานในฐานะเซเลบริตี้จึงโผล่มาเซอร์ไพรส์ยองจุนกลางงาน  (เธอถือโอกาสควงแขนยองจุนเหมืนที่เลขาคิมทำก่นหน้านี้ แต่ยองจุนปัดมือเธอออก) จากนั้นก็ตัดพ้อว่าเขาน่าจะโทรฯ ชวนเธอแทนที่จะมากับเลขาคิม จีรันถามยองจุนว่าไม่เห็นหรือว่าเธอมีอะไรเปลี่ยนไป เลขาคิมขยับเข้าไปใกล้ยองจุนแล้วเอามือลูบบริเวณลำคอของตน ยองจุนจึงชมว่าสร้อยเส้นนี้เหมาะกับจีรัน จีรันดีใจมากเพราะเขาเป็นคนซื้อให้เธอ (จริงๆ แล้วเลขาคิมเป็นคนซื้อ) ครั้นได้ยินว่าวันนี้เป็นเกิดของจีรันและเธอก็หวังว่าจะได้รับดอกไม้สักช่อจากยองจุน เลขาคิมจึงทำหน้าเซ็งก่อนรีบวิ่งไปที่ร้านดอกไม้และสั่งดอกไม้ช่อใหญ่ให้จีรัน ขณะวิ่งกลับไปยังงานปาร์ตี้เลขาคิมพยายามถือช่อดอกไม้ให้ห่างตัวมากที่สุดแต่ไม่วายวิ่งไปจามไป หลังมอบดอกไม้ให้จีรันแล้วยองจุนก็หันไปเห็นเลขาคิมยืนน้ำตาคลอ (เธอน้ำตาไหลและคัดจมูกเพราะแพ้เกสรดอกไม้) 

เมื่นึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นยองจุนก็ยิ้มและมั่นใจว่าเลขาคิมต้องร้องไห้แน่ๆ คืนนั้นเขาไม่ติดใจสงสัยเพราะคิดว่าตนเข้าใจผิด ยูชิกเดาว่าที่เลขาคิมน้ำตารื้นคงเป็นเพราะไม่ไหวจะทนที่ต้องทำกระทั่งงานเล็กๆ น้อยๆ เช่นซื้อดอกไม้ให้ผู้หญิงคนอื่นเลยตัดสินใจลาออก แต่ยองจุนไม่คิดเช่นนั้น เขายิ้มอย่างปลื้มปริ่มพลางฟันธงว่า...เลขาคิมชอบตน เลขาคิมขำกลิ้งหลังพิลนัมสงสัยว่ารองประธานอาจชอบเธอ เพราะอย่างนี้เขาถึงเปย์ให้เธอไม่อั้น ทั้งรองเท้า เสื้อผ้า ฯลฯ แม้จะเป็นการลงทุนเพื่อภาพลักษณ์แต่มันเว่อร์เกินไป เลขาคิมยืนยันหนักแน่นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะรองประธานรักตัวเองมากเสียจนไม่เหลือความรักให้คนอื่น ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยตกหลุมรักใคร พิลนัมไม่เชื่อว่าคนอายุขนาดรองประธานจะไม่เคยมีความรัก มัลฮีจึงชี้ว่าน้องสาวพวกตนก็ไม่เคยมีความรักเช่นกัน เลขาคิมได้ยินแล้วถึงกับหน้าถอดสี


ยองจุนยังคงดำดิ่งอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ เขาเพ้อว่าที่ผ่านมาตนพยายามระวังไม่ให้เลขาคิมหลงรักตนแล้ว แต่เธอทำงานเคียงข้างตนมานานถึงเก้าปีจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะเผลอใจให้ตน ยูชิกพยายามดึงยองจุนกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงโดยเตือนว่าอย่าเพิ่งมั่นใจนัก แต่ดูเหมือนว่ายองจุนจะไม่ได้ยิน เขาคิดว่าตนเสน่ห์ล้นจนเกินห้ามใจจึงประกาศกร้าวว่าเลขาคิมต้องชอบตนแน่ๆ ยูชิกเห็นว่ายองจุนหลงตัวเองจนเกินเยียวยาจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาดูดน้ำสมุนไพรแก้เซ็ง


เลขาคิมยืนยันกับพี่สาวทั้งสองว่าเธอและรองประธานเป็นเพียงเจ้านาย-ลูกน้อง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ที่สำคัญเธอกำลังจะลาออก พิลนัมกับมัลฮีได้ยินแล้วรู้สึกตกใจ เลขาคิมชี้ว่าตอนนี้พี่สาวทั้งสองและพ่อต่างมีอาชีพและความเป็นอยู่ที่มั่นคงแล้ว หนี้สินต่างๆ ของครอบครัวก็ชำระคืนจนหมด เธอจึงตัดสินใจลาออก เธอยังไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรหลังจากนี้ และรู้ว่าไม่มีที่ไหนให้เงินเดือนและสวัสดิการมากมายขนาดนี้ แต่หลายปีที่ผ่านมาเธอทำงานจนหัวหมุน ถ้าไม่ลาออกตอนนี้คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว (ยิ่งอายุมากยิ่งหางานยาก) เลขาคิมกำลังจะพูดต่อแต่โทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน พี่สาวทั้งสองเดาออกว่าใครโทรฯ มาเลยพยายามห้ามไม่ให้เลขาคิมรับสายเพราะไม่ใช่เวลางาน  แต่เลขาคิมก็รับจนได้

ยองจุนโทรฯ มาตามเลขาคิมให้ขับรถไปส่งตนที่บ้านเดี๋ยวนี้  เลขาคิมชี้ว่าตนกำลังติดธุระจึงอาสาตามคนขับรถให้ แต่ยองจุนไม่ยอม เลขาคิมเลยแนะให้เขาโทรฯ หาจีรันและนอนค้างบ้านเธอ (จีรัน) คืนนี้ แต่ยองจุนยืนยันคำเดิมและวางสายทันที พอรู้ว่าน้องสาวถูกเจ้านายเรียกตัวด่วนหมายให้ขับรถไปส่งบ้าน พิลนัมก็รู้สึกไม่พอใจและเห็นว่าเลขาคิมคิดถูกแล้วที่ลาออก ขณะควานหากุญแจรถสำรองในกระเป๋า เลขาคิมเหลือบเห็นแมงมุมที่พื้นจึงร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว พิลนัมรีบเข้าไปปลอบ ส่วนมัลฮีช่วยจัดการแมงมุมให้ เลขาคิมถามพิลนัมว่า แน่ใจหรือว่าตนไม่เคยหายจากบ้านตอนอายุราวๆ 4-5 ขวบ พิลนัมเคยตอบเรื่องนี้หลายครั้งและยังคงยืนยันว่าเลขาคิมไม่เคยหายตัวไป



เมื่อเลขาคิมไปถึงก็พบว่ายองจุนกำลังนั่งรอเธออยู่ในรถ เธอเห็นเขานั่งพูดคนเดียวแต่ไม่รู้ว่าเขากำลังซ้อมพูดเอาใจเธอ เมื่อเลขาคิมนั่งประจำที่คนขับยองจุนก็ยื่นดอกไม้ช่อโตให้เธอ ครั้นเห็นเลขาคิมน้ำตารื้นเพราะแพ้เกสรดอกไม้ เขาก็คิดว่าเธอซาบซึ้งและดีใจจนน้ำตาร่วง เลขาคิมอั้นไม่ไหวเลยจามใส่หน้ายองจุน เธอขอโทษแล้วรีบนำช่อดอกไม้ไปโยนใส่ท้ายรถด้วยความโมโห แต่ยองจุนกลับนึกว่าตนทำให้เลขาคิมประทับใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ ระหว่างทางกลับบ้าน ยองจุน (ซึ่งนั่งเก๊กหล่อ) ถามเลขาคิมว่าก่อนหน้านี้เธออยู่กับใคร เลขาคิมไม่ยอมตอบโดยบอกว่าเป็นความลับ ยองจุนหันขวับก่อนนั่งวางมาดต่อ เขาพยายามงอนง้อเลขาคิมโดยบอกว่าตนจะเลิกกับจีรัน และจะไม่คบกับใครอีก เลขาคิมสงสัยว่าทำไมยองจุนถึงจบประโยคด้วยการถามตนทุกครั้งว่า "โอเคมั๊ย?" ยองจุนพูดต่อว่าตนไม่เคยนอนกับจีรัน พวกตนคบกันด้วยเหตุผลทางธุรกิจซึ่งเลขาคิมเองก็รู้ดี

เขาคิดว่าตนเองเริ่มเข้าใจในความยากลำบากของเลขาคิม (ที่ต้องเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ในใจแต่เพียงลำพังมาโดยตลอด) จึงอนุญาตให้เธอหยุดงานหนึ่งวันเพื่อพักผ่อนและทบทวนข้อเสนอของตน เลขาคิมดีใจจนออกนอกหน้าแต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้มีนัดสัมภาษณ์ว่าที่เลขาคนใหม่ ยองจุนบอกให้เธอมาแค่ช่วงสัมภาษณ์พอเสร็จแล้วก็กลับบ้านไป พอรู้ว่าเลขาคิมยังไม่มีแผนว่าจะทำอะไรหรืออยู่ที่ไหนหลังลาออกยองจุนก็รู้สึกแปลกใจ เลขาคิมกล่าวว่าเธออยากออกไปใช้ชีวิตที่เป็นของตนเองและเพื่อตัวเองจริงๆ แทนที่จะใช้ชีวิตในฐานะเลขาของคนอื่นหรือเป็นเสาหลักของครอบครัว ยองจุนได้ยินดังนั้นก็แอบผิดหวัง



ยองจุนคิดมากจนนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะสงสัยว่าเลขาคิมเรียกช่วงเวลาเก้าปีที่อยู่กับตนว่าอะไร ถ้านั่นไม่ใช่ชีวิตของเธอ เขาเริ่มต้นเช้าวันใหม่แบบหงอยเหงาและถอนใจบ่อยครั้ง ครั้นเห็นสิวเจ้ากรรมขึ้นบนหน้าผากอันเกลี้ยงเกลาเขาก็รู้สึกตกใจ เขาพยายามผูกเนคไทเอง (เพราะวันนี้เลขาคิมหยุด) แต่ผูกแล้วไม่ได้ดั่งใจเขาเลยถอดออก (ผิดกับเลขาคิมที่เริ่มต้นวันใหม่อย่างมีความสุข สดชื่น และอารมณ์ดี เพราะนานทีปีหนถึงจะได้นอนเต็มอิ่ม) ยองจุนไปทำงานโดยไม่ผูกเนคไทซ้ำยังอารมณ์บูด เขาหยุดมองโต๊ะของเลขาคิมก่อนเดินเข้าห้องทำงาน จากนั้นก็ตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างให้หายเซื่องซึม ครั้นเห็นจดหมายลาออกของเลขาคิมวางอยู่บนโต๊ะเขาก็ถึงกับช็อคและหมดสภาพตามเดิม


ยองจุนไปหายูชิกที่ห้องทำงานเพื่อปรับทุกข์ เขานั่งเคี้ยวเจลลี่โสมแดงสุดหวงของยูชิกไม่หยุดปาก (ทั้งที่เคยบอกว่าน้ำตาลเพียบและมีโสมแดงเพียง 0.03%) พลางครุ่นคิดเรื่องที่เลขาคิมบอกว่าเธออยากออกไปใช้ชีวิตที่เป็นของตนเอง หลังคำนวณในใจอย่างรวดเร็วยองจุนก็เปรยว่าตลอดเก้าปีที่ผ่านมาเลขาคิมทำงานเคียงข้างตน (โดยไม่เคยมีวันหยุด) มากถึง 59,130 ชั่วโมง พวกตนอยู่ด้วยกันมากกว่าคู่สามีภรรยาส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ ช่วงเวลาเหล่านี้ไม่มีความหมายสำหรับเธอได้อย่างไร หรือว่าเลขาคิมทุกข์ใจเพราะชอบตนมากเกินไป ยูชิกเห็นยองจุนเคร่งเครียดเรื่องเลขาคิมจนถึงขั้นหมกมุ่นจึงสงสัยว่ายองจุนมีใจให้เลขาคิม แต่ยองจุนปฏิเสธทันควัน ยูชิกเลยสงสัยว่าการที่ยองจุนไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนทั้งที่มีผู้หญิงรายล้อมมากมาย และไม่ยอมให้ผู้หญิงคนใดแตะเนื้อต้องตัวนอกจากเลขาคิม อาจเป็นเพราะเขามีบาดแผลในใจเกี่ยวกับผู้หญิง ยองจุนแย้งว่าตนก็แค่ไม่ชอบผู้หญิงก่อนชี้ว่าเลขาคิมต่างจากทุกคน ยูชิกถามว่าเลขาคิมต่างจากผู้หญิงคนอื่นตรงไหน ยองจุนอึ้งไปชั่วขณะก่อนตัดบทว่า...เธอก็แค่เลขาคิม แล้วเดินออกจากห้องไป


เลขาคิมแวะมาที่บริษัทเพื่อเตรียมการสัมภาษณ์และพิมพ์ข้อแนะนำสำหรับว่าที่เลขาคนใหม่ เธอกำลังจะลงท้ายข้อความด้วยการบอกเหตุผลที่เธอตัดสินใจลาออก แต่ยังไม่ทันได้พิมพ์เธอก็เห็นยองจุนเดินมาที่ห้องทำงานในสภาพอิดโรย  ไม่ผูกเนคไท แถมยังนอนไม่หลับจนมีสิวขึ้นที่หน้าผาก เธอรู้สึกตกใจมากเพราะปกติแล้วเขาจะระวังเรื่องภาพลักษณ์มาโดยตลอดจึงอาสาโทรฯ นัดแพทย์ผิวหนังให้ ครั้นยองจุนปฏิเสธเธอเลยจะขอยานอนหลับจากแพทย์ให้แทน (ยองจุนแอบเห็นกล่องเก็บของที่โต๊ะเลขาคิม) เขาถามเธอว่าเป็นห่วงตนด้วยหรือ เมื่อเลขาคิมตอบหนักแน่นว่าเป็นห่วง ยองจุนเลยถามว่าในฐานะเลขาคิม (ทำตามหน้าที่) หรือคิม มีโซ (เป็นห่วงจากใจจริง)




เมื่อ "ปาร์ค จุนฮวาน" รายงานว่าผู้สมัครตำแหน่งเลขามาถึงแล้ว ยองจุนจึงบอกให้เชิญเธอมาที่ห้องทำงานตนและสั่งให้เลขาคิมเข้ามานั่งฟังด้วย เลขาคิมส่งลิสต์คำถามสำหรับใช้ในการสัมภาษณ์ให้ยองจุน แต่เขากลับถามผู้สมัครที่ชื่อ "คิม จีอา" ว่า หากเธอได้เป็นเลขาจะใช้ชีวิตในฐานะ 'เลขาคิม' หรือ 'คิม จีอา' จีอาตอบอย่างชาญฉลาดว่าเธอจะใช้ชีวิตในฐานะ 'เลขาคิม จีอา' เพราะเธอเป็นทั้งเลขาและยังคงเป็นคิม จีอาคนเดิม เมื่อยองจุนเปิดโอกาสให้ร่วมซักถาม เลขาคิมจึงถามตามลิสต์ที่เตรียมมาโดยเริ่มจากการถามว่าคุณสมบัติของเลขาที่ดีคืออะไร จีอากำลังจะตอบแต่ยองจุนถามแทรกว่า เธอคิดยังไงถ้าต้องทำงานให้เจ้านายที่สมบูรณ์แบบทุกด้านอยู่แล้ว เลขาคิมได้ยินดังนั้นจึงปิดแฟ้มคำถาม และถามจีอาว่า "คุณคิดว่าจะทำงานให้เจ้านายที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้นพึงพอใจได้ไหมคะ"

ยองจุนถามต่อว่า "ผมต้องการคนที่จะไม่ลาออกโดยใช้ข้ออ้างที่เป็นนามธรรม อย่างเช่น "เหตุผลส่วนตัว" คุณมีความรับผิดชอบมากพอที่จะไม่ทำเช่นนั้นไหม" เมื่อจีอายืนยันว่าเธอจะทำงานที่นี่ตราบจนวันตาย เลขาคิมจึงเตือนว่าเธออาจตายในหน้าที่ ยองจุนแย้งว่าถึงงานจะหนักแต่ค่าจ้างสูงกว่าที่อื่น เลขาคิมแย้งกลับว่าค่าจ้างสูงจริงแต่ชีวิต (ส่วนตัว) ของคิม จีอาจะหายไปและต้องอยู่ในฐานะเลขาคิมตลอดเวลา (พร้อมถูกเรียกใช้ตลอด 24 ชั่วโมง) ยองจุนได้ยินดังนั้นจึงถามเลขาคิมตรงๆ ว่า สำหรับเธอแล้วช่วงเวลาทั้งหมดในการทำหน้าที่เลขาไม่นับเป็นการชีวิตหรือ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ส่งสายตาเชือดเฉือนกัน จีอาให้คำมั่นว่าหากเธอได้งานนี้จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ยองจุนจึงรับเธอเข้าทำงานในฐานะเลขาคิมคนใหม่ทันที จากนั้นก็สั่งให้เลขาคิม (คนเดิม) สอนงานและฝึกจีอาให้ทำงานเหมือนเธอทุกอย่างก่อนที่เธอจะไป เมื่อจีอาออกไปแล้วยองจุนก็ขอให้เลขาคิมช่วยอธิบายเรื่องที่เธอเคยบอกว่า 'อยากได้ชีวิตของตนกลับคืนมา' เลขาคิมชี้ว่าทุกวันนี้ชีวิตเธอมีแต่เรื่องงานล้วนๆ เธอเลยอยากมีเวลาให้ตัวเองบ้าง ที่สำคัญตอนนี้เธออายุ 29 ปีแล้ว จึงควรคิดเรื่องการออกเดทและแต่งงานอย่างจริงจังเสียที



หลักเลิกงานเลขาคิมนัดพบเพื่อนเก่าสามคนที่ไม่ได้พบหน้ากันมานาน เธอบอกเพื่อนๆ ว่าคราวหน้าถ้านัดเจอกันอีกอย่าลืมโทรฯ ชวนตนด้วย ทุกคนต่างอิจฉาเลขาคิมที่ได้ทำงานเคียงข้างรองประธานบริษัท โดยเฉพาะเพื่อนสองคนที่แต่งงานแล้วซึ่งบ่นว่าวันๆ ต้องเหนื่อยกับการเลี้ยงลูก ทั้งคู่จึงยุให้เลขาคิมครองตัวเป็นโสดเช่นนี้ต่อไป เพื่อนคนหนึ่งจะลุกไปเข้าห้องน้ำแต่ดันทำกระเป๋าถือของเลขาคิมตกโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอเลยเก็บของที่ร่วงออกจากกระเป๋าคืนให้ ปรากฏว่ากระเป๋าถือเลขาคิมมีแต่ของใช้ผู้ชาย เลขาคิมอธิบายว่าเธอพกไว้เผื่อรองประธานต้องการใช้ แต่เพื่อนของเธอกลับมองหน้ากันเลิ่กลั่กด้วยความรู้สึกที่ไม่สู้ดีนัก ระหว่างนั่งรถเมล์กลับบ้าน เลขาคิมเห็นสองสามีภรรยาช่วยกันอุ้มลูกชายหญิงขึ้นรถอย่างมีความสุข จึงอดนึกถึงตัวเองที่มัวแต่ทำหน้าที่เลขาจนเผลอลงชื่อตัวเองว่า "เลขาคิม" แทนชื่อจริงไม่ได้ พอกลับมาถึงห้องพักเธอจึงเก็บแฟ้มงานและข้อมูลทั้งหมดของยองจุน (รวมทั้งของใช้ผู้ชายในกระเป๋าถือ) ลงกล่อง จากนั้นก็เตรียมเอกสารส่งมอบงานให้จีอาพร้อมเขียนข้อความลงบนโพสต์-อิทว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ...อย่าลืมแบ่งเวลาให้ตนเอง!


ยองจุนซึ่งอยู่ในงานปาร์ตี้ริมสระน้ำ (ย้อนกลับไปยังตอนต้นเรื่อง) นั่งครุ่นคิดถึงคำพูดของเลขาคิมที่อยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง ออกเดท และแต่งงาน พลางเปรยว่าเธอพูดเช่นนั้นโดยไม่คิดถึงความรู้สึกของตนได้อย่างไร (พูดเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้าที่ฟังแล้วไม่รู้สึกรู้สา) เขาหันไปถามจีรันว่าคิดยังไงกับตน  จีรันคอนเฟิร์มว่ายองจุนเพอร์เฟ็คสุดๆ ทั้งประสบความสำเร็จ หล่อ สูง สุภาพ แถมยังเซ็กซี่อีกต่างหาก ยองจุนได้ยินดังนั้นจึงเปรยว่า ถ้าเช่นนั้นเกิดอะไรขึ้นกับเลขาคิม จีรันได้ยินดังนั้นจึงโวยว่าพูดถึงผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าเธอได้อย่างไร ยองจุนฉุกคิดอะไรได้บางอย่างจึงเดินออกจากห้องโดยไม่สนใจจีรัน จากนั้นก็บึ่งรถไปหาเลขาคิม



เลขาคิมกำลังนั่งดูสมุดบันทึกในวัยเด็กซึ่งในนั้นมีข้อความที่เธอเขียนถึง "พี่ชาย" ทันใดนั้นก็มีเสียงคนเคาะประตูห้อง ครั้นเห็นว่ายองจุนบุกมาหากลางดึกเธอก็รู้สึกตกใจ เธอรีบเปิดประตูแล้วเชิญเขาเข้ามาในห้อง แต่ยองจุนปฏิเสธและเรียกเธอลงมาคุยข้างล่าง เขาถามว่าเธอซีเรียสกับเรื่องออกเดทและแต่งงานจริงๆ หรือ ทำไมอยู่ๆ ถึงได้คิดถึงเรื่องพวกนี้ หรือว่าเธอแอบคบใครอยู่ เลขาคิมถามว่าเขาโกรธเธอหรือ ยองจุนปฏิเสธทันควันโดยบอกว่าตนก็แค่อยากรู้ เลขาคิมตอบว่าเธอไม่ได้แอบคบกับใครและไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เธอจะเอาเวลาที่ไหนไปออกเดทในเมื่อเธอต้องเริ่มทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้าและไม่เคยรู้ว่าจะได้เลิกงานเมื่อไหร่ หากเขาโทรฯ ตามก็ต้องรีบไปทันทีถึงจะเข้านอนแล้วก็ตาม


ยองจุนแย้งว่าที่เธอพูดมายังไม่สมเหตุสมผล (สำหรับการลาออก) เลขาคิมจึงพูดต่อว่าขืนเธอยังทำงานแบบนี้ต่อไปคงกลายเป็นสาวแก่ที่อยู่ตามลำพังโดยไม่ได้แต่งงาน หากเธออายุมากขึ้นแล้วถูกเลิกจ้างใครจะดูแลเธอ ยองจุนสัญญาว่าจะไม่ไล่เธอออก  เลขาคิมแย้งว่าแบบนั้นยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เพราะนั่นหมายความว่าเขาอยากให้เธอเป็นเลขาตลอดชีวิตและแก่ชราอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย ยองจุนถามย้ำว่าเธอลาออกเพราะอยากแต่งงานจริงๆ หรือ เธออยากแต่งงานมากขนาดนั้นเลยใช่ไหม เมื่อเลขาคิมยืนยันว่าใช่ ยองจุนจึงครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนบอกเธอด้วยสีหน้าท่าทางจริงจังว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ทำงานต่อเถอะ ผม...ลี ยองจุน จะแต่งงานกับคุณเอง"

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ภาพจาก ทีวีเอ็น





รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ


ปาร์ค ซอจุน
รับบท ลี ยองจุน / ลี ซองฮยอน



ปาร์ค มินยอง
รับบท คิม มีโซ



 ลี แทฮวาน
รับบท ลี ซองยอน

 ครบครัว ลี ยองจุน


คิม พยอง-อก
รับบท ประธานลี



คิม ฮเยอก
รับบท ชเว ยอซา

ครบครัว คิม มีโซ


แพค อึนฮเย
รับบท คิม พิลนัม (พี่สาวคนโต)



ฮอ ซุนมี
รับบท คิม มัลฮี (พี่สาวคนรอง)

ยู-มยงกรุ๊ป


คัง กียอง
รับบท ปาร์ค ยูชิก



ฮวาง ชานซอง
รับบท โก กวีนัม



พโย เยจิน
รับบท คิม จีอา



ลี ยูจุน
รับบท ชอง ชีอิน



ฮวาง โบรา
รับบท บง เซรา



ลี จองมิน
รับบท ลี ยอง-อก



คิม จองอุน
รับบท ปาร์ค จุนฮวาน



คัง ฮงซอก
รับบท ยางชอล



คิม เยวอน
รับบท ซอล มาอึม

อื่นๆ


ฮง จียุน
รับบท โอ จีรัน




รวมคลิปตัวอย่างจาก ทีวีเอ็น ดราม่า




เพลงประกอบจาก 1theK (원더케이)



 คลิปเบื้องหลังจาก ทีวีเอ็น ดราม่า

* ดูละครย้อนหลังทางพีพีทีวีได้ ที่นี่

*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา