กำกับ: ลี ซึงรยอล
เขียนบท: คิม จองอา
แนวละคร: โรแมนติก, ดราม่า
จำนวนตอน: 20
ออกอากาศ: เกาหลี - 5 สิงหาคม 2556 - 8 ตุลาคม 2556 ทาง เจทีบีซี
ไทย - ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9.05-11.00 น.และ 20.30 - 22.30 น. ทางพีพีทีวี ออกอากาศ 12 กรกฎาคม 2557 - 24 สิงหาคม 2557
แนวละคร: โรแมนติก, ดราม่า
จำนวนตอน: 20
ออกอากาศ: เกาหลี - 5 สิงหาคม 2556 - 8 ตุลาคม 2556 ทาง เจทีบีซี
ไทย - ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9.05-11.00 น.และ 20.30 - 22.30 น. ทางพีพีทีวี ออกอากาศ 12 กรกฎาคม 2557 - 24 สิงหาคม 2557
ละคร "ภารกิจรักฉบับกระเป๋า (Her Legend / Her Myth / Bag Story)" นำเสนอเรื่องราวของหญิงสาว 2 คนที่ชะตาชีวิตพลิกผันและสลับกันอย่างสุดขั้ว กับทายาทธุรกิจแฟชั่นยักษ์ใหญ่ของเกาหลีที่คาบช้อนทองมาเกิด
"อึน จองซู" เป็นหญิงสาวสู้ชีวิตที่เติบโตมาอย่างยากลำบาก หลังมีเหตุให้พลัดพรากจากเศรษฐีนีที่ต้องการรับเลี้ยงเธอเป็นลูก เธอก็ได้แต่เฝ้ารอด้วยความหวังว่าสักวันจะได้เจอกันอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็เดินหน้าสานฝันอย่างไม่ย่อท้อ และเป้าหมายของเธอก็คือการเป็นดีไซเนอร์กระเป๋าหรู
"อึน คยองฮี" เป็นลูกพี่ลูกน้องกับจองซู เรียนหนังสือเก่งแต่มีนิสัยขี้อิจฉา ด้วยความที่เกิดและเติบโตในครอบครัวที่ยากจนจึงหนีความขัดสนด้วยการสวมรอยเป็นจองซู เพื่อจะได้เป็นลูกบุญธรรมเศรษฐีและไปเรียนต่อเมืองนอกตามที่เคยฝันไว้ แม้จะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่การสวมรอยเป็นคนอื่นก็ทำให้เธอไม่มีความสุข เพราะต้องคอยปกปิดตัวตนที่แท้จริง ส่วน "โด จินฮู" เป็นหนุ่มหล่อและฉลาด ทั้งยังเป็นทายาทกลุ่มธุรกิจแฟชั่นระดับแถวหน้าของเกาหลี เขาเป็นอีกคนที่คยองฮีต้องการแย่งมาจากจองซู
เรื่องราวในละครเริ่มต้นขึ้นที่ร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งบนเกาะยองจอง (ยองจองโด) ในปี ค.ศ. 1997 (พ.ศ. 2540) ขณะที่ "เฮจอง" แม่ของจองซู กำลังร้องเพลงบนเวที อยู่ๆ เธอก็ล้มลงและหมดสติแน่นิ่งกลางเวที จองซูในวัย 8 ขวบรู้ว่าแม่ของเธอกำลังป่วยหนักหากไม่เข้ารับการผ่าตัดอาจเสียชีวิต จึงพยายามรบเร้าให้แม่ไปหาหมอ แต่เฮจองกลับพาจองซูนั่งรถไปที่กรุงโซลแทนที่จะไปโรงพยาบาล
ปรากฏว่าเฮจองพาจองซูไปที่บริษัท "ชินฮวา" จองซูเห็นกระเป๋าหนังแบรนด์ชินฮวาตั้งเรียงรายอยู่ในตู้กระจกแล้วรู้สึกตื่นตาตื่นใจ เฮจองตั้งใจว่าจะพาจองซูไปหา "ชเว ซูโฮ" แต่เนื่องจากทางบริษัทฯ กำลังเตรียมจัดงานฉลองครบรอบ 30 ปี เธอจึงไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ ครั้นพอเห็นซูโฮลงรถหรูที่หน้าบริษัทฯ เฮจองก็คิดที่จะเดินไปหา แต่พอเห็นว่าเขามากับภรรยา เฮจองก็เปลี่ยนใจ
จองซูมัวแต่ตื่นตะลึงในความงามของกระเป๋าจึงเผลอเดินเข้าไปในโชว์รูมที่จัดไว้สำหรับแขกวีไอพี เธอจะเอื้อมมือลูบกระเป๋าแต่สัญญาณกันขโมยเกิดดังขึ้นทำให้ถูกรปภ.ลากตัวออกมา ซ้ำยังโดนสงสัยว่าเธอกับแม่อาจเป็นพวกมิจฉาชีพ เมื่อถูกกดดันมากเข้าเฮจองจึงบอกว่าเธอมาพบผู้จัดการซูโฮ แต่พอซูโฮเดินออกมาเธอกลับหันหลังให้แล้วบอกว่าจำผิดคน ซูโฮยืนมองสองแม่ลูกด้วยความสงสัย แต่บังเอิญถูกท่านประธานเรียกตัวเสียก่อน ถึงกระนั้นเขาก็หันกลับมามองด้วยความรู้สึกคาใจ และสั่งให้ลูกน้องนำกระเป๋าเป้มามอบให้จองซู
ในกระเป๋ามีการ์ดพร้อมข้อความ "If you can dream it, you can do it" (กล่าวโดย วอล์ท ดิสนีย์) เฮจองเห็นแล้วนึกถึงตอนที่เธอและซูโฮยังเป็นแฟนกัน ในตอนนั้นซูโฮพาเธอมาที่หน้าบริษัทชินฮวาแล้วบอกว่าเขาจะต้องทำงานที่บริษัทนี้ให้ได้ และจะปั้นแบรนด์ชินฮวาให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก จากนั้นก็ใช้ลิปสติกเขียนที่กระจกตู้โชว์ว่า "ถ้ากล้าฝัน ย่อมต้องทำได้"
หลังจากนั้นไม่นาน เฮจองก็เสียชีวิตโดยไม่ทันได้บอกลูกสาวว่าพ่อแท้ๆ ของเธอเป็นใคร หลังทราบว่าน้องสาวเสียชีวิต "อึน กีจอง" ซึ่งกำลังถังแตกและสุ่มเสี่ยงต่อการตกงานเพราะเย็บกระเป๋าส่งไม่ทัน (อยากให้งานออกมาดีเลยทำอย่างประณีต) ก็รีบไปจัดการเรื่องงานศพโดยไม่ฟังคำทัดทานของ "คิม มียอน" ผู้เป็นภรรยา (และเพื่อนเฮจอง) ซึ่งต้องการให้เขาเร่งทำกระเป๋าส่งลูกค้าแทนที่จะเสียเวลาไปกับคนที่ตายไปแล้ว
คยองฮีนำประกาศนียบัตรที่ระบุว่าเธอได้ที่หนึ่งในการแข่งขันวิชาศิลปะมาอวดมียอนซึ่งกำลังทำงานในซูเปอร์มาร์เก็ต (ขายเนื้อเป็ด) มียอนแอบตักเนื้อเป็ดย่างใส่ถุงแล้วบอกให้คยองฮีเอากลับไปทานที่บ้าน แต่คยองฮีปฏิเสธเพราะไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นขโมยและเธอก็ไม่ชอบของแจก สองแม่ลูกเลยเถียงกันเสียงดังลั่น ผู้จัดการได้ยินเสียเอะอะจึงเดินมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น คยองฮีแกล้งโชว์ถุงใส่เนื้อเป็ดที่แม่ของเธอพยายามยัดเยียดให้แล้วโวยวายว่าพนักงานไม่ยอมรับคืนเนื้อเป็ดทั้งๆ ที่กลิ่นไม่ค่อยดี แม้คยองฮีจะแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ แต่พอมียอนเห็นผู้จัดการเหยียบใบประกาศนียบัตรที่ตกอยู่บนพื้น จึงโวยวายว่าเหยียบใบประกาศฯ ของลูกตนได้อย่างไร ทำให้ถูกจับได้ว่าจะขโมยเนื้อเป็ด
อีกด้านหนึ่ง "อู โดยอง" และ "คิม จองวุค" ก็กำลังผิดหวังที่ทำเด็กหลอดแก้วไม่สำเร็จอีกตามเคย จองวุคเห็นภรรยาทั้งเครียดและเสียใจจึงล้มเลิกความคิดที่จะทำเด็กหลอดแก้ว (ไม่อยากให้โดยองเจ็บตัวและผิดหวังอีก) แล้วพาเธอย้ายไปอยู่ที่บ้านพักริมทะเลบนเกาะยองจองโด
คยองฮีบอกแม่ระหว่างเดินกลับบ้านว่าเธอคว้าแชมป์การแข่งขันวิชาวิทยาศาสตร์ แม้เธอจะเรียนดีและมีโอกาสเป็นตัวแทนประเทศไปแข่งขันระดับนานาชาติที่ญี่ปุ่น แต่เธอรู้ดีว่าทางบ้านไม่มีเงินจึงปฏิเสธที่จะลงชิงชัยในระดับประเทศ (ถ้าได้อันดับหนึ่งจะถูกส่งไปแข่งที่ญี่ปุ่น แต่ต้องออกค่าเครื่องบินเอง) คยองฮีเห็นแก๊งค์ทวงหนี้พากันเดินหัวเสียออกมาจากบ้าน จึงรีบพาแม่ไปหลบและบ่นเรื่องที่พ่อกับแม่ค้างจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ เมื่อเข้าไปในบ้านแล้วพบว่าข้าวของถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย คยองฮีก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายจึงถามแม่ว่าจะต้องทนอยู่ในสภาพนี้อีกนานแค่ไหน
ขณะที่ทั้งคู่กำลังหัวเสีย กีจองก็กลับเข้าบ้านพร้อมจองซู มียอนโวยลั่นที่กีจองเอาหลานมาเป็นภาระให้ต้องเลี้ยงดู ทั้งๆ ที่ครอบครัวกำลังลำบาก พอรู้ว่าเฮจองไม่เคยเล่าเรื่องพ่อให้จองซูฟัง เธอก็ยิ่งหัวเสีย (เพราะไม่รู้ว่าจะไล่จองซูไปอยู่กับใคร) จองซูได้ยินทุกอย่าง เธอยอมให้ป้าด่าและสับโขก ขออย่างเดียวอย่าเอ่ยถึงแม่ของเธอในทางที่ไม่ดี เนื่องจากไม่มีที่ไปเธอจึงพยายามช่วยป้าทำงานบ้านเพื่อแลกกับที่ซุกหัวนอน และพยายามทานข้าวแต่น้อยด้วยความเกรงใจ
นอกจากกีจองผู้เป็นลุงแล้ว ก็มีเพียง "อึน คยองโฮ" ที่เป็นมิตรกับจองซู เขาเป็นลูกชายคนโตของกีจอง ซึ่งคลั่งไคล้ "ซอ แทจี" (นักร้องแนวฮิปฮอปชื่อดังในยุคนั้น) เอามากๆ ถึงขนาดเลียนแบบการพูด ท่าทาง และสไตล์การแต่งตัวของซอ แทจี แถมยังชอบพูดในสไตล์แร็ปอีกด้วย ส่วนคยองฮีเองก็ไม่ต่างจากแม่ แม้จะไม่ค่อยพูดอะไรมาก แต่เธอก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบจองซู ทั้งยังไม่พอใจมากที่จองซูมานอนร่วมห้องกับเธอ คืนนั้นจองซูรู้สึกปวดท้องและเดินเข้าออกห้องน้ำ (ปวดปัสสาวะ) ตลอดทั้งคืน ทำให้คยองฮีรู้สึกรำคาญและพาลนอนไม่หลับ หลังถูกคยองฮีต่อว่า จองซูก็ไม่กล้าลุกไปเข้าห้องน้ำอีกทำให้ฉี่ราดที่นอน
ขณะที่จองซูออกไปซื้อยาแก้ปวดท้อง ก็มีแก๊งค์ทวงหนี้มาทวงดอกเบี้ยเงินกู้ที่บ้าน พอเก็บเงินไม่ได้คนทวงหนี้ก็ทำลายข้าวของด้วยความโกรธ เมื่อเห็นคนทวงหนี้เข้าไปในห้องคยองฮี มียอนก็สู้สุดฤทธิ์เพราะส่วนใหญ่เป็นหนังสือและอุปกรณ์การเรียน เมื่อจองซูซึ่งออกไปซื้อยาแก้ปวดท้องกลับมาเห็นเข้า เธอก็กัดเข้าที่ขาคนทวงหนี้ ทำให้ถูกอุ้มไปเป็นตัวประกัน (คนทวงหนี้คิดว่าเป็นคยองฮี) จองซูร้องไห้จ้าด้วยความหวาดกลัว มียอนเห็นจองซูถูกอุ้มไปขึ้นรถก็รีบวิ่งตามไปช่วย แต่คนทวงหนี้บอกให้นำดอกเบี้ยไปจ่ายก่อนจึงจะคืนเด็กให้ มียอนพยายามยื้อยุดประตูสุดฤทธิ์เพื่อที่จะดึงตัวจองซูออกมา พอหันไปเห็นคยองฮี (เพิ่งกลับมาจากโรงเรียน) เธอก็รีบโบกมือไล่ให้คยองฮีหลบไป แต่คยองฮีกลับวิ่งตรงมาหาด้วยความเป็นห่วง มียอนจึงตัดสินใจปล่อยมือจากประตูรถ หลังจากนั้นแก๊งค์ทวงหนี้ก็ขับรถพาจองซูออกไป
ระหว่างทางจองซูขอให้คนทวงหนี้หยุดรถโดยอ้างว่าปวดฉี่และฉวยโอกาสวิ่งหนีไป เธอวิ่งลัดเลาะป่าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งออกมาเจอถนน โดยอง (ซึ่งเพิ่งไปส่งสามีที่สนามบิน) เห็นจองซูวิ่งตรงมาที่รถของเธอ (โดยมีผู้ชาย 2 คนวิ่งไล่ตาม) จึงรีบเหยียบเบรคและหักหลบ จองซูวิ่งไปหาโดยองที่รถจากนั้นก็ทุบกระจกรถแล้วร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา
นี่คือจุดเริ่มต้นของสายใยรักระหว่างจองซูกับโดยอง และกำลังจะเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานแห่งการพลัดพรากอันนำมาซึ่งชะตาชีวิตที่พลิกผันของทั้งจองซูและคยองฮี ส่วนบทสรุปของละครเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรนั้นติดตามชมได้ใน "ภารกิจรักฉบับกระเป๋า (Her Legend)" ทางช่องพีพีทีวี
* เนื้อหาโดย luvasianseries
นักแสดงนำ
ปาร์ก ยุนแจ
รับบท คัง มินกี
รับบท คัง มินกี
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา