กำกับ: คิม วอนซอก
เขียนบท: จอง ยูนชอง
แนวละคร: ดนตรี, โรแมนติก, วัยรุ่น
จำนวนตอน: 12
ออกอากาศ: เกาหลี - 17 พฤษภาคม 2556 - 2 สิงหาคม 2556 ทาง ทีวีเอ็น, เอ็มเน็ท, เคเอ็ม และออนสไตล์
ไทย - ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 22.30-00.30 น.ทางช่อง 1 เวิร์คพอยท์ทีวี เริ่มออกอากาศ 7 ตุลาคม 2557 - 9 ธันวาคม 2557
ออกอากาศ: เกาหลี - 17 พฤษภาคม 2556 - 2 สิงหาคม 2556 ทาง ทีวีเอ็น, เอ็มเน็ท, เคเอ็ม และออนสไตล์
ไทย - ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 22.30-00.30 น.ทางช่อง 1 เวิร์คพอยท์ทีวี เริ่มออกอากาศ 7 ตุลาคม 2557 - 9 ธันวาคม 2557
"ยูน ซอลชาน" สมาชิกวงบอยแบนด์ "Men in Black" เป็นหนุ่มที่มีปมในอดีตจนทำให้กลายเป็นคนเย็นชา และอารมณ์ร้อน หลังก่อเรื่องจนทำให้ภาพลักษณ์เสียหายหลายครั้ง ต้นสังกัดจึงพักงานชั่วคราวและสั่งให้เขากลับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนมัธยม ทำให้เขาได้พบกับ "มิน เซอี" เด็กสาวที่มีพรสวรรค์ด้านการเล่นกีตาร์และร้องเพลงซึ่งเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจากนิวซีแลนด์ ทั้งคู่ได้เข้าเป็นสมาชิกวงดนตรีของโรงเรียน และต่างก็ได้รับการเยียวยาบาดแผลในใจผ่านทางเสียงเพลงเช่นเดียวกับเพื่อนคนอื่นๆ ในวง
เรื่องราวในละครเริ่มต้นขึ้นพร้อมเสียงบรรยายว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดคือ "lips" (ริมฝีปาก)
"มิน เซอี" นั่งดีดกีตาร์และร้องเพลง (ของวง "Men in Black") ในสวนสาธารณะให้น้องหมาตัวหนึ่งฟัง ในเวลาเดียวกันนั้น "ยูน ซอลชาน" และเพื่อนร่วมวงก็กำลังร้องเพลงโชว์ในห้องส่ง (เพลงเดียวกับเซอี) หลังร้องเพลงจบเซอีก็เก็บของและมุ่งหน้าไปโรงเรียน ทั้งๆ ที่เลยเวลาเข้าเรียนมานานมากแล้ว ส่วนซอลชานที่เพิ่งแสดงจบก็ตรงดิ่งไปที่รถเพื่อเดินทางไปถ่ายหนังต่อที่โรงเรียนมัธยมปูชอน
ระหว่างทาง "ผู้จัดการฮง" บ่นเรื่องแฟนคลับโรคจิตของซอลชานที่ปากก็บอกว่ารัก แต่กลับชอบทำให้ซอลชานเสียความรู้สึก เขาเล่าว่าหลังซอลชานให้สัมภาษณ์เมื่อวันก่อนว่ากลัวหนูมากที่สุด ก็มีแฟนคลับนำหนูตายมาวางไว้บนกระโปรงรถ พร้อมทั้งเขียนข้อความว่า 'พี่คะ ชั้นจะช่วยจับหนูทุกตัวในโลกนี้ให้เอง ชั้นรักพี่ค่ะ จากแมวเหมียวตลอดกาลของพี่... เมี๊ยวๆ' ซอลชานฟังแล้วสยองจึงบอกให้ผู้จัดการฮงโทรฯ แจ้งตำรวจ ผู้จัดการฮงจึงเตือนว่าขืนแจ้งความก็เท่ากับซอลชานมีปัญหากับแฟนๆ หลังจากนั้นก็จะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบตามมาอีก ซอลชานจึงได้แต่บ่นว่าคนที่ทำแบบนี้ไม่สมควรถูกเรียกว่าแฟนคลับ
แม้จะเป็นฉากถ่ายทำในห้องเรียนจริง และมีนักเรียนตัวจริงมาร่วมเป็นตัวประกอบด้วย แต่ซอลชานก็ต้องเข้าฉากจูบกับนักแสดงสาวที่มีชื่อว่า "อารี" ผู้กำกับไม่พอใจมากที่ซอลชานใช้นิ้วโป้งกดปากนางเอกสาวเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ริมฝีปากชนกัน ทั้งๆ ที่สั่งให้จูบจริง ซอลชานอ้างว่าตนยังเด็กเกินไป หากจูบจริงตามที่ผู้กำกับสั่งจะทำให้ภาพลักษณ์การเป็นไอดอลขวัญใจวัยทีนของตนเสียหาย
พอทราบข่าวว่ามีฉากจูบในห้องเรียน ครูใหญ่ก็รู้สึกไม่พอใจและขอให้ผู้กำกับยกเลิกการถ่ายทำ ระหว่างที่ครูใหญ่กับผู้กำกับทะเลาะกัน ซอลชานและอารีก็เดินเลี่ยงออกมาทางด้านนอก อารีซึ่งเป็นรุ่นพี่ต่อว่าซอลชานที่ไม่เป็นมืออาชีพ พร้อมทั้งบอกว่าหากแสดงไม่ได้ก็ให้ถอนตัว เพราะขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไปยังไงก็ไม่รุ่งแน่ แต่ซอลชานยังมีเหตุผลอื่นที่ทำให้เขาไม่ยอมจูบจริง เขารู้มาว่า อารีเป็นคนรีเควสท์ทีมงานว่าเธอจะแสดงคู่กับซอลชานเท่านั้น และเธอก็ท้าพนันกับเพื่อนดาราเอาไว้ว่าหากใครได้จูบกับซอลชานก่อนคนนั้นจะเป็นฝ่ายชนะ
ซอลชานยื่นหน้าเข้าไปหาอารีพลางกล่าวว่าถ้าอยากให้ตนจูบจริง ตนก็จะจูบให้ดู อารีได้ยินเสียงคนเดินลงบันไดจึงผลักอกซอลชานออก แต่ซอลชานคว้าข้อมืออารีเอาไว้แล้วยื่นหน้าเข้าไปหาอารีอีกครั้ง ก่อนบอกให้เธอเตรียมถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ทันใดนั้นก็มีเสียงดัง "แชะ" เมื่อทั้งคู่หันไปมองที่มาของเสียงก็พบเซอียืนอยู่ตรงบันไดโดยมีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ
อารีถามเซอีด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่าเมื่อสักครู่เธอถ่ายรูปอะไร เมื่อเซอีตอบว่า "lips (ริมฝีปาก)" อารีก็แย่งโทรศัพท์ในมือเซอีแล้วเดินหนีไป เซอีจะตามไปทวงโทรศัพท์คืน แต่ถูกซอลชานขวางไว้ เขานึกว่าเธอเป็นแฟนคลับ จึงมองป้ายชื่อแล้วพูดด้วยน้ำเสียงคล้ายพี่ชายพูดกับน้องสาวว่า "มิน เซอี! ชั้นรู้จักชื่อเธอแล้ว พอใจแล้วใช่มั๊ย หลังลบรูปทิ้งแล้วชั้นจะคืนโทรศัพท์ให้ ไม่ต้องห่วงนะ ว่าแต่เธออยู่ชั้นไหน เรียนห้องอะไรเหรอ... ช่างเถอะ เดี๋ยวชั้นจัดการเอง" เซอีเพิ่งกลับมาเกาหลีจึงไม่รู้จักซอลชาน เธอกระชากแขนไอดอลหนุ่มแล้วโวยลั่น แต่ซอลชานกลับดึงตัวเธอเข้ามากอดเพราะอยากให้เธอเป็นปลื้มจนลืมเรื่องโทรศัพท์
หลังถูกเซอียื้อยุดฉุดแขนเอาไว้ซอลชานก็เริ่มโมโห ยิ่งเซอีดึงแขนเสื้อเขาจนกระดุมหลุดติดมือโดยไม่ได้ตั้งใจ ซอลชานก็ยิ่งโกรธ เขานึกว่าเซอีเป็นหนึ่งในแฟนคลับโรคจิตจึงตะโกนด่าเธอ ผู้จัดการฮงรีบปิดปากซอลชานแล้วลากตัวเขาไปขึ้นรถ เพราะเห็นว่าเหล่าบรรดานักเรียนหญิงกำลังวิ่งกรูเข้ามาหาซอลชาน เซอีเห็นดังนั้นจึงวิ่งตามเพื่อนๆ ไปด้วย แต่สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่ภาพถ่ายหรือลายเซ็น หากเป็นโทรศัพท์มือถือที่ถูกอารียึดไป
ซอลชานเห็นเซอีเกาะกระจกรถแล้วพยายามมองเข้ามา (รถติดฟิล์มทึบ) ก็รู้สึกตกใจ พอหันกลับไปมองอีกครั้งเธอก็หายตัวไปแล้ว ครั้นพอผู้จัดการฮงบอกว่าเขาขับรถชนเด็กนักเรียนที่วิ่งตัดหน้ารถ ซอลชานก็รีบลงไปดูเพราะนึกว่าเป็นเซอี แต่แล้วกลับผิดคาดเพราะคนที่ลงไปกองกับพื้นคือแฟนคลับโรคจิตที่แกล้งทำเป็นโดนรถชน เธอโผเข้ากอดและขโมยจูบซอลชานต่อหน้าเหล่านักเรียนหญิง ทำให้ซอลชานโกรธจัดจนพลั้งมือตบหน้าแฟนคลับสาว แต่แฟนคลับคนดังกล่าวก็ยังยิ้มและบอกว่าหากเขาไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล เธอจะสารภาพว่าตนเองเป็นคนจัดฉากเรื่องทั้งหมด หลังจากนั้น แฟนคลับโรคจิตก็ร้องกรี๊ดและโวยลั่นว่าถูกซอลชานทำร้าย จากนั้นก็แกล้งทำเป็นหมดสติ เด็กนักเรียนที่มามุงดูจึงพากันแชร์รูปและคลิป พร้อมส่งข้อความบรรยายเหตุการณ์สดๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย
ผู้จัดการฮงรีบนำตัวซอลชานมานั่งสงบสติอารมณ์ในรถ แล้วออกไปเคลียร์เรื่องราวทั้งหมดด้วยตนเอง ซอลชานทั้งโกรธและเสียความรู้สึก พอเห็นว่าโทรศัพท์มือสั่นเขาจึงสวมหูฟังเพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างเขาก็เห็นเซอียืนอยู่ข้างรถและเธอก็กำลังหันหน้ามาทางเขาพอดี ซอลชานนั่งจ้องหน้าเซอี ขณะที่เซอีก็จ้องมองมาทางเขา แม้จะแลดูเหมือนทั้งคู่กำลังจ้องมองกัน แต่ความจริงแล้วภาพที่เซอีเห็นคือใบหน้าของตัวเอง (รถติดฟิล์มทึบ)
อีกด้านหนึ่ง "จอง ซอนอู" และ "มา จุนฮี" ก็กำลังซ้อมดนตรีกับเพื่อนร่วมวงออเคสตร้า ที่มีชื่อวงว่า "All for One" (ซอลอูเล่นเชลโล ขณะที่จุนฮีเล่นเปียโน) โดยมีครู "ทก โกซุน" เป็นผู้ควบคุมการฝึกซ้อม หลังซ้อมเสร็จแล้ว ครูทกก็บอกจุนฮีซึ่งเป็นหัวหน้าวงว่า ครูใหญ่อยากให้วง "All for One" ไปร่วมแสดงในงานคอนเสิร์ตการกุศล แทนที่จะรับปากจุนฮีกลับแบ่งรับแบ่งสู้โดยอ้างว่าขอคุยกับเพื่อนๆ ในวงก่อน ทำให้ครูทกรู้สึกหนักใจ ครูพละหนุ่ม "ชเว จุนกู" เห็นดังนั้นจึงฟันธงว่าลูกศิษย์ของของครูทกไม่มีทางตอบตกลงอย่างแน่นอน
ครูทกเห็นเซอียืนอยู่ด้านนอกอาคารตามลำพัง (บริเวณที่รถซอลชานจอดก่อนหน้านี้) เลยนึกสงสัยว่าเซอีก็เป็นแฟนคลับซอลชานด้วยหรือ เธอบอกให้ซอนอูซึ่งเป็นหัวหน้านักเรียนชั้นปีสอง (และเพื่อนร่วมชั้นของเซอี) ช่วยไปตามเซอี (ซึ่งเพิ่งย้ายมาใหม่) ให้ไปพบเธอที่ห้องพักครู
เหล่าบรรดานักเรียนหญิงต่างพากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ หลายคนรู้สึกเป็นห่วงซอลชานที่ตกเป็นข่าวในทางลบ "ชิน แจร็อก" ซึ่งเป็นขาใหญ่ประจำห้องได้ยินเพื่อนผู้หญิงเรียกซอลชานว่า 'พี่ชาย' ก็รู้สึกหมั่นไส้ (ซอลชานเป็นเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกัน) เลยจงใจพูดให้ได้ยินว่า พวกแฟนคลับไร้สมองนี่เหลือเชื่อจริงๆ หลังจากนั้นเขาหันไปเรียกเพื่อนที่ชื่อ "ปาร์ก กิวตง" ว่า "เฮ้...เรดิโอ!" "ชิม อึนฮา" เห็นเพื่อนกำลังจะถูกรังแกจึงบอกแจร็อกว่า ถ้าอยากฟังเพลงมากนักทำไมไม่ใช้แอพฯ แจร็อกแย้งว่าฟังเพื่อนร้องเพลงสดๆ ได้อารมณ์กว่า และอ้างว่ากิวตงเองก็ชอบร้องเพลงด้วย กิวตง (ซึ่งโดนแจร็อกบังคับให้ร้องเพลงต่อหน้าเพื่อนๆ ในห้องเป็นประจำ) ไม่อยากโดนรังแกมากไปกว่านี้ จึงลุกขึ้นแล้วฝืนร้องเพลงท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ
เซอีย้ายมาเรียนที่โรงเรียปูชอนในฐานะนักเรียนกลับเข้าศึกษาใหม่ (Re-Entry) แถมเธอยังมาเรียนวันแรกในช่วงบ่าย หลังทราบว่าเซอีเพิ่งย้ายมาจากนิวซีแลนด์ ครูชเวจึงเดาว่าเซอีคงพูดภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อเพราะเธออยู่ที่นั่นมานาน 5 ปี แต่แล้วเขาก็ถึงกับอึ้งเมื่อเซอีสารภาพว่าเธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ตอนอยู่ที่โน่นเธออาศัยอยู่ในฟาร์มแกะตามลำพังและรับจ้างเลี้ยงแกะ วันๆ เลยไม่ได้คุยกับใคร ครูชเวจึงหยอกว่าชีวิตเธอเหมือน 'ไฮดี้' ที่เป็นเด็กหญิงเลี้ยงแกะ ('ไฮดี้' เป็นตัวละครในซีรีส์การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง Heidi, Girl of the Alps ซึ่งดัดแปลงมาจากนิยายของสวิตเซอร์แลนด์) เซอีแย้งด้วยน้ำเสียงจริงจังว่าไม่เหมือน เพราะเธออยู่ที่นิวซีแลนด์ แต่ไฮดี้ในการ์ตูนอยู่บนเทือกเขาแอลป์
ครูทกพาเซอีไปแนะนำตัวกับเพื่อนร่วมชั้น และบอกให้เธอไปนั่งข้างๆ "คิม นานา" (รับบทโดย "คิม ดาฮี" แห่งวง GLAM) แต่นานากลับไล่ให้เซอีไปนั่งที่อื่น เซอีเลยต้องย้ายไปนั่งโต๊ะข้างๆ ตามลำพัง หลังครูทกออกจากห้องไปแล้ว อึนฮาก็เข้าไปทักทายและแนะนำตัวกับเซอี พร้อมทั้งเตือนว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าไปยุ่งกับนานา จากนั้นก็เล่าตำนานการต่อสู้แบบบู๊ล้างผลาญของนานาให้เซอีฟัง โดยบอกว่านานาเคยต่อสู้กับอันธพาล 17 คน ด้วยมือเปล่าตามลำพังและเธอก็จัดการพวกนั้นเสียอยู่หมัด หลังจากนั้น อึนฮาก็ถามเซอีว่า เธอรู้จักกับซอลชานได้อย่างไร แต่เซอีไม่รู้ว่าใครคือซอลชาน อึนฮาจึงบอกว่า "ก็ยูน ซอลชานไง เขานึกว่าแฟนคลับโรคจิตเป็นเธอ เลยร้องถามว่า "มิน เซอี" เป็นอะไรรึเปล่า" ชั้นได้ยินเขาพูดว่า "มิน เซอี" เต็มสองหู" ซอนอูได้ยินดังนั้นเลยแอบเหลือบมองเซอี เพราะเขาเองก็อยากรู้คำตอบเช่นกัน
หลังเกิดเรื่องอื้อฉาว ชื่อของซอลชานก็ถูกเซิร์ชบนอินเตอร์เน็ตมากที่สุด ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเพราะมีแต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ แถมคลิปภาพขณะที่เขาตบหน้าแฟนคลับก็ถูกแชร์ว่อนเน็ต ทำให้ซีอีโอโกไม่พอใจมากเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซอลชานก่อเรื่อง เขาจึงสั่งให้ซอลชานไปเยี่ยมแฟนคลับโรคจิตที่โรงพยาบาลตามที่เธอร้องขอแต่ซอลชานปฏิเสธทันควัน ซีอีโอโกจึงบอกว่าเรื่องนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของซอลชาน หากยังมีผลต่ออนาคตของบริษัท ผู้จัดการฮง และเพื่อนร่วมวงคนอื่นๆ ไหนจะหนังที่เขาแสดงนำ เพลงที่เขาเพิ่งแต่งเสร็จ สัญญาโฆษณา ฯลฯ แถมอารีซึ่งพลอยได้รับผลกระทบไปด้วยยังตามมาต่อว่าเขาที่บริษัทและกดดันให้เขารีบเคลียร์ปัญหา มิเช่นนั้นจะมีหลายคนที่ต้องเดือดร้อน หลังต่อว่าซอลชานแล้วอารีก็โยนโทรศัพท์ของเซอีให้ซอลชานและบอกให้เขาเป็นคนนำไปคืน เพราะเซอีอยู่โรงเรียนเดียวกับเขา
หลังอารีกลับไปแล้ว ผู้จัดการฮง (ซึ่งแอบฟังทั้งคู่คุยกันอยู่ทางด้านนอก) ก็บอกว่าครั้งนี้ตนเห็นด้วยกับอารี เขาขอร้องให้ซอลชานละทิ้งศักดิ์ศรีแล้วไปเยี่ยมแฟนคลับที่โรงพยาบาลเพื่อให้เรื่องยุติ หากซอลชานยังคงดื้อดึงและไม่ยอมแก้ปัญหาตนคงต้องตกงาน แล้วตนจะนำเงินที่ไหนมาจ่ายค่าบ้านและค่าเทอมน้องชาย ซอลชานฟังแล้วได้แต่ทอดถอนใจ จากนั้นก็โอดโอยว่าตนเป็นฝ่ายถูกคุกคามทางเพศ (โดนแฟนคลับกอดและจูบ)
เซอีจำทางกลับบ้านไม่ได้แถมตัวช่วยก็ไม่มี (เธอบันทึกเส้นทางเอาไว้ในมือถือ) กว่าจะหาบ้านเจอก็เสียเวลานานถึง 2 ชั่วโมง เธอจึงโทษว่าเป็นความผิดของซอลชาน แถมพอกลับถึงบ้านยังโดนครูทก (ซึ่งอยู่บ้านเดียวกับเธอ) บ่นซ้ำ พอรู้ว่าแม่โทรฯ มาหา ท่าทีของเซอีก็เปลี่ยนไป ครูทกบอกให้เซอีโทรฯ หาแม่เพราะตั้งแต่กลับมาเกาหลีเธอยังไม่เคยโทรฯ หาแม่เลย แต่เซอีปฏิเสธและเดินหนี โดยบอกว่าเธอไม่อยากทะเลาะกับครูทก (เธอเรียกครูทกว่าป้า)
แม้บ้านหลังนี้จะเป็นบ้านที่เซอีอยู่มาตั้งแต่เด็ก แต่ดูเหมือนว่าปัจจุบันจะกลายเป็นบ้านของครูทก ครูทกจึงรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่กับเซอี (แม่ของเซอีฝากเธอไว้กับครูทก) ครูทกคิดว่าเซอีจะอยู่ที่นี่ไม่นาน แต่พอเซอีบอกว่าเธอจะอยู่ที่นี่สักพักครูทกก็รู้สึกผิดหวัง แม้ครูทกจะพูดเป็นนัยๆ ให้เซอีย้ายไปอยู่บ้านยาย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังนี้มากนัก แต่เซอียังคงยืนยันว่าเธอจะอยู่ที่นี่ หลังอยู่ในห้องตามลำพัง เซอีก็นึกถึงวันที่เธอกับแม่ทะเลากัน เธอกล่าวโทษแม่ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อตายเลยถูกแม่ตบหน้า และนั่นก็เป็นที่มาว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมโทรฯ หาและไม่บอกแม่ว่าเธอย้ายโรงเรียน
อีกด้านหนึ่งซอลชานก็กำลังคิดหนักเรื่องที่ทุกคนบีบให้เขาเอาใจแฟนคลับโรคจิตเพื่อเป็นการยุติปัญหา เขาจะหยิบมือถือมาฟังเพลงแก้กลุ้ม แต่แล้วอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจและหยิบมือของเซอีมาสำรวจแทน เขาพบว่าแม่ของเซอีโทรฯ มาหลายครั้ง จากนั้นก็นึกสงสัยว่าตอนอยู่ที่โรงเรียนเซอีถ่ายรูปอะไรกันแน่ พอไล่เช็คดูก็พบว่าเซอีถ่ายภาพ "lips" อย่างที่เธอบอกจริงๆ แต่เป็น "lips" ในโปสเตอร์ที่ติดอยู่บนผนัง (โปสเตอร์เป็นรูปผู้หญิงทำท่าจุ๊ๆ โดยเป็นภาพโคลสอัพบริเวณริมฝีปาก)
หลังจากนั้น เขาก็เช็คไฟล์เพลงของเซอี (เธอจัดเก็บเพลงเป็นหมวดหมู่ตามความรู้สึก เช่น เพลงสำหรับฟังตอนเศร้า / ตอนมีความสุข / ตอนหิวข้าว / ตอนรู้สึกเบื่อ / ตอนเหงา / ตอนคิดถึงพ่อ ฯลฯ) พอเห็นว่าในโทรศัพท์ของเซอีไม่มีเพลงของวงตนแม้แต่เพลงเดียว ซอลชานถึงได้รู้ว่าความจริงแล้วเซอีไม่ใช่แฟนคลับตน เขากดดูรายชื่อเพลงในหมวดเพลงสำหรับฟังตอนเศร้า แล้วเลือกฟังเพลง 'อย่าเสียใจ' ซึ่งเป็นเพลงที่เซอีร้องและเล่นกีตาร์ด้วยตนเอง อีกด้านหนึ่งเซอีก็กำลังเล่นกีตาร์และร้องเพลงดังกล่าวอยู่ภายในห้องเพราะเธอเองก็รู้สึกเศร้าใจเช่นกัน ในตอนนั้น นอกจากซอลชานและเซอีแล้ว ยังมีเพื่อนคนอื่นๆ ที่กำลังรู้สึกเศร้า เหงา ท้อแท้ และสับสน ไม่ว่าจะเป็น 'นานา, ซอนอู, อึนฮา, โดนัม และกิวตง
ในขณะที่เซอีร้องเพลงทั้งน้ำตา ซอลชานซึ่งนอนก่ายหน้าผากฟังเพลงดังกล่าว ก็หวนนึกถึงวันที่ถูกแม่ทอดทิ้งทำให้เขายิ่งรู้สึกเศร้าใจจนน้ำตาไหลเช่นกัน หลังฟังเพลงจบซอลชานถึงกับสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์มือถือของเซอีดังขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้นที่บ้านของเซอีก็เกิดเรื่องยุ่งเมื่อเพื่อนบ้านมาเคาะประตูแล้วโวยวายใส่ครูทกเรื่องที่เซอีเล่นกีตาร์และร้องเพลงเสียงดังกลางดึก ครูทกรู้ว่าหลังร้องเพลงแล้วเซอีจะรู้สึกดีขึ้นแต่เซอีไม่อาจร้องเพลงในบ้านได้อีกต่อไป เซอีเองก็ตระหนักในเรื่องนี้ แต่พอถูกถามว่าเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเธอจะกลับไปอยู่กับแกะที่นิวซีแลนด์เหมือนเดิมไหม (จะได้ร้องเพลงทั้งวันโดยไม่ต้องกลัวใครบ่น) เซอีก็ยิ้มและปฏิเสธว่า...ไม่ไป
เมื่อเห็นว่าแม่ของเซอีโทรฯ มา ซอลชานก็กดรับสาย เขายังไม่ทันได้พูดอะไร แม่ของเซอีก็ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงว่า "เซอี ทำไมถึงปิดมือทั้งวันเลยล่ะลูก ถ้าลูกกลับถึงเกาหลีแล้วอย่างน้อยๆ ก็น่าจะโทรฯ มาบอกแม่ว่าลูกปลอดภัยดี แม่โทรฯ หาลูกหลายครั้งแต่ลูกไม่เคยรับสายแม่เลย แม่ได้ยินว่าลูกย้ายโรงเรียนวันนี้ ดีจริงๆ ที่แม่ติดต่อลูกได้ อยู่ที่นั่นก็เชื่อฟังป้าเค้านะลูก ถ้าแม่กลับเกาหลีเมื่อไหร่ขอให้แม่ได้เจอลูกบ้างนะ" ซอลชานจะพูดว่าตนไม่ใช่เซอี แต่เขาก็พูดไม่ออกเมื่อได้ยินแม่ของเซอีพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "จะไม่ให้แม่ได้ฟังเสียงลูกสักครั้งเลยหรือ เซอี! เซอี!" ซอลชานได้ยินดังนั้นจึงตัดสินใจตัดสายทิ้ง เขาเพิ่งรู้ว่าเซอีก็มีปัญหาครอบครัวเช่นกัน
หลังซอลชานยืนกรานว่าจะไม่ไปเยี่ยมแฟนคลับโรคจิตที่โรงพยาบาล ซีอีโอโกจึงงัดไม้ตายมาใช้โดยสั่งให้ซอลชานกลับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อที่เขาจะได้สร้างภาพลักษณ์ใหม่ในฐานะนักเรียนตัวอย่างที่มีจิตใจดี ในเมื่อภาพลักษณ์ของเขาถูกทำลายเพราะคอมเมนท์ของชาวเน็ต เขาก็ต้องกลับมาอีกครั้งแบบเท่ห์ๆ เพราะคอมเมนท์ของชาวเน็ตด้วยเช่นกัน ซอลชานแย้งว่าเด็กนักเรียนไม่ได้โง่ถึงขนาดดูไม่ออกว่านั่นคือการแสดง ซีอีโอโกจึงกล่าวว่าถ้าเช่นนั้นเขาก็ต้องแสดงออกด้วยความจริงใจ เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเขาเป็นนักเรียนที่ดีจริงๆ
ซอลชานแย้งว่าถ้าเขากลับไปเรียนหนังสือก็เหมือนถูกโยนเข้าไปอยู่ในกรงเดียวกับพวกแฟนคลับโรคจิต ผู้จัดการฮงได้ยินดังนั้นก็เห็นด้วยและเริ่มรู้สึกเป็นห่วง แต่ซีอีโอโกกลับบอกว่าสบายใจได้ สาเหตุที่ซีอีโอโกไม่กังวลเรื่องแฟนคลับ เป็นเพราะแฟนคลับโรคจิตที่กุเรื่องว่าโดนรถชนไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกับซอลชาน เธอเพิ่งดร็อปเรียนในปีนี้และอายุมากกว่าซอลชาน 1 ปีแต่ยังคงเรียกเขาว่า "พี่ชาย"
พอเพื่อนร่วมชั้นรู้ว่าเซอีเพิ่งย้ายมาจากนิวซีแลนด์ ทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้น แม้แต่แจร็อกเองก็ยังทึ่งถึงขนาดชวนเธอมาติวภาษาอังกฤษให้ตนและเพื่อนๆ วง All for One โดยบอกว่าจะจ่ายค่าติวให้ เซอีบอกตามตรงว่าเธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เพราะเธอเป็นเด็กเลี้ยงแกะ และเธอก็คุยกับแกะเป็นภาษาเกาหลี แม้เซอีจะพูดความจริงทุกอย่างแต่ก็ฟังดูเหมือนเธอกำลังล้อเล่น แจร็อกเห็นเซอีพูดหน้าตาย (และไม่เกรงกลัว) ก็นึกว่าเซอีลองของ เขาจะสั่งสอนเซอีแต่ถูกซอนอูห้ามเอาไว้ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียหน้าเขาจึงหันไประบายอารมณ์ใส่กิวตง
หลังเลิกเรียน เซอีเห็นนกบินหลงเข้ามาทางหน้าต่างจึงคิดที่จะนำนกไปปล่อยข้างนอก แต่นกเจ้ากรรมดันบินไปเกาะอยู่บนหลอดไฟ เซอีเลยต้องนำเก้าอี้มาวางบนโต๊ะเพื่อปีนขึ้นไปจับนก แต่ยังไม่ทันได้จับ นกก็บินหนีไปเสียก่อน เซอีมัวแต่มองหานกจึงเสียการทรงตัว โชคดีที่ซอนอูคว้าเก้าอี้เอาไว้ได้ทันก่อนที่เก้าอี้จะล้มคว่ำ เขาเงยหน้ามองเซอีแล้วรีบเบือนหน้าหนี (เพราะเซอีนุ่งกระโปรงและยืนอยู่บนที่สูง) พอรู้ว่าเซอีปีนขึ้นไปจับนก ซอนอูก็ถามอย่างอ่อนใจว่าจะจับนกไปทำไม เซอีปืนลงมาพลางตอบหน้าตาเฉยว่าจะเอาไปย่างกิน ซอนอูและอึนฮาได้ยินดังนั้นก็ต่างพากันยืนอึ้ง เซอีมองหน้าเพื่อนไปมาก่อนพูดด้วยน้ำเสียงและใบหน้าเรียบเฉยว่าเธอแค่ล้อเล่น อึนฮาจึงบอกว่าเวลาเซอีพูดเล่นดันเหมือนพูดจริง แต่พอเธอพูดเรื่องจริงกลับฟังเหมือนเธอกำลังล้อเล่น
ขณะกำลังเดินออกจากโรงเรียน สามหนุ่มแห่งวง All for One (ซอนอู, จุนฮี และแจร็อก) คุยกันเรื่องที่ครูทกมาติดต่อให้ไปเล่นคอนเสิร์ตการกุศล ทั้งจุนฮีและแจร็อกต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะไม่ไป ส่วนซอนอูบอกเพียงว่าขอศึกษารายละเอียดดูก่อน จุนฮีเห็นเซอีเดินมากับอึนฮาจึงสงสัยว่าเธอเป็นใคร เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน แจร็อกจึงบอกว่าเซอีเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งย้ายมาเรียนวันนี้... อึนฮามองสามหนุ่มที่เดินนำหน้าแล้วบอกกับเซอีว่า แม้ทั้งสามคนจะมาดเท่ห์หุ่นดี แต่เห็นแจร็อกแล้วเธออยากจะอ๊วก เธอเล่าว่าทั้งสามคนเป็นสมาชิกวงออเคสตร้าของโรงเรียนที่มีชื่อวงว่า "All for One" จุนฮาเป็นหัวหน้าวง ส่วนซอนอูเป็นรองหัวหน้า สมาชิกทุกคนในวงนี้ล้วนมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย อึนฮายังบอกด้วยว่าซอนอูเป็นผู้ชายเย็นชา เข้าถึงยาก และไม่เคยทำอะไรผิดพลาด แต่ความเย็นชาก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเขา
นอกจากนี้ อึนฮายังเตือนเซอีให้ระวัง "อดัม" ซึ่งเป็นพวกโรคจิตที่มีลักษณะหัวกระเซิง ชอบสวมแว่นดำ และใส่เทรนช์โค้ทยับๆ หากเซอีเห็นผู้ชายลักษณะดังกล่าวยืนเอามือล้วงกระเป๋าทั้งสองข้าง พร้อมทั้งฮัมเพลง "My Way" ก็ให้หลับตาแล้วรีบวิ่งหนีทันที
ในแวลาเดียวกันนั้น ซอลชานก็แอบย่องมาหาเซอีที่โรงเรียน (เพื่อคืนโทรศัพท์) เขาหลบอยู่หลังต้นไม้โดยสวมแว่นตาดำและมาในชุดเทรนช์โค้ทเพื่ออำพรางตัว เหล่านักเรียนหญิงเห็นซอลชานทำตัวลับๆ ล่อๆ อยู่หลังต้นไม้เลยพากันหยุดดูอยู่ห่างๆ เพราะสงสัยว่าอาจเป็นอดัม ซอลชานเห็นดังนั้นก็นึกว่าออร่าของตนเปล่งประกายทะลุแว่นตาและเสื้อโค้ท พอเห็นเซอีเดินมากับอึนฮาเขาก็ตะโกนเรียก แต่พอคิดได้ว่าวิธีนี้ไม่น่าจะเวิร์คและอาจตกเป็นข่าวอีกครั้ง เขาจึงสะกดรอยตามเซอีไปเรื่อยๆ พอเห็นว่าเซอีกับอึนฮาไม่มีวี่แววว่าจะแยกย้ายไปบ้านใครบ้านมันเสียที ซอลชานก็เริ่มหมดความอดทนและหันหลังกลับ แต่พอนึกถึงน้ำเสียงอันสั่นเครือของแม่เซอีที่บอกว่าอยากได้ยินเสียงลูกสักครั้ง ซอลชานก็ใจอ่อนและแอบย่องตามเซอีต่อ
ครั้นพอเซอีอยู่ตามลำพัง ซอลชานก็โผล่เข้ามาทักเซอีทางด้านหลัง เซอีรีบโกยแน่บโดยไม่หันกลับไปมองเพราะนึกว่าเขาคืออดัม ซอลชานพยายามตะโกนเรียกและวิ่งไล่ตาม แต่เซอีก็ตั้งหน้าตั้งตาหนีสุดชีวิต ซอนอูผ่านมาเห็นเซอีกำลังวิ่งหนีใครบางคนจึงตามไปช่วยเหลือ ซอลชานได้ยินเสียงคนร้องเรียกเซอี เลยเอามือปิดปากเซอีไว้ ทำให้สถานการณ์ยิ่งบานปลาย เซอีทั้งร้องและดิ้น แถมยังน้ำตาไหลพรากด้วยความหวดกลัว ซอลชานจึงถอดแว่นตาดำพลางบอกว่า "ชั้นเอง ยูน ซอลชาน" พอรู้ว่าเป็นไอดอลหนุ่มเซอีก็หยุดร้อง แต่แล้วอยู่ๆ ซอลชานก็ถูกชกเข้าที่ใบหน้าจนล้มคว่ำ และเจ้าของหมัดอันทรงพลังก็คือซอนอูนั่นเอง
พอรู้ว่าคนที่ชกหน้าตนคือซอนอู ซอลชานก็รีบยกปกเสื้อมาบังใบหน้าแล้วเดินหนี ซอนอูจึงเรียก "เฮ้! ยูน ชอลชาน!" ซอลชานเลยจำเป็นต้องหันกลับไปทักทาย "ไม่เจอกันนานนะ จอง ซอนอู" พอหายตกใจเซอีก็เอาคืนด้วยการชกเข้าที่ท้องของซอลชานแล้ววิ่งหนีไป ซอลชานเอามือกุมท้องพลางร้องบอกให้เธอมาเคลียร์เรื่องเข้าใจผิดกันก่อนแต่เซอีไม่ยอมรับฟัง ซอนอูเห็นดังนั้นจึงคว้ากระเป๋าของเซอีแล้ววิ่งตามไป
ซอนอูพาเซอีมานั่งสงบสติอารมณ์ที่ร้านกาแฟ เซอีรู้สึกดีขึ้นและกล่าวขอบคุณซอนอูที่ช่วยเหลือเธอหลายครั้งในวันนี้ พอรู้ว่าเซอีไม่ใช่แฟนคลับของซอลชาน ซอนอูก็รู้สึกแปลกใจ อยู่ๆ เซอีก็บอกซอนอูว่าเธอเกลียดใครคนหนึ่งมากที่สุดในโลก แต่พอตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเธอกลับนึกถึงและร้องหาคนๆ นั้น (แม่ของเธอเอง) และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกโกรธตัวเอง
หลังถูกชกจนช้ำทั้งบริเวณใบหน้าและท้อง ซอลชานก็นอนร้องโอดโอยและยืนกรานว่าจะไม่มีวันไปโรงเรียนโดยเด็ดขาด ผู้จัดการฮงจึงพาซอลชานไปเยี่ยมแฟนคลับโรคจิตที่โรงพยาบาลทั้งๆ ที่หน้าบวมช้ำ (เขามีเพียง 2 ทางเลือก) พร้อมทั้งแนะนำวิธีเอาใจแฟนคลับลวงโลก โดยบอกให้ซอลชานแกล้งทำเป็นลูบศีรษะเธออย่างทนุถนอมและจูบที่หลังมือ ซอลชานชั่งใจพลางมองแฟนคลับจำนวนหนึ่งที่มาดักรอหน้าทางเข้าโรงพยาบาล หลังจากนั้นเขาก็เปิดหน้าต่างรถแล้วโยนช่อดอกไม้ทิ้งลงบนพื้น ซึ่งหมายความว่าเขาเลือกที่จะไปโรงเรียน
แจร็อกต้องการโชว์พาวเลยหาเรื่องเซอีทันทีที่มาถึง เขาบังคับให้กิวตงร้องเพลงเพื่อเป็นการต้อนรับเซอี และบอกให้เซอีแสดงบางอย่างเพื่อเป็นการขอบคุณ แต่เซอีไม่เล่นด้วยทั้งยังปฏิทันควัน โดนัมเห็นดังนั้นจึงคิดที่จะสั่งสอนแต่แจร็อกห้ามเอาไว้ แม้จะถูกขาใหญ่ประจำห้องข่มเหงแต่เซอีก็ไม่หวั่นซ้ำยังจ้องหน้าแจร็อกอย่างไม่วางตา เธอยืนกรานว่าจะไม่ทำตามที่แจร็อกบอก (ซอลชานมาถึงหน้าห้องและเห็นเหตุการณ์พอดี จึงแอบดูอยู่ทางด้านนอก) แจร็อกเห็นว่าเซอีคงไม่ยอมอ่อนข้อให้ง่ายๆ ประกอบซอนอูทำท่าเหมือนจะลุกขึ้นมาขวาง เขาจึงยอมถอยก่อนที่เสียหน้ามากไปกว่านี้ ภาระหนักจึงตกไปที่กิวตง เพราะเขาถูกสั่งให้ร้องเพลงคู่ของลี โซรา (ต้องเลียนเสียงผู้หญิงด้วย) และต้องร้องเพลงแทนเซอีเพิ่มอีก 1 เพลง
กิวตงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เขาร้องเพลง (เศร้า) โดยใส่อารมณ์เต็มทีท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ แม้จะรู้สึกคับแค้นแต่กิวตงยังคงร้องเพลงต่อไปด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ ซอนอูอดรนทนไม่ไหวจึงบอกให้แจร็อกหยุดแกล้งเพื่อน แต่แจร็อกแกล้งทำเป็นหูทวนลม แม้แต่นานาที่เคยนั่งเงียบมาโดยตลอดก็ยังรู้สึกไม่พอใจและบอกให้กิวตงหยุดร้อง กิวตงไม่กล้าหยุดจึงได้แต่ร้องเพลงทั้งน้ำตา อึนฮาเห็นกิวตงน้ำตาไหลอาบแก้มจึงบอกแจร็อกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่าพอได้แล้ว แจร็อกหัวเราะและแถว่าตนไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย ที่กิวตงร้องเพราะเขาชอบร้องเพลง จากนั้นก็บอกกิวตงว่าถ้าไม่อยากร้องต่อก็ไม่เป็นไร
กิวตงทั้งร้องเพลงและร้องไห้หนักขึ้นจนเสียงเริ่มขาดหาย แจร็อกเริ่มไม่พอใจที่กิวตงไม่ยอมหยุดทั้งๆ ที่ตนบอกว่าพอได้แล้ว (เนื้อเพลงตรงกับความรู้สึกของกิวตง) เซอีสงสารกิวตงจึงร้องเพลงเป็นเพื่อน ท่ามกลางความตกตะลึงของเพื่อนๆ หลังจากนั้นทั้งคู่ร้องก็ประสานเสียงกันด้วยน้ำเสียงสุดแสนไพเราะ ราวกับกำลังร้องเพลงโชว์อยู่บนเวที (ระหว่างร้องเพลงเซอีจ้องหน้าแจร็อกด้วยสายตาเคียดแค้น) แจร็อกโกรธมากที่ถูกเซอีหยามจึงคิดลงมือลงไม้เพื่อเป็นการสั่งสอน ซอนอูรีบลุกขึ้นมาปกป้องเซอี ขณะที่ซอลชานเตะประตูดังปัง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
ทุกคนต่างพากันช็อคเมื่อเห็นซอลชานเดินเข้ามาในห้อง ซอลชานกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องก่อนเดินตรงไปหาเซอีแล้วพูดว่า "มิน เซอี! ขอชั้นนั่งด้วยคน"
เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน "Monstar วงเฮ้วกะล่อนรัก" ทางช่อง 1 เวิร์คพอยท์ทีวี
* เนื้อหาโดย luvasianseries
นักแสดงนำ
รับบท ยูน ซอลชาน
อัน เนซัง
รับบท ฮัน จีอุง
รับบท ฮัน จีอุง
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา