กำกับ: หยูหมิน, เจ้าเจียน
เขียนบท: เกาต้าหยง, หลางเซียเฟิง, หวงหย่งฮุย, คังฟง, เกาหลงหลง
แนวละคร: กำลังภายใน
จำนวนตอน: 50 (45 ตอนสำหรับเวอร์ชั่นที่เข้าฉายในฮ่องกง เนื่องจากมีการตัดต่อใหม่)
ออกอากาศ: จีน - เริ่มออกอากาศ 5 พฤษภาคม 2551 ทางเจียงซูทีวี
ไทย - ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 18.00 - 19.00 น. ทางโมโนทีวี
"อุ้ยเสี่ยวป้อ จอมยุทธ์เกรียนยุทธจักร" (หรือ "อุ้ยเสี่ยวป้อ เทพบุตรเจ้าสำราญ") เป็นผลงานการประพันธ์ชิ้นโบว์แดงของ กิมย้ง ซึ่งถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และซีรีส์หลายครั้ง สำหรับเวอร์ชั่นที่ออกฉายในปี ค.ศ. 2008 (เริ่มถ่ายทำในปี 2006) นี้ ได้ "จางจี้จง" ผู้อำนวยการสร้างมือทองมานั่งแท่นกุมบังเหียนทำให้เนื้อหาในซีรีส์ส่วนใหญ่ดำเนินเดินเรื่องตามบทประพันธ์ของ กิมย้ง อีกทั้ง Huayi Brothers บริษัทบันเทิงแถวหน้าจากแดนมังกรยังทุ่มเม็ดเงินสี่สิบล้านหยวนในการถ่ายทำฉากต่างๆ ให้มีความยิ่งใหญ่อลังการ
เรื่องย่อ
อุ้ยเสี่ยวป้อลูกชายหญิงคณิกาเมืองหยางโจว นับตั้งแต่เล็กได้ดูได้ฟังงิ้วมาโดยตลอดจึงทำให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาบรรดาวีรบุรุษซึ่งเป็นตัวละครในงิ้ว อุ้ยเสี่ยวป้อปฏิญาณว่าสักวันหนึ่งตนจะต้องเป็นวีรบุรุษเลื่องชื่อให้ได้ วันหนึ่ง อุ้ยเสี่ยวป้อได้ช่วยชีวิตเหมาสือปาชาวยุทธซึ่งกำลังมีภัยเอาไว้ด้วยความ กล้าหาญ เหมาสือปาซาบซึ้งน้ำใจที่อุ้ยเสี่ยวป้อช่วยชีวิตตนเอาไว้ ด้วยความที่เหมาสือปาทนคำรบเร้าของอุ้ยเสี่ยวป้อไม่ไหวจึงต้องพาอุ้ยเสี่ยว ป้อเดินทางไปปักกิ่ง
เมื่อถึงเมืองหลวง อุ้ยเสี่ยวป้อถูกขันทีเฒ่าและขันทีหนุ่มผู้ติดตามนำตัวเข้าวังหลวง อุ้ยเสี่ยวป้อใช้อุบายทำให้ไห่ต้าฟู่ขันทีเฒ่าตาบอด ทั้งยังเป็นเหตุให้เสี่ยวกุ้ยจื่อขันทีหนุ่มซึ่งติดตามไห่ต้าฟู่เสียชีวิตไป อีกด้วย นับแต่นั้นเป็นต้นมา อุ้ยเสี่ยวป้อจึงต้องสวมรอยเป็นขันทีเสี่ยวกุ้ยจื่อใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวง
วันหนึ่ง ขณะที่อุ้ยเสี่ยวป้อกลับจากเล่นพนันก็พบเห็นชายหนุ่มซึ่งเรียกตัวว่าเสี่ยว เสียนจื่อกำลังฝึกวรยุทธอยู่ อุ้ยเสี่ยวป้อนึกสนุกจึงเป็นคู่ซ้อมให้เสี่ยวเสียนจื่อ ที่แท้ชายหนุ่มที่ว่านี้คือคังซีฮ่องเต้ (เสียนเย่) นั่นเอง อ้าวไป้ขุนนางใหญ่ที่ทะนงตนว่าวรยุทธลึกล้ำไร้ผู้เทียมทาน มีคุณูปการต่อชาติบ้านเมือง แต่ความจริงแล้วเป็นขุนนางชั่วที่ถืออำนาจบาตรใหญ่ ไม่ยำเกรงเบื้องสูง ด้วยเหตุนี้คังซีฮ่องเต้จึงคิดหาทางกำจัดอ้าวไป้ให้พ้นทาง
คังซีฮ่องเต้ทรงวางแผนโดยมีรับสั่งให้อุ้ยเสี่ยวป้อนำขันทีจำนวนหนึ่งเล่นงิ้ว หาทางกำจัดอ้าวไป้ อุ้ยเสี่ยวป้อใช้ปฏิภาณไหวพริบสังหารอ้าวไป้ขุนนางชั่ว คุณงามความดีครั้งนี้ทำให้อุ้ยเสี่ยวป้อกลายเป็นคนโปรดของคังซีฮ่องเต้ และในเวลาเดียวกันอุ้ยเสี่ยวป้อก็ได้กลายเป็นที่หมายปองของพี่น้องพรรคฟ้า ดินซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ต้านชิงกู้หมิง
ภายในวันเดียวกันนั้นเอง อุ้ยเสี่ยวป้อเด็กหนุ่มวัยสิบเก้าปีไม่เพียงได้เป็นศิษย์ของเฉินจิ้นหนันหัว หน้าพรรคฟ้าดิน ทั้งยังได้เป็นหัวหน้าป้อมชิงมู่ของพรรคฟ้าดินอีกด้วย อุ้ยเสี่ยวป้อได้รับคำสั่งจากเฉินจิ้นหนันให้เดินทางกลับวังหลวงเพื่อเป็น สายให้พรรคฟ้าดิน
วันหนึ่ง อุ้ยเสี่ยวป้อได้รู้ถึงความลับที่ไทเฮาทรงสมคบคิดกับพรรคมังกรเทพ นอกจากนี้ยังรู้จากไทเฮาว่าซุ่นจื้อพระราชบิดาของคังซีฮ่องเต้ทรงผนวชประทับอยู่ที่วัดที่อู่ไถซันอีกด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ไทเฮาทรงปองร้ายเสี่ยวเสียนจื่อ อุ้ยเสี่ยวป้อจึงตัดสินใจนำเรื่องที่ตนรับรู้มารวมถึงเรื่องที่ตนสวมรอยเป็นเสี่ยวกุ้ยจื่อทูลต่อคังซีฮ่องเต้ คังซีฮ่องเต้ทรงตกพระทัยและปิติยินดีที่พระราชบิดายังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่คังซีฮ่องเต้ทรงรู้ความจริงแล้วก็ทรงมีพระบัญชาให้อุ้ยเสี่ยวป้อ เดินทางไปอู่ไถซันทันที
อุ้ยเสี่ยวป้อต้องพบอุปสรรคมากมายจนกระทั่งได้พบกับซุ่นจื้ออดีตฮ่องเต้ที่วัด ชิงเหลียงบนเขาอู่ไถซัน ระหว่างทางที่อุ้ยเสี่ยวป้อเดินทางกลับวังหลวงได้ถูกศิษย์สำนักมังกรเทพ ลักพาตัวไปที่เกาะงู ระหว่างที่อุ้ยเสี่ยวป้ออยู่บนเกาะงูนั้นได้ใช้อุบายจนเป็นที่เชื่อถือและ ไว้วางใจของหงอันทงหัวหน้าพรรคมังกรเทพจนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตมังกรขาว
หลังจากที่อุ้ยเสี่ยวป้อเดินทางถึงปักกิ่งก็ทูลรายงานคังซีฮ่องเต้ถึงเรื่อง ซุ่นจื้อ เดิมทีอุ้ยเสี่ยวป้อคิดว่าจะได้รับการตบรางวัลอย่างงามจากคังซีฮ่องเต้ แต่นึกไม่ถึงว่าหลังจากที่คังซีฮ่องเต้ทรงตบรางวัลอย่างงามให้อุ้ยเสี่ยวป้อ แล้ว พระองค์ก็ทรงมีพระบัญชาให้อุ้ยเสี่ยวป้อไปบวชเป็นหลวงจีนที่วัดเส้าหลิน อุ้ยเสี่ยวป้อได้กลายเป็นศิษย์ของหลวงจีนฮุ่ยหมิงศิษย์รุ่นเดียวกับเจ้า อาวาสวัดเส้าหลิน
หลวงจีนฮุ่ยหมิงเป็นหลวงจีนที่ไม่ยึดถือปฏิบัติตามวินัย ไม่ว่าจะดื่มเหล้า กินเนื้อสัตว์ เที่ยวหอนางโลม ทำลายชื่อเสียงเกียรติภูมินับพันปีของวัดเส้าหลิน เป็นที่เอือมระอาของบรรดาหลวงจีนด้วยกัน ผิงซีอ๋องอู๋ซันกุ้ยตั้งตัวเป็นใหญ่ที่ยูนาน คังซีอ่องเต้ทรงเห็นว่าถ้าหากปล่อยไว้จะเป็นภัยในภายภาคหน้า พระองค์จึงทรงมีพระราชดำริที่จะสลายอิทธิพลของอู๋ซันกุ้ยก่อนที่จะยกทัพไปปราบอู๋ซันกุ้ย เพื่อให้อู๋ซันกุ้ยชะล่าใจ คังซีฮ่องเต้จึงทรงตัดสินพระทัยยกองค์หญิงเจี้ยนหนิงให้อภิเษกสมรสกับอู๋อิง ไท่บุตรชายอู๋ซันกุ้ย
บังเอิญพ้นกำหนดถือบวชของอุ้ยเสี่ยวป้อพอดี คังซีฮ่องเต้จึงทรงมีรับสั่งให้อุ้ยเสี่ยวป้อเป็นทูตถือสาส์นอภิเษกสมรส อุ้ยเสี่ยวป้อนำพาทหารองครักษ์ถวายอารักขาองค์หญิงเจี้ยนหนิงเดินทางไปยูนาน เดิมทีทั้งอุ้ยเสี่ยวป้อและองค์หญิงเจี้ยนหนิงนั้นรู้จักกันมาก่อน
เมื่อต้องเดินทางรอนแรมเป็นเวลานานจึงทำให้ทั้งสองสนิทสนมกันมากขึ้นจนรักกันใน ที่สุด ก่อนที่จะเดินทางถึงยูนานทั้งสองก็ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ทำให้ทูตถือสาส์นอภิเษกสมรสต้องกลายเป็นราชบุตรเขย ที่เมืองคุนหมิง องค์หญิงเจี้ยนหนิงซึ่งกำลังทรงดื่มด่ำอยู่กับความรักนั้นไม่เพียงทรงปฏิเสธ ที่จะเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับอู๋อิงไท่ ทั้งยังทำลายความเป็นชายของอู๋อิงไท่ลงอีกด้วย
อุ้ยเสี่ยวป้อเห็นว่าเรื่องราวใหญ่โตบานปลายไปกันใหญ่แล้วจึงตัดสินใจพาอู๋อิง ไท่และองค์หญิงเจี้ยนหนิงกลับเมืองหลวง ต่อมา อุ้ยเสี่ยวป้อได้รับพระบัญชาให้นำทัพปราบอู๋ซันกุ้ยที่สมคบคิดการใหญ่กับ พรรคมังกรเทพ อุ้ยเสี่ยวป้อนำทัพบุกเหลียวตง แต่ยังไม่ทันเดินทางถึงเกาะงู แม่ทัพใหญ่ก็ถูกหงอันทงจับเป็นเชลย อุ้ยเสี่ยวป้อซึ่งกำลังตกอยู่ในอันตรายจึงต้องแสดงละครตบตาหลอกลวงหงอันทง จนในที่สุดอุ้ยเสี่ยวป้อก็สามารถหลบหนีออกจากพรรคมังกรเทพได้อย่างปลอดภัย หงอันทงโกรธมากเมื่อพบว่าหลงกลอุ้ยเสี่ยวป้อเข้าแล้ว ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ตามล่าปลิดชีวิตอุ้ยเสี่ยวป้อให้ได้
อุ้ยเสี่ยวป้อเข้าตาจนจึงต้องเดินทางขึ้นเหนือจนถึงเขาลู่ติ่งซัน นึกไม่ถึงว่าอุ้ยเสี่ยวป้อพลัดหลงเข้าไปในค่ายทหารของรัสเซีย ด้วยความที่อุ้ยเสี่ยวป้อเกรงว่าจะถูกพรรคมังกรเทพเล่นงาน อุ้ยเสี่ยวป้อไม่มีทางเลือกจึงจำต้องหลอกลวงองค์หญิงโซเฟียแห่งรัสเซีย องค์หญิงโซเฟียทรงรีบเร่งเดินทางกลับรัสเซียเพื่อเยี่ยมพระอาการประชวรของ พระเจ้าซาร์ นึกไม่ถึงว่าระหว่างทางองค์หญิงโซเฟียมีภัย อุ้ยเสี่ยวป้อไม่เพียงช่วยชีวิตองค์หญิงโซเฟียไว้ ทั้งยังทำให้องค์หญิงโซเฟียได้ขึ้นครองราชย์เป็นราชินีแห่งรัสเซียอีกด้วย
อุ้ยเสี่ยวป้อตามเสด็จองค์หญิงโซเฟียกลับรัสเซีย เนื่องจากอุ้ยเสี่ยวป้อมีความดีความชอบ องค์หญิงโซเฟียจึงทรงแต่งตั้งอุ้ยเสี่ยวป้อเป็นขุนนางใหญ่ อุ้ยเสี่ยวป้อคิดถึงบ้านเกิด ดังนั้นจึงอ้างว่าจะนำราชทูตรัสเซียเดินทางไปปักกิ่งเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี กับแผ่นดินต้าชิง ต้าชิงและรัสเซียทำสัญญาหย่าศึกกัน เนื่องจากอุ้ยเสี่ยวป้อทำคุณงามความดีต่อชาติบ้านเมือง คังซีฮ่องเต้จึงทรงสถาปนาอุ้ยเสี่ยวป้อเป็นอ๋อง
อู๋ซันกุ้ยวางแผนโค่นบัลลังก์ เพื่อให้บ้านเมืองเป็นปึกแผ่นมั่นคง ผูกใจประชาเป็นหนึ่งเดียวกัน คังซีฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชาให้อุ้ยเสี่ยวป้อเป็นผู้แทนพระองค์เยี่ยมเยียน ผูกใจประชา อุ้ยเสี่ยวป้อกลับบ้านเกิดในฐานะขุนนางใหญ่ หลังจากที่อุ้ยเสี่ยวป้ออ่านราชโองการของคังซีฮ่องเต้แล้ว อุ้ยเสี่ยวป้อก็ลอบไปหาแม่ที่ลี่ชุนย่วน นึกไม่ถึงว่าเมื่อถึงลี่ชุนย่วน อุ้ยเสี่ยวป้อกลับต้องตกอยู่ในวงล้อมชาวยุทธ อุ้ยเสี่ยวป้อเห็นเช่นนั้นจึงวางยาสลบชาวยุทธจนรักษาชีวิตไว้ได้ นึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้อุ้ยเสี่ยวป้อได้หญิงงามถึงหกคนมาเป็นภรรยาในคราวเดียวกัน
ขณะที่อุ้ยเสี่ยวป้อกำลังมีความสุขอยู่กับบรรดาฮูหยินของตนอยู่นั่นเอง อู๋ซันกุ้ยได้ก่อการกบฏขึ้นที่ยูนาน ทำให้อุ้ยเสี่ยวป้อจึงจำต้องเดินทางกลับเมืองหลวงทันที หมัดเทวดากุยซันซู่สองสามีภรรยาพลั้งมือฆ่าอู๋ลิ่วชีถึงแก่ความตาย เรื่องนี้ทำให้คนทั้งสองรู้สึกผิดจึงตัดสินใจร่วมมือกับพรรคฟ้าดินลอบเข้า วังหลวงเพื่อปลงพระชนม์คังซีฮ่องเต้ อุ้ยเสี่ยวป้อไม่สามารถนิ่งดูดายได้เมื่อเห็นเสี่ยวเสียนจื่อ (คังซีฮ่องเต้) มีภัย ดังนั้นจึงวางแผนช่วยคังซีฮ่องเต้ ทำให้แผนการลอบปลงพระชนม์คังซีฮ่องเต้ของกุยซินซู่ล้มเหลว
กุยซินซู่เคียดแค้นจึงเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของอุ้ยเสี่ยวป้อที่เป็นคนของพรรค ฟ้าดินออกมา เมื่อคังซีฮ่องเต้ทรงรู้ความจริงเช่นนั้นแล้วก็ทรงมีรับสั่งให้นำกำลังทหาร กวาดล้างพรรคฟ้าดิน คังซีฮ่องเต้ทรงให้โอกาสอุ้ยเสี่ยวป้อทำคุณไถ่โทษโดยการจับกุมตัวหัวหน้า พรรคฟ้าดินกลับมา อุ้ยเสี่ยวป้อไม่อยากให้ร้ายเฉินจิ้นหนันผู้เป็นอาจารย์และพี่น้องพรรคฟ้า ดิน ดังนั้นจึงตัดสินใจช่วยคนเหล่านั้นเอาไว้ จากนั้นอุ้ยเสี่ยวป้อก็ตัดสินใจหลบหนีไปจากเมืองหลวง ก่อนที่จะหลบหนีไปนั้น อุ้ยเสี่ยวป้อได้ชักชวนองค์หญิงเจี้ยนหนิงไปด้วยกัน
อุ้ยเสี่ยวป้อพาองค์หญิงเจี้ยนหนิงและบรรดาฮูหยินรวมเจ็ดคนหลบหนีไปตั้งหลักปักฐานอยู่ที่เกาะทงชือซึ่งไม่ไกลจากเกาะงูสักเท่าใดนัก เวลาผ่านไปหลายปี คังซีฮ่องเต้ทรงเห็นแก่มิตรภาพที่พระองค์และอุ้ยเสี่ยวป้อมีต่อกัน พระองค์ไม่เพียงไม่ทรงส่งทหารตามล่าเอาชีวิตอุ้ยเสี่ยวป้อ ในทางกลับกันพระองค์กลับทรงส่งทหารอารักขาอุ้ยเสี่ยวป้ออีกด้วย
โซเวียต คิดยึดครองดินแดนตะวันออกซึ่งเป็นไปตามที่คังซีฮ่องเต้ทรงคาดการ หลังจากที่คังซีฮ่องเต้ทรงปราบหัวเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ได้แล้ว พระองค์ก็ทรงยึดไต้หวันเป็นฐานกำลังเพื่อรับมือกับโซเวียต เนื่องจากอุ้ยเสี่ยวป้อเคยเดินทางไปมอสโกมาก่อน ที่สำคัญมีความสัมพันธ์อันดีต่อราชินีโซเวียต เมื่อเป็นเช่นนี้ คังซีฮ่องเต้จึงทรงมีรับสั่งให้อุ้ยเสี่ยวป้อกลับเมืองหลวงทันที คังซีฮ่องเต้ทรงสถาปนาอุ้ยเสี่ยวป้อเป็นลู่ติ่งตงโดยให้นำกองทัพรับมือ โซเวียต อุ้ยเสี่ยวป้อเห็นเสี่ยวเสียนจื่อ (คังซีฮ่องเต้) ไม่ได้นำพรรคฟ้าดินขึ้นมาเป็นเงื่อนไข ดังนั้นจึงรับคำสั่งด้วยดี
อุ้ยเสี่ยวป้อปฏิบัติตามแผนการของคังซีฮ่องเต้โดยการนำกองทัพบุกตีไปข้างหน้าจนได้รับชัยชนะ จากนั้นก็ทำสัญญาสงบศึกกับโซเวียต ทำให้อุ้ยเสี่ยวป้อประสบความสำเร็จทั้งการทหารและการทูต อุ้ยเสี่ยวป้อเดินทางกลับด้วยการสร้างเกียติภูมิยิ่งใหญ่ให้ชาติบ้านเมือง แต่ไม่นานนักก็มีมรสุมเข้ามา คังซีฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชาให้อุ้ยเสี่ยวป้อกวาดล้างพรรคฟ้าดิน แต่พี่น้องพรรคฟ้าดินกลับต้องการให้อุ้ยเสี่ยวป้อเป็นหัวหน้าพรรคฟ้าดิน เพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของเฉินจิ้นหนันต่อไป ทั้งสองเรื่องสร้างความลำบากใจ ยากนักที่จะตัดสินใจ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีหนทางเดียวเท่านั้นคือหลบหนี
อุ้ยเสี่ยวป้อทูลคังซีฮ่องเต้ว่าจะกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านเกิด แต่ความจริงแล้วกลับพาฮูหยินทั้งเจ็ดเดินทางไปรับแม่หลบหนีไปด้วยกัน อุ้ยเสี่ยวป้อปกปิดชื่อแซ่ หาที่สงบเงียบใช้ชีวิตฮูหยินทั้งเจ็ด คังซีฮ่องเต้ทรงพบว่านานมากแล้ว แต่อุ้ยเสี่ยวป้อก็ไม่กลับมาเสียที พระองค์ไม่เพียงทรงมีรับสั่งให้ทหารออกค้นหา ทั้งยังเสด็จลงใต้ด้วยพระองค์เองอีกด้วย แต่ก็ไม่มีข่าวคราวอุ้ยเสี่ยวป้อแม้แต่น้อย ราวกับว่าไม่มีคนชื่ออุ้ยเสี่ยวป้ออยู่ในโลก
นักแสดงนำ
นักร้อง/นักแสดงชาวจีน
รับบท อุ้ยเสี่ยวป้อ
อิงไฉ่เอ๋อ (เชอร์รี่ อิง)
นางแบบและนักแสดงไต้หวัน (สัญชาติอเมริกัน)
รับบท อาเคอ
เหอจั๋วเหยียน
นักแสดงชาวจีน
รับบท ซวงเอ๋อ
ซูช่าง
นักแสดงชาวจีน
รับบท องค์หญิงเจี้ยนหนิง
หลิวหยุน
นักแสดงชาวจีน
รับบท มู่เจี้ยนผิง
หลี่เฟยเอ๋อ
นักร้อง/นักแสดงชาวจีน
รับบท เจิงโหยว
"อุ้ยเสี่ยวป้อ" เป็นนิยายเรื่องสุดท้ายของ "กิมย้ง" ซึ่ง เหง่ยคัง ถือว่าเรื่องนี้เป็นสุดยอดพัฒนาการทางการประพันธ์ของกิมย้ง และเป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงฝีมือกิมย้งว่า " ไม่มีใครเป็นคู่แข่งได้ " ความเป็นยอดของเรื่องนี้อยู่ที่เป็นนิยายกำลังภายในที่ไม่ใช่นิยายกำลังภายใน นิยายกำลังภายในโดยทั่วไปมีขนบในการแต่งที่เห็นได้ง่ายอยู่สองประการคือ ตัวเอกต้องเป็นจอมยุทธหรืออย่างน้อยต้องมีวิทยายุทธ และตัวเอกต้องเป็นคนดีในแง่ของคุณธรรม แต่อุ้ยเสี่ยวป้อในเรื่องนี้มีลักษณะตรงข้ามกับขนบดังกล่าวทุกประการ ลักษณะดังกล่าวไม่เคยปรากฏในนิยายกำลังภายในเรื่องใดมาก่อน และเหง่ยคังว่าไม่มีเรื่องอื่นอีกต่อไป เรื่องนี้กิมย้งหันกลับไปใช้ประวัติศาสตร์จีนสมัยจักรพรรดิคังซี แห่ง ราชวงศ์ชิง มีส่วนสะท้อนการเมืองในจีนแผ่นดินใหญ่หลังปฏิวัติวัฒนธรรมอยู่ไม่น้อย แต่ความเด่นอยู่ที่สะท้อนธรรมชาติวิสัยมนุษย์ในสังคมปัจจุบันที่ต้องลดมาตรฐานศีลธรรมลงเพื่อความอยู่รอด เป็นนิยายที่มุ่งสะท้อนความจริงมากกว่าจะชี้นำผู้อ่านอย่างที่กิมย้งเคยสอดแทรกไว้ในแทบทุกเรื่อง นับเป็นการแหวกวงล้อมครั้งยิ่งใหญ่ของนักประพันธ์เอกผู้นี้
ในด้านศิลปะการประพันธ์นั้น งานของกิมย้งมีความประณีตแยบยลทุกด้าน ที่เห็นได้ชัดคือ ด้านสำนวนภาษา กิมย้งมีทัศนะว่านิยายกำลังภายในเป็นวรรณกรรมแบบจีนแท้ แม้จะใช้ศิลปะการประพันธ์นวนิยายช่วยในการแต่ง แต่ไม่ควรใช้สำนวนภาษาแบบนวนิยาย ของตะวันตก ควรใช้สำนวนภาษาแบบนิยายรุ่นเก่าเช่นสามก๊กของจีน เป็นแนวทางพัฒนาให้เหมาะแก่ยุคสมัย
7 ฮูหยินของท่านขุนอุ้ย
เป็นสาวใช้ในบ้านขุนนาง อุ้ยเสี่ยวป้ออยู่กับสาวคนนี้แล้วรู้สึกสบายใจเป็นที่สุด เพราะเธอทั้งช่างเอาอกเอาใจ และแสนดี
4. มู่เจี้ยนผิง
5. ซูเฉวียน
6. องค์หญิงเจี้ยนหนิง
7. เจิงโหยว
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา