บทประพันธ์: ถังชีกงจื่อ (จากนวนิยายดังเรื่อง "หัวซวีอิ่น")
กำกับ: หลี่ต๋าเชา
เขียนบท: เจี่ยเยี่ยนเยี่ยน
แนวละคร: แฟนตาซี, โรแมนติก, ย้อนยุค
จำนวนตอน: 48
ออกอากาศ: จีน - 9 กรกฎาคม 2558 ทางเสฉวนทีวี / เจียงซีทีวี
ไทย - ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 19.45-21.45 น. ทาง NOW26 ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 - 29 กุมภาพันธ์ 2559
กำกับ: หลี่ต๋าเชา
เขียนบท: เจี่ยเยี่ยนเยี่ยน
แนวละคร: แฟนตาซี, โรแมนติก, ย้อนยุค
จำนวนตอน: 48
ออกอากาศ: จีน - 9 กรกฎาคม 2558 ทางเสฉวนทีวี / เจียงซีทีวี
ไทย - ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 19.45-21.45 น. ทาง NOW26 ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 - 29 กุมภาพันธ์ 2559
"เพลงพิณรักข้ามภพ (Hua Xu Yin: City of Desperate Love)" เป็นหนึ่งในละครจีนที่ทุ่มทุนสร้างจำนวนมหาศาลกว่า 100 ล้านหยวน (กว่า 560 ล้านบาท) ใช้เวลาเตรียมการและสร้างสรรค์นานเกือบ 4 ปี (นับตั้งแต่เริ่มซื้อลิขสิทธิ์จนกระทั่งถึงวันออกอากาศ) ดัดแปลงมาจากนวนิยายรักแฟนตาซีสุดฮอตฮิตเรื่อง "หัวซวีอิ่น" ของนักประพันธ์ชื่อดัง "ถังชีกงจื่อ" และเนื่องจากเป็นนวนิยายที่ค่อนข้างยาวจึงใช้เวลาในการเขียนบทละครนานกว่า 2 ปี หลังแก้ไขบทละครกว่า 20 ครั้ง การถ่ายทำจึงเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม 2556 โดยใช้เวลาในการถ่ายทำราว 6 เดือน เดิมทีมีกำหนดออกอากาศเดือนสิงหาคม 2557 แต่มีเหตุขัดข้องบางประการจึงได้เลื่อนกำหนดฉายออกไปอีก 11 เดือน
เรื่องย่อ
ละคร "เพลงพิณรักข้ามภพ" มีความแตกต่างจากบทประพันธ์เดิมในเวอร์ชั่นนิยายค่อนข้างมาก แต่ยังคงแบ่งเนื้อหาออกเป็นเรื่องหลักและเรื่องย่อยตามเดิม (นิยายมี 4 เรื่องย่อย ส่วนในละครมีเพียง 3 เรื่องย่อยแต่ได้นำคาแรคเตอร์ในนิยายที่หายไปมาผนวกรวมไว้ในตัวละครบางตัว) โดยมีตัวละครหลักเป็นผู้เชื่อมโยงหรือร้อยเรียง 'โศกนาฏกรรมความรัก' ทั้งหมดเข้าด้วยกัน
"เจวี๋ยอ้ายจือเฉิง" (เรื่องหลัก)
"เมื่อหลายปีก่อน ข้าเคยมีชื่อว่า "อวี้เจิน" เป็นองค์หญิงแห่งแคว้นเว่ย ในตอนนั้นข้าตกหลุมรักบุรุษหนุ่มนามว่า "มู่เหยียน" จนสุดหัวใจ ภายหลังถึงได้รู้ว่าเขาเป็นองค์ชายรัชทายาทของแคว้นศัตรู นามว่า "ซูอวี้" เพื่อซูอวี้แล้ว ข้ายอมผิดใจกับท่านพ่อและกลายเป็นคนทรยศแผ่นดิน ข้าจึงสังเวยชีวิตให้แคว้นของข้าด้วยการกระโดดลงมาจากกำแพงเมือง ทุกคนต่างประณามข้าและซูอวี้ที่รักกัน แต่ที่ข้าเศร้าใจมากที่สุดคือการที่ซูอวี้หลอกใช้ข้า หรือนั่นเป็นเพราะข้าสามารถเนรมิตความฝันด้วยมนต์เพลงหัวซวี... หลังตายไปข้าถึงเข้าใจว่าเรื่องร้ายๆ จะกลับกลายเป็นดีได้ในป่าแห่งสายหมอกเท่านั้น"
ละครเปิดฉากขึ้นที่แคว้นเฉิน... เมื่อรู้ว่า "ชายาหลิว" ("หลิวซินฉือ" แม่เลี้ยงซูอวี้) สมคบคิดกับโอรสองค์รอง นามว่า "ซูเซี่ย" (น้องชายต่างมารดาของซูอวี้ / โอรสชายาหลิว) หวังก่อกบฏและยึดครองตำแหน่งเจ้าครองแคว้น... เฉินอ๋อง (เฉินกั๋วกง) จึงส่งซูอวี้และ "ฉินจื่อเหยียน" (ข้ารับใช้สาวของซูอวี้) ไปอัญเชิญเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์กลับวังก่อนที่ซูเซี่ยจะช่วงชิงไปได้ (ถ้าไม่ได้รับการถ่ายทอดไฟศักดิ์สิทธิ์เหล่าขุนนางจะไม่ยอมรับว่าเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าครองแคว้น)
เมื่อซูอวี้ทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จแล้ว เฉินอ๋องก็กล่าวกับซูอวี้ว่า อีกไม่นานดินแดนแห่งแคว้นทั้งเก้า ("จิ่วโจว" หรืออาณาจักรจีนโบราณ) จะทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุก 5 ปี ราชสำนักจึงสั่งให้ออกตามหาผู้ที่มี ปีเกิด เดือนเกิด วันเกิด และเวลาเกิด (ตามปฏิทินจันทรคติจีนโบราณ) เป็น "หยิน" ทั้งหมด (หรือที่เรียกว่า "หยินสือเซิงเหริน")* เนื่องจากเป็นคนที่สามารถเปิดผนึกมนต์เพลง "หัวซวีอิ่น" ได้ (เชื่อกันว่าหากใครได้หัวซวีอิ่นมาไว้ในครอบครองจะมีอำนาจเหนือทุกคนในใต้หล้า)
* หยินสือเซิงเหริน ในที่นี้คือ คนที่มีอักษรประจำวัน เดือน ปี เกิด ทั้งในภาคสวรรค์และภาคปฐพีตามปฏิทินจันทรคติจีนโบราณ ตรงกับธาตุหยินทั้งหมด โดยอักษรภาคสวรรค์ (10 กิ่งฟ้า) ที่เป็นธาตุหยิน ได้แก่ อี่ (ธาตุไม้หยิน), ติง (ธาตุไฟหยิน), จี่ (ธาตุดินหยิน), ซิน (ธาตุทองหยิน), กุ่ย (ธาตุน้ำหยิน) ส่วนอักษรภาคปฐพี (12 ก้านดิน) ที่เป็นธาตุหยิน ได้แก่ โฉ่ว (วัว หรือปีฉลู), หม่าว (กระต่าย หรือปีเถาะ), ซื่อ (งู หรือมะเส็ง), เว่ย (แพะ หรือ มะแม), โหย่ว (ไก่ หรือระกา), ไฮ่ (หมู หรือ กุน) - ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
เฉินอ๋องต้องการครอบครองหัวซวีอิ่นจึงสั่งให้ซูอวี้ไปตามหาคนๆ นั้นให้เจอแล้วพากลับมาที่แคว้นเฉินให้จงได้ หากซูอวี้ทำงานนี้ได้สำเร็จตนจะถ่ายทอดไฟศักดิ์สิทธิ์ให้ซูอวี้ หลังจากนั้นซูอวี้จะเป็นองค์ชายรัชทายาทที่ไม่มีใครสามารถต่อกรได้ เฉินอ๋องยังบอกอีกว่า คนที่ตนให้ออกตามหาเป็นหญิงสาวที่เพิ่งมีอายุครบ 16 ปี และมีญาณพิเศษ สัตว์ต่างๆ (ยกเว้นงู) จึงมักชอบเข้ามาคลอเคลียใกล้ๆ เธอ เฉินอ๋องยังเตือนให้ซูอวี้เดินทางด้วยความระมัดระวัง เพราะแม้ตนจะขังชายาหลิวเอาไว้ในตำหนักแต่อิทธิพลของนางก็ยังคงอยู่ และแล้วก็เป็นจริงดังที่เฉินอ๋องคาด เพราะหลังออกเดินทางได้ไม่นานซูอวี้ก็ถูกกลุ่มชายชุดดำไล่ฆ่า โชคดีที่มีเสือแสนรู้คู่ใจชื่อ "ต้าหวง" ช่วยขวางเอาไว้ เขาจึงหลุดพ้นการตามล่ามาได้
อวี้เจินอยากไปร่วมงานบวงสรวงกับเว่ยอ๋องแต่ถูกเว่ยอ๋อง (เว่ยกั๋วกง) ห้ามไม่ให้ออกจากวัง ทั้งยังสั่งให้แม่ทัพหญิงนามว่า "ซ่งหนิง" คอยคุมเข้ม อวี้เจินจึงปลอมเป็นทหาร จากนั้นก็แฝงตัวปะปนกับกลุ่มทหารที่ตามอารักขาเว่ยอ๋องระหว่างเดินทางไปร่วมพิธีบวงสรวงที่เมืองหย่งอัน แต่ดันถูกซ่งหนิงจับได้เสียก่อน ซ่งหนิงจึงคิดที่จะส่งอวี้เจินกลับวังในวันรุ่งขึ้น ขณะตั้งค่ายพักแรมกลางป่าในตอนกลางคืน อยู่ๆ ต้าหวงก็บุกเข้าไปหาอวี้เจินถึงในกระโจม อวี้เจินเห็นเสือตัวใหญ่ยักษ์เข้ามาในกระโจมกลางดึกจึงลุกขึ้นมาคุยเล่นด้วยความเอ็นดู หลังจากนั้นไม่นานซูอวี้ก็เข้ามาตามต้าหวงในกระโจมหน้าตาเฉย แถมยังมีชายชุดดำตามเข้ามาฆ่าซูอวี้ต่อหน้าต่อตาอวี้เจินอีกต่างหาก
หลังกำจัดชายชุดดำแล้วซูอวี้ก็ชวนต้าหวงไปตามหาคนต่อ แต่ต้าหวงไม่ยอมไปซ้ำยังคลอเคลียอวี้เจินไม่ยอมห่างราวกับเป็นเหมียวน้อย ซูอวี้ไม่มีทางเลือกจึงต้องอุ้มอวี้เจินออกไปด้วยเพื่อให้ต้าหวงตามออกมา ปรากฏว่าด้านนอกมีกลุ่มนักฆ่าดักรออยู่ ซูอวี้จึงให้ต้าหวงช่วยนำทางหลบหนี ปรากฏว่าต้าหวงกระโดดข้ามไปที่หน้าผาอีกฝั่ง ซูอวี้เห็นดังนั้นจึงคิดที่จะพาอวี้เจินเหินข้ามหน้าผาตามต้าหวงไป แต่อวี้เจินดันเกาะเถาวัลย์เอาไว้ไม่ยอมปล่อย ทั้งคู่จึงตกลงไปในถ้ำทางด้านล่าง พอรู้ว่าซูอวี้ตกหน้าผาพร้อมผู้หญิงคนหนึ่ง ซูเซี่ยจึงสงสัยว่าซูอวี้พบคนที่เกิดวันเวลาหยินแล้ว เขาจึงสั่งให้คนไปสืบว่าผู้หญิงที่อยู่กับซูอวี้เป็นใคร และบอกลูกน้องว่าถ้าทั้งคู่มุ่งหน้าไปที่เมืองหย่งอันก็ให้กำจัดทิ้งเสีย
เมื่อรู้ว่าอวี้เจินแอบปลอมตัวเป็นทหารแล้วหนีออกจากวัง ซ้ำยังถูกคนลักพาตัวจนตกจากหน้าผา เว่ยอ๋องจึงโกรธมากและคิดที่จะประหารซ่งหนิง แต่ซ่งหนิงขอให้เว่ยอ๋องไว้ชีวิตตนก่อนเพื่อที่ตนจะได้รีบออกตามหาอวี้เจิน โดยบอกว่าถ้าหาอวี้เจินพบแล้วตนจะกลับมารับโทษแต่โดยดี... พอรู้ว่าซูอวี้กำลังออกตามหาหญิงที่เพิ่งมีอายุครบ 16 ปี และหญิงคนดังกล่าวก็มีลักษณะคล้ายตน อวี้เจินจึงคิดที่จะหลบหนีแต่กลับถูกซูอวี้ทวงบุญคุณและใช้ให้ไปตักน้ำโดยอ้างว่าเธอทำให้เขาขาเจ็บ หลังตักน้ำในลำธารแล้วอวี้เจินก็พบ "เสี่ยวเสวี่ย" (หรือเจ้า "หิมะน้อย" ซึ่งเป็นเฟอร์เรทที่เธอเลี้ยงไว้และตามเธอมาจากแคว้นเว่ย) เธอจึงวานเสี่ยวเสวี่ยให้ช่วยไปส่งจดหมายให้ซ่งหนิง
ซูอวี้เห็นอวี้เจินหายไปนานผิดปกติจึงออกตามหาและพบว่าอวี้เจินกำลังหลงป่า เขาเห็นงูเขียวเลื้อยลงมาจากต้นไม้ทางด้านหลังอวี้เจินจึงคิดทดสอบว่าอวี้เจินใช่คนที่ตนกำลังตามหาหรือไม่ ปรากฏว่าอวี้เจินไม่กลัวเสือแต่กลัวงู หลังอวี้เจินถูกงูกัดเขาก็แกล้งหลอกเธอว่างูชนิดนี้มีพิษร้ายแรงมาก หากใครโดนกัดจะต้องตายภายในเจ็ดก้าว ตอนแรกอวี้เจินไม่เชื่อแต่พอเดินไปได้หกก้าวเธอก็เริ่มลังเลและเป็นโรคอุปทานตามอาการที่ซูอวี้ชี้นำ อวี้เจินชักเริ่มกลัวตายจึงขอให้ซูอวี้ช่วยโดยกล่าวว่าเธอกับซูอวี้เพิ่งผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน เขาคงไม่ใจจืดใจดำถึงขนาดปล่อยให้เธอตายไปต่อหน้าต่อตา
เมื่อซูอวี้ขอเหตุผลอีกข้อว่าทำไมเขาต้องช่วยเธอ อวี้เจินก็บอกว่าตอนนี้เธอกับเขาติดอยู่ในป่า แถมขาของเขายังบาดเจ็บจึงต้องมีคนคอยช่วยดูแลเขา ดังนั้นเธอจะคอยดูแลและทำตามคำสั่งของเขาทุกอย่าง แต่สุดท้ายกลับเป็นซูอวี้ที่ต้องแบกอวี้เจินกลับถ้ำทั้งๆ ที่ขาเจ็บ เพราะเขาดันหลอกเธอว่าถ้าโดนงูกัดจะต้องตายภายในเจ็ดก้าว (ก่อนหน้านี้อวี้เจินเดินไปแล้วหกก้าว)
จื่อเหยียนแอบมารายงานซูอวี้ว่า เฉินอ๋องต้องการให้ซูอวี้พาอวี้เจินไปที่เมืองหย่งอันโดยเร็วเพื่อพิสูจน์ว่าเธอคือคนที่พวกตนกำลังตามหาหรือไม่ แต่ปัญหาก็คือตอนนี้องค์ชายรอง (ซูเซี่ย) และเหล่าลูกสมุนได้ไปดักรอสังหารซูอวี้และอวี้เจินที่เมืองหย่งอันแล้ว
อวี้เจินรู้สึกเสียใจและอดใจหายไม่ได้เมื่ออยู่ๆ ซูอวี้ก็บอกลาและทิ้งเธอไว้กลางป่าตามลำพังโดยมอบขวดยาขับพิษงูเอาไว้ให้ดูต่างหน้า (จริงๆ แล้วเป็นขวดบรรจุเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์) จื่อเหยียนสงสัยว่าทำไมซูอวี้จึงไม่พาอวี้เจินไปด้วยทั้งๆ ที่เธอเป็นคนที่เขากำลังตามหา ซูอวี้บอกเพียงว่าหนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตราย หากอวี้เจินร่วมเดินทางไปกับพวกตนจะทำให้พวกตนถูกโจมตีได้ง่าย ตนวางแผนเอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว ดังนั้นอวี้เจินจะไม่มีทางหลุดมือตนไปได้อย่างแน่นอน
ซูอวี้เห็นอวี้เจินหายไปนานผิดปกติจึงออกตามหาและพบว่าอวี้เจินกำลังหลงป่า เขาเห็นงูเขียวเลื้อยลงมาจากต้นไม้ทางด้านหลังอวี้เจินจึงคิดทดสอบว่าอวี้เจินใช่คนที่ตนกำลังตามหาหรือไม่ ปรากฏว่าอวี้เจินไม่กลัวเสือแต่กลัวงู หลังอวี้เจินถูกงูกัดเขาก็แกล้งหลอกเธอว่างูชนิดนี้มีพิษร้ายแรงมาก หากใครโดนกัดจะต้องตายภายในเจ็ดก้าว ตอนแรกอวี้เจินไม่เชื่อแต่พอเดินไปได้หกก้าวเธอก็เริ่มลังเลและเป็นโรคอุปทานตามอาการที่ซูอวี้ชี้นำ อวี้เจินชักเริ่มกลัวตายจึงขอให้ซูอวี้ช่วยโดยกล่าวว่าเธอกับซูอวี้เพิ่งผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน เขาคงไม่ใจจืดใจดำถึงขนาดปล่อยให้เธอตายไปต่อหน้าต่อตา
เมื่อซูอวี้ขอเหตุผลอีกข้อว่าทำไมเขาต้องช่วยเธอ อวี้เจินก็บอกว่าตอนนี้เธอกับเขาติดอยู่ในป่า แถมขาของเขายังบาดเจ็บจึงต้องมีคนคอยช่วยดูแลเขา ดังนั้นเธอจะคอยดูแลและทำตามคำสั่งของเขาทุกอย่าง แต่สุดท้ายกลับเป็นซูอวี้ที่ต้องแบกอวี้เจินกลับถ้ำทั้งๆ ที่ขาเจ็บ เพราะเขาดันหลอกเธอว่าถ้าโดนงูกัดจะต้องตายภายในเจ็ดก้าว (ก่อนหน้านี้อวี้เจินเดินไปแล้วหกก้าว)
จื่อเหยียนแอบมารายงานซูอวี้ว่า เฉินอ๋องต้องการให้ซูอวี้พาอวี้เจินไปที่เมืองหย่งอันโดยเร็วเพื่อพิสูจน์ว่าเธอคือคนที่พวกตนกำลังตามหาหรือไม่ แต่ปัญหาก็คือตอนนี้องค์ชายรอง (ซูเซี่ย) และเหล่าลูกสมุนได้ไปดักรอสังหารซูอวี้และอวี้เจินที่เมืองหย่งอันแล้ว
อวี้เจินรู้สึกเสียใจและอดใจหายไม่ได้เมื่ออยู่ๆ ซูอวี้ก็บอกลาและทิ้งเธอไว้กลางป่าตามลำพังโดยมอบขวดยาขับพิษงูเอาไว้ให้ดูต่างหน้า (จริงๆ แล้วเป็นขวดบรรจุเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์) จื่อเหยียนสงสัยว่าทำไมซูอวี้จึงไม่พาอวี้เจินไปด้วยทั้งๆ ที่เธอเป็นคนที่เขากำลังตามหา ซูอวี้บอกเพียงว่าหนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตราย หากอวี้เจินร่วมเดินทางไปกับพวกตนจะทำให้พวกตนถูกโจมตีได้ง่าย ตนวางแผนเอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว ดังนั้นอวี้เจินจะไม่มีทางหลุดมือตนไปได้อย่างแน่นอน
ซูเซี่ยส่งมีดสั้นที่ซูอวี้ทำหล่นก่อนตกจากหน้าผาไปให้เฉินอ๋อง โดยบอกว่าซูอวี้ถูกทหารของแคว้นเว่ยไล่ล่าจนพลัดตกจากหน้าผาและยังไม่ทราบชะตากรรม เฉินอ๋องรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนการของซูเซี่ยจึงสั่งให้แม่ทัพ "เสิ่นอั้น" เดินทางไปยังเมืองหย่งอันเพื่อหยุดยั้งแผนชั่วของซูเซี่ยและป้องกันไม่ให้พี่น้องฆ่าฟันกันเอง (ซูเซี่ยไปเมืองหย่งอันเพื่อเข้าร่วมพิธีบวงสรวงในฐานะตัวแทนเฉินอ๋อง)
อวี้เจินแวะทานโจ๊กที่ร้านริมทางและถูก "จวินเหว่ย" (ฮ่องเต้) ซึ่งปลอมตัวเป็นมนุษย์ป้า (เจ้าของร้าน) วางยานอนหลับ เมื่ออวี้เจินฟื้นขึ้นมาเธอจึงเอาคืนด้วยการบอกให้เสี่ยวเสวี่ยและฝูงตัวต่อช่วยกันจัดการฮ่องเต้ทำให้หลบหนีออกมาได้ พอไปถึงเมืองหย่งอัน อวี้เจินก็ทำสัญลักษณ์ไว้ที่ประตูเมืองเพื่อให้เว่ยอ๋องและซ่งหนิงรู้ว่าเธอมาถึงที่นี่แล้ว เมื่อทหารของแคว้นเว่ยพบสัญลักษณ์ดังกล่าวก็มาราย งานซ่งหนิง ซ่งหนิงจึงไปขอร้องใต้เท้าจาง (ผู้ว่าการเมืองหย่งอัน) ให้ช่วยนำกำลังทหารออกค้นหาอวี้เจินแต่กลับถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดี แถมใต้เท้าจางยังสั่งให้ทหารจับกุมเธอจนเกิดการต่อสู้ (ฝ่ายใต้เท้าจางสู้ซ่งหนิงไม่ได้) แต่แล้วอยู่ๆ แม่ทัพเสิ่นอั้นจากแคว้นเฉินก็เข้ามาขวางเอาไว้และขอประลองฝีมือกับเธอ หลังเป็นฝ่ายแพ้เสิ่นอั้นก็ขอให้ใต้เท้าจางละเว้นซ่งหนิงโดยอ้างว่าเพื่อเป็นการตอบแทนที่ตนช่วยชีวิตใต้เท้าจาง จากนั้นก็บอกว่าตนจะทำตามคำขอของซ่งหนิงแทนใต้เท้าจางเอง (เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิง)
เมื่อได้รับรายงานว่ามีลางบอกเหตุจากสวรรค์ องค์หญิงอวิ๋น (เสด็จอาของจวินเหว่ย) จึงรีบไปที่สวนกระจกสีบรอนซ์และพบว่ากระจกมีปฏิกิริยาบางอย่าง ซึ่งหมายความว่าผู้ที่เกิดวันเวลาหยินได้เดินทางมาที่เมืองหย่งอันแล้ว วันรุ่งขึ้นองค์หญิงอวิ๋นจึงเริ่มพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ที่ปกป้องคุ้มครองดินแดนแห่งแคว้นทั้งเก้า) ต่อหน้าผู้แทนจากแคว้นต่างๆ โดยใช้เลือดของเธอเป็นเครื่องสังเวย (จริงๆ แล้วเธอทำเช่นนั้นเพราะต้องการให้ผู้ที่เกิดวันเวลาหยินปรากฏตัว) หลังจากนั้นอวี้เจินก็ถูกมนต์สะกดให้เดินเข้าไปในพิธีและหมดสติต่อหน้าทุกคน พอรู้ว่าอวี้เจินคือคนที่ตนกำลังตามหา องค์หญิงอวิ๋นจึงแกล้งสั่งให้ทหารจับกุมอวี้เจินโทษฐานที่บังอาจทำลายพิธีบวงสรวงและลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ (แม้เมื่อ 100 ปีก่อนทุกแคว้นต่างเห็นพ้องต้องกันว่า จะไม่ปิดบังซึ่งกันและกันเมื่อพบผู้ที่สามารถเปิดผนึกหัวซวีอิ่นได้ แต่องค์หญิงอวิ๋นกลับไม่คิดบอกใครว่าอวี้เจินคือคนๆ นั้น)
เว่ยอ๋องเห็นธิดาของตนถูกจับตัวไปต่อหน้าต่อตา จึงขอเข้าเฝ้าองค์หญิงอวิ๋นกลางดึกเพื่อขอร้องให้เธอปล่อยตัวอวี้เจิน เขารู้ว่าองค์หญิงอวิ๋นใช้เลือดสะกดอวี้เจินให้เข้าไปปรากฏตัวกลางพิธีบวงสรวงจึงขู่ว่าจะเปิดโปงเรื่องที่เธอซ่อนตัวอวี้เจินเอาไว้และคิดใช้อวี้เจินเพื่อแสวงหาอำนาจแต่เพียงผู้เดียว (แม้ตอนนี้แคว้นต่างๆ จะเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนแห่งแคว้นทั้งเก้า แต่ส่วนใหญ่เป็นรัฐอิสระที่ปกครองตนเอง ทำให้ฮ่องเต้ไม่มีอำนาจและไม่เป็นใหญ่อย่างแท้จริง องค์หญิงอวิ๋นจึงคิดที่จะนำหัวซวีอิ่นมาเป็นเครื่องมือในการผนวกรวมดินแดนต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียว จะได้อยู่ภายใต้การปกครองของฮ่องเต้ตระกูลจวินเหมือนเมื่อครั้งในอดีต) องค์หญิงอวิ๋นพาเว่ยอ๋องไปดูอวี้เจินที่สวนกระจกเพื่อยืนยันว่าเธอปลอดภัยดี จากนั้นก็นำผลประโยชน์เรื่องดินแดนมาต่อรอง โดยตกลงกันว่าถ้าอวี้เจินเปิดผนึกหัวซวีอิ่นได้แล้วตนและเว่ยอ๋องจะแบ่งดินแดนกันปกครองคนละครึ่ง เว่ยอ๋องพึงพอใจในข้อตกลงจึงยอมมอบอวี้เจินให้องค์หญิงอวิ๋น ทั้งๆ ที่รู้ว่าอวี้เจินต้องสังเวยชีวิต
ซูอวี้ (ซึ่งแอบฝากเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ที่อวี้เจินโดยที่เธอไม่รู้ตัว) ใช้หิ่งห้อยนำทางเป็นตัวช่วยในการตามหาอวี้เจินและเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ทำให้รู้ว่าอวี้เจินอยู่ในวังที่เมืองหย่งอัน หลังลักลอบเข้าไปในวังซูอวี้ได้ยินเว่ยอ๋องต่อรองผลประโยชน์กับองค์หญิงอวิ๋นโดยใช้ชีวิตของอวี้เจินเป็นเดิมพันจึงเริ่มรู้สึกสงสารและเห็นใจอวี้เจิน เมื่ออวี้เจินฟื้นขึ้นมาก็พบว่าหิ่งห้อยของซูอวี้ (ซึ่งสามารถผ่านเข้าไปในกระจกได้) กำลังค้นหาอะไรบางอย่างในตัวเธอๆ จึงนำขวด (เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์) ที่ซูอวี้มอบให้ออกมาดูและนั่นก็ทำให้ไฟศักดิ์สิทธิ์เข้าไปสิงสถิตอยู่ในตัวเธอ (ไฟศักดิ์สิทธิ์เป็นหยาง ส่วนอวี้เจินเกิดในวัน เดือน ปี เวลา ที่เป็นหยินล้วนๆ จึงรับไฟศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในตัวได้ แต่นั่นก็จะให้เธอตกอยู่ในอันตราย)
ฮ่องเต้พยายามหว่านล้อมให้องค์หญิงอวิ๋นปล่อยตัวอวี้เจิน โดยบอกว่าทุกวันนี้บ้านเมืองก็สงบสุขดีอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องนำชีวิตผู้บริสุทธิ์มาสังเวยเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ องค์หญิงอวิ๋นชี้ว่าทุกวันนี้จวินเหว่ยเป็นฮ่องเต้ของแคว้นทั้งเก้าเพียงแค่ในนาม แต่ถ้าหัวซวีอิ่นถูกเปิดผนึกเมื่อไหร่ เขาจะกลายเป็นฮ่องเต้ที่ทุกแคว้นยำเกรง
ในที่สุดพิธีเปิดผนึกหัวซวีอิ่นก็เริ่มต้นขึ้น โดยมีคนของแคว้นต่างๆ วางกำลังดักซุ่มโดยรอบ (ทุกแคว้นต่างหวังชิงตัวอวี้เจิน) แม้แต่ซูอวี้และจื่อเหยียนก็มาเฝ้าดูอยู่ห่างๆ จื่อเหยียนเคยได้ยินเรื่องเล่าในตำนานจึงบอกซูอวี้ว่า ทันทีที่มือของอวี้เจินแตะผนังมนตราเธอจะเลือดออกจนตาย จื่อเหยียนอยากให้ซูอวี้รอจนกว่าอวี้เจินจะเปิดผนึกได้สำเร็จแต่ซูอวี้ไม่ยอมให้อวี้เจินตาย พอเห็นอวี้เจินเดินเข้าไปใกล้ผนังมนตราเขาจึงกางปีกอินทรีย์เพลิงออกแล้วบินไปช่วยอวี้เจินโดยไม่สนใจหัวซวีอิ่น หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกัน โดยไม่รู้ว่านั่นคือจุดเริ่มต้นของชะตากรรมอันเลวร้ายที่จะทำให้ชีวิตเธอและเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
"ฝูเซิงจิ้น"
กล่าวถึงศึกรักศึกรบระหว่าง "ซ่งหนิง" นักรบหญิงแห่งแคว้นเว่ย และ "เสิ่นอั้น" แม่ทัพแห่งแคว้นเฉิน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มต้นจากการฟาดฟันกันในสนามประลองระหว่างทำสงครามสองแคว้น แม้ต่างฝ่ายต่างเป็นนักรบของแคว้นศัตรู แต่ทั้งคู่ก็ต่างก็ยกย่องและให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งซ่งหนิงที่ตกหลุมรักและมองว่าเสิ่นอั้นเป็นนักรบที่น่าชื่นชม
ในฐานะที่เป็นแม่ทัพทั้งคู่จึงท้าประลองกันแบบตัวต่อตัวสามครั้ง ระหว่างการประลองครั้งแรกหมวกเกราะของซ่งหนิงหล่น เสิ่นอั้นมัวแต่ตกตะลึงเพราะคาดไม่ถึงว่าแม่ทัพของศัตรูจะเป็นผู้หญิง ทำให้ตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ค่ายทหารของแคว้นเฉินจึงต้องแขวนธงขาวตามสัญญาในฐานะที่เป็นผู้แพ้ หลังจากนั้นไม่นาน ซ่งหนิงก็เป็นฝ่ายชนะอีกครั้งเพราะได้เกราะเหล็กของพี่ชายช่วยเอาไว้ การปราชัยในครั้งนี้ทำให้เสิ่นอั้นต้องผูกผ้าขาวเอาไว้ที่ตัว ถึงกระนั้นเสิ่นอั้นก็ยังนับถือฝีมือและความเป็นนักสู้ของซ่งหนิง แต่การที่เขาพ่ายแพ้ให้แม่ทัพของศัตรูติดต่อกันถึงสองครั้งทำให้ขวัญและกำลังใจทหารของแคว้นเฉินตกต่ำลง เขาจึงคิดที่จะกู้ศักดิ์ศรีของตนและแคว้นเฉินคืนมา
ในตอนนั้นทัพของฝ่ายเฉินตกเป็นรองในแทบทุกด้าน แถมกำลังเสริมที่ซูอวี้นำมายังถูกลอบโจมตี (เพราะมีหนอนบ่อนไส้) พ่อของเสิ่น อั้นจึงวางยาและนำตัวเขาออกจากค่ายทหารเพื่อไม่ให้ไปตายในสนามรบ แต่เสิ่นอั้นเป็นนักรบจึงไม่ยอมหนีเอาตัวรอดตามลำพังและขอกลับไปสู้ตายกับทหารของตน ขณะที่ซ่งหนิงเองก็ถูก "ซ่งเหยียน" ผู้เป็นพี่ชาย (ซึ่งเป็นแม่ทัพของแคว้นเว่ยเช่นกัน) กดดันให้ทำสงครามกับแคว้นเฉินอย่างจริงจังให้รู้ผลแพ้ชนะกันเสียที ซ่งหนิงไม่เห็นด้วยที่พี่ชายจะใช้อาวุธร้ายแรงและมีพิษในการเอาชนะกองทัพของแคว้นเฉิน แต่พี่ชายของเธอพร้อมทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะและความอยู่รอดของชาติบ้านเมืองโดยไม่สนใจว่าจะได้ชัยชนะมาด้วยวิธีใด
ในที่สุดเสิ่นอั้นก็ชนะการประลองในครั้งที่สาม หลังบอกตนเองว่าซ่งหนิงเป็นทหารไม่ใช่ผู้หญิง แม้ครั้งนี้ทั้งคู่จะเอาชีวิตเป็นเดิมพันแต่เสิ่นอั้นกลับไว้ชีวิตซ่งหนิง ทำให้ซ่งหนิงรู้สึกซาบซึ้งใจมาก เมื่อเห็นว่าซ่งหนิงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ซ่งเหยียนจึงสั่งให้ทหารโจมตีเสิ่นอั้นและทหารของแคว้นเฉินด้วยลูกแก้วอัคคีที่มีพิษร้ายแรงทันที ทำให้ทหารของแคว้นเฉินล้มตายเป็นจำนวนมาก (เสิ่นอั้นคิดว่าซ่งหนิงล่อให้พวกตนมาติดกับ) ซ่งหนิงเห็นดังนั้นจึงรีบตามไปช่วยเสิ่นอั้นซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอทั้งใช้เลื่อนลากและแบกเสิ่นอั้น (ซึ่งอยู่ในสภาพหมดสติ) ฝ่าพายุหิมะและความหนาวเหน็บเพื่อไปซ่อนตัวและหลบหิมะในถ้ำ เมื่อเห็นเสิ่นอั้นมีอาการหนาวสั่นเธอจึงเสื้อถอดเสื้อผ้าแล้วโอบกอดเขาไว้เพื่อให้ไออุ่นจากร่างกายช่วยคลายความหนาวซึ่งกันและกัน
หลังรู้สึกตัวเสิ่นอั้นก็พบว่าตนสูญเสียการมองเห็นชั่วคราว เขารู้ว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าคือผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือตนแต่ไม่รู้ว่าเธอคือซ่งหนิง เวลาที่เขารู้สึกตัวซ่งหนิงจะไม่ยอมปริปากพูด เพราะกลัวว่าเขาจะจำเสียงเธอได้และรู้สึกโกรธแค้นจนไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเธอ เธอจึงสื่อสารกับเขาด้วยการใช้นิ้วเขียนเป็นตัวอักษรลงบนฝ่ามือของเขาทำให้เขาคิดว่าเธอเป็นใบ้ ในตอนนั้นซ่งหนิงเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองตกหลุมรักเสิ่นอั้นเข้าแล้ว ซ่งหนิงใช้เลื่อนลากเสิ่นอั้นฝ่าหิมะ ขุนเขา และหนาวเหน็บเป็นระยะทางยาวไกลติดต่อกันหลายวันโดยไม่ยอมหยุดพัก พอไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งร่างกายของซ่งหนิงก็เริ่มทนไม่ไหวทำให้หมดสติกลางทาง โชคดีที่มีชาวบ้านมาพบและให้ที่พักพิงแก่ทั้งคู่
ซ่งหนิงจะไปตามหมอมารักษาดวงตาให้เสิ่นอั้น แต่หญิงชาวบ้านที่ช่วยเหลือเธอบอกว่าตอนนี้หิมะตกหนักมากทำให้เส้นทางถูกตัดขาด ระหว่างรอให้หิมะหยุดตกซ่งหนิงคอยดูแลเสิ่นอั้นไม่ห่าง ทำให้เสิ่นอั้นรู้สึกซาบซึ้งใจมากและอยากเห็นหน้าเธอ ซ่งหนิงกลัวว่าถ้าเห็นหน้าเธอแล้วเขาจะเกลียดเธอ แต่เสิ่นอั้นยืนยันว่าไม่มีทางเป็นเช่นนั้น ถึงแม้เธอจะไม่ยอมบอกชื่อแซ่ให้เขารู้ แต่ชาตินี้เขาจะต้องตอบแทนบุญคุณของเธอให้ได้ แม้เขาจะยังมองไม่เห็นหน้าเธอแต่หัวใจของเขาบอกว่าเธอเป็นหญิงที่งดงาม ในโลกนี้จะไม่มีหญิงคนใดมาแทนที่เธอในใจของเขาได้ หากเธอไม่รังเกียจเขาอยากรับเธอเป็นภรรยา ซ่งหนิงเตือนว่าเขาอาจเสียใจในภายหลัง แต่เสิ่นอั้นยืนยันว่าเธอคือหญิงเดียวในดวงใจตน ซ่งหนิงได้ยินแล้วถึงกับน้ำตานองหน้า เสิ่นอั้นเช็ดน้ำตาและลูบไล้ใบหน้าของซ่งหนิงอย่างทะนุถนอมพลางถามว่าเธอยินดีที่จะเป็นภรรยาของเขาไหม ซ่งหนิงยิ้มทั้งน้ำตาและพยักหน้ารับเพราะเธอเองก็รักเขาจนหมดหัวใจ
ถึงกระนั้นซ่งหนิงก็อดกังวลไม่ได้ว่าถ้าดวงตาเขาหายดีแล้วทุกอย่างจะเปลี่ยนไป เขาจะทำเช่นไรเมื่อพบว่าคนที่ช่วยชีวิตเขาคือแม่ทัพของแคว้นศัตรูที่ใช้อุบายลอบโจมตีเขา เขาจะรับได้หรือไม่ถ้ารู้ว่าคนที่เขารักกับคนที่เขาชิงชังเป็นคนๆ เดียวกัน ซ่งหนิงคิดไม่ตกว่าเมื่อวันนั้นมาถึงเธอจะรับมืออย่างไร แต่เพื่อเสิ่นอั้นแล้วเธอยอมแลกด้วยชีวิต
พอรู้ว่าซ่งหนิงจะขึ้นเขาไปตามหมอมารักษาตนเสิ่นอั้นก็ขอติดตามไปด้วย แต่ซ่งหนิงบอกให้เขารอเธออยู่ที่นี่ ก่อนไปซ่งหนิงหักป้ายหยกประจำตัวของเธอออกเป็นสองท่อนโดยมอบให้เสิ่นอั้นเก็บไว้ส่วนหนึ่ง เสิ่นอั้นจึงบอกว่าเขาจะรอเธอกลับมา ระหว่างทางซ่งหนิงพบว่าพี่ชายของเธอกำลังออกตามหา และนำรูปของเธอมาติดจนทั่วทั้งเมือง เธอกลัวว่าพี่ชายของเธอจะมาพบเสิ่นอั้นเสียก่อนจึงรีบไปตามหมอ แต่บังเอิญหมอติดรักษาคนไข้จึงส่งลูกสาวที่เป็นหญิงใบ้นามว่า "หลิ่วชีชี" ไปช่วยรักษาเสิ่นอั้นแทน ซ่งหนิงรู้ตัวว่าเธอคงอยู่ดูแลเสิ่นอั้นได้อีกไม่นาน จึงมอบเงินค่ารักษาและฝากฝังเสิ่นอั้นไว้กับชีชี แต่เธอไม่นึกฝันว่าพี่ชายจะตามมาพบเธอในวันนี้ เธอจึงรีบกลับแคว้นเว่ยกับพี่ชายโดยไม่ทันได้ร่ำลาเสิ่นอั้น เพราะกลัวว่าถ้าพี่ชายมาพบเข้าเขาจะมีอันตรายถึงชีวิต
ชีชีคอยดูแลรักษาเสิ่นอั้นไม่ห่างจนอาการของเขาเริ่มดีขึ้น พอกลับมามองเห็นอีกครั้ง เขาก็เข้าใจผิดคิดว่าชีชีคือผู้มีพระคุณที่ตนรับปากว่าจะแต่งงานด้วย แทนที่จะบอกความจริงชีชีกลับถือโอกาสสวมรอยเป็นซ่งหนิง เพราะเธอเองก็ตกหลุมรักเสิ่นอั้นเช่นกัน หลังจากนั้น เสิ่นอั้นก็พาชีชีกลับแคว้นเฉินกับตน
ในตอนนั้นทัพของฝ่ายเฉินตกเป็นรองในแทบทุกด้าน แถมกำลังเสริมที่ซูอวี้นำมายังถูกลอบโจมตี (เพราะมีหนอนบ่อนไส้) พ่อของเสิ่น อั้นจึงวางยาและนำตัวเขาออกจากค่ายทหารเพื่อไม่ให้ไปตายในสนามรบ แต่เสิ่นอั้นเป็นนักรบจึงไม่ยอมหนีเอาตัวรอดตามลำพังและขอกลับไปสู้ตายกับทหารของตน ขณะที่ซ่งหนิงเองก็ถูก "ซ่งเหยียน" ผู้เป็นพี่ชาย (ซึ่งเป็นแม่ทัพของแคว้นเว่ยเช่นกัน) กดดันให้ทำสงครามกับแคว้นเฉินอย่างจริงจังให้รู้ผลแพ้ชนะกันเสียที ซ่งหนิงไม่เห็นด้วยที่พี่ชายจะใช้อาวุธร้ายแรงและมีพิษในการเอาชนะกองทัพของแคว้นเฉิน แต่พี่ชายของเธอพร้อมทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะและความอยู่รอดของชาติบ้านเมืองโดยไม่สนใจว่าจะได้ชัยชนะมาด้วยวิธีใด
ในที่สุดเสิ่นอั้นก็ชนะการประลองในครั้งที่สาม หลังบอกตนเองว่าซ่งหนิงเป็นทหารไม่ใช่ผู้หญิง แม้ครั้งนี้ทั้งคู่จะเอาชีวิตเป็นเดิมพันแต่เสิ่นอั้นกลับไว้ชีวิตซ่งหนิง ทำให้ซ่งหนิงรู้สึกซาบซึ้งใจมาก เมื่อเห็นว่าซ่งหนิงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ซ่งเหยียนจึงสั่งให้ทหารโจมตีเสิ่นอั้นและทหารของแคว้นเฉินด้วยลูกแก้วอัคคีที่มีพิษร้ายแรงทันที ทำให้ทหารของแคว้นเฉินล้มตายเป็นจำนวนมาก (เสิ่นอั้นคิดว่าซ่งหนิงล่อให้พวกตนมาติดกับ) ซ่งหนิงเห็นดังนั้นจึงรีบตามไปช่วยเสิ่นอั้นซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอทั้งใช้เลื่อนลากและแบกเสิ่นอั้น (ซึ่งอยู่ในสภาพหมดสติ) ฝ่าพายุหิมะและความหนาวเหน็บเพื่อไปซ่อนตัวและหลบหิมะในถ้ำ เมื่อเห็นเสิ่นอั้นมีอาการหนาวสั่นเธอจึงเสื้อถอดเสื้อผ้าแล้วโอบกอดเขาไว้เพื่อให้ไออุ่นจากร่างกายช่วยคลายความหนาวซึ่งกันและกัน
หลังรู้สึกตัวเสิ่นอั้นก็พบว่าตนสูญเสียการมองเห็นชั่วคราว เขารู้ว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าคือผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือตนแต่ไม่รู้ว่าเธอคือซ่งหนิง เวลาที่เขารู้สึกตัวซ่งหนิงจะไม่ยอมปริปากพูด เพราะกลัวว่าเขาจะจำเสียงเธอได้และรู้สึกโกรธแค้นจนไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเธอ เธอจึงสื่อสารกับเขาด้วยการใช้นิ้วเขียนเป็นตัวอักษรลงบนฝ่ามือของเขาทำให้เขาคิดว่าเธอเป็นใบ้ ในตอนนั้นซ่งหนิงเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองตกหลุมรักเสิ่นอั้นเข้าแล้ว ซ่งหนิงใช้เลื่อนลากเสิ่นอั้นฝ่าหิมะ ขุนเขา และหนาวเหน็บเป็นระยะทางยาวไกลติดต่อกันหลายวันโดยไม่ยอมหยุดพัก พอไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งร่างกายของซ่งหนิงก็เริ่มทนไม่ไหวทำให้หมดสติกลางทาง โชคดีที่มีชาวบ้านมาพบและให้ที่พักพิงแก่ทั้งคู่
ซ่งหนิงจะไปตามหมอมารักษาดวงตาให้เสิ่นอั้น แต่หญิงชาวบ้านที่ช่วยเหลือเธอบอกว่าตอนนี้หิมะตกหนักมากทำให้เส้นทางถูกตัดขาด ระหว่างรอให้หิมะหยุดตกซ่งหนิงคอยดูแลเสิ่นอั้นไม่ห่าง ทำให้เสิ่นอั้นรู้สึกซาบซึ้งใจมากและอยากเห็นหน้าเธอ ซ่งหนิงกลัวว่าถ้าเห็นหน้าเธอแล้วเขาจะเกลียดเธอ แต่เสิ่นอั้นยืนยันว่าไม่มีทางเป็นเช่นนั้น ถึงแม้เธอจะไม่ยอมบอกชื่อแซ่ให้เขารู้ แต่ชาตินี้เขาจะต้องตอบแทนบุญคุณของเธอให้ได้ แม้เขาจะยังมองไม่เห็นหน้าเธอแต่หัวใจของเขาบอกว่าเธอเป็นหญิงที่งดงาม ในโลกนี้จะไม่มีหญิงคนใดมาแทนที่เธอในใจของเขาได้ หากเธอไม่รังเกียจเขาอยากรับเธอเป็นภรรยา ซ่งหนิงเตือนว่าเขาอาจเสียใจในภายหลัง แต่เสิ่นอั้นยืนยันว่าเธอคือหญิงเดียวในดวงใจตน ซ่งหนิงได้ยินแล้วถึงกับน้ำตานองหน้า เสิ่นอั้นเช็ดน้ำตาและลูบไล้ใบหน้าของซ่งหนิงอย่างทะนุถนอมพลางถามว่าเธอยินดีที่จะเป็นภรรยาของเขาไหม ซ่งหนิงยิ้มทั้งน้ำตาและพยักหน้ารับเพราะเธอเองก็รักเขาจนหมดหัวใจ
ถึงกระนั้นซ่งหนิงก็อดกังวลไม่ได้ว่าถ้าดวงตาเขาหายดีแล้วทุกอย่างจะเปลี่ยนไป เขาจะทำเช่นไรเมื่อพบว่าคนที่ช่วยชีวิตเขาคือแม่ทัพของแคว้นศัตรูที่ใช้อุบายลอบโจมตีเขา เขาจะรับได้หรือไม่ถ้ารู้ว่าคนที่เขารักกับคนที่เขาชิงชังเป็นคนๆ เดียวกัน ซ่งหนิงคิดไม่ตกว่าเมื่อวันนั้นมาถึงเธอจะรับมืออย่างไร แต่เพื่อเสิ่นอั้นแล้วเธอยอมแลกด้วยชีวิต
พอรู้ว่าซ่งหนิงจะขึ้นเขาไปตามหมอมารักษาตนเสิ่นอั้นก็ขอติดตามไปด้วย แต่ซ่งหนิงบอกให้เขารอเธออยู่ที่นี่ ก่อนไปซ่งหนิงหักป้ายหยกประจำตัวของเธอออกเป็นสองท่อนโดยมอบให้เสิ่นอั้นเก็บไว้ส่วนหนึ่ง เสิ่นอั้นจึงบอกว่าเขาจะรอเธอกลับมา ระหว่างทางซ่งหนิงพบว่าพี่ชายของเธอกำลังออกตามหา และนำรูปของเธอมาติดจนทั่วทั้งเมือง เธอกลัวว่าพี่ชายของเธอจะมาพบเสิ่นอั้นเสียก่อนจึงรีบไปตามหมอ แต่บังเอิญหมอติดรักษาคนไข้จึงส่งลูกสาวที่เป็นหญิงใบ้นามว่า "หลิ่วชีชี" ไปช่วยรักษาเสิ่นอั้นแทน ซ่งหนิงรู้ตัวว่าเธอคงอยู่ดูแลเสิ่นอั้นได้อีกไม่นาน จึงมอบเงินค่ารักษาและฝากฝังเสิ่นอั้นไว้กับชีชี แต่เธอไม่นึกฝันว่าพี่ชายจะตามมาพบเธอในวันนี้ เธอจึงรีบกลับแคว้นเว่ยกับพี่ชายโดยไม่ทันได้ร่ำลาเสิ่นอั้น เพราะกลัวว่าถ้าพี่ชายมาพบเข้าเขาจะมีอันตรายถึงชีวิต
ชีชีคอยดูแลรักษาเสิ่นอั้นไม่ห่างจนอาการของเขาเริ่มดีขึ้น พอกลับมามองเห็นอีกครั้ง เขาก็เข้าใจผิดคิดว่าชีชีคือผู้มีพระคุณที่ตนรับปากว่าจะแต่งงานด้วย แทนที่จะบอกความจริงชีชีกลับถือโอกาสสวมรอยเป็นซ่งหนิง เพราะเธอเองก็ตกหลุมรักเสิ่นอั้นเช่นกัน หลังจากนั้น เสิ่นอั้นก็พาชีชีกลับแคว้นเฉินกับตน
ความเข้าใจผิดของเสิ่นอั้นนำมาซึ่งโศกนาฏกรรมความรักของทั้งสามคน แม้ซ่งหนิงและเสิ่นอั้นจะได้แต่งงานกันด้วยเหตุผลทางการเมือง แต่ชีชีก็ยังอยู่เคียงข้างเขาในฐานะภรรยารองและผู้มีพระคุณ แถมชีชียังเป็นคนเดียวที่เสิ่นอั้นยอมรับและคอยเอาใจใส่ดูแล ขณะที่ซ่งหนิงได้รับเพียงความเกลียดชัง แถมยังถูกเสิ่นอั้นทำร้ายอย่างแสนสาหัสทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทุกอย่างดูเหมือนจะเริ่มดีขึ้นเมื่อซ่งหนิงตั้งครรภ์ แต่หลังจากสูญเสียลูกในครรภ์เพราะเสิ่นอั้นเลือกที่จะให้หมอไปรักษาชีชีก่อน ซ่งหนิงก็หมดอาลัยตายอยากในชีวิต เธอจึงขอให้จวินฝูช่วยเนรมิตโลกแห่งความฝันให้เธอ เพื่อที่เธอจะได้จากโลกนี้ไปพร้อมกับความทรงจำดีๆ
หลังซ่งหนิงตาย เสิ่นอั้นถึงได้ตระหนักว่าความจริงแล้วเขารักซ่งหนิงมาโดยตลอด ทั้งยังรู้ (แต่ไม่กล้ายอมรับ) ว่าจริงๆ แล้วเธอคือคนที่ช่วยชีวิตเขา ขณะที่ชีชีซึ่งถูกเสิ่นอั้นจับได้ว่าปองร้ายซ่งหนิงก็ไถ่บาปด้วยการเอาตัวบังดาบให้เสิ่นอั้นก่อนที่เขาจะถูกนักฆ่าสาวจากแคว้นเจิ้นปลิดชีพ แม้ที่ผ่านมาชีชีจะโกหกเสิ่นอั้นว่าตนเองเป็นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเขา แต่สุดท้ายเธอก็ตายด้วยความภาคภูมิใจที่ได้ช่วยชีวิตเขาจริงๆ
หลังซ่งหนิงตาย เสิ่นอั้นถึงได้ตระหนักว่าความจริงแล้วเขารักซ่งหนิงมาโดยตลอด ทั้งยังรู้ (แต่ไม่กล้ายอมรับ) ว่าจริงๆ แล้วเธอคือคนที่ช่วยชีวิตเขา ขณะที่ชีชีซึ่งถูกเสิ่นอั้นจับได้ว่าปองร้ายซ่งหนิงก็ไถ่บาปด้วยการเอาตัวบังดาบให้เสิ่นอั้นก่อนที่เขาจะถูกนักฆ่าสาวจากแคว้นเจิ้นปลิดชีพ แม้ที่ผ่านมาชีชีจะโกหกเสิ่นอั้นว่าตนเองเป็นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเขา แต่สุดท้ายเธอก็ตายด้วยความภาคภูมิใจที่ได้ช่วยชีวิตเขาจริงๆ
"สือซานเยว่"
กล่าวถึงรักสี่เส้าของสองพี่น้องฝาแฝด "อิงเกอ" และ "จิ่นเชวี่ย" กับสองหนุ่มผู้สูงศักดิ์ "หรงหยวน" (อ๋องแห่งแคว้นเจิ้น) และ "หรงสวิน" อิงเกอเป็นนักฆ่าที่ถูกชุบเลี้ยงและฝึกฝนโดยหรงสวิน เธอหลงรักเขาแต่เขากลับเห็นเธอเป็นแค่เครื่องมือในการเข่นฆ่าคน เมื่อพบว่าหรงสวินรักและชื่นชมจิ่นเชวี่ยน้องสาวฝาแฝดของตน อิงเกอก็หัวใจสลายและหมดศรัทธาในความรัก แต่แล้ววันหนึ่งนักฆ่าเลือดเย็นอย่างเธอก็ได้เรียนรู้ที่จะรักและถูกรักโดยอ๋องแห่งแคว้นเจิ้น หลังถูกหรงสวินส่งไปเป็นชายาแทนจิ่นเชวี่ยผู้เป็นน้องสาวฝาแฝดของเธอ
"อี้สื้ออัน"
"อี้สื้ออัน"
* เนื้อหาโดย luvasianseries
นักแสดงนำ
รับบท ซูอวี้ / มู่เหยียน
(นักแสดงฮ่องกง เกิดที่สหรัฐอเมริกา)
รับบท อวี้เจิน / จวินฝู
(นักแสดง ชาวจีน)
(นักแสดง ชาวจีน)
เจี่ยงซิน
รับบท ซ่งหนิง (องค์หญิงจิงอู่)
(นักแสดง ชาวจีน)
เกาฮ่าว (จัสติน เกา)
รับบท จวินเหว่ย (ฮ่องเต้ของดินแดนแห่งแคว้นทั้งเก้า)
(นักร้อง / นักแสดง ชาวจีน)
รับบท อิงเกอ / จิ่นเชวี่ย
(นักแสดง ชาวจีน)
เป่าเจี้ยนเฟิง
รับบท หรงหยวน (เจิ้นอ๋อง)
(นักร้อง / นักแสดง ชาวจีน)
เฉียวเจิ้นอวี้
รับบท ซูเหิง (พ่อของซูอวี้ / เฉินอ๋อง ตอนหนุ่ม)
(นักแสดง ชาวจีน)
กันถิงถิง
รับบท มู่หรงอัน (แม่ของซูอวี้)
(นักแสดง ชาวจีน)
หยางรุ่ย
รับบท ฉินจื่อเหยียน
(นักแสดง ชาวจีน)
ชุยโป
รับบท หลิ่วชีชี
(นักแสดง ชาวจีน)
เฮ่อกัง
รับบท หรงสวิน
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)
จางเทียนฉี
รับบท เย่หยวนเสวียน (พ่อของอวี้เจิน / เว่ยอ๋อง ตอนหนุ่ม)
(นักแสดง / ผู้ดำเนินรายการ ชาวจีน)
หลี่เหลียงเหว่ย
รับบท (พ่อของซูอวี้ / เฉินอ๋อง ตอนแก่)
(นักแสดงฮ่องกง เกิดที่เวียดนาม)
เซี่ยจวินหาว
รับบท เย่หยวนเสวียน (พ่อของอวี้เจิน / เว่ยอ๋อง ตอนแก่)
(นักแสดง ชาวฮ่องกง)
หลี่ว์เจียหรง
รับบท หรงหมิน
(นักแสดง ชาวจีน)
คลิปจาก youtube/NOW26
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
เปิดดูเรื่องนี้ครั้งแรก ไม่ค่อยเข้าจัยเนื้อหาของซิรีย์เท่าไหร่ แต่พอได้อ่านเรื้องย่อ ทำให้ดูซิรีย์เข้าจัยมากขึ้นแล้วทำให้ดูสนุกมากขึ้น น่าติดตาม ขอบคุนค่ะ^^
ตอบลบ