วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เรื่องย่อ นักรัก นักสืบ (Love Me, If You Dare)




บทประพันธ์: ติงโม่
กำกับ: จางไคโจว
เขียนบท: ไห่เยี่ยน
แนวละคร: โรแมนติก, อาชญากรรม, ระทึกขวัญ
จำนวนตอน: 24
ออกอากาศ: จีน - 15 ตุลาคม 2558 - 4 มกราคม 2559 ทางโซหูทีวี (ออนไลน์) และดราก้อนทีวี
              ไทย - ทุกวันพฤหัสบดี - ศุกร์ เวลา 13.30 - 14.30 น. (รีรันทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 00.00 น.) ทางอมรินทร์ทีวี (ช่อง 34) ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2559 - 24 กุมภาพันธ์ 2560

เรื่องย่อ



ละคร "นักรัก นักสืบ (Love Me, If You Dare)" นำเสนอเรื่องราวของ  "ป๋อจิ้นเหยียน" (ไซม่อน) ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากร* ระดับแถวหน้าของโลก ที่เดินทางกลับประเทศจีนหลังประสบเหตุการณ์อันเลวร้ายและถูกฆาตกรต่อเนื่องทรมานอย่างแสนสาหัสทั้งทางร่างกายและจิตใจ หลังว่าจ้าง "เจี่ยนเหยา" (เจนนี่) ให้มาช่วยงานแปลภาษาและเป็นผู้ช่วยส่วนตัว จิ้นเหยียนซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากรขั้นเทพ ซ้ำยังมีไอคิวสูงลิบ ก็สอนงานเจี่ยนเหยาจนเธอกลายเป็นผู้ช่วยในการไขปริศนาคดีลักพาตัวเด็กและฆาตกรรมต่อเนื่องที่ไม่ธรรมดา แม้เขาจะเป็นคนเก่งและฉลาดแต่การที่เขามีอีคิวต่ำจึงมักมีปัญหาเรื่องการสื่อสารและแสดงออกทางอารมณ์ จนทำให้เกิดเรื่องราวขำๆ และคาดไม่ถึงบ่อยครั้ง หลังร่วมงานกันอย่างใกล้ชิดความรักของทั้งคู่ก็เริ่มก่อตัวขึ้น ขณะที่อันตรายก็กำลังคืบคลานเข้ามาหาทั้งคู่เช่นกัน

* จิตวิทยาอาชญากร (Criminal psychology) คือ การวิเคราะห์ความตั้งใจ ความคิด เจตนา ปฏิกิริยา และทุกสิ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของอาชญากร เพื่อหาแรงจูงใจในการก่อเหตุของคนร้าย แม้การทำโปรไฟลิ่งอาชญากรจะเป็นงานหลัก แต่อาชีพนี้มีหน้าที่สำคัญ 4 อย่างที่ต้องทำ คือ งานด้านจิตวิทยาคลีนิก การทดสอบทางจิตวิทยา การนำหลักสถิติศาสตร์และคณิตศาสตร์มาคาดคะเนความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต (เช่น คนร้ายมีแนวโน้มที่จะทำผิดซ้ำไหม) และการเป็นที่ปรึกษาให้แก่ตำรวจในการสืบสวนคดีอาญากรรม  นอกจากนี้ ผู้ที่ประกอบอาชีพดังกล่าวยังอาจถูกเรียกให้ไปเป็นพยานในชั้นศาลอีกด้วย





เรื่องราวในละครเริ่มต้นขึ้นเมื่อ "เจี่ยนเหยา" นักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบเดินทางกลับบ้านเกิดในช่วงปิดเทอม... หลัง "เจี่ยนเซวียน" (น้องสาวเจี่ยนเหยา) และ "หลี่ซวินหราน" (หวานใจในวัยเด็กของเจี่ยนเหยา) นำรถมารับ เจี่ยนเหยาก็ขอให้ซวินหรานขับรถพาไปดูสถานที่ๆ เธอมีนัดสัมภาษณ์งานพาร์ทไทม์ในวันรุ่งขึ้น เมื่อพบว่าสถานที่นัดพบเป็นวิลล่าอันเงียบเหงาที่อยู่ห่างไกลจากเขตชุมชน ซวินหรานกับเจี่ยนเซวียนก็รู้สึกแปลกใจ หลังพาเจี่ยนเหยาไปดูสถานที่สัมภาษณ์งานแล้ว ซวินหรานก็ต้องรีบกลับสถานีตำรวจเพราะเขากำลังยุ่งอยู่กับการตามตามสืบคดีลักพาตัวต่อเนื่องที่มีแนวโน้มว่าจะไม่ยุติลงง่ายๆ พอรู้ว่าเจี่ยนเหยามีนัดสัมภาษณ์งานตอนสิบโมงเช้า  ซวินหรานจึงบอกให้เจี่ยนเหยาไปที่นั่นกับเจี่ยนเซวียนเพราะเขางานยุ่งจนไม่อาจปลีกตัวไปส่งเธอได้ เขาเตือนเธอให้ระวังตัวโดยบอกว่าช่วงนี้มีคนหายหลายรายและผู้สูญหายทั้งหมดล้วนยังไม่บรรลุนิติภาวะ  (เจี่ยนเหยาบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่เจี่ยนเซวียนยังไม่บรรลุนิติภาวะ) เขาสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือของพวกค้ามนุษย์จึงกำชับให้เธอติดต่อตนทั้งก่อนและหลังสัมภาษณ์งาน

วันรุ่งขึ้นเจี่ยนเหยานั่งรถแท็กซี่ไปสัมภาษณ์งานตามลำพัง ทันทีที่ไปถึงวิลล่าอันเงียบสงัด (เจี่ยนเซวียนเรียกว่าบ้านผีสิง) เธอก็ส่งข้อความบอกซวินหราน ก่อนเข้าไปในบ้านที่บรรยากาศภายในสุดแสนวังเวง แถมเจ้าของบ้านยังต้อนรับเธอด้วยการเขียนข้อความทิ้งไว้บนโต๊ะโดยบอกให้เธอรอและทำตัวตามสบาย ในเวลาเดียวกันนั้นซวินหรานได้นำรายงานเกี่ยวกับคดีคนหายไปให้พ่อซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา พลางตั้งข้อสังเกตว่าแต่ละคดีมีความเชื่อมโยงกัน หากสืบสวนตามแนวทางนี้แล้วจะต้องพบเบาะแสแน่ แม้หัวหน้าทีมของซวินหรานจะเห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว แต่พ่อของซวินหรานแย้งว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอและบอกให้ซวินหรานไปสืบหาหลักฐานมาเพิ่ม



หลังได้เวลานัด (สิบโมงตรง) "ฟู่จื่ออวี้" ก็ออกมาต้อนรับเจี่ยนเหยาโดยโกหกว่าตนคือจิ้นเหยียน เขากล่าวว่าศาสตราจารย์จางชมว่าเธอเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ที่เก่งที่สุด แต่เนื่องจากตนกำลังมองหาคนแปลผลการวิจัย (ภาษาอังกฤษ) เป็นภาษาจีนตนเลยจำเป็นต้องทดสอบความสามารถของเจี่ยนเหยา พูดจบเขาก็ส่งเอกสารที่ภายในมีรูปภาพอันน่าสยดสยองของอวัยวะเหยื่อที่ถูกฆาตกรรมให้เธอดู เจี่ยนเหยานั่งดูเอกสารโดยไม่แสดงสีหน้าท่าทางหวาดกลัว จากนั้นก็เริ่มลงมือแปลรายงานในเอกสาร จื่ออวี้ (ซึ่งล้างมือบ่อยครั้ง) รู้สึกทึ่งเมื่อพบว่าเจี่ยนเหยาใช้เวลาในการแปลพอๆ กับนักแปลของสำนักงานสอบสวนสืบสวน 

จื่ออวี้เห็นว่าอีกไม่นานก็จะถึงฤดูหางานแล้วจึงถามเจี่ยนเหยาว่าได้งานแล้วหรือยัง พอรู้ว่าเจี่ยนเหยาได้งานที่บริษัทนำเข้า-ส่งออกใกล้มหาวิทยาลัยโดยเป็นเพียงพนักงานทั่วไป เขาก็อดเสียดายความสามารถของเธอไม่ได้ เขากล่าวว่ารายงานที่เธออ่านเป็นงานพิเศษของตน จากนั้นก็ให้เธอลองเดาว่าตนประกอบอาชีพอะไร เจี่ยนเหยาเดาออกว่าจื่ออวี้พยายามทำให้เธอเชื่อว่าเขาเป็นศัลยแพทย์ด้วยการทำให้เนื้อตัวมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์ ซ้ำยังล้างมือต่อหน้าเธอบ่อยครั้ง แถมยังแนบรูปอวัยวะของเหยื่อมาพร้อมกับเอกสารที่ให้เธอแปลอีกด้วย แต่เธอสังเกตว่าเขาทำใบชาหกตอนตักใส่แก้วซึ่งแปลว่ามือของเขาไม่นิ่ง มิหนำซ้ำเขายังเป็นคนไม่ละเอียดเพราะปิดฝาโถใส่ใบชาสลับกันโดยไม่รู้ตัว เธอเห็นว่าเขาเป็นคนใจกว้าง ยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่นจึงน่าจะทำงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ที่สำคัญเขาพิมพ์งานได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว อาชีพของเขาจึงน่าจะเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์


จื่ออวี้ฟังแล้วรู้สึกประทับใจจึงตกลงรับเธอเข้าทำงาน แต่เจี่ยนเหยารู้แต่แรกว่าจื่ออวี้ไม่ใช่จิ้นเหยียนและไม่ได้เป็นหมอ จึงแย้งว่าจะไม่ถามความเห็นชอบจาก "คุณป๋อ" (จิ้นเหยียน) ก่อนหรือ จื่ออวี้สงสัยว่าเจี่ยนเหยารู้ได้ยังไงว่าตนไม่ใช่จิ้นเหยียน เจี่ยนเหยาจึงชี้ไปที่นิตยสารบนโต๊ะที่อยู่ไม่ไกลนัก (ซึ่งเปิดหน้าที่มีบทสัมภาษณ์จื่ออวี้ทิ้งไว้) หลังจำนนต่อหลักฐานจื่ออวี้จึงแนะนำตัวใหม่อย่างเป็นทางการ โดยบอกว่าตนเป็นเพื่อนของจิ้นเหยียน  (แม้จิ้นเหยียนจะไม่ยอมปรากฏตัวแต่เขาก็ยืนฟัง ทั้งยังเป็นคนวางแผนการทั้งหมด และแอบเปิดนิตยสารทิ้งไว้โดยที่จื่ออวี้ไม่รู้)

เจี่ยนเหยารู้สึกแปลกใจที่เห็นซวินหรานมารอรับเธอที่หน้าวิลล่าของจิ้นเหยียนทั้งๆ ที่งานยุ่ง ซวินหรานบอกตามตรงว่าพวกตนยังไม่พบเบาะแสใดๆ และกำลังมืดแปดด้าน หัวหน้าทีมเลยบอกว่าอย่าหมกมุ่นกับคดีมากเกินไป เขาถามเจี่ยนเหยาเรื่องการสัมภาษณ์งาน เจี่ยนเหยาจึงบอกอย่างมั่นใจว่างานนี้ต้องเป็นของตนแน่


หลังหน้าแตกยับเยินจื่ออวี้ก็ถือนิตยสารขึ้นไปโวยจิ้นเหยียนที่ชั้นสอง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจิ้นเหยียนถึงต้องทดสอบเจี่ยนเหยาทั้งเรื่องความสามารถและความช่างสังเกตทั้งๆ ที่เป็นงานแปลภาษาแค่ช่วงเวลาสั้นๆ จิ้นเหยียนกล่าวว่าตนต้องการคนที่ทั้งเก่งและละเอียดรอบคอบมาช่วยงาน เพื่อที่เนื้อหาและความหมายของงานแปลจะได้ไม่ผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับ  เพราะถ้าหากคนแปลไม่เข้าใจรายละเอียดในเอกสารและแก่นแท้ของความหมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ข้อความ... จื่ออวี้ชิงถามหยั่งเชิงว่าแล้วเจี่ยนเหยาจะเข้าถึงและเข้าใจแก่นแท้ของจิ้นเหยียนได้หรือไม่ จิ้นเหยียนตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่าไม่มีใครทำเช่นนั้นได้ 

ในที่สุดเจี่ยนเหยาก็ได้ร่วมงานกับจิ้นเหยียน จื่ออวี้จึงส่งมอบงานให้เธอก่อนกลับเจียงโจว ทั้งยังตุนเสบียง (ปลา) ไว้ให้จิ้นเหยียนเต็มตู้ เขาเตือนเจี่ยนเหยาว่าจิ้นเหยียนเป็นคนอารมณ์แปรปรวน โกรธง่าย และไม่ชอบให้ใครมารบกวน ดังนั้นจงอย่าขึ้นไปชั้นบนโดยเด็ดขาด ส่วนชั้นล่างนอกจากห้องที่ถูกล็อคประตูเอาไว้ เจี่ยนเหยาสามารถเข้าไปใช้งานได้ทุกห้องเสมือนเป็นบ้านของตน ด้านซวินหรานพยายามแกะรอยเด็กชายวัย 13 ปีที่หายตัวไปเป็นรายที่หก โดยพยายามสืบหาเบาะแสตามที่ต่างๆ จนพบว่าเด็กหายตัวไปใกล้ทางขึ้นเขา ด้วยเหตุนี้วิลล่าที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนภูเขาของจิ้นเหยียนจึงกลายเป็นสถานที่ต้องสงสัยในสายตาของซวินหรานทันที 



หลังจิ้นเหยียนโทรฯ ไปบอกว่าที่บ้านไฟดับตั้งแต่เมื่อคืน (ทำให้ต้องทิ้งปลาที่ตุนไว้ในตู้เย็น) จื่ออวี้ซึ่งสวมชุดทหารและอยู่ในระหว่างเล่นเกมเคาน์เตอร์สไตรค์แบบภาคสนามจึงเสียสมาธิและถูกฝ่ายตรงข้ามยิง หลังต้องออกจากการแข่งขันเขาก็โทรฯ ไปขอให้เจี่ยนเหยาช่วยซื้อปลาสดๆ ไปให้จิ้นเหยียน บังเอิญตอนนั้นเจี่ยนเหยากับแม่กำลังมาเลือกซื้อปลาที่ร้านของ "ลุงหวัง" (อดีตเพื่อนร่วมงานของพ่อเจี่ยนเหยา) เธอเลยขอให้ลุงหวังช่วยนำปลาไปส่งที่วิลล่าของจิ้นเหยียนวันละ 2 ตัว ลุงหวังเห็นแก่เจี่ยนเหยาจึงยอมไปส่งให้ โดยมอบหมายหน้าที่ในการส่งปลาให้แก่ "เสี่ยวจิน" ซึ่งเป็นลูกชายที่เพิ่งมาจากชนบทและเป็นเด็กติดเกม  แต่แล้วอยู่ๆ  เสี่ยวจินก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังนำปลาไปส่งที่วิลล่าของจิ้นเหยียน ลุงหวังจึงพาชายฉกรรจ์มาบุกวิลล่าเพราะคิดว่าจิ้นเหยียนลักพาตัวลูกชายของตน  


แม้จิ้นเหยียนจะไม่ยอมลงมาจากชั้นสอง แต่เขาก็อนุญาตให้ลุงหวังเข้าไปตรวจดูห้องที่ถูกล็อคบริเวณชั้นหนึ่ง ครั้นพอเข้าไปดูภายในห้องดังกล่าวทุกคนก็ถึงกับช็อคและวิ่งออกมาแทบไม่ทัน หลังได้รับแจ้งเหตุจากเจี่ยนเหยา ซวินหรานก็รีบมาที่วิลล่า เมื่อพบว่าที่ชั้นล่างมีห้องเก็บอวัยวะ (ดอง) ของมนุษย์ เขาจึงคิดที่จะบุกขึ้นไปตรวจค้นที่ชั้นบนแต่ลูกน้องห้ามไว้เสียก่อนเพราะไม่มีหมายค้น เมื่อผู้บังคับบัญชา (และพ่อ) ของซวินหรานมาถึง ทุกคนถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วจิ้นเหยียนเป็นอดีตศาสตราจารย์ (สัญญาจ้าง) ที่อายุน้อยที่สุดของมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ หลังปฏิเสธคำเชิญให้เป็นอาจารย์ประจำที่มหาวิทยาลัยดังกล่าว เขาก็บินกลับจีนเพื่อมาทำงานเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำคณะจิตวิทยาอาชญากรที่มหาวิทยาลัยสันติบาลแห่งประชาชนจีน และมาพักที่วิลล่าในเมืองเล็กๆ แห่งนี้เพื่อพักผ่อน 

หลังถูกพ่อของซวินหรานขอร้องให้มาช่วยไขคดีเด็กหายต่อเนื่องในฐานะผู้เชี่ยวชาญ จิ้นเหยียนจึงตอบตกลงโดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องให้เจี่ยนเหยามาเป็นผู้ช่วยของตน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างจิ้นเหยียนกับเจี่ยนเหยา และเป็นก้าวแรกที่จะนำพาทั้งคู่ไปสู่อันตราย

* เนื้อหาโดย luvasianseries






นักแสดง


ฮั่วเจี้ยนหัว (วอลเลซ ฮั่ว)
รับบท ป๋อจิ้นเหยียน (ไซม่อน/อัลเลน)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวไต้หวัน)

"ป๋อจิ้นเหยียน" เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากรระดับแถวหน้าของโลกที่มีไอคิวสูงแต่อีคิวต่ำ เขาเป็นศาสตราจารย์ (สัญญาจ้าง) ที่อายุน้อยที่สุดของมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ในสหรัฐอเมริกา ทั้งยังเป็นนักวิเคราะห์และที่ปรึกษาคดีอาญากรรมร้ายแรงให้กับตำรวจอีกด้วย 



หม่าซือฉุน (ซานดร้า หม่า)
รับบท เจี่ยนเหยา (เจนนี่)
(นักแสดง ชาวจีน)

"เจี่ยนเหยา" จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศ ด้วยความที่เธอได้รับอิทธิพลทางด้านความคิดมาจากพ่อผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นตำรวจสืบสวนคดีอาชญากรรมฝีมือระดับพระกาฬที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ เธอจึงเป็นคนรักความยุติธรรมและช่างสังเกต เธอเป็นทั้งผู้ช่วยส่วนตัวและนักแปลภาษาให้กับเจี่ยนเหยา แต่ภายหลังได้ช่วยเขาไขคดีปริศนาฆาตกรรม



จางหลู่อี
รับบท เซี่ยหาน / เหมยจวินหยวน
(นักแสดง / ผู้กำกับ ชาวจีน)

"เซี่ยหาน" เป็นลูกชายของนักธุรกิจชาวจีน-อเมริกันผู้มั่งคั่ง  พ่อกับแม่ของเขาแยกทางกันตั้งแต่เขายังเด็ก เขาจึงถูกแม่ทิ้งให้อยู่กับพ่อขี้เมาที่ชอบใช้ความรุนแรงกับเขา เขาเป็นคนฉลาด และเป็นนักศึกษาคณะอักษรศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน แต่เนื่องจากความคิดและบุคลิกของเขาค่อนข้างผิดแปลกจากคนทั่วไป ทั้งยังเข้ากับคนอื่นไม่ได้ เขาจึงถูกไล่ออกกลางคัน 



หวังข่าย
รับบท หลี่ซวินหราน
(นักแสดง ชาวจีน)
"หลี่ซวินหราน" เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่เติบโตมาด้วยกันกับ "เจี่ยนเหยา" เขาไม่เพียงเกิดในครอบครัวตำรวจแต่ยังเป็นตำรวจฝีมือดี และนักแม่นปืนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านอาวุธชนิดต่างๆ อีกด้วย  



อิ่นเจิ้ง
รับบท ฟู่จื่ออวี้ (คริส)
(นักแสดง ชาวจีน)

"ฟู่จื่ออวี้" จบจากวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ นอกจากจะเป็นที่รู้จักในฐานะนักศึกษาแพทย์ดีเด่นแล้ว เขายังเก่งขั้นเทพในด้านการออกแบบซอฟแวร์และเข้ารหัสอีกด้วย เขาเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของจิ้นเหยียน ทั้งยังพร้อมช่วยเหลือและคอยอยู่เคียงข้างในยามที่จิ้นเหยียนต้องการ



จางหลิงจือ
รับบท อิ่นจือฉี
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)

"อิ่นจือฉี" เป็นพี่สาวของจิ้นเหยียนและประธานบริษัทเฉิงอวี่ มีนิสัยเห็นแก่ตัว พร้อมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนตัวและของบริษัท   









รวมคลิปเบื้องหลัง

*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา