กำกับ: ชา ยองฮุน, ยูน จงโฮ
เขียนบท: โช ชองจู
แนวละคร: ไซไฟ, โรแมนติก, ลึกลับ
จำนวนตอน: 36 (ตอนละ 35 นาที)
ออกอากาศ: เกาหลี - 4 มิถุนายน 2561- 7 สิงหาคม 2561
ไทย - ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15-21.45 น. ทางพีพีทีวี เอชดี (หมายเลข 36) ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2561 - 9 มกราคม 2562
เรื่องย่อ
ละคร "คุณคือใคร นายนัมชิน?" (Are You Human?) นำเสนอเรื่องราวของหุ่นแอนดรอยด์ (หุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นเลียนแบบมนุษย์) ระบบเอไอ ที่ถูกพัฒนาและสร้างขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์สาวผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) "โอ โรรา" หลังมีเหตุให้เธอต้องพลัดพรากจากลูกชายเพียงคนเดียว "นัมชิน"
ด้วยความคิดถึงผู้เป็นลูกเธอจึงสร้างหุ่นยนต์เอไอเลียนแบบลูกชายในแต่ละช่วงวัย โดยตั้งชื่อรุ่นว่า นัมชินวัน ทู และทรี ตามลำดับ แต่หลังจากลูกชายตัวจริงประสบอุบัติเหตุและอยู่ในอาการโคม่า เธอจึงส่งหุ่นยนต์ "นัมชินทรี" ไปทำหน้าที่ต่างๆ แทน โดยนัมชินทรีจะต้องสวมรอยเป็นลูกชายของเธอ และต้องตบตาคนอื่นว่าตนเองเป็นมนุษย์จนกว่านัมชินตัวจริงจะฟื้น ทั้งนี้เพื่อรักษาและปกป้องตำแหน่งผู้สืบทอดกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ของครอบครัวไว้ให้นัมชิน ขณะปฏิบัติภารกิจนัมชินทรีมีอดีตนักชก MMA (ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสม "Mixed martial art") สาว นามว่า "คัง โซบง" คอยปกป้องในฐานะบอดี้การ์ด แต่สุดท้ายเธอก็ตกหลุมรักเขาทั้งที่รู้ว่าเขาเป็นหุ่นยนต์
เนื้อหาตอนที่ 1
ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งปีก่อน ณ กรุงโซล ปี 1997 (พ.ศ. 2540)
"โอ โรรา" นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวเกาหลีใต้ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็น "ไอน์สไตน์เกาหลีด้านปัญญาประดิษฐ์" ขึ้นบรรยายบนเวทีต่อหน้านักศีกษา เธอชี้ไปที่รูปหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (หุ่นยนต์ที่ออกแบบขึ้นมาโดยมีพื้นฐานมาจากร่างกายมนุษย์) บนจอโปรเจ็คเตอร์ ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่ทันสมัยไฮเทคสุด ณ ขณะนั้น แล้วบอกว่าเธอยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เธอเปลี่ยนสไลด์เป็นรูปเด็กชายคนหนึ่งพลางกล่าวว่าในอนาคตอันใกล้เธอจะพัฒนาหุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์จนแยกไม่ออก และสามารถอยู่เคียงข้างเราแทนคนที่เรารักและจากเราไปไกล ทันใดนั้นก็มีเด็กชายคนหนึ่งลุกขึ้นประท้วงว่าตนเป็นมนุษย์ ไม่ใช่หุ่นยนต์ เขาคือเด็กชายที่มีรูปปรากฏบนจอโปรเจ็คเตอร์ และยังเป็นลูกชายวัย 7 ปีของเธอที่มีชื่อว่า "นัมชิน"
โรราพูดติดตลกกับเหล่านักศึกษาว่าบางครั้งเธอก็อยากให้ลูกชายเป็นหุ่นยนต์ที่ว่านอนสอนง่าย (เธอเคยบอกให้ลูกนั่งฟังเงียบๆ ก่อนหน้านี้) และแกล้งขู่ลูกชายว่าถ้าขืนยังไม่เชื่อฟังเธอจะสร้างหุ่นยนต์เลียนแบบเขาและชอบหุ่นยนต์แทน ชินแกล้งสวนกลับอย่างไม่สะทกสะท้านว่า ไม่เป็นไร...เพราะถึงยังไงตนก็ชอบพ่อมากกว่า หลังจบการบรรยายชินถามแม่ว่าโกรธตนไหมที่พูดไปแบบนั้น โรราปฏิเสธว่าไม่โกรธก่อนเกทับว่าถึงยังไงพ่อของชินก็ชอบเธอมากกว่าและท้าให้ชินถามพ่อด้วยตนเอง เธอเห็นว่าสามีกำลังจะมาจึงชวนลูกไปสนามบินเพื่อจะได้บินกลับบ้านด้วยกัน
ชินจะโทรฯ ถามพ่อว่าชอบแม่หรือตนมากกว่ากัน แต่เสียงโทรศัพท์ (ริงโทนของพ่อ) กลับดังขึ้นใกล้ๆ ครั้นเห็น " ซอ จงกิล" ยืนถือโทรศัพท์อยู่ตรงหน้า โรราก็หน้าถอดสี จงกิลเดินเข้าไปหาสองแม่ลูกพลางส่งสัญญาณบอกลูกน้องให้ชิงตัวเด็กไป โรราถูกลูกน้องจงกิลจับตัวไว้จึงทำได้เพียงมองลูกรักถูกอุ้มขึ้นรถไปต่อหน้าต่อตา จงกิลอธิบายว่า 'ท่านประธาน' ต้องการตัวชิน โรราสงสัยว่าทำไม "นัม กอนโฮ" (ปู่ของชิน / ประธานพีเคกรุ๊ป) ถึงพรากลูกไปจากตน ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยยอมรับเธอและลูกชายเป็นคนในครอบครัว ด้วยเหตุนี้ครอบครัวเธอเลยต้องระเห็จไปอยู่เมืองนอก เธอชี้ว่าตนมาเกาหลีเพื่อบรรยายเท่านั้นและจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก โรราเห็นโทรศัพท์สามีอยู่ที่จงกิลก็รู้สึกสงสัยและเอะใจ จงกิลจึงยื่นใบมรณะบัตรให้โรราก่อนชี้ว่า "นัม ชองอู" (สามีของโรรา) เสียชีวิตแล้วจากการฆ่าตัวตาย โดยศพของเขาเพิ่งถูกเผาเมื่อคืน โรราได้ยินแล้วถึงกับช็อคและไม่อยากจะเชื่อว่าสามีฆ่าตัวตาย เพราะเขาเพิ่งมาเยี่ยมพ่อได้เพียงสองสามวัน จงกิลตัดบทว่าประธานนัมจะเลี้ยงดูชินเอง จากนั้นก็บอกให้เธอลองเช็คยอดเงินค่าปลอบขวัญ (ก้อนโต) ในบัญชีก่อนเดินจากไป หลังจากนั้นโรราก็แวะไปยังสถานที่เก็บอัฐิของสามีและสัญญาว่าจะนำตัวลูกชายกลับคืนมาให้ได้
หกปีต่อมา (ปี 2004) นัมชินวัย 14 ปี นั่งเหม่อมองม้าในคอกของปู่ที่กรุงโซล ขณะเดียวกันโรราซึ่งอยู่ที่สาธารณรัฐเช็กนั่งมองรูปลูกชายในปัจจุบันอย่างครุ่นคิด ก่อนพัฒนาหุ่นแอนดรอยด์ระบบเอไอรุ่นใหม่โดยเลียนแบบลูกชายที่เติบโตเป็นวัยรุ่น เธอใช้เวลาสร้างและอัพเกรดหุ่นยนต์ใหม่นานสองปี แถมหุ่นตัวนี้ยังมาพร้อมนาฬิกาข้อมือซึ่งถูกใช้เป็นตัวขับเคลื่อนการทำงาน หลังโรราสวมนาฬิกาให้แล้วหุ่นยนต์ตัวดังกล่าวก็ลืมตาและแนะนำตัวว่า "ผมคือหุ่นยนต์เอไอ...นัมชินทู" จากนั้นก็ทักด้วยความแปลกใจว่าทำไมแม่ถึงเตี้ยลง โรราจึงอธิบายว่าเธอไม่ได้เตี้ยลงแต่นัมชินทูต่างหากที่ตัวสูงใหญ่ขึ้น โรราพานัมชินทูลงบันไดหลังเคยพลัดตกตอนเป็นนัมชินวัน ปรากฏว่านัมชินทูสามารถวิ่งขึ้นลงบันไดได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนมนุษย์ นัมชินทูเห็นแม่ยิ้มอย่างมีความสุขก็รู้สึกสงสัยว่าแม่ยิ้มได้ยังไง และบอกแม่ว่าตนอยากยิ้มได้เหมือนแม่ โรราเองก็อยากเห็นหุ่นยนต์นัมชินยิ้มให้จึงสัญญาว่าจะพัฒนาให้หุ่นยนต์นัมชินสามารถยิ้มได้
ณ กรุงโซล ในอีกสามปีต่อมา (ปี 2018)
นัมชินในวัย 28 ปี นั่งฟังเพลงพลางอ่านบทความเกี่ยวกับแม่ระหว่างเดินทางไปสนามบิน (หัวข้อบทความถามถึงสุดยอดวิศวกรหุ่นยนต์ที่หายตัวไปเมื่อ 20 ปีก่อน) ในเวลาเดียวกันนั้น ทีมบอดี้การ์ดของนัมชินกำลังเตรียมความพร้อมอยู่ที่สนามบิน หัวหน้าทีมกำชับให้ทุกคนเฝ้าระวังปาปารัสซี่และห้ามไม่มีภาพแอบถ่ายหลุดรอดออกมาได้โดยเด็ดขาด หากพบใครกำลังแอบถ่ายให้พังกล้องแล้วจ่ายเงินค่าเสียหายทันที "คัง โซบง" เห็นหัวหน้าทีมเตรียมซองเงินอย่างหนา (เงินชดเชยกรณีพังกล้อง) มาไว้ให้พวกตนก็ถึงกับตาโต ครั้นชินใกล้มาถึงทุกคนก็รีบวิ่งไปประจำแหน่ง ชินลงจากรถแล้วเห็นป้ายโฆษณาพีเคกรุ๊ป (ผู้ผลิตรถยนต์) ของปู่ก็หยุดมองก่อนแสยะยิ้มแล้วเดินเข้าไปในสนามบิน
โซบงเห็นนักข่าว "โช กีจา" กำลังแอบถ่ายภาพจึงรีบวิ่งไปจัดการ นักข่าวโชจะขับรถหนีแต่โซบงขวางหน้ารถไว้ ก่อนบุกเข้าไปนั่งในรถแล้วหยิบกล้องขึ้นมาสำรวจ ครั้นเห็นว่าทุกคนเข้าไปในสนามบินหมดแล้วทั้งคู่ก็ยิ้มและดีใจที่ทำสำเร็จ ที่แท้ทั้งคู่เป็นเพื่อนซี้และเตี๊ยมกันมาก่อน หลังแบ่งเงิน (ค่าเสียหาย) คนละครึ่งแล้ว นักข่าวโชก็สวมนาฬิกาที่สามารถถ่ายรูปได้ให้โซบง ปรากฏว่าบอดี้การ์ดอย่างโซบงคิดแอบถ่ายวีไอพี (คนที่เธอได้รับมอบหมายให้มาปกป้องซึ่งในที่นี้คือนัมชิน) แล้วนำรูปมาขายให้เพื่อนรักนักข่าวเสียเอง โซบงจับจี้รูปหัวใจพลางเปรยว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอใช้กล้องแอบถ่ายจึงต้องระวังไม่ให้ถูกจับได้ (โซบงจะจับจี้ดังกล่าวทุกครั้งที่ลุ้นหรือเป็นกังวล) นักข่าวโชได้ยินว่าชินเพิ่งเปลี่ยนจากการเดทกับดารามาเป็นสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปวงดัง จึงเสนอว่าจะจ่ายให้สองเท่าหากโซบงถ่ายรูปคู่ควงคนใหม่ของชินได้
โซบงรายงานหัวหน้าทีมว่าเธอพังกล้องและจ่ายค่าเสียหายให้นักข่าวแล้ว ครั้นหัวหน้าทีมประณามคนที่หากินด้วยการแอบถ่ายและขายรูปคนอื่นว่าเป็นพวกเศษสวะ โซบงก็ท่องคติเตือนใจที่หัวหน้าพร่ำสอนว่า คนเราต้องหาเลี้ยงชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เมื่อโซบงกลับมายืนสมทบกับเหล่าบอดี้การ์ดหน้าห้องรับรองพิเศษของสนามบิน เพื่อนๆ บอดี้การ์ดต่างพากันยกนิ้วโป้งให้เธอ เมื่อบอดี้การ์ดสาวที่ยืนข้างๆ โซบงเหลือบมองในห้องแล้วเห็นว่านักร้องดังคือคู่ควงคนใหม่ของชินก็รู้สึกตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ โซบงจึงเตือนบอดี้การ์ดสาวว่าหน้าที่ของพวกตนคือการปกป้องชีวิตส่วนตัวของวีไอพี และให้มองตรงไปข้างหน้าถ้าไม่อยากโดนไล่ออก แต่เธอกลับคอยเหลือบมองชินแล้วแอบกดชัตเตอร์รัวๆ
พอได้ภาพที่ต้องการแล้วโซบงก็ขอตัวไปห้องน้ำ เธอถอดนาฬิกาออกมาแกว่งเล่นอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งคว้าข้อมือเธอไว้ ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวคือชิน เขาหยิบนาฬิกาไปดูแล้วถามโซบงว่ามีกล้องแอบถ่ายซ่อนอยู่ใช่ไหม แม้จะถูกจับได้คาหนังคาเขาแต่โซบงพยายามทำใจดีสู้เสือโดยโกหกว่าเธอยึดนาฬิกามาจากนักข่าว (เธอเรียกชินว่า "ผอ.นัม") ชินเขวี้ยงนาฬิกาลงกับพื้นเต็มแรง จนนาฬิกาแตกเป็นเสี่ยงๆ เขาสงสัยว่าภาพที่ถูกโพสต์ลงในเน็ตก่อนหน้านี้เป็นฝีมือเธอด้วย โซบงปฏิเสธและชี้ว่าเขาเข้าใจผิด ชินแย้งทันควันว่าเธอโกหกเพราะก่อนหน้านี้เธอเพิ่งแอบถ่ายรูปตน ตนลงทุนจูบผู้หญิง (ทั้งที่ไม่รู้สึกพิศวาสอะไร) เพราะอยากจับโซบงให้ได้คาหนังคาเขา
โซบงยืนกรานว่าตนไม่ได้แอบถ่ายและเถียงหัวชนฝาว่าเป็นฝีมือปาปารัสซี่ ชินตะคอกเสียงดังลั่นว่ากล้าดียังไงถึงได้โกหกตน พูดจบเขาก็ตบหน้าโซบงสุดแรงจนเธอล้มหน้าคว่ำ เหล่าคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันหยิบมือถือมาบันทึกภาพและประณามชินที่ใช้ความรุนแรง ชินเห็นดังนั้นจึงเกรี้ยวกราดใส่ทุกคน เมื่อทีมบอดี้การ์ดเข้ามาระงับเหตุการณ์ ชินจึงฉวยโอกาสชิ่งหนีไป โซบงเหลือบเห็นชิ้นส่วนนาฬิกาแอบถ่ายกระจายอยู่บนพื้นจึงเอื้อมมือไปเก็บ แต่ "จี ยองฮุน" เห็นเข้าเสียก่อนเลยชิงหยิบขึ้นมาดูและบอกเธอว่าไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลัง จากนั้นก็ถามหาชิน
หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดรายงานว่าชินขึ้นเครื่องแล้วแต่เขาจองตั๋วไปแอลเอแบบเที่ยวเดียว ยองฮุนจึงรีบขึ้นเครื่องตามไปแต่กลับพบว่าชินไม่อยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว ทันใดนั้น ชินก็โทรฯ มาเย้ยจากเครื่องบินอีกลำซึ่งกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า ยองฮุนขอให้ชินพรีเซนต์รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (รถยนต์ไร้คนขับ) ก่อนแล้วอยากไปไหนค่อยไป ชินแย้งว่าตนชอบเครื่องบินมากกว่ารถยนต์ ยองฮุนชักเริ่มหงุดหงิดจึงถามว่าชินจะไปไหนกันแน่ เขาเกรงว่าถ้าประธานนัมรู้เข้าจะเป็นเรื่อง ชินถามกลับว่าเรื่องที่ตนทำร้ายผู้หญิงแพร่สะพัดในโลกโซเชียลหรือยัง ที่แท้ชินวางแผนสร้างสถานการณ์เอาไว้ตั้งแต่ต้น เขาอ้างว่าตนกำลังตกเป็นข่าวฉาวขืนแบกหน้าไปพรีเซนต์จะส่งผลเสียต่อรถยนต์รุ่นใหม่ไร้คนขับซึ่งเป็นธุรกิจสำคัญของพวกตน ที่ตนจะหายตัวไปเพราะเห็นแก่ภาพลักษณ์บริษัท คนร้ายกาจอย่างปู่กับคนที่เต็มไปด้วยพิษสงอย่างกรรมการซอคงชอบใจน่าดูที่ตนไม่อยู่ เขาบอกให้ยองฮุนเลิกเป็นเงาตามตัวตนและวางสายไป
โซบงถูกหัวหน้าทีมบอดี้การ์ดตำหนิอย่างรุนแรงที่แอบถ่ายวีไอพีในระหว่างปฏิบัติหน้าที่เสียเอง ยองฮุนเห็นดังนั้นจึงเดินมาห้ามและบอกให้หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดทำเรื่องลาออกให้โซบง พร้อมทั้งทำหนังสือแจ้งไปยังสมาคมเพื่อไม่ให้โซบงเป็นบอดี้การ์ดได้อีกต่อไป โซบงได้ยินแล้วถึงกับช็อค เธอนำเศษซากนาฬิกาไปคืนนักข่าวโช พอรู้ว่าโซบงตกงานนักข่าวโชก็รู้สึกผิดและอดเป็นห่วงไม่ได้ โซบงแย้งว่าตนงกและอยากทำเอง จากนั้นก็พูดเหมือนไม่แยแส (แต่ในใจแสนเจ็บปวด) ว่าต่อให้ต้องไปอารักขาหมาของคนรวยตนก็จะทำ พูดจบโซบงก็เดินจากไปโดยไม่เหลียวหลัง เมื่อชินโทรฯ มาหา นักข่าวโชก็รายงานว่าโซบงยังไม่รู้ความจริง เธอถามกึ่งโวยว่าทำไมต้องตบหน้าโซบงด้วยในเมื่อพวกตนวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ต้น เธอรู้สึกผิดที่ไม่ได้บอกโซบง และกลัวว่าถ้าโซบงรู้ทีหลังมีหวังตนตายแน่ แถมโซบงยังโดนไล่ออกอีกด้วย ชินขี้เกียจฟังนักข่าวโชพูดพล่ามจึงตัดบทด้วยการวางสายใส่ทันที
ขณะอยู่บนเครื่องบิน ชินไม่รู้ว่าตนกำลังถูกชายคนหนึ่งซึ่งมีรอยสักรูปงูที่ลำคอจับตามองอยู่ทางด้านหลังอย่างไม่ประสงค์ดี
"โอ โรรา" (ลอว์ร่า โอ) สร้างหุ่นแอนดรอยด์ระบบเอไอรุ่นแรกโดยเลียนแบบโครงสร้างของเด็กผู้ชาย หลังประกอบใบหน้าให้หุ่นตัวดังกล่าวและเปิดระบบปฏิบัติการแล้ว หุ่นเด็กชายก็แนะนำตัวว่า "สวัสดีครับ ผมคือหุ่นยนต์เอไอ...นัมชินวัน" โรราเห็นผลงานตัวเองแล้วถึงกับน้ำตาร่วงและรำพึงรำพันว่า "ชิน... แม่คิดถึงลูกเหลือเกิน..." นัมชินวันเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปหาและสวมกอดเธอ เธอจึงกอดตอบทั้งน้ำตา
ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งปีก่อน ณ กรุงโซล ปี 1997 (พ.ศ. 2540)
"โอ โรรา" นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวเกาหลีใต้ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็น "ไอน์สไตน์เกาหลีด้านปัญญาประดิษฐ์" ขึ้นบรรยายบนเวทีต่อหน้านักศีกษา เธอชี้ไปที่รูปหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (หุ่นยนต์ที่ออกแบบขึ้นมาโดยมีพื้นฐานมาจากร่างกายมนุษย์) บนจอโปรเจ็คเตอร์ ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่ทันสมัยไฮเทคสุด ณ ขณะนั้น แล้วบอกว่าเธอยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เธอเปลี่ยนสไลด์เป็นรูปเด็กชายคนหนึ่งพลางกล่าวว่าในอนาคตอันใกล้เธอจะพัฒนาหุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์จนแยกไม่ออก และสามารถอยู่เคียงข้างเราแทนคนที่เรารักและจากเราไปไกล ทันใดนั้นก็มีเด็กชายคนหนึ่งลุกขึ้นประท้วงว่าตนเป็นมนุษย์ ไม่ใช่หุ่นยนต์ เขาคือเด็กชายที่มีรูปปรากฏบนจอโปรเจ็คเตอร์ และยังเป็นลูกชายวัย 7 ปีของเธอที่มีชื่อว่า "นัมชิน"
โรราพูดติดตลกกับเหล่านักศึกษาว่าบางครั้งเธอก็อยากให้ลูกชายเป็นหุ่นยนต์ที่ว่านอนสอนง่าย (เธอเคยบอกให้ลูกนั่งฟังเงียบๆ ก่อนหน้านี้) และแกล้งขู่ลูกชายว่าถ้าขืนยังไม่เชื่อฟังเธอจะสร้างหุ่นยนต์เลียนแบบเขาและชอบหุ่นยนต์แทน ชินแกล้งสวนกลับอย่างไม่สะทกสะท้านว่า ไม่เป็นไร...เพราะถึงยังไงตนก็ชอบพ่อมากกว่า หลังจบการบรรยายชินถามแม่ว่าโกรธตนไหมที่พูดไปแบบนั้น โรราปฏิเสธว่าไม่โกรธก่อนเกทับว่าถึงยังไงพ่อของชินก็ชอบเธอมากกว่าและท้าให้ชินถามพ่อด้วยตนเอง เธอเห็นว่าสามีกำลังจะมาจึงชวนลูกไปสนามบินเพื่อจะได้บินกลับบ้านด้วยกัน
ชินจะโทรฯ ถามพ่อว่าชอบแม่หรือตนมากกว่ากัน แต่เสียงโทรศัพท์ (ริงโทนของพ่อ) กลับดังขึ้นใกล้ๆ ครั้นเห็น " ซอ จงกิล" ยืนถือโทรศัพท์อยู่ตรงหน้า โรราก็หน้าถอดสี จงกิลเดินเข้าไปหาสองแม่ลูกพลางส่งสัญญาณบอกลูกน้องให้ชิงตัวเด็กไป โรราถูกลูกน้องจงกิลจับตัวไว้จึงทำได้เพียงมองลูกรักถูกอุ้มขึ้นรถไปต่อหน้าต่อตา จงกิลอธิบายว่า 'ท่านประธาน' ต้องการตัวชิน โรราสงสัยว่าทำไม "นัม กอนโฮ" (ปู่ของชิน / ประธานพีเคกรุ๊ป) ถึงพรากลูกไปจากตน ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยยอมรับเธอและลูกชายเป็นคนในครอบครัว ด้วยเหตุนี้ครอบครัวเธอเลยต้องระเห็จไปอยู่เมืองนอก เธอชี้ว่าตนมาเกาหลีเพื่อบรรยายเท่านั้นและจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก โรราเห็นโทรศัพท์สามีอยู่ที่จงกิลก็รู้สึกสงสัยและเอะใจ จงกิลจึงยื่นใบมรณะบัตรให้โรราก่อนชี้ว่า "นัม ชองอู" (สามีของโรรา) เสียชีวิตแล้วจากการฆ่าตัวตาย โดยศพของเขาเพิ่งถูกเผาเมื่อคืน โรราได้ยินแล้วถึงกับช็อคและไม่อยากจะเชื่อว่าสามีฆ่าตัวตาย เพราะเขาเพิ่งมาเยี่ยมพ่อได้เพียงสองสามวัน จงกิลตัดบทว่าประธานนัมจะเลี้ยงดูชินเอง จากนั้นก็บอกให้เธอลองเช็คยอดเงินค่าปลอบขวัญ (ก้อนโต) ในบัญชีก่อนเดินจากไป หลังจากนั้นโรราก็แวะไปยังสถานที่เก็บอัฐิของสามีและสัญญาว่าจะนำตัวลูกชายกลับคืนมาให้ได้
วันต่อมา โรราขับรถคันใหม่เอี่ยมอ่องบุกไปทวงลูกชายที่คฤหาสน์ของประธานนัม พร้อมนำเงินสดเต็มกระเป๋าที่ประธานนัมโอนให้มาคืน (เงินส่วนที่เหลือจากการซื้อรถ) จงกิลเปิดทางให้เธอเรียกหาลูก หลังจากนั้นไม่นานชินก็เดินออกมาหาเธอและยืนกรานว่าจะอยู่ที่นี่กับปู่โดยอ้างว่าตนชอบที่นี่ โรราสงสัยว่าลูกอาจโดนข่มขู่และพยายามพาชินกลับไป แต่ชินปฏิเสธและชี้ว่าตนไม่อยากตายเหมือนพ่อ ซ้ำยังโทษว่าแม่ทำให้พ่อตาย โรราได้ยินแล้วถึงกับอึ้ง ชินยังขู่ด้วยว่าถ้าขืนแม่มาที่นี่อีกตนจะตายตามพ่อไป พูดจบชินก็เดินกลับไปหาปู่โดยบอกว่าตนทำตามสัญญาแล้ว และขอให้ปู่ทำตามสัญญาว่าจะไม่แตะต้องแม่
แม้จะถูกลูกน้องจงกิลจับโยนออกมาแต่โรรายังไม่ยอมแพ้และพยายามบุกเข้าไปตามลูก จงกิลจึงเตือนเธอว่าขืนทำเช่นนี้ชินจะพลอยเจ็บตัวอีกคน เพราะไม่ว่าประธานนัมต้องการสิ่งใดก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งนั้น เขาบอกให้ดูสามีผู้ล่วงลับของเธอ (ซึ่งแข็งข้อกับประธานนัม) เป็นตัวอย่าง ทางที่ดีเธอควรรักษาชีวิตลูกแทนที่จะดึงดันพาลูกกลับไปอยู่กับตน โรราได้ยินดังนั้นจึงยอมตัดใจและบินกลับบ้านตามลำพังโดยร้องไห้คิดถึงลูกตลอดทาง ขณะที่ชินเองก็ร้องหาแม่ด้วยความหวาดกลัวเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าเช่นกัน
ตัดกลับมาที่สาธารณรัฐเช็ก ในปี 1998 (พ.ศ. 2541)
หลังพลัดพรากจากลูกรัก โรราก็พัฒนาหุ่นแอนดรอยด์ระบบเอไอเลียนแบบนัมชิน โดยรุ่นแรกเป็นหุ่นเด็กชายชื่อ "นัมชินวัน" ครั้นนัมชินวันเรียกเธอว่า "แม่" โรราก็ขอให้นัมชินวันเรียกแม่อีกครั้ง นัมชินวันเห็นโรราร่ำไห้คิดถึงลูกจึงท่องกฏข้อที่หนึ่ง (ซึ่งระบุให้กอดคนที่กำลังร้องไห้) แบบเสียงดังฟังชัด และตรงเข้ากอดโรราทันที แม้นัมชินวันจะแลดูเหมือนนัมชินทุกอย่าง แต่ยังมีข้อเสียคือเดินลงบันไดไม่ได้ ทำให้ตกลงมานอนนิ่งและลุกขึ้นเองไม่ได้
หกปีต่อมา (ปี 2004) นัมชินวัย 14 ปี นั่งเหม่อมองม้าในคอกของปู่ที่กรุงโซล ขณะเดียวกันโรราซึ่งอยู่ที่สาธารณรัฐเช็กนั่งมองรูปลูกชายในปัจจุบันอย่างครุ่นคิด ก่อนพัฒนาหุ่นแอนดรอยด์ระบบเอไอรุ่นใหม่โดยเลียนแบบลูกชายที่เติบโตเป็นวัยรุ่น เธอใช้เวลาสร้างและอัพเกรดหุ่นยนต์ใหม่นานสองปี แถมหุ่นตัวนี้ยังมาพร้อมนาฬิกาข้อมือซึ่งถูกใช้เป็นตัวขับเคลื่อนการทำงาน หลังโรราสวมนาฬิกาให้แล้วหุ่นยนต์ตัวดังกล่าวก็ลืมตาและแนะนำตัวว่า "ผมคือหุ่นยนต์เอไอ...นัมชินทู" จากนั้นก็ทักด้วยความแปลกใจว่าทำไมแม่ถึงเตี้ยลง โรราจึงอธิบายว่าเธอไม่ได้เตี้ยลงแต่นัมชินทูต่างหากที่ตัวสูงใหญ่ขึ้น โรราพานัมชินทูลงบันไดหลังเคยพลัดตกตอนเป็นนัมชินวัน ปรากฏว่านัมชินทูสามารถวิ่งขึ้นลงบันไดได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนมนุษย์ นัมชินทูเห็นแม่ยิ้มอย่างมีความสุขก็รู้สึกสงสัยว่าแม่ยิ้มได้ยังไง และบอกแม่ว่าตนอยากยิ้มได้เหมือนแม่ โรราเองก็อยากเห็นหุ่นยนต์นัมชินยิ้มให้จึงสัญญาว่าจะพัฒนาให้หุ่นยนต์นัมชินสามารถยิ้มได้
หลังจากนั้นโรราก็พัฒนาหุ่นยนต์นัมชินรุ่นใหม่ที่มีความทันสมัยไฮเทคมากขึ้น โดยนำหมึกชีวภาพ (Bioinks) มาใช้ในส่วนของเนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ ฯลฯ เพื่อความสมจริงยิ่งขึ้น ในที่สุด หุ่นยนต์เอไอ "นัมชินทรี" ที่มีความคล้ายคลึงมนุษย์มากที่สุดก็เสร็จสมบูรณ์ในอีกสิบเอ็ดปีต่อมา (ปี 2015)
โรราเห็นนัมชินทรียิ้มให้ก็รู้สึกปลาบปลื้มใจ ถึงกระนั้นเธอก็อดคิดถึงลูกชายไม่ได้ นัมชินทรี (ซึ่งมาพร้อมสมาร์ทวอทช์) เห็นแม่ร้องไห้จึงตรงเข้าไปกอดพลางเอ่ยถึงกฏข้อที่หนึ่ง (เวลาเห็นคนร้องไห้ให้เข้าไปกอด) ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน โรราได้ยินดังนั้นก็น้ำตาไหลพราก เธอตบไหล่นัมชินทรีเบาๆ แทนคำชม นัมชินทรีเข้าใจความหมายจึงยิ้มออกมา
ณ กรุงโซล ในอีกสามปีต่อมา (ปี 2018)
นัมชินในวัย 28 ปี นั่งฟังเพลงพลางอ่านบทความเกี่ยวกับแม่ระหว่างเดินทางไปสนามบิน (หัวข้อบทความถามถึงสุดยอดวิศวกรหุ่นยนต์ที่หายตัวไปเมื่อ 20 ปีก่อน) ในเวลาเดียวกันนั้น ทีมบอดี้การ์ดของนัมชินกำลังเตรียมความพร้อมอยู่ที่สนามบิน หัวหน้าทีมกำชับให้ทุกคนเฝ้าระวังปาปารัสซี่และห้ามไม่มีภาพแอบถ่ายหลุดรอดออกมาได้โดยเด็ดขาด หากพบใครกำลังแอบถ่ายให้พังกล้องแล้วจ่ายเงินค่าเสียหายทันที "คัง โซบง" เห็นหัวหน้าทีมเตรียมซองเงินอย่างหนา (เงินชดเชยกรณีพังกล้อง) มาไว้ให้พวกตนก็ถึงกับตาโต ครั้นชินใกล้มาถึงทุกคนก็รีบวิ่งไปประจำแหน่ง ชินลงจากรถแล้วเห็นป้ายโฆษณาพีเคกรุ๊ป (ผู้ผลิตรถยนต์) ของปู่ก็หยุดมองก่อนแสยะยิ้มแล้วเดินเข้าไปในสนามบิน
โซบงเห็นนักข่าว "โช กีจา" กำลังแอบถ่ายภาพจึงรีบวิ่งไปจัดการ นักข่าวโชจะขับรถหนีแต่โซบงขวางหน้ารถไว้ ก่อนบุกเข้าไปนั่งในรถแล้วหยิบกล้องขึ้นมาสำรวจ ครั้นเห็นว่าทุกคนเข้าไปในสนามบินหมดแล้วทั้งคู่ก็ยิ้มและดีใจที่ทำสำเร็จ ที่แท้ทั้งคู่เป็นเพื่อนซี้และเตี๊ยมกันมาก่อน หลังแบ่งเงิน (ค่าเสียหาย) คนละครึ่งแล้ว นักข่าวโชก็สวมนาฬิกาที่สามารถถ่ายรูปได้ให้โซบง ปรากฏว่าบอดี้การ์ดอย่างโซบงคิดแอบถ่ายวีไอพี (คนที่เธอได้รับมอบหมายให้มาปกป้องซึ่งในที่นี้คือนัมชิน) แล้วนำรูปมาขายให้เพื่อนรักนักข่าวเสียเอง โซบงจับจี้รูปหัวใจพลางเปรยว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอใช้กล้องแอบถ่ายจึงต้องระวังไม่ให้ถูกจับได้ (โซบงจะจับจี้ดังกล่าวทุกครั้งที่ลุ้นหรือเป็นกังวล) นักข่าวโชได้ยินว่าชินเพิ่งเปลี่ยนจากการเดทกับดารามาเป็นสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปวงดัง จึงเสนอว่าจะจ่ายให้สองเท่าหากโซบงถ่ายรูปคู่ควงคนใหม่ของชินได้
โซบงรายงานหัวหน้าทีมว่าเธอพังกล้องและจ่ายค่าเสียหายให้นักข่าวแล้ว ครั้นหัวหน้าทีมประณามคนที่หากินด้วยการแอบถ่ายและขายรูปคนอื่นว่าเป็นพวกเศษสวะ โซบงก็ท่องคติเตือนใจที่หัวหน้าพร่ำสอนว่า คนเราต้องหาเลี้ยงชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เมื่อโซบงกลับมายืนสมทบกับเหล่าบอดี้การ์ดหน้าห้องรับรองพิเศษของสนามบิน เพื่อนๆ บอดี้การ์ดต่างพากันยกนิ้วโป้งให้เธอ เมื่อบอดี้การ์ดสาวที่ยืนข้างๆ โซบงเหลือบมองในห้องแล้วเห็นว่านักร้องดังคือคู่ควงคนใหม่ของชินก็รู้สึกตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ โซบงจึงเตือนบอดี้การ์ดสาวว่าหน้าที่ของพวกตนคือการปกป้องชีวิตส่วนตัวของวีไอพี และให้มองตรงไปข้างหน้าถ้าไม่อยากโดนไล่ออก แต่เธอกลับคอยเหลือบมองชินแล้วแอบกดชัตเตอร์รัวๆ
พอได้ภาพที่ต้องการแล้วโซบงก็ขอตัวไปห้องน้ำ เธอถอดนาฬิกาออกมาแกว่งเล่นอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งคว้าข้อมือเธอไว้ ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวคือชิน เขาหยิบนาฬิกาไปดูแล้วถามโซบงว่ามีกล้องแอบถ่ายซ่อนอยู่ใช่ไหม แม้จะถูกจับได้คาหนังคาเขาแต่โซบงพยายามทำใจดีสู้เสือโดยโกหกว่าเธอยึดนาฬิกามาจากนักข่าว (เธอเรียกชินว่า "ผอ.นัม") ชินเขวี้ยงนาฬิกาลงกับพื้นเต็มแรง จนนาฬิกาแตกเป็นเสี่ยงๆ เขาสงสัยว่าภาพที่ถูกโพสต์ลงในเน็ตก่อนหน้านี้เป็นฝีมือเธอด้วย โซบงปฏิเสธและชี้ว่าเขาเข้าใจผิด ชินแย้งทันควันว่าเธอโกหกเพราะก่อนหน้านี้เธอเพิ่งแอบถ่ายรูปตน ตนลงทุนจูบผู้หญิง (ทั้งที่ไม่รู้สึกพิศวาสอะไร) เพราะอยากจับโซบงให้ได้คาหนังคาเขา
โซบงยืนกรานว่าตนไม่ได้แอบถ่ายและเถียงหัวชนฝาว่าเป็นฝีมือปาปารัสซี่ ชินตะคอกเสียงดังลั่นว่ากล้าดียังไงถึงได้โกหกตน พูดจบเขาก็ตบหน้าโซบงสุดแรงจนเธอล้มหน้าคว่ำ เหล่าคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันหยิบมือถือมาบันทึกภาพและประณามชินที่ใช้ความรุนแรง ชินเห็นดังนั้นจึงเกรี้ยวกราดใส่ทุกคน เมื่อทีมบอดี้การ์ดเข้ามาระงับเหตุการณ์ ชินจึงฉวยโอกาสชิ่งหนีไป โซบงเหลือบเห็นชิ้นส่วนนาฬิกาแอบถ่ายกระจายอยู่บนพื้นจึงเอื้อมมือไปเก็บ แต่ "จี ยองฮุน" เห็นเข้าเสียก่อนเลยชิงหยิบขึ้นมาดูและบอกเธอว่าไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลัง จากนั้นก็ถามหาชิน
โซบงถูกหัวหน้าทีมบอดี้การ์ดตำหนิอย่างรุนแรงที่แอบถ่ายวีไอพีในระหว่างปฏิบัติหน้าที่เสียเอง ยองฮุนเห็นดังนั้นจึงเดินมาห้ามและบอกให้หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดทำเรื่องลาออกให้โซบง พร้อมทั้งทำหนังสือแจ้งไปยังสมาคมเพื่อไม่ให้โซบงเป็นบอดี้การ์ดได้อีกต่อไป โซบงได้ยินแล้วถึงกับช็อค เธอนำเศษซากนาฬิกาไปคืนนักข่าวโช พอรู้ว่าโซบงตกงานนักข่าวโชก็รู้สึกผิดและอดเป็นห่วงไม่ได้ โซบงแย้งว่าตนงกและอยากทำเอง จากนั้นก็พูดเหมือนไม่แยแส (แต่ในใจแสนเจ็บปวด) ว่าต่อให้ต้องไปอารักขาหมาของคนรวยตนก็จะทำ พูดจบโซบงก็เดินจากไปโดยไม่เหลียวหลัง เมื่อชินโทรฯ มาหา นักข่าวโชก็รายงานว่าโซบงยังไม่รู้ความจริง เธอถามกึ่งโวยว่าทำไมต้องตบหน้าโซบงด้วยในเมื่อพวกตนวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ต้น เธอรู้สึกผิดที่ไม่ได้บอกโซบง และกลัวว่าถ้าโซบงรู้ทีหลังมีหวังตนตายแน่ แถมโซบงยังโดนไล่ออกอีกด้วย ชินขี้เกียจฟังนักข่าวโชพูดพล่ามจึงตัดบทด้วยการวางสายใส่ทันที
ขณะอยู่บนเครื่องบิน ชินไม่รู้ว่าตนกำลังถูกชายคนหนึ่งซึ่งมีรอยสักรูปงูที่ลำคอจับตามองอยู่ทางด้านหลังอย่างไม่ประสงค์ดี
* เนื้อหาโดย luvasianseries / ภาพจากเคบีเอส
รายชื่อนักแสดง
นักแสดงนำ
ซอ คังจุน
รับบท นัมชินทรี / นัมชิน
รับบท คัง โซบง
ลี จุนฮยอก
รับบท จี ยองฮุน
ปาร์ค ฮวานฮี
รับบท ซอ เยนา
คิม ซองรยอง
รับบท โอ โรรา
ยู โอซอง
รับบท ซอ จงกิล
ปาร์ค ยองคยู
รับบท นัม กอนโฮ
อื่นๆ
ชเว ต็อกมุน
รับบท เดวิด
คิม ฮเยอึน
รับบท นัม โฮยอน
คิม วอนแฮ
รับบท คัง แจชิก
คิม ฮยอนซุก
รับบท โช กีจา
คลิปตัวอย่างจาก youtube/KBS 한국방송 (MyloveKBS)
คลิปเบื้องหลังจาก youtube/KBS 한국방송 (MyloveKBS)
เพลงประกอบจาก youtube/VEM
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา