กำกับ: หลินอวี้เฟิน, เกาหลินเป้า, สวีฮุ่ยคัง
เขียนบท: หวังลี่จือ
แนวละคร: แฟนตาซี, โรแมนติก, อิงตำนาน,
จำนวนตอน: 32 (ทีวี) / 37 (ดีวีดี)
ออกอากาศ: จีน - 8 กุมภาพันธ์ 2559 - 15 มีนาคม 2559 ทางหูหนานทีวี
ไทย - ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 19.15-20.15 น. และวันศุกร์ เวลา 19.00-20.00 น. ทางช่อง 3 แฟมิลี่ (หมายเลข 13) ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2562 - 30 เมษายน 2562
เรื่องย่อ
ละคร "ตำนานรักจิ้งจอกสวรรค์" (Legend of Nine Tails Fox) ดัดแปลงมาจาก 6 เรื่องเล่าในวรรณกรรมสมัยราชวงศ์ชิง ชุด "Strange Stories from a Chinese Studio" (聊齋誌異) ของนักประพันธ์ "ผูซงหลิง" โดยวรรณกรรมชุดดังกล่าวประกอบด้วยเรื่องราวมหัศจรรย์ต่างๆ ในลักษณะเรื่องสั้นเกือบ 500 เรื่อง สำหรับเรื่องราวที่ถูกนำมาดัดแปลงและกล่าวถึงในละครล้วนมีความเกี่ยวข้องกับ "จิ้งจอกเก้าหาง" ในตำนาน โดยละครได้เรียงร้อยเรื่องราวทั้ง 6 เข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยเรื่องของ "อาซิ่ว", "เฟิงซานเหนียง", "อิงหนิง", "หูซื่อ", "ฉางถิง" และ "เหิงเหนียง" ตามลำดับ
ละครเปิดฉากขึ้นหลัง "ผานกู่" เบิกฟ้า (แยกฟ้าดินออกจากกันและสร้างโลก) และเทพธิดา "หนี่ว์วา" ได้สร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นบนโลก โดยหนี่ว์วามีสัตว์เลี้ยงข้างกายเป็นสี่สัตว์เทพ ประกอบด้วย "หลิงหู" (เทพอสูรจิ้งจอก), "เฟิ่งหวง" (วิหคเพลิง), "ฉีหลิน" (กิเลน) และ "ชิงหลง" (มังกรเขียว) แต่เนื่องจากหลิงหูเป็นสัตว์เทพที่ชาญฉลาดจึงเป็นที่โปรดปรานของหนี่ว์วา ในเวลาต่อมาหนี่ว์วาต้องการยุติไฟสงครามที่เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์โจวตะวันตกจึงส่งหลิงหูไปแฝงตัวยังโลกมนุษย์เพื่อใช้มนต์สะกดโจวอ๋อง แต่สุดท้ายหลิงหูกลับนำหายนะมาสู่โลกมนุษย์ หนี่ว์วาโกรธมากจึงถอดหลิงหูออกจากการเป็นหนึ่งในสี่สัตว์เทพก่อนไล่ให้ไปอยู่บนเขาชิงชิว พร้อมทั้งลงโทษด้วยการสั่งให้ปลูกและดูแลต้นเม่ย (ต้นไม้วิเศษ) สำหรับบูชาฟ้าดิน โดยต้นเม่ยจะให้ผลสุกหนึ่งผลทุก 500 ปี หากใครได้ลิ้มลองผลเม่ยนี้จะมีพลังและมนต์สะกดแก่กล้า
ณ เขาชิงชิว เหล่าจิ้งจอกอสูรต่างเตรียมฉลองการสุกของผลเม่ย (ยกเว้น "หูซื่อ" ที่ปลีกตัวไปขอสาวแต่งงานอีกตามเคย) แต่แล้วอยู่ๆ กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันเมื่อมีคนร้ายลอบเข้ามาในชิงชิวและร่ายมนต์สะกด "อิงหนิง" ครั้นอิงหนิงวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกว่าฝูง (ปีศาจ) หมาป่ากำลังบุกมา "ฮัวเยว่" จึงรีบไปรายงาน "ท่านยาย" (ซึ่งก็คือ "หลิงหู" ที่กล่าวถึงในตอนต้น มีสองเพศในร่างเดียว) และ "ผู้อาวุโส" ซึ่งกำลังจะไปเฉลิมฉลองและต้อนรับผลเม่ย 500 ปี ทุกคนรวมทั้งฮัวเยว่จึงรีบออกไปรับมือพวกหมาป่าด้วยไม่รู้ว่าเป็นกลลวง หลังคนร้ายคลายมนต์สะกดอิงหนิงก็ล้มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น ด้าน "เฟยเยว่" (ซึ่งถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมพิธีฉลอง) ไม่อยากพลาดโอกาสเดียวในรอบ 500 ปี เลยแอบปีนต้นเม่ยหมายดูผลสุกให้เห็นกับตา นึกไม่ถึงว่าจะมีผู้หญิงชุดดำลอบเข้ามาขโมยผลเม่ย เฟยเยว่พยายามขัดขวางแต่พลังและฝีมือด้อยกว่าเลยสู้ไม่ได้ (คนร้ายไม่คิดสังหารเฟยเยว่ ซ้ำยังช่วยเธอตอนพลัดตกจากต้นเม่ย) ในที่สุดคนร้ายก็ชิงผลเม่ยที่เพิ่งสุกไปต่อหน้าต่อหน้า เฟยเยว่จึงร้องเตือนเพื่อนจิ้งจอกที่บังเอิญเดินผ่านมาว่ามีคนร้ายบุกมาขโมยผลเม่ย จากนั้นก็ไล่ตามคนร้ายไปติดๆ แต่ทว่าคว้าได้เพียงเศษเสื้อของคนร้าย ครั้น "เวิงฉางถิง" ชี้ว่าถึงเป็นเพียงเศษผ้าแต่ก็นับได้ว่าเป็นเบาะแสเพราะน่าจะมีกลิ่นคนร้ายติดอยู่ ท่านยายจึงใช้สุ่ยจิง (กระจกวิเศษ) ตรวจสอบจนรู้ว่าคนร้ายอยู่ที่บ้านสกุลเมิ่งในเมืองหลวง
อิงหนิงบ่นด้วยความเจ็บใจที่ตนมัวแต่เผลอหลับเลยไม่ได้ไปฉลองผลเม่ยกับฮัวเยว่ ฮัวเยว่ไม่เชื่อและแย้งด้วยความไม่พอใจว่าอิงหนิงเป็นคนวิ่งมาบอกตนเรื่องหมาป่าทั้งยังขอให้ตนรีบไปเตือนท่านยาย อิงหนิงยืนยันว่าตนหลับยาวจนกระทั่งฮัวเยว่มาเจอ เวิงฉางถิงกับเฟยเยว่เห็นสองสาวเถียงกันไปมาจึงเตือนว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการตามหาผลเม่ย ผู้อาวุโสแนะให้ท่านยายสารภาพความจริงและขอความเมตตาจากเทพธิดาหนี่ว์วา หลังจากนั้นค่อยหาทางออกกันอีกที แต่ท่านยายต้องการปิดเป็นความลับและหาทางแก้ปัญหากันเองก่อน ผู้อาวุโสเห็นว่าเรื่องนี้มีผลต่อความเป็นความตายของเหล่าจิ้งจอกจึงแนะให้ท่านยายมอบหมายหน้าที่ในการตามหาผลเม่ยแก่จิ้งจอกอัจฉริยะ "หลิ่วฉางเหยียน" (ผู้นำเหล่าจิ้งจอก)
อิงหนิงบ่นด้วยความเจ็บใจที่ตนมัวแต่เผลอหลับเลยไม่ได้ไปฉลองผลเม่ยกับฮัวเยว่ ฮัวเยว่ไม่เชื่อและแย้งด้วยความไม่พอใจว่าอิงหนิงเป็นคนวิ่งมาบอกตนเรื่องหมาป่าทั้งยังขอให้ตนรีบไปเตือนท่านยาย อิงหนิงยืนยันว่าตนหลับยาวจนกระทั่งฮัวเยว่มาเจอ เวิงฉางถิงกับเฟยเยว่เห็นสองสาวเถียงกันไปมาจึงเตือนว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการตามหาผลเม่ย ผู้อาวุโสแนะให้ท่านยายสารภาพความจริงและขอความเมตตาจากเทพธิดาหนี่ว์วา หลังจากนั้นค่อยหาทางออกกันอีกที แต่ท่านยายต้องการปิดเป็นความลับและหาทางแก้ปัญหากันเองก่อน ผู้อาวุโสเห็นว่าเรื่องนี้มีผลต่อความเป็นความตายของเหล่าจิ้งจอกจึงแนะให้ท่านยายมอบหมายหน้าที่ในการตามหาผลเม่ยแก่จิ้งจอกอัจฉริยะ "หลิ่วฉางเหยียน" (ผู้นำเหล่าจิ้งจอก)
หลิ่วฉางเหยียนนั่งดูสองนักพรตเต๋าเล่นหมากล้อมอย่างตั้งใจโดยมี "ซูสี่" คอยรับใช้ใกล้ชิด ทันใดนั้นก็มีนกอินทรีย์บินมาป่วนกระดานหมากล้อม หลิ่วฉางเหยียนซึ่งมีความจำเป็นเลิศจึงอาสาจัดเรียงหมากบนกระดานใหม่ให้เหมือนเดิม สองนักพรตเต๋าเห็นดังนั้นก็รู้สึกทึ่งในความสามารถของหลิ่วฉางเหยียนจึงยินดีถ่ายทอดวิชาให้ ครั้นรู้ว่าเฟยเยว่จะแอบไปตามหาผลเม่ยที่บ้านสกุลเมิ่ง เวิงฉางถิงเลยเตือนว่าฝีมือเธอสู้คนร้ายไม่ได้ ฮัวเยว่ได้ยินกิตติศัพท์ในทางไม่ดีของ "เมิ่งอันเหริน" จึงเตือนเฟยเยว่ว่าเมิ่งอันเหรินเป็นคนเจ้าเล่ห์และร้ายกาจสุดๆ เฟยเยว่ยอมรับว่าฝีมือตนอ่อนด้อยกว่าแต่เธอเป็นคนเดียวที่เคยต่อสู้กับคนร้าย เธอแค่อยากไปสืบดูว่าคนร้ายเป็นใครกันแน่ ส่วนเรื่องเมิ่งอันเหรินนั้นไม่มีอะไรน่าวิตก ถึงร้ายกาจอย่างไรเขาก็เป็นแค่มนุษย์แถมเธอยังไม่สนใจเรื่องความรักชายหญิงอีกด้วย
ท่านยายขอให้หลิ่วฉางเหยียนตามหาผลเม่ยให้เจอก่อนพิธีบูชาฟ้าดินจะเริ่มต้นขึ้น โดยย้ำว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงความอยู่รอดของเหล่าจิ้งจอกอย่างพวกตน หลิ่วฉางเหยียนรับปากแต่เขาไม่เห็นด้วยกับการปิดบังเทพธิดาหนี่ว์วา ท่านยายชี้ว่าหากหลิ่วฉางเหยียนนำผลเม่ยกลับมาได้ทันก็ไม่ถือเป็นเรื่องผิดบาป แล้วตนจะสารภาพความจริงกับเทพธิดาหนี่ว์วาเอง แต่ถ้าหลิ่วฉางเหยียนนำผลเม่ยกลับมาไม่ได้จะกลายเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โต ถึงกระนั้นก็เป็นความรับผิดชอบของตนโดยตรง ตนจึงเชื่อว่าเทพธิดาหนี่ว์วาจะลงโทษจิ้งจอกอสูรรุ่นลูกรุ่นหลานสถานเบา
หลิ่วฉางเหยียนเริ่มต้นภารกิจด้วยการเรียกฮัวเยว่กับอิงหนิงมาสอบถามเรื่องราววันเกิดเหตุ ฮัวเยว่ยืนกรานว่าหลังไปเตือนท่านยายเรื่องหมาป่าบุก เธอก็อยู่กับท่านยายและคนอื่นๆ ตลอดเลยไม่รู้ว่าผลเม่ยถูกขโมยไปได้อย่างไร หลิ่วฉางเหยียนสงสัยว่าในเมื่อหมาป่าไม่ได้บุกมาจริงๆ แล้วฮัวเยว่รู้ได้อย่างไรว่าพวกหมาป่าจะบุกมา ฮัวเยว่ยืนยันหนักแน่นว่าอิงหนิงเป็นคนบอกตน แต่อิงหนิงยืนยันว่าตนไม่เคยพูดเช่นนั้น และชี้ว่าวันนั้นเธอเผลอหลับไปครั้นตื่นขึ้นมาผลเม่ยก็หายไปแล้ว หลิ่วฉางเหยียนรู้ได้ทันทีว่าเรื่องหมาป่าบุกเป็นกลลวงที่คนร้ายใช้เบี่ยงเบนความสนใจ แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองสาว และใครพูดจริงพูดเท็จกันแน่ แถมต่างฝ่ายต่างไม่มีพยาน ฮัวเยว่ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนก่อนขอตัวไปตามหาความรักบนโลกมนุษย์
"ฮัวเยว่" ออกจากเขาชิงชิวเพื่อแสวงหาความรักในโลกมนุษย์โดยกลายร่างเป็นหญิงงาม หลังหว่านเสน่ห์ให้ชายหนุ่มลุ่มหลงจนเสียผู้เสียคนนับไม่ถ้วนเธอก็ถูกนักพรตเต๋ารูปงามนามว่า "จั๋วอวิ๋น" ตามไล่ล่า ตอนแรกที่พบกันจั๋วอวิ๋นยังไม่แสดงเจตนาว่าจะมาจับเลยถูกฮัวเยว่แทะโลม แต่เขาชิงถอยออกมาก่อนที่จะโดนจูบ จากนั้นก็ใช้บ่วงมนตร์พันธนาการฮัวเยว่ ฮัวเยว่ทำลายมนตร์ดังกล่าวได้ในบัดดลและคิดที่จะหนีไปแต่ถูกจั๋วอวิ๋นดึงหางไว้ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ครั้นจั๋วอวิ๋นเสียสมาธิฮัวเยว่ก็หัวเราะร่า (เขาจะใช้ฝ่ามือดูดพลังจิตวิญญาณฮัวเยว่ แต่ฮัวเยว่กลับแอ่นหน้าอกใส่) เธอถามว่าทำไมเขาไม่ไปจับปีศาจที่ทำร้ายมนุษย์แทนที่จะมาจับตน จั๋วอวิ๋นชี้ว่าฮัวเยว่ไม่ต่างปีศาจร้ายเพราะเธอชอบทำให้ชายหนุ่มลุ่มหลง พอเบื่อแล้วก็ทิ้งไปอย่างไม่ใยดีทำให้ผู้ชายหลายคนเสียผู้เสียคน บางรายถึงขั้นโกนหัวบวช บางรายทิ้งลูกทิ้งเมีย เสียทั้งชื่อเสียงและอนาคต ที่คิดสั้นฆ่าตัวตายไปเลยก็มี
ฮัวเยว่แย้งว่าตั้งแต่มาโลกมนุษย์เธอไม่เคยใช้มนตร์สะกดให้ผู้ชายลุ่มหลง ทุกคนเข้ามาหาเธอเองและยังบอกด้วยว่าจะแต่งงานกับเธอ ในเมื่อผู้ชายเป็นฝ่ายเจ้าชู้แล้วจะมาโทษเธอได้อย่างไร จั๋วอวิ๋นชี้ว่าฮัวเยว่เที่ยวหว่านเสน่ห์ไปทั่วโดยไม่สนว่าผู้ชายเหล่านั้นจะมีครอบครัวแล้วหรือไม่ การกระทำของเธอทำให้หลายคนต้องเจ็บช้ำน้ำใจแบบนี้ไม่เรียกว่าทำร้ายมนุษย์หรือ ฮัวเยว่แย้งว่าตบมือข้างเดียวจะดังได้อย่างไร ที่สำคัญในเมื่อผู้ชายทิ้งผู้หญิงได้ ตนก็ทิ้งผู้ชายได้เช่นกัน หากมีวาสนาต่อกันทุกคนก็มีความสุข แต่เมื่อใดที่หมดวาสนาก็ต้องแยกจากกันเป็นธรรมดา ใครเดินหน้าหรือใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้ก็เป็นปัญหาของเขาไม่เห็นจะเกี่ยวกับตน จั๋วอวิ๋นไม่พอใจที่ฮัวเยว่เห็นความรักเป็นเหมือนของเล่น เขาชี้ว่าโลกมนุษย์มีกฏเกณฑ์จึงไม่อาจรักๆ เลิกๆ ได้ตามใจชอบ ในเมื่อครองคู่กันแล้วก็ต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป ฮัวเยว่ได้ยินแล้วขำกลิ้ง เธอเดาว่าที่จั๋วอวิ๋นพูดเช่นนั้นคงเป็นเพราะเขาไม่เคยมีความรักจึงไม่เคยสัมผัสรสชาติแห่งความสุขและความหวานชื่นที่ผู้คนยอมแลกทุกสิ่งเพื่อให้ได้มันมา จั๋วอวิ๋นเห็นว่าฮัวเยว่ไม่สำนึกและเกินเยียวยาจึงคิดกำจัดเธอเสียเพื่อที่เธอจะได้ไม่เป็นภัยต่อมนุษย์
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ต่อสู้กันอีกครั้ง ฮัวเยว่ไม่อยากทำร้ายมนุษย์จึงพยายามหลีกหนีโดยใช้มนตร์บังกายแต่จั๋วอวิ๋นไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ จึงตามราวีไม่เลิก บังเอิญว่าในตอนนั้น "อาซิ่ว" กำลังเก็บดอกไม้อยู่ในบริเวณดังกล่าวพอดี เธอจึงเกือบโดนลูกหลง (จั๋วอวิ๋นใช้พลังฝ่ามือซัดหินก้อนยักษ์ใส่ฮัวเยว่ แต่ฮัวเยว่หลบทันหินเลยพุ่งเข้าหาอาซิ่ว) โชคดีที่ฮัวเยว่หันไปเห็นและช่วยอาซิ่วเอาไว้ได้ทันแต่นั่นก็ทำให้ฮัวเยว่ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า ครั้นเห็นว่าฮัวเยว่เป็นนางจิ้งจอกอาซิ่วก็รู้สึกตกใจ ถึงกระนั้นเธอก็ไม่หนีไปไหนทั้งยังถามถึงอาการบาดเจ็บของฮัวเยว่แบบกล้าๆ กลัวๆ ฮัวเยว่เตือนว่าป่าแห่งนี้ไม่ปลอดภัยและชวนอาซิ่วออกจากป่า อาซิ่วเห็นจั๋วอวิ๋นจึงคิดที่จะไปขอความช่วยเหลือ แต่ฮัวเยว่ห้ามเอาไว้โดยบอกว่าเขามาตามจับตนและเป็นคนไม่ดี อาซิ่วจึงออกไปรับหน้าจั๋วอวิ๋นและโกหกว่าไม่มีใครผ่านมาแถวนี้ หลังจากนั้นก็กลับไปหาฮัวเยว่เพื่อบอกว่าจั๋วอวิ๋นไปแล้ว หลังกล่าวขอบคุณอาซิ่ว ฮัวเยว่ก็หมดสติและกลายร่างเป็นจิ้งจอก อาซิ่วเห็นดังนั้นจึงวิ่งหนีเตลิดด้วยความตกใจ ครั้นเห็นนกอินทรีย์บินวนในป่าอาซิ่วจึงรู้ว่าฮัวเยว่กำลังมีภัย เธอเลยรีบกลับไปช่วยฮัวเยว่และแอบพาเข้าบ้านพร้อมทั้งช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้
อาซิ่วเป็นลูกสาวเถ้าแก่ร้านขายของชำนามว่า "เหยาซุ่น" ขณะช่วยพ่อเลือกพัดให้ลูกค้าเธอสังเกตว่าในร้านมีพัดมากผิดปกติ พอรู้ว่าบัณฑิตหนุ่ม "หลิวจื่อกู้" เพิ่งนำมาฝากขายเมื่อเช้าเธอก็รู้สึกดีใจที่เขากลับมาเสียที เธออยากนำพัดของจื่อกู้ไปให้ลูกค้าเลือกแต่พ่อของเธอไม่เห็นด้วยเพราะลวดลายไม่สมบูรณ์ อาซิ่วจึงขอนำพัดไปปรับแต่งลวดลายเพิ่ม พ่อของเธอยอมตกลงแต่จะหักเงินค่าตกแต่งจากจื่อกู้ ฮัวเยว่ซึ่งเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บออกมาเดินสำรวจบริเวณโดยรอบในร่างจิ้งจอกสามหาง ครั้น "อาจี๋" (คนงาน) เห็นเข้าก็ร้องลั่นด้วยความตกใจกลัวก่อนพากันวิ่งไล่จับจิ้งจอกตามคำสั่งของพ่ออาซิ่ว อาซิ่วจึงรีบตามไปดูด้วยความเป็นห่วงและพยายามปกป้องฮัวเยว่
ครั้นอยู่ในห้องตามลำพังอาซิ่วจึงต่อว่าและห้ามไม่ให้ฮัวเยว่ออกไปเดินเพ่นพ่านอีก ทั้งยังขอร้องด้วยว่าอย่าทำร้ายพ่อ เพราะความจริงแล้วพ่อตนเป็นคนปากร้ายใจดี ฮัวเยว่กล่าวว่าถึงตนเป็นจิ้งจอกแต่ก็รู้คุณคนตนจึงไม่มีวันทำร้ายคนในบ้านอาซิ่วแน่นอน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็แนะนำตัวและพูดคุยกันอย่างสนิทสนม ฮัวเยว่ขอพักรักษาตัวที่บ้านอาซิ่วจนกว่าจะหายจากอาการบาดเจ็บเพราะกลัวถูกจั๋วอวิ๋นซึ่งเป็นนักพรตเต๋ามือใหม่ไฟแรงตามราวีไม่เลิกอีก นั่นจึงทำให้ทั้งคู่รู้จักกันมากขึ้นและกลายเป็นเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน (ทั้งคู่ต่างอ้างว่าเป็นหนี้บุญคุณอีกฝ่าย)
ที่แท้อาซิ่วกับจื่อกู้แอบส่งข้อความนัดพบกันผ่านลวดลายบนพัด ครั้นเห็นว่าอาซิ่วออกไปฉลองเทศกาลโคมไฟ (เป็นวันที่หนุ่มสาวจะออกมาตามหาความรัก) โดยไม่ยอมให้ตนไปด้วย ฮัวเยว่จึงแอบออกไปเที่ยวเล่นบ้าง และนั่นก็ทำให้เธอได้พบจื่อกู้ขณะเล่นเกมทายปริศนาชิงโคมไฟ ทั้งคู่ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ แต่สุดท้ายจื่อกู้กลับช่วยให้ฮัวเยว่เป็นฝ่ายชนะในรอบตัดสิน ฮัวเยว่จึงได้รางวัลใหญ่เป็นโคมไฟดอกไม้ที่สวยงาม ส่วนจื่อกู้ได้ดอกกล้วยไม้เป็นรางวัล ฮัวเยว่หลงนึกว่าจื่อกู้สนใจเธอเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ จึงบอกว่าจะไปล่องเรือในทะเลสาบกับเขา (ก่อนเล่นเกมทายปริศนาเธอลั่นวาจากับหนุ่มๆ ที่เข้ามารุมจีบว่าหากใครนำโคมไฟดอกไม้มาให้เธอได้ เธอจะให้เขาช่วยถือโคมไฟขณะล่องเรือด้วยกัน) แต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อจื่อกู้ชี้ว่าที่ช่วยให้เธอชนะเป็นเพราะตนอยากได้ดอกกล้วยไม้มากกว่า ที่สำคัญตนมีนัดอยู่ก่อนแล้ว เมื่อจื่อกู้เดินจากไปฮัวเยว่ก็ได้แต่ยืนงงเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกผู้ชายปฏิเสธ
ที่แท้จื่อกู้ต้องการนำดอกกล้วยไม้มาให้อาซิ่ว (เธอชอบดอกกล้วยไม้) แถมเขายังพาเธอไปดูโคมไฟขนาดเล็กที่ประดับบนต้นไม้ซึ่งเขาลงมือทำเองทั้งหมดเพื่อเธอทั้งที่เพิ่งกลับจากการตระเวนเดินทางเมื่อวาน (จื่อกู้เป็นบัณฑิตที่รักอิสระ ไม่สนใจลาภยศเงินทองและตำแหน่ง ไม่มีอาชีพการงาน ด้วยความที่ชอบแสวงหาความรู้ใหม่ๆ เขาจึงมักร่อนเร่พเนจรไปทั่วเพื่อเปิดหูเปิดตา และฝันอยากมีชีวิตอิสระเช่นนี้ตลอดไป) ด้วยความที่บรรยากาศพาไปและไม่ได้พบกันนาน จื่อกู้เลยโน้มตัวเข้าไปหาหมายจูบอาซิ่ว แต่อาซิ่วรีบลุกหนีเพราะไม่อยากทำเรื่องผิดทำนองคลองธรรม
ครั้นเห็นอาซิ่วกำลังนั่งชื่นชมดอกกล้วยไม้ ฮัวเยว่ก็จำได้ว่านั่นคือดอกไม้ของจื่อกู้ แต่อาซิ่วกลับไม่ยอมรับว่าได้ดอกไม้มาจากชายหนุ่ม ฮัวเยว่เลยแกล้งแปลงกายเป็นจื่อกู้มาหลอกอาซิ่วโดยไม่รู้ว่าทั้งคู่ลักลอบคบหากัน อาซิ่วเห็นจื่อกู้ (ตัวปลอม) บุกมาหาตนถึงที่บ้านก็รู้สึกตกใจเลยรีบพาเขาเข้าไปคุยในห้อง ปรากฏว่าอาจี๋ผ่านมาเห็นเข้าจึงรีบไปฟ้องพ่ออาซิ่ว ครั้นจื่อกู้ตัวปลอมทำท่าว่าจะจูบ อาซิ่วก็ชิงลุกหนีอีกตามเคย เธอรู้สึกตกใจเมื่ออยู่ๆ สุภาพบุรุษอย่างจื่อกู้ฉวยโอกาสเข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลัง เธอพยายามดิ้นหนีพลางขอร้องให้ปล่อยตัวเธอเพราะกลัวว่าจะมีคนมาเห็น เมื่อพ่ออาซิ่วบุกมาในห้องพร้อมอาจี๋กลับพบว่าอาซิ่วอยู่ในห้องตามลำพัง อาจี๋ซึ่งไม่เคยโกหกยืนยันว่าตนเห็นอาซิ่วพาจื่อกู้เข้าห้องจริงๆ ขณะที่อาซิ่วยืนยันว่าเธอไม่ได้พาใครเข้ามาในห้อง
แม้ไม่เจอจื่อกู้แต่พ่ออาซิ่วรู้ว่าทั้งคู่แอบคบกัน เขาจึงยืนกรานว่าจะไม่มีวันยอมให้อาซิ่วกับจื่อกู้ครองคู่กัน โดยให้เหตุผลว่าจื่อกู้เป็นบัณฑิตที่ไม่สนใจศึกษาเล่าเรียนอย่างจริงจัง ไร้ซึ่งความมุ่งมั่นทะเยอทะยาน วันๆ เอาแต่วาดรูปและดีดพิณ ทำมาหากินไม่เป็น คนหลักลอยเช่นนี้ไม่มีวันก้าวหน้า เขาอยากให้อาซิ่วครองคู่กับคนที่ขยันทำมาหากิน คิดลงหลักปักฐานสร้างครอบครัว ไม่กลัวลำบาก ช่วยเหลือพึงพาตัวเองได้ ไม่ใช่โตจนป่านนี้ยังแบมือขอเงินพ่อแม่แบบจื่อกู้ ในเมื่อตัวเองยังรับผิดชอบไม่ได้แล้วจะรับผิดชอบชีวิตคนอื่นได้อย่างไร ถ้าได้อยู่ด้วยกันเมื่อไหร่จะรู้ว่าประสบการณ์หรือความรู้ที่จื่อกู้ได้รับจากการเห็นโลกมากกว่าคนอื่นนำมาเลี้ยงปากท้องไม่ได้ ครั้นถูกลูกสาวตำหนิว่าใจแคบ เหยาซุ่นก็ทั้งโกรธและเสียใจที่อาซิ่วเห็นผู้ชายดีกว่าตน เขาชี้ว่าที่ผ่านมาตนเป็นทั้งพ่อทั้งแม่และทำทุกอย่างเพื่ออาซิ่ว ที่ตนพูดเช่นนั้นเพราะอยากให้อาซิ่วตาสว่าง อาซิ่วเป็นลูกสาวคนเดียวของตนแล้วตนจะคิดร้ายกับอาซิ่วได้อย่างไร เมื่อพ่ออาซิ่วออกไปแล้วฮัวเยว่ในร่างจื่อกู้ก็มุดออกมาจากที่ซ่อน
หลังรู้ว่าความรักของอาซิ่วมีอุปสรรคและถูกพ่อคัดค้านหนัก ฮัวเยว่อยากช่วยให้อาซิ่วกับจื่อกู้สมหวังเลยใช้บ้านกลางป่าของตนเป็นสถานที่นัดพบสำหรับทั้งคู่ และนั่นก็ทำให้จื่อกู้ได้พบฮัวเยว่อีกครั้ง เขาขอบคุณเธอที่ช่วยให้พวกตนได้พบกัน ฮัวเยว่กล่าวว่าตนอยากเห็นคู่รักมีความสุขสมหวัง จากนั้นก็เปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง (แต่ไม่วายแอบบ่นเรื่องที่อาซิ่วรักนวลสงวนตัวจนความรักไม่หวานชื่น แค่แตะเนื้อต้องตัวนิดหน่อยก็ไม่ได้)
พ่ออาซิ่วเห็นพัดที่จื่อกู้นำมาฝากขายแล้วรู้สึกรกหูรกตาเลยบอกให้อาจี๋นำไปโยนไว้ในห้องเก็บของ พอรู้ว่าพัดเล่มไหนถูกอาซิ่วแต่งแต้มลวดลายเพิ่มจะมีคนมาขอซื้อทันที ทั้งๆ ที่พัดเล่มอื่น (ของจื่อกู้) ล้วนขายไม่ออก พ่ออาซิ่วเลยจับได้ว่าอาซิ่วแอบติดต่อสื่อสารกับจื่อกู้ผ่านลวดลายบนพัด นับจากนั้นอาซิ่วก็ถูกอาจี๋ตามติดทุกฝีเก้า อาซิ่วรู้ว่าพ่อหวังดีแต่เธอขาดจื่อกู้ไม่ได้ และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้พ่อยอมรับจื่อกู้ หลังขาดการติดต่อหลายวัน ในที่สุดจื่อกู้ก็หมดความอดทนเลยบุกมาหาอาซิ่วที่บ้าน พ่ออาซิ่วจึงขังอาซิ่วไว้ในห้อง จากนั้นก็ห้ามจื่อกู้ติดต่อกับลูกสาวตนอีกและไล่จื่อกู้ออกจากบ้านไป จื่อกู้จึงใช้ว่าวติดต่อและนัดหมายอาซิ่วแทน
ฮัวเยว่แปลงกายเป็นอาซิ่วเพื่อเปิดทางให้อาซิ่วกับจื่อกู้ได้พบกันที่บ้านกลางป่าของตน หลังรู้ว่าอาซิ่วจะโดนจับแต่งงานแบบฟ้าผ่ากับ "คุณชายเกา" ลูกเจ้าของโรงเตี๊ยมเจียชิ่ง ฮัวเยว่จึงรีบไปเตือนอาซิ่วด้วยความเป็นห่วง ตอนแรกจื่อกู้คิดที่จะพาอาซิ่วหนีไปอยู่ด้วยกันแต่อาซิ่วปฏิเสธเพราะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควร ครั้นอาซิ่วขอร้องให้ช่วย ฮัวเยว่เลยไปที่โรงเตี๊ยมเจียชิ่งเพื่อหว่านเสน่ห์ใส่คุณชายเกาแต่ดันถูกจั๋วอวิ๋นขัดจังหวะกลางคัน พอรู้ว่าฮัวเยว่ไม่ได้มีเจตนาล่อลวงมนุษย์แต่ทำเพื่อช่วยอาซิ่ว เขาเลยจำต้องร่วมมือกับเธอแบบตกกระไดพลอยโจน (ครั้นพิสูจน์จนรู้ว่าฮัวเยว่ไม่เคยเข่นฆ่ามนุษย์ จั๋วอวิ๋นเลยหยุดไล่ล่าแต่ยังเฝ้าจับตาดูเธอ) หลังตกหลุมรักฮัวเยว่ คุณชายเกาจึงส่งแม่สื่อไปที่บ้านอาซิ่วเพื่อปฏิเสธการแต่งงานทำให้อาซิ่วดีใจมาก จั๋วอวิ๋นไม่ปลื้มที่ฮัวเยว่ล้อเล่นกับความรู้สึกของคุณชายเกา แต่ฮัวเยว่มองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่จึงไม่สนใจคำเตือน
จื่อกู้ได้รับแจ้งจากทางบ้านว่ามารดาป่วยหนัก เขาจึงบอกอาซิ่วว่าไปแล้วจะรีบกลับมา ทั้งยังสัญญาว่าจะรักมั่นและจะแต่งงานกับอาซิ่ว อาซิ่วรับปากว่าจะรอแต่อดกลัวไม่ได้ว่าขืนรอช้าพ่ออาจจับตนแต่งงานกับคนอื่นเสียก่อน จื่อกู้จึงไปพบพ่ออาซิ่วก่อนออกเดินทางเพื่อบอกว่าตนจริงใจและจริงจังกับอาซิ่ว แต่พ่ออาซิ่วยืนกรานว่าชาตินี้ตนไม่มีวันยกลูกสาวให้บัณฑิตไส้แห้งและไม่เป็นโล้เป็นพายอย่างจื่อกู้ หลังจื่อกู้เดินทางกลับบ้านเกิด พ่ออาซิ่วก็ขายร้านหมายพาอาซิ่วย้ายกลับบ้านเกิดโดยบอกว่าตนหาคู่เอาไว้ให้อาซิ่วแล้ว อาซิ่วรู้สึกสิ้นหวังทั้งยังอยากให้จื่อกู้ตัดใจจากเธอเพื่อจะได้มีรักใหม่ จึงขอให้ฮัวเยว่ช่วยบอกจื่อกู้ว่าเธอจากโลกนี้ไปแล้ว และมอบถุงใส่เครื่องหอมที่ทำเองกับมือให้ฮัวเยว่เป็นที่ระลึกก่อนจากลา
เมื่อจื่อกู้กลับจากเยี่ยมแม่ที่บ้านเกิดแล้วพบว่าอาซิ่วย้ายไปอยู่ต่างเมืองก็รู้สึกตกใจ ฮัวเยว่โกหกจื่อกู้ว่าอาซิ่วตรอมใจตาย จื่อกู้จึงกระโดดน้ำฆ่าตัวตายตามแต่ฮัวเยว่มาช่วยเอาไว้ได้ทัน ฮัวเยว่ไม่อยากให้จื่อกู้คิดสั้นอีกจึงแปลงกายเป็นอาซิ่วเพื่อยื้อเวลาระหว่างรอให้อาซิ่วตัวจริงกลับมาโดยไม่ฟังคำคัดค้านของจั๋วอวิ๋น (ซึ่งตกหลุมรักฮัวเยว่โดยไม่รู้ตัว) แต่แล้วฮัวเยว่กลับได้ยินข่าวว่าอาซิ่วเสียชีวิตในกองเพลิงทำให้เสียใจมาก จื่อกู้เห็นอาซิ่ว (ตัวปลอม) อารมณ์ไม่ดีจึงเสี่ยงชีวิตปีนหน้าผาเพื่อเก็บดอกไม้มางอนง้อเธอ ฮัวเยว่เห็นดังนั้นก็ยิ่งรู้สึกประทับใจในตัวจื่อกู้จึงสวมรอยเป็นอาซิ่วต่อไป ทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในฐานะคู่รักได้ไม่นานอาซิ่วตัวจริงก็กลับมาแบบไม่คาดฝัน (หลังพ่อถูกโจรฆ่า) และนั่นก็ทำให้จื่อกู้สงสัยในพฤติกรรมและท่าทีที่เปลี่ยนไปของอาซิ่ว (อาซิ่วตัวจริงเป็นกุลสตรีที่รักนวลสงวนตัว รักศักดิ์ศรี ยึดมั่นในขนบธรรมเนียม และกลัวหนู แต่ฮัวเยว่เป็นคนสดใสร่าเริง รักสนุก ทำทุกอย่างตามใจปรารถนา ไม่ยึดติดกฏเกณฑ์ ชอบไล่จับหนู จึงตรงข้ามกับอาซิ่วแทบทุกอย่าง)
อาซิ่วรู้สึกผิดหวังเมื่อเห็นตำตาว่าฮัวเยว่แอบสวมรอยเป็นตนแล้วไปพลอดรักกับจื่อกู้ เธอเชื่อว่าที่ผ่านมาฮัวเยว่ต้องการแย่งจื่อกู้เลยหลอกลวงตนมาโดยตลอด ฮัวเยว่ปฏิเสธว่าตนไม่ได้หลอกแต่ยอมรับตามตรงว่าหลงรักจื่อกู้ หลังบาดหมางใจกันอาซิ่วก็พาจื่อกู้แยกตัวออกไปอยู่ด้วยกันตามลำพัง (ก่อนหน้านี้ทั้งคู่พักอยู่ที่บ้านกลางป่าของฮัวเยว่) ฮัวเยว่ขอให้จื่อกู้แวะมาชมดอกไม้กับตนตามลำพังบ่อยๆ จื่อกู้รู้ว่าฮัวเยว่มีใจให้ตนจึงบอกว่าในใจตนมีแต่อาซิ่ว หลังอาซิ่วกับจื่อกู้จากไปแล้วฮัวเยว่ถึงเข้าใจหัวอกของคนที่ผิดหวังในความรัก ทั้งยังคิดว่าเป็นกรรมสนองเพราะเมื่อก่อนเธอชอบปั่นหัวผู้ชายเล่น (หนึ่งในนั้นคือปีศาจภูเขา ซึ่งเดิมคือ "จ้าวอิงเผิง") ครั้นเห็นจื่อกู้กลับมาเก็บดอกไม้ในป่าฮัวเยว่ก็รีบเข้าไปทักทายด้วยความดีใจแต่จื่อกู้กลับพูดจาตัดรอน ฮัวเยว่เลยแปลงกายเป็นอาซิ่วและใช้เวลาอย่างมีความสุขด้วยกัน ครั้นเห็นหนูตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บเธอจึงเข้าไปดูและโดนหนูกัดที่มือ จื่อกู้ช่วยพันแผลให้และชวนเธอกลับบ้านเพราะเขามีนัดตอนเย็น ฮัวเยว่อ้างว่าตนอยากอยู่เก็บดอกไม้ต่อแต่จื่อกู้ไม่อยากทิ้งอาซิ่ว (ตัวปลอม) ไว้ในป่าคนเดียว โชคดีที่จั๋วอวิ๋นมาช่วยแก้สถานการณ์โดยบอกว่าตนจะอยู่เป็นเพื่อนและช่วยดูแลอาซิ่ว (ตัวปลอม) ให้เอง
จั๋วอวิ๋นอยากให้ฮัวเยว่ตัดใจจึงพาเธอไปแอบดูให้เห็นกับตาว่าจื่อกู้รักอาซิ่วตัวจริงมากแค่ไหน แต่นั่นกลับทำให้ฮัวเยว่สงสัยในตัวจื่อกู้ เพราะเขาไม่เอ่ยถึงเรื่องที่เดินชมดอกไม้ด้วยกันก่อนหน้านี้ ซ้ำยังไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิดเมื่ออาซิ่วถามหาดอกไม้ ทั้งที่อาซิ่วตัวปลอมเป็นคนเข้าไปเก็บดอกไม้ในป่า ที่สำคัญเขาไม่พูดเรื่องหนูกัด แถมยังคงนิ่งเฉยเมื่อเห็นว่ามือของอาซิ่วตัวจริงไม่มีรอยแผลใดๆ ราวกับรู้อยู่แล้วว่ามีอาซิ่วสองคน ฮัวเยว่กับอาซิ่วจึงรวมหัวกันพิสูจน์ความจริง ครั้นถูกจับได้คาหนังคาเขาจื่อกู้ก็ยอมรับแต่โดยดี เขารู้ว่าฮัวเยว่เป็นนางจิ้งจอกที่สวมรอยเป็นอาซิ่วเพราะเคยจับถูกหางเธอโดยบังเอิญก่อนหน้านี้ แต่เขาตัดใจเลือกคนใดคนหนึ่งไม่ได้เพราะไม่อยากเสียทั้งคู่ไป อาซิ่วกับฮัวเยว่ได้ยินดังนั้นจึงต่างพากันเสียใจ จั๋วอวิ๋นโกรธแทนสองสาวเลยใช้กำลังสั่งสอนจื่อกู้ก่อนบีบให้เขาเลือกคบคนใดคนหนึ่ง จื่อกู้รู้สึกผิดจึงยอมให้จั๋วอวิ๋นทำร้ายจนสะบักสะบอม แต่ยังคงยืนยันว่าไม่อาจตัดใจจากทั้งคู่
ฮัวเยว่ไปดื่มเหล้าดับทุกข์ที่โรงเตี๊ยมของคุณชายเกาจนเมาปลิ้น ก่อนเดินถือขวดเหล้ากลับเข้าไปในป่า คุณชายเกาเป็นห่วงเลยตามมาขอให้เธอเลิกดื่ม ฮัวเยว่เมาหนักจึงตัดพ้อเรื่องความรักเพราะนึกว่าคุณชายเกาเป็นจื่อกู้ คุณชายเกาเลยรู้ว่าแท้จริงแล้วฮัวเยว่ไม่เคยรักตนเลย หลังดื่มเหล้าจนเมามายฮัวเยว่ก็นอนหลับใหลไม่ได้สติกลางป่า ปีศาจภูเขา (ซึ่งถูกจั๋วอวิ๋นจับขังในขวดน้ำเต้าแต่แอบหนีออกมา) จึงแอบนำเลือดมนุษย์มาหยดใส่มือฮัวเยว่หมายใส่ร้ายเธอ คืนเดียวกันนั้นอาซิ่วทำกับข้าวแล้วนั่งรอจื่อกู้กลับมาทานตามปกติ แต่รอแล้วรอเล่าจื่อกู้ก็ไม่กลับมา
ครั้นมาที่โรงเตี๊ยมแล้วพบว่าคุณชายเกาโดนฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม แถมเสี่ยวเอ้อร์ยังบอกทุกคนว่าก่อนตายคุณชายเกาวิ่งตามฮัวเยว่ออกจากโรงเตี๊ยมไป จั๋วอวิ๋นจึงเข้าใจผิดคิดว่าฮัวเยว่ฆ่าคุณชายเกา อาซิ่วมาที่บ้านฮัวเยว่เพราะนึกว่าจื่อกู้มานอนค้างที่นี่แต่แล้วกลับพบว่าจื่อกู้หายตัวไป สองสาวจึงใช้โอกาสนี้พูดเปิดอกและปรับความเข้าใจกัน ด้วยความที่ต่างฝ่ายต่างไม่อาจตัดใจจากจื่อกู้จึงทำได้เพียงรอให้เขาเป็นฝ่ายเลือก ทั้งคู่ตกลงกันว่าพวกตนจะรักใคร่ดุจพี่น้องดังเดิมและจะอวยพรให้กันไม่ว่าสุดท้ายแล้วจื่อกู้จะเลือกใครก็ตาม หลังส่งอาซิ่วออกจากป่าฮัวเยว่ก็ถูกปีศาจภูเขาบุกมาทำร้ายหมายเอาคืนเรื่องที่ถูกเธอหักอก แถมเธอยังรวมหัวกับจั๋วอวิ๋นปราบตน อาซิ่วเห็นดังนั้นจึงวิ่งกลับมาช่วยฮัวเยว่เลยโดนปีศาจทำร้ายจนสลบ
หลังต่อสู้กับฮัวเยว่ได้ไม่นานปีศาจภูเขาก็รีบเผ่นก่อนที่จั๋วอวิ๋นจะปรากฏกาย จั๋วอวิ๋นเห็นฮัวเยว่จึงตรงเข้าปราบเธอโดยไม่คิดสืบสาวราวเรื่อง ครั้นเห็นอาซิ่วนอนหมดสติเขาก็นึกว่าเธอถูกฮัวเยว่ทำร้ายด้วยเช่นกัน ฮัวเยว่พยายามอธิบายแต่จั๋วอวิ๋นเชื่อในสิ่งที่ตนได้ยินได้เห็นมากกว่า (เขาใช้เวทมนตร์ทดสอบแล้วพบว่าฮัวเยว่มือเปื้อนเลือดมนุษย์) ทั้งยังไม่เชื่อว่าปีศาจภูเขาหนีออกมาจริงๆ ตามที่ฮัวเยว่กล่าวอ้าง เขาเลยจำต้องกำจัดฮัวเยว่ทั้งที่มีใจให้เธอ อาซิ่วเห็นดังนั้นจึงวิ่งเข้ามาขวางทำให้วิญญาณแตกเป็นสามส่วนก่อนหลุดลอยออกจากร่าง เมื่อจื่อกู้กลับมาที่บ้านแล้วเห็นอาซิ่วนอนนิ่งไม่ไหวติงก็รู้สึกโกรธ เขาจึงสั่งให้จั๋วอวิ๋นกับฮัวเยว่หาทางช่วยอาซิ่วให้ได้
จั๋วอวิ๋น ฮัวเยว่ และจื่อกู้ ช่วยกันออกตามหาวิญญาณของอาซิ่ว แต่หาพบและนำกลับมาได้เพียงสองส่วนจึงรีบนำกลับคืนร่างอาซิ่วก่อน ฮัวเยว่คาดว่าวิญญาณส่วนที่สามน่าจะอยู่ในมือปีศาจภูเขาจึงไปทวงคืนพร้อมจั๋วอวิ๋น ปีศาจภูเขาเสนอให้ฮัวเยว่มาติดตามรับใช้ตนแทนวิญญาณอาซิ่ว แต่จั๋วอวิ๋นไม่ยอมและไม่อาจรอช้า เพราะหากวิญญาณออกจากร่างนานจะอ่อนแอและอาจทำให้อาซิ่วไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย เขาจึงลงมือกับปีศาจภูเขาทันที แต่นั่นก็ทำให้วิญญาณอาซิ่วลอยหายไป ครั้นตามหาจนพบและนำคืนสู่ร่าง อาซิ่วกลับยังคงนอนนิ่งเพราะวิญญาณส่วนสุดท้ายออกจากร่างนานเกินไป
หลังรู้ว่าทางเดียวที่จะช่วยอาซิ่วได้คือการถ่ายทอดพลังปราณ (เน่ยตาน) ที่สั่งสมมานานหนึ่งร้อยปีให้อาซิ่ว ฮัวเยว่จึงตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะช่วยชีวิตอาซิ่วเพื่อที่อาซิ่วกับจื่อกู้จะได้ครองรักกัน จั๋วอวิ๋นไม่เห็นด้วยกับการที่ฮัวเยว่คิดเสียสละตนเองเพื่อคนอื่น เพราะนี่ไม่ใช่การช่วยคนแต่เป็นการใช้ชีวิตแลกชีวิต ทั้งยังเตือนว่าแม้อาซิ่วจะเป็นเพื่อนรักของเธอแต่อาซิ่วรักกับจื่อกู้ หากอาซิ่วฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่เธอจะเสียจื่อกู้ไป
ฮัวเยว่ลากจื่อกู้เข้าไปในป่าและชวนวิ่งไล่จับหนูเหมือนที่เคยทำตอนสวมรอยเป็นอาซิ่ว (แต่คราวนี้ไม่แปลงกาย) จื่อกู้นึกถึงใบหน้าและท่าทางของอาซิ่ว (ตัวปลอม) ก่อนยอมเล่นเป็นเพื่อนฮัวเยว่ แต่พอเล่นจนฮัวเยว่หนำใจเขาก็กลับมามีท่าทีเฉยชาและขอตัวไปดูแลอาซิ่ว ฮัวเยว่จึงทวงสิ่งที่เขาเคยทำกับเธอ (ตอนสวมรอยเป็นอาซิ่ว) โดยขอให้เขาทำในฐานะที่เธอเป็นฮัวเยว่ไม่ใช่อาซิ่วตัวปลอม และขอให้มีเพียงเธอในใจ ครั้นจื่อกู้แสร้งทำเมินฮัวเยว่จึงบรรจงจูบเขา ในที่สุดจื่อกู้ก็ห้ามใจไม่อยู่จึงกอดและจูบฮัวเยว่เป็นครั้งแรก (เขาเพิ่งค้นพบว่าตนเองรักอาซิ่วตัวปลอม) หลังลืมตาตื่นกลางป่าตามลำพังจื่อกู้ก็เดินกลับบ้านเหมือนร่างไร้วิญญาณ แต่แล้วก็ถึงกับช็อคเมื่อเห็นอาซิ่วยืนอยู่ตรงหน้า
ฮัวเยว่เห็นจื่อกู้กับอาซิ่วโผเข้ากอดกันก็ถึงกับน้ำตาร่วง เธอดีใจกับทั้งคู่แต่ไม่วายรู้สึกเจ็บปวดใจ จั๋วอวิ๋นไม่เข้าใจว่าทำไมฮัวเยว่จึงยอมเสียสละได้มากขนาดนี้ เพราะถ้าหากอาซิ่วไม่ฟื้นเธอกับจื่อกู้จะได้ครองคู่กัน ฮัวเยว่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของพรหมลิขิต ทุกสิ่งได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว พวกตนก็แค่ใช้ชีวิตไปตามครรลอง ที่เธอได้พบจื่อกู้กับอาซิ่วเป็นเพราะสวรรค์อยากเธอได้รับบทเรียน เธอจะได้สำนึกถึงการกระทำที่เห็นแก่ตัวในอดีต (โหยหาความรักจากมนุษย์ จึงชอบหว่านเสน่ห์ให้คนหลงรักแล้วปั่นหัวผู้ชายเล่น) และได้รู้ซึ้งว่าอะไรคือรักแท้ เธอยอมรับว่าการเสียสละในครั้งนี้เป็นเรื่องที่แสนเจ็บปวด แต่ความเจ็บปวดนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างไร้ค่า เธอจึงไม่เสียดายแต่กลับรู้สึกซาบซึ้งใจมากกว่า
จั๋วอวิ๋นได้ยินแล้วน้ำตาคลอ เขาเห็นด้วยและเปรยว่า "หากไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดใจ เท่ากับใช้ชีวิตอย่างสูญเปล่าจริงๆ" (เขาเองก็กำลังรู้สึกเจ็บปวดใจเช่นกัน) ครั้นฮัวเยว่เอ่ยคำอำลาจั๋วอวิ๋นก็ถึงกับน้ำตาร่วง (เขาเลือกที่จะเก็บงำความรู้สึกเอาไว้โดยไม่บอกให้เธอรู้) เขาถามฮัวเยว่ว่าพวกตนจะได้พบกันอีกไหม ฮัวเยว่กล่าวว่าแล้วแต่ฟ้าลิขิตและเดินจากไป จั๋วอวิ๋นใจหายวาบ ฮัวเยว่นึกขึ้นได้เลยหันกลับมาบอกให้จั๋วอวิ๋นรีบหาคนที่จะทำให้เขารู้ซึ้งถึงรักแท้และอวยพรให้เขามีความสุข จั๋วอวิ๋นได้แต่มองฮัวเยว่เดินจากไป ก่อนเปรยว่า "ข้าพบนางแล้ว"
สุดท้ายแล้วอาซิ่วกับจื่อกู้กลับไม่ได้ครองคู่กัน (อาซิ่วแต่งงานกับผู้ชายแบบที่พ่ออยากให้เธอแต่งด้วย ทั้งคู่เปิดร้านขายของชำ โดยสามีรักและดูแลเธอเป็นอย่างดี) ส่วนฮัวเยว่แม้ยังคงมีชีวิตแต่กลายสภาพเป็นหญิงชราผมขาว ถึงกระนั้นจั๋วอวิ๋นยังคงแวะเวียนมาเฝ้าดูเธอในป่า และในวันที่ฮัวเยว่เดินทางกลับเขาชิงชิว จั๋วอวิ๋นได้เข้ามาในป่าเพื่ออำลาเธอ ต่างฝ่ายต่างมองหน้าและยิ้มให้กัน เมื่อฮัวเยว่หันหลังเดินจากไปโดยมีนกตัวหนึ่งบินไม่ห่าง จั๋วอวิ๋นก็เปรยว่า "อย่าห่วงเลย มันจะปกป้องเจ้าตลอดไป" (เพื่อช่วยชีวิตฮัวเยว่ จื่อกู้ได้กลายร่างเป็นนกที่โบยบินสู่ท้องฟ้า คอยเฝ้าผืนป่าและปกป้องฮัวเยว่)
* เนื้อหาโดย luvasianseries (ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่)
รายชื่อนักแสดง
เรื่อง "อาซิ่ว"
เฉินเหยา
รับบท ฮัวเยว่ (จิ้งจอกแดงสามหาง)
(นักแสดง ชาวจีน)
จางรั่วอวิ๋น
รับบท หลิวจื่อกู้
(นักแสดง ชาวจีน - แฟน "ถังอี้ซิน")
เฉียวซิน
รับบท อาซิ่ว
(นักแสดง ชาวจีน)
ไจ๋เทียนหลิน
รับบท เมิ่งอันเหริน
(นักแสดง ชาวจีน)
เฉินถิงเจีย
รับบท ฟ่านเชี่ยนหรู (จิ้งจอกทองหกหาง)
(นักแสดง ชาวจีน)
หวังฉ่วง
รับบท เมิ่งอันเต๋อ
(นักแสดง ชาวจีน)
หยางไฉ่ฉี
รับบท อิงหนิง (จิ้งจอกเขียว)
(นักเต้นรำ / นักแสดง ชาวจีน)
ฟู่ซินป๋อ
รับบท ฮัวเยว่ (จิ้งจอกแดงสามหาง)
(นักแสดง ชาวจีน)
จางรั่วอวิ๋น
รับบท หลิวจื่อกู้
(นักแสดง ชาวจีน - แฟน "ถังอี้ซิน")
เฉียวซิน
รับบท อาซิ่ว
(นักแสดง ชาวจีน)
เหยาอี้เฉิน
รับบท จั๋วอวิ๋น
เรื่อง "เฟิงซานเหนียง"
เจียงข่ายถง
รับบท เฟยเยว่ (จิ้งจอกม่วงสี่หาง) / เฟิงซานเหนียง
(นักแสดง ชาวจีน)
ไจ๋เทียนหลิน
รับบท เมิ่งอันเหริน
(นักแสดง ชาวจีน)
เฉินถิงเจีย
รับบท ฟ่านเชี่ยนหรู (จิ้งจอกทองหกหาง)
(นักแสดง ชาวจีน)
หวังฉ่วง
รับบท เมิ่งอันเต๋อ
(นักแสดง ชาวจีน)
เรื่อง "อิงหนิง"
หยางไฉ่ฉี
รับบท อิงหนิง (จิ้งจอกเขียว)
(นักเต้นรำ / นักแสดง ชาวจีน)
ฟู่ซินป๋อ
รับบท หวังจื่อฝู
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
หวังเหยียนซู
รับบท น้าหลาน
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)
หลี่ฉินฉิน
รับบท แม่หวังจื่อฝู
(นักแสดง ชาวจีน)
พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล (ไมค์)
รับบท หูซื่อ (จิ้งจอกหิมะพันปีสีเงินห้าหาง - ขอสาวแต่งงานไม่สำเร็จถึง 76 ครั้ง)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวไทย)
ถังอี้ซิน
รับบท จงฉิง
(นักแสดง ชาวจีน - แฟน "จางรั่วอวิ๋น")
เฉินรั่วเซวียน
รับบท จางเซิง
(นักแสดง ชาวจีน)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
หวังเหยียนซู
รับบท น้าหลาน
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)
หลี่ฉินฉิน
รับบท แม่หวังจื่อฝู
(นักแสดง ชาวจีน)
เรื่อง "หูซื่อ"
พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล (ไมค์)
รับบท หูซื่อ (จิ้งจอกหิมะพันปีสีเงินห้าหาง - ขอสาวแต่งงานไม่สำเร็จถึง 76 ครั้ง)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวไทย)
ถังอี้ซิน
รับบท จงฉิง
(นักแสดง ชาวจีน - แฟน "จางรั่วอวิ๋น")
เฉินรั่วเซวียน
รับบท จางเซิง
(นักแสดง ชาวจีน)
เรื่อง "ฉางถิง"
จินเฉิน
รับบท เวิงฉางถิง (จิ้งจอกขาวหกหาง)
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)
หวังข่าย
รับบท สือไท่ผู / สือเซิง
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
หลี่อวี้
รับบท ฮุยเอ่อร์ (จิ้งจอกสามหาง) / เวิงเอ้อร์ซู
(นักแสดง / ผู้กำกับ ชาวจีน)
เรื่อง "เหิงเหนียง"
เจี่ยงจิ้นฟู
รับบท หลิ่วฉางเหยียน (จิ้งจอกหกหาง)
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)
กู่ลี่น่าจา
รับบท เถาเหิง / เหิงเหนียง (จิ้งจอกพันปีเก้าหาง)
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)
หลิวหย่าเซ่อ
รับบท ซูสี่
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
รับบท เถาเหิง / เหิงเหนียง (จิ้งจอกพันปีเก้าหาง)
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)
หลิวหย่าเซ่อ
รับบท ซูสี่
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา