วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

เรื่องย่อ หัวใจไม่จำกัดร่าง (The Beauty Inside)




กำกับ: ซง ฮยอนอุก, นัม กีฮุน
เขียนบท: อิม เมอารี
แนวละคร: แฟนตาซี, เมโลดราม่า, โรแมนติก
จำนวนตอน: 16
ออกอากาศ: เกาหลี - 1 ตุลาคม 2561 - 20 พฤศจิกายน 2561 ทางเจทีบีซี
                       ไทย - ทุกวันพุธ - พฤหัสบดี เวลา 21.35- 22.30 น. ทางพีพีทีวี ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2562 - 9 กันยายน 2562




เรื่องย่อ



ละคร "หัวใจไม่จำกัดร่าง" (The Beauty Inside) ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง "The Beauty Inside" (2015) เนื้อหากล่าวถึงเรื่องราวของนักแสดงสาวระดับแถวหน้า "ฮัน เซ-กเย" ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นตัวแสบแห่งวงการบันเทิง ซ้ำยังมีข่าวลือในทางลบเกี่ยวกับเธอมากมาย สำหรับคนอื่นแล้วชีวิตเธอแลดูลึกลับและเป็นปริศนา แต่ทว่าความจริงแล้วเธอต้องทนทุกข์กับปรากฏการณ์ที่ทั้งแปลกประหลาดและเหลือเชื่อแต่ก็เกิดขึ้นแล้วกับตัวเธอ ในช่วงเวลาเดียวกันของทุกเดือนเธอจะกลายร่างเป็นคนละคนราวหนึ่งสัปดาห์ ส่งผลให้ในแต่ละเดือนเธอจะกลายเป็นคนใหม่ โดยอาจเป็นได้ทั้ง ผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก คนแก่ หนุ่มสาว หรือแม้กระทั่งชาวต่างชาติ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเธอจะหายตัวไปจากกองถ่ายและวงการบันเทิงทำให้ถูกมองว่าชอบทิ้งงาน แต่ทว่าการกลายร่างก็เปิดโอกาสให้เธอได้ทำในสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ตอนเป็นฮัน เซ-กเย

อาการประหลาดของเซ-กเยเริ่มต้นขึ้นขณะที่เธออายุ 20 ปี ในตอนนั้นเธอไปเที่ยวยุโรปกับผู้จัดการส่วนตัวและเพื่อนสมัยมัธยม "ยู อูมี" แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ตื่นมาในร่างหญิงชรา เธอจึงร้องไห้พลางวิ่งเตลิดไปตามถนนโดยหวังว่าจะตื่นจากฝันร้ายและเกือบถูกรถชน โชคดีที่มีชายหนุ่มคนหนึ่งช่วยผลักเธอออกให้พ้นทาง แต่เขากลับเป็นฝ่ายถูกรถชนเสียเอง วันแรกที่ชีวิตเธอเหมือนตกอยู่ในขุมนรก ภาพสุดท้ายที่เธอจำได้เลือนลาง (ก่อนหมดสติ) คือ ชายคนดังกล่าวนอนแน่นิ่งบนถนน เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาชุ่มไปด้วยเลือด  ไม่แน่ว่าทุกวันนี้เธออาจยังคงชดใช้กรรมที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น




หลังทำให้คนทั้งประเทศตกตะลึงด้วยการหนีลงเวทีกลางคันทั้งที่กำลังขึ้นรับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยม (เพราะกำลังจะกลายร่าง) เซ-กเยยังคงตกเป็นข่าวฉาวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดถึงกับลือกันว่าเธอแอบซุกลูก แถมสื่อบันเทิงยังนำคลิปเด็กกำลังเล่นกับสุนัขที่บ้านของเธอออกมาแฉ (ความจริงแล้วเด็กคนนั้นคือเซ-กเยตอนกลายร่างเมื่อสองเดือนก่อน) เธอจึงเสียโฆษณาถึง 13 ตัวรวดในวันเดียว และได้รับการติดต่อให้เป็นนางแบบโฆษณาผ้าอ้อมเด็กกับนมผงแทน

ข่าวฉาวของเธอยังส่งผลกระทบถึงภาพลักษณ์ของสายการบิน "ทีโร้ด" (t'way) ที่จ้างเธอเป็นนางแบบแคมเปญ ทั้งยังสั่นคลอนตำแหน่งของ " โดแจ" (ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์สายการบินทีโร้ด และทายาทรุ่นที่สามขงซนโกรุ๊ป)  ซึ่งเป็นคนเลือกเซ-กเยมาร่วมงาน เพราะเมื่อใดที่เขาทำงานผิดพลาด "ผอ.คิม" และพวกก็พร้มที่จะเขี่ยเขาพ้นตำแหน่ง แถมน้องสาวต่างสายเลืด (ลูกติดพ่เลี้ยง) "คัง ซารา" ซึ่งเป็นผู้บริหารสายการบินโลว์คสต์ "วัน แร์" ในเครืซอนโฮกรุ๊ป ยังจ้องชิงตำแหน่งผู้สืบทดธุรกิจจากเขา ด้วยความที่สายการบินทีโร้ดกำลังจะทำโค้ดแชร์ (ข้ตกลงการบินโดยใช้รหัสเที่ยวบินร่วมกัน) กับสายการบินต่างชาติ โดแจเลยคิดที่จะยกเลิกสัญญากับเซ-กเยเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่ธุรกิจและความเชื่อมั่นที่ "ประธานอิม" ผู้เป็นตา ตลอดจนเหล่ากรรมการบริหารมีต่อตัวเขา แต่เขากลับติดต่อเธอไม่ได้เพราะอยู่ๆ เธอก็หายตัวไป เมื่ "ชอง จูฮวาน" (เลขาฯ) แจ้งว่าเซ-กเยอยู่ที่โรงพยาบาลซอดง (เขาเห็นเธอโพสต์รูปขณะสวมชุดคนไข้ลงโลกโซเชี่ยล) โดแจจึงรีบบึ่งไปหาเธอที่นั่นโดยไม่รอจูฮวานเพราะกลัวว่าเธอจะหนีไปอีก



หลังได้ยินหมอคนหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์ตนในทางเสียหาย เซ-กเยสู้อุตส่าห์อดทนฟังโดยไม่ตอบโต้ แต่แล้วก็หมดความอดทนเมื่อหมอคนดังกล่าวนินทาว่าเธอมีลูกแล้ว เธอจึงปาส้ม (ของญาติคนไข้ที่นั่งดูทีวีอยู่ใกล้ๆ) ใส่หมอจนเกิดมีปากเสียงกัน ครั้นเห็นว่าทุกคนหลงเชื่อข่าวลือและเข้าใจเธอผิด เซ-กเยจึงขึ้นไปร้องไห้บนดาดฟ้า เธอเห็น "ฮัน ซุกฮี" ผู้เป็นแม่โทรฯ มาจึงกดรับสายทั้งน้ำตา แต่ยังไม่ทันได้พูดก็โดนตำหนิที่หนีลงเวทีกลางคันและทำให้แม่อับอายขายหน้า เซ-กเยแย้งว่าแม่จะไปรู้อะไร หลังคุยได้ไม่นานเธอก็ตัดสายทิ้งแล้วร่ำไห้ พลางโอดครวญว่าแม่ช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ



 

โดแจไปตามหาเซ-กเยที่โรงพยาบาลแล้วไม่พบเลยขึ้นมาโทรศัพท์บนดาดฟ้า เขาเห็นคนไข้หญิงรายหนึ่ง (เซ-กเย) กำลังก้มหน้าก้มตาร้องไห้จึงยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เธอซับน้ำตา จากนั้นก็โทรฯ บอกจูฮวานว่าเซ-กเยหนีไปแล้ว เขาแนะให้จูฮวานลองสืบหาเธอตามโรงแรมหรือคลับบาร์แทนที่จะเป็นโรงพยาบาลเพราะได้ยินว่าเธอมีแฟนหลายคน และถ้าสืบจนรู้ว่าเธอกำลังเดทกับใครให้ส่งคนไปเฝ้าที่หน้าบ้านชายคนนั้น ครั้นเห็นหญิงสาวหยุดร้องไห้แล้วยืนจ้องหน้าตน เขาจึงถามจูฮวานว่าตนพูดดังไปรึเปล่า จูฮวานบอกโดแจว่าตนปล่อยข่าวเรื่องยกเลิกสัญญานางแบบแคมเปญในหมู่ผู้ถือหุ้นและพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจแล้ว ทั้งยังแจ้งสื่อแล้วด้วย โดแจกำชับว่าพวกตนต้องจัดการให้อยู่หมัดเพื่อไม่ให้เซ-กเยทำพังอีก เขารู้สึกได้ว่าหญิงสาวยังคงยืนจ้องเลยหันไปมอง เซ-กเยพยายามส่งสัญญาณเตือนว่าเธอยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้และได้ยินทุกอย่าง แต่โดแจกลับเข้าใจว่าเธอกำลังใช้ภาษามือ เขาได้ยินข่าว (ลือ) ว่าเซ-กเยมีลูกแล้วเลยบอกจูฮวานให้ไปสืบดูตามเนอสเซอรี่ด้วย เพราะเชื่อว่าต่อให้ไร้ความรับผิดชอบเพียงใดเธอก็คงไม่ทิ้งลูก

ในที่สุดเซ-กเยก็อดรนทนไม่ไหวเลยขัดจังหวะการคุยโทรศัพท์ของเขา ก่อนประณามว่าเขาหยาบคายสิ้นดี โดแจไม่รู้ว่าตนทำผิดอะไร ทั้งยังไม่รู้ว่าเธอเป็นใครและเคยรู้จักกันตอนไหน เลยถามว่าเธอชื่ออะไร โดยออกตัวว่าตนเป็นคนขี้ลืม เซ-กเยถึงกับอึ้งเพราะเธอเป็นถึงซุปตาร์ที่โด่งดังไปทั่วเอเชียและเขาเพิ่งพูดถึงเธอหยกๆ แม้ไม่รู้ว่าเขามาไม้ไหนแต่เธอเชื่อว่าเขาเสแสร้งแกล้งตีหน้าเซ่อ โดแจชี้ว่าเธอกำลังเข้าใจผิด เซ-กเยสวนกลับทันควันว่า "คนที่เป็นฝ่ายทำร้ายคนอื่นมักลืมอย่างง่ายดาย แต่คนที่ถูกทำร้ายจะจดจำไม่มีวันลืม" เธออยากให้เขารู้รสชาติของการถูกกระทำบ้างเลยแย่งโทรศัพท์ในมือเขา (เธอชอบทำอะไรแบบซึ่งหน้ามากกว่าลอบแทงข้างหลัง) โดแจถามว่าเธอเสียสติไปแล้วหรือ เพราะอย่างนี้ถึงได้มารักษาตัวที่โรงพยาบาลใช่ไหม เซ-กเยกล่าวว่าถูกแล้ว เธอเป็นบ้า จากนั้นก็โยนโทรศัพท์ของเขาทิ้งแล้วบอกให้ส่งบิลค่าโทรศัพท์มาเก็บเงินจากเธอ พูดจบเซ-กเยก็เดินจากไป โดแจได้แต่ยืนงงเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่และยังคงไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร


จูฮวานนำมือถือเครื่องใหม่มาให้โดแจก่อนสอบถามเรื่องปลาในตู้ (โดแจต้องคอยสังเกตและฝึกแยกแยะปลาแต่ละตัว) จากนั้นก็บกว่าหมจะมาที่นี่ แม้โดแจจะแลดูเพียบพร้อมและเพอร์เฟคทุกด้านในสายตาคนอื่น แต่ใครเลยจะรู้ว่าคนอย่างเขาก็มีความลับที่ไม่อาจเปิดเผยเช่นกัน ความจริงแล้วเขาไม่สามารถจดจำใบหน้าและไม่อาจแยกแยะได้ว่าใครเป็นใคร เพราะมีภาวะสูญเสียการจดจำใบหน้า (Prosopagnosia)  หลังประสบอุบัติเหตุ เขาจึงต้องจดจำบุคลิกลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละคนแทน

ครั้นจูฮวานรายงานว่าสายการบินต่างชาติที่กำลังจะทำข้อตกลงการบินร่วมกัน ต้งการทบทวนความร่วมมืทางธุรกิจ (โค้ดแชร์) หลังได้ยินข่าวว่าบริษัทขงพวกตนจะฉีกสัญญาที่ทำกับเซ-กเย (ลูกสาวผู้บริหารสายการบินดังกล่าวเป็นแฟนคลับตัวยงขงเซ-กเย) โดแจจึงรู้สึกโล่งใจที่ไม่ต้งเปลืงเงินและเวลาในการสืบหาเซ-กเยอีก เขาบกให้จูฮวานแจ้งสายการบินดังกล่าวว่าพวกตนจะไม่ยกเลิกสัญญาของเซ-กเย แต่แล้วกลับพบว่าเซ-กเยชิงติดต่อขอยกเลิกสัญญาเรียบร้อยแล้ว โดแจนึกไม่ถึงว่าเซ-กเยจะเป็นฝ่ายเทตนและทำให้ตนตกที่นั่งลำบาก (หากดีลนี้ไม่ประสบความสำเร็จเขาจะถูกเลื่อยขาเก้าอี้และไม่เป็นที่วางใจขงตา) เขานึกแผนการได้บางอย่างจึงบอกจูฮวานว่าตนไม่ชอบใช้วิธีนี้แต่ไม่มีทางเลือกอื่น 

หลังโดแจบริจาคเงิน 100 ล้านว(กว่า 2.6 ล้านบาทเข้ากทุนเพื่การศึกษาสำหรับเด็กยากไร้ในนามเซ-กเย  ข่าวลืเรื่งที่เธมีลูกก็กลายเป็นข่าวลวง ทั้งยังมีกระแสข่าวว่าเด็กที่ถูกพบในบ้านคืเด็กๆ ที่เธให้ความช่วยเหลืและอุปการะ นกจากนี้ เซ-กเยยังถูกเชิญไปร่วมงานมอบใบประกาศเกียรติคุณ เซ-กเยรู้สึกละอายใจจึงไม่อยากไปแต่อูมีก็ลากเธอไปจนได้ ครั้นไปถึงทั้งคู่ก็ได้ยินเด็กๆ ที่ได้รับทุนบ่นว่า  เซ-กเยและเหล่าคนใจบุญบริจาคเงินเพื่อให้พวกตนได้มีโอกาสเรียนหนังสือ แต่กลับชอบเรียกพวกตนมาร่วมงานด้วย การให้พวกตนถ่ายรูปกับผู้บริจาคเท่ากับประจานออกสื่อว่าพวกตนยากจน คิดว่าคนจนอายไม่เป็นหรือ เซ-กเยได้ยินแล้วรู้สึกไม่สบายใจแต่จำต้องขึ้นไปรับใบประกาศฯ และถ่ายภาพร่วมกับเหล่าผู้บริจาครายอื่นๆ ตลอดจนเด็กนักเรียนที่ได้รับทุน



ขณะกำลังจะถ่ายรูปหมู่ ผู้บริจาคที่ชื่อ "คิม แทจิน" พูดแทะโลมและลวนลามนักเรียนหญิงบนเวทีอย่างโจ่งแจ้ง โดยอ้างว่าเธอน่ารักตนจึงเอ็นดูเหมือนลูกสาว เซ-กเยเห็นว่าไม่มีใครกล้ายุ่งจึงโวยลั่นกลางเวทีว่าเธอเหลืออดเต็มทน แทจินได้ยินดังนั้นจึงปล่อยมือจากเด็ก เซ-กเยขอถ่ายรูปเดี่ยวโดยบอกว่าถ่ายรูปหมู่แบบนี้เธอรับไม่ได้ ใครอยากอวดว่าตนเองทำดีก็อวดไป ทำไมต้องให้เด็กๆ มายืนเป็นไม้ประดับ พูดจบเธอก็เดินไปหาแทจินแล้วขยำก้นเขาต่อหน้าทุกคน จากนั้นก็ลวนลามด้วยการตบไหล่และลูบไล้แขน (เหมือนที่เขาทำกับเด็กผู้หญิง) โดยอ้างว่าเขาน่ารักและทำให้เธอนึกถึงพ่อ ครั้นเห็นแทจินทำหน้าบอกบุญไม่รับเธอเลยถามว่าเด็กผู้หญิงเค้าไม่เล่นกับพ่อแบบนี้หรือ เธอไม่รู้จริงๆ เพราะไม่มีพ่อ แต่คนเป็นพ่อไม่ทำแบบนั้นกับลูกสาวแน่ ขนาดพ่อแท้ๆ ยังไม่ทำ แล้วทำไมผู้ชายบางคนถึงกล้าแตะเนื้อต้องตัวลูกสาวคนอื่นตามใจชอบโดยอ้างว่าเด็กน่ารักน่าเอ็นดู หลังถูกประจานกลางเวที แทจินจึงเดินหนีไปด้วยความโกรธโดยมีประธานมูลนิธิวิ่งตามไปติดๆ (เพราะกลัวแทจินเลิกบริจาค)



ขณะที่เซ-กเยพยายามงอนง้ออูมีซึ่งกำลังโกรธ แทจินก็เดินมาเอาเรื่องเซ-กเยที่บังอาจทำให้ตนขายหน้าและเหยียดว่าเธอเป็นแค่ดาราที่หากินหน้ากล้อง ทำให้เกิดการปะทะคารมกัน หลังโดนเซ-กเยหยามแทจินจึงขู่ว่าตนจะเลิกบริจาคเงินให้ที่นี่และจะทวงเงินบริจาคทั้งหมดคืน ถ้าเด็กๆ หิวโหยก็ให้รู้ไว้ว่าเป็นความผิดของเธอ แทจินยังบอกอีกว่าประเทศนี้เงินเป็นตัวกำหนดระดับชั้นทางสังคม เพราะอย่างนี้ถึงมีคนใหญ่คนโตมากมายที่อยู่ในระดับต่ำกว่าตน ครั้นได้ยินเซ-กเยด่าตนว่าต่ำตม แทจินจึงเงื้อมือหมายตบสั่งสอนแต่โดแจคว้ามือเขาไว้เสียก่อน ครั้นถูกถามว่าเป็นใคร โดแจจึงบอก (โดยใช้ภาษาแบบเป็นกันเอง) ว่าตนคือคนที่จะบริจาคเงินแทนแทจิน ครั้นเห็นว่าแทจินไม่พอใจที่ตนไม่ใช้ภาษาสุภาพ โดแจจึงชี้ว่าในเมื่อเงินเป็นตัวกำหนดระดับชั้นทางสังคมอย่างที่แทจินบอก ตนก็ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาสุภาพเพราะอยู่ในระดับชั้นที่เหนือกว่าแทจิน (โดแจรู้ว่าแทจินเป็นผู้บริหารบริษัทจินจี) พูดจบโดแจก็แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ครั้นรู้ว่าโดแจเป็นผู้บริหารสายการบินทีโร้ดและทายาทซอนโฮกรุ๊ป ประธานคิมจึงยอมถอยแต่โดยดี

เซ-กเยกล่าวขอบคุณโดแจ โดแจถอดแว่นกันแดดพลางเหน็บว่าวีรกรรมของเธอช่างน่าทึ่งจริงๆ พอเห็นหน้าโดแจชัดๆ เซ-กเยก็จำได้ทันทีว่าเขาคือ 'ตาบ้า' บนดาดฟ้าโรงพยาบาล  โดแจกล่าวขออภัยจากนั้นก็เดินเข้าไปหาแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าของเซ-กเย ครั้นมั่นใจว่าเป็นเซ-กเยแน่ โดแจจึงบอกให้เธอชดใช้ ที่แท้โดแจไม่ได้บริจาคเงินในนามเซ-กเยเพื่อกู้ภาพลักษณ์และช่วยแก้ข่าวให้เธอ แต่ต้องการนำเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างในการบีบให้เธอเซ็นสัญญา (เป็นนางแบบแคมเปญ) ใหม่อีกครั้ง (เซ-กเยได้รับใบประกาศเกียรติคุณและมีกระแสชื่นชมว่อนเน็ตทั้งที่เธอไม่ได้บริจาคสักบาท เขาเลยขู่ว่าจะแฉเรื่องที่เธอเป็นคนลวงโลก และทวงเงินบริจาคคืนจากเธอ




ในตนแรกเซ-กเยยืนกรานว่ายังไงก็ไม่เซ็นเพราะเธอคิดที่จะลาวงการไปทำไร่ทำสวนอยู่แล้ว ครั้นเห็นอูมีคุกเข่าขความเมตตาจากโดแจ เซ-กเยจึงยอมเซ็นสัญญาใหม่อีกครั้ง (โดยไม่อ่านสัญญาหน้าสุดท้าย) และจำต้องเดินทางไปเจรจาธุรกิจตามลำพังกับโดแจที่เมืองคยองจู (อยู่ในจังหวัดคยองซังเหนือ) โดยสวมชุดสีแดงตามเงื่นไขในสัญญา ระหว่างนั่งเคียงคู่ยู่บนเครื่งบิน (ของบริษัทโดแจ) เซ-กเยเห็นว่าโดแจมัวแต่อ่านนิตยสารธุรกิจโดยไม่ยมมงหน้าหรืสบตาตน จึงถามว่าเขารู้สึกตื่นเต้นจนไม่กล้ามงหน้าเธเลยหรืโดแจหันไปจ้งหน้าเซ-กเยแบบไร้อารมณ์ (เขาจำและแยกแยะใบหน้าคนไม่ได้) ก่อนตำหนิเธอที่ส่งเสียงดังรบกวน เซ-กเยได้ยินแล้วถึงกับเสียเซลฟ์จึงพูดเหน็บว่ากัปตันและลูกเรืคงรู้สึกหนักใจที่มีเจ้านายนิสัยแย่ๆ แบบนี้ (เธอพูดพลางพับมุมหน้าหนังสือที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในเมืงคยงจู)



เพื่ไม่ให้เซ-กเยทิ้งงานกลางคัน (ตามที่มักตกเป็นข่าว) โดแจจึงให้พนักงานโรงแรมนำกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าถือของเธอไปเก็บไว้ที่ห้องตนเพื่อเป็นหลักประกัน ถึงกระนั้นเซ-กเยก็ขึ้นรถแท็กซี่หนีไปต่อหน้าต่อตาทั้งที่ไม่มีเงินติดตัวและเป็นเวลากลางคืน (เธอโทรฯ ไปขอให้ "รยู อึนโ" ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทช่วยโอนค่ารถให้คนขับแท็กซี่ และห้ามไม่ให้เขาบอูมีโดยสัญญาว่าจะใช้เงินคืนให้สงเท่า) ขณะที่เซ-กเยกำลังชื่นชมความงามของสระน้ำและตำหนักโบราณ (ตำหนักตงกุงและสระวลจี หรือ "อัอับจี" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขงพระราชวังในยุคชิลลา ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติคยงจู)  อยู่ๆ โดแจก็มาตามเธกลับโดยบกว่าให้เวลาเธมากพแล้ว  เซ-กเยสงสัยว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่นี่ ครั้นเห็นโดแจถือหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเธอจึงโวยวายว่าเขาแอบรื้อกระเป๋าเธอ (โดแจรู้ว่าเซ-กเยสนใจที่นี่ตั้งแต่ตอนอยู่บนเครื่องบิน และเขาเห็นทะเบียนรถแท็กซี่) 

โดแจให้เวลาเซ-กเยตัดสินใจห้านาทีว่าจะทำตามสัญญาหรือจะฉีกสัญญา ทั้งยังขู่ว่าจะส่งอีเมล์ข่าวที่ยู่ในโทรศัพท์ตนให้สื่ (แฉเรื่งที่เธสร้างภาพว่าเป็นคนใจบุญ)  เซ-กเยบอกให้เขาจับเวลา จากนั้นก็ใช้ช่วงเวลาดังกล่าวดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่อยู่ตรงหน้า โดแจนึกไม่ถึงว่าคนอย่างเซ-กเยจะสนใจแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เซ-กเยเปรยว่าเธอรู้สึกอิจฉาที่สถานที่แบบนี้ยังคงสภาพเดิมไม่ว่ากาลเวลาจะล่วงเลยไปนานแค่ไหนก็ตาม  โดแจขมวดคิ้วก่อนแย้งว่าที่นี่ถูกบูรณะขึ้นใหม่ เซ-กเยทำหน้าเซ็งก่อนชี้ว่าเธอหมายถึงสถานที่โดยรวมไม่ใช่ตัวสิ่งปลูกสร้าง โดแจถามเซ-กเยว่าโกรธตนหรือก่อนเตือนว่าตนเป็นเจ้าหนี้ พอครบห้านาทีโดแจจึงบอกเซ-กเยว่าหมดเวลาแล้วและเดินจากไป จากนั้นก็ถามโดยไม่หันกลับไปมองว่าจะตามมาไหมพลางชูโทรศัพท์ขู่ เซ-กเยเลยจำต้องเดินตามไป




ขณะนั่งรถกลับโรงแรม เซ-กเยรู้สึกอึดอัดกับชุดที่สวมใส่จึงถามโดแจว่า ทำไมต้องระบุให้เธอสวมเดรสสีแดงในสัญญา โดแจชี้ว่าเพราะเป็นสีที่สะดุดตา เขาจะได้หาเธเจง่ายๆ เซ-กเยเปรยว่าเขาใช้ชุดสีแดงพันธนาการเธอไว้ไม่ต่างจากโซ่ตรวน โดแจสวนกลับว่ารู้ตัวก็ดีแล้ว เซ-กเยชักเริ่มโมโหเลยเหน็บว่าเขาชอบพูดแดกดันคนอื่น โดแจสวนกลับทันควันว่าเซ-กเยบสร้างเรื่ดราม่า เพราะย่างนี้สินะถึงได้มาเป็นดารา ครั้นได้ยินเซ-กเยบ่นงุบงิบด้วยความไม่พอใจ โดแจจึงถามว่ายากลงจากรถไหม เมื่อเซ-กเยตอบรับอย่างไม่แยแส โดแจจึงจดรถให้เธลงข้างทางทันที  เซ-กเยลงจากรถอย่างไม่ลังเล แต่แล้วเธอก็ถึงกับอึ้งเมื่อเขาทิ้งเธอไว้ (ในอุทยานฯ ) จริงๆ ด้วยความที่ไม่มีรถผ่านมาสักคันเซ-กเยจึงต้องเดินไปตามถนนเรื่อยๆ หลังเดินจนหมดแรงแล้วพบว่าไม่มีแท็กซี่ในละแวกดังกล่าว (เธอใช้แอพเรียกแท็กซี่) เซ-กเยจึงทิ้งตัวนั่งริมถนนอย่างอ่อนแรงและหิวโหย หลังปล่ยให้เซ-กเยเดินจนหมดแรง (หมดฤทธิ์) ในที่สุดโดแจก็กลับมารับและชวนเธไปทานข้าว 




เซ-กเยคิดว่าเขาเลี้ยงข้าวเธอเพราะรู้สึกสงสาร แต่โดแจแย้งว่าการเลี้ยงข้าวพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจถือเป็นธรรมเนียมปกติ จากนั้นก็ให้เธแจ้งล่วงหน้าหากมีแผนที่จะหายตัวไปอีก เซ-กเยแย้งว่าเธอไม่เคยวางแผนล่วงหน้า เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาและเกิดขึ้นแบบกระทันหัน โดแจวางตะเกียบแล้วกล่าวว่า เธออาจสนุกกับการใช้ชีวิตย่างไม่มีแก่นสาร ยากทำะไรก็ทำ แต่ตนเป็นแบบนั้นไม่ได้เพราะต้งแบกความรับผิดชบมากมาย เซ-กเยสงสัยว่าที่เขาพูดหมายความว่าอย่างไรกันแน่  โดแจจึงขให้เธเลิกงแงขณะทำงานเพราะมันไม่น่ารักเลยสักนิด เซ-กเยรู้สึกเจ็บแปลบที่ทุกคนรวมทั้งเขาต่างมองว่าเธอเป็นคนเอาแต่ใจ ไร้ความรับผิดชอบ เธอจึงวางตะเกียบแล้วขให้โดแจช่วยชี้ชัดว่าพวกตนมาทำอะไรที่นี่ และจะให้เธอสวมบทบาทอะไร โดแจขอแค่เธอเป็นเธอ เป็นซุปตาร์ระดับอินเตอร์...ฮัน เซ-กเย ส่วนที่เหลือเขาจะจัดการเอง  เซ-กเยเปรยว่าเธอเป็นคนแบบนั้นสินะ แค่สนุกกับชีวิตไปวันๆ ทำทุกสิ่งตามอำเภใจ และเป็นซุปตาร์ระดับอินเตอร์  โดแจไม่รู้ว่าเซ-กเยเป็นคนแบบนั้นรึเปล่า แต่คนที่เขาต้องการในฐานะพาร์ทเนอร์คือซุปตาร์ระดับอินเตอร์...ฮัน เซ-กเย   เซ-กเยจึงรับปากว่าเธอจะเป็นแบบที่เขาต้องการในการประชุมวันพรุ่งนี้ 

ครั้นโดแจขถามในฐานะพาร์ทเนร์ว่าเธมีลูกแล้วจริงไหม เซ-กเยพยายามข่มใจและปฏิเสธอย่างสุภาพว่ายังไม่มี โดแจขให้เธบตามตรงโดยชี้ว่าตนไม่มีคติกับเรื่งแบบนี้ ทั้งยังเข้าใจดีว่าทุกคนมีเหตุผลขงตนเง เซ-กเยชักเริ่มหมดความอดทนจึงปฏิเสธเสียงแข็ง โดแจธิบายว่าหากเป็นจริงดังข่าวลือพวกตนจะได้วางแผนรับมือ และชี้ว่าเขากำลังปกป้องเธอ เซ-กเยตัดพ้อว่าเขาช่างใจร้าย โดแจแย้งว่าตนแค่ยากรู้ความจริงไม่ได้ใจร้ายสักนิด ถึงกระนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้งถนมน้ำใจเธอ เพราะพวกตนไม่ได้ญาติดีกันตั้งแต่ต้น เซ-กเยรู้สึกผิดหวังเพราะนึกว่าเขาเป็นคนดี (เธอเคยรู้สึกชื่นชมตอนเขาบอกว่าจะบริจาคเงินเพื่อการศึกษา) แต่ทว่าเขาคงไม่ใช่คนดีสำหรับเธอ และเธอก็คงไม่ดีพอเช่นกัน คืนนั้นเซ-กเยร้องไห้ฟูมฟายในห้องพักโรงแรมด้วยความคับแค้นใจ เธอโกรธโดแจที่พูดแทงใจดำและโวยลั่นว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับเธอเลย เพราะตัวเธอเองก็ไม่อยากหนีและเกลียดที่เป็นแบบนี้เช่นกัน จากนั้นก็ตะโกนว่า "ฟังอยู่มั๊ย  ไอ้คนงี่เง่า" ปรากฏว่าโดแจซึ่งพักยู่ห้งข้างๆ กำลังนั่งอ่านหนังสืริมระเบียงพดี เขาได้ยินทุกถ้ยคำจึงเปรยเบาๆ ว่า "คนงี่เง่ากำลังฟังอยู่นี่ไง"




วันรุ่งขึ้นโดแจมีนัดกับผู้บริหารสายการบินต่างชาติ เขาจึงพาเซ-กเยไปด้วยหมายเอาใจลูกสาวพาร์ทเนร์ทางธุรกิจคนดังกล่าว พอโดนทักว่าตาบวม เซ-กเยจึงโกหกว่าเมื่อคืนเธอทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก่อนนอน ครั้นผู้บริหารสายการบินต่างชาติมาถึงพร้อมลูกสาวตัวน้อย เซ-กเยจึงแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ผู้บริหารคนดังกล่าวเห็นโดแจพาเซ-กเยมาด้วยจึงออกตัวว่าตนไม่ได้ปฏิเสธการทำโค้ดแชร์เพราะมีปัญหาเรื่องนางแบบแคมเปญ โดแจชี้แจงว่าตนต้งการมบบริการพิเศษสำหรับเขาและลูกสาว เพราะนโยบายสายการบินตนคืการบบริการที่ดีและพิเศษที่สุดแก่ผู้โดยสาร ผู้บริหารสายการบินต่างชาติชี้ว่าโดแจเสียเวลาเปล่า เพราะสายการบินทีโร้ดไม่ใช่พาร์ทเนร์ทางธุรกิจที่ตนกำลังพิจารณา  โดแจจึงขให้ชี้ชัดว่าเงื่นไขที่เขาต้งการคืออะไร ชายคนดังกล่าวชี้ว่า ตนบอกได้ว่าตัวเองต้องการอะไร แต่ถ้าเป็นคนอื่นที่บอกไม่ได้โดแจจะให้บริการพวกเขาอย่างไร (ทั้งคู่ใช้ภาษาอังกฤษในการพูดคุยกัน)

ปรากฏว่าลูกสาวตัวน้อยของผู้บริหารสายการบินต่างชาติมีความบกพร่องทางการได้ยินและการพูด เธอจึงพยายามสื่อสารกับเซ-กเยด้วยภาษามือ เซ-กเยเห็นดังนั้นจึงใช้ภาษามือพูดคุยกับแฟนคลับตัวน้อยอย่างคล่องแคล่ว โดแจและพ่เด็กเห็นแล้วถึงกับอึ้งแต่ก็รู้สึกประทับใจ ขณะที่เด็กน้ยยิ้มจนแก้มปริ (เธนำภาพฮัน เซ-กเยที่วาดเงกับมืมามบให้ด้วย) โดแจสบโอกาสโยงเข้าเรื่องธุรกิจ โดยบอกว่านางแบบแคมเปญมีความสำคัญเพราะเป็นตัวแทนบริษัทและนโยบาย หากสายการบินตนได้รับข้อมูลผู้โดยสาร (ที่มีความบกพร่องทางการสื่อสาร) ล่วงหน้า พวกตนจะให้บริการเป็นภาษามือ แม้ในขณะเดินทางก็จะใช้ภาษามือและขึ้นซับไตเติ้ลให้ ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าทุกคนสามารถเข้าถึงการบริการที่ดีและพิเศษที่สุดโดยไม่มีข้อยกเว้น หลังการเจรจาธุรกิจประสบความสำเร็จทั้งคู่จึงเดินทางกลับ



ขณะอยู่บนเครื่องบิน โดแจถามเซ-กเยว่าทำไมเธอถึงเรียนภาษามือ เซ-กเยตอบโดยไม่มองหน้าว่า เธอเรียนเผื่อไว้ ไม่แน่ว่าสักวันเธออาจสูญเสียความสามารถในการพูด หรือจะเรียกว่าเพื่อการแสดงก็ได้ โดแจสารภาพเรื่งที่ตนแบคิดว่าเธคงไม่มาร่วมเจรจากับพาร์ทเนร์ชาวต่างชาติ เซ-กเยกล่าวว่าหากเป็นเช่นนั้นจริงเขาคงคิดว่าเธอหนีไปอีกตามเคย ความจริงแล้วเธอเองก็เกลียดการที่ต้องวิ่งหนีและไม่ได้ทำเพราะอยากทำ ครั้นโดแจกล่าวว่า "ผมรู้" เซ-กเยก็รู้สึกผิดคาดจึงหันหน้าไปมองเขา โดแจหันไปสบตาเซ-กเยพลางขอบคุณเธออย่างจริงใจที่ช่วยให้การเจรจาธุรกิจสำเร็จลุล่วง ทั้งยังขอโทษที่ทำไม่ดีกับเธอมาตั้งแต่ต้นก่อนชี้ว่าตนมีเหตุสุดวิสัยบางอย่าง เซ-กเยนึกไม่ถึงว่าจะได้ยินคำนี้จากปากโดแจแต่ไม่วายเหน็บเขาที่เพิ่งมาขอโทษตอนนี้ เธอขอโทษโดแจสำหรับวีรกรรมที่ชอบหนีหายและชี้ว่าเธอเองก็มีเหตุสุดวิสัยบางอย่างเช่นกัน โดแจยิ้มแล้วกล่าวคำเดิมว่า "ผมรู้" จากนั้นก็ก้มหน้าอ่านหนังสืด้วยสีหน้าผ่นคลาย 





หลังปรับความเข้าใจกันแล้ว เซ-กเยจึงสวมแว่นกันแดดและเสียบหูฟังก่อนเอนศีรษะพิงพนักด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ขณะนอนหลับเซ-กเยเอนศีรษะมาซบไหล่โดแจ ทำให้เขารู้สึกประหม่าจนทำะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งตัวแข็งทื่และบีบหนังสืแน่น แต่แล้วอยู่ๆ เซ-กเยก็ลุกพรวดแล้วรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำบนเครื่องบินด้วยอาการตกใจ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็กลายร่างเป็นผู้หญิงผมสั้นวัยกลางคน ครั้นเครื่องบินใกล้ถึงจุดหมายปลายทาง แอร์โฮสเตสจึงมาเคาะประตูพลางบอกให้เธอรีบกลับที่นั่ง เซ-กเยตกใจจนทำอะไรไม่ถูกจึงได้แต่นั่งนิ่ง เธอจะหนีก็ไม่ได้ จะเดินออกไปในสภาพนี้ยิ่งไม่ได้ใหญ่ แอร์โฮสเตสพยายามเคาะประตูหลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงเกรงว่าเซ-กเยจะเป็นอะไรไป โดแจจึงตัดสินใจพังประตูห้งน้ำเข้าไปช่วย เซ-กเยรีบทรุดตัวลงนั่งพลางเอามือปิดบังใบหน้าและขอความช่วยเหลือจากโดแจ โดแจจึงขผ้าห่มหมายนำมาคลุมศีรษะให้เธ แต่ทว่า...ในระหว่างที่ช่วยคลุมผ้า สายตาเขาพลันประสานกับสายตาเซ-กเยที่กลายร่างเป็นหญิงสูงวัย

** จบตนที่หนึ่ง **

สำหรับนักแสดงอย่างฮัน เซ-กเยนั้น รูปลักษณ์ภายนอกเปรียบเหมือนตราสินค้าที่คนทั้งประเทศจดจำและนับเป็นสิ่งสำคัญ แต่สำหรับ โดแจแล้ว 'หน้าตา' ไม่มีความหมายใดๆ (เพราะเขาจำใบหน้าใครไม่ได้)  หลังได้พบและใกล้ชิดฮัน เซ-กเยแล้วชีวิต โดแจก็เปลี่ยนไป เพราะเธอเป็นคนเดียวที่เขาจำได้ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเธอจะเปลี่ยนไปก็ตาม (แม้ร่างเปลี่ยนแต่จิตวิญญาณยังเป็นคนเดิม) ในที่สุดทั้งคู่ก็ล่วงรู้ความลับของกันและกัน ทั้งยังได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่มีค่าและสำคัญที่สุดสำหรับคนเราอาจไม่ใช่สิ่งที่มองเห็นได้ด้วยตา และคุณค่าความงามที่แท้จริงนั้นไม่ได้วัดกันที่เปลือกนอก แต่เป็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใน

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ภาพจากเจทีบีซี



 


รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ


อ  อนจิน
รับบท  ฮัน เซ-กเย
(นักแสดง / นักร้ง)



ลี มินกี
รับบท ซ โดแจ
(นักแสดง / นักร้ง / นายแบบ)



ลี ดาฮี
รับบท คัง ซารา
นักแสดง / นางแบบ)



ฮัน แจ
รับบท รยู อึนโ
(นักแสดง / นายแบบ)



ลี แทรี
รับบท ชอง จูฮวาน
(นักแสดง)



มูน จีอิน
รับบท ยู อูมี
(นักแสดง)

ครบครัวนโกรุ๊ป


นา ยฮี
รับบท อิม จองยอน



ลี มุนซู
รับบท ประธานอิม



คัง นัมกิล
รับบท คัง แดชิก

ื่นๆ



คิม ฮีจอง
รับบท ฮัน ซุกฮี



รยู ฮวายอง
รับบท แช ยูรี



คิม ซึงอุก
รับบท ลี ฮีซอบ



ลี ฮันอวี
รับบท พ่ออึนโฮ



คิม เยรยอง
รับบท แม่อึนโฮ



ลี ชอลมิน
รับบท ผอ.คิม



รวมคลิปตัวอย่างจากเจทีบีซี



รวมคลิปเบื้องหลังจากเจทีบีซี

* ดูละครย้อนหลังทางพีพีทีวีได้ ที่นี่

*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา