บทประพันธ์: ถังชี (ถังชีกงจื่อ)
กำกับ: หลินวี้เฟิน, อวี๋ชุ่ยหัว, เหรินไห่เทา
เขียนบท: หงหั่ว
แนวละคร: โรแมนติก, แฟนตาซี, เซียนเซี่ย
จำนวนตอน: 58
ออกอากาศ: จีน - 30 มกราคม 2560 - 1 มีนาคม 2560 ทางดราก้อนทีวี และเจ้อเจียงทีวี
ไทย - ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.30-13.15 น. ทางช่อง 3 เอชดี (หมายเลข 33) ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2562 - 6 สิงหาคม 2562
ละคร "สามชาติ สามภพ ป่าท้อสิบหลี่" (Eternal Love) นำเสนอเรื่องราวความรักที่อยู่เหนือกาลเวลาของรัชทายาทเผ่าเทพนามว่า "เย่หัว" และจิ้งจอกขาวเก้าหางแห่งแดนชิงชิวนามว่า "ไป๋เฉี่ยน" ซึ่งก่อกำเนิดและยืนยาวถึงสามภพสามชาติ แม้ต้องเผชิญบททดสอบ อุปสรรค และความเข้าใจผิดต่างๆ นานา
เรื่องราวของทั้งคู่เริ่มต้นขึ้น ณ คุณหลุนซวี (เทือกเขาคุนหลุน) หลังไป๋เฉี่ยนจำแลงเป็นชายโดยใช้ชื่อ "ซืออิน" แล้วฝากตัวเป็นศิษย์คนที่สิบเจ็ดของเทพม่อเยวียน ตลอดสองหมื่นปีที่ศึกษาอยู่ที่นั่นซืออินได้เฝ้าดูแลดอกบัวทองให้เทพม่อเยวียน (ก่อนดับสูญเทพบิดรได้มอบดอกบัวทองให้เทพม่อเยวียนโดยบอกให้นำไปปลูกในสระบัวที่คุนหลุนซวี แล้วใช้พลังเทพของม่อเยวียนคอยหล่อเลี้ยงดูแลจนกว่าจิตวิญญาณของน้องชายฝาแฝดที่สถิตอยู่ในดอกบัวทองจะตื่นและบังเกิดร่างเซียน) ในเวลาต่อมาจิตวิญญาณที่สถิตอยู่ในดอกบัวทองได้เริ่มตื่นจึงรับรู้เรื่องราวและรู้สึกผูกพันกับซืออิน แต่ซืออินไม่เห็นและไม่ได้ยินเสียงพูดคุยของเขา
หลังเทพม่อเยวียนใช้ดวงจิตสังเวยระฆังตงหวง (และปิดผนึกร่างราชาปีศาจ "ฉิงชาง" ไว้ในระฆัง) จนเป็นเหตุให้วิญญาณแตกซ่าน จิตวิญญาณน้องชายฝาแฝดของเทพม่อเยวียนได้ไปจุติในครรภ์ของ "เล่อซวี" ซึ่งเป็นชายาเอกของ "ยางซั่ว" (โอรสองค์โตของเทพปกครองสวรรค์ หรือ "เทียนจวิน") และได้ถือกำเนิดเป็นเทพนามว่า "เย่หัว" (ตัวตนจริงของเขาคือ มังกรดำ) แต่ทว่าความทรงจำทั้งหมดที่เคยมีก่อนหน้า (ตอนที่สถิตอยู่ในดอกบัว) ได้ถูกลบเลือนจนหมดสิ้น รวมทั้งความทรงจำเกี่ยวกับซืออิน ซืออินพยายามทำทุกวิถีทางหมายรักษาร่างให้เทพม่อเยวียนเพราะเชื่อว่าสักวันเทพม่อเยวียนจะกลับมา (ก่อนสังเวยดวงจิตเขาบอกให้ศิษย์ทุกคนรอ) สุดท้ายถึงกับขโมยร่างเทพม่อเยวียนมารักษาไว้ในถ้ำเหยียนหัว ณ แดนชิงชิว และกลับมาใช้ชีวิตในฐานะไป๋เฉี่ยนดังเดิม
ไป๋เฉี่ยนมีคู่หมั้นคู่หมายเป็นโอรสองค์รองของเทียนจวินนามว่า "ซางจี๋" องค์ชายรองพยายามผูกสัมพันธ์กับไป๋เฉี่ยนด้วยการมาหาเธอที่ชิงชิวตามคำสั่งของพระบิดา แต่ไป๋เฉี่ยนกลับหลีกหนีไม่ยอมพบหน้า ครั้นพบ "เส้าซิน" (งูสาว) สาวใช้ของไป๋เฉี่ยน ซางจี๋จึงเกิดความรักใคร่ชอบพอถึงขั้นพานางกลับตำหนักสวรรค์และขอถอนหมั้นกับไป๋เฉี่ยน เพื่อไม่ให้เกิดความบาดหมางกับแดนชิงชิว เทียนจวินจึงมีบัญชาให้เย่หัวอภิเษกกับไป๋เฉี่ยน ซ้ำยังแต่งตั้งไป๋เฉี่ยนเป็นว่าที่เทียนโฮ่ว (จองตำแหน่งมเหสีเอกของเทพปกครองสวรรค์คนต่อไปให้ไป๋เฉี่ยนล่วงหน้า ทั้งที่ตอนนั้นเย่หัวยังไม่ได้รับการสถาปนาเป็นองค์รัชทายาทเลยด้วยซ้ำ)
ปรากฏว่าทุกๆ เจ็ดหมื่นปีผนึกระฆังตงหวงจะคลายออก ไป๋เฉี่ยนซึ่งเป็นคนเดียวที่รู้ความลับนี้และรู้วิธีปิดผนึกใหม่จึงเสี่ยงตายเข้าไปปิดผนึกตามลำพัง (โดยมีพัดอวี้ชิงคุนหลุนเป็นอาวุธ) เพื่อไม่ให้ราชาปีศาจฉิงชางทลายระฆังออกมาสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายได้อีก ถึงกระนั้นฉิงชางก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์ เขาจึงผนึกพลังเทพ ความทรงจำ และรูปโฉมที่แท้จริงของไป๋เฉี่ยนเอาไว้ (จุดแดงที่หน้าผากคือผนึกดังกล่าว) ก่อนซัดเธอตกลงไปในแดนมนุษย์ หมายให้ลิ้มรสความทุกข์ยากในฐานะมนุษย์ธรรมดา นั่นจึงทำให้เธอได้พบกับเย่หัวซึ่งลงมาปราบปีศาจในแดนมนุษย์และตกหลุมรักซืออินในที่สุด เนื่องจากไป๋เฉี่ยนจำไม่ได้ว่าตนเป็นใคร เย่หัวจึงตั้งชื่อให้เธอว่า "ซู่ซู่" (เย่หัวไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วซู่ซู่ก็คือซืออินและว่าที่ชายาแดนสวรรค์ของตน เขาจึงรู้สึกแปลกใจเมื่อพบว่าพัดอวี้ชิงคุนหลุนอยู่ในความครอบครองของมนุษย์ธรรมดาอย่างเธอ)
ในที่สุดเย่หัวกับซู่ซู่ก็แต่งงานกันบนโลกมนุษย์ เย่หัวไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอารอง (ซางจี๋) ทั้งยังเกรงว่าซู่ซู่ซึ่งกำลังตั้งครรภ์จะถูกเทพปกครองสวรรค์ลงโทษถึงตาย เขาจึงคิดแสร้งตายและซ่อนตัวซู่ซู่จากแดนสวรรค์ แต่สุดท้ายก็จำต้องพานางกลับสวรรค์ชั้นเก้า "ซู่จิ่น" ซึ่งหลงรักเย่หัวมานาน เห็นเย่หัวมอบใจให้หญิงสาวจากแดนมนุษย์ก็ทั้งแค้นและรู้สึกอิจฉา จึงสร้างเรื่องราวต่างๆ นานาหมายให้ทั้งคู่เข้าใจผิด ซ้ำยังทำให้ซู่ซู่ถูกเย่หัวควักดวงตาทั้งสองข้าง ซู่ซู่เข้าใจผิดคิดว่าเย่หัวรักซู่จิ่นและทรยศตน หลังคลอดลูกบนแดนสวรรค์เธอจึงกระโดดลงแท่นประหารเซียนด้วยหัวใจที่แตกสลายหมายกลับไปใช้ชีวิตในโลกมนุษย์ดังเดิม โดยหารู้ไม่ว่าแท่นประหารเซียนมีไว้ทำลายหรือประหารพลังปราณที่เหล่าเทพเซียนสู้อุตส่าห์สั่งสม แต่ถ้ามนุษย์กระโดดลงไปร่างกายจะสูญสลายกลายเป็นธุลี (ซู่จิ่นนึกว่าซู่ซู่เป็นมนุษย์จึงหลอกให้เธอทำเช่นนั้น) ด้วยความที่ไม่ใช่มนุษย์ร่างกายเธอจึงไม่สูญสลาย แถมการกระโดดลงแท่นประหารเซียนยังทำให้ผนึกของฉิงชาง (บนหน้าผากเธอ) ถูกทำลาย เธอจึงจำได้ว่าแท้จริงแล้วตนคือไป๋เฉี่ยน เพราะได้พลังเทพ ความทรงจำ และรูปโฉมที่แท้จริงกลับคืนมา ถึงกระนั้นเธอก็เจ็บหนักทั้งกายและใจ ขณะรักษาตัวในป่าท้อสิบลี้ไป๋เฉี่ยนได้ดื่มยาลบความทรงจำทำให้ลืมช่วงเวลาที่เคยใช้ชีวิตในฐานะซู่ซู่และลืมเย่หัวจนหมดสิ้น
สามร้อยปีต่อมา ไป๋เฉี่ยนและเย่หัวได้พบกันอีกครั้งที่ทะเลบูรพา (ตงไห่) แม้จะต่างชาติต่างภพ แต่เย่หัวจำได้ว่าไป๋เฉี่ยนคือหญิงที่ตนรักและยังเป็นแม่ของลูกตน เขาจึงพยายามพิชิตใจเธออีกครั้ง แต่คราวนี้เขารู้แล้วว่าไป๋เฉี่ยนคือธิดาราชันย์จิ้งจอกและยังเป็นว่าที่ชายาเอกของตน ขณะที่ไป๋เฉี่ยนรู้เพียงว่าชายหนุ่มที่หน้าตาเหมือนเทพม่อเยวียนคนนี้ คือ องค์รัชทายาทแดนสวรรค์ที่มีลูกติดชื่อ "อาหลี" และเป็นคู่สวรรค์ประทานวัยละอ่อนที่อายุน้อยกว่าเธอถึงเก้าหมื่นปี แม้เย่หัวจะเอาชนะใจไป๋เฉี่ยนได้อีกครั้ง แต่อุปสรรคและด่านทดสอบของทั้งคู่ยังไม่จบสิ้นลง
ขณะที่เย่หัวต้องลงไปใช้กรรมที่โลกมนุษย์โดยมีกำหนดสองเดือน (หนึ่งวันบนสวรรค์เท่ากับหนึ่งปีบนโลกมนุษย์) ม่อเยวียนก็ฟื้นคืนชีพหลังใช้เวลาในการรวบรวมจิตวิญญาณนานกว่าเจ็ดหมื่นปี ขณะเดียวกันความทรงจำที่เลือนหายไปเมื่อราวห้าร้อยปีก่อน (ตอนเป็นซู่ซู่) ของไป๋เฉี่ยนก็กลับคืนมา ครั้นพบว่าเย่หัวทำให้เธอหลงรักถึงสองครั้งสองคราทั้งที่เขาเคยควักลูกตาเธอไปใส่ให้ซู่จิ่น ไป๋เฉี่ยนจึงทั้งรักทั้งแค้นและไม่อาจให้อภัยเย่หัว เมื่อเย่หัวกลับมาหาเธอ (ก่อนกำหนด) เธอจึงไม่ยอมพบหน้า กว่าไป๋เฉียนจะรู้ว่าตนเป็นคนเดียวที่เย่หัวรักมาตลอดสามภพสามชาติ มิหนำซ้ำที่ผ่านมาเย่หัวยอมแบกรับความเจ็บปวดทุกข์ยากไว้เพียงลำพังและทำทุกอย่างเพื่อเธอ เธอก็เสียเขาไปแล้ว (เขาปราบฉิงชางแทนเธอและใช้ดวงจิตของตนสังเวยระฆังตงหวง)
ทุกคนต่างนึกว่าเย่หัวดับสูญไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าในตัวเย่หัวมีพลังทั้งหมดของเทพบิดร (บิดาของเทพม่อเยวียนและเย่หัว) ซ่อนอยู่ เมื่อพลังดังกล่าวปะทะกับพลังทำลายฟ้าดินของระฆังตงหวง ดวงจิตเขาจึงไม่แตกสลายหากหลับใหลเพียงชั่วคราว หลังจากนั้นสามปีเขาก็ฟื้นคืนชีพอีกครั้งและกลับมาหาไป๋เฉียนที่ป่าท้อสิบลี้ทันที
เนื้อหาตอนที่ 1
หลังผานกู่เบิกฟ้าเมื่อหนึ่งแสนปีก่อน เผ่าต่างๆ ได้รบราฆ่าฟันกันไม่รู้จักจบสิ้น เหล่าเทพบรรพกาลต่างทยอยประสบเคราะห์กรรมทำให้ล้มหายตายจาก บัดนี้ทั่วทั้งแปดปฐพีสี่สมุทรคงมีเพียงเผ่าเทพ "ตระกูลมังกร" (ของเทพปกครองสวรรค์) กับตระกูลเฟิ่ง" (ของเจ๋อเหยียน - "เฟิ่ง" หมายถึง "นกเฟิ่งหวง") ตลอดจน "ตระกูลจิ้งจอกขาวเก้าหาง" แห่งแดนชิงชิว ที่เป็นเทพบรรพกาล (มังกร, นกเฟิ่งหวง และจิ้งจอกขาวเก้าหาง (ไป๋หู่) ล้วนเป็นสัตว์เทพในตำนาน) สามตระกูลนี้จึงเป็นที่เคารพนับถือของเผ่าเทพ
* "แปดปฐพีสี่สมุทร" (ซื่อไห่ปาฮวง) เป็นสำนวนที่หมายถึง "ทั่วทุกหนแห่ง" หรือ "ทั่วโลก"
คำว่า "สี่สมุทร" (ซื่อไห่) เดิมหมายถึง ทะเลเหนือ ใต้ ออก ตก (ในสมัยโบราณเชื่อกันว่าแผ่นดินจีนถูกล้อมรอบด้วยทะเลทั้งสี่ทิศ) ภายหลังคำว่า "สี่สมุทร" มักใช้กล่าวถึง "โลก" โดยแผ่นดินจีนเรียกว่า "ไห่เน่ย" (แปลว่า ภายในสี่สมุทร) ส่วนดินแดนอื่นๆ (ต่างประเทศ) ถูกเรียกว่า "ไห่ว่าย" (นอกสี่สมุทร) ส่วนคำว่า "แปดปฐพี" (ปาฮวง) หมายถึง ดินแดนที่อยู่ห่างไกลจงหยวน (ที่ราบตอนกลางของจีน) ออกไปทั้งแปดทิศ ได้แก่ ทิศตะวันออก, ตะวันตก, ใต้, เหนือ, ตะวันออกเฉียงใต้, ตะวันออกเฉียงเหนือ, ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ
ราชันย์จิ้งจอกแห่งแดนชิงชิว (แดนเนินเขาเขียว) นามว่า "ไป๋จื่อ" มีลูกคนสุดท้อง (คนที่ห้า) เป็นธิดาชื่อ "ไป๋เฉี่ยน" แม้นางจะถูกอบรมเลี้ยงดูเป็นอย่างดีแต่มีนิสัยดื้อรั้นซุกซน ราชันย์จิ้งจอกขาวเก้าหางอยากหาคนมาช่วยกำราบและสอนวิชาจึงฝากฝังนางไว้กับ "เจ๋อเหยียน" (เจ้าของป่าท้อสิบลี้) ซึ่งเป็นเทพชั้นสูง (ซ่างเสิน) และเป็นนกเฟิ่งหวง (ตัวแรก) ในตำนานที่ช่วยผานกู่เบิกฟ้า (เขาเร้นกายจากสามภพแล้วใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในป่าท้อสิบลี้มาแสนนานและเป็นเพื่อนบ้านกับชิงชิว) เจ๋อเหยียนจึงคิดส่งนางไปเป็นศิษย์ของเทพ "ม่อเยวียน" แห่งคุนหลุนซวี ซึ่งเปรียบเหมือนน้องชายของตน (ม่อเยวียนเป็นโอรสมเหสีเอกของ "เทพบิดร" และเทพบิดรก็เป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูเจ๋อเหยียนซึ่งเป็นหนึ่งในเทพบรรพกาล)
ณ คุนหลุนซวี อยู่ดีๆ ก็มีของวิเศษปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหมื่นปี เมื่อเหล่าศิษย์เห็นเข้าจึงพากันไล่จับแต่กลับไม่มีศิษย์คนใดคว้ามาครองได้ ครั้นเห็นว่าของวิเศษยอมจำนนและยอมตกอยู่ในกำมือเทพม่อเยวียน (ม่อเยวียนซ่างเสิน) เหล่าบรรดาลูกศิษย์จึงพากันคุกเข่าแสดงความยินดีที่อาจารย์ของพวกตนได้ครอบครองของวิเศษ ที่แท้ของวิเศษดังกล่าวคือ 'พัดอวี้ชิงคุนหลุน' ซึ่งเป็นอาวุธเทพชิ้นที่สองที่ปรากฏในคุนหลุนซวี (ชิ้นแรกคือ 'ระฆังตงหวง' หรือ 'ระฆังจักรพรรดิบูรพา' ซึ่งเทพม่อเยวียนเป็นคนสร้างขึ้น) แต่แล้วอยู่ๆ พัดดังกล่าวก็สั่นคล้ายกำลังดิ้นรนเทพม่อเยวียนเลยจำต้องปล่อยมือ หลังจากนั้นพัดดังกล่าวก็ลอยหนีไป เหล่าศิษย์คุนหลุนซวีจึงพากันวิ่งไล่ตาม เทพม่อเยวียนเห็นว่าพัดอวี้ชิงคุนหลุนยังคงตามหาเจ้าของที่แท้จริง (ซึ่งไม่ใช่ตนและศิษย์ทั้ง 15 คน) จึงสังหรณ์ใจว่าวันนี้ตนอาจรับศิษย์ใหม่ เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาเลยเดินตามไปดู
ในที่สุด เทพเจ๋อเหยียนกับไป๋เฉี่ยนก็เดินทางมาถึงประตูสู่คุนหลุนซวี เนื่องจากคุนหลุนซวีไม่รับศิษย์ที่เป็นสตรี เทพเจ๋อเหยียนจึงเสกให้ไป๋เฉี่ยนกลายร่างเป็นชายโดยตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "ซืออิน" ไป๋เฉี่ยนเกรงว่าตนจะถูกจับได้ แต่เทพเจ๋อเหยียนยืนยันว่าศิษย์ของเทพม่อเยวียนไม่มีทางจับได้แน่นอน ส่วนเทพม่อเยวียนจะมองว่าเธอเป็นชายหรือหญิงก็แล้วแต่บุญวาสนา เมื่อทั้งคู่มาถึงหน้าตำหนักใหญ่ก็พบว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งมาถึงก่อนแล้ว ซืออินแอบไม่พอใจที่มีคนมาปาดหน้าแย่งเป็นศิษย์เทพม่อเยวียน ขณะที่ชายหนุ่มนามว่า "จื่อหลาน" เห็นซืออินมากับเทพสูงศักดิ์จึงเย้ยว่าเทพสงครามม่อเยวียนไม่มีทางรับจิ้งจอกไร้สามารถ บอบบาง และคิดใช้เส้นสาย เป็นศิษย์แน่นอน
* แม้เจ๋อเหยียนจะเป็นเทพบรรพกาลที่อายุมากเสียจนเจ้าตัวเองก็ยังลืมว่าตนอายุเท่าไหร่กันแน่ แต่เขาไม่ยอมแก่และห้ามไม่ให้ไป๋เฉี่ยนเรียกตนว่าลุง ไป๋เฉี่ยนเลยจำต้องเรียกชื่อเขาเฉยๆ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเธอไม่เคารพเขาแต่อย่างไร (เขาขู่ว่าหากใครบังอาจเรียกตนว่าลุง ตนจะตามจองล้างจองผลาญคนผู้นั้นนับพันนับหมื่นปี)
ทันใดนั้น พัดอวี้ชิงคุนหลุนก็ลอยมาหยุดตรงหน้าซืออิน ครั้นเทพเจ๋อเหยียนส่งสายตายบอกให้คว้าเอาไว้ ซืออินจึงเดินไปหยิบมาดูแบบงงๆ เมื่อเหล่าศิษย์คุนหลุนซวี (ซึ่งวิ่งตามพัดมา) เห็นพัดอวี้ชิงคุนหลุนอยู่ในมือซืออินก็ต่างพากันประหลาดใจ แม้แต่เทพม่อเยวียนเองก็ยังแปลกใจที่พัดอวี้ชิงคุนหลุนเลือกซืออินเป็นเจ้าของ (เขารู้ว่าแท้จริงแล้วซืออินเป็นผู้หญิง) ครั้นเจ๋อเหยียนแอบส่งสายตา ไป๋เฉี่ยนในร่างซืออินจึงเดินถือพัดเข้าไปหาเทพม่อเยวียนด้วยความรู้สึกผิดคาด (เดิมทีเธอคิดว่าเทพแห่งสงครามจะมีรูปร่างลักษณะที่ดุร้ายและน่ากลัว แต่เขากลับรูปงามกว่าเทพเจ๋อเหยียนเสียอีก) ขณะเดียวกันก็แอบเป็นกังวลว่าคาถาแปลงกายของเทพเจ๋อเหยียนจะตบตาเทพม่อเยวียนได้ไหม เมื่อเทพเจ๋อเหยียนเตือนให้รีบคารวะเทพม่อเยวียน ซืออินจึงคารวะและฝากตัวเป็นศิษย์โดยโกหกว่าตนชื่อซืออินมาจาก 'สือหลี่เถาฮัว' (แปลว่า "ดอกท้อสิบลี้" ในที่นี้หมายถึงป่าท้อของเทพเจ๋อเหยียนซึ่งมีอาณาบริเวณกว้างไกลนับสิบลี้) จากนั้นก็มอบพัดคืนให้เทพม่อเยวียน
* หนึ่งลี้ = 500 เมตร
แม้จะรู้ว่าซืออินเป็นสตรีแต่เทพม่อเยวียนไม่อาจปฏิเสธ เพราะพัดอวี้ชิงคุนหลุนได้เลือกซืออินเป็นเจ้าของเรียบร้อยแล้ว ที่สำคัญเขาไม่อาจปล่อยให้ของวิเศษอย่างพัดอวี้ชิงคุนหลุนตกอยู่ในมือคนนอกจึงยอมรับซืออินเป็นศิษย์และคิดว่านี่คงเป็นชะตาฟ้าลิขิต แต่ปัญหาก็คือจื่อหลานกับซืออินมาฝากตัวเป็นศิษย์ในเวลาไล่เลี่ยกัน เทพม่อเยวียนตัดสินใจไม่ถูกว่าควรให้ใครเป็นศิษย์ผู้พี่จึงถามความเห็นเทพเจ๋อเหยียน แม้รู้ว่าซืออินไม่อยากเป็นน้องเล็ก แต่เทพเจ๋อเหยียนกลับเสนอให้แต่งตั้งซืออินเป็นศิษย์ผู้น้อง ซืออินรู้สึกผิดหวังจึงลุกขึ้นประท้วงและกล่าวว่าถ้าเช่นนั้นตนไม่ขอเป็นศิษย์เทพม่อเยวียน เหล่าศิษย์คุนหลุนซวีได้ยินดังนั้นก็ต่างไม่พอใจที่อาจารย์ของพวกตนโดนจิ้งจอกหนุ่มลบหลู่
เมื่อเทพม่อเยวียนถามว่าทำไมถึงเปลี่ยนใจ ซืออินจึงตัดพ้อว่าตอนอยู่ที่บ้านตนเป็นน้องเล็กเพราะเกิดช้ากว่าคนอื่น ทำไมมาอยู่ที่นี่แล้วตนยังต้องเป็นน้องเล็กสุดอีก มันไม่ยุติธรรมเลยที่ตนต้องเป็นศิษย์น้องเพียงเพราะมาถึงช้ากว่าคนอื่นไม่กี่ก้าว เทพม่อเยวียนฟังแล้วได้แต่ยิ้มด้วยความเอ็นดูจากนั้นก็มอบพัดอวี้ชิงคุนหลุนให้ซืออิน เหล่าบรรดาศิษย์คุนหลุนซวีเห็นเทพม่อเยวียนมอบอาวุธเทพให้ซืออินอย่างง่ายดายจึงต่างพากันโอดครวญว่าไม่ยุติธรรม หลังได้ของวิเศษเป็นการปลอบใจซืออินจึงก้มลงกราบเทพม่อเยวียนเป็นอาจารย์เคียงข้างจื่อหลาน หลังจากนัันเทพม่อเยวียนก็ประกาศรับทั้งคู่เป็นศิษย์ โดยแต่งตั้งจื่อหลานเป็นศิษย์ลำดับที่ 16 และแต่งตั้งซืออินเป็นศิษย์ลำดับที่ 17
เมื่อเทพม่อเยวียนถามว่าทำไมถึงเปลี่ยนใจ ซืออินจึงตัดพ้อว่าตอนอยู่ที่บ้านตนเป็นน้องเล็กเพราะเกิดช้ากว่าคนอื่น ทำไมมาอยู่ที่นี่แล้วตนยังต้องเป็นน้องเล็กสุดอีก มันไม่ยุติธรรมเลยที่ตนต้องเป็นศิษย์น้องเพียงเพราะมาถึงช้ากว่าคนอื่นไม่กี่ก้าว เทพม่อเยวียนฟังแล้วได้แต่ยิ้มด้วยความเอ็นดูจากนั้นก็มอบพัดอวี้ชิงคุนหลุนให้ซืออิน เหล่าบรรดาศิษย์คุนหลุนซวีเห็นเทพม่อเยวียนมอบอาวุธเทพให้ซืออินอย่างง่ายดายจึงต่างพากันโอดครวญว่าไม่ยุติธรรม หลังได้ของวิเศษเป็นการปลอบใจซืออินจึงก้มลงกราบเทพม่อเยวียนเป็นอาจารย์เคียงข้างจื่อหลาน หลังจากนัันเทพม่อเยวียนก็ประกาศรับทั้งคู่เป็นศิษย์ โดยแต่งตั้งจื่อหลานเป็นศิษย์ลำดับที่ 16 และแต่งตั้งซืออินเป็นศิษย์ลำดับที่ 17
ณ ท้องพระโรงแดนสวรรค์ องค์ชาย "ยางซั่ว" (โอรสองค์โตของเทียนจวิน) ทูล "เทียนจวิน" (เทพปกครองสวรรค์) ผู้เป็นพระบิดาว่า วันนี้เทพม่อเยวียนเพิ่งรับศิษย์ใหม่สองคน และเขาได้มอบพัดอวี้ชิงคุนหลุนให้ศิษย์คนเล็กสุดนามว่าซืออินซึ่งเป็นจิ้งจอกป่าที่เทพเจ๋อเหยียนเก็บมาเลี้ยง ครั้นได้ยินว่าเทพม่อเยวียนมอบเทพศาสตราที่มีอานุภาพร้ายแรงและสามารถสยบสี่สมุทรแก่จิ้งจอกธรรมดาตัวหนึ่ง เทียนจวินจึงรู้สึกแปลกใจ
เพียงชั่วพริบตาวันเวลาก็ผ่านไปนานสองหมื่นปี แต่ไป๋เฉี่ยนยังคงใช้ชีวิตในฐานะจิ้งจอกหนุ่มที่ชื่อซืออิน และยังคงร่ำเรียนวิชากับเทพม่อเยวียนที่คุนหลุนซวี (เธอเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของศิษย์พี่และอาจารย์ เนื่องจากเธอเป็นน้องเล็กทุกคนจึงมักเรียกเธอว่า "เสี่ยวสือชี" (สิบเจ็ดน้อย) ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าความจริงแล้วเธอเป็นสตรี...นอกจากเทพม่อเยวียน) ซืออินกับจื่อหลานสบโอกาสตอนที่อาจารย์ไม่อยู่ แอบไปหาประสบการณ์ในแดนมนุษย์โดยจำแลงเป็นหมอดูข้างถนนอีกตามเคย ครั้นสตรีชุดขาวคนหนึ่งมานั่งให้ดูดวง ซืออินจึงขอมือเธอมาสัมผัส (คลำกระดูกทำนาย) จากนั้นก็ทักว่าเธออาภัพรัก จื่อหลานเห็นสาวใช้ของสตรีชุดขาวโวยลั่นด้วยความไม่พอใจจึงอาสาทำนายให้แทน แต่ยังไม่ทันได้ทำนายก็มีชายคนหนึ่งเข้ามาแทะโลมสตรีชุดขาว ซืออินกับจื่อหลานเห็นดังนั้นจึงฟันธงว่าในไม่ช้าพวกตนจะได้เห็นฉากวีรบุรุษช่วยหญิงงาม เพราะทุกครั้งที่มาแดนมนุษย์ทั้งคู่มักพบเห็นสตรีถูกคนรังแก หากสตรีคนดังกล่าวยังไม่แต่งงานมักมีวีรบุรุษมาช่วย แต่ถ้าแต่งงานแล้วอยู่ๆ ผู้เป็นสามีก็จะโผล่มาปกป้อง ทั้งคู่ยังฟันธงด้วยว่า ไม่ว่าผู้ที่มาช่วยจะเป็นวีรบุรุษหรือสามี แต่คนผู้นั้นจะต้องสวมชุดสีขาวอย่างแน่นอน
ปรากฏว่าทุกอย่างเป็นจริงดังที่ซืออินกับจื่อหลานคาดการณ์ไว้ทำให้ทั้งคู่หมดสนุก และเพื่อไม่ให้ถูกอาจารย์จับได้ว่าพวกตนหนีมาเที่ยวแดนมนุษย์ ซืออินกับจื่อหลานจึงรีบเดินทางกลับคุนหลุนซวีโดยไม่รู้ว่าถูกสตรีชุดขาวที่พบในแดนมนุษย์คอยจับตาดูอยู่ ที่แท้เธอคือเทพ "เหยากวง" ซึ่งเคยทำศึกอย่างห้าวหาญและอาศัยอยู่ในตำหนักบนคุนหลุนซวี เธอเห็นซืออินถือพัดอวี้ชิงคุนหลุนจึงรู้ได้ทันทีว่าซืออินคือศิษย์โปรดของเทพม่อเยวียนซึ่งเป็นชายในดวงใจตน (ข่าวเรื่องเทพม่อเยวียนมอบพัดอวี้ชิงคุนหลุนให้ศิษย์คนเล็กสุดนามว่าซืออินแพร่สะพัดไปทั่วทั้งสามโลก) แม้เธอจะไม่รู้ว่าซืออินเป็นสตรีแต่การที่ซืออินได้ในสิ่งที่เธอไม่เคยได้จากเทพม่อเยวียน (ความใส่ใจและรักใคร่เอ็นดู) ก็ทำให้เธอเกิดความริษยา
เทพม่อเยวียนเพิ่งกลับมาถึงคุนหลุนซวีแต่ก็รู้ได้ทันทีว่าซืออินกับจื่อหลานหนีไปเที่ยวแดนมนุษย์อีกตามเคย ศิษย์พี่ใหญ่ "เตี๋ยเฟิง" รีบออกโรงยืนยันว่าทั้งคู่แค่ไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และไม่ได้ก่อเรื่อง ถึงกระนั้นเทพม่อเยวียนก็ไม่คิดเอาผิดทั้งคู่ตั้งแต่ต้น เขาอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อยจึงบอกให้ทุกคนยกเว้นซืออินออกไปก่อน ที่แท้เมื่อวานขณะเดินทางกลับคุนหลุนซวี เทพม่อเยวียนอุตส่าห์แวะป่าท้อสิบลี้เพื่อนำเหล้าดอกท้อของเทพเจ๋อเหยียนมาฝากซืออินสามไห เพราะจำได้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของซืออิน (เหล้าดอกท้อของเทพเจ๋อเหยียนได้รับยกย่องว่าเป็นสุรารสเลิศ และซืออินก็ชอบดื่มมาตั้งแต่เยาว์วัย) ซืออินเดินถือเหล้าสองไหออกจากโรงเก็บเหล้าอย่างมีความสุข แต่แล้วอยู่ๆ ก็ถูกใครบางตัวลักพาตัวทำให้ไหเหล้าร่วงลงพื้่นแตกกระจาย "ลิ่งอวี่" (ศิษย์คนที่เก้าของเทพม่อเยวียน) ได้ยินเสียงไหเหล้าแตกจึงรีบวิ่งออกมาดู ครั้นเห็นว่าผู้บุกรุกไปมาไร้ร่องรอยเขาก็รู้สึกแปลกใจ
เมื่อซืออินรู้สึกตัวก็พบสตรีชุดขาวนั่งอยู่ตรงหน้า ครั้นรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอคือเทพเหยากวงซึ่งเคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่เทพม่อเยวียน ซืออินจึงนึกถึงคำพูดของศิษย์พี่ใหญ่ที่เคยบอกว่า เทพเหยากวงหลงรักอาจารย์ (ข้างเดียว) มานานจึงลงทุนย้ายตำหนักมาอยู่ที่คุนหลุนซวีหวังกระชับความสัมพันธ์ ซืออินเดาว่าเทพเหยากวงคงคิดใช้ตนเป็นเหยื่อ หมายล่อให้อาจารย์ออกมาต่อสู้เพื่อที่เขาจะได้ประทับใจในฝีมืออันฉกาจฉกรรจ์ของเธอ (ซึ่งเป็นสิ่งที่เทพเหยากวงพยายามทำมาโดยตลอดแต่ไม่เป็นผล) แต่ความจริงแล้วเทพเหยากวงหึงจนหน้ามืดตามัวเลยคิดพรากซืออินไปจากม่อเยวียน สาวใช้เหยากวงชี้ว่าจิ้งจอกหนุ่มรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นอย่างซืออินคิดยั่วยวนเทพม่อเยวียนให้ลุ่มหลงและเดินผิดทางจึงนับเป็นความผิดอันใหญ่หลวง นับว่ายังโชคดีที่ท่านเทพหญิงของตนมีใจเมตตา ดังนั้นนับจากวันนี้ซืออินจะต้องมาเป็นศิษย์ติดตามรับใช้เทพเหยากวง และตั้งใจบำเพ็ญเพียรเพื่อขัดเกลาจิตใจ
ซืออินปฏิเสธทันควันโดยกล่าวว่าตนฝากตัวเป็นศิษย์เทพม่อเยวียนแล้ว จากนั้นก็ประณามเทพเหยากวงที่ใช้วิธีการอันสกปรกและน่าละอายหมายเรียกร้องความสนใจจากผู้ชายที่เธอหลงรักฝ่ายเดียว ซืออินชี้ว่าที่อาจารย์ดีกับตนเป็นเพราะสงสารตนที่เกิดมาอาภัพ ประกอบกับสหายเก่าได้ฝากฝังตนเอาไว้ เทพเหยากวงลักพาตนมาที่นี่ ไม่เพียงบีบให้ตนเป็นศิษย์ติดตามรับใช้แต่ยังกักขังตน แค่นิ้วเดียวของอาจารย์ตนก็ดีกว่าเทพเหยากวงร้อยเท่าพันเท่า ดังนั้นจงอย่าหวังว่าตนจะยอมก้มหัวเป็นศิษย์เทพที่หลงผู้ชายจนหน้ามืดตามัวอย่างเธอ เทพเหยากวงได้ยินดังนั้นจึงสั่งสอนด้วยการจับซืออินไปขังและทรมานในคุกน้ำสามวัน (คุกน้ำของเทพเหยากวงนับว่าโหดร้ายกว่าคุกน้ำที่อื่น ตอนแรกน้ำข้างในจะสูงระดับเอว แต่ทุกๆ ครึ่งชั่วยาม (ทุกหนึ่งชั่วโมง) ระดับน้ำจะค่อยๆ สูงขึ้นจนมิดศีรษะทำให้ผู้ที่ถูกกักขังหายใจไม่ออก ถึงกระนั้นก็ไม่ทำให้ถึงตาย เพราะหลังจากนั้นระดับน้ำจะค่อยๆ ลดลง ทำให้ต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะขาดอากาศเป็นระยะๆ)
หลังซืออินหายตัวไป เหล่าบรรดาศิษย์พี่ต่างพากันออกตามหาทุกซอกทุกมุมแต่กลับไม่พบเบาะแสใดๆ "ศิษย์พี่รอง" ตั้งข้อสังเกตว่าซืออินชอบดื่มเหล้าดอกท้อจึงไม่มีทางยอมให้ไหเหล้าตกแตกแน่ เขาคาดว่าซืออินน่าจะโดนเล่นงานโดยไม่ทันตั้งตัวเลยทำไหเหล้าหลุดมือ ทั้งยังสงสัยว่าใครกันที่กล้าบุกมาก่อเรื่องถึงที่นี่ จื่อหลานสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือเผ่าอี้ (เผ่าปีศาจ) แต่ศิษย์พี่ใหญ่แย้งว่านอกจากราชาปีศาจฉิงชางแล้วคงไม่มีใครอาจหาญถึงขั้นบุกมาคุนหลุนซวี เพราะขืนมาที่นี่พลังปีศาจของพวกเขาจะถูกพลังมังกรสะกดจนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซืออิน ดังนั้นจึงไม่ใช่ฝีมือเผ่าปีศาจแน่นอน ลิ่งอวี่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะรู้ทางหนีทีไล่ในคุนหลุนซวีจึงสามารถหลบหลีกตนได้ ศิษย์พี่รองสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือเทพเหยากวง ซึ่งศิษย์พี่ใหญ่เองก็เห็นด้วยเพราะนอกจากพวกตนแล้วมีเพียงเทพเหยากวงที่คุ้นเคยกับที่นี่ เมื่อคิดได้ดังนั้นศิษย์พี่ใหญ่กับลิ่งอวี่จึงรีบไปรายงานเทพม่อเยวียน
หลังซืออินหายตัวไป เหล่าบรรดาศิษย์พี่ต่างพากันออกตามหาทุกซอกทุกมุมแต่กลับไม่พบเบาะแสใดๆ "ศิษย์พี่รอง" ตั้งข้อสังเกตว่าซืออินชอบดื่มเหล้าดอกท้อจึงไม่มีทางยอมให้ไหเหล้าตกแตกแน่ เขาคาดว่าซืออินน่าจะโดนเล่นงานโดยไม่ทันตั้งตัวเลยทำไหเหล้าหลุดมือ ทั้งยังสงสัยว่าใครกันที่กล้าบุกมาก่อเรื่องถึงที่นี่ จื่อหลานสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือเผ่าอี้ (เผ่าปีศาจ) แต่ศิษย์พี่ใหญ่แย้งว่านอกจากราชาปีศาจฉิงชางแล้วคงไม่มีใครอาจหาญถึงขั้นบุกมาคุนหลุนซวี เพราะขืนมาที่นี่พลังปีศาจของพวกเขาจะถูกพลังมังกรสะกดจนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซืออิน ดังนั้นจึงไม่ใช่ฝีมือเผ่าปีศาจแน่นอน ลิ่งอวี่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะรู้ทางหนีทีไล่ในคุนหลุนซวีจึงสามารถหลบหลีกตนได้ ศิษย์พี่รองสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือเทพเหยากวง ซึ่งศิษย์พี่ใหญ่เองก็เห็นด้วยเพราะนอกจากพวกตนแล้วมีเพียงเทพเหยากวงที่คุ้นเคยกับที่นี่ เมื่อคิดได้ดังนั้นศิษย์พี่ใหญ่กับลิ่งอวี่จึงรีบไปรายงานเทพม่อเยวียน
เทพเหยากวงเข้ามาดูซืออิน (ซึ่งอยู่ในสภาพหมดสติ) ในคุกน้ำ พลางสั่งสาวใช้ว่าอีกครึ่งชั่วยามค่อยนำตัวซืออินขึ้นมา จากนั้นค่อยๆ เกลี้ยกล่อมให้ซืออินยอมไปจากเทพม่อเยวียน หนึ่งในสาวใช้เห็นว่าเทพม่อเยวียนโปรดปรานซืออินยิ่งกว่าศิษย์คนใดจึงถามผู้เป็นนายว่า เทพม่อเยวียนหลงเสน่ห์จิ้งจอกหนุ่มซืออินจริงๆ หรือ เหยากวงได้ยินแล้วรู้สึกเจ็บแปลบจึงเดินออกจากคุกน้ำโดยไม่พูดจา แต่แล้วกลับพบว่าเทพม่อเยวียนพาศิษย์บุกมาตามหาซืออินถึงหน้าคุกน้ำ แม้เหยากวงจะไม่ยอมรับและพยายามขัดขวางไม่ให้เทพม่อเยวียนเข้าไปด้านในโดยชี้ว่าเขากำลังบุกรุกตำหนักส่วนตัวของเธอ แต่ยามนี้เทพม่อเยวียนไม่สนกฏเกณฑ์ใดๆ จึงบุกเข้าไปช่วยซืออินทันที ซืออินไม่อยากให้อาจารย์เป็นห่วงเลยบอกว่าตนยังไหว เทพม่อเยวียนจึงชมว่าคืนนี้ซืออินเป็นผู้ใหญ่และแกร่งขึ้นมาก ซืออินกล่าวว่านั่นเป็นเพราะตนยังต้องดื่มเหล้าดอกท้อและต้องฉลองวันเกิด (เลยตายไม่ได้) พูดจบซืออินก็หมดสติในอ้อมกอดเทพม่อเยวียน
เทพเหยากวงเห็นเทพม่อเยวียนอุ้มซืออินออกมาจากคุกน้ำแล้วเดินจากไปราวกับเธอไม่มีตัวตนจึงร้องเรียกและพยายามอธิบาย โดยบอกว่าเธอไม่อยากให้เทพสงครามผู้สูงศักดิ์และเป็นที่ยกย่องต้องโดนครหาเพราะศิษย์เพียงคนเดียวเลยทำเช่นนี้ เทพม่อเยวียนเห็นว่าที่ผ่านมาเหยากวงอยากต่อสู้กับตนนักจึงนัดให้มาสู้กันวันที่สิบเจ็ด เดือนยี่ บนยอดเขาชางอู๋ หมายสะสางเรื่องราวในวันนี้ให้จบสิ้นกันไป เทพเหยากวงได้ยินดังนั้นก็ยิ่งเสียใจและนึกไม่ถึงว่าเขาจะให้ความสำคัญกับซืออินถึงเพียงนี้ ที่ผ่านมาเธอพยายามท้าประลองครั้งแล้วครั้งเล่าหวังสร้างสัมพันธ์แต่ไม่เป็นผล วันนี้เพียงเพื่อศิษย์คนหนึ่งเขาถึงขั้นยอมบาดหมางและนัดประลองเพื่อปิดบัญชีแค้นกับเธอ
ซืออินถูกนำตัวกลับมาที่คุนหลุนซวีโดยมีศิษย์พี่และอาจารย์เฝ้าดูแลไม่ห่าง ครั้นได้ยินซืออินซึ่งยังคงหลับใหลไม่ได้สติเพ้อเรียกตน เทพม่อเยวียนซึ่งนั่งทำงานอยู่ใกล้ๆ จึงเดินเข้าไปปลอบด้วยการตบหลังเบาๆ ซืออินคว้าแขนเทพม่อเยวียนมากอดพลางร้องว่าตนทรมานยิ่งนัก ศิษย์พี่ใหญ่กับลิ่งอวี่เห็นแล้วยิ่งเป็นห่วง ครั้นเทพม่อเยวียนบอกว่าตนจะดูแลซืออินเอง ทั้งคู่จึงออกจากห้องไป หลังจากนั้นเทพม่อเยวียนก็ตบหลังพลางพูดปลอบใจซืออิน เมื่อซืออินเพ้อว่าเทพเหยากวงไม่คู่ควรกับอาจารย์ตน เทพม่อเยวียนจึงยิ้มพลางตบไหล่ซืออินด้วยความรักและเอ็นดู (ปกติเขามักทำหน้าเข้มและจะยิ้มเฉพาะเวลาที่อยู่ต่อหน้าซืออิน)
เทียนจวินได้ยินข่าวว่าเทพม่อเยวียนจะดวลกับเทพเหยากวงบนยอดเขาชางอู๋จึงรีบส่งโอรสองค์โตมาไกล่เกลี่ยที่คุนหลุนซวีกลางดึก (องค์ชายแสดงท่าทีนอบน้อมต่อเทพม่อเยวียนและเป็นฝ่ายคารวะก่อน) องค์ชายใหญ่ "ยางซั่ว" เตือนเทพม่อเยวียนว่าในยามนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเผ่าเทพกับเผ่าอี้ไม่ดีดังเดิม ราชาปีศาจฉิงชางอาจหาข้ออ้างมาเปิดศึกกับเผ่าเทพได้ทุกเมื่อ หากเทพม่อเยวียนกับเหยากวงต้องมาแตกหักกันเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ก็นับว่าน่าเสียดายและไม่สมควรยิ่ง เทพม่อเยวียนยืนกรานเสียงแข็งว่าตนจะสู้กับเหยากวงเพื่อรักษาเกียรติของคุนหลุนซวี เขาชี้ว่าคุนหลุนซวีเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ จะปล่อยให้ใครบุกมาลักพาตัวศิษย์คนใดตามใจชอบได้อย่างไร เขาย้ำว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างตนกับเทพเหยากวง วันหน้าถ้าเกิดศึกระหว่างเผ่าเทพกับเผ่าอี้ คุนหลุนซวีกับเทพเหยากวงจะร่วมรบจนสุดกำลัง องค์ชายใหญ่นำคำพูดของเทพม่อเยวียนกลับไปรายงานพระบิดา เทียนจวินเห็นว่าเทพม่อเยวียนให้ความสำคัญกับซืออินมากเป็นพิเศษ (แถมเมื่อสองหมื่นปีก่อนยังสร้างความตกตะลึงด้วยการมอบพัดอวี้ชิงคุนหลุนให้ศิษย์คนเล็กอย่างซืออิน) จึงอยากพบซืออินสักครั้ง เพราะอยากรู้ว่าซืออินมีดีอะไรถึงทำให้เทพม่อเยวียนโปรดปรานถึงเพียงนี้
ในที่สุดวันดวลเดือดระหว่างเทพม่อเยวียนกับเทพเหยากวงก็มาถึง เหล่าศิษย์คุนหลุนซวีเห็นว่าเป็นศึกที่หาดูได้ยากจึงยกขบวนมาแอบดู (ยกเว้นศิษย์พี่ใหญ่กับลิ่งอวี่ที่คอยดูแลซืออิน) หลังสู้กันอย่างดุเดือดได้ไม่นาน เทพเหยากวงเห็นว่าเทพม่อเยวียนเอาจริงและไม่ยอมอ่อนข้อจึงเป็นฝ่ายยอมแพ้ เทพม่อเยวียนขอให้เหยากวงย้ายตำหนักออกจากคุนหลุนซวี และเดินจากไปทันที เทพเหยากวงตัดพ้อว่าสมัยก่อนตอนเกิดศึกใหญ่ระหว่างเผ่าเทพกับเผ่าอี้ พวกตนเคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่และผูกพันกันฉันมิตร มาวันนี้ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกตนจะจืดจางลง เทพม่อเยวียนประสานมือลาพลางแย้งอย่างไม่ไยดีว่า พวกตนแค่เพียงรู้จัก...หาได้ผูกพัน พูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไปก่อนปรายตามองลูกศิษย์ที่ตามมาแอบดู ศิษย์พี่รองเปรยว่าเซียนสาวถูกอาจารย์หักอกอีกรายแล้ว จื่อหลานเสริมว่าอาจารย์รักและเอ็นดูซืออินมากที่สุด ต้องโทษนางที่หาเรื่องใส่ตัว
ครั้นซืออินรู้สึกตัวศิษย์พี่ใหญ่ก็เล่าให้ฟังว่า ขณะนอนหลับใหลไม่ได้สติซืออินเกาะแขนอาจารย์แน่น แถมยังเพ้อเรียกอาจารย์ไม่หยุดและบ่นว่าทรมาน แกะอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย อาจารย์ได้ยินแล้วรู้สึกเป็นห่วงจึงคอยตบไหล่พลางพูดปลอบใจราวกับซืออินเป็นเด็กน้อย ซืออินรีบลุกขึ้นมาสวมรองเท้าพลางบอกว่าจะไปหาอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่แย้งว่าอาจารย์กำลังต่อสู้กับเทพเหยากวงบนยอดเขาชางอู๋ เมื่อซืออินยืนกรานว่าจะไปหาอาจารย์ให้ได้ ศิษย์พี่ใหญ่จึงกล่าวว่าเช่นนั้นแล้วอาจารย์คงกลับมาถึงคุนหลุนซวีก่อนที่ซืออินจะขี่เมฆาไปถึงยอดเขาชางอู๋ด้วซ้ำ ซืออินฟังแล้วถึงกับคอตก (ยอมรับว่าตนยังซิ่งเมฆไม่เก่ง) ลิ่งอวี่ยกอาหารมาให้ซืออินพลางกล่าวว่าอาจารย์สั่งให้ซืออินคัดคัมภีร์ 3 หมื่นจบให้เสร็จภายในครึ่งเดือน จากนั้นก็บอกว่ามีหญิงสาวจากชิงชิวมาหาซืออิน
ครั้นพบว่าหญิงสาวที่บุกมาหาตนถึงคุนหลุนซวีคือ "เสวียนหนี่ว์" ซืออินก็รู้สึกตกใจ ขณะที่เสวียนหนี่ว์เองก็รู้สึกแปลกใจเช่นกันที่มีคนหน้าตาเหมือนไป๋เฉี่ยนยิ่งกว่าตน แถมยังเป็นผู้ชายอีกต่างหาก ซืออินแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเสวียนหนี่ว์และถามว่าเธอเป็นใคร เสวียนหนี่ว์จึงแนะนำตัวพลางบอกว่าตนเป็นน้องสาวภรรยาของ "ไป๋เสวียน" (พี่ชายคนโตของไป๋เฉี่ยน) เสวียนหนี่ว์ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วซืออินคือไป๋เฉี่ยน แต่รู้เพียงว่าซืออินเป็นจิ้งจอกหนุ่มที่อยู่กับเทพเจ๋อเหยียนมานานและมีความสนิทสนมกับครอบครัวจิ้งจอกขาวเก้าหางแห่งแดนชิงชิว หลังทักทายพอเป็นพิธีซืออินจึงแนะนำเสวียนหนี่ว์ให้ศิษย์พี่ใหญ่รู้จัก ก่อนบอกเสวียนหนี่ว์ว่าศิษย์พี่ใหญ่เตี๋ยเฟิงเป็นศิษย์เอกของเทพม่อเยวียนและโอรสองค์รองของเทพราชาซีไห่ (เจ้าสมุทรประจิม) เสวียนหนี่ว์ได้ยินดังนั้นจึงขออภัยที่ไม่ได้แสดงความเคารพ ศิษย์พี่ใหญ่ชี้ว่าที่คุนหลุนซวีไม่มีการแบ่งชนชั้นหรือฐานันดร ทุกคนล้วนเป็นศิษย์อาจารย์จึงไม่ต้องมากพิธี จากนั้นก็เปิดโอกาสให้ทั้งคู่พูดคุยกันตามลำพัง
* สมัยเด็กๆ เสวียนหนี่ว์พร่ำบ่นว่าอยากมีหน้าตาเหมือนไป๋เฉี่ยน ไป๋เฉี่ยนเลยขอให้เทพเจ๋อเหยียนช่วยเสกคาถาให้เสวียนหนี่ว์มีหน้าตาคล้ายตน
เสวียนหนี่ว์มอบจดหมายจาก "ไป๋เจิน" (พี่ชายคนที่สี่ของไป๋เฉี่ยน) ให้ซืออิน ซืออินสงสัยว่าทำไมไป๋เจินถึงไม่มาด้วยตนเอง เสวียนหนี่ว์เล่าว่าธิดาน้อยของ "ไป๋อี้" (พี่ชายคนที่สองของไป๋เฉี่ยน) ใกล้คลอดเต็มทีทุกคนในชิงชิวจึงไปรวมตัวกันที่นั่นเพื่อแสดงความยินดี ซืออินได้ยินว่าตนกำลังจะมีหลานก็รู้สึกตื่นเต้น และกล่าวว่าตอนที่ออกจากชิงชิวพี่รองของตนเพิ่งแต่งงาน (กับหญิงสาวตระกูลจิ้งจอกแดง) ตอนแรกซืออินรู้สึกแปลกใจว่าทำไมทุกคนถึงรู้ว่าทารกในครรภ์เป็นหญิง แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าครอบครัวตนสนิทกับเจ๋อเหยียน (ซึ่งนอกจากจะบ่มเหล้าเก่งแล้วยังเชี่ยวชาญด้านการแพทย์อีกด้วย) ครั้นอ่านจดหมายของไป๋เจินถึงได้รู้ว่าเสวียนหนี่ว์ถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับตระกูลหมีดำ เธอจึงหนีไปอยู่ที่บ้านพี่ใหญ่ไป๋เสวียนแต่พี่สะใภ้เกรงว่าคนที่บ้านจะมาตามหาเสวียนหนี่ว์ที่ชิงชิว ไป๋เจินเลยออกโรงช่วยเหลือด้วยการฝากฝังเสวียนหนี่ว์ไว้กับซืออินชั่วคราว เพราะเห็นว่าคุนหลุนซวีเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์คงไม่มีใครกล้าลบหลู่ ที่สำคัญซืออินกับเสวียนหนี่ว์เป็นผู้หญิงเหมือนกัน (ถึงเสวียนหนี่ว์จะไม่รู้ก็ตาม)
ด้วยความที่ไม่สามารถตัดสินใจเองได้ซืออินจึงคิดที่จะไปขออนุญาตอาจารย์ก่อน ครั้นพอเจอศิษย์พี่ใหญ่ที่หน้าห้องซืออินจึงลองปรึกษาโดยไม่รู้ว่าอาจารย์ได้ยินทุกถ้อยคำ ศิษย์พี่ใหญ่กล่าวว่าเสวียนหนี่ว์หนีการแต่งงานแล้วดั้นด้นมาถึงที่นี่เพราะไม่มีที่ไป ให้เธอซ่อนตัวที่นี่ชั่วคราวคงไม่มีปัญหาอะไร เขาชี้ว่าตอนที่เทพเหยากวงยกตำหนักมาอยู่ที่นี่เพราะหลงรักอาจารย์ฝ่ายเดียว อาจารย์ไม่เห็นใส่ใจ ซ้ำยังกำชับพวกตนว่าผู้มาเยือนล้วนเป็นแขกและอย่าถือสา ในเมื่อเสวียนหนี่ว์มาอยู่ที่นี่ไม่นานอาจารย์ก็คงไม่ว่าอะไรเช่นกัน ซืออินเห็นว่าคุนหลุนซวีมีแต่ผู้ชายจึงถามศิษย์พี่ใหญ่ว่าควรให้เสวียนหนี่ว์พักที่ไหน ศิษย์พี่ใหญ่อึ้งไปชั่วขณะเพราะไม่รู้ว่าจะให้นางพักที่ไหนดี
เทพม่อเยวียนเดินออกจากห้องพลางกล่าวว่า ให้เสวียนหนี่ว์พักกับซืออิน เขาให้เหตุผลว่าที่นี่มีแต่ศิษย์ผู้ชาย ไม่ว่าเสวียนหนี่ว์จะพักที่ไหนคงไม่สะดวกทั้งนั้น ในเมื่อเสวียนหนี่ว์มาหาซืออิน ให้พักกับซืออินจึงนับว่าเหมาะสมที่สุด ซืออินแย้งว่าตนก็เป็นผู้ชายเช่นกัน เทพม่อเยวียนรู้ว่าซืออินเป็นผู้หญิงจึงหันไปจ้องหน้าซืออิน ซืออินรีบกลับลำโดยกล่าวว่าในเมื่อเสวียนหนี่ว์มาหาตน ตนก็ควรเป็นคนดูแลเสวียนหนี่ว์ดังที่อาจารย์กล่าว เทพม่อเยวียนจะหันหลังเดินจากไปแต่นึกขึ้นได้จึงหันกลับมาถามซืออินเรื่องคัดลอกคัมภีร์ ซืออินพยายามวอนขอให้อาจารย์ลดจำนวนลงแต่ไม่เป็นผลจึงขอตัวไปจัดการเรื่องเสวียนหนี่ว์ก่อนแล้วค่อยเริ่มลงมือ
หลังพาเสวียนหนี่ว์ไปส่งยังห้องพักซึ่งอยู่ตรงข้ามห้องของตนแล้ว ซืออินจึงแวะไปที่สระบัวเพื่อบอกลาดอกบัวทองที่เฝ้าฟูมฟักดูแลมานับหมื่นปี โดยบอกว่าจากนี้ไปตนคงมาดูแลไม่ได้แล้วเพราะต้องคัดคัมภีร์ส่งอาจารย์ตั้ง 3 หมื่นจบ ไว้คัดเสร็จแล้วค่อยกลับมาดูแลใหม่ ครั้นซืออินเดินจากไปดอกบัวก็เริ่มทอแสงสีทอง
** จบตอนที่หนึ่ง **
* เทพม่อเยวียนใช้การคัดลอกคัมภีร์เป็นข้ออ้างในการกักบริเวณซืออินช่วงที่ตนไม่อยู่ ด้วยรู้ว่าในไม่ช้าซืออินจะต้องเผชิญด่านสวรรค์ ความจริงแล้วเหล่าเทพจะรู้ตัวล่วงหน้าว่าตนต้องเผชิญด่านสวรรค์เมื่อไหร่ อย่างไร แต่เนื่องจากซืออินไม่ตั้งใจบำเพ็ญเพียรเรียนวิชาจึงรู้วิชาทำนายเพียงผิวเผิน ทำให้ไม่รู้ว่าตนกำลังจะประสบเคราะห์ภัย
** ด่านสวรรค์ เป็นบททดสอบสำหรับเทพที่จะถูกเลื่อนชั้นจากเทพธรรมดา (เสินจวิน/เสินหนี่ว์) เป็นเซียนชั้นสูง (ซ่างเซียน) และเลื่อนจากเซียนชั้นสูงเป็นเทพชั้นสูง (ซ่างเสิน) ตอนนี้ไป๋เฉี่ยนในคราบซืออินยังเป็นเพียงเทพธรรมดาจึงต้องผ่านด่านสวรรค์ไปให้ได้ถึงจะได้เลื่อนชั้นเป็นซ่างเซียน (แต่ถ้าไม่สามารถผ่านด่านสวรรค์ก็ต้องจบชีวิต) เทพม่อเยวียนรู้ว่าซืออินผ่านด่านสวรรค์ไม่ได้แน่ (เพราะไม่ตั้งใจบำเพ็ญเพียรเรียนวิชา) จึงพยายามปกป้องทั้งยังยอมรับอสนีบาตสามสายแทน และนั่นก็ทำให้ซืออินได้เลื่อนชั้นเป็นเซียนชั้นสูง (ซ่างเซียน) ซืออินรู้สึกผิดต่ออาจารย์จึงหันมาตั้งใจเรียนและหมั่นบำเพ็ญเพียร
* เนื้อหาโดย luvasianseries / ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่
รายชื่อนักแสดง
นักแสดงนำ
รับบท ไป๋เฉี่ยน (แปลว่า แสงสีขาว) / ซืออิน / ซู่ซู่
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
จ้าวโย่วถิง
รับบท จินเหลียน (ดอกบัวทอง) / เย่หัว (บุปผาราตรี) / จ้าวเกอ
(นักแสดง / นายแบบ ชาวไต้หวัน)
คุนหลุนซวี (เทือกเขาคุนหลุน)
จ้าวโย่วถิง
รับบท ม่อเยวียน
(นักแสดง / นายแบบ ชาวไต้หวัน)
** โอรสองค์โตของเทพบิดร เป็นเทพสงครามองค์แรกของเผ่าเทพ **
ล่ายอี้
รับบท เตี๋ยเฟิง (ศิษย์คนแรกของม่อเยวียน)
(นักแสดง ชาวจีน)
ซ่งไห่เจี๋ย
รับบท ศิษย์พี่รอง (ศิษย์คนที่สองของม่อเยวียน)
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)
จางเฮ่อ
รับบท ลิ่งอวี่ (ศิษย์คนที่เก้าของม่อเยวียน)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
หลิวรุ่ยหลิน
รับบท จื่อหลาน (ศิษย์คนที่สิบหกของม่อเยวียน)
(นักแสดง ชาวจีน)
แดนสวรรค์ - ตระกูลเทียนจวิน (เทพปกครองสวรรค์)
สวรรค์เก้าชั้นฟ้า / เหล่าเทพเซียน
รับบท เทียนจวิน (เทพปกครองสวรรค์ - ชื่อ "ฮ่าวเต๋อ")
(นักแสดง ชาวจีน)
โหมวเฟิ่งปิน
รับบท ยางซั่ว (โอรสองค์โตของเทียนจวิน)
(นักแสดง ชาวจีน)
หวังรั่วหลิน
รับบท ซางจี๋ (โอรสองค์รองของเทียนจวิน)
หลี่ตงเหิง
รับบท เหลียนซ่ง (โอรสองค์ที่สามของเทียนจวิน)
(นักแสดง ชาวจีน)
จางอี้ฮั่น
รับบท อาหลี
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
โหมวเฟิ่งปิน
รับบท ยางซั่ว (โอรสองค์โตของเทียนจวิน)
(นักแสดง ชาวจีน)
หวังรั่วหลิน
รับบท ซางจี๋ (โอรสองค์รองของเทียนจวิน)
(นักแสดง / นายแบบ / ผู้ดำเนินรายการ ชาวจีน)
หลี่ตงเหิง
รับบท เหลียนซ่ง (โอรสองค์ที่สามของเทียนจวิน)
(นักแสดง ชาวจีน)
จางอี้ฮั่น
รับบท อาหลี
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
สวรรค์เก้าชั้นฟ้า / เหล่าเทพเซียน
รับบท เจ๋อเหยียน
(นักแสดง / นักร้อง ชาวไต้หวัน)
เกาเหว่ยกวง
รับบท ตงหัวตี้จวิน (มหาเทพตงหัว)
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)
หวงเมิ่งอิ๋ง
รับบท ซู่จิ่น
(นักแสดง ชาวจีน)
หวังเซียว
รับบท ซือมิ่งซิงจวิน (เทพดาราซือมิ่ง)
(นักแสดง ชาวจีน)
รับบท เหยากวง
(นักแสดง ชาวจีน)
หลิวเสี่ยวเย่
รับบท เล่อซวี
(นักแสดง ชาวจีน)
หวังทิง
รับบท เฉิงอวี้หยวนจวิน
(นักแสดง / ผู้ดำเนินรายการ ชาวจีน)
อวี๋เซวียนหงฮ่าว
รับบท เจียอวิ๋น
(นักแสดง ชาวจีน)
เผ่าอี้ (เผ่าปีศาจ)
เหลียนอี้หมิง
รับบท ฉิงชาง
(นักแสดง / ผู้กำกับ ชาวจีน)
จางปินปิน
รับบท หลีจิ้ง
(นักแสดง ชาวจีน)
ไต้ซือ
รับบท เยียนจือ
(นักแสดง ชาวจีน)
ตู้จวิ้นเจ๋อ
รับบท หลีเยวี่ยน
(นักแสดง ชาวจีน)
หวงเทียนฉี
รับบท หั่วฉีหลิน (กิเลนเพลิง)
(นักแสดง ชาวจีน)
ชิงชิว (แดนจิ้งจอกเก้าหาง)
ตี๋ลี่เร่อปา
รับบท ไป๋เฟิ่งจิ่ว / เฉินกุ้ยเหริน
รับบท ไป๋เฟิ่งจิ่ว / เฉินกุ้ยเหริน
(นักแสดง ชาวจีน)
จู้ซวี่ตาน
รับบท เสวียนหนี่ว์
(นักแสดง ชาวจีน)
อวี๋เหมิงหลง
รับบท ไป๋เจิน
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
จางโย่วฮ่าว
รับบท หมีกู่
(นักแสดง ชาวจีน)
อื่นๆ
รับบท เส้าซิน
(นักแสดง ชาวจีน)
คลิปตัวอย่างและเพลงประกอบจาก Croton MEGA HIT
รวมคลิปเบื้องหลังการแสดงจาก Croton MEGA HIT
รวมคลิปเบื้องหลังการถ่ายทำจาก Croton MEGA HIT
* ดูละครย้อนหลังทาง youtube/Ch3Thailand ได้ ที่นี่
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา