วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เรื่องย่อ รักไม่ลับฉบับแฟนเกิร์ล (Her Private Life)




กำกับ: ฮง จงชาน 
เขียนบท: คิม ฮเยยอง
แนวละคร: ดราม่า, โรแมนติก, คอมเมดี้
จำนวนตอน: 16
ออกอากาศ: เกาหลี - 10 เมษายน 2562 - 30 พฤษภาคม 2562 ทางทีวีเอ็น
                      ไทย - ทุกวันเสาร์-อาทิตย์  เวลา 10.00-11.55 น. ทางช่อง 7 เอชดี (หมายเลข 35) ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 - 14 ธันวาคม 2562




เรื่องย่อ




ละคร "รักไม่ลับฉบับแฟนเกิร์ล" (Her Private Life) ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง "นูน่าแฟนดอทคอม" (누나팬닷컴) ของ "คิม ซองยอน" เนื้อหากล่าวถึงเรื่องราวของ "ซอง ต๊อกมี" ซึ่งมีโลกสองใบที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ด้านหนึ่งเธอเป็นหัวหน้าภัณฑารักษ์ประจำพิพิธภัณฑ์ศิลปะแชอุม เธอได้ชื่อว่าเป็นคนมีความรู้ความสามารถ มักทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับการทำงานและมีความเป็นมืออาชีพ แต่ภายใต้ภาพลักษณ์ที่งามสง่า น่าเชื่อถือ เธอยังมีชีวิตอีกด้านที่เป็นความลับ นั่นคืการเป็นติ่งตัวแม่สายเปย์ขง "ชา ชีอัน" หนึ่งในสมาชิกวงบอยแบนด์ "White Ocean" แถมเธยังเป็นแดมินแฟนเพจดังชื่ ""ชีอัอึน นาอึย กิล" (หรื "ชีอันคือเส้นทางของฉัน") อีกด้วย เพื่รักษาภาพลักษณ์และอาชีพการงานต๊อกมีจึงไม่าจเผยตัวตนด้านที่เป็น 'ติ่ง' (แฟนเกิร์ล) ให้โลกรู้ (ทุกคนเรียก 'ติ่ง ส่วนเธเรียกมันว่า 'ความรัก') แต่หลังถูกผอ.คนใหม่ "ไรอัน โกลด์" ล่วงรู้ความลับและจับได้ว่าเป็นติ่ง ทุกสิ่งก็เริ่มเปลี่ยนไป

เนื้อหาตอนที่หนึ่ง


ละครเปิดฉากด้วยช่วงเวลาในวัยเด็กของ "ซอง ต๊อกมี" ในตนนั้นเธยังเป็นเด็กหญิงตัวน้ยที่ชบใช้ชลก์สีละเลงลวดลายต่างๆ จนเต็มพื้นถนนและผนังกำแพง ตัดมาที่ช่วงเวลาปัจจุบัน ต๊อกมีในวัย 33 ปีซึ่งเป็นหัวหน้าภัณฑารักษ์ประจำพิพิธภัณฑ์ศิลปะแชอุม กำลังใช้พู่กันปัดเศษขนมที่เด็กชายคนหนึ่งทำหกใส่งานประติมากรรมย่างระมัดระวัง ในเวลาเดียวกันนั้นได้มีเสียงเธบรรยายว่า... "เด็กทุกคนล้วนมีความเป็นศิลปินอยู่ในตัว แต่ทว่า...ปัญหาคือจะคงความเป็นศิลปินเอาไว้ได้อย่างไรเมื่อโตขึ้น" (เป็นคำกล่าวขง "ปาโบล ปีกัสโซ"  จิตรกรเอกของโลก) 



ต๊อกมีกำลังจะทำความสะาดเศษขนมที่ร่วงยู่บนพื้น แต่ "ยู คยองอา" วิ่งหน้าตาตื่นมาแจ้งข่าวร้ายเสียก่น แม้ผลงานศิลปะที่จะนำมาจัดแสดงยังคงติดค้างที่ด่านศุลกากรเนื่งจากเครื่องบินดีเลย์ ทำให้ขมาถึงช้ากว่ากำหนดถึง 9 ชั่วโมง แต่ต๊อกมียังคงยืนกรานว่าจะเปิดนิทรรศการตามกำหนดเดิม คื เวลา 10.00 น. วันรุ่งขึ้น และนั่นก็ทำให้ทั้งเธอ คยองอา และ "คิม ยูซ็อบ" ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจในการจัดเตรียมงาน (ทาสี) ตลอดทั้งคืน ทั้งยังต้งช่วยกันติดตั้งภาพวาดบนผนัง ฯลฯ หลังจัดเตรียมทุกย่างพร้มสรรพ ต๊อกมียังต้งทำหน้าที่พิธีกรในงานเปิดนิทรรศการภาพวาดของศิลปิน "ชเว อึนฮเย" แต่คนที่ได้เครดิตและได้หน้าไปเต็มๆ คื ผอ. "ออม โซฮเย" (ศิลปินกล่าวขอบคุณผอ.ออม สำหรับความทุ่มเทและความเหนื่อยยากในการจัดเตรียมงานแสดงภาพวาดให้เธ)

ขณะทำงาน ต๊อกมีซึ่งยู่ในมาดภัณฑารักษ์มืออาชีพเหลืบมงนาฬิกาข้มือหลายครั้ง หลังหมดหน้าที่เธอก็เรียกใช้บริการพนักงานส่งเอกสาร โดยของที่ต้องการให้พนักงานไปส่งแบบเร่งด่วนคือตัวเธอเอง แถมเธอยังยอมจ่ายแพงกว่าถึงสี่เท่าเพื่อแลกกับการไปถึงที่หมายภายใน 15 นาที  ยูซ็อบเห็นต๊อกมีรีบรุดไปที่ไหนสักแห่งเลยดสงสัยไม่ได้ว่าเธจะไปไหน คยองอาเปรยว่าคนบ้างานอย่างเธอคงมีชีวิตที่น่าเบื่สุดๆ ที่แท้ต๊อกมีรีบบึ่งมาเากระเป๋าเป้และกล่องอลูมิเนียมกันกระแทกขนาดใหญ่ที่เก็บไว้ในตู้ล็คเกร์ ก่เปลี่ยนมาสวมชุดดำและอำพรางใบหน้า 



ครั้นไปถึงที่หมายเธอก็นำกล้งพร้มเลนส์ซูมพิเศษกมาจากกล่ แล้วปีนบันไดรอถ่ายรูปศิลปินในดวงใจท่ามกลางแฟนเกิร์ลจำนวนมาก (หนึ่งในนั้นคื "ซินดี้") ทันทีที่วง "White Ocean" มาถึง ต๊อกมีก็กระหน่ำถ่ายรูปนักร้งหนุ่มวัย 23 ปี "ชา ชีอัน" และยิ้มย่างมีความสุข หลังจากนั้นต๊อกมีก็เข้าไปชมการแสดงขงวง White Ocean ทั้งยังร่วมร้งร่วมเต้นกับแฟนเกิร์ลคนอื่นๆ โดยที่ยังคงสวมหมวกและแมสก์ปิดบังใบหน้า ครั้นชีอันดื่มน้ำเกือบหมดแล้วโยนขวดให้แฟนๆ สายตาทุกคู่ที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างจับจ้องไปที่ขวดน้ำและพากันยื่นแขนไขว่คว้า ต๊อกมีจ้งขวดน้ำที่กำลังลยละลิ่วไม่วางตา ก่นดีดตัวขึ้นเหนืคนอื่นแล้วคว้าขวดพลาสติกมาครงได้สำเร็จ 


คืนนั้นต๊อกมีนำขวดน้ำของชีอันมาตั้งโชว์ในตู้คล้ายจัดแสดงงานศิลปะแล้วยืนมองอย่างชื่นชม ปรากฏว่าทุกซอกทุกมุมในห้องเธอล้วนมีแต่รูป สินค้า และของที่ระลึกเกี่ยวกับชีอัน หลังพบว่ามียอดคนกดไลค์รูปชีอัน (ที่เธอถ่ายและโพสต์ลงในโลกโซเชียล) นับพันไลค์ ต๊อกมีก็รู้สึกพอใจ เธอไล่ดูภาพชีอันพลางชมว่าเขาน่ารักและหัวเราคิกคักอย่างมีความสุข เธอรู้สึกเสียดายที่ไม่อาจทำอะไรเพื่อเขาได้มากกว่านี้ ทั้งหมดที่ทำได้มีเพียงการบอกให้รู้ว่าเธอชอบเขา เธอคิดว่าอย่างน้อยก็ควรมอบของดีๆ สักชิ้นเป็นของขวัญวันเกิดชีอันในปีนี้ แต่แล้วกลับพบว่าแฟนเกิร์ลที่ชื่อ "ซินดี้" โพสต์รูปเสื้อ (ที่เธอหมายตาว่าจะซื้อให้ชีอัน) พร้อมข้อความ Happy Birthday ซ้ำยังใส่แฮชแท็ก "#ของขวัญเกิดชีอัน #รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น #แบรนด์หรู" เธอเลยจำต้องหาอย่างอื่นมาเป็นของขวัญวันเกิดชีอันแทน

ขณะคิดไม่ตกว่าจะซื้ออะไรเป็นของขวัญให้ชีอัน เธอก็เห็นคลิปที่ชีอันเล่าว่า ผู้ปกครองของเขาสนใจงานศิลปะมาก เขาจึงถูกรายล้อมด้วยงานศิลปะตั้งแต่เด็ก  พอหาเลี้ยงตัวเองได้เขาเลยเริ่มสะสมงานศิลปะในสไตล์ที่ตนชื่นชอบ หลังจากนั้นชีอันก็อวดคอลเลคชั่นภาพวาดของตน ก่อนพาคนดูไปดูภาพฟองสบู่ซึ่งวาดโดยศิลปินที่ชื่อ "ลีซล" พลางบอกว่าเขาหลงรักภาพนี้ตั้งแต่แรกเห็น และนี่ก็เป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นภาพวาดชุดฟองสบู่ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพียงไม่กี่ภาพ ต๊อกมีเห็นชีอันพูดถึงภาพดังกล่าวอย่างมีความสุขจึงตั้งใจว่าจะหาซื้อภาพฟองสบู่ที่วาดโดยลีซลมาเป็นของขวัญวันเกิดชีอันให้ได้


ณ อพาร์ตเมนท์หรูกลางกรุงนิวยอร์ก ซึ่งภายในห้องเต็มไปด้วยภาพวาดที่วางเรียงรายบนพื้น แต่กลับมีภาพๆ หนึ่งถูกใส่กรอบและตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนชั้นวาง นั่นคือภาพฟองสบู่ที่วาดโดยลีซล ครั้นมีสายเรียกเข้า ชายคนหนึ่งก็เดินมาหยิบโทรศัพท์แล้วออกจากห้องไปทันที ที่แท้เขาคือ "ไรอัน โกลด์" ที่เหล่าผอ.แกลลอรี่และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ตลอดจนบรรดานักสะสม กำลังรอให้เขามาประเมินภาพวาดศิลปินหน้าใหม่ ณ แกลลอรี่จัดแสดงภาพวาดศิลปินดาวรุ่งในกรุงนิวยอร์ก (ทุนคนมารวมตัวกันเพราะได้ยินว่าไรอันจะมาดูรูปวันนี้) ทันทีที่มาถึงไรอันก็ขอดูภาพโดยไม่ยอมจับมือทักทายกับหนึ่งในผู้มาที่มารอ

หญิงสาวคนหนึ่งเพิ่งมานิวยอร์กครั้งแรกเลยสงสัยว่าทุกคนกำลังทำอะไรกัน ชายคนหนึ่งอธิบายว่าทุกคนมารอดูท่าทีของไรอัน หากเขาหยุดดูภาพหนึ่งวินาทีแสดงว่าภาพห่วย หยุดดูสองวินาทีแสดงว่าใช้ได้ หยุดดูสามวินาทีจัดว่าดี มีเพียงครั้งเดียวที่เขาหยุดดูภาพหนึ่งนานถึง 5 วินาที เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ปัจจุบันเจ้าของภาพวาดนั้นกลายเป็นจิตรกรชื่อดัง ครั้นเห็นไรอันหยุดดูภาพๆ หนึ่งแล้วยิ้ม หญิงสาวคนดังกล่าวจึงสงสัยว่าหมายความอย่างไร ชายคนเดิมตอบหน้าตาตื่นว่า ไร้พรสวรรค์ ไร้อนาคต นั่นคือรอยยิ้มของปีศาจ ที่แท้เจ้าของภาพวาดคือชายคนดังกล่าวนั่นเอง หญิงสาวคนหนึ่งชื่นชอบผลงานของไรอันจึงเข้าไปขอลายเซ็นพลางถามว่าเมื่อไหร่เธอจะได้พบเขาในฐานะศิลปินอีก เขาจะเริ่มวาดภาพใหม่อีกครั้งใช่ไหม ไรอันได้ยินแล้วชะงักไปชั่วขณะ เขาเซ็นชื่อและยิ้มให้เธอแต่ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ


หลังจากนั้นไรอันก็ไปหาเพื่อนที่เป็นจิตแพทย์ เพื่อนของเขาวินิจฉัยว่า เขามีอาการของโรค "Stendhal Syndrome" (หรือ "ฟลอเรนซ์ ซินโดรม") ซึ่งเป็นอาการทางด้านจิตใจที่เกิดขึ้นกระทันหันเมื่อได้เห็นงานศิลปะหรือสิ่งต่างๆ ที่สวยตะลึง ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว สับสน หน้ามืด อ่อนแรง ประสาทหลอน ฯลฯ ขณะที่เพื่อนอ่านข้อมูลเกี่ยวกับโรคดังกล่าวให้ฟังอย่างตั้งใจ ไรอันก็แก้เซ็งด้วยการปาลูกเทนนิสใส่ผนังเล่น โดยไม่สนว่าบริเวณนั้นมีงานศิลปะวางตั้งอยู่บนโต๊ะ ในตอนแรกเพื่อนเขาพยายามอดทน แต่พอไรอันเล่นไม่เลิกเขาเลยลุกไปยืนขวางเพราะกลัวภาพวาดที่ตนเพิ่งซื้อมาหมาดๆ  เสียหาย จากนั้นก็ถามไรอันว่ารู้มั๊ยภาพนี้ราคา (ตั้ง) เท่าไหร่ ครั้นไรอันตอบถูกเป๊ะๆ ว่า 89.99 เหรียญ (ราว 2.7 พันบาท) เขาก็ถึงกับอึ้ง แต่ที่ทำให้เขาอึ้งกว่าคือการที่ไรอันบอกว่าต้นทุนภาพนี้อาจอยู่ที่ประมาณ 12 เหรียญ (ราว 364 บาท) ไรอันถามว่าเขาซื้อภาพนี้เพราะชอบหรือเห็นว่าราคาถูกกันแน่ เขายืนยันว่าตนชอบภาพนี้จริงๆ จากนั้นก็ยกรูปลงมาวางตั้งที่พื้นเพราะกลัวไรอันปาลูกเทนนิสใส่

เพื่อนไรอันชี้ว่า สาเหตุที่ตนวินิจฉัยว่าไรอันเป็นโรค "Stendhal Syndrome" เพราะหลังเห็นภาพฟองสบู่ ไรอันไม่เพียงไม่สามารถวาดภาพได้อีก แต่เขาไม่อาจถือพู่กันได้เลยด้วยซ้ำ ไรอันกล่าวว่าตลอดสามปีที่ผ่านมา ตนพยายามทำทุกอย่างทั้งปรึกษาจิตแพทย์ รักษาโดยการใช้ยาและการสะกดจิต แต่ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น ครั้นเพื่อนถามว่าหาภาพวาดอื่นๆ (ของศิลปินที่ใช้ชื่อว่า "ลีซล") เจอแล้วหรือยัง ไรอันจึงบอก (พลางปาลูกเทนนิสอัดข้างฝาไม่เลิก) ว่าอยู่ที่นักร้องเคป็อปชื่อ "ชา ชีอัน" ภาพหนึ่ง เพื่อนไรอันหมดปัญญารักษาจึงแนะ (ไล่) ให้ไรอันไปขอดูภาพดังกล่าวจากชีอัน ไม่ก็ไปตามหาภาพอื่นๆ หรือสืบหาต้นตอว่าใครเป็นคนวาดแทนที่จะมาป่วนตน ไรอันได้ยินเพื่อนออกเสียงชื่อตนผิดจึงติงเพื่อนก่อนจากไปว่าชื่อตนคือ "ไรอัน" ไม่ใช่ "ไลอัน" (แปลว่า "สิงโต" หรือ "ไลอ้อน" ที่ตามสำเนียงไทย)  


ผอ.ออมเปิดดูข้อมูลและผลงานภาพวาดของศิลปินหน้าใหม่ "คิม มินฮยอก" ที่ต๊อกมีนำเสนอ พลางตำหนิต๊อกมีที่หายตัวไปหลังเสร็จสิ้นการถ่ายภาพแขกวีไอพี ต๊อกมีปิดบังเรื่องที่เธอเป็นติ่งนักร้องจึงบอกว่าเธออุปการะเด็กชายคนหนึ่งเลยต้องรีบกลับไปร่วมกิจกรรมของน้อง และที่ผ่านมาเธอก็คอยดูแลเด็กคนนี้มาโดยตลอด ผอ.ออมถามว่าเพราะใจบุญแบบนี้ต๊อกมีเลยพยายามเสนอให้ตนจัดแสดงผลงานของศิลปินใหม่ใช่ไหม ผอ.ออมปฏิเสธแนวคิดของต๊อกมีโดยให้เหตุผลว่าศิลปินใหม่ต่อให้ฝีมือดีแค่ไหนก็ไม่ดึงดูดผู้คนและไม่ทำเงิน เธอต้องการจัดแสดงผลงานของศิลปินดังมากกว่าศิลปินใหม่ที่มีแวว กระแสตอบรับมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เธอบอกให้ต็อกมีเลิกสนใจศิลปินไร้ราคา และสั่งให้ต็อกมีไปซื้อผลงานทั้งหมดของศิลปินดังที่ชื่อ "อีวานอฟ" มาจัดแสดง



ต๊อกมีแวะไปบอกทางบ้านว่าเธอต้องเดินทางไปประมูลงานศิลปะที่เมืองนอก "โก ยองซุก" (แม่ต๊อกมี) ทักท้วงว่าก่อนหน้านี้ต๊อกมีเคยบอกว่างานจะไม่ยุ่งหลังเปิดนิทรรศการ และถามว่าต๊อกมีคงไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างในการตามไปติ่งนักร้องใช่ไหม  ต๊อกมีแย้งว่าตนไม่ว่างขนาดนั้น เธอพยายามเปลี่ยนเรื่องด้วยการชมซุปกิมจิฝีมือแม่  แต่ยองซุกไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ ซ้ำยังขู่ว่าหากตนจับได้คาหนังคาเขาว่าต๊อกมียังไม่เลิกเป็นติ่ง ตนจะกล้อนผมต๊อกมีและนักร้องหนุ่มคนนั้น ต๊อกมีแย้งว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ยองซุกสวนทันควันว่าผิดเห็นๆ ก่อนชี้ว่าต๊อกมีเคยแขนหักขณะตามกรี๊ดนักร้องที่ตนเองคลั่งไคล้สมัยเรียนมัธยมปลาย หากตอนนั้นต๊อกมีได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย พวกตนคงมีปัญญาส่งต๊อกมีไปเรียนเมืองนอกก่อนที่ครอบครัวจะถังแตก ทุกวันนี้ต๊อกมีไม่ได้เป็นศิลปินเพราะมัวแต่เป็นติ่งบ้าบอ

ต๊อกมีโทษว่าพ่อกับแม่นั่นแหล่ะทำให้เธอเป็นแบบนี้ ยองซุกแย้งว่าตนไม่เคยส่งต๊อกมีไปเรียนวิชาติ่งสักหน่อย ต๊อกมีกล่าวว่าวิถีติ่งเป็นอะไรที่ถูกส่งต่อผ่านทางสายเลือด ติ่งของแท้ต้องเป็นกันตั้งแต่เกิด ไม่ใช่เพิ่งเป็น เธอได้เลือดพ่อแม่มาเต็มๆ เลยเป็นติ่งตัวแม่ จากนั้นก็ชี้ว่าตั้งแต่จำความได้เธอเห็นแม่คลั่งถักนิตติ้งและโครเชต์ไม่เลิก ทำให้ทั้งบ้านเต็มไปด้วยงานถักฝีมือแม่ ส่วน "ซอง กึนโฮ" ผู้เป็นพ่อก็คลั่งสะสมหินไม่ยอมเลิกรา วันๆ ไม่พูดไม่จาได้แต่นั่งหลบมุมขัดหิน แม้ไม่ตรวจดีเอ็นเอก็ฟันธงได้เลยว่าเธอเป็นลูกสาวพ่อกับแม่แน่นอน ยองซุกได้ยินแล้วอดบ่นสามีไม่ได้ที่ทำตัวเหมือนก้อนหินเข้าทุกวัน ซ้ำยังชอบเก็บหินกลับบ้าน ครั้นต๊อกมีขอตัวกลับที่พัก ยองซุกก็ขนเครื่องเคียงมาให้เป็นตั้งแล้วบอกให้เธอนำกลับไปด้วย พอต๊อกมีบ่นว่าหนักยองซุกเลยอาสาถือไปส่งที่ห้องพัก ต๊อกมีไม่อยากให้แม่ไปส่งเลยใช้ให้ "นัม อึนกี" ไปส่งตนแทน  (เขาเป็นนักยูโดเจ้าขงเหรียญเงินโอลิมปิก ายุ 33 ปีเท่ากับต๊อกมี เป็นลูกบญธรรมที่ถูกนำมาเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กดุจเป็นฝาแฝดขต๊อกมี) 


อึนกีรู้ว่าต๊อกมีย้ายมาอยู่ตามลำพังเพื่อจะได้ใช้ชีวิตตามวิถีติ่งได้โดยสะดวก เขาจึงเตือนว่าถ้าแม่รู้เธอตายแน่ (เขาเรียกเธอว่า "ซองต๊อก") ต๊อกมีเชื่อว่าแม่คงไม่ทำอะไรโหดๆ เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นลูก แต่อึนกีจำได้แม่นว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อนต๊อกมีเคยโดนแม่กล้อนผมตอนตีสองหลังถูกจับได้ว่ามัวตามไปติ่งนักร้อง ต๊อกมีรู้สึกแปลกใจที่อึนกีกดรหัสปลดล็อคประตูถูก อึนกีชี้ว่าเดาง่ายจะตาย ถ้าไม่ใช่วันเกิดชีอันก็ต้องเป็นวันที่เขาเดบิวต์ ครั้นเข้าไปในห้องมืดๆ แล้วเห็นเงาตะคุ่มๆ ตรงหน้า อึนกีก็ฟาดแขนออกไปโดยอัตโนมัติด้วยความตกใจ พอเปิดไฟแล้วพบว่าอึนกีทำสแตนดี้รูปชีอันคอหัก ต๊อกมีก็โวยลั่นและประณามว่าเขาเป็นฆาตกร หลังจัดเครื่องเคียงใส่ตู้เย็นให้ต๊อกมีแล้วอึนกีก็ขอตัวกลับ เขาเป็นห่วงเธอที่อยู่ห้องพักเพียงลำพังเลยจงใจทิ้งรองเท้าตนไว้ที่หน้าประตูเคียงคู่รองเท้าส้นสูงของต๊อกมี แล้วสวมรองเท้าสลิปเปอร์ (รองเท้าสำหรับสวมใส่ในบ้าน) กลับบ้านแทน



ไรอันซึ่งอยู่ในนิวยอร์กพบว่าหนึ่งในภาพวาดชุดฟองสบู่กำลังจะถูกนำออกประมูลที่เมืองจีนจึงตัดสินใจบินไปที่เซี่ยงไฮ้ทันที ขณะที่ต๊อกมีเองก็บินไปเซี่ยงไฮ้เพื่อประมูลภาพวาดทั้งหมดของศิลปินที่ชื่อ "อีวานอฟ" ตามคำสั่งของผอ.ออม บังเอิญว่าทั้งคู่นั่งอยู่ใกล้ๆ กัน ครั้นหันไปมองไรอันแล้วพบว่าเขามีหน้าตาละม้ายคล้ายชีอันเธอเลยอดหันไปมองบ่อยๆ พลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ได้ ไรอันรู้ตัวว่ากำลังถูกหญิงสาวที่เพิ่งชนะประมูลภาพวาดศิลปินดังจ้องมองหลายครั้ง เขาเลยประชดด้วยการเปรยว่า "สร้างสรรค์ขึ้นในปี 1987 (ปีเกิด) ลายเส้นประณีต ลักษณะใบหน้ามีความสมดุล อัตราส่วนที่สมบูรณ์แบบคือลักษณะเฉพาะตัว ผลงานชิ้นนี้มีชื่อว่า...ไรอัน โกลด์" ตอนแรกต๊อกมีนึกว่าเขากำลังพูดถึงภาพวาด แต่พอรู้ว่าเขากำลังบรรยายสรรพคุณตัวเองเธอก็ถึงกับอึ้ง  แถมเขายังหันมาจ้องหน้าเธอและถามว่า "อยากได้ไหม" ครั้นต๊อกมีตอบทันควันว่า 'ไม่' ไรอันจึงเหน็บว่า เห็นเธอจ้องตาเป็นมันตนเลยนึกว่าอยากได้ ต๊อกมีเมินหน้าหนีแล้วแอบบ่น "ท่าจะเพี้ยน"



ต๊อกมีนึกไม่ถึงว่าหนึ่งในคอลเลคชั่นภาพวาดชุดฟองสบู่ของศิลปินที่ชื่อลีซลจะถูกนำมาประมูลในงานนี้ด้วย เธอนึกถึงคลิปที่ชีอันบอกว่าเขาหลงรักภาพฟองสบู่ของศิลปินที่ชื่อลีซลตั้งแต่แรกเห็น และหมายมั่นว่าจะต้องนำภาพนี้กลับไปเป็นของขวัญวันเกิดชีอันให้ได้ ขณะที่ไรอันเองก็ตั้งใจเดินทางมาที่นี่เพื่อประมูลภาพนี้เช่นกัน หลังคำนวณยอดเงินในกองทุนเพื่อของขวัญวันเกิดชีอัน (ซึ่งเหล่าแฟนเกิร์ลของชีอันร่วมลงขันสมทบ) แล้วพบว่ามีงบฯ ทั้งสิ้น 30 ล้านวอน หรือประมาณ 27,000 เหรียญสหรัฐ (กว่าแปดแสนบาท)  ต๊อกมีจึงคิดที่จะใช้เงินทั้งหมดเพื่อการนี้ เมื่อการประมูลภาพฟองสบู่เริ่มต้นขึ้นที่ราคา 10,000 เหรียญสหรัฐ ต๊อกมีกับไรอันก็แข่งกันประมูลภาพดังกล่าวอย่างดุเดือดจนราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ครั้นราคาประมูลพุ่งทะลุ 27,000 เหรียญสหรัฐ ต๊อกมียังคงไม่ยอมแพ้และคิดที่จะนำเงินส่วนตัวทั้งหมดที่มีมาสมทบ ถึงกระนั้นราคาประมูลก็ยังพุ่งไม่หยุดเพราะไรอันไม่ยอมแพ้ แต่ทว่าราคาสุดท้ายที่ต๊อกมีเสนอได้ (หลังทุ่มจนหมดตัว) คือ  29,000 เหรียญสหรัฐ เธอจึงได้แต่ภาวนาให้ไรอันยอมถอย ปรากฏว่าไรอันยังคงสู้ต่อ เขาจึงคว้าภาพไปครองด้วยสนนราคา 30,000 เหรียญสหรัฐ



หลังชนะการประมูลภาพที่ต้องการ ไรอันก็เดินออกจากห้องทันที ต๊อกมีเห็นดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นพลางร้องเรียก เธอจะวิ่งตามเขาแต่ดันสะดุดล้มลงบนเก้าอี้เสียก่อน ท่าทางของเธอที่พยายามเหนี่ยวรั้งเขาบังเอิญเหมือนภาพถัดไปที่ถูกนำออกประมูล แถมภาพดังกล่าวยังมีชื่อว่า "Poor Love" อีกด้วย ต๊อกมียังคงไม่ยอมแพ้จึงรีบวิ่งไปหาไรอันหมายขอให้เขาถอนตัวจากการประมูล ไรอันถามว่าเธอเพิ่งเข้าร่วมการประมูลครั้งแรกใช่ไหม (ถึงไม่ทราบกฏเกณฑ์และกล้าขอร้องเขาเช่นนั้น) ต๊อกมีอ้างว่าการทำเช่นนั้นจะเป็นผลดีกับตัวเขาเอง เธอเดาว่าเขาคงเห็นเธอชนะการประมูลภาพวาดศิลปินดัง เลยคิดว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีรสนิยมเป็นเลิศจึงคิดประมูลภาพวาดตามเธอ แต่ความจริงแล้วผลงานของลีซลไม่.... ต๊อกมีพูดยังไม่ทันจบไรอันก็สวนขึ้นว่า เธอประเมินภาพวาดจากชื่อเสียงหรือคุณค่าทางศิลปะกันแน่ ต๊อกมีชี้ว่าราคาที่เขาเสนอสูงเกินไปเมื่อเทียบกับคุณค่าของผลงาน เธอมาประมูลภาพวาดตามคำขอของลูกค้าจึงหวังว่าเขาจะเห็นใจ

ไรอันถามต๊อกมีว่านอกจากเรื่องราคาแล้ว เธอรู้จัก "อีวานอฟ" เจ้าของผลงานที่เพิ่งกว้านซื้อดีแค่ไหน ต๊อกมีชี้ว่าเธอทำงานในวงการศิลปะ ไรอันรู้ว่าต๊อกมีซื้อภาพวาดทั้งที่ไม่รู้ข้อมูลศิลปินจึงสวนทันควันว่า อีวานอฟมีอาการมือสั่นขั้นรุนแรงเพราะโรคพิษสุราเรื้อรังนับตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน และชี้ว่าเธอซื้อภาพวาดคุณภาพต่ำจากจิตรกรที่สูญเสียความสามารถในการจับพู่กันเพียงเพราะยึดติดในชื่อเสียงของเขา ไรอันยังบอกด้วยว่ามันไม่ยากเลยที่จะพล่ามถึงคุณค่าของผลงานด้วยการหยิบยกเพียงชื่อเสียง (ของศิลปิน) และราคามากล่าวอ้าง แต่การตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของงานศิลปะไม่ใช่สิ่งที่ใครก็สามารถทำได้ พูดจบเขาก็ยิ้มที่มุมปากแล้วเดินจากไป

ในที่สุดต๊อกมีก็ต้องบินกลับเกาหลีด้วยความผิดหวัง ครั้นไปถึงที่ทำงานแล้วเห็นผอ.ออมถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเธอก็รู้สึกตกใจ แต่ยังไม่ทันรู้เรื่องรู้ราวอะไรเธอก็ถูกเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการประจำกรุงโซลต้อนขึ้นรถ ในเวลาเดียวกันนั้นสถานีโทรทัศน์ได้รายงานข่าวด่วนว่า "ผอ. ออม โซฮเย ภรรยาประธานคิม มุนซอน แห่งทีเคกรุ๊ป (ซึ่งถูกจับด้วยข้อหาทุจริตและยักยอกเงิน) ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมในการก่อตั้งกองทุนโคลน (กองทุนลับสำหรับทำเรื่องทุจริตผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดสินบนเจ้าหน้าที่) โดยเมื่อเช้านี้หน่วยปฏิบัติการพิเศษแห่งสำนักงานอัยการประจำกรุงโซลได้บุกตรวจค้นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแชอุมซึ่งเป็นบริษัทในเครือทีเคกรุ๊ป และได้ควบคุมตัวผอ. ออม โซฮเยมาสอบสวนโดยยังไม่ได้ออกหมายจับ ซึ่งทางอัยการได้สืบสวนเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2014"


หลังโดนสอบสวนมาตลอดทั้งวันในที่สุดต๊อกมีก็ถูกปล่อยตัวกลางดึก ครั้นกลับถึงห้องพักก็พบว่า "ลี ซอนจู" (เพื่อนรักที่เป็นติ่งชีอันเช่นกัน) มานอนรออยู่ในห้องหมายช่วยปลอบโยนและให้กำลังใจเธอ ต๊อกมีคว้ามือเพื่อนพลางกล่าวทั้งน้ำตาว่า งานในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เธอชอบมากที่สุดคือการแขวนผลงานในห้องจัดแสดง พอแขวนแล้วจะมีคนเข้ามาดูและรู้สึกตื้นตันใจหลังได้ชมงานศิลปะที่เธอแขวนเองกับมือ นึกไม่ถึงว่าผลงานที่เธอแขวนด้วยความภาคภูมิใจจะถูกนำมาหารายได้เข้ากองทุนลับ แทนที่จะถูกนำมาจรรโลงใจผู้คน เสียแรงที่เธอสู้อุตส่าห์ทุ่มเททำงานอย่างหนักเหมือนคนบ้า ปัญหาก็คือหากรู้เห็นทุกสิ่งอย่างตั้งแต่ต้นเธอจะถอนตัวจากงานที่ทำอยู่ไหม เธอจะทำเช่นนั้นได้รึเปล่า  เธอไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองทำอะไรลงไป ซอนจูเห็นเพื่อนร้องไห้เลยช่วยปลอบใจและบอกว่าไม่ใช่ความผิดของต๊อกมี


เช้าวันรุ่งขึ้นต๊อกมีนั่งยิ้มหน้าบานในร้านกาแฟ "CocoMoco" ของซอนจู "จูฮยอก" เห็นต๊อกมีนั่งยิ้มหวานต่อหน้าชายคนหนึ่งจึงถามซอนจูผู้เป็นเจ้านายว่าต๊อกมีกำลังนัดบอดอยู่หรือ ซอนจูแย้งว่าเพื่อนตนไม่นัดพบผู้ชายในชีวิตจริง ผู้ชายเพียงคนเดียวที่นางเดทด้วยอยู่ในจอโทรศัพท์และมอนิเตอร์ของนาง ซอนจูชี้ว่าต๊อกมีไม่ได้กำลังนัดบอดเพราะหากเป็นเช่นนั้นคงไม่กล้ามาที่ร้านตน ใครจะทำเช่นนั้น (นัดบอด) ก็ทำไป แต่ต้องไม่ใช่เพื่อนของเธอ จูฮยอกเห็นซอนจูหวงเพื่อนเลยแย้งว่าซอนจูแต่งงานและมีลูกแล้ว ซอนจูโวยว่าเธอจำใจแต่งงานเพราะตั้งท้องต่างหาก ที่แท้ต๊อกมีกำลังถูกทาบทามให้มารับตำแหน่งหัวหน้าทีมแบรนด์มาร์เก็ตติ้งที่จีเอ็นกรุ๊ป  และคนที่เสนอตำแหน่งนี้ให้เธอคือภรรยาของประธานจีเอ็นกรุ๊ป (ซึ่งเคยทะเลาะกับผอ.ออมถึงขั้นจิกหัวตีกันต่อหน้าเธอมาแล้ว) ครั้นรู้ว่าบริษัทนี้มีนโยบายไม่ให้พนักงานทำงานล่วงเวลา แถมเวลางานยังยืดหยุดขอเพียงทำงานที่ออฟฟิศให้ครบ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ต๊อกมีแทบอยากลาออกจากที่เดิมเดี๋ยวนั้น เพราะนั่นหมายความว่าเธอจะมีเวลาให้ชีอันมากขึ้นและจะได้เป็นติ่งเต็มตัว



ในที่สุดต๊อกมีก็ไปพบผอ.ออมเพื่อขอลาออก ผอ.ออมถามว่าต๊อกมีทำงานให้ตนมานานกี่ปี ต๊อกมีชี้ว่าในช่วงสองเดือนแรกหลังเปิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะแชอุม ผอ.ออมไล่ภัณฑารักษ์ออกราว 12 คน ครั้นไม่มีคนมาสมัครงาน ผอ.ออมจึงให้ตนมารับหน้าที่ดังกล่าว ตนเหมางานทั้งหมดมานานห้าปีแล้ว ผอ.ออมยอมรับว่าที่ผ่านมาต๊อกมีทุ่มเททำงานอย่างหนัก ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแชอุมยังคงยืนหยัดตราบจนทุกวันนี้เป็นเพราะต๊อกมีล้วนๆ ต๊อกมีลงแรงทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเลย์เอาท์และคำบรรยายผลงานทุกชิ้น นอกจากนี้เธอยังทาสีผนังและติดตั้งหลอดไฟทุกดวงด้วยตัวเอง เรียกได้ว่ามีส่วนร่วมทุกสิ่งแม้เพียงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ผอ.ออมกล่าวว่าตนเปิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้เพราะเบื่อฟังสามีลำเลิกว่าตนเองเป็นเสาหลัก ดังนั้นตนจะไปรู้อะไร ถ้าไม่ได้ต๊อกมีคอยช่วย พิพิธภัณฑ์ศิลปะแชอุมคงปิดตัวไปนานแล้ว

ต๊อกมีจะวกเข้าเรื่องขอลาออก แต่ผอ.ออมชิงบอกว่าเธอจะลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการเพราะสามีเธอกำลังจะติดคุก ที่เธอยอมลงจากตำแหน่งง่ายๆ เป็นเพราะวางใจว่าต๊อกมีจะดูแลพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้เป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นเธอคงตัดสินใจปิดที่นี่ไปแล้ว เธอให้ต๊อกมีลองเดาว่าใครกันที่เหมาะสมกับตำแหน่งผู้อำนวยการมากที่สุด จากนั้นก็บอกใบ้ว่าคนที่เธออยากให้เป็นผู้อำนวยการต้องรักพิพิธภัณฑ์ศิลปะแชอุมเช่นเดียวกับตน และเป็นคนที่อยู่ที่นี่มาตั้งแต่แรกเริ่ม  ต๊อกมีเห็นว่าตนมีคุณสมบัติตรงเป๊ะจึงเริ่มฝันเฟื่องและเปลี่ยนใจไม่ลาออก

ต๊อกมีอวดซอนจูว่าเธอกำลังจะได้เป็นผู้อำนวยการ แต่ซอนจูไม่เห็นด้วยและแนะให้เธอเปลี่ยนงานใหม่ด้วยเห็นว่างานที่นั่นหนักเกินไป ซ้ำกำลังเป็นข่าวฉาว ครั้นต๊อกมี (ซึ่งอยู่ในโหมดติ่ง) ยืนกรานว่าจะทำงานที่เดิมโดยให้เหตุผลว่าเธอต้องการกอบกู้ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแชอุมกลับคืนมา ซอนจูจึงยอมแพ้และเปลี่ยนมาคุยเรื่องชีอันแทน ในตอนนั้นต๊อกมีกำลังเตรียมข้าวของและอุปกรณ์ก่อนไปรับชีอันที่สนามบิน ครั้นเห็นสมุดบันทึกที่ต๊อกมีเขียนเกี่ยวกับชีอัน ซอนจูก็รู้สึกทึ่งที่ต๊อกมีติ่งจริงจังทั้งที่ไม่ได้ค่าตอบแทนในความทุ่มเท เธอแนะให้ต๊อกมีเลิกสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าเพื่อที่ชีอันจะได้จำหน้าเธอได้ ต๊อกมีชี้ว่าเธอไม่อยากให้ชีอันจดจำเธอในฐานะแฟนคลับทั่วไป สักวันพวกตนต้องได้พบกันในฐานะมืออาชีพทั้งคู่และมีชะตาที่เกี่ยวพันกัน



ขณะที่เหล่าแฟนเกิร์ลกำลังปักหลักรชีอันที่สนามบิน เด็กสาวคนหนึ่งเห็นภาพถ่ายชีอันขณะอยู่ที่สนามบินในกรุงนิวยอร์ก (กำลังเดินทางกลับเกาหลี) ถูกโพสต์ลงบนเพจของ "ซินดี้" แล้วไม่ค่อยปลื้ม เธรู้สึกว่าซินดี้ชบล้ำเส้นราวกับเป็นสตอล์คเกอร์ (โรคจิตชอบติดตาม) มากกว่าแฟนเกิร์ล คราวนี้ถึงขั้นเดินทางไปนิวยอร์กเพื่อจะได้บินกลับบนเครื่องบินลำเดียวกัน (ปรากฎว่าขณะยู่บนเครื่งบินซินดี้ยังคงพยายามแอบถ่ายชีอันไม่เลิก ทั้งหมดล้วนอยู่ในสายตาของไรอันซึ่งเดินทางไฟลต์เดียวกัน ครั้นเห็นว่าคนดังที่ถูกแอบถ่ายคือชีอันเขาจึงนำหนังสือพิมพ์มาปิดบังใบหน้าตัวเอง) เด็กสาวอีกคนฟันธงว่าชีอันจะต้งชบ "ชีอัอึน นาอึย กิล(ชื่อแฟนเพจที่ต๊อกมีสร้างขึ้นและเป็น "ฮมมา" หรือ "แอดมิน"มากกว่า  เด็กสาวคนเดิมเห็นด้วยจึงกล่าวว่าถ้าไม่ได้เพจ "ชีอัอึน นาอึย กิล" ช่วยดัน ชีอันคงไม่ดังขนาดนี้ ก่ชีอันเดบิวต์แดมินเพจดังกล่าวได้นำคลิปที่ตนเงถ่ายไว้มาโพสต์ ซ้ำยังทำซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษให้ด้วย แถมเพจที่ว่ายังทำให้าหารยี่ห้ชีอักลายเป็นกระแสและขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เธอจะไม่ว่าะไรเลยหากชีอันต้งการพบ "ชีอัอึน นาอึย กิล" เป็นการส่วนตัว




ต๊อกมีเดินสำรวจรอบอาคารผู้โดยสารขาเข้าเพื่อประเมินว่าชีอันจะเดินออกมาจากประตูไหน ครั้นเห็นบอดี้การ์ดนอกเครื่องแบบมารอรับชีอันในจุดที่ไม่ค่อยมีคน เธอก็รู้ว่าชีอันจะไม่ใช้ประตูหลัก หลังจากนั้นต๊อกมีก็เดินแบกบันไดไปหาทำเลเหมาะๆ เพื่อจะได้ถ่ายภาพชีอันในมุมมองที่ไม่ซ้ำใคร (เธอเป็นคนเดียวที่ปักหลักรอถ่ายภาพในบริเวณดังกล่าว) ในที่สุดชีอันก็เดินออกมาจากประตูที่ต๊อกมีเล็งไว้จริงๆ เธอจึงเป็นคนเดียวที่ได้ภาพในมุมดังกล่าว แต่แล้วอยู่ๆ ไรอันก็เดินมาบังชีอันซะงั้น ต๊อกมีจึงรีบปีนบันไดแต่ชีอันเดินเลี้ยวไปทางอื่นแล้ว ครั้นเหล่าแฟนเกิร์ลหันไปเห็นชีอันจึงพากันวิ่งตามไป ไรอันเห็นกองทัพแฟนคลับของชีอันวิ่งกรูเข้ามาหาตนก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เขาถูกเบียดจนเสียหลักล้มไปชนต๊อกมีที่ยืนถ่ายรูปอยู่บนบันได

ต๊อกมีจะหงายหลังเลยคว้าแขนไรอันไว้ทำให้สูทของเขาขาด หลังจากนั้นเธอก็ล้มลงไปนอนหงายเงิบแต่สองมือยังคงจับกล้องแน่น พอเห็นว่ากล้องราคาแพงไม่บุบสลายเธอก็รู้สึกโล่งใจ ครั้นลุกขึ้นต๊อกมีถึงได้รู้ตัวว่าเธอล้มทับชายคนหนึ่ง (ตอนพยุงตัวลุกขึ้นมือเธอกดลงบนหัวของไรอัน) ไรอันซึ่งนอนแบนอยู่บนพื้นลุกขึ้นยืนอย่างหัวเสีย ต็อกมีเห็นแขนเสื้อบริเวณไหล่ของเขามีรอยปริขาดเลยช่วยขยับให้เข้าที่เข้าทางแต่ถูกไรอันผลักกระเด็นจนกล้องเกือบหลุดมือ ครั้นต๊อกมีโวยว่าเขาเกือบทำกล้องเธอพัง ไรอันก็โวยกลับว่าเธอทำเสื้อสูทของเขาขาด ทั้งยังเหน็บว่ากล้องนั่นมีประสิทธิภาพสูงเกินไปสำหรับการนำมาใช้เพียงเพื่อถ่ายภาพคนไร้น้ำยา ต๊อกมีได้ยินแล้วของขึ้นจึงถามว่าเธอเป็นคนผิดทำไมต้องว่ากระทบถึงคนอื่นด้วย ไรอันเหน็บว่าถ้าเธอมารยาทดีขนาดนั้นทำไมถึงกล่าวคำขอโทษยากเย็นนัก ต๊อกมียอมขอโทษแต่โดยดี  ไรอันอยากเห็นใบหน้าของคนที่กำลังขอโทษตนจึงคิดที่จะถอดหน้ากากของต๊อกมีออก ต๊อกมีร้องห้ามสุดเสียงก่อนวิ่งหนีไปราวกับเห็นผี ไรอันเห็นแล้วได้แต่ยืนงง หลังจากนั้นเขาก็สบถเป็นภาษาอังกฤษด้วยความหงุดหงิดก่อนพยายามระงับอารมณ์ ทันใดนั้นเขาก็เหลือบเห็นสมุดบันทึกเล่มหนึ่งตกอยู่บนพื้น (บริเวณที่เขากับต็อกมีล้มลงเมื่อครู่) 



หลังจากนั้นต๊อกมีก็นำรูปชีอันมาอวดซอนจูที่ร้านกาแฟด้วยความภาคภูมิใจ ซอนจูเห็นรูปที่ชีอันสุดเลิฟโดนไรอันบังแล้วอดบ่นไม่ได้  (เธอรู้สึกคุ้นๆ เหมือนเคยเจอไรอันมาก่น) ต๊อกมีคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอไรอันที่ไหน ในที่สุดเธอก็จำได้ว่าเขาคือคนเพี้ยนที่แย่งภาพโปรดของชีอันไปจากตนที่เมืองจีน ครั้นเห็นภาพตามติดสุดเอ็กซ์คลูซีฟ (ของชีอัน) ที่ซินดี้โพสต์ ซอนจูก็ห่วงว่าภาพของซินดี้จะได้รับความนิยมมากกว่า แต่ต๊อกมีบอกให้ซอนจูวางใจเพราะ "ชีอัอึน นาอึย กิลคือเจ้าแม่โฟโต้ชอป คืนนั้นต๊อกมีแต่งภาพชีอันและเบลอดวงตาของไรอันก่อนนำมาโพสต์ชุดแรก 3 ภาพ โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าชมทั่วโลกเพียง 100 คนเพื่อสร้างกระแส และยังบรรยายภาพดุจภัณฑารักษ์กำลังบรรยายงานศิลปะอีกด้วย

วันรุ่งขึ้นต๊อกมีไปทำงานที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะตามปกติ  คยองอาเข้ามาถามต๊อกมีว่าผอ.ออมลาออกแล้วจริงหรือ ต๊อกมีไม่เอะใจว่าทำไมคยองอาถึงรู้เรื่องนี้ (ผอ.ออมขอให้ต๊อกมีเก็บเป็นความลับจนกว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ เธอจึงไม่ได้บอกเพื่อนร่วมงาน) ครั้นเธอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงคยองอาก็ดีใจจนออกนอกหน้าและบอกต๊อกมีว่าพวกตนจะได้ทำงานอย่างมีความสุขเสียที ต๊อกมีกล่าวว่าถึงผอ.ออมจะไม่อยู่ที่นี่แล้วแต่พวกตนยังมีงานมากมายที่ต้องทำ เธอหวังว่าคยองอาจะขยันและตั้งใจทำงาน ต๊อกมีกำลังจะบอกว่าตนคือผอ.คนใหม่ แต่คยองอาชิงบอกเธอว่าจะช่วยสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษกับผอ.คนใหม่ให้เอง (คยองอาจบจากเมืองนอก) พอรู้ว่าผอ.คนใหม่ไม่ใช่ตนแต่เป็นชาวต่างชาติต๊อกมีก็อึ้งไปชั่วขณะ เธอพยายามระงับอารมณ์ก่อนถามคยองอาว่าตนนี้ผอ.ออมอยู่ที่ไหน คยองอาจึงชี้ให้เธอดูข่าวในทีวี ซึ่งมีรายงานว่าผอ.ออมได้ลาออกจากตำแหน่งและกำลังถูกหามส่งโรงพยาบาล



ต๊อกมีหิ้วกระเช้าผลไม้ไปเยี่ยมผอ.ออมที่โรงพยาบาล เธออยากรู้ว่าทำไมผอ.ออมถึงทำกับเธอเช่นนี้ทั้งๆ  ที่เธอทำงานให้ผอ.ออมมานานห้าปี แถมที่ผ่านมาเธอยังตรากตรำทำงานตามคำสั่งเหมือนหมาตัวหนึ่ง ผอ.ออม (ซึ่งยังคงแข็งแรงดี) ชี้ว่าต๊อกมีหักหลังตนก่อน (ผอ.ออมเห็นต็อกมีนัดพบคนของจีเอ็นกรุ๊ปที่ร้านกาแฟ) ตนไม่อาจปล่อยให้นังตัวแสบที่เคยจิกหัวตน ชิงหมาที่ตนเลี้ยงมานานหลายปีไป ต๊อกมีได้ยินแล้วอยากฆ่าผอ.ออมให้ตายคามือแต่ทำได้แค่คิดในใจ (ลึกๆ แล้วเธโกรธจัดแต่พยายามปั้นหน้ายิ้มขณะอยู่ต่อหน้าผอ.ออม) ผอ.ออมเห็นต๊อกมีนำกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมจึงบ่นว่าตนไม่ชอบทานผลไม้ เมื่อต๊อกมีถามถึงอาการเจ็บป่วย ผอ.ออมจึงเผยว่า สามีตนบอกว่าแค่ลาออกยังไม่พอ ต้องสร้างภาพว่าป่วยจนต้องหามส่งโรงพยาบาลด้วย จากนั้นก็ถามว่าตนตีบทแตกไหม ต๊อกมีอยากฟังความจริงจากปากผอ.ออมเรื่องตำแหน่งผอ.คนใหม่ ผอ.ออมบอกเพียงว่าตนได้เลือกคนที่สมบูรณ์แบบซึ่งจะช่วยให้ตนสามารถใช้ประโยชน์จากสื่อ ส่วนต๊อกมีแค่ทำงาน (หนัก) เหมือนที่เคยทำมาตลอดห้าปีก็พอ

ต๊อกมีรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า หลังพบว่าตำแหน่งหัวหน้าทีมแบรนด์มาร์เก็ตติ้งที่จีเอ็นกรุ๊ปเคยเสนอให้เธอตกเป็นของคนอื่นแล้ว เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำสิ่งเดิมๆ ที่เคยทำมาตลอดห้าปี ถึงกระนั้นเธอก็อดละอายใจไม่ได้ ทั้งๆ ที่รู้มาโดยตลอดว่าผอ.ออมเป็นคนเช่นไรแต่เธอยังหลงเชื่อผอ.ออม เพราะความโลภ (หวังเลื่อนตำแหน่ง) บังตาเลยทำให้เธอขาดสติ ซอนจูเห็นว่าเพื่อนกำลังจิตตกเลยชวนไป 'แสวงบุญ' ด้วยกัน  (คำว่า 'แสวงบุญ' ในที่นี้หมายถึง การตามรอยไลคนโปรดและดื่มด่ำในร่องรอยของเขา) 


ไรอันซึ่งเข้าพักในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งได้รับข้อความจากเลขาคิมจึงลงไปรับเอกสาร (สัญญาว่าจ้าง) ที่เคาน์เตอร์และพบว่าเลขาคิมได้อัพเกรดห้องพักเป็นห้องสวีทให้เขาด้วย หลังได้เอกสารและคีย์การ์ดแล้วไรอันก็เดินจากไป ในเวลาเดียวกันนั้นซอนจูรีบพาต๊อกมีตรงดิ่งมาที่เคาน์เตอร์ต้อนรับของโรงแรมดังกล่าว โดยระบุว่าเธอต้องการเข้าพักที่ห้อง 3250 ซึ่งเป็นห้องสวีท แต่แล้วทั้งคู่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเจ้าหน้าที่โรงแรมแจ้งว่าเพิ่งมีแขกเช็คอินห้องดังกล่าว ซอนจูเห็นว่าก่อนหน้านี้มีเพียงไรอันที่ติดต่อเคาน์เตอร์ เธอจึงรีบตามไปขอเปลี่ยนห้องกับเขาแต่ถูกปฏิเสธทันควัน ถึงกระนั้นซอนจูก็ไม่ยอมแพ้ เธอเสนอเงินให้เขาก่อนชี้ว่าเธอมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถอธิบายได้ ไรอันสงสัยว่าเธอมีเหตุผลอะไรถึงได้ทำตัวไร้มารยาทเช่นนี้ ครั้นไรอันเอาคีย์การ์ดมาล่อ ซอนจูเลยยอมเปิดปากโดยสารภาพว่าเธอตั้งใจมา 'แสวงบุญ' (ตามรอยใครบางคน) ที่ห้องสวีทนั่น เธอชอบคนๆ นั้นมาก ครั้งหนึ่งคนที่ว่าเคยเข้าพักในห้องนั้น แต่ทว่าพวกตนไม่อาจพบกันได้โดยง่าย ไรอันเห็นซอนจูทำหน้าเศร้าก็ชักเริ่มเห็นใจ แต่แล้วอยู่ๆ ซอนจูดันถามขึ้นว่า...พวกตนเคยพบกันมาก่อนไหม (เธอรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ) ไรอันได้ยินดังนั้นก็หลงคิดว่าซอนจูสนใจตน เขาจึงทำหน้าเหนื่อยหน่ายแล้วเดินจากไป



ซอนจูและต๊อกมีไปดื่มให้กับความผิดหวังที่คลับของโรงแรม  ต๊อกมีเห็นซอนจูทำหน้าเศร้าจึงแย้งว่าเธอต่างหากที่ถูกผอ.ออมหักหลัง ซอนจูกล่าวว่าแม้พวกตนมาที่นี่เพื่อที่ต๊อกมีจะได้สบายใจขึ้น แต่ตัวเธอเองก็เฝ้ารอโอกาสนี้มานาน เธออยากใช้ชีวิตตามวิถีติ่งด้วยกันกับต๊อกมีเหมือนสมัยที่ยังไม่แต่งงาน ครั้นซอนจูบ่นเสียดายที่ตนแต่งงานเร็ว  ต๊อกมีจึงเตือนให้นึกถึง "กอนอู" (ลูกชายซอนจู) ที่ซอนจูหลงนักหนา ทั้งยังบอกให้ซอนจูรักและดีกับสามีมากกว่านี้เพราะเขาคือเนื้อคู่ของเธอ ซอนจูแย้งว่าคนที่พวกตนควรพบเจอไม่ใช่เนื้อคู่แต่เป็นเพื่อน (ที่เป็น) ติ่งต่างหาก (หมายถึงเธอกับต๊อกมี) หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ดูการแสดงสดของชีอันบนมือถือต๊อกมีโดยเสียบหูฟังคนละข้าง

เมื่อไรอันเดินเข้ามาในคลับแล้วเห็นซอนจูโอบกอดเพื่อนสาวพลางพูดคุยกันอย่างมีความสุข เขาก็นึกถึงคำพูดของซอนจูก่อนหน้านี้และเข้าใจ (ผิด) ว่าซอนจูกำลังจู๋จี๋กับคนรักสาวที่แอบคบหากันอย่างลับๆ (ความจริงแล้วสองสาวกำลังชื่นชมความหล่อของชีอัน)  ไรอันรู้สึกผิดที่ไม่เชื่อคำพูดของซอนจู เขาเปรยว่าเธออุตส่าห์รวบรวมความกล้าสารภาพความจริงกับตน แถมตนยังคิดไปเองว่าเธอชอบผู้ชาย เขามองตัวเองในกระจกพลางกล่าวว่าผิดหวังในตัวเองจริงๆ หลังดูการแสดงสดจบแล้วซอนจูก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ไรอันซึ่งยืนรออยู่ทางด้านนอกเห็นดังนั้นจึงเรียกเธอ ในที่สุดซอนจูกับต๊อกมีก็ได้เข้าพักในห้องสวีทที่ชีอันเคยเข้าพักสมใจ



วันรุ่งขึ้น ต๊อกมีกลับไปทำงานตามปรกติโดยบอกให้ตัวเองลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขณะดูแลความพร้อมก่อนเปิดทำการเธอสังเกตเห็นไฟดวงหนึ่งติดๆ ดับๆ จึงปืนบันไดขึ้นไปหมุนหลอดไฟทั้งที่สวมรองเท้าส้นสูง ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องและถามว่าเธอทำงานที่นี่หรือ ต๊อกมีตอบว่าใช่และขอให้เขารอสักครู่ ระหว่างนั้นก็ค่อยๆ ปีนบันไดลงมาและหยุดถามว่ามีอะไรให้เธอช่วยไหม เธอเห็นหน้าเขาไม่ชัดจึงพยายามเพ่งมอง ไรอันจ้องมองเธอจากมุมมืดพลางบอกใบ้ว่า "อยากได้ไหม" ต๊อกมีได้ยินดังนั้นก็จำได้ทันทีว่าเขาเป็นใคร เธอรู้สึกตกใจเพราะไม่คิดว่าจะได้เจอเขาที่นี่และพลัดตกบันไดต่อหน้าเขา ไรอันยืนมองเธอตกลงมาหน้าตาเฉย เขาเองก็นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอเธอที่นี่เช่นกัน

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ภาพจากทีวีเอ็น (ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่)






รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ


ปาร์ค มินยอง
รับบท ซอง ต๊อกมี



คิม แจอุก
รับบท ไรอัน โกลด์ / ฮอ ยุนแจ

คนใกล้ชิด "ซอง ต๊อกมี"



อัน โบฮยอน
รับบท นัม อึนกี



ชอง แจวอน
รับบท ชา ชีอัน



คิม โบรา
รับบท ซินดี้ (ชินดี)



ปาร์ค จินจู
รับบท ลี ซอนจู



คิม มีคยอง
รับบท โก ยองซุก



แมง ซังฮุน
รับบท ซอง กึนโฮ

คนใกล้ตัว "ไรอัน โกลด์"


ฮง ซอยอง
รับบท ชเว ดาอิน



คิม ซอนยอง
รับบท ออม โซฮเย



ซอ เยฮวา
รับบท ยู คยองอา



ชอง วอนชาง
รับบท คิม ยูซ็อบ

อื่นๆ

อิม จีคยู
รับบท คัง ซึงมิน



ยู ยงมิน
รับบท จูฮยอก



ปาร์ค มยองชิน
รับบท นัม เซยอน



ลี อิลฮวา
รับบท กง อึนยอง



รวมคลิปตัวอย่างจากทีวีเอ็น



รวมคลิปเบื้องหลังจากทีวีเอ็น




เพลงประกอบจากทีวีเอ็น และ Stone Music Entertainment


*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา