วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เรื่องย่อ อภินิหารกระบี่สามภพ (The Legend of Jade Sword)




กำกับ: หวงจู่เฉวียน (ชาวฮ่องกง)
เขียนบท: เติ้งจื้อเหริน, เหมียวเหมี่ยว
แนวละคร: แฟนตาซี, อิงตำนาน
จำนวนตอน: 65
ออกอากาศ: จีน - 30 เมษายน 2561 ทางอันฮุยทีวี
                 ไทย - ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-11.00 น. ทางช่องเวิร์คพอยท์ทีวี (หมายเลข 23) ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2562 - 13 มกราคม 2563 (ภายหลังเปลี่ยนเวลาออกอากาศเป็นทุกคืนวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 00.35 - 01.35 น.)





เรื่องย่อ



ละคร "อภินิหารกระบี่สามภพ" (The Legend of Jade Sword) ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง "หม่างฮวงจี้" (莽荒纪) ของนักเขียนหนุ่มชาวจีน "จูหงจื้อ" ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม "หว่อชือซีหงซื่อ" โดยละครอ้างอิงเรื่องราวหลังผานกู่เบิกฟ้า (แยกฟ้าดินออกจากกัน) จนก่อกำเนิดเกิดเป็นยุคสามราชาห้าจักรพรรดิ (8,500-2,070 ปีก่อนคริสตกาล) ก่อนที่อาณาจักรจีนโบราณจะถือกำเนิดขึ้นในนามราชวงศ์เซี่ย (2070–1600 ปีก่อนคริสตกาล)

ในดินแดนของราชวงศ์เซี่ยมีตระกูลหนึ่งซึ่งสืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณกาลชื่อว่าสกุล "จี้" ลูกชายหัวหน้าเผ่าสกุลจี้นามว่า "จี้หนิง" เป็นเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์และเยี่ยมยุทธ หลังพบสายแร่หยวนสือในเขตแดนของเผ่าสกุลจี้ พรรคเสวี่ยหลงซานจึงคิดกวาดล้างเผ่าสกุลจี้หมายยึดครองสายแร่หยวนสือ เพื่อปกป้องเผ่าของตน "จี้อี้ชวน" (บิดาจี้หนิง) จึงยอมพลีชีพ ถึงกระนั้นเผ่าสกุลจี้ก็เกือบถูกฆ่าล้างเผ่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้จี้หนิงมุ่งมั่นที่จะฝึกตน ด้วยรู้ว่าหากต้องการปกป้องครอบครัวและคนในเผ่าเขาจำเป็นต้องแข็งแกร่งกว่าศัตรู  เขาจึงไปฝึกวิชาที่สำนักเฮยไป๋และได้พบเพื่อนใหม่ที่มีนิสัยใจคอคล้ายกัน แต่ทว่าพลังที่แข็งแกร่งขึ้นของจี้หนิงกลับนำมาซึ่งความเคียดแค้นชิงชังและแผนการร้ายของ "เส้าเหยียนหนง" ในภายหลังจี้หนิงจึงพบว่าตัวการใหญ่ที่ชักใยยู่เบื้งหลังศัตรูขงครบครัว คือ สำนักอู๋เจี้ยนเหมิน ซึ่งจงใจยั่วยุให้เกิดสงครามหมายกวาดล้างราชวงศ์เซี่ย หลังเผชิญภยันตรายและความยากลำบากต่างๆ นานา ในที่สุดจี้หนิงก็กลายเป็นยดฝีมืที่มีพลังแก่กล้า  และได้ร่วมผนึกกำลังรักษาความสงบสุขขราชวงศ์เซี่ย

เนื้อหาตอนที่หนึ่ง



นับตั้งแต่สามภพก่อกำเนิด ทุกสรรพสิ่งในโลกธาตุขนาดใหญ่* ล้วนอยู่อย่างสันติ (ในสามภพมีโลกและดินแดนต่างๆ มากมาย) แต่ทว่านับวันความทะเยอทะยานและกระหายในอำนาจของ "เสินหวัง" (จอมมาร) ราชันแห่งแดนฮุ่นตุ้น (ดินแดนของปีศาจ มาร อสูร และเทพแห่งความชั่วร้าย) ก็ยิ่งหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เขามีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะเป็น 'เจ้าปกครองสามภพ' นั่นจึงเป็นเหตุให้ศึกใหญ่ระหว่างเทพและมารปะทุขึ้นและแผ่ขยายไปทั่ว ทุกหนแห่งล้วนเกิดศึกสงคราม ผู้คนต่างทุกข์ยากแสนเข็ญ ในที่สุด "เจ้าแม่หนี่วา" จึงร่วมมือกับเหล่าทวยเทพปิดผนึกเสินหวังไว้ใน 'ซวีคง' (แปลว่า ความว่างเปล่า, อากาศธาตุ) และเพื่อป้องกันไม่ให้เสินหวังคืนชีพอีกครั้ง เจ้าแม่หนี่วาจึงมอบหมายให้เผ่า 'สกุลอวี้ฉือ' และเผ่า 'สกุลเฟิ่ง' ร่วมมือกันปกป้องผนึกเสินหวังในแดนชื่อหมิง ทั้งยังทิ้ง "จ่งจือ" ไว้ให้อีกด้วย ("จ่งจือ" แปลว่า "เมล็ดพันธุ์" ในที่นี้หมายถึงผู้ที่สามารถฝึกตนจนมีพลังแก่กล้าในเวลาอันสั้น ซึ่งเจ้าแม่หนี่วาเตรียมไว้รับมืเสินหวังในวันหน้า) แม้เสินหวังจะถูกเจ้าแม่หนี่วาปิดผนึกเอาไว้ แต่เหล่าสมุนของเขายังไม่สิ้นฤทธิ์และยังคงเดินหน้าสานต่อภารกิจ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพวกเขาเฝ้ามองหาหนทางที่จะทลายผนึก ขณะเดียวกันก็พยายามตามหาจ่งจือที่เจ้าแม่หนี่วาทิ้งไว้ในแดนชื่อหมิงระหว่างรอคอยการกลับมาของเสินหวัง นั่นจึงทำให้ชื่อหมิงกลายเป็นดินแดนแห่งการนองเลือด

* "โลกธาตุขนาดใหญ่" คือ "ติสหัสสี มหาสหัสสี โลกธาตุ" (三千大世界) มีทั้งสิ้นแสนโกฏิจักรวาล (พระพุทธเจ้าได้ทรงอธิบายไว้ว่า ดวงจันทร์ (๑ ดวง) ดวงอาทิตย์ (๑ ดวง) โคจรส่องแสงให้ทิศทั้งปวงสว่างรุ่งโรจน์ได้ไกลเท่าไร บริเวณเท่านั้น คือ ๑ จักรวาล)  

* คำว่า "ฮุ่นตุ้น" มีหลายความหมาย ได้แก่ 1. สภาพก่อนที่ฟ้าดินจะบังเกิด (ก่อนผานกู่เบิกฟ้า) ซึ่งในตอนนั้นทุกสรรพสิ่งล้วนปะปนกันเป็นหนึ่งเดียวโดยไม่มีการแบ่งแยกในก้อนกลมๆ ลักษณะคล้ายไข่ 2. สัตว์อสูรโบราณชนิดหนึ่ง หรือเทพแห่งความชั่วร้าย 3. แปลว่า โกลาหล สับสนวุ่นวาย 4. แปลว่า ไร้เดียงสาเหมือนเด็กทารก เป็นต้น (แต่ "ฮุ่นตุ้น" ในที่นี้เป็นดินแดนหรืโลกที่ปกครองโดย "เสินหวัง" )


ณ สำนักเฮยไป๋ (สำนักขาวดำ) "อวี๋เวย" ประลงฝีมืกับศิษย์น้งนามว่า "ตงหลิน" และเป็นฝ่ายชนะในที่สุด หลังจากนั้น "เตี้ยนฉายเต้าเหริน" (ปรมาจารย์เต๋า นาม "เตี้ยนฉาย") ได้เรียกอวี๋เวยผู้เป็นศิษย์มาพบ เขาชื่นชมอวี๋เวยที่ฝีมือก้าวหน้าขึ้นย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็รู้สึกเห็นใจที่เธอต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับการฝึกวิชาตามลำพังทุกวัน ครั้นอาจารย์มอบป้ายคำสั่งพิเศษ (ป้ายเรียกตัว) แล้วสั่งให้ไปที่เผ่าสกุลจี้เพื่อตามหาชายหนุ่มที่ชื่อ "จี้หนิง" โดยบกว่าจี้หนิงคือผู้ที่สำนักจะรับเป็นศิษย์เป็นกรณีพิเศษ อวี๋เวยก็รู้สึกแปลกใจ เพราะนับตั้งแต่ก่อตั้งสำนักเป็นต้นมามีศิษย์เพียงสองคนที่ได้รับป้ายคำสั่งพิเศษดังกล่าว เธอเดาว่าจี้หนิงคงมีพรสวรรค์และเป็นยดฝีมือ แต่อาจารย์บอกเพียงว่าเรื่องนี้เธอคงต้องพิสูจน์ด้วยตนเอง



อวี๋เวยขี่หงส์น้ำเงิน (หลานเฟิ่งหวง) ชื่อ 'เถิงอวิ๋น' ไปที่เผ่าสกุลจี้ เมื่อไปถึง "ชิวเย่" ได้พาอวี๋เวยไปพบหัวหน้าเผ่าโดยรายงานว่าอวี๋เวยจากสำนักเฮยไป๋มาที่นี่เพื่อขอพบจี้หนิง อวี๋เวยชูป้ายคำสั่งพิเศษของอาจารย์ให้ "จี้อี้ชวน" (บิดาจี้หนิง) ดู พลางบอกว่าเธอนำของสำคัญมามอบให้จี้หนิง "อวี้ฉือเสวี่ย" (มารดาจี้หนิง ทุกคนเรียกเธอว่า "ฟูเหริน") กล่าวว่าลูกชายตนไม่อยู่และขอรับป้ายดังกล่าวแทน อวี๋เวยปฏิเสธอย่างสุภาพเพราะอาจารย์สั่งให้เธอมบป้ายดังกล่าวแก่จี้หนิงเงกับมือ ชิวเย่กล่าวว่าเช่นนั้นแล้วอวี๋เวยคงต้งรอยู่ที่นี่ ซึ่งอวี๋เวยเงก็ยินดีที่จะร



ในตนนั้นจี้หนิงพาคนในเผ่า และ "จี้หนง" ไปดักซุ่มริมทะเลสาบหมายปราบสัตว์อสูรโบราณที่เรียกว่า 'อี้เสอ' (แปลว่า "งูมีปีก") ครั้นอี้เสอผุดจากน้ำและโบยบินขึ้นไปบนฟ้า จี้หนิงก็ออกไปเผชิญหน้ากับอี้เสอตามลำพังโดยไม่ฟังคำทัดทานของจี้หนง (เขากไปเป็นเหยื่ล่อหมายให้จี้หนงและพวกเล่นงานอี้เสอจากบริเวณดังกล่าว) หลังจี้หนิงเปิดฉากยิงธนูใส่ อี้เสอก็หันมาเล่นงานจี้หนิงและกลืนเขาลงท้องทันที จี้หนงเห็นดังนั้นก็รู้สึกตกใจ เขาและคนในเผ่าช่วยกันระดมยิงธนูใส่อี้เสอ  แต่ธนูไม่ระคายผิวอี้เสอเลยสักนิด แถมคนเผ่าสกุลจี้ยังถูกอี้เสอจู่โจมจนวิ่งหนีแทบไม่ทัน จี้หนงเห็นคนในเผ่ากำลังตกอยู่ในอันตรายจึงรีบกระโดดเข้าไปขวางและพยายามยิงธนูใส่อี้เสอ ขณะที่จี้หนงกำลังจะถูกอสูรร้ายกลืนกิน  จี้หนิงก็พุ่ง (ทะลุ) ออกมาจากตัวอี้เสอ หลังจากนั้นจี้หนิง จี้หนง และคนเผ่าสกุลจี้ ก็ช่วยกันยิงธนูใส่สัตว์อสูร


"เฉินจิ้น" ลูกชายประมุขพรรค 'เสวี่ยหลงซาน' ลอบนำกำลังมาสังเกตการณ์เผ่าสกุลจี้พร้อม "หนงจื่อเต้า" ผู้เป็นอาจารย์ โดยแอบซุ่มอยู่ใกล้บริเวณที่จี้หนิงและพวกกำลังต่อสู้กับอี้เสอ เดิมทีเฉินจิ้นไม่อยากล่วงล้ำเข้าไปในดินแดนของเผ่าสกุลจี้เพราะเกรงว่าจะถูกบิดาตำหนิ ครั้นหนงจื่อเต้ายืนยันหนักแน่นว่าในดินแดนของเผ่าสกุลจี้มีสายแร่ 'หยวนสือ'* ("หินอัญมณี" (แร่รัตนชาติ) ดึกดําบรรพ์) เฉินจิ้นจึงคิดว่าเป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่า เขาอยากสร้างผลงานให้บิดายอมรับจึงลอบพาสมุนเข้าไปในเขตหวงห้ามของเผ่าสกุลจี้ โดยไม่รู้ว่าตนกำลังตกหลุมพรางของหนงจื่อเต้า 

จี้หนิง จี้หนง และคนเผ่าสกุลจี้ ระดมยิงธนูใส่อี้เสอ แต่ทว่าอี้เสอเป็นสัตว์อสูรมีพลังแก่กล้าจึงไม่อาจปราบได้โดยง่าย ถึงกระนั้นจี้หนิงกับจี้หนงยังคงยืนหยัดต่อสู้กับอสรูรร้ายอย่างกล้าหาญ ทั้งคู่ผนึกกำลังโจมตี โดยจี้หนิงใช้พลังวารี ส่วนจี้หนงใช้พลังอัคคี หลังโดนเล่นงานอย่างหนักหน่วงในที่สุดอี้เสอก็เป็นฝ่ายล่าถอยไป


ครั้นเห็นเฉินจิ้นและเหล่าสมุนลอบเข้ามาในเขตหวงห้ามของเผ่าตน จี้หนิงกับจี้หนงจึงเข้าไปขวางและสังหารสมุนของเฉินจิ้นจนหมดสิ้น เฉินจิ้นเห็นดังนั้นจึงเปิดฉากโจมตีจี้หนิงกับจี้หนงก่อน แต่เนื่องจากสองหนุ่มหลบหลีกได้ทันพลังของเฉินจิ้นจึงพุ่งไปปะทะเขาหินจนเกิดเป็นโพรงและมีฝูงค้างคาวบินแตกฮือออกมา หลังพบปากถ้ำโดยบังเอิญเฉินจิ้นเลยฉวยโอกาสลอบเข้าไปด้านใน ในตอนนั้นจี้หนิงกับจี้หนงกำลังง่วนอยู่กับการปัดป้องฝูงค้างคาว พอฝูงค้างคาวบินหนีไปแล้วจี้หนิงถึงได้รู้ว่าเฉินจิ้นหายตัวไป ครั้นเห็นว่าเบื้งหน้ามีปากถ้ำเขากับจี้หนงเลยรีบตามเข้าไปด้านใน (หนงจื่อเต้ารู้เห็นทุกอย่าง)



ในเวลาเดียวกันนั้น คนเผ่าสกุลจี้ที่ไปร่วมปราบอี้เสกับจี้หนิงได้พาร่างอันสะบักสะบมมารายงานหัวหน้าเผ่าเรื่งเฉินจิ้นที่ลานประชุม ครั้นรู้ว่านายน้อยแห่งเสวี่ยหลงซานพาสมุนมาบุกรุกเขตหวงห้ามขงเผ่าตนและเกิดการปะทะกับจี้หนิงก่อนที่ทุกคนจะหายตัวไป อี้ชวนจึงสั่งระดมยดฝีมืออกตามหาจี้หนิงบริเวณทะเลสาบอี้เสอ หลังจากนั้นก็ขอให้ "จี้เลี่ย" (พ่อบุญธรรมจี้หนง) เป็นผู้นำการประชุมแทนตน อวี้ฉือเสวี่ยไม่เห็นด้วยที่อี้ชวนจะทิ้งการประชุมเพื่อออกไปตามหาจี้หนิงกับจี้หนง เธอให้เหตุผลว่าอี้ชวนเป็นหัวหน้าเผ่าจึงต้องอยู่ที่นี่เพื่อตัดสินใจ ชิวเย่สบโอกาสเลยขอออกไปทำหน้าที่แทนแต่อวี้ฉือเสวี่ยแย้งว่าชิวเย่กำลังตั้งครรภ์จึงควรรอฟังข่าวอยู่ที่บ้าน อวี๋เวยอาสาออกไปตามหาจี้หนิงโดยให้เหตุผลว่าเธอมีวิหคเทพจึงไปได้เร็วกว่า ชิวเย่ทนรอไม่ไหวเลยขอติดตามไปด้วย อวี๋เวยเกรงว่าชิวเย่และลูกในท้องจะไม่ปลอดภัย แต่ชิวเย่ยืนกรานว่าเธอต้องไปเพราะพ่อเด็กยังไม่กลับมา

ในที่สุดเฉินจิ้นก็พบร่งรหยวนสือภายในถ้ำ แต่เขายังไม่ทันได้ครอบครองจี้หนิงกับจี้หนงก็เข้ามาขวางเสียก่น จี้หนิงบอกให้เฉินจิ้นไปจากเผ่าสกุลจี้แต่โดยดี แต่เฉินจิ้นยืนกรานว่าจะไปต่อเมื่อได้หยวนสือ หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ต่อสู้กันในถ้ำอย่างดุเดือด พลังกระบี่ที่ทั้งสามคนฟาดฟันลงบนหินแต่ละครั้งเป็นการกระตุ้นพลังของหยวนสือโดยไม่ได้ตั้งใจ และพลังที่หยวนสือปลดปล่ออกมาก็ทำให้ทั้งสามคนถึงกับล้มลงไปนอนแน่นิ่ง



หลังจากนั้นหนงจื่อเต้าก็เข้ามาในถ้ำและกระหยิ่มยิ้มย่องที่ได้ครบครงหยวนสือโดยไม่ต้งเปลืงแรง ครั้นได้ยินเสียงคนเข้ามาในถ้ำเขาจึงรีบหลบ ที่แท้อวี๋เวยกับชิวเย่เข้ามาตามหาจี้หนิงและจี้หนงในถ้ำ หลังอวี๋เวยกับชิวเย่พยุงสงหนุ่มออกจากถ้ำไปแล้วหนงจื่อเต้าจึงเดินออกมาหาเฉินจิ้น เฉินจิ้นเห็นหยวนสือในมืหนงจื่อเต้าจึงพยายามเอื้อมมือคว้าโดยกว่าตนจะนำไปให้บิดา หนงจื่อเต้าไม่ให้และแย้งว่าทุกสรรพสิ่งในสามภพล้วนเป็นขงเสินหวัง เฉินจิ้นเพิ่งรู้ตัวว่าตนโดนหลอกใช้ กว่าเขาจะเห็นธาตุแท้ของคนที่ตนเรียกว่าอาจารย์ก็สายเกินไป เพราะทันที่รู้ว่าหนงจื่อเต้าแสร้งทำเป็นภักดีต่อบิดา เขาก็ถูกหนงจื่อเต้าสังหารอย่างโหดเหี้ยม หลังจากนั้นหนงจื่อเต้าก็ปล่อยข่าวว่าจี้หนิงเป็นคนฆ่าเฉินจิ้น



หนงจื่อเต้านำหยวนสือไปมบให้เจ้าสำนักอู๋เจี้ยนเหมิน นามว่า "ตงชี" (ตงชีเป็นคนมบภารกิจนี้ให้เขา) เขากล่าวว่าหลังเผ่าสกุลจี้และเสวี่ยหลงซานผิดใจกัน เผ่าสกุลจี้จะต้องถูกเสวี่ยหลงซานล้างบางแน่เพราะพลังและความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายห่างชั้นกันมาก เขาเดาว่าตงชีเองก็คงสงสัยว่าจ่งจือ (ขุมพลังที่เจ้าแม่หนี่วาทิ้งไว้ในแดนชื่อหมิง) อาจอยู่ในเผ่าสกุลจี้ถึงได้วางแผนเช่นนี้ จากนั้นก็ชี้ว่าแม้ตนยังไม่รู้ว่าจ่งจือคือใคร แต่ตนรู้มาว่าหยวนสือจะปรากฏใกล้ๆ จ่งจือ แถมเมื่อ 20 ปีก่อนทะเลสาบอี้เสอได้ถือกำเนิดขึ้นในดินแดนของเผ่าสกุลจี้อย่างน่าอัศจรรย์ ที่สำคัญหยวนสือที่พวกตนเพิ่งได้มาก็ปรากฏในอาณาเขตของเผ่าสกุลจี้ เพราะอย่างนี้จึงทำให้ตนสงสัยเช่นกันว่าจ่งจืออาจอยู่ในเผ่าสกุลจี้  ตงชีบอกหนงจื่อเต้าว่าหากใครพบจ่งจือจะได้รับความดีความชอบครั้งใหญ่ ถึงกระนั้นการที่พวกตนพบแหล่งหยวนสือในวันนี้ก็ถือเป็นผลงานใหญ่ของหนงจื่อเต้า และเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเสินหวัง

หนงจื่อเต้ากล่าวว่าก่อนเสินหวังกลับมาตนจำเป็นต้องหาแผ่นป้าย 'เฉินจื่ลิ่ง' ของเผ่าสกุลจี้ให้เจ (เป็นป้ายครบครงดินแดน (ที่ตั้งเผ่า) ถ้าไม่มีป้ายดังกล่าวก็เท่ากับเผ่าสูญสิ้น หากไม่โดนกวาดล้างก็ต้กจากพื้นที่ไป - สมุนของเสินหวังต้องการแผ่นป้ายดังกล่าวเพื่จะได้ครอบครองสายแร่หยวนสือของเผ่าสกุลจี้) เขายังบกด้วยว่าตนจะยืมมือประมุขพรรคเสวี่ยหลงซาน "สวี่หลีเจินเหริน" (ผู้บรรลุเต๋าขั้นสูงนาม "สวี่หลี") กวาดล้างเผ่าสกุลจี้ แต่สิ่งที่ตนกังวลในตนนี้คืเผ่าสกุล 'เป่ยซาน' ซึ่งมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับเผ่าสกุลจี้ ทันทีที่รู้ข่าวพวกเขาจะต้งมาช่วยเผ่าสกุลจี้แน่ แม้เสวี่ยหลงซานจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเผ่าสกุลเป่ยซาน ตงชีได้ยินดังนั้นจึงบอกให้หนงจื่อเต้าวางใจเพราะเขามีทางออกในเรื่องนี้



เมื่จี้หนงรู้สึกตัวก็ได้ยินข่าวลืว่า จี้หนิงฆ่าเฉินจิ้น ทำให้พรรคเสวี่ยหลงซานคิดเอาคืนเผ่าของพวกตน ครั้นชิวเย่บอกว่าเหล่าผู้อาวุโสกำลังหารือกันในเรื่องนี้ จี้หนงจึงรีบตรงไปยังลานประชุมทันที  อวี๋เวยช่วยเป็นพยานให้จี้หนิงโดยบอกว่าตอนที่เธอกับชิวเย่เข้าไปในถ้ำเฉินจิ้นยังไม่ตาย อี้ชวนแย้งว่าถ้าไม่ใช่จี้หนิงแล้วจะเป็นใคร เขาโวยลั่นว่าเสวี่ยหลงซานจะต้องถือโอกาสบุกมาล้างบางเผ่าพวกตนเพราะเรื่องนี้แน่ (ยามนี้เผ่าสกุลจี้อ่อนแอจึงไม่อาจรับมือเสวี่ยหลงซานซึ่งเป็นงค์กรใหญ่) จี้หนิงแย้งว่าเสวี่ยหลงซานหาเรื่องครอบครองแหล่งหยวนสือมากกว่า  อี้ชวนคิดว่าจี้หนิงแก้ตัวจึงสั่งให้หุบปาก จี้เลี่ยชี้ว่าแม้จี้หนิงกับจี้หนงจะดื้อรั้นไปบ้างแต่พวกเขาไม่เคยโกหก อี้ชวนสงสัยว่ามีคนอื่นอยู่ในเหตุการณ์หรือไม่ จี้หนิงยืนยันว่าในถ้ำไม่มีคนอื่นนอกจากตน จี้หนง และเฉินจิ้น อาวุโสคนหนึ่งกล่าวว่าเฉินจิ้นหาเรื่องใส่ตัว เขาลอบเข้ามาขโมยหยวนสือในอาณาเขตของพวกตนแล้วดันตายเอง เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวกับพวกตน อี้ชวนตัดสินใจว่าจะไปพบสวี่หลีเจินเหรินที่เสวี่ยหลงซานหมายอธิบายความจริงให้กระจ่างเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุนองเลือด จากนั้นก็สั่งลงโทษจี้หนิงกับจี้หนงด้วยการกักบริเวณจนกว่าเรื่องราวทั้งหมดจะคลี่คลาย


ตงชีรายงานเสินหวังว่าหยวนซืออยู่ในความครอบครองของพวกตนแล้ว เสินหวังดีใจมาก เขากล่าวว่าหากมีสายแร่หยวนสือ ของวิเศษ และเคล็ดวิชา ตนจะสามารถใช้เพลงกระบี่อู๋สิงทลายผนึกและเป็นอิสระเสียที เขาเร่งให้ตงชีรีบหาสองสิ่งที่เหลือ แต่ตงชียืนนิ่งไม่ยอมรับปาก เขากลัวว่า "หนานจวิน" (คนรักที่เฝ้าถวิลหา) ซึ่งหลับใหลมานานนับพันปีจะไม่ฟื้นคืนชีพอีกเลยจึงอยากให้เสินหวังรีบช่วยเหลือเธอก่อน (เขาทวงสัญญาที่เสินหวังเคยให้ไว้เมื่อพันปีก่น) เสินหวังกล่าวว่าในตอนนั้นตงชีเองก็พยายามทุกวิถีทางเพื่อรักษาลมหายใจเฮือกสุดท้ายของหนานจวิน เขาจึงน่าจะรู้ดีว่าการช่วยให้หนานจวินฟื้นคืนชีพไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม ในเมื่อรับปากแล้วว่าจะช่วย ตนย่อมไม่คืนคำแน่

เขาชี้ว่าพลังชีวิตส่วนหนึ่งของหนานจวินยังคงอยู่ในตัวผู้มาเกิดใหม่ (คนที่เธอกลับชาติมาเกิด) เขาแนะให้ตงชีหาคนๆ นั้นให้เจอ เช่นนั้นแล้วตนจึงจะมั่นใจมากขึ้น แต่ทว่าตอนนี้ตนยังคงติดอยู่ในผนึกจึงไม่อาจทำอะไรได้ หากออกไปได้เมื่อไหร่ตนจะหาทางช่วยหนานจวิน ดังนั้น ตงชีจึงต้องรีบหาเคล็ดวิชาหลอมกระบี่ให้เจอ ครั้นรู้ว่าตงชียังไม่พบเบาะแสของจ่งจือ เสินหวังจึงกำชับว่าอย่าปล่อยให้จ่งจือมีพลังแก่กล้าขึ้น ควรรีบกำจัดตอนที่พลังของจ่งจือยังอ่อนด้อยเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม จากนั้นก็ขู่ว่าหากตนทลายผนึกออกไปไม่ได้ ตงชีจะไม่สามารถปลุกหนานจวินได้อีกเลย




อวี๋เวยมอบป้ายคำสั่งของอาจารย์เตี้ยนฉายให้จี้หนิงแต่จี้หนิงปฏิเสธทันควัน เขากล่าวว่าตนยังไปฝึกวิชาที่สำนักเฮยไป๋ไม่ได้เพราะตอนนี้สถานการณ์ในเผ่าไม่สู้ดี  แต่อวี๋เวยยืนกรานว่าเธอจะต้องพาจี้หนิงกลับสำนักตามคำสั่งของอาจารย์ให้ได้ หากจำเป็นต้องมัดแล้วพาเขากลับไปเธอก็จะทำ ครั้นอวี๋เวยขอให้คิดทบทวนใหม่ จี้หนิงจึงชี้ว่าแม้ตนตัดสินใจว่าจะไปก็ต้องสะสางปัญหาให้เสร็จสิ้นก่อนอยู่ดี อวี๋เวยสังเกตเห็นบางสิ่งที่สร้อยคอของจี้หนิงจึงรู้สึกสนใจ จี้หนิงไม่ยอมให้เธอแตะต้องโดยบอกว่าเป็นเครื่องรางคุ้มภัยตน อวี๋เวยสงสัยว่าเขาได้สิ่งนี้มาจากที่ใด จี้หนิงเล่าว่ามันคือ 'รื่อเยว่สือ' (หินตะวันจันทรา) สมัยยังเด็กตนอ่อนแอขี้โรคและเกือบตายหนหนึ่ง หมอทุกคนที่มารักษาต่างบอกว่าหมดหวัง เพื่อให้ตนรอดชีวิตบิดาจึงแอบดำลงไปในทะเลสาบอี้เสอหมายนำยาวิเศษมารักษาตนและได้ช่วย 'ผู้สูงส่ง' ท่านหนึ่งเอาไว้ ผู้สูงส่งท่านนั้นจึงมอบรื่อเยว่สือให้ตนเพื่อเป็นการตอบแทน สำหรับตนแล้วมันคือเครื่องรางคุ้มภัย

จี้หนิงสงสัยว่าทำไมอวี๋เวยถึงสนใจรื่อเยว่สือ แม้ยังมีบางสิ่งค้างคาใจแต่อวี๋เวยตัดบทด้วยการบอกว่าเธอแค่ถามไปอย่างนั้นเอง เธอให้เวลาจี้หนิงตัดสินใจโดยบอกว่าถ้าพร้อมเมื่อไหร่ให้บอกเธอ จี้หนิงแนะให้อวี๋เวยกลับไปก่อน หากตัดสินใจได้แล้วตนจะไปฝึกวิชาที่สำนักเฮยไป๋เอง อวี๋เวยชี้ว่านับตั้งแต่จี้หนิงรับป้ายคำสั่ง เขาก็เป็นศิษย์สำนักเฮยไป๋แล้ว ดังนั้น หน้าที่ของเธอคือการคุ้มครองจี้หนิงกลับสำนักอย่างปลอดภัย



หลังหัวหน้าเผ่าสกุลจี้ติดต่อขอความช่วยเหลือ โดยแจ้งว่าพรรคเสวี่ยหลงซานต้องการครอบครองสายแร่หยวนสือ "เป่ยซานไป่เวย" (ลูกชายหัวหน้าเผ่าสกุลเป่ยซาน และผู้บัญชาการทัพ 'อิ้งหลงเว่ย' แห่งราชวงศ์เซี่ย) ก็รู้สึกโกรธที่นับวันพรรคเสวี่ยหลงซานยิ่งกำแหงหนัก เขากล่าวที่ผ่านมาเสวี่ยหลงซานรุกรานมาแล้วนับสิบเผ่า มาวันนี้ถึงขั้นคิดยึดครองแหล่งหยวนสือ "เป่ยซานเฮยหู่" (หัวหน้าเผ่าสกุลเป่ยซาน และบิดาไป่เวย) กล่าวว่า ถ้าไม่เป็นเพราะครั้งหนึ่งจี้อี้ชวนได้รับบาดเจ็บที่จุด 'ตันเถียน*' จนพลังไม่อาจขับเคลื่อน ป่านนี้เขาคงมีพลังแก่กล้าและคงไม่ถูกสวี่หลีเจินเหรินข่มเหงเช่นนี้ ตนเป็นสหายอี้ชวนจึงไม่อาจนิ่งดูดาย เฮยหู่รู้ว่าถึงจะเหิมเกริมหนักแต่เสวี่ยหลงซานมักรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่าจึงไม่มีทางกล้าต่อกรกับเผ่าตน เขาสั่งให้ไป่เวยนำกำลังไปปกป้องและคืนความสงบสุขให้เผ่าสกุลจี้ โดยกำชับว่าต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จลุล่วง

* ตันเถียน คือ ทุ่งพลัง (รากเหง้าของเส้นลมปราณ) เป็นบ่อรวมของพลังชี่ มีทั้งสิ้น 3 จุด คือ ตรงกลางระหว่างคิ้ว  กลางหัวใจ  และบริเวณท้องน้อย 


อวี้ฉือเสวี่ยเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยของจี้หนิงจึงมาหารือกับอี้ชวน เธรู้ดีว่าศึกครั้งนี้ยากรับมือ เผ่าสกุลจี้จึงต้งระดมสรรพกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อต่สู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าย่างเสวี่ยหลงซาน ในฐานะที่จี้หนิงเป็นลูกชายหัวหน้าเผ่าจึงต้องร่วมทำศึกด้วย แต่เธอไม่อยากให้จี้หนิงมีส่วนร่วมในการศึกครั้งนี้ เธอถามอี้ชวนว่ายังจำคำเตือนของผู้สูงส่งได้ไหม อี้ชวนกล่าวว่าตนจะลืมได้อย่างไร สมัยยังเด็กจี้หนิงทั้งอ่นแขี้โรคและเกือบตาย โชคดีที่ผู้สูงส่งมอบเครื่องรางคุ้มภัยให้จี้หนิง จี้หนิงจึงรอดพ้นจากความตายและเติบใหญ่จนทุกวันนี้ อวี้ฉือเสวี่ยกล่าวว่าก่อนผู้สูงส่งจะจากไปได้ย้ำว่าวันหนึ่งจี้หนิงจะประสบเภทภัยครั้งใหญ่ หากไม่ระวังาจถึงแก่ชีวิต อี้ชวนยอมรับว่าเขาเองก็เป็นห่วงเรื่องนี้เช่นกัน เขาจึงตัดสินใจแต่แรกแล้วว่าจะไม่ให้จี้หนิงกับจี้หนงร่วมรบ เพราะศึกใหญ่ครานี้อาจเป็นหายนะครั้งใหญ่ แม้ต้งพลีชีพพวกตนก็จำต้งปกป้งทั้งคู่ เพราะจี้หนิงกับจี้หนงคือผู้ที่สามารถสืบทดตำแหน่งหัวหน้าเผ่า หากสงคนนี้ปลดภัยเผ่าขงพวกตนจึงมีหวังด 

อวี้ฉือเสวี่ยกล่าวว่าจี้หนิงไม่เพียงเป็นคนเผ่าสกุลจี้ แต่ยังเป็นสายเลือดเผ่าสกุลอวี้ฉืออีกด้วย ครั้งหนึ่งเผ่าสกุลอวี้ฉือขงเธเคยถูกฆ่าล้างเผ่า แม้เธจะรดชีวิตมาได้แต่ลูกสาวขงพี่ชายเธอหายตัวไปโดยไม่ทราบชะตากรรม หากจี้หนิงเป็นะไรไปอีกคนเผ่าขงเธคงสูญสิ้น อี้ชวนขให้อวี้ฉือเสวี่ยรับปากว่าจะไม่ร่วมรบ แม้เขาต้งการกำลังพลแต่ที่ผ่านมาอวี้ฉือเสวี่ยปกปิดฐานะตนเองมาโดยตลอด เพราะเหตุนี้ถึงไม่มีใครรู้ว่าเธอคือทายาทเผ่าสกุลอวี้ฉือ หากออกรบแล้วฐานะถูกเปิดเผยชีวิตเธจะมีภัย และาจไม่ได้พบ "อวี้ฉือซีเยว่" (หลานสาว) ที่หายตัวไปขณะเกิดการสู้รบเมื่อ 23 ปีก่อน อวี้ฉือเสวี่ยแย้งว่าตอนเผ่าสกุลอวี้ฉือขงเธถูกกวาดล้าง หัวใจเธอแตกสลายไปแล้วครั้งหนึ่ง มาวันนี้เผ่าสกุลจี้กำลังมีภัยเธอจะไม่หนีไปไหนอีก อี้ชวนยอมจำนนต่อเหตุผลแต่ยังคงเป็นห่วงเรื่องซีเยว่ อวี้ฉือเสวี่ยยกคำพูดอี้ชวนมากล่าวอ้าง โดยบอกว่าการที่ใครคนหนึ่งพยายามทำลายเบาะแสและร่องรอยของตนบนโลกนี้ แสดงว่าคนๆ นั้นไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าตนยังมีชีวิตอยู่ ตราบใดที่ซีเยว่ยังมีชีวิตอยู่เผ่าของเธอก็ยังคงมีทายาท แม้ไม่มีโอกาสพบพานก็ไม่เป็นไร



จี้หนิงและจี้หนงขอตามทุกคนไปร่วมรบแต่อี้ชวนปฏิเสธ จี้หนิงแย้งว่าบิดากำลังจะไปสู้รบแล้วจะให้ตนหลบอยู่ที่นี่เพราะรักตัวกลัวตายได้อย่างไร เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะตน ตนกับสวี่หลีมีหนี้ชีวิตที่ต้องชดใช้  อี้ชวนชี้ว่าสวี่หลีไม่ได้ต้องการแค่ชีวิตของจี้หนิงแต่ต้องการฆ่าล้างเผ่าสกุลจี้ จี้หนงยืนยันว่าจี้หนิงไม่ได้ฆ่าเฉินจิ้น และชี้ว่าเรื่องนี้ต้องเป็นแผนชั่วของใครบางคน อี้ชวนแย้งว่าพูดตอนนี้ไม่มีประโยชน์ เขาสั่งให้จี้หนิงและจี้หนงรักษาตัวให้ดี หากศึกครั้งนี้ทุกคนพลีชีพในสนามรบ จี้หนิงกับจี้หนงจะต้องเป็นผู้นำเผ่าต่อไป ตนจะปล่อยให้เผ่าสกุลจี้สิ้นสุดที่ตนไม่ได้



"ต้งอวี๋" รายงานเจ้าสำนักตงชีว่า เรือรบของเผ่าสกุลเป่ยซานเคลื่อนทัพแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมุ่งหน้าไปปราบเสวี่ยหลงซาน "สุ่ยอี้" กล่าวว่าเสวี่ยหลงซานกับเผ่าสกุลจี้กำลังจะเปิดศึก หากเผ่าสกุลเป่ยซานและทัพ 'อิ้งหลงเว่ย' ไม่เข้าแทรกแซง  เผ่าสกุลจี้จะต้องพ่ายศึกอย่างแน่นอน ครั้นลูกน้องเข้ามารายงานว่าพบเรือรบของเผ่าสกุลเป่ยซานแล้ว ตงชีจึงสั่งให้ต้งอวี๋กับสุ่ยอี้นำกำลังไปขัดขวางเรือรบของเผ่าสกุลเป่ยซานเพื่อถ่วงเวลาเอาไว้ พูดจบเขาก็เดินจากไปทันที สุ่ยอี้ได้แต่มงตามตาละห้ย ต้งอวี๋เปรยว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังไม่สำคัญเท่าเรื่องของ 'นาง' เขาบอกให้สุ่ยอี้ตัดใจเพราะตงชีไม่มีวันหันมาชอบเธอ ที่แท้ตงชีรีบมาดูร่างของหนานจวิน (ซึ่งมีใบหน้าเหมือนอวี๋เวย) เขาเฝ้ารอให้เธอฟื้นคืนชีพมานานนับพันปีและยังคงหมายมั่นว่าจะต้องช่วยเธอให้ได้



ในที่สุดพรรคเสวี่ยหลงซานและเผ่าสกุลจี้ก็เคลื่อนทัพมาเผชิญหน้ากัน อี้ชวนพยายามอธิบายว่าจี้หนิงไม่ได้ฆ่าเฉินจิ้น เขาขอให้สวี่หลีเจินเหรินสืบหาความจริงในเรื่องนี้อย่างถ้วนถี่และจับคนร้ายตัวจริงมาลงโทษ สวี่หลีเจินเหรินไม่เชื่อคำพูดของอี้ชวน เขายืนกรานเสียงแข็งว่าจะสังหารจี้หนิงเพื่อล้างแค้นให้ลูกตน อี้ชวนชี้ว่าตนมีพยานสองคนที่ยืนยันได้ว่าตนจี้หนิงกจากถ้ำเฉินจิ้นยังมีชีวิตยู่ ครั้นได้ยินว่าพยานที่อี้ชวนนำมากล่าวอ้างคือจี้หนงกับอวี๋เวย หนงจื่อเต้าจึงแย้งว่าจี้หนงเป็นคนเผ่าสกุลจี้ ส่วนอวี๋เวยอาจโดนเผ่าสกุลจี้ซื้อตัว พยานทั้งสองที่ถูกกล่าวอ้างไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด เขาเตือนสวี่หลีเจินเหรินว่าอี้ชวนกำลังประวิงเวลาหมายรอให้เผ่าสกุลเป่ยซานมาเล่นงานพวกตน สวี่หลีเจินเหรินต้องการให้อี้ชวนส่งตัวจี้หนิงมาให้ตนชำระแค้น อี้ชวนกล่าวว่าตนเองก็รู้สึกเสียใจเช่นกันที่ลูกชายสวี่หลีเจินเหรินเสียชีวิต แต่ลูกชายตนไม่ได้ฆ่าเฉินจิ้นจริงๆ เท่าที่ตนรู้เฉินจิ้นถูกอาวุธลับจู่โจม หากอวี๋เวยไม่ไปพบเสียก่อนจี้หนิงกับจี้หนงคงไม่รอดเช่นกัน

ครั้นอี้ชวนยืนยันว่าจะไม่ส่งจี้หนิงซึ่งไม่ได้ทำอะไรผิดไปตายเปล่าอย่างแน่นอน หนงจื่อเต้าจึงถามว่าทำไมอี้ชวนยอมเอาชีวิตคนทั้งเผ่ามาแลกกับชีวิตเล็กๆ ของจี้หนิงเพียงคนเดียว เขากล่าวว่าพวกตนสามารถจบเรื่องนี้ได้โดยสันติ ก่อนชี้ว่าอี้ชวนพูดเต็มปากเต็มคำว่าจี้หนิงไม่ได้ฆ่าเฉินจิ้น ทั้งๆ ที่ตอนนั้นในถ้ำมีเพียงจี้หนิง จี้หนง และเฉินจิ้น หากอี้ชวนยอมศิโรราบแต่โดยดีเรื่องนี้ยังพอตกลงกันได้และพวกตนจะไม่เอาความ ครั้นอี้ชวนไม่เชื่อ หนงจื่อเต้าจึงขู่ว่าขืนยังคงดึ้อดึงพวกตนคงต้องฟาดฟันกัน เช่นนั้นแล้วเผ่าสกุลจี้มีหวังสูญสิ้นเพราะไม่มีทางเอาชนะเสวี่ยหลงซานได้ แต่ถ้าอี้ชวนยอมก้มหัวให้ประมุขพรรคเสวี่ยหลงซาน พวกตนจะไม่ถือโทษ ขอเพียงคุกเข่ายอมจำนน พวกตนจะให้อภัยและจะไว้ชีวิตทุกคนในเผ่าสกุลจี้ อี้ชวนได้ยินดังนั้นก็คิดหนัก จี้เลี่ยและผู้อาวุโสในเผ่าเตือนอี้ชวนว่าอย่าหลงกลเพราะรู้ว่าหนงจื่อเต้าต้องการหยามเกียรติพวกตน อี้ชวนถามสวี่หลีเจินเหรินว่าที่หนงจื่อเต้าพูดเป็นความจริงใช่ไหม เมื่อสวี่หลีเจินเหรินพยักหน้าอี้ชวนจึงละทิ้งศักดิ์ศรีและยอมคุกเข่าหมายรักษาชีวิตคนเผ่าสกุลจี้

** จบตนที่หนึ่ง **

* เนื้อหาโดย luvasianseries /  ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่ 






รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ

 

หลิวข่ายเวย
รับบท จี้หนิง
(นักแสดง / นักร้อง ชาวฮ่องกง)


 

หวังโ
รับบท อวี๋เวย / เทพธิดาหั่วหง (หั่วหงเซียนจื่แห่งแดนฮุ่นตุ้น
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เฉินอี้เฟย
รับบท จี้หนง / เส้าเหยียนหนง 
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)


 

จางจวิ้นหนิง
รับบท ตงชี (เจ้าสำนักอู๋เจี้ยนเหมิน)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)


 

หนิวจวิ้นเฟิง
รับบท มู่จื่ซั่ว
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หลี่เวย
รับบท ลาทาเต้าเหริน (ปรมาจารย์เต๋า นาม "ลาทา")
(นักแสดง / นักร้อง ชาวไต้หวัน)


 

จ้าววี่ซี
รับบท จิ่วเหลียน / ชิวเย่
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)

อื่นๆ

จางซวงลี่
รับบท เตี้ยนฉายเต้าเหริน (ปรมาจารย์เต๋า นาม "เตี้ยนฉาย")
(นักแสดง ชาวจีน)


   
เฉินเมิ่งเหยา
รับบท สุ่ยอี้
(นักแสดง ชาวจีน)



สวีเส้าเฉียง
รับบท เสวียนจีเหล่าจู่ (หนึ่งในผู้อาวุโสสกุลเส้าเหยียน)
(นักแสดงฮ่องกง เกิดที่ประเทศจีน)



หวงเจิง
รับบท เสินหวัง
(นักแสดง / นักร้อง / โปรดิวเซอร์เพลง ชาวจีน)



หลูหย่ง
รับบท สวี่หลีเจินเหริน
(นักแสดง ชาวจีน)

* เจินเหริน หมายถึง ผู้บรรลุเต๋าขั้นสูง ลำดับขั้นบนสวรรค์ชั้นฟ้าอยู่เหนือเซียนธรรมดา ในทางพุทธศาสนาเรียก "อรหันต์" *



หวังชุนหยวน 
รับบท หวงป๋อ
(นักแสดง ชาวจีน)



เจิ้งเสวี่ย
รับบท ซีเยว่จวิ้นจู่
(นักแสดง ชาวจีน)



เฝิงจวิ้นซี
รับบท เป่ยซานไป่เวย
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)



เว่ยจื่อหยาง
รับบท อู่เฟิงเต้าเหริน (ปรมาจารย์เต๋า นาม "อู่เฟิง")
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หนิงซิน
รับบท ตงหลิน
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)


 

เจินฉี
รับบท คงชิง
(นักแสดง ชาวจีน)




คลิปเบื้องหลัง

* ดูละครย้อนหลังทางช่องเวิร์คพอยท์ ได้ ที่นี่

*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา