วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2564

เรื่องย่อ สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย (Eternal Love of Dream)




กำกับ: หยางเสวียน
เขียนบท: เหลียงเจิ้นหัว
แนวละคร: โรแมนติก, แฟนตาซี
จำนวนตอน: 56
ออกอากาศ: จีน - 22 มกราคม 2563 - 26 มีนาคม 2563 ทางเถิงซวิ่น (Tencent Video)
                   ไทย - ออกอากาศพร้อมจีน ทาง WeTV.vip  และออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 8 (หมายเลข 27) ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2564 - 1 พฤศจิกายน 2564





เรื่องย่อ



ละคร "สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย" (Eternal Love of Dream) ดัดแปลงจากนิยายชื่อเรื่องเดียวกันของ "ถังชี" (เวอร์ชั่นภาษาไทยแปลโดยคุณ "หลินโหม่ว" จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สุรีย์พร) เนื้อหากล่าวถึงตำนานรักสามชาติสามภพของกษัตรีย์แห่งชิงชิว "ไป๋เฟิ่งจิ่ว" จิ้งจอกแดงเก้าหางเพียงตัวเดียวในสี่ทะเลแปดดินแดน ซึ่งรักมั่นและทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อ "มหาเทพตงหัว" แต่เพียงผู้เดียว

เรื่องราวเริ่มขึ้นต้นยุคบรรพกาล ในยามนั้นได้เกิดสงครามระหว่างเผ่าเทพและเผ่ามาร "มหาเทพตงหัว" จึงนำขุนพลสวรรค์ใต้อาณัติ 72 นาย รวมทั้ง "เมิ่งฮ่าว" ไปปราบเหล่ามารร้าย หมายหยุดยั้งการเข่นฆ่าด้วยการฆ่า ยุติสงครามด้วยการทำสงคราม ในที่สุดก็นำพาสันติสุขมาสู่ใต้หล้า ได้นั่งบัลลังก์ประมุขฟ้าดิน บงการความเป็นตายของหกพิภพ หลายแสนปีต่อมา พญามาร "เหมี่ยวลั่ว" ได้บุกมาท้าทายอำนาจของมหาเทพตงหัว เธอเปิดศึกขั้นแตกหักโดยไม่สนว่าฟ้าจะถล่มดินจะทลาย ครั้นพบว่าเหมี่ยวลั่วมีพลังแก่กล้าจนกระบี่ชางเหอและหยกกักวิญญาณเอาไม่อยู่ มหาเทพตงหัวเลยใช้พลังตบะของตนปิดผนึกเหมี่ยวลั่วเอาไว้ในแดนต้องห้ามของเผ่ามาร ก่อนถูกจองจำเหมี่ยวลั่วกล่าวด้วยความอาฆาตแค้นว่า หากตนทลายผนึกออกไปได้เมื่อไหร่ มหาเทพตงหัวและสี่ทะเลแปดดินแดนจะต้องพินาศย่อยยับ ตนจะทำให้มหาเทพตงหัวได้เห็นทุกคนที่รักและห่วงหาต้องทุกข์ทนดุจตกนรกหมกไหม้ชั่วกัปชั่วกัลป์ (ก่อนโดนปิดผนึกเธอได้ปลดปล่อยปราณแดงส่วนหนึ่งออกมา)



สามหมื่นปีต่อมา "ไป๋เฟิ่งจิ่ว" หลงเข้าไปในแดนต้องห้ามของเผ่ามารโดยบังเอิญแล้วถูกปีศาจเสือทำร้าย โชคดีที่มหาเทพตงหัวมาช่วยเอาไว้ได้ทัน เพื่อตอบแทนบุญคุณของมหาเทพตงหัว เฟิ่งจิ่วจึงปกปิดฐานะแล้วแฝงตัวเข้าไปเป็นสาวใช้ในวังมหาอรุณบนสวรรค์ชั้นสิบสาม     แต่หลายร้อยปีผ่านไปก็ยังไม่มีโอกาสได้ตอบแทนคุณเพราะถูก "จือเฮ่อ" น้องสาวบุญธรรมของมหาเทพตงหัวคอยกลั่นแกล้งกีดกัน 

หลังราชามารคราม "เยียนฉืออู้" บุกมาขโมยหยกกักวิญญาณที่ผนึกไว้ในตำหนักใต้ดิน มหาเทพตงหัวจึงตามไปทวงคืนที่ยอดเขาฝูอวี่และเกิดการต่อสู้กัน ครั้นตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเยียนฉืออู้จึงใช้หยกกักวิญญาณรับคมกระบี่ของมหาเทพตงหัว มหาเทพตงหัวจึงเข้าไปติดอยู่ในแดนปทุมมาสิบสามานย์ (ซึ่งอยู่ภายในหยกกักวิญญาณและเต็มไปด้วยไอปีศาจ) เฟิ่งจิ่วได้ยินว่ามหาเทพตงหัวกำลังประลองกับเยียนฉืออู้บนยอดเขาฝูอวี่จึงรีบตามไปดูให้เห็นเป็นบุญตา ครั้นไปถึงกลับพบเพียงราชามารนิล "เนี่ยชูอิ๋น" หลังรู้ว่ามหาเทพตงหัวติดอยู่ในแดนปทุมมาสิบสามานย์ เฟิ่งจิ่วจึงยอมสละขนและหางทั้งเก้าของตนชั่วคราว (สามปี) เพื่อแลกกับพลังตบะห้าส่วนของเนี่ยชูอิ๋น แม้จะได้พลังมาช่วยมหาเทพตงหัวแต่เฟิ่งจิ่วก็สูญเสียความสามารถในการแปลงร่างและกลายเป็นจิ้งจอก (ภูต) ขนแดงแสนธรรมดา เธอไม่รู้ว่าเนี่ยชูอิ๋นให้พลังเธอมาเพียงชั่วเวลาสั้นๆ แถมเขายังหลอกองค์หญิงเผ่ามาร "จีเหิง" (ธิดาเมิ่งฮ่าว) ให้มาติดกับอีกคน

เนื่องจากการออกจากเขตแดนปทุมมาสิบสามานย์จำเป็นต้องทำลายโลกที่หยกกักวิญญาณหุ้มเอาไว้ แต่ก่อนทำลายจะต้องกำจัดปีศาจร้ายที่ถูกกักอยู่ภายในเสียก่อน มิเช่นนั้นจะมีปีศาจหลุดออกมาด้วย (หากเหล่าปีศาจหลุดออกมาจะส่งผลต่อเขตแดนสัจธรรมเมธาที่ผนึกพญามาร "เหมี่ยวลั่ว") มหาเทพจึงใช้โอกาสนี้ชำระไอมารและกำจัดปีศาจนับพันนับหมื่นในแดนปทุมมาสิบสามานย์เสียเลย หลังเข้าไปในเขตแดนปทุมมาสิบสามานย์ เฟิ่งจิ่ว (ซึ่งกลายเป็นจิ้งจอกน้อยที่มีพลังแก่กล้าหลังได้พลังห้าส่วนของเนี่ยชูอิ๋น) สวมบทผู้กล้าช่วยมหาเทพตงหัวปราบปีศาจอย่างอาจหาญ ขณะพ่นไฟปราบปีศาจอย่างเมามัน เฟิ่งจิ่วไม่ทันระวังเลยเผลอพ่นไฟใส่อุ้งเท้าข้างหนึ่งของตัวเองจนไหม้เกรียม มหาเทพตงหัวไม่เพียงช่วยพันแผลให้จิ้งจอกน้อย แต่ยังก่อไฟเผามันเทศ (ที่จีเหิงหามา) ให้ด้วย หลังสูญเสียพลังตบะไปกับการปราบเหล่าปีศาจ มหาเทพตงหัวเลยต้องนั่งสมาธิฟื้นฟูพลังนาน 7 วัน หลังจากนั้นจึงใช้พลังกำจัดปีศาจทั้งหมดที่เหลือก่อนพาจีเหิงและจิ้งจอกน้อยออกจากเขตแดนปทุมมาสิบสามานย์
 


หลังมหาเทพตงหัวพามาอยู่ในวังมหาอรุณ เฟิ่งจิ่วในร่างจิ้งจอกน้อยก็สุดแสนมีความสุขเพราะได้อยู่ข้างกายมหาเทพทุกวัน แต่หลังจากจีเหิงมาอยู่วังมหาอรุณในฐานะว่าที่เจ้าสาวเฟิ่งจิ่วก็รู้สึกหึงหวง หลังจิ้งจอกน้อยแผลงฤทธิ์กับจีเหิงถึงขั้นเลือดตกยางออกถึงสองครั้งสองครา มหาเทพตงหัวจึงสั่งให้ "ฉงหลิน" นำจิ้งจอกน้อยไปขังไว้ชั่วคราวและไม่ได้มาหาจิ้งจอกน้อยอีกเลย ฉงหลินเห็นจิ้งจอกน้อยซึมหนักเลยยอมปล่อยให้ออกไปเที่ยวเล่น เฟิ่งจิ่วเห็นมหาเทพตงหัวป้อนหลินจือให้สิงโตหิมะ "สั่วอิ๋ง" (สัตว์พาหนะของจีเหิง) เลยทั้งอิจฉาและน้อยใจ มิหนำซ้ำ เธอยังถูกสิงโตตัวดังกล่าวทำร้ายจนตกลงไปในสระน้ำ โชคดีที่ "ซือมิ่งซิงจวิน" (ดาวเทพลิขิตชะตา) ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ หลังรู้ว่าอีกสองวันมหาเทพตงหัวจะเข้าพิธีอภิเษกกับจีเหิง เฟิ่งจิ่วเลยกลับชิงชิวด้วยหัวใจที่แตกสลาย (เธอไม่รู้ว่างานอภิเษกของมหาเทพล่ม เพราะเขาแอบเปิดทางให้จีเหิงหนีไปหาคนรัก)  

หลังรู้ว่าจิ้งจอกน้อยหายไปมหาเทพตงหัวจึงสั่งให้ฉงหลินปูพรมค้นหาบนสวรรค์ชั้นสิบสาม ก่อนออกตามหาในแดนสัตว์ภูติด้วยตนเอง (เฟิ่งจิ่วเป็นจิ้งจอกเก้าหางไม่ใช่จิ้งจอกภูติ) ครั้นหาไม่พบมหาเทพตงหัวจึงระดมพระภูมิเจ้าที่บนโลกมนุษย์ให้ช่วยออกตามหาจิ้งจอกน้อยอีกทางหนึ่ง ก่อนหน้านี้มหาเทพตงหัวได้สูญเสียพลังตบะไปหลายส่วนในเขตแดนปทุมมาสิบสามานย์ ซ้ำยังช่วยสะกดพิษชิวสุ่ยในร่างจีเหิงทั้งที่พลังยังไม่ฟื้นฟู  ครั้นพบว่าผนึกของเขตแดนสัจธรรมเมธา*ใกล้เอาไม่อยู่ (เหมี่ยวลั่วดูดซับปราณขุ่นอันเกิดจากอกุศลมูลสาม*จากหกพิภพมาช้านาน ทำให้มีพลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) มหาเทพตงหัวจึงฝืนใช้พลังทั้งหมดเสริมผนึกให้แน่นหนาทำให้ยิ่งบอบช้ำหนัก 

* เขตแดนสัจธรรมเมธา คือ สถานที่ๆ มหาเทพตงหัวใช้ปิดผนึกพญามารเหมี่ยวลั่ว มหาเทพตงหัวสร้างเขตแดนสัจธรรมเมธา (อยู่ตรงกลางระหว่างฟ้าดิน) เพื่อดูดซับ "ปราณขุ่นจากอกุศลมูลสาม" ที่โลกแต่ละใบไม่อาจรับได้ หมายป้องกันไม่ให้เกิดกลียุค เมื่อเวลาผ่านพ้นปราณขุ่นฯ ในเขตแดนสัจธรรมเมธาเริ่มแผ่ขยายออกมาทางด้านนอกทีละน้อย นับว่ายังดีที่มีหุบเขาเสียงธรรมช่วยดูดซับปราณขุ่นฯ เอาไว้ มหาเทพตงหัวเลยชำระล้างได้ในคราเดียวโดยไม่ต้องเสียเวลารวบรวม ด้วยเหตุนี้ มหาเทพตงหัวจึงมาเยือนหุบเขาเสียงธรรมทุกสิบปี (โดยอ้างว่ามาสอน) เพื่อชำระล้างปราณขุ่นฯ ที่กระจายออกนอกเขตแดน 

* อกุศลมูลสาม (กิเลสสาม) คือ รากเหง้าของอกุศล หรือต้นตอของความชั่ว ประกอบด้วย โลภะ โทสะ โมหะ 



เพื่อฟื้นฟูพลังตบะให้กลับคืนมาดังเดิม มหาเทพตงหัวจำต้องดำดิ่งสู่ห้วงนิทราเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี ฉงหลินทำอะไรไม่ถูกเพราะมหาเทพสั่งให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับแล้วหลับใหลทันที หลังปรึกษา "เหลียนซ่ง" (องค์ชายสามแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า) ฉงหลินจึงรีบจึงเชิญ "อวิ๋นจวงเซียนเวิง" มาหารือด้วยเกรงว่าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปจะทำให้หกพิภพเกิดความปั่นป่วน ความจริงแล้วก่อนหน้านี้อวิ๋นจวงเซียนเวิงได้ช่วยแก้ไขสมุดลิขิตดวงชะตาของเทพซือมิ่ง เพื่อตบตาเหล่าทวยเทพว่ามหาเทพตงหัวสนใจศึกษาเรื่องความทุกข์ 8 ประการ* จึงคิดที่จะลงไปจุติบนโลกมนุษย์ แต่ฉงหลินกับเหลียนซ่งไม่อาจวางใจเรื่องเหมี่ยวลั่วจึงขอให้อวิ๋นจวงเซียนเวิงช่วยส่งเงาครึ่งหนึ่งของมหาเทพไปถือกำเนิดที่หุบเขาเสียงธรรม

* ความทุกข์ 8 ประการ ประกอบด้วย 1. ทุกข์เพราะเกิด 2. ทุกข์เพราะแก่ 3. ทุกข์เพราะเจ็บ 4. ทุกข์เพราะตาย 5. ทุกข์เพราะต้องจากคนที่เรารัก 6. ทุกข์เพราะพบคนที่เราชัง 7. ทุกข์เพราะไม่ได้สิ่งที่ปรารถนา  8. ทุกข์เพราะขันธ์ห้า คือ การมีร่างกาย มีความรู้สึก มีความทรงจำ มีการปรุงแต่ง และมีการรับรู้ 

เหลียนซ่งกล่าวว่า เมื่อวิญญาณดวงนี้ถือกำเนิดจะไม่รู้ว่าตนเป็นเงาของมหาเทพตงหัว และยิ่งไม่รู้ว่าตนแบกรับภารกิจในการพิทักษ์เขตแดนสัจธรรมเมธา เนื่องจากเงานี้มีกลิ่นอายของมหาเทพตงหัว ขอเพียงไปเกิดที่หุบเขาเสียงธรรมก็เท่ากับเป็นการสยบเหมี่ยวลั่วแล้ว ที่สำคัญชนเผ่านกปี่อี้ที่อยู่ในหุบเขาเสียงธรรมล้วนมีอายุขัย เมื่อร่างเงาสลายกลายเป็นธุลีเงาครึ่งหนึ่งนี้ย่อมหวนคืนสู่มหาเทพจึงไม่มีอะไรให้เป็นกังวล อวิ๋นจวงเซียนเวิงยอมรับว่านี่เป็นหนทางเดียวที่สามารถทำได้ แต่เขามีข้อแม้ว่าหลังส่งเงาของมหาเทพไปเกิดที่หุบเขาเสียงธรรมแล้ว ทุกคนในที่นี้จะต้องดื่มน้ำลืมธุลีเพื่อให้ลืมเรื่องนี้ไป ทั้งนี้เพราะดวงวิญญาณที่สร้างขึ้นแม้เป็นเพียงเงาจางๆ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของมหาเทพตงหัว หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป หรือมีใครจงใจเปลี่ยนแปลงดวงชะตาขณะที่มหาเทพตงหัวดำดิ่งสู่ห้วงนิทรา จะส่งผลต่อรากฐานเซียนของมหาเทพ


เจ้าโลกันตร์ "เซี่ยกูโฉว" มาหาเฟิ่งจิ่วที่ชิงชิวเพื่อบอกความลับเรื่องมหาเทพตงหัว เขากล่าวว่าเรื่องนี้สวรค์เบื้องบน พิภพเบื้องล่าง หรือแม้แต่ผู้วิเศษดาวเหนือ/ดาวใต้* อาจยังไม่รู้หรือไม่ทันสังเกตเลยด้วยซ้ำ เขาเป็นผู้ดูแลแท่นหยวนฉีและวัฏสงสารจึงตรวจพบความผิดปกติ ขณะสะสางสมุดหยวนฉีเขาพบว่ามีคนผู้หนึ่งมาจุติในโลกต่างพิภพโดยไม่มีชาติก่อน ชาติหน้า และไม่ผ่านวัฏสงสาร ทว่าการแก้ไขดวงชะตาลับหลังตนจำต้องใช้มนต์อดีตกาล นอกจากตนแล้วมีเพียงอวิ๋นจวงเซียนเวิงแห่งวังมหาอรุณที่ทำเช่นนั้นได้ เขาได้ยินว่ามหาเทพตงหัวต้องการตรองทุกข์ 8 ประการในแดนมนุษย์ ประกอบกับสมุดลิขิตชะตาของเทพซือมิ่งบันทึกว่ามหาเทพตงหัวจะลงไปเกิดในแดนมนุษย์ด้วยตนเองในอีก 300 ปีข้างหน้า เขาจึงคาดว่าตลอด 300 ปีนี้มหาเทพตงหัวจะเข้าฌานอยู่ในวังมหาอรุณ

* เทพเซียนที่ดูแลเรื่องความเป็นความตายของมนุษย์และจิตฌาณที่มีอายุขัย (ในละคร) ได้แก่ ผู้วิเศษดาวเหนือ (คุมมรณะ), ผู้วิเศษดาวใต้ (คุมชาตะ) และเจ้าโลกันตร์ (คุมการตัดสินโทษทัณฑ์หลังความตาย  ตลอดจนวัฏสงสาร และแท่นหยวนฉี)

เซี่ยกูโฉวเดาว่าระหว่างเข้าฌาน มหาเทพตงหัวอาจขอให้อวิ๋นจวงเซียนเวิงร่ายมนต์อดีตกาลเพื่อส่งเงาของตนไปเกิดในโลกต่างพิภพเพื่อหาประสบการณ์ก่อน การที่มหาเทพปิดบังเรื่องนี้จากเหล่าทวยเทพทั้งปวงแสดงว่าต้องการเก็บงำเป็นความลับ เซี่ยกูโฉวเห็นว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่เฟิ่งจิ่วจะได้ตอบแทนบุญคุณของมหาเทพตงหัว เขามองว่าสำหรับเธอแล้วการเผชิญหน้ากับ 'เงาของมหาเทพ' น่าจะดีกว่าการเผชิญหน้ามหาเทพตัวเป็นๆ เฟิ่งจิ่วเห็นดีด้วย เธอกล่าวว่าในเมื่อมหาเทพตงหัวปิดบังเรื่องนี้จากเหล่าเทพเซียน เธอจึงไม่ขอรับรู้ว่าเงาของมหาเทพไปเกิด ณ ที่ใด ขอเพียงเซี่ยกูโฉวส่งเงาเธอไปเกิดในที่ๆ เงามหาเทพถือกำเนิดเป็นพอ เธอหวังว่าเงาของตนจะช่วยแทนคุณมหาเทพตงหัว หากมหาเทพมีภัยเธอจะคอยปกป้องเขา ไม่ว่าเขาปรารถนาสิ่งใดเธอจะสรรหามาให้ หากเงาของเธอแทนคุณไม่สำเร็จ รอให้มหาเทพลงไปจุติบนโลกมนุษย์ด้วยตนเองในอีก 300 ปีข้างหน้า เธอค่อยตามไปตอบแทนบุญคุณ



เพื่อฟื้นฟูพลังตบะให้ทันการมหาเทพตงหัวตัดสินใจเผชิญด่านเคราะห์บนโลกมนุษย์ก่อนกำหนด 300 ปี หลังรู้ว่ามหาเทพตงหัวลงไปจุติบนโลกมนุษย์ก่อนกำหนด เฟิ่งจิ่วจึงตามไปปกป้องและช่วยเหลือ (ในโลกมนุษย์เธอคือ "ไป๋เสี่ยวจิ่ว" ส่วนมหาเทพคือ "ซ่งเสวียนเหริน") ถึงแม้เธอจะช่วยให้มหาเทพตงหัวผ่านด่านเคราะห์ได้สำเร็จ (ไม่มีอะไรติดค้างองค์มหาเทพแล้ว) แต่เธอกลับเป็นหนี้ชีวิต "เย่ชิงถี" ซึ่งเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา เพื่อตอบแทนบุญคุณของเย่ชิงถีที่สละชีวิตเพื่อช่วยตน     เฟิ่งจิ่วจึงไปปรึกษาเซี่ยกูโฉวที่แดนโลกันตร์ เซี่ยกูโฉวชี้ว่าวิญญาณของเย่ชิงถีแปดเปื้อนไอปีศาจ (เขาตายเพราะคมดาบหลานเยว่ซึ่งเป็นดาบปีศาจ) ถึงแม้เกิดใหม่ก็จะเป็นได้เพียงปีศาจ ต้องทนทุกข์ทรมานทุกชาติภพ ทางเดียวที่จะช่วยปลดปล่อยเขาคือการสร้างร่างเซียนขึ้นมารองรับวิญญาณ สลายไอปีศาจ แล้วพาไปยังสระมณีบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเพื่อชำระล้างคราบธุลี ก่อนนำเข้าทำเนียบเซียน  แต่การสร้างร่างเซียนจำเป็นต้องใช้ผลพิมพาซึ่งสามารถชุบชีวิตและสร้างร่างเซียนได้ หลังฝากเย่ชิงถีไว้กับเซี่ยกูโฉวแล้วเฟิ่งจิ่วก็เดินทางกลับชิงชิว

ในที่สุดมหาเทพตงหัวก็ได้พบเฟิ่งจิ่วในฐานะกษัตรีย์เผ่าจิ้งจอกขาวเก้าหางแห่งชิงชิวเป็นครั้งแรก หลังเป็นตัวแทนเผ่าสวรรค์ไปรับเจ้าสาวที่ชิงชิวแทน "ม่อเยวียน" (พี่ชายเจ้าบ่าว - เป็นงานอภิเษกระหว่าง "เยี่ยหัว" กับ "ไป๋เฉี่ยน" ซึ่งเป็นคู่พระนางจากเรื่อง "สามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่")  โดยมีซือมิ่ง เหลียนซ่ง และ "เจ๋อเหยียน" ติดตามมาด้วย (เหลียนซ่งแนะ (หลอก) มหาเทพตงหัวให้ไปตามหาจิ้งจอกน้อยที่ชิงชิว มหาเทพฯ เลยยอมมารับตัวเจ้าสาว) หลังเสร็จสิ้นพิธีการ มหาเทพตงหัวแอบปลีกตัวออกมาตามหาจิ้งจอกน้อยที่หายไป แต่ยังคงไร้ซึ่งวี่แวว 



เฟิ่งจิ่วและ "อาหลี" (โอรสของไป๋เฉี่ยนกับเยี่ยหัว) ติดตามขบวนเจ้าสาวขึ้นมาบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ระหว่างอยู่ที่นี่เฟิ่งจิ่วพยายามหลบหน้ามหาเทพตงหัว แต่ทว่ายิ่งหลบกลับยิ่งเจอ ครั้นได้เห็นวีรกรรมที่ทั้งเปิ่นและแสนซนหลายครั้งหลายครา มหาเทพตงหัวก็เริ่มสนใจเฟิ่งจิ่ว วันหนึ่งเฟิ่งจิ่วต้องการหลบหน้ามหาเทพตงหัวเลยแปลงร่างเป็นผ้าเช็ดหน้า มหาเทพเห็นดังนั้นจึงอ้างว่าเป็นผ้าของตน  (เขารู้ว่าเป็นเฟิ่งจิ่ว) จากนั้นก็พกติดตัวตลอดเวลา แม้กระทั่งในวันประลอง (ครั้งที่สอง) กับเยียนฉืออู้บนยอดเขาฝูอวี่ ขณะที่มหาเทพตงหัวกำลังต่อสู้กับเยียนฉืออู้อย่างดุเดือด หุบเขาเสียงธรรม (ซึ่งจะเปิดหุบเขาเพียงชั่วพริบตาทุกหกสิบปี) ได้เปิดออกพอดี เฟิ่งจิ่วกับเยียนฉืออู้จึงตกลงบนชะง่อนผาในหุบเขาเสียงธรรม ขณะพยายามหาทางออกเฟิ่งจิ่วได้พลัดตกลงไปยังก้นหุบเขา เยียนฉืออู้เห็นดังนั้นจึงกระโดดตามไปร่วมชะตากรรมโดยไม่ลังเล 


ทั้งคู่บังเอิญตกลงไปกระแทก "เซี่ยงหลี่เหมิง" องค์ชายรองเผ่านกปี่อี้ ทำให้ถูกจับขังคุกน้ำ โชคดีที่เซี่ยงหลี่เหมิงฟื้นคืนสติได้ทันเวลา  เขาไม่เพียงช่วยเฟิ่งจิ่วกับเยียนฉืออู้ให้พ้นผิด แต่ยังโกหกว่าทั้งคู่คือองค์ชายและองค์หญิงจากเผ่านกฮูกซึ่งเดินทางมาแสวงหาความรู้ที่นี่ "หนี่ว์จวินจวี๋นั่ว" (กษัตรีย์ของเผ่านกปี่อี้นาม "จวี๋นั่ว") ได้ยินว่าทั้งคู่เป็นอาคันตุกะจึงให้เข้าพักและเรียนหนังสือที่ราชวิทยาลัย แม้รู้ว่าหุบเขาเสียงธรรมจะเปิดหุบเขาอีกครั้งในอีก 60 ปีข้างหน้า แต่เฟิ่งจิ่วยังคิดหาหนทางหลบหนี ผิดกับเยียนฉืออู้ที่ยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี (เพราะเขาพบจือเหิงที่นี่) ครั้นรู้ว่าราชวิทยาลัยกำลังจะจัดแข่งขันประลองฝีมือ โดยมีรางวัลเป็นผลพิมพาที่สามารถชุบชีวิตคนตายและสร้างร่างเซียนได้ เฟิ่งจิ่วจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ตนได้เข้าร่วมและชนะการแข่งขัน 

ที่ผ่านมามหาเทพตงหัวจะมาสอนวิธีชงชาที่ราชวิทยาลัยของเผ่าปี่อี้ทุกๆ สิบปี (เป็นข้ออ้างในการมาชำระล้างปราณขุ่นฯ ที่หุบเขาเสียงธรรมและถือโอกาสขจัดพิษให้จีเหิง) แต่ปีนี้มหาเทพร้อนใจ     (เพราะทำผ้าเช็ดหน้าตก) เลยมาเร็วเป็นพิเศษและตั้งใจว่าจะอยู่นานกว่าทุกครั้ง ระหว่างอยู่ที่นี่มหาเทพตงหัวเริ่มแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่ามีใจให้เฟิ่งจิ่ว แต่เฟิ่งจิ่วไม่วายคิดว่ามหาเทพมาที่นี่เพราะจีเหิง แม้รู้ว่าเฟิ่งจิ่วตั้งใจฝึกปรืออย่างหนักหมายเป็นผู้ชนะและได้ผลพิมพามาครอง แต่หลังช่วยฝึกจนเฟิ่งจิ่วชนะ มหาเทพตงหัวกลับมอบผลพิมพาให้จีเหิงแทน (มหาเทพหึงเพราะนึกว่าเฟิ่งจิ่วต้องการนำผลพิมพาไปทำขนมให้เยียนฉืออู้) เฟิ่งจิ่วไม่มีทางเลือกเลยบุกเข้าไปในค่ายกลงูเพื่อขโมยผลพิมพาทั้งที่พลังเซียนอ่อนด้อย นั่นจึงทำให้เธอบาดเจ็บสาหัสและติดอยู่ในห้วงฝันของอาหลานเหร่อ ซึ่งเป็นโลกอีกมิติที่มีผู้สร้างขึ้น โดยเลียนแบบช่วงเวลาที่อาหลานเหร่อยังมีชีวิตทุกอย่าง (หากคนของหุบเขาเสียงธรรมตกลงมาในห้วงฝันฯ จะเข้าแทนที่ร่างตัวเองที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่จะจำรูปร่างหน้าตาในโลกเดิมไม่ได้)


ครั้นรู้ว่าเฟิ่งจิ่วคือจิ้งจอกน้อยที่ตนตามหา ทั้งยังรู้ด้วยว่าที่ผ่านมาเฟิ่งจิ่วทำเพื่อตนมากเพียงไหน เจ็บปวดเพราะตนมากเพียงใด มหาเทพตงหัวก็ถึงกับกุมขมับ (เขาเพิ่งรู้ด้วยว่าเฟิ่งจิ่วต้องการนำผลพิมพาไปชุบชีวิตคน) หลังพบว่าเฟิ่งจิ่วติดอยู่ในห้วงฝันของอาหลานเหร่อ มหาเทพตงหัวจึงปลดพลังเซียนเก้าส่วนแล้วเข้าไปช่วยเฟิ่งจิ่วโดยไม่ลังเล เนื่องจากเฟิ่งจิ่วบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ มหาเทพตงหัวจึงป้อนเลือดของตนให้เฟิ่งจิ่วเพื่อสมานรอยแผลบนจิตวิญญาณ จากนั้นจึงใช้พลังสร้างผนึกฟื้นฟู เพื่อฟื้นฟูร่างเซียนของเฟิ่งจิ่วโดยเฉพาะ แต่เนื่องจากจิตวิญญาณไม่เหมาะที่จะเก็บไว้ในผนึกนานๆ     มหาเทพตงหัวจึงนำร่างเซียนของเฟิ่งจิ่วไปเก็บไว้ในโลงน้ำแข็งแล้วผนึกไว้ที่ก้นบึง แล้วนำจิตวิญญาณเธอไปฝากไว้ในครรภ์สตรีเพื่อจะได้ดูดซับพลังชีวิตเล็กๆ น้อยๆ มาหล่อเลี้ยงไว้ตลอดเวลา รอให้เฟิ่งจิ่วฟื้นฟูดีก่อนแล้วค่อยออกไป นึกไม่ถึงว่าจิตวิญญาณของเฟิ่งจิ่วจะเข้าไปอยู่ในร่างของ "อาหลานเหร่อ"

ขณะอยู่ในห้วงฝันฯ เฟิ่งจิ่ว (ซึ่งสูญเสียความทรงจำ) ใช้ชีวิตในฐานะอาหลานเหร่อ เธอต้องทำสิ่งที่อาหลานเหร่อเคยทำเพื่อให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำรอยเดิม โดยมี "ซูม่อเยี่ย" (องค์ชายรองของเทพสมุทรประจิม / อาจารย์ของอาหลานเหร่อ) คอยให้คำปรึกษาและช่วยลำดับเหตุการณ์ (เหลียนซ่งส่งเขามาช่วยเฟิ่งจิ่วกับมหาเทพฯ แต่เขาต้องการสืบหาสาเหตุการตายที่แท้จริงของอาหลานเหร่อด้วย) ส่วนมหาเทพตงหัวสวมรอยเป็น "ซีเจ๋อ" (สามีของอาหลานเหร่อ) แต่ยังคงใช้รูปลักษณ์เดิมของตนเอง ขณะอยู่ในห้วงฝันได้เกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นมากมาย พญามารเหมี่ยวลั่วส่งร่างจำแลงมานำปราณแดงที่อยู่ในตัวเฟิ่งจิ่วกลับคืน (ก่อนโดนมหาเทพฯ ผนึกไว้ในเขตแดนสัจธรรมเมธา เหมี่ยวลั่วได้ปลดปล่อยปราณแดงออกมา โดยส่วนหนึ่งได้ฝากไว้ในครรภ์มารดาของเฟิ่งจิ่ว เฟิ่งจิ่วจึงเกิดมาโดยมีปราณแดงแฝงในร่าง) เมื่อเฟิ่งจิ่วในร่างอาหลานเหร่อพบร่างเซียนของตน จิตวิญญาณของเฟิ่งจิ่วก็หวนคืนสู่ร่างเดิม ทำให้ร่างอาหลานเหร่อที่ถูกสร้างขึ้นหายวับไป 




หลังคืนสู่ร่างเซียนความทรงจำของเฟิ่งจิ่วก็กลับคืนมา เธอกับมหาเทพตงหัวครองรักกันในฐานะอาหลานเหร่อกับซีเจ๋ออย่างมีความสุข ในที่สุดมหาเทพตงหัวก็พบว่าห้วงฝันของอาหลานเหร่อสร้างขึ้นโดย "เฉินเยี่ย" ซึ่งเป็นเงาของตน (อวิ๋นจวงเซียนเวิงส่งมา) ส่วนอาหลานเหร่อคือเงาของเฟิ่งจิ่ว (เซี่ยกูโฉวส่งมา) เฉีนเยี่ยลงแรงสร้างห้วงฝันฯ หมายใช้เป็นสถานที่เลี้ยงดูดวงจิตของอาหลานเหร่อ (ที่เขารวบรวมมา) โดยไม่รู้ว่าอาหลานเหร่อเป็นเพียงเงาซึ่งมีแค่ชาติภพเดียวจึงไม่อาจชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ สุดท้ายดวงจิตที่เขาสู้อุตส่าห์รวบรวมได้ก็กลับคืนสู่ร่างของเฟิ่งจิ่ว

หลังออกจากห้วงฝันฯ มหาเทพตงหัวได้มอบผลพิมพาให้เย่ชิงถีตามความประสงค์ของเฟิ่งจิ่ว แต่ในงานเลี้ยงวันอภิเษกของมหาเทพตงหัวกับเฟิ่งจิ่วได้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ทำให้มหาเทพตงหัวไม่ปรากฏตัวในงานและหายตัวไป (วันนั้นจีเหิงอ้างสัญญาที่มหาเทพตงหัวเคยให้ไว้กับบิดาตน โดยขอให้มหาเทพหย่าขาดกับเฟิ่งจิ่วและสาบานว่าจะไม่ยกใครเป็นมหาเทวีชั่วชีวิต มหาเทพตงหัวโกรธมาก เขาเลือกตอบแทนน้ำใจบิดาของจีเหิงด้วยการขจัดพิษชิวสุ่ยทั้งหมดในกายจีเหิงแล้วนำมาไว้ในร่างตนแทน จากนั้นจึงห้ามจีเหิงออกจากเผ่ามารชั่วชีวิต) เฟิ่งจิ่วรอคำอธิบายจากมหาเทพตงหัวอยู่นาน แต่รอแล้วรอเล่าเขาก็ยังไม่กลับมา (เขาฝากเยียนฉืออู้มาส่งข่าวแล้วแต่เกิดเรื่องวุ่นวายเสียก่อน) เธอเสียใจมากเพราะนึกว่ามหาเทพตงหัวทิ้งตนไปอยู่กับจีเหิงที่เผ่ามาร ครั้นรู้ว่าตนตั้งครรภ์เฟิ่งจิ่วจึงหลบไปคลอดในแดนมนุษย์โดยอ้างว่าไปฝึกตน จากนั้นก็เร้นกายที่นั่นกับบุตรชาย "ไป๋กุ๋นกุ่น" 

หลังเหมี่ยวลั่วทลายผนึกที่เขตแดนสัจธรรมเมธาแล้วหนีออกมาได้    (พร้อมพลังที่แก่กล้ากว่าเดิมเพราะได้ปราณแดงกลับคืน ซ้ำยังดูดซับปราณขุ่นฯ และดูดพลังจากมารตนอื่นมานาน) มหาเทพตงหัวพยายามชำระล้างปราณขุ่นฯ ในเขตแดนสัจธรรมเมธา แต่เนื่องจากพลังยังไม่ฟื้นฟูเลยทำได้ยากยิ่ง (ก่อนหน้านี้เขาฝืนใช้พลังเสริมผนึกของเหมี่ยวลั่วมาโดยตลอด) ซ้ำร้ายพิษชิวสุ่ยที่ไหลเวียนอยู่ในแก่นเซียนยังทำให้มหาเทพตงหัวฟื้นฟูพลังเซียนได้ยากขึ้นและต้องใช้เวลานานกว่าเดิมห้าเท่า ปัญหาคือหุบเขาเสียงธรรมกำลังจะเปิดอีกครั้ง หากไม่หาวิธีผนึกเอาไว้ก่อน ปราณขุ่นฯ จะแพร่กระจายออกนอกเขตแดน 




มหาเทพตงหัวซึ่งอ่อนกำลังลงมากเกรงว่าจะไม่ทันการเลยต้องการตัวช่วย ครั้นพบว่าวิธีเดียวที่จะปิดผนึกปราณขุ่นฯ ได้ คือการเปิดเขตแดนแสงดาว* (ซิงกวง) ในทะเลมรกตแห่งชางหลิง มหาเทพจึงชักนำเหมี่ยวลั่วมาที่นี่หมายให้ตนและเหมี่ยวลั่วสูญสลายไปพร้อมกับเขตแดนสัจธรรมเมธาเพื่อยุติมหันตภัย ด้วยเหตุนี้เขาจึงฝากให้ฉงหลินนำแหวนที่ทำจากหัวใจครึ่งดวงของตนไปมอบให้เฟิ่งจิ่ว (ก่อนหน้านี้มหาเทพเคยมอบแหวนให้เฟิ่งจิ่วเองกับมือแต่เฟิ่งจิ่วไม่ยอมรับ) หลังรู้ความจริงทั้งหมด (ว่าที่ผ่านมาตนเข้าใจมหาเทพตงหัวผิดไป) เฟิ่งจิ่วจึงเสียใจมาก เธอคิดว่าในเมื่อไม่มีวาสนาได้ครองคู่ก็ขอตายเคียงข้างกัน เธอไม่ยอมให้มหาเทพตงหัวสู้ตายเพียงลำพังจึงฝ่าเข้าไปในเขตแดนแสงดาวเพื่อช่วยรับมือเหมี่ยวลั่ว (เธอเข้าไปได้เพราะสวมแหวนของมหาเทพฯ) 

เขตแดนแสงดาว (ซิงกวง) สร้างจากแสงดาวเก้าสวรรค์ ใช้กักขังสิ่งอัปมงคล ผู้ที่อยู่ในเขตแดนจะไม่สามารถออกมาได้ (นอกจากผู้สร้างแล้วคนอื่นไม่สามารถเข้าไปได้เช่นกัน) ทางเดียวที่จะออกจากเขตแดนคือสังหารผู้สร้าง และหากผู้สร้างต้องการออกจากเขตแดนก็ต้องทำลายสิ่งที่ถูกกักขังจนหมดสิ้น 

แม้เฟิ่งจิ่วจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมี่ยวลั่ว แต่หลังถูกแทงเข้าที่กลางอกเธอก็พบว่าเลือดจากหัวใจของจิ้งจอกเก้าหางสามารถชำระล้างมารได้ เพราะพลังตบะของเหมี่ยวลั่วค่อยๆ สลายหลังแปดเปื้อนเลือดของเฟิ่งจิ่ว (เลือดของมหาเทพที่อยู่ในกายเฟิ่งจิ่วทำให้พลังตบะของเหมี่ยวรั่วสลายเร็วขึ้น) เฟิ่งจิ่วจึงชโลมเลือดลงบนกระบี่ของตนและของมหาเทพแล้วพุ่งเข้าแทงเหมี่ยวลั่วด้วยกัน หลังจากนั้นเหมี่ยวลั่วก็ดับสูญ เมื่อเลือดของเฟิ่งจิ่วหลอมรวมกับเลือดของมหาเทพตงหัวปราณขุ่นฯ ก็ถูกชะล้างจนหมดสิ้นดุจปาฏิหาริย์ หลังจากนั้นเขตแดนแสงดาวก็เสื่อมคลายลง 


เนื่องจากเฟิ่งจิ่วบาดเจ็บสาหัสที่แก่นเซียนเลยต้องใช้เวลารักษาตัวระยะหนึ่งถึงจะฟื้น (เธอกับมหาเทพย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ทะเลมรกตแห่งชางหลิง เหล่าเทพเซียนที่เป็นคนใกล้ชิดจึงมักแวะเวียนมาที่นี่) เมื่อเซี่ยกูโฉวทราบข่าวจึงพาไป๋กุ๋นกุ่นมาหาเฟิ่งจิ่ว ครั้นเห็นเทพเซียนตัวน้อยผมสีเงินทุกคนก็ถึงกับตกตะลึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาเทพตงหัวที่ตกใจจนเผลอทำถ้วยยาตกแตกหลังรู้ว่ากุ๋นกุ่นเป็นบุตรชายของเฟิ่งจิ่ว กุ๋นกุ่นสงสัยว่าเทพเซียนรูปงามที่นั่งเฝ้ามารดาตนอยู่ริมเตียงและทำถ้วยยาหลุดมือเป็นใคร มหาเทพตงหัวตอบว่า "กุ๋นกุ่น...ข้าคือฟู่จวิน (บิดา) ของเจ้า" จากนั้นก็ลูบหัวกุ๋นกุ่นด้วยความเอ็นดู



** จบบริบูรณ์ **

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่





รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ

 

ตี๋ลี่เร่อปา
รับบท ไป๋เฟิ่งจิ่ว / ไป๋เสี่ยวจิ่ว / เซี่ยงหลี่อาหลานเหร่อ 
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เกาเหว่ยกวง
รับบท มหาเทพตงหัว / ซ่งเสวียนเหริน  / เฉินเยี่ย (沉晔)
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)

ชิงชิว (แดนจิ้งจอกเก้าหาง)

  

เฉินฉู่เหอ
รับบท เจ๋อเหยียน
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)


 

หวงจวิ้นเจี๋ย
รับบท ไป๋เจิน
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หยางมี่
รับบท ไป๋เฉี่ยน
(นักแสดงรับเชิญ ชาวจีน)


 

จางหมิงช่าน
รับบท อาหลี
(นักแสดง ชาวจีน)

* ลูกชาย "ไป๋เฉี่ยน" และ "เย่หัว" *


 

โค่วอวิ๋นหาว
รับบท ไป๋กุ๋นกุ่น
(นักแสดง ชาวจีน)

* ลูกชาย "ไป๋เฟิ่งจิ่ว" และ "ตงหัว" *



หวังอีหมิง
รับบท เสี่ยวจิงเว่ย
(นักแสดง ชาวจีน)


 

จ้าวจื่อฉี
รับบท หมีกู่
(นักแสดง ชาวจีน)

สวรรค์เก้าชั้นฟ้า

 

เจี่ยงข่าย
รับบท เทียนจวิน
(นักแสดง ชาวจีน)

* เทพปกครองสวรรค์ นาม "ฮ่าวเต๋อ" * 


 

หลี่ตงเหิง
รับบท เหลียนซ่ง
(นักแสดง ชาวจีน)

 * โอรสองค์ที่สามของเทียนจวิน (เทพปกครองสวรรค์) *


 

กัวผิ่นเชา
รับบท ซูม่อเยี่ย
(นักแสดง / นายแบบ / นักร้อง ชาวไต้หวัน)

* องค์ชายรองแห่งทะเลประจิม (ซีไห่) *


 

หวังเซียว
รับบท ซือมิ่งซิงจวิน
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หยวนอวี่เซวียน
รับบท เฉิงอวี้
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หูอวิ๋นหาว
รับบท เซี่ยกูโฉว
(นักแสดง ชาวจีน)



ฝานจื้อซิน
รับบท ฉงหลิน
(นักแสดง ชาวจีน)



หวังอี้เฟย
รับบท จือเฮ่อ (เทพวารี)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

จางอวิ๋นหลง
รับบท ชางอี๋เสินจวิน
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)

หุบเขาเสียงธรรม / ห้วงฝันของอาหลานเหร่อ


 

หลี่จิ้นหรง
รับบท เซี่ยงหลี่เชวี่ย
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เชอหย่งลี่
รับบท ชิงฮั่วฟูเหริน
(นักแสดง ชาวจีน)


 

ซุนเสวี่ยหนิง
รับบท  เซี่ยงหลี่จวี๋นั่ว
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หม่าเจ๋อหาน
รับบท เซี่ยงหลี่ฉางตี้
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หลี่ป๋อเหวิน
รับบท เซี่ยงหลี่เฮ่อ
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)



ฟู่เหมี่ยว
รับบท หนี่ว์จวินจวี๋นั่ว (จวี๋นั่วตอนเป็นกษัตรีย์)
(นักแสดง / ผู้ดำเนินรายการ ชาวจีน)


 

อี้ต้าเชียน
รับบท เซี่ยงหลี่เหมิง (เหมิงส้าว)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

จวงต๋าเฟย
รับบท เซี่ยงหลี่เจี๋ยลวี่
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)


 

เยี่ยอวิ๋นเฟย
รับบท ฉาฉา
(นักแสดง ชาวจีน)


 

จูหย่งเถิง
รับบท ซีเจ๋อ
(นักแสดง ชาวจีน)

เผ่ามาร

 

จางเหวิน
รับบท เหมี่ยวลั่ว
(นักแสดง ชาวจีน)

* พญามารชาด *


 

จินเจ๋อฮ่าว
รับบท ซวี่หยาง
(นักแสดง ชาวจีน)

* ราชามารชาด (ซื่อจือโหมวจวิน) / ราชันเผ่ามาร *


 

หลิวเยว่เฟย
รับบท จีเหิง
(นักแสดง ชาวจีน)

* องค์หญิงเผ่ามาร / ลูกสาวเมิ่งฮ่าว *


 

หลิวรุ่ยหลิน
รับบท เยียนฉืออู้
(นักแสดง ชาวจีน)

ราชามารคราม (ชิงจือโหมวจวิน) / น้องชายฝาแฝดของ "จื่อหลาน" (ศิษย์คนที่สิบหกของม่อเยวียน) *


 

ไต้เซี่ยงอวี่
รับบท เนี่ยชูอิ๋น
(นักแสดง ชาวจีน)

* ราชามารนิล (เสวียนจือโหมวจวิน) *


 

หวังรั่วซาน
รับบท หมิ่นซู
(นักแสดง ชาวจีน)

แดนมนุษย์ (แคว้นเฉิงอวี๋)

 

เกาซู่กวง
รับบท หวังจวิน
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หูคุน
รับบท ซ่งเสวียนอิง
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)


 

สวีเส้าอิง
รับบท แม่ทัพเย่ชิงถี
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หยางหมิงน่า
รับบท เสียนเฟย
(นักแสดง ชาวจีน)





เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

เรื่องย่อ สามชาติ สามภพ ป่าท้อสิบหลี่ (Eternal Love)


*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากสำหรับเนื่อเรื่องย่อ ดูมา2รอบแล้วยังไม่เข้าใจบางจุด ได้อ่านที่นี่ ชัดเจนเลย🙏

    ตอบลบ

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา