วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563

เรื่องย่อ เจาะเวลาหาจิ๋นซี 2018 (A Step into the Past)




บทประพันธ์: หวงอี้ (นักเขียนชาวฮ่องกง)
กำกับ: เหลี่ยงกั๋วกวน
แนวละคร: ย้อนเวลา
จำนวนตอน: 40
ออกอากาศ: จีน - 18 มกราคม 2561 ทางเว็บไซต์โยวคู่  (Youku)
                 ไทย - ทุกวันอาทิตย์-จันทร์ เวลา 00.35 น. ทางช่องเวิร์คพอยท์  (หมายเลข 23) เริ่มวันที่ 19 มกราคม 2563 - 1 มิถุนายน 2563





เรื่องย่อ



ละคร "เจาะเวลาหาจิ๋นซี 2018" (A Step into the Past) ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง "寻秦记" ของ "หวงอี้" เนื้อหากล่าวถึงเรื่องราวของ "เซี่ยงเส้าหลง" ชายจากโลกอนาคตที่บังเอิญเดินทางย้อนเวลากว่าสองพันปี โดยเขาไปโผล่ที่รัฐจ้าวในยุคจ้านกว๋อ* ก่อนที่ "ฉินอ๋อง" (อ๋องแห่งรัฐฉิน) จะรวมแผ่นดินแล้วตั้งตนเป็นจักรพรรดิ (ฉินซีฮ่องเต้) สามปี เพื่อที่จะกลับไปยังโลกอนาคตเขาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ฉินอ๋องได้ขึ้นครองบัลลังก์ เลยเข้าไปมีส่วนพัวพันกับความขัดแย้งทางการเมืองและการแก่งแย่งชิงดีในราชสำนักของรัฐต่างๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หมายเหตุ:
  • ยุคจ้านกว๋อ หรือ "ยุครณรัฐ" (ราว 475-221 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นยุคที่แผ่นดินจีนแตกแยกเป็น 7 นครรัฐ  ได้แก่ ฉิน เว่ย เจ้า ฉู่ ฉี เยียน และ หาน โดยต่างรบรากันเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ ก่อนที่รัฐฉินจะรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งแล้วสถาปนาราชวงศ์ฉินขึ้นในสมัยฉินซีฮ่องเต้ (ฉินซีเป็นจักรพรรดิ (หวงตี้) องค์แรกของจีน)

เนื้อหาตอนที่ 1



ละครเปิดฉากขึ้นบนห้วงอวกาศในปี ค.ศ. 2188 (พ.ศ. 2731) "จ่านเฟิง" ซึ่งอยู่บนฐานบัญชาการเคลื่อนที่ในยานอวกาศที่ชื่อ "เทียนกง 28" (เป็นยานแม่ขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายยานรบ) ใช้เทคโนโลยีภาพเสมือนสามมิติ (โฮโลแกรม) และ AI ตรวจสอบการทำงานของเหล่าบรรดานักบินที่ขับยานอวกาศขนาดเล็กออกไปปฏิบัติภารกิจที่ชื่อ "หลุมดำ"  หลังภารกิจประสบความสำเร็จ "เซี่ยงเส้าหลง" ซึ่งเป็นหัวหน้าฝูงบิน "ซิงอวิ๋น" (แปลว่า เนบิวลา) ได้นำลูกทีมกลับมารายงานตัวกับจ่านเฟิง แต่แล้วอยู่ๆ ยานแม่ของพวกเขาก็โคจรมาเจอหลุมดำทำให้ระบบถูกพลังงานของคลื่นแรงโน้มถ่วงรบกวน แถมค่าแรงโน้มถ่วงของหลุมดำยังสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นทวีคูณ จึงจำเป็นต้องรีบหนีออกจากบริเวณดังกล่าวก่อนที่จะถูกหลุมดำกลืนกิน จ่านเฟิงสั่งให้เซี่ยงเส้าหลงเปิดระบบเครื่องยนต์พลังปฏิสสาร (Antimatter) ทันที  (พลังปฏิสสารมีแรงผลักดันและความเร็วเหลือคณานับ) โชคร้ายที่ระบบดังกล่าวเสียหายทำให้ไม่สามารถเร่งพลังได้ถึงขีดสุด ยานจึงไม่สามารถหลุดออกจากโซนอันตราย แถมทางเดียวที่จะหนีรอดออกไปได้คือต้องเร่งความเร็วให้มากกว่าความเร็วแสงซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่ดี

* อัตราเร็วของแสงคือ 299,792,458 เมตรต่อวินาที  หรือ 1,079,252,848.800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  



ครั้นรู้ว่าเร่งเครื่องหนีไม่ทันแน่ จ่านเฟิงจึงคิดที่จะสละตนเองเพื่อรักษาชีวิตของลูกทีมทุกคน โดยอาสาขับยานพุ่งเข้าหาจุดศูนย์กลางของหลุมดำพร้อมระเบิดปฏิสสาร  (ซึ่งมีอานุภาพในการทำลายล้างมากมายมหาศาลยิ่งกว่านิวเคลียร์) วิธีนี้จะทำให้ยานแม่มีโอกาสหลุดออกจากแรงดึงดูดของหลุมดำราว 67.333%* (เพราะถูกแรงระเบิดผลักออก) หลังสั่งให้เซี่ยงเส้าหลงไปเตรียมความพร้อมของยานซิงอวิ๋น จ่านเฟิงก็บอกลาทุกคนแล้วเดินออกจากห้องบัญชาการทันที "เติ้งหลิง" แฟนสาวของจ่านเฟิงรีบวิ่งตามไปด้วยความเป็นห่วงและอาลัย แต่เขาขอให้เธอส่งเพียงเท่านี้และบอกให้เธอรักษาตัว เซี่ยงเส้าหลงยืนมองทั้งคู่กอดลากัน ก่อนบอกจ่านเฟิงว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว จ่านเฟิงสั่งให้เซี่ยงเส้าหลงทำหน้าที่แทนตนและขอให้พาทุกคนกลับบ้านอย่างปลอดภัย ทั้งยังฝากดูแลเติ้งหลิง หลังจากนั้นเขาก็มอบหยกโบราณยุคจ้านกว๋อซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากมารดาให้เซี่ยงเส้าหลง โดยบอกให้ถือเป็นคำอวยพรจากตน เซี่ยงเส้าหลงอาสาปฏิบัติภารกิจแทนจ่านเฟิง (ยาน "ซิงอวิ๋นที่หนึ่ง" ที่จ่านเฟิงจะขับไปพลีชีพเป็น)จ่านเฟิงได้แต่ยิ้มและตบไหล่เซี่ยงเส้าหลง เขาจะออกไปทำภารกิจแต่ถูกเซี่ยงเส้าหลงช็อตด้วยไฟฟ้าจนหมดสติไปเสียก่อน หลังจากนั้นเซี่ยงเส้าหลงก็ขับยานของตนพุ่งตรงไปยังใจกลางหลุมดำ

* ถ้าคู่สสารอยู่ในจุดที่เหมาะสม หนึ่งในอนุภาคจะหลุดหนีจากแรงดึงดูดของหลุมดำ ขณะที่อีกอนุภาคจะถูกดูดกลืนเข้าไป


ครั้นได้สติจ่านเฟิงก็รีบกลับเข้าไปในห้องบัญชาการแล้วสั่งให้ AI รีบติดต่อยานซิงอวิ๋นที่หนึ่งทันที เซี่ยงเส้าหลงสั่งให้จ่านเฟิงพาทุกคนกลับสู่โลกอย่างปลอดภัย (เขาออกคำสั่งในฐานะรักษาการผู้บัญชาการยานแม่ เพราะก่อนหน้านี้จ่านเฟิงได้สั่งให้เขาบัญชาการยานแม่แทนตน) และกล่าวว่าตนจะเก็บหยกเอาไว้ให้ชั่วคราว ถ้ามีโอกาสตนจะนำมาคืนให้ จากนั้นก็บอกลาทุกคนแล้วตัดการติดต่อสื่อสารทันที เขาทำใจชั่วขณะก่อนเริ่มปฏิบัติภารกิจ หลังพุ่งเข้าไปในหลุมดำพร้อมระเบิดปฏิสสารด้วยความเร็วเฉียดแสง ยานของเขากลับมุ่งตรงไปยังรัฐจ้าวในยุคจ้านกว๋อซึ่งเป็นการเดินทางย้อนเวลากว่าสองพันปี


คืนนั้นได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาด (แสงเหนือ) บนท้องฟ้าเหนือรัฐจ้าว "โจวเหยี่ยน"แห่งสำนักหยินหยาง จึงทำการคำนวณและเสี่ยงทายโดยใช้กระดองเต่าและศาสตร์อี้จิง ในเวลาเดียวกันนั้นคนของสำนักโม่ (ม่อเจีย) จากรัฐฉิน นำโดย "หยวนจง", "ซิงอวิ๋น"  และ "เหยียนผิง" กำลังเร่งเดินทางเพื่อนำหยกเหอซื่อ (เหอซื่อปี้) ไปส่งที่ป้อมสกุลอูในรัฐจ้าว ครั้นเห็นแสงประหลาดบนท้องฟ้า ซิงอวิ๋นจึงถามหยวนจง (ผู้เป็นตา) ว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้าคืออะไร หยวนจงกล่าวว่านั่นคือลางบอกเหตุจากสวรรค์ จากนั้นก็ร้องบอกทุกคนให้ระวังตัว เหยียนผิงเห็นว่าที่นี่ยังอยู่ห่างจากป้อมสกุลอูราวสามชั่วยาม (6 ชั่วโมง) จึงแนะให้เร่งเดินทางต่อเพราะยิ่งเนิ่นนานยิ่งเสี่ยงอันตราย

* เหอซื่อปี้" เป็นหยกเนื้อดีล้ำค่า ได้ชื่อว่าเป็นหยกแห่งราชัน (สัญลักษณ์ของผู้ครองแผ่นดิน) ถูกพบโดยชาวรัฐฉู่ที่ชื่อ "เปี้ยนเหอ" ตำนานเล่าขานว่า...หลังพบก้อนหยกดิบบนภูเขาแล้วเห็นว่าเป็นหยกเนื้อดี เปี้ยนเหอจึงนำหยกดิบก้อนดังกล่าวไปมอบให้ "ฉู่ลี่อ๋อง" ซึ่งเป็นอ๋องปกครองรัฐฉู่ในขณะนั้น ครั้นช่างหยกตรวจสอบแล้วฟันธงว่าเป็นเพียงหินธรรมดา ฉู่ลี่อ๋องจึงสั่งตัดเท้าซ้ายเปี้ยนเหอด้วยความโกรธ ในเวลาต่อมา "ฉู่อู๋อ๋อง" ได้ขึ้นปกครองรัฐฉู่ เปี้ยนเหอจึงนำหยกดิบก้อนเดิมไปมอบเป็นของขวัญทำให้โดนตัดเท้าขวาอีกข้างโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูง เมื่อ "ฉู่เหวินอ๋อง" ขึ้นปกครองรัฐฉู่แล้วได้ยินเรื่องราวของเปี้ยนเหอจึงสั่งให้ช่างนำหยกของเขามาขัด ครั้นพบว่าเป็นหยกเนื้องามหาใดปาน ฉู่เหวินอ๋องจึงตั้งชื่อหยกว่า "เหอซื่อปี้" เพื่อเป็นเกียรติแก่เปี้ยนเหอ หลัง "ฉินซีฮ่องเต้" รวมแผ่นดินเป็นหนึ่งจึงสั่งให้ช่างนำหยกเหอซื่อมาแกะเป็นตราประทับ สำหรับใช้เป็นตราแผ่นดินตกทอดประจำราชวงศ์  (ราชลัญจกร)  



หลังเดินทางข้ามคืน ในที่สุดคณะเดินทางของหยวนจงก็เดินทางใกล้ถึงป้อมสกุลอู บังเอิญว่าในตอนนั้นยานของเซี่ยงเส้าหลงกำลังพุ่งลงสู่พื้นผิวโลก ซิงอวิ๋นเห็นลูกไฟพุ่งพาดผ่านท้องฟ้าจึงรีบตามไปดู เซี่ยงเส้าหลงบังคับยานให้ตกลงบนพื้นที่ชุ่มน้ำได้อย่างปลอดภัย แต่ยานไถลตกลงไปในหนองน้ำ เขาอยากรู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหนเลยใช้กำไลอัจฉริยะตรวจสอบดูแต่กลับไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (ไม่มีต้นไม้และสภาพแวดล้อมเช่นนี้ในโลกอนาคต) เขาพยายามกระโดดขึ้นฝั่งแต่ดันพลัดตกน้ำบริเวณที่มีโคลนดูด ซิงอวิ๋นเห็นดังนั้นเลยรีบวิ่งไปดูใกล้ๆ แต่พลาดท่าลื่นล้ม เซี่ยงเส้าหลงใช้กำไลอัจฉริยะตรวจสอบฐานข้อมูลซิงอวิ๋นแต่ไม่พบข้อมูลใดๆ เขาจึงรู้เพียงว่าเธออายุราว 18 ปีและไม่มีพิษมีภัย เขาพยายามทักทายเธอโดยใช้ทั้งภาษาจีนกลาง (หนีห่าว) และกวางตุ้ง (เหลยโหว) ครั้นเห็นว่าเธอยังคงนิ่งเงียบ เขาเลยยกมือไหว้และกล่าวว่า "ซา-หวาด-ดี-ค่า" หลังนิ่งไปชั่วขณะ ในที่สุดซิงอวิ๋นก็ทักทายเซี่ยงเส้าหลง ก่อนรัวคำถามใส่เขาเป็นชุดว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน ลงไปทำอะไรในน้ำ เซี่ยงเส้าหลงยังไม่ทันตอบก็เริ่มถูกโคลนดูด ซิงอวิ๋นเลยรีบโยนเชือกให้แล้วช่วยดึงเขาขึ้นมา


หลังรอดตายอีกครั้งเซี่ยงเส้าหลงก็อดนึกเป็นห่วงจ่านเฟิงไม่ได้ เขาขอบคุณซิงอวิ๋นแล้วสั่งการผ่านกำไลอัจฉริยะให้ทำการอบแห้งชุดทันที ครั้นเห็นชุดอันเปียกปอนของเซี่ยงเส้าหลงแห้งสนิทต่อหน้าต่อตาซิงอวิ๋นก็รู้สึกทึ่ง เธอเห็นว่าเขาไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไปจึงถามว่าเขาตกลงมาจากฟ้าพร้อมดาวตกจริงหรือ เซี่ยงเส้าหลงไม่รู้จะอธิบายยังไงเลยได้แต่เออออไปกับเธอ เขาเห็นว่าเธอเองไม่ธรรมดาเช่นกันเพราะดันแต่งตัวย้อนยุค เซี่ยงเส้าหลงยื่นมือให้ซิงอวิ๋นพลางแนะนำชื่อแซ่ แต่ซิงอวิ๋นไม่รู้จักธรรมเนียมการเช็คแฮนด์เลยใช้ปลายนิ้วชี้แตะไปที่ปลายนิ้วของเซี่ยงเส้าหลง เซี่ยงเส้าหลงนึกไม่ถึงว่าเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าจะชื่อ "ซิงอวิ๋น" เหมือนยานของตน เขาถามซิงอวิ๋นว่าตอนนี้ตนอยู่ที่ไหนและคำตอบที่ได้รับคือ "รัฐจ้าว นอกป้อมสกุลอู"


ในเวลาเดียวกันนั้น "อูถิงฟาง" ลูกสาวประมุขป้อมสกุลอู กับ "เหลียนจิ้ง" กำลังควบม้าไปรับคณะของหยวนจง ระหว่างทางได้ถูกกลุ่มโจรอ่อนหัดดักซุ่มทำร้ายหมายถ่วงเวลา แต่เหลียนจิ้งกวัดแกว่งกระบี่ไม่กี่ครั้งก็สังหารสมุนโจรได้ทั้งหมด เขาจะฆ่าหัวโจกแต่อูถิงฟางห้ามไว้เสียก่อนเพราะรู้ว่ามีคนบงการอยู่เบื้องหลัง เธอเดาว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเกี่ยวข้องกับหยกเหอซื่อจึงถามชายคนดังกล่าวว่า "จวี้จื่อ"* แห่งสำนักโม่ และคนอื่นๆ อยู่ที่ไหน หัวหน้าโจรเย้ยว่าเธอไม่มีทางปกป้องคนและหยกเหอซื่อได้ เพราะป่านนี้ลูกพี่ตนคงจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เหลียนจิ้งได้ยินดังนั้นจึงสังหารชายคนดังกล่าวทันที อีกด้านหนึ่งหยวนจง เหยียนผิง และเหล่าศิษย์สำนักโม่ พากันเคลื่อนขบวนไปพลางๆ ระหว่างรอให้ซิงอวิ๋นตามมาสมทบ แต่แล้วอยู่ๆ พวกเขาก็ถูกกลุ่มนักฆ่าชุดดำรุมล้อมหมายแย่งชิงหยกเหอซื่อ  (เหยียนผิงเองก็มีพิรุธเพราะจ้องมองถุงใส่หยกเหอซื่อตาเป็นมัน) ซิงอวิ๋นได้ยินเสียงการต่อสู้และเห็นฝูงนกบินแตกฮือขึ้นฟ้าจึงรีบควบม้ากลับทันที เซี่ยงเส้าหลงเห็นดังนั้นจึงพยายามร้องบอกให้รอตน แม้ไม่เป็นผลและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เขาก็วิ่งตามซิงอวิ๋นไปตลอดทาง

 *

ครั้นไปถึง ซิงอวิ๋นจึงร่วมต่อกรกับคนร้ายซึ่งมีจำนวนมากกว่าทันที เซี่ยงเส้าหลงเห็นสองฝ่ายฟาดฟันกันอย่างดุเดือดก็นึกว่าเป็นการถ่ายหนัง แต่พอเห็นว่ามีคนตายจริงเจ็บจริงเขาก็ร้องลั่นว่ามีคนฆ่ากันและบอกให้รีบแจ้งตำรวจ เหล่าชายชุดดำเห็นเซี่ยงเส้าหลงจึงถือกระบี่พุ่งเข้าหา โชคดีที่เซี่ยงเส้าหลงมาพร้อมแกดเจ็ตล้ำยุค เหล่าชายชุดดำจึงถูกเซี่ยงเส้าหลงช็อตด้วยไฟฟ้าจนพากันล้มลงไปนอนแน่นิ่ง ทุกคนเห็นพลังฝ่ามืออันร้ายกาจของเซี่ยงเส้าหลงก็ต่างพากันตกตะลึงเพราะไม่เคยเห็นมาก่อนและไม่รู้ว่าเป็นสุดยอดเคล็ดวิชาอะไร แถมเขายังฟันแทงไม่เข้าอีกต่างหาก (เพราะสวมชุดสุดไฮเทค) หลังโดนเหล่าชายชุดดำรุมทำร้ายหมายเอาชีวิต เซี่ยงเส้าหลงจึงรู้ว่านี่ไม่ใช่การแสดงและสงสัยว่าตนอาจหลงมาอยู่ในอีกมิติหนึ่ง (เดินทางย้อนเวลา) เขาเห็นว่าคนร้ายมีจำนวนมากขืนไล่ช็อตทุกคนมีหวังพลังงานหมดก่อน เขาจำต้องเซฟกระแสไฟฟ้าไว้ใช้ในยามจำเป็นเลยท้าให้คนร้ายเข้ามาหาตนพร้อมกันโดยขู่ว่าตนมีของ (ชุดและอุปกรณ์ล้ำยุค) แต่ทว่าไม่มีใครกล้าออกมาต่อกรกับเขา



ทันทีที่มาถึง เหลียนจิ้ง  (เจ้าของฉายา "หงอิงกงจื่อ" ซึ่งเป็นที่เลื่องลือเรื่องหน้าตาและฝีมือกระบี่) ก็ตรงเข้าฟาดฟันเซี่ยงเส้าหลงเพราะนึกว่าเซี่ยงเส้าหลงเป็นคนร้าย เมื่อเซี่ยงเส้าหลงใช้สองมือรับกระบี่ เหลียนจิ้งซึ่งเป็นยอดฝีมือจึงถูกไฟช็อตจนล้มลงไปนอนจุกต่อหน้าทุกคน (กระแสไฟฟ้าถูกปล่อยออกมาจากชุดและถุงมือของเซี่ยงเส้าหลง) เขานึกไม่ถึงว่าเซี่ยงเส้าหลงจะมีพลังภายในแข็งแกร่งเพียงนี้ เซี่ยงเส้าหลงไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเหลียงจิ้งจึงรีบเข้าไปดูอาการด้วยความเป็นห่วง แต่เขาดันลืมปิดโหมดช็อตไฟฟ้า เหลียงจิ้งเลยโดนไฟช็อตซ้ำที่หน้าอกจนแน่นิ่งไป อูถิงฟางเห็นดังนั้นจึงไล่ฟาดเซี่ยงเส้าหลงด้วยแส้ เซี่ยงเส้าหลงไม่อยากทำร้ายผู้หญิงจึงเตือนให้เธอหยุดแต่อูถิงฟางยังคงเดินหน้าฟาดไม่ยั้ง เขาจึงจับปลายแส้หมายปล่อยกระแสไฟฟ้าใส่เธอโดยลืมไปว่าแส้เป็นฉนวนไฟฟ้า อูถิงฟางจะดึงแส้กลับคืนแต่เซี่ยงเส้าหลงไม่ยอมปล่อยมือเลยถูกดึงเข้าไปหาและเสียหลักล้มทับเธอ (เขาเบือนหน้าหนีทันเลยทำให้ปากกระแทกพื้นดินแทน) อูถิงฟางโกรธจัดเลยลุกขึ้นมาตีเซี่ยงเส้าหลงทำให้ถูกไฟช็อตจนหมดสติไปอีกคน

เซี่ยงเส้าหลงรีบปิดโหมดช็อตไฟฟ้าแล้วเดินไปหาซิงอวิ๋น เหล่าคนร้ายเห็นท่าไม่ดีเลยรีบหนีไป หยวนจงไม่รู้ที่มาของเซี่ยงเส้าหลงจึงไม่วางใจ เขาเห็นว่าเซี่ยงเส้าหลงมีฝีมือแก่กล้าเลยชิงทำร้ายเซี่ยงเส้าหลงจนหมดสติ ซิงอวิ๋นรีบเข้าไปดูแบบกล้าๆ กลัวๆ เพราะกลัวถูกไฟช็อต เหยียนผิงยุให้หยวนจงฆ่าเซี่ยงเส้าหลงทิ้งเสีย โดยกล่าวหาว่าเซี่ยงเส้าหลงต้องการชิงหยกเหอซื่อ ซิงอวิ๋นคัดค้านก่อนชี้ว่า เธอเห็นกับตาว่าเซี่ยงเส้าหลงตกลงมาพร้อมดาวตก เขาไม่มีทางรู้เรื่องหยกเหอซื่อแน่ แต่เหยียนผิงยังคงยุให้หยวนจงตัดไฟเสียแต่ต้นลมด้วยการฆ่าเซี่ยงเส้าหลงทิ้งเสีย ซิงอวิ๋นจึงคัดค้านทันควัน หยวนจงบอกเหยียนผิงว่าสำนักโม่ไม่ฆ่าคนตามอำเภอใจ ก่อนบอกให้ซิงอวิ๋นนำตัวเซี่ยงเส้าหลงไปที่ป้อมสกุลอู



ขณะที่ "จ้าวอ๋อง" (อ๋องปกครองรัฐจ้าว) และเหล่าขุนนางกำลังเกษมสำราญกับการกินดื่มและชมนางรำ หลิวต้าฟูก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในท้องพระโรง ทำให้นักดนตรีและเหล่านางรำต้องหยุดแสดงกลางคัน จ้าวอ๋องตำหนิหลิวต้าฟูที่เสียมารยาทและทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูม ขณะที่ "จ้าวมู่" หลิวต้าฟูรายงานว่าเมื่อคืนได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดบนท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ มิหนำซ้ำวันนี้ยังมีดาวตกอีก ทำนายได้ว่าจะมีขุนนางกังฉินในรัฐจ้าว เขาหันไปมองจ้าวมู่ก่อนพูดต่อว่า การที่จ้าวมู่ยังคงควบคุมตัว "จื้อจื่อ" (หมายถึงองค์ชายที่ถูกส่งไปเป็นตัวประกันในต่างแคว้น ในที่นี้คือองค์ชายจากรัฐฉิน) จะทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างรัฐฉินกับรัฐจ้าวและอาจนำมาซึ่งสงคราม เขาจึงขอให้จ้าวอ๋องทบทวนเรื่องจื้อจื่อ

* ต้าฟู โดยทั่วไปจะแปลว่า "หมอ" แต่ในที่นี้เป็นชื่อตำแน่งขุนนางอาวุโสในระบบศักดินาจีน (สมัยราชวงศ์โจว-ก่อนราชวงศ์ฉิน)

จ้าวมู่แย้งอย่างใจเย็นว่าหากส่งตัวจื้อจื่อกลับรัฐฉินจะทำให้รัฐฉินยิ่งเหิมเกริม หลิวต้าฟูมั่นใจว่าการส่งตัวจื้อจื่อกลับรัฐฉิน (ซึ่งแข็งแกร่งกว่า) จะทำให้สองรัฐมีมิตรภาพที่ดีต่อกันอีกหลายปี จ้าวมู่เย้ยว่ามิตรภาพจะมั่นคงยืนยาวได้สักกี่ปี เขาชี้ว่าความกระหายในอำนาจของรัฐฉินเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว  หากไม่มีจื้อจื่ออยู่ในมือ รัฐจ้าวของพวกตนคงลุกเป็นไฟและไม่มั่นคงดังเช่นทุกวันนี้ จ้าวอ๋องได้ยินดังนั้นก็เห็นด้วยกับจ้าวมู่และไล่หลิวต้าฟูออกจากห้องอย่างไม่ไยดี หลิวต้าฟูถึงกับน้ำตาร่วง เขาเห็นว่าอำนาจที่แท้จริงตกอยู่ในมือจ้าวมู่จึงกล่าวอย่างสิ้นหวังว่าอีกไม่นานรัฐจ้าวคงหนีไม่พ้นเคราะห์กรรม หลังจากนั้นเขาก็ถอดหมวกขุนนางคืนให้จ้าวอ๋อง (ลาออก) ด้วยมือที่สั่นเทา


อีกด้านหนึ่งในเมืองหานตาน  (ปัจจุบันตั้งอยู่ในมณฑลเหอเป่ย) "จ้าวผาน"จ้าวมู่ กำลังนั่งเรียงหมากเป็นรูปกำแพงเมืองจีน*ที่ทอดยาว โดยมีเหล่าหญิงงามคอยปรนนิบัติ ทันใดนั้น  หยวนจงนำหยกเหอซื่อไปส่งมอบที่ป้อมสกุลอูแล้ว ขืนยังคงนิ่งดูดายจะสายเกินไป ครั้นรู้ว่าจ้าวผานเตรียมการไว้หมดแล้วจิงจวิ้นก็ยกยอปอปั้นไม่หยุดปาก จ้าวผานได้ยินแล้วรำคาญเลยถามว่ามีเรื่องอื่นอีกไหม จิงจวิ้นเล่าว่าวันนี้หลิวต้าฟูบังอาจลบหลู่จ้าวมู่ต่อหน้าจ้าวอ๋องและเหล่าขุนนาง จ้าวผานได้ยินดังนั้นจึงคิดที่จะไปสั่งสอนหลิวต้าฟูด้วยตนเอง

* การเชื่อมกำแพงเมืองของรัฐต่างๆ เพื่อป้องกันการรุกรานของเผ่าซงหนู จนกลายเป็นกำแพงเมืองจีนที่ได้ชื่อว่าเป็น "หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก" คือหนึ่งในผลงานอันโดดเด่นของฉินซีฮ่องเต้ 



จ้าวผานและจิงจวิ้นนำกำลังไปขวางรถม้าของหลิวต้าฟู หลิวต้าฟูอุ้มหลานชายตัวน้อยลงมาจากรถม้าก่อนประณามจ้าวผานที่ยอมรับโจรเป็นพ่อและไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี จ้าวผานจึงคิดสั่งสอนหลิวต้าฟูด้วยการรังแกเด็กชายตัวน้อย โชคดีที่องค์หญิง "จ้าวเชี่ยน" (ธิดาจ้าวอ๋อง) ผ่านมาพบเข้าจึงช่วยเด็กเอาไว้ได้ทัน เธอขอโทษหลิวต้าฟูแทนญาติผู้น้อง ทั้งยังบอกให้หลิวต้าฟูร่วมเดินทางไปกับเธอเพื่อความปลอดภัย หลิวต้าฟูปฏิเสธอย่างสุภาพและขอตัวทันที  เมื่อหลิวต้าฟูจากไปแล้วจ้าวเชี่ยนจึงตำหนิจ้าวผานที่ลบหลู่ขุนนางอาวุโสของรัฐจ้าว ครั้นอยู่ต่อหน้าจ้าวเชี่ยนความยโสโอหังของจ้าวผานก็อันตรธานหายไป ซ้ำยังยอมเชื่อฟังแต่โดยดี


คืนเดียวกันนั้นจ้าวมู่พาจ้าวผานไปพบโจวเหยี่ยนแห่งสำนักหยินหยาง ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านโหราศาตร์และดวงดาว เพื่อสอบถามเรื่องปรากฏการณ์ประหลาดบนท้องฟ้าและดาวตก โจวเหยี่ยนทำนายว่ากลียุคกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว และคนที่จะยุติกลียุคได้มีเพียง 'เซิ่งเหริน'  เพียงผู้เดียว เขากล่าวว่าเมื่อวานนี้เซิ่งเหรินได้ถือกำเนิดขึ้นแล้วและแสดงความยินดีกับจ้าวมู่ จ้าวมู่ถามว่าเซิ่งเหรินถือกำเนิดขึ้นที่ใด โจวเหยี่ยนชี้ว่าเซิ่งเหรินไม่ใช่เด็กน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลก แต่ฟ้าส่งเขามายังโลกนี้เพื่อพานพบจ้าวมู่ จ้าวมู่รู้ได้ทันทีว่าหากเซิ่งเหรินปรากฏตัวบนโลกเขาย่อมต้องมาพบต้าอ๋อง (อ๋องผู้เป็นใหญ่เหนืออ๋องใดๆ) ด้วยเช่นกัน โจวเหยี่ยนยอมรับว่าเซิ่งเหรินมายังโลกนี้เพื่อช่วยเหลือผู้ปกครองใต้หล้า  ส่วนผู้ปกครองใต้หล้าจะเป็นใครนั้นในตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด จ้าวมู่ถามโจวเหยี่ยนว่าเขาพอจะบอกรายละเอียดของเซิ่งเหรินคนนี้ได้หรือไม่ โจวเหยี่ยนกล่าวว่าเซิ่งเหรินไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป เพียงแรกเห็นก็จะรู้ได้ทันที

* กลียุค ในที่นี้คือสภาพบ้านเมือง

* (สำนักโม่ในที่นี้ก็คือ "สำนักม่อจื๊อ" นั่นเอง) 


หลังกล่าวลาโจวเหยี่ยนอย่างนอบน้อมแล้ว จ้าวมู่จึงถามจ้าวผานว่าเข้าใจเรื่องที่ตนคุยกับโจวเหยี่ยนเมื่อครู่หรือไม่ ครั้นจ้าวผานตอบว่าเหมือนจะเข้าใจแต่กลับไม่เข้าใจ จ้าวมู่จึงตัดบทด้วยการถามจ้าวผานว่าวันนี้ยกพวกไปเล่นงานหลิวต้าฟูมาใช่ไหม จ้าวผานยอมรับและบอกว่าตนต้องการเชือดไก่ให้ลิงดู จ้าวมู่ถามจ้าวผานว่ารู้ไหมทำไมวันนี้ตนถึงได้นิ่งเฉย พอจ้าวผานส่ายหน้าจ้าวมู่จึงชี้ให้ดูอะไรบางอย่าง ปรากฏว่าสิ่งจ้าวผานเห็นคือบ้านของหลิวต้าฟูที่กำลังถูกไฟลุกท่วม  


ในที่สุดคณะของหยวนจงก็เดินทางมาถึงป้อมสกุลอู ครั้นประมุข "อูอิ้งหยวนอูถิงฟางผู้เป็นลูกสาวถูกหามเข้ามาในสภาพหลับใหลไม่ได้สติเขาก็รู้สึกตกใจ ซิงอวิ๋นรีบอธิบายว่าอูถิงฟางแค่ถูกสายฟ้าฟาดไม่มีอะไรน่าห่วง หลังจากนั้นเซี่ยงเส้าหลงก็ถูกหามเข้ามาอีกคน อูอิ้งหยวนเห็นเซี่ยงเส้าหลงมีเสื้อผ้าหน้าผมผิดแปลกจากคนธรรมดาทั่วไปจึงรู้สึกประหลาดใจ เหลียนจิ้งฟ้องว่าเซี่ยงเส้าหลงคือคนที่ใช้สายฟ้าฟาดพวกตน อูอิ้งหยวนฟังแล้วได้แต่เป็นงง



หลังรู้สึกตัวอูถิงฟางก็รีบตามไปเอาเรื่องเซี่ยงเส้าหลงทันที ครั้นเห็นเซี่ยงเส้าหลงถูกเหลียนจิ้งจับผูกติดเสาในสภาพหมดสติ อูถิงฟางจึงใช้กระบี่กรีดลงบนเสื้อเขาด้วยความโกรธแค้น (ที่โดนล่วงเกิน) ครั้นกรีดยังไงก็ไม่เข้าเธอเลยพยายามทิ่มแทงให้ทะลุแต่ยังคงไม่เป็นผล เมื่อเซี่ยงเส้าหลงรู้สึกตัวก็โวยลั่น อูถิงฟางพยายามเฉือนชุดเขาให้ขาด พลางบ่นว่าชุดอะไรทนทานถึงเพียงนี้ เซี่ยงเส้าหลงเห็นว่าชุดของตนฟันแทงไม่เข้า ประกอบกับไม่อาจหลบหลีก เลยปล่อยให้อูถิงฟางกรีดเฉือนตามใจชอบ เขาสงสัยว่าเธอเป็นใครกันแน่ อูถิงฟางจึงแนะนำตัวโดยบอกว่าเธอเป็นคุณหนูใหญ่แห่งป้อมสกุลอู จากนั้นก็ถามเซี่ยงเส้าหลงว่าเขามาเพราะหยกเหอซื่อใช่หรือไม่ เซี่ยงเส้าหลงได้ยินแล้วรู้สึกคุ้นๆ ก่อนนึกขึ้นได้ว่าเหอซื่อคือหยกล้ำค่าในตำนานที่ถูกพบโดยชาวรัฐฉู่ชื่อ "เปี้ยนเหอ" (เป็นเรื่องที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์) ครั้นเห็นว่าเซี่ยงเส้าหลงรู้จักความเป็นมาของหยกเหอซื่อ เธอจึงมั่นใจว่าเขาคือโจรที่มาชิงหยก เซี่ยงเส้าหลงนึกในใจว่าจบกัน เขาคาดว่าตนคงเดินทางย้อนเวลามาสู่อีกมิติหนึ่งโดยผ่านทางรูหนอน wormhole" ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างมิติ) เลยอดนึกเป็นห่วงจ่านเฟิงและเพื่อนร่วมงานไม่ได้ (เขาตั้งใจระเบิดตนเองในหลุมดำเพื่อให้ทุกคนรอดตาย แต่ดันมาโผล่ในอีกมิติหนึ่ง)

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่




รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ

 

เฉินเสียง
รับบท เซี่ยงเส้าหลง
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)

* นักบินอวกาศจากโลกอนาคต *


 

กัวเสี่ยวถิง
รับบท ซิงอวิ๋น / ฉินชิง
(นักแสดง ชาวจีน)

* ลูกสาว "


 

หนิวจื่อฟาน
รับบท จ้าวผาน / ฉินอ๋อง
(นักแสดง ชาวจีน)

* เติบโตในฐานะบุตรชายของจ้าวหย่าและบุตรบุญธรรมของจ้าวมู่ แท้จริงแล้วเป็นบุตรของ "จูจี"  *

ยุครณรัฐ (จ้านกว๋อ)

 

เหอหย่งเซิง
รับบท อูอิ้งหยวน
 (นักแสดง ชาวจีน)

* ประมุขป้อมสกุลอู / บิดาอูถิงฟาง *


 

เซี่ยหนาน
รับบท อูถิงฟาง
(นักแสดง ชาวจีน)

* ลูกสาวอูอิ้งหยวน *


 

จ้าวเจิ้นถิง
รับบท เหลียนจิ้ง
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)

* จอมกระบี่แห่งป้อมสกุลอู *


 

ซ่งหลายอวิ้น
รับบท โจวเหยี่ยน
(นักแสดง ชาวจีน)

* ปรมาจารย์ด้านเบญจธาตุและผู้ทรงภูมิ *


 

ตู้อี้เหิง
รับบท หยวนจง
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)

* ปรมาจารย์


 

เหยียนหลินเฟย
รับบท เถิงอี้
(นักแสดง ชาวจีน)

* ศิษย์สำนักโม่ *


 

จูหรงหรง
รับบท เหยียนผิง
(นักแสดง ชาวจีน)

* ศิษย์ทรยศของสำนักโม่ *


 

อวี๋โป
รับบท จ้าวมู่ (จวี้ลู่โหว)
(นักแสดง ชาวจีน)

* บิดาบุญธรรมของจ้าวผาน อาเขยของจ้าวเชี่ยน *


 

เฉินซิ่วลี่
รับบท จ้าวหย่า
(นักแสดง/ ผู้ดำเนินรายการ สัญชาติมาเลย์ เกิดที่เมืองจีน)

* น้องสาวจ้าวอ๋อง ภรรยาจ้าวมู่ นึกว่าจ้าวผานเป็นลูกในไส้ ภายหลังถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วลูกชายตนคือจื่อจื้อ *


 

เหลียงถิงเหว่ย
รับบท จิงจวิ้น
(นักแสดง ชาวจีน)

* คนสนิทของจ้าวผาน *


 

จั่วหัง
รับบท เฉินอิน
(นักแสดง ชาวจีน)

* จอมยุทธหญิงและคนของจ้าวผาน *


 

เฉินเฉิน
รับบท จ้าวเชี่ยน
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)

* ธิดาอ๋องแห่งรัฐจ้าว *


 

โจวเหวินเทา
รับบท จื้อจื่อ
(นักแสดง / ผู้ดำเนินรายการ ชาวจีน)

* เติบโตในฐานะ "องค์ชายอิ๋งเจิ้ง" แห่งรัฐฉิน (พระนามจริงของ "ฉินซีฮ่องเต้")  แท้จริงแล้วเป็นบุตรของ


 

เหยียนเจี๋ย
รับบท ซิ่นหลิงจวิน (เว่ยอู๋จี้)
(นักแสดง ชาวจีน)

* น้องชายเว่ยอ๋อง *


 

เกาเซิ่งอู่
รับบท หลงหยางจวิน
(นักแสดง ชาวจีน)

* คนสนิทของเว่ยอ๋อง *


 

หยวนเหย่
รับบท เส้าหยวนจวิน
(นักแสดง ชาวจีน)

* บุตรชายของ "ผิงหยวนจวิน" (หรือ "จ้าวเซิ่ง") และหลานของ "ซิ่นหลิงจวิน" *


 

จั๋วไป่เสวีย
รับบท จ้าวอ๋อง (อ๋องปกครองรัฐจ้าว)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

โจวเส้าต้ง
รับบท กัวไค
(นักแสดง ชาวจีน)


 

ฉินอี๋ซานซาน
รับบท เฉาชิวเต้า
(นักแสดง ชาวจีน)

* ฉายาเซียนกระบี่ เป็นศิษย์น้องของ "หยวนจง" *

ปัจจุบัน (ปี 2188)

 

อู๋ฉีหลง
รับบท จ่านเฟิง
(นักแสดง / นักร้อง / โปรดิวเซอร์ ชาวไต้หวัน)

* ผู้


 

ฉินซาน
รับบท เติ้งหลิง
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)

* ภรรยาจ่านเฟิง / เพื่อนร่วมงานเซี่ยงเส้าหลง*



รวมคลิปตัวอย่างจาก 优酷 (youku)

*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา