วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563

เรื่องย่อ เสน่หามายาจิ้งจอก (Beauties in the Closet)




กำกับ: เหอเจิ้นเซิง, สวีฮุ่ยคัง, หลี่กงเล่อ, หวงเซียวอิง
เขียนบท: หวังลี่จือ, หลิวไฉ่อวิ๋น
แนวละคร: ย้อนยุค, โรแมนติก, อิงตำนาน
จำนวนตอน: 34
ออกอากาศ: จีน - 8 กุมภาพันธ์ 2561 ทางโยวคู่ (Youku)
                 ไทย - ทุกวันอังคาร-พุธ เวลา 23.08 น. ทางช่อง 3 เอชดี (หมายเลข 33) ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2563 - 5 สิงหาคม 2563



 


เรื่องย่อ



ละคร "เสน่หามายาจิ้งจอก" (Beauties in the Closet) ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง "胭脂醉" (เยียนจือจุ้ย) ของ "ชุ่ยเหอ" เนื้อหากล่าวถึงเรื่องราวของอสูรเพียงพอนแสนซน "หวงชิงเฟิง" และจิ้งจอกน้อย "หูเฟยหลวน" (สายเลือดจิ้งจอกแดงเก้าหาง) ซึ่งอาศัยอยู่ในเผ่าจิ้งจอกบนเขาหลีซานและต่างรักใคร่นับถือกันดุจพี่น้อง เพื่อปกป้องเผ่าจิ้งจอกจากฮ่องเต้ใจโฉดทั้งคู่จึงจำแลงกายเป็นหญิงงามแล้วเข้าวังหมายล่อลวงและลอบสังหารฮ่องเต้ แต่เกิดจับพลัดจับผลูเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแย่งชิงอำนาจในราชสำนัก ซ้ำยังได้ลิ้มลองรสชาติของความรักอีกด้วย

* เพียงพอน (หวงฉู่หลาง) ในที่นี้หมายถึง เพียงพอนไซบีเรีย (Siberian weasel)

เหตุการณ์ในละครเกิดขึ้นช่วงปลายราชวงศ์ถังซึ่งเป็นยุคที่ขันทีครองเมืองเรืองอำนาจ (ละครอ้างอิงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ตัวละครสำคัญในวัง ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องเต้ เชื้อพระวงศ์ และขันที จึงมีตัวตนจริง) โดยละครเปิดฉากขึ้นในรัชสมัย "จักรพรรดิถังจิ้งจง" (นาม "หลี่จ้าน" ครองราชย์ปี ค.ศ. 824-827) จุดเริ่มต้นของเรื่องราวเกิดขึ้น ณ เขาหลีซานซึ่งทอดตัวยาวนับร้อยลี้และมีสัตว์อสูรมากมายอาศัยอยู่ สองพี่น้องต่างสายพันธ์ุ "หวงชิงเฟิง" และ "หูเฟยหลวน" ต่างเติบโตในเผ่าจิ้งจอกที่เร้นกายบนเขาหลีซาน ทั้งคู่สนิทสนมและมักเล่นซนในป่ากันอย่างสนุกสนาน ชิงเฟิงพยายามฝึกให้เฟยหลวนรู้เท่าทันตนเพื่อที่วันหน้าจะได้ไม่โดนคนอื่นหลอก แต่เฟยหลวนกลับหลงกลทุกครั้งเพราะเชื่อใจและวางใจในตัวพี่สาวอย่างชิงเฟิง นั่นจึงทำให้ชิงเฟิงรู้สึกเป็นห่วง เธอไม่คิดอยู่เคียงข้างคอยปกป้องเฟยหลวนตลอดไปเพราะตั้งใจว่าสักวันจะไปใช้ชีวิตในแดนมนุษย์และลองรักดูสักครั้ง

แม้ชิงเฟิงยังไม่มีโอกาสลงไปอยู่แดนมนุษย์ดังฝันแต่มนุษย์ก็บุกมาหาเธอและเหล่าจิ้งจอกถึงที่ เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่ได้มาดี... ฮ่องเต้จิ้งจงแห่งราชวงศ์ถังชอบล่าจิ้งจอกบริเวณเชิงเขาหลีซานเป็นชีวิตจิตใจ และคราวนี้พระองค์ได้นำฝูงเหยี่ยวมาช่วยในการไล่ล่า เหล่าจิ้งจอกอสูรจึงพากันวิ่งหนีตายกันอย่างโกลาหล องค์ชาย "หลี่หาน" (พระอนุชาของฮ่องเต้ ตำแหน่ง "เจียงหวัง") ไม่ชอบล่าสัตว์เป็นทุนเดิม เขาไม่อาจทนดูจิ้งจอกถูกล่าด้วยวิธีการที่เหี้ยมโหดจึงใช้ธนูยิงเหยี่ยวเพื่อช่วยชีวิตจิ้งจอกเทาตัวหนึ่ง แต่นั่นก็ทำให้จิ้งจอกตัวดังกล่าวหางขาด ชิงเฟิงเห็นดังนั้นเลยเข้าใจผิดคิดว่าหลี่หานจะฆ่าจิ้งจอก เธอจึงคืนร่างเพียงพอนแล้วกระโดดเกาะแขนหลี่หานหมายเปิดทางให้จิ้งจอกเทาหลบหนี หลี่หานเห็นเพียงพอนน้อยแล้วโกรธไม่ลง เพราะแววตาของมันทำให้เขานึกถึงเด็กผู้หญิงที่เคยช่วยชีวิตตนเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก


ครั้นเห็นว่าเหยี่ยวล่าจิ้งจอกไม่ได้สักตัวฮ่องเต้ก็ทั้งโกรธและผิดหวัง "เฉวียนเจินอิ่ง" เจ้ากรมฉือปู้ (ดูแลด้านศาสนาและพิธีกรรม) จึงใช้อาวุธเวทย์กั้นอาณาเขต (ขัง) เหล่าจิ้งจอกเอาไว้ ฮ่องเต้สั่งให้ทหารทุกคนระดมยิงธนูเข้าไปในป่าหมายฆ่าจิ้งจอกให้หมดทุกตัว แม้ไม่เห็นด้วยแต่หลี่หานทำได้เพียงยืนมอง ครั้นหมดหนทางหลบหนีเหล่าจิ้งจอกอสูรจึงถูกยิงตายเป็นจำนวนมาก ตัวไหนโชคดีรอดชีวิต (ซึ่งมีเพียงส่วนน้อย) ก็พากันลากสังขารที่บาดเจ็บกลับไปยังแดนจิ้งจอก (โดยมีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งเป็นประตูเชื่อมต่อระหว่างแดนจิ้งจอกกับแดนมนุษย์) ครั้นเห็นชิงเฟิงกับเฟยหลวนรอดตายกลับมา "เฮยเอ่อร์เหลาเหล่า" (จิ้งจอกหูดำ) หรือ "ท่านยายเฮยเอ่อร์" จึงปรี่เข้าไปหาและแสดงความเป็นห่วงเฟยหลวน ชิงเฟิงฟ้องท่านยายว่าฮ่องเต้แดนมนุษย์ไม่เพียงคิดฆ่าจิ้งจอกเอาหนัง แต่ยังคิดสร้างพระตำหนักขนาดใหญ่ (สำหรับแปรพระราชฐาน) บนเขาหลีซานอีกด้วย พอรู้ว่าถิ่นอาศัยของพวกตนกำลังถูกคุกคามเหล่าจิ้งจอกจึงต่างพากันตกใจ

"ฮุยเอ่อร์ฉางเหล่า" (จิ้งจอกอาวุโสหูเทาที่เพิ่งหางขาดมาหมาดๆ) กับ "ชุ่ยหวง" (ศิษย์เอกเผ่าจิ้งจอกซึ่งบำเพ็ญตบะมานานนับพันปี) เสนอให้เอาคืนด้วยการสังหารฮ่องเต้ก่อนที่พวกตนจะถูกล้างบางและไม่มีที่อยู่ ท่านยายไม่เห็นด้วยกับการล้างแค้นกันไปมา เธอชี้ว่าที่ผ่านมาเผ่าจิ้งจอกไม่เคยสร้างศัตรู ขืนเป็นปรปักษ์ต่อราชวงศ์พวกตนจะไม่มีวันได้อยู่อย่างเป็นสุขอีกเลย ฮุยเอ่อร์ไม่อาจปล่อยวางความแค้นจึงลอบไปที่ค่ายพักแรมของฮ่องเต้กลางดึก ปรากฏว่าฮ่องเต้มีจี้หยกมังกรคอยปกป้องคุ้มภัย ฮุยเอ่อร์จึงเจ็บหนักโดยไม่ทันเริ่มลงมือ หลังลอบปลงพระชนม์ไม่สำเร็จฮุยเอ่อร์จึงเสนอให้มอบภารกิจแก่จิ้งจอกที่มีพลังแก่กล้าที่สุดในเผ่า เพื่อจะได้จำแลงร่างเป็นมนุษย์แล้วแฝงตัวเข้าไปเป็นสนมในวัง จากนั้นก็ทำลายหยกมังกรแล้วฆ่าฮ่องเต้ชั่วทิ้งเสีย ชิงเฟิงอยากเป็นที่ยอมรับจึงอาสาทำภารกิจนี้เอง ชุ่ยหวงคัดค้านทันควันโดยดูแคลนว่าชิงเฟิงเป็นเพียงพอนต้อยต่ำ ท่านยายหวังเพียงให้ฮ่องเต้ลุ่มหลงและเชื่อฟังคนของตนจึงมอบหมายภารกิจนี้ให้ชุ่ยหวงซึ่งมีพลังแก่กล้าที่สุด และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องผิดพลาดท่านยายจึงตั้งใจว่าจะให้ชุ่ยหวงกินผลเม่ยซึ่งเป็นผลไม้วิเศษที่ล้ำค่าหายาก (ทุก 500 ปีจะมีหนึ่งผล)

ครั้นได้ยินว่าหากจิ้งจอกตนใดได้กินผลเม่ยจะมีเสน่ห์เกินต้านทานและทำให้มนุษย์ลุ่มหลงจนหัวปักหัวปำ ชิงเฟิงจึงอยากกินผลเม่ยเพื่อที่เธอจะได้กลายเป็นหญิงงามและล่อลวงฮ่องเต้ให้สยบแทบเท้าจะได้ไม่มีใครดูถูกเหยียดหยามเธออีกต่อไป ชิงเฟิงขอให้ชุ่ยหวงพาตนเข้าวังด้วย แต่ชุ่ยหวงไม่เห็นเพียงพอนอย่างชิงเฟิงอยู่ในสายตา ด้วยเห็นว่าชิงเฟิงมีสถานะต่ำต้อยกว่า ซ้ำหน้าตายังอัปลักษณ์  และบอกว่าหากต้องเลือกพาใครไปด้วยเธอจะเลือกสายเลือดจิ้งจอกเก้าหางอย่างเฟยหลวน แต่เฟยหลวนปฏิเสธทันควันเพราะหวาดกลัวฮ่องเต้และไม่อยากพรากจากชิงเฟิง


ชิงเฟิงกับเฟยหลวนนั่งคุยกันบนต้นไม้ใหญ่ในป่า ครั้นเห็นว่ามีคนมาทั้งคู่จึงคืนร่างเดิมและต่างพากันแยกย้าย ที่แท้หลี่หานกลับมาตามหาความทรงจำในวัยเด็กบนเขาหลีซาน และความทรงจำดังกล่าวก็อยู่ตรงต้นไม้ใหญ่ที่สองสาวนั่งคุยกันเมื่อคู่ เมื่อสิบกว่าปีก่อนเขาเจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่นี่ (เด็กคนดังกล่าวคือชิงเฟิง) เขาเคยนึกสงสัยว่าหากกลับมาที่นี่อีกครั้งจะได้พบเจอเธอไหม ไม่รู้ทำไมจนป่านนี้เขาถึงไม่เคยลืมแววตาของเธอเลย

ชิงเฟิงพยายามขโมยผลเม่ยหวังให้ตัวเองกลายเป็นคนสวยและมีเสน่ห์เกินต้านทาน แต่ฮุยเอ่อร์และชุ่ยหวงเข้ามาในบริเวณดังกล่าวเสียก่อนเธอจึงรีบหลบซ่อนตัว  ฮุยเอ่อร์คิดยืมมือชุ่ยหวงล้างแค้นเรื่องส่วนตัวจึงยุให้ชุ่ยหวงฆ่าทั้งฮ่องเต้และองค์ชายหลี่หาน ชุ่ยหวงปฏิเสธโดยอ้างคำสั่งของท่านยายที่ต้องการให้เธอเข้าวังเพื่อล่อลวงฮ่องเต้ให้ลุ่มหลง หลังจากนั้นเธอจะตัดสินใจเองว่าควรทำเช่นไร  ฮุยเอ่อร์รู้สึกโกรธที่ชุ่ยหวงไม่เห็นหัวตน เขาจับได้ว่าชิงเฟิงแอบฟังจึงลากตัวเธอออกมาและเกิดการต่อสู้กัน ชิงเฟิงฉวยโอกาสขโมยผลเม่ยได้สำเร็จ ฮุยเอ่อร์พยายามยื้อแย่งทำให้ผลเม่ยแยกเป็นสองส่วน ชิงเฟิงรีบกลืนส่วนของตนลงท้อง จากนั้นก็ให้ฮุยเอ่อร์เลือกว่าจะให้ตนกินส่วนที่เหลือแล้วเข้าวังไปทำภารกิจให้สำเร็จ หรือกำจัดตนพร้อมผลเม่ยในท้อง ฮุยเอ่อร์ชี้ว่าถึงตนไม่ฆ่าชิงเฟิงก็มีโทษถึงตายอยู่ดี ชิงเฟิงขอให้ฮุยเอ่อร์ช่วยชีวิตตนโดยสัญญาว่าจะทำตามที่ฮุยเอ่อร์ต้องการ ฮุยเอ่อร์จึงแนะให้ชิงเฟิงนำผลเม่ยที่เหลืออีกครึ่งไปให้เฟยหลวนกิน เพราะเฟยหลวนเป็นสายเลือดอันสูงส่งของหัวหน้าเผ่าและจิ้งจอกเก้าหาง ดังนั้นท่านยายไม่มีทางลงโทษเฟยหลวนถึงตายแน่ (การกินผลเม่ยโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดมหันต์) ในเมื่อเฟยหลวนไม่ถูกลงโทษ ชิงเฟิงย่อมไม่ถูกลงโทษเช่นกัน

ครั้นรู้ว่าตนช่วยชีวิตชิงเฟิงได้เฟยหลวนจึงหยิบผลเม่ยที่เหลือใส่ปากโดยไม่ลังเลและยินดีตามชิงเฟิงเข้าวัง หลังพบว่าชิงเฟิงกับเฟยหลวนขโมยผลเม่ยมากินคนละครึ่งจนมีรูปโฉมที่งดงาม ท่านยายเลยจำต้องส่งทั้งคู่เข้าวังแทนชุ่ยหวงตามคำแนะนำของฮุยเอ่อร์ ไม่มีใครรู้ว่าชิงเฟิงแอบทำข้อตกลงลับกับฮุยเอ่อร์ เธอไม่ได้เข้าวังเพื่อล่อลวงฮ่องเต้ตามที่ท่านยายสั่งแต่ไปเพื่อลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้และชำระแค้นให้ฮุยเอ่อร์ (เธอลั่นวาจาว่าจะลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้และนำพาสันติสุขมาสู่เขาหลีซาน)


หลังจากนั้นชิงเฟิงกับเฟยหลวนก็ถูกส่งเข้าวังในฐานะหญิงงาม (หญิงบรรณาการ) จากแดนเจ้อตง ครั้นเห็นว่าหญิงงามซ่อนตัวอยู่ในตู้ทองคำ ฮ่องเต้จิ้งจงก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมหญิงงามถึงอยู่ในตู้ ทูตจากแดนเจ้อตง (คนของเผ่าจิ้งจอก) ชี้ว่าเป็นการเปรียบหญิงงามในตู้ว่าล้ำค่าและเป็นมงคลต่อต้าถัง (คำว่า "กุ้ย" (柜) ที่แปลว่า "ตู้" พ้องเสียงกับ "กุ้ย" (贵) ของคำว่า "กุ้ยเหริน" (ตำแหน่ง "พระสนม" ของชิงเฟิงกับเฟยหลวน) และคำว่ากุ้ย (贵) นี้ ยังแปลว่า ล้ำค่า / สูงส่ง อีกด้วย) ครั้นเห็นชิงเฟิงออกมาร่ายรำฮ่องเต้จึงชมว่าเธอรำได้งามนามก็เพราะ และถามหาหญิงงามอีกคนทันที พอเห็นเฟยหลวนฮ่องเต้ก็กระโจนเข้าหาเธอต่อหน้าคณะทูตอย่างลืมตัว เฟยหลวนรีบวิ่งไปหลบหลังชิงเฟิงด้วยความตกใจกลัวแต่ไม่วายถูกฮ่องเต้ตะครุบตัวไว้ "หลิวเค่อหมิง" (หลิวกงกง) เห็นดังนั้นจึงเตือนให้ฮ่องเต้รักษากิริยา ฮ่องเต้ยอมปล่อยเฟยหลวนแต่ไม่อาจละสายตาจากเธอ หลังสั่งปูนบำเหน็จคณะทูตแล้วฮ่องเต้ก็ประกาศให้สองสาวพักที่ตำหนักจื่อหลาน และเตรียมถูกเรียกตัว (ถวายตัว) พร้อมกัน

* "หญิงงามในตู้" (กุ้ยจงเหม่ยเหริน) คือชื่อเรื่องภาษาจีนของละครเรื่องนี้ 

ครั้นได้กินหรูอยู่สบายในแดนมนุษย์ชิงเฟิงกับเฟยหลวนก็รู้สึกตื่นเต้น ทั้งคู่ยังพบด้วยว่าหลังกินผลเม่ยแล้วรสชาติอาหารที่พวกตนโปรดปรานนั้นเปลี่ยนไป ชิงเฟิงซึ่งเดิมไม่ชอบรสเปรี้ยวกลับดื่มน้ำส้มสายชูอย่างเอร็ดอร่อยเพราะนึกว่าเป็นสุรา ขณะที่เฟยหลวนชื่นชอบรสหวาน หลังทำห้องเลอะเทอะและนำผ้าห่มไหมลงไปนอนคลุมโปง (ทำรัง) ใต้เตียงตามความเคยชินในคืนแรก ทั้งคู่ก็ถูกติวเข้มเรื่องกฏระเบียบและการวางตัวในวันรุ่งขึ้น ครั้นถึงยามบ่ายสองสาวจึงออกมาเดินเล่นในเขตอุทยาน เฟยหลวนเห็นผีเสื้อเลยวิ่งไล่ตามอย่างซุกซน ขณะที่ชิงเฟิงปีนขึ้นไปเก็บลิ้นจี่แต่ดันเหยียบพลาดทำให้พลัดตกลงมา บังเอิญว่าขาข้างหนึ่งถูกเถาวัลย์พันไว้เธอเลยห้อยต่องแต่งในสภาพขาชี้ฟ้า มิหนำซ้ำกระโปรงยังร่วงลงมาคลุมหัว หลี่หานซึ่งเดินผ่านมาพร้อม "หวังฝูเฉวียน" (ขุนนางคนสนิท) เห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ชิงเฟิงโมโหที่ชายหนุ่มได้แต่ยืนดูจึงร้องโวยวายและเร่งให้เขาช่วยเธอ หลี่หานจึงใช้หนังสติ๊กของชิงเฟิงยิงเถาวัลย์จนขาดและรับร่างของเธอเอาไว้ก่อนที่เธอจะร่วงลงพื้น ครั้นเห็นใบหน้าและแววตาชิงเฟิงชัดๆ หลี่หานก็รู้สึกคล้ายเคยพบเธอที่ไหนมาก่อน เขาเดาว่าเธอคงมากับเฟยหลวนซึ่งกำลังกระโดดโลดเต้นในศาลาริมน้ำ จึงเตือนให้ทั้งคู่รักษากิริยาเวลาอยู่ในวัง

ชิงเฟิงจำได้ว่าหลี่หานคือองค์ชายที่ไปล่าจิ้งจอกบนเขาหลีซานกับฮ่องเต้และเป็นคนทำให้ฮุยเอ่อร์หางขาดเลยรีบวิ่งแจ้นไปบอกเฟยหลวน ทันใดนั้น นางในที่ชื่อ "หยวนเซียง" ก็รีบมาตามทั้งคู่กลับตำหนักเพื่อเตรียมถวายตัว ขณะที่ฮ่องเต้จิ้งจงกำลังร่ำสุราเคล้านารี (เหล่า "กงผิน" หรือสนมระดับล่าง) หลิวเค่อหมิงได้นำซุปตัวเดียวอันเดียวของเสือและกวางมาถวาย โดยทูลว่าดื่มยาบำรุงถ้วยนี้แล้วจะช่วยเพิ่มพลังและทำให้พระองค์ทรงสุขสำราญในค่ำคืนนี้ ฮ่องเต้ได้ยินดังนั้นจึงดื่มโดยไม่ได้ทดสอบว่ามีพิษหรือไม่ หลังจากนั้นขันทีหนุ่มซึ่งเป็นคนของหลิวเค่อหมิงก็ยกถ้วยออกไป "ฮัวอู๋ฮวน" (หรือเรียกตามตำแหน่งว่า "ฮัวเส้าเจี้ยน") รู้ว่าหลิวเค่อหมิงเป็นคนจัดเตรียมซุปถ้วยนี้ให้ฮ่องเต้จึงเข้ามาขวางขันทีหนุ่มแล้วใช้เข็มเงินทดสอบน้ำซุปที่เหลือติดก้นถ้วย ครั้นพบว่าปลายเข็มแปรเปลี่ยนเป็นสีดำ เขาจึงเค้นถามขันทีหนุ่มว่าฮ่องเต้อยู่ที่ใด


แม้ตั้งใจเข้าวังเพื่อล่อลวงฮ่องเต้ แต่พอรู้ว่าพวกตนต้องปรนนิบัติฮ่องเต้ในคืนนี้เฟยหลวนก็อดเป็นกังวลและหวาดกลัวไม่ได้ ชิงเฟิงจึงบอกให้เฟยหลวนวางใจและให้เชื่อมือตน ทั้งคู่รอฮ่องเต้ใจโฉดที่ตำหนักไท่เหอพลางฝึกเรียกพลังมนตราของผลเม่ย ครั้นได้ยินเสียงฮ่องเต้ร้องเรียกทั้งคู่จึงรีบเข้าไปหลบในตู้ทองด้วยความตกใจ ฮ่องเต้ซึ่งอยู่ในสภาพเมาปลิ้นเดินตรงดิ่งมาที่ตู้ทองพลางเรียกหาสองสาว แต่ยังไม่ทันได้เปิดตู้ฮ่องเต้ก็เอามือกุมท้องและกระอักเลือด ครั้นรู้ตัวว่าถูกหลิวเค่อหมิงวางยาพิษฮ่องเต้จึงพยายามคว้าตราหยกแผ่นดิน (พระราชลัญจกร) เพราะรู้ว่าเป็นสิ่งที่หลิวเค่อหมิงต้องการ ชิงเฟิงเห็นดังนั้นจึงช่วยหยิบตราหยกให้แต่ฮ่องเต้ดันขาดใจตายเสียก่อน สองสาวทำอะไรไม่ถูกเพราะนึกไม่ถึงว่าฮ่องเต้จะกลายเป็นศพทั้งที่พวกตนยังไม่ทันลงมือ ครั้นได้ยินเสียงหลิวเค่อหมิงร้องเรียกฮ่องเต้ ชิงเฟิงกับเฟยหลวนเลยกลับเข้าไปซ่อนตัวในตู้พร้อมตราหยก

หลังพบว่าตนทำงานสำเร็จหลิวเค่อหมิงก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ แต่พอรู้ว่าคู่อริอย่างฮัวอู๋ฮวนนำกำลังทหารตรงมาที่นี่ หลิวเค่อหมิงจึงแสร้งร้องเรียกทหารและสั่งให้นำร่างฮ่องเต้ออกไป ชิงเฟิงกับเฟยหลวนซึ่งเห็นเหตุการณ์โดยตลอดกลัวว่าพวกตนจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนลอบปลงพระชนม์จึงชักชวนกันหลบหนีแต่ฮัวอู๋ฮวนพาทหารเข้ามาในห้องเสียก่อน ครั้นไม่พบฮ่องเต้เขาจึงสั่งให้ทหารออกตามหา พอเห็นว่าตราหยกหายไปฮัวอู๋ฮวนก็รู้สึกแปลกใจ เขาเห็นรอยเลือดสาดกระเซ็นหน้าตู้จึงตรวจสอบดูว่าภายในตู้ในมีอะไร โชคดีที่สองสาวไหวตัวทันจึงคืนร่างเดิมแล้วรีบหนีขึ้นไปอยู่บนหลังตู้ หลังได้รับรายงานว่าหลิวเค่อหมิงประกาศการสวรรคตของฮ่องเต้แล้ว ทั้งยังเรียกขุนนางทั้งหมดมารวมตัวกันในท้องพระโรงเพื่อประกาศพระราชพินัยกรรม ฮัวอู๋ฮวนจึงออกจากตำหนักไท่เหอทันที 

ชิงเฟิงกับเฟยหลวนกลับไปตั้งหลักที่ตำหนักจื่อหลาน เฟยหลวนเห็นว่าไหนๆ ฮ่องเต้ก็ตายแล้วเลยชวนชิงเฟิงกลับเขาหลีซานเพราะไม่อยากอยู่อย่างหวาดผวาอีกต่อไป ชิงเฟิงแย้งว่าแม้ฮ่องเต้ตายแล้วแต่แผนสร้างตำหนักบนเขาหลีซานยังไม่ถูกยกเลิก เธอเองก็หวาดกลัวคนที่นี่เช่นกันและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี แต่ยังหนีกลับตอนนี้ไม่ได้ ท่านยายส่งเธอมาที่นี่หมายให้ทำคุณไถ่โทษ เธอเลยต้องชดใช้ความผิดด้วยการทำภารกิจให้สำเร็จเสียก่อน น่าเสียดายที่พวกตนยังไม่ทันร่ายมนตร์ให้ลุ่มหลง ฮ่องเต้ก็มาด่วนจากไป 


หลิวเค่อหมิงอ่านพระราชพินัยกรรมปลอมต่อหน้าเหล่าขุนนางในราชสำนัก พินัยกรรมดังกล่าวระบุให้อาหกของฮ่องเต้ นาม "หลี่อู้" (ตำแหน่ง "เจี้ยงหวัง") เป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ ขุนนางทั้งหลายเกรงกลัวอำนาจของหลิวเค่อหมิงจึงต่างพากันคุกเข่ายอมรับแต่โดยดี มีเพียง "หวังโส่วเฉิง" (ขันทีและหัวหน้ากองกำลัง "เสินเช่อ" หนึ่งในหน่วยทหารองครักษ์) และพวกที่ไม่ยอมรับ เขาไม่เชื่อว่าฮ่องเต้สวรรคตเพราะเสวยนํ้าจัณฑ์หนักเกินไป และไม่เชื่อว่าพระราชพินัยกรรมเป็นของจริง เหล่าทหารในอาณัติของหลิวเค่อหมิงจึงชักดาบออกมาข่มขู่หวังโส่วเฉิงและเหล่าขุนนางในราชสำนัก หลี่หานรีบรุดเดินทางเข้าวังแต่ถูกทหารของหลิวเค่อหมิงขวางเอาไว้ เขาจึงต้องฝ่าทหารเข้าไป หลิวเค่อหมิงอ้างว่าก่อนสิ้นพระชนม์ฮ่องเต้สั่งให้ตนฆ่าไม่เว้นหากมีใครขัดราชโองการ หลี่หานรู้ว่าหลิวเค่อหมิงคิดปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือจึงประณามเขาต่อหน้าทุกคนและต่อสู้กับเหล่าทหารตามลำพังอย่างอาจหาญ

ครั้นฮัวอู๋ฮวนพา "ไทฮองไทเฮา" (ไทเฮา) เข้ามาในท้องพระโรงทุกอย่างจึงสงบลง หลังกำราบความเหิมเกริมของหลิวเค่อหมิงแล้วไทเฮาจึงเลื่อนการสถาปนาฮ่องเต้องค์ใหม่ออกไปก่อน โดยกล่าวว่าหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีศพแล้วตนจะเลือกผู้ที่คู่ควรกับราชบัลลังก์เอง ระหว่างนี้ให้หลี่อู้ซึ่งอาวุโสที่สุดทำหน้าที่เจียนกั๋ว (ผู้รักษาการ) ชั่วคราวไปก่อน ฮัวอู๋ฮวนบอกหลี่หานว่าหลิวเค่อหมิงเป็นคนวางยาพิษฮ่องเต้ หลี่หานข้องใจว่าทำไมฮัวอู๋ฮวนถึงไม่รีบขัดขวางทั้งที่รู้แต่แรก ฮัวอู๋ฮวนชี้ว่าต่อให้ครั้งนี้ตนขัดขวางสำเร็จก็ต้องมีครั้งหน้าอีกอยู่ดี ขนาดหลี่หานเป็นพระอนุชาฮ่องเต้ยังทำอะไรหลิวเค่อหมิงไม่ได้แล้วคนต้อยต่ำอย่างตนจะเอาอะไรมาต่อกร หลี่หานรู้สึกโกรธที่ฮ่องเต้และราชสำนักถูกขันทีที่มีอำนาจเข้าครอบงำจึงเปรยว่าตนอยากกำจัดหลิวเค่อหมิงเสียเดี๋ยวนี้  ฮัวอู๋ฮวนแย้งว่าต่อให้ฆ่าหลิวเค่อหมิงทุกสิ่งก็ยังเหมือนเดิม เพราะคนที่จะได้ประโยชน์คือหวังโส่วเฉิง (ซึ่งเป็นขันทีที่มีอำนาจเช่นกัน แต่อยู่คนละฝ่ายกับหลิวเค่อหมิง)

หลี่หานต้องการกำจัดคนชั่วเหล่านี้ให้หมดไปจากราชสำนัก แต่เขาไม่มีอำนาจจึงไม่อาจคิดการใหญ่ แถมไทเฮายังไม่ส่งเสริมและไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา ฮัวอู๋ฮวนจึงแนะให้หลี่หานชิงบัลลังก์มาครอง ชิงเฟิง (ซึ่งแอบฟังตั้งแต่ต้น) ได้ยินว่าหลี่หานคิดช่วงชิงบัลลังก์เลยยิ่งมีอคติและคิดว่าเขาโหดกว่าฮ่องเต้ที่เพิ่งตายไปเสียอีก เธอเกรงว่าหากหลี่หานได้เป็นฮ่องเต้เผ่าจิ้งจอกจะยิ่งเดือดร้อนหนัก เลยตัดสินใจว่าจะปักหลักอยู่ในวังกับเฟยหลวนหมายล่อลวงหลี่หานให้ลุ่มหลงและหาโอกาสฆ่าเขา

ในที่สุดชิงเฟิงกลับเป็นฝ่ายตกหลุมรักหลี่หานเสียเอง แต่ทว่าในสายตาของหลี่หานมีเพียงเฟยหลวน เขาหลงเสน่ห์เธอจนถอนตัวไม่ขึ้นเพราะต้องมนตร์ของผลเม่ย (เฟยหลวนกินส่วนที่หวานของผลเม่ยเลยมีเสน่ห์เกินต้านทาน)  และนั่นก็ทำให้เฟยหลวน (ซึ่งมีชายในดวงใจแล้ว) ตกที่นั่งลำบาก  สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะลงเอยอย่างไรติดตามชมได้ใน "เสน่หามายาจิ้งจอก" (Beauties in the Closet) ทางช่อง 3 เอชดี (หมายเลข 33)

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่





รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ

 

โจวอวี๋หมิน
รับบท หลี่หาน (จักรพรรดิถังเหวินจง)
(นักแสดง / นักร้อง ชาวไต้หวัน)


 

หูปิงชิง
รับบท หวงชิงเฟิง
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เฉินเหยา
รับบท หูเฟยหลวน
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หานต้ง
รับบท ฮัวอู๋ฮวน
(นักแสดง ชาวจีน)

อื่นๆ
 

เฉินรั่วเซวียน
รับบท หลี่อวี้ซี
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หลี่ซือเฉิง
รับบท หย่งเต้าซื่อ (นักพรตเต๋าแซ่หย่ง)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

ซ่งหนานซี
รับบท ชุ่ยหวง
(นักแสดง ชาวจีน)


 

จั๋วเสี่ยวชิง
รับบท ชิวเฟย
(นักแสดง ชาวจีน)


  
เหลียงจิ้งเสียน
รับบท เฉวียนเจินอิ่ง
(นักแสดง ชาวจีน)



หวังอี้หลิน
รับบท หลี่โช่ว
(นักแสดง ชาวจีน)



หลี่อวี้
รับบท หวังโส่วเฉิง
(นักแสดง ชาวจีน)



เย่ชิง
รับบท ฟางเฉาเหม่ยเหริน
(นักแสดง ชาวจีน)






*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา