กำกับ : ชอง จองฮวา
เขียนบท : คิม อึนจอง
แนวละคร : โรแมนติก, คอมเมดี้, เมโลดราม่า
จำนวนตอน : 16
ออกอากาศ : เกาหลี - 7 มกราคม 2556 - 26 กุมภาพันธ์ 2556 ทางช่องเคเบิ้ลทีวีเอ็น และออนสไตล์
ไทย - ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30 น. - 21.30 น. ทางเวิร์คพอยท์ทีวี
แนวละคร : โรแมนติก, คอมเมดี้, เมโลดราม่า
จำนวนตอน : 16
ออกอากาศ : เกาหลี - 7 มกราคม 2556 - 26 กุมภาพันธ์ 2556 ทางช่องเคเบิ้ลทีวีเอ็น และออนสไตล์
ไทย - ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30 น. - 21.30 น. ทางเวิร์คพอยท์ทีวี
ละครเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากเว็บตูน (การ์ตูนหรือมังงะออนไลน์) เรื่อง "I Steal Peeks at Him Every Day" (나는 매일 그를 훔쳐본다) ของ ยู ยอนซุก และเป็นละครเรื่องที่สามภายใต้ซีรีส์ชุด "Oh! Boy" ของค่ายทีวีเอ็น (ส่วนภาคหรือตอนอื่นๆ ภายใต้ซีรีส์ "Oh! Boy" ได้แก่ละครเรื่อง นายตัวร้ายกับยัยราเมน (Flower Boy Ramyun Shop), Shut Up Flower Boy Band และ Dating Agency: Cyrano) โดยละครเรื่องนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ My Neighbor Flower Boy, The Pretty Boy Next Door และ My Flower Boy Neighbor อีกด้วย
เนื้อหาในละครกล่าวถึงเด็กสาวนามว่า "โก ทงมี" (หมายถึงโฉมงามผู้หงอยเหงา) ซึ่งเป็นสาวน้อยขี้อายและมัธยัสถ์ที่หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นบรรณาธิการต้นฉบับอิสระ เธอขังตัวเองอยู่แต่ภายในอพาร์ทเมนท์และไม่ชอบสุงสิงกับใคร ถึงกระนั้นก็ยังมีคนแอบส่งข้อความทักทายสั้นๆ บนกล่องนมให้เธอทุกเช้า
โก ทงมี แอบปิ๊ง "ฮัน เทจุน" ซึ่งเป็นชายหนุ่มสุดเท่ห์ที่พักอยู่ในตึกหรูฝั่งตรงข้าม เธอพบเขาที่สวนสาธารณะในฤดูใบไม้ร่วงตอนที่ออกไปข้างนอกครั้งสุดท้ายแล้วก็ตกหลุมรักเขาทันที วันนั้นเธอแอบเดินตามและมองดูเขาเก็บลูกหมาที่ถูกทิ้งไว้ในกล่องกลับไปเลี้ยง เมื่อเธอเปิดม่านที่หน้าต่างแล้วพบว่าเทจุนพักอยู่ในห้องฝั่งตรงข้าม เธอจึงคิดว่าเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต นับแต่นั้นกิจวัตรประจำวันของเธอก็คือการแอบดูเทจุน แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็พบว่ามีชายหนุ่มแปลกหน้าอีกคนเข้ามาอาศัยอยู่ในห้องของชายหนุ่มที่เธอหลงรัก และเขาคนนั้นก็คือ "เอ็นริเก้ กึม" ซึ่งเป็นหนุ่มหล่อหน้าใส ขี้เล่น ชอบแต่งตัวสไตล์โบฮีเมียน คลั่งไคล้กีฬาฟุตบอล และเป็นที่รู้จักในฐานะอัจฉริยะด้านการสร้างสรรค์วิดีโอเกม
เอ็นริเก้เดินทางจากสเปนมายังกรุงโซลเพื่อทำหน้าที่ยิงศรรัก ความจริงแล้วเขาหลงรักเพื่อนสนิทที่มีชื่อว่า "ยูน โซยอง" แต่โซยองคิดกับเขาแค่เพื่อนแถมเธอยังหลงรักเทจุนซึ่งเป็นพี่ชายของเขา เขาจึงตั้งใจว่าจะสวมบทกามเทพแผลงศรเพื่อให้โซยองสมหวังในความรัก หลังมาพักกับพี่ชายได้แค่วันเดียวเอ็นริเก้ก็จับได้ว่าทงมีแอบส่องกล้องดูห้องของตน เขาจึงบุกไปเอาเรื่องทงมีที่ห้องเพราะคิดว่าเธอเป็นนักถ้ำมอง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างทงมีและเอ็นริเก้
ข้างห้องของโก ทงมี ยังมี 2 หนุ่มหล่อ "โอ จินรัก" และ "โอ ดงฮุน" ซึ่งเป็นนักเขียนและนักวาดเว็บตูน แต่เว็บตูนเรื่อง "ซอมบี้ ซอกเกอร์" ของทั้งคู่ไม่ผ่านการพิจารณาจากบ.ก.ของเว็บไซต์ เพราะเนื้อเรื่องดัดแปลงมาจากวิดีโอเกมของเอ็นริเก้... โอ จินรักจึงนำเสนอเรื่องใหม่โดยได้ไอเดียมาจากชีวิตจริงของโก ทงมี ซึ่งเป็นผู้หญิงที่เขาหลงรัก และตั้งชื่อเว็บตูนเรื่องนี้ว่า "Flower Boy Next Door"
ส่วนเพื่อนบ้านอีกคนที่อยู่ห้องติดกับโก ต็อกมีเช่นกันคือ "วาตานาเบ้ ริว" ซึ่งเป็นหนุ่มน้อยชาวญี่ปุ่นที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ โดยเขาเดินทางมาเกาหลีเพื่อมาเรียนทำอาหาร และเพื่อนบ้านหนุ่มหล่อที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็คือผู้ที่จะทำให้โลกของทงมีเปลี่ยนไป
เนื้อหาตอนที่ 1
เนื้อหาตอนที่ 1
เรื่องราวในละครเริ่มต้นด้วยการเผยให้เห็นสภาพภายในห้องพักของโก ทงมี ซึ่งเต็มไปด้วยข้าวของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระถางต้นหอม, ต้นไม้ชนิดต่างๆ, กล้องส่องทางไกล, ดินสอสี, หนังสือ, โพสต์อิทที่ติดข้อความเตือนความจำ (จำนวนนับไม่ถ้วน) ฯลฯ ทันใดนั้นก็มีเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมาจากโทรศัพท์มือถือพร้อมกับข้อความหน้าจอที่ระบุว่า "เวลาตื่นนอนของเค้า (เทจุน)"
แทนที่จะนอนหลับสบายอยู่บนเตียง โก ทงมีกลับซุกตัวอยู่ในถุงนอนบนพื้นห้อง เมื่อได้ยืนเสียงนาฬิกาปลุกเธอก็ลุกขึ้นนั่งและค่อยๆ โผล่หัวออกมาพร้อมกับขวดน้ำร้อน (ที่ใส่ไว้ในถุงนอนเพื่อสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกายแทนการเปิดฮีทเตอร์) พอทงมีลุกขึ้นก็มีขวดน้ำตกลงมาจากถุงนอนอีกหนึ่งขวด ทงมีจึงนำน้ำในขวดดังกล่าวมารินใส่แก้วเพื่อใช้บ้วนปากหลังแปรงฟันแทนการเปิดน้ำก๊อก
หลังแปรงฟันเสร็จแล้วทงมีก็แง้มประตูห้องแล้วค่อยๆ เอื้อมมือออกไปควานหากล่องนมที่วางอยู่ทางด้านนอก โดยที่ตัวเธอยังคงอยู่ภายในห้อง กล่องนมดังกล่าวมาพร้อมโพสต์อิทลายการ์ตูนที่มีข้อความอวยพรสั้นๆ ให้วันนี้เป็นวันดีของเธอ ทงมีดึงโพสต์อิทไปแปะไว้บนผนังโดยวางทับแผ่นอื่นๆ ที่ถูกส่งมาก่อนหน้า จากนั้นก็เดินไปเปิดผ้าม่านและมองไปยังห้องพักที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งตั้งอยู่บนตึกที่หรูกว่า สูงกว่า และใหม่กว่าตึกของเธอ
ภาพที่ทงมีเห็นก็คือ ชายหนุ่มสุดเท่ห์ ฮัน เทจุน ซึ่งกำลังยืนยืดเส้นยืดสายอยู่ภายในห้อง เธอจ้องมองเทจุนด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักและชื่นชม จากนั้นก็ทำตามเทจุนทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการกดรีโมททีวี, ออกกำลังกาย, เปลี่ยนช่องทีวี, ทานอาหารเช้า, ทำความสะอาดบ้าน, ซักผ้า ฯลฯ เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องออกไปทำงานเธอก็แอบอวยพรให้เขาโชคดีและโบกมือลา
ในเวลาเดียวกันนั้น เอ็นริเก้ก็กำลังง่วนอยู่กับการประกอบหุ่นยนต์กระดาษบนเครื่องบินโดยสารชั้นธุรกิจ เมื่อแอร์โฮสเตสนำน้ำมาเสิร์ฟ เธอก็ถึงกับอึ้งและทำหน้าอ่อนใจเมื่อพบว่าเบาะนั่งเต็มไปด้วยข้าวของรกรุงรัง แต่พอเอ็นริเก้เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ เธอก็ใจละลายและรีบยิ้มตอบทันที ทันใดนั้นก็มีเสียงเด็กร้องไห้จ้า เอ็นริเก้จึงเดินตรงไปยังห้องผู้โดยสารชั้นประหยัด ทำให้สาวๆ ต่างพากันยิ้มปลื้มเมื่อได้เจอคนดัง พอพบเด็กที่กำลังร้องไห้ เอ็นริเก้ก็หยิบแท็บเล็ตที่หน้าจอเป็นภาพห้วงอวกาศมาวางเป็นฉาก แล้วนำหุ่นยนต์ที่เพิ่งประกอบเสร็จมาเล่นเป็นหุ่นเชิดให้เด็กดู เด็กคนดังกล่างจึงหยุดร้องไห้ และยิ้มอย่างมีความความสุข
ระหว่างรอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เอ็นริเก้นำกล้องวิดีโอมาบันทึกภาพพนักงานฝึกหัดหญิงคนหนึ่ง จึงถูกเจ้าหน้าที่ประจำด่านดุเพราะมีกฏห้ามถ่ายภาพในบริเวณดังกล่าว เมื่อเห็นเอ็นริเก้ถือพาสปอร์ตต่างชาติเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็บ่นว่าคนสมัยนี้ชอบถือสองสัญชาติเพื่อหลบเลี่ยงการเป็นทหาร จากนั้นก็ถามเอ็นริเก้ว่า "นี่เราน่ะพูดภาษาเกาหลีได้ไหม"
เอ็นริเก้ถามเจ้าหน้าที่ประจำด่านว่า ที่เขาไม่ใช้ภาษาทางการกับตนเพราะเห็นว่าตนเป็นเด็กใช่ไหม เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ยินดังนั้นก็ถึงกับผงะ เอ็นริเก้จึงถามกึ่งโม้ว่าตนช่างสังเกตใช่ไหม และบอกว่าการที่เจ้าหน้าที่พูดแบบนั้นทำให้เขารู้สึกสนิทสนมเหมือนเป็นเพื่อนกัน จากนั้นก็สาธยายว่าเขาไปอยู่ที่ประเทศสเปนตั้งแต่อายุ 9 ขวบและมีคนบอกว่าเขาเป็นเด็กอัจฉริยะ ถึงจะไม่ได้อยู่เกาหลีแต่พ่อของเขาไม่ยอมให้พูดภาษาสเปนที่บ้าน เขาจึงพูดภาษาเกาหลีได้อย่างคล่องแคล่ว เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ฟังดังนั้นก็หันมาใช้ภาษาสุภาพและเรียกเขาว่า "คุณเอ็นริเก้"
เมื่อถูกถามว่ามาเกาหลีทำไม เอ็นริเก้ก็ทำท่าแผลงศรแล้วบอกว่ามายิงศรรัก เอ็นริเก้หันไปเห็นป้ายชื่อของพนักงานหญิงระบุคำว่า "ฝึกหัด" และ "Trainee" เลยเข้าใจว่าเธอชื่อ "ฝึกหัด" เป็นพนักงาน "Trainee" จึงถ่ายวิดีโอเอาไว้เพราะคิดว่าเป็นชื่อที่แปลกดี มิหนำซ้ำ เอ็นริเก้ที่เพิ่งโม้ว่าตนเองเป็นอัจฉริยะยังเรียกเธอว่า "พี่ฝึกหัด" อีกต่างหาก
เมื่อมาถึงอาคารผู้โดยสารขาเข้า เอ็นริเก้ก็ได้รับการต้อนรับเยี่ยงซุป'ตาร์ เพราะมีบรรดาแฟนคลับและนักข่าวมารอรับเพียบ เมื่อถูกถามว่าเขาตอบรับข้อเสนอของ "พิกซาร์" (พิกซาร์ แอนนิเมชั่น สตูดิโอส์ ในเครือดีสนีย์) หรือยัง และจะออกจาก "โซล่า สตูดิโอ" ไหม เขายังไม่ทันได้ตอบคำถามก็มีเสียงคนพูดว่าเราจะสัมภาษณ์เรื่องนี้กันทีหลัง ระหว่างที่โดนนักข่าวห้อมล้อมอยู่นั้น เอ็นริเก้ก็หันไปเห็นสาวน้อยยูน โซยอง เดินสะพายกีตาร์เข้ามาหา
ตัดไปที่สองหนุ่มนักเขียนเว็บตูน "โอ จินรัก" และ "โอ ดงฮุน" ซึ่งถูกเปิดตัวด้วยลุคนายแบบสุดเท่ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วทั้งคู่กำลังไปฟังผลว่าเว็บตูนเรื่อง "ซอมบี้ ซอกเกอร์" ของพวกเขาจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ เมื่อบ.ก.สาวที่โหมงานหนักจนตาดำคล้ำเป็นหมีแพนด้าบอกว่างานของพวกเขาไม่ผ่านการพิจารณา เพราะดัดแปลง (ลอก) เนื้อเรื่องมาจากวิดีโอเกมของเอ็นริเก้ ดงฮุนก็แย้งว่าเว็บตูนกับเกมไม่เหมือนกันสักหน่อย แถมเอ็นริเก้ยังอยู่ที่ประเทศสเปนอีกต่างหาก บ.ก.สาวจึงบอกว่าเอ็นริเก้เพิ่งเดินทางมาถึงกรุงโซล
ดงฮุนไม่ยอมแพ้จึงคิดที่จะนำภาพประกอบที่พวกตนเพิ่งวาดมาอวดบ.ก. ระหว่างที่กำลังเลือกรูปอยู่นั้นเขาก็พบภาพวาดหญิงสาว (ทงมี) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับงานเลยสักนิด จินรักเห็นแล้วปิ๊งไอเดียจึงนำเสนอโปรเจ็คใหม่ โดยบอกว่าเขากำลังจะเขียนเว็บตูนแนวเมโลดราม่าเกี่ยวกับหญิงสาวที่ขังตัวเองอยู่ภายในอพาร์ทเมนท์โดยมีเหล่าบรรดาหนุ่มหล่อเป็นเพื่อนบ้าน และตั้งชื่อเรื่องว่า "อิวจิ๊บ โกมินัม (Flower Boy Next Door)” ปรากฏว่าพล็อตเรื่องดังกล่าวโดนใจบ.ก.สาวอย่างแรง
เอ็นริเก้ถามโซยองว่า ไม่ได้พบกันตั้ง 1 ปีแต่เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ โซยองแย่งอมยิ้มในปากเอ็นริเก้มาอมหน้าตาเฉยแล้วโวยว่าจะให้รู้สึกอะไร ในเมื่อเธอยืนรอเขาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจนแทบจะแข็งตายอยู่แล้ว (เสื้อผ้าที่เธอใส่เป็นชุดบางเบาสำหรับหน้าร้อน) เอ็นริเก้นึกว่าโซยอนแต่งตัวสวยมาอวดตน แต่โซยอนปฏิเสธโดยบอกว่าเธอมีความจำเป็นบางอย่างถึงต้องแต่งตัวแบบนี้ เอ็นริเก้รีบหยิบเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ยักษ์ในกระเป๋าออกมาสวมให้โซยอน หลังรูดซิปเสื้อกันหนาวให้เธอแล้วเขาก็ยื่นหน้าเข้าไปหาเธอราวกับว่ากำลังจะจูบ แต่แล้วเขากลับคาบอมยิ้มที่โซยอนเพิ่งดึงออกมาจากปากกลับมาอมตามเดิม
ระหว่างเดินกลับห้องพักดงฮุนถามจินรักว่า ไม่กลัวเสียศักดิ์ศรีหรือไง ถึงกล้าเสนอพล็อตเรื่องใหม่ทันทีที่โดนปฏิเสธ จินรักตอบว่าศักดิ์ศรีกินไม่ได้ และถามกลับว่าการเดินกลับบ้านด้วยความโกรธหลังถูกปฏิเสธคือวิธีการรักษาศักดิ์ศรีของดงฮุนงั้นหรือ ดงฮุนเถียงไม่ออกเลยถามจินรักว่าเขามีไอเดียในการเขียนเรื่องใหม่ (Flower Boy Next Door) แล้วหรือยัง หากยังคิดไม่ออกก็ให้มองมาที่ตนเพราะตนนี่แหล่ะคือ "Flower Boy" ตัวจริงที่หล่อขั้นเทพตั้งแต่หัวจรดเท้า
ขณะกำลังตรวจแก้ต้นฉบับ ทงมีก็ได้รับโทรศัพท์จากกองบรรณาธิการ เธอจึงรีบคว้าโพสต์อิท (ซึ่งลิสต์รายการที่ต้องพูด) ขึ้นมาดูแล้วบอกว่าจะส่งงานให้หลังเที่ยง ส่วนงานชิ้นต่อไปขอให้ส่งมาทางไปรษณีย์ เธอพูดตามที่ลิสต์ไว้ในโพสต์อิททุกข้อ ยกเว้นข้อสุดท้ายที่ต้องขอให้บก.ช่วยโอนเงินค่าจ้างมาให้ แม้จะเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องยากเกินกว่าจะเอ่ยปากสำหรับทงมี
ขณะที่ทงมีกำลังส่องกล้องดูน้องหมาที่ห้องของเทจุน เธอก็ได้ยินเสียงรปภ. "ฮง ซุนชอล" ประกาศว่าเย็นวันนี้จะมีการชุมนุมประท้วงครั้งแรกของปี ห้องไหนที่ไม่มาร่วมชุมนุมจะต้องเสียค่าปรับ แม้จะไม่เอ่ยเลขห้องตรงๆ แต่คุณลุงรปภ. ก็จงใจประกาศบอกทงมีว่า "สำหรับห้องที่ไม่เคยเข้าร่วมการชุมนุมเลยสักครั้งนับตั้งแต่ย้ายเข้ามา ผมหวังว่าจะได้พบกันเย็นนี้" หลังจากนั้นลุงรปภ.ก็ประกาศว่าผู้นำการชุมนุมในวันนี้คือห้อง 401 ชั้น 4 ซึ่งก็คือห้องของจินรักและดงฮุนนั่นเอง (ทงมีอยู่ห้อง 402)
* คนในตึก "ชินชุก" ของทงมีรวมตัวชุมนุมเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยจากออฟฟิศเทล (อาคารสูงซึ่งภายในมีทั้งที่พัก สำนักงาน และร้านค้า) ชื่อ "โอเชี่ยน วิลเลจ" ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เนื่องจากสร้างใกล้กันมากและมีขนาดสูงใหญ่จึงบดบังทัศนียภาพ โดยตึกดังกล่าวเป็นตึกที่เทจุนอาศัยอยู่นั่นเอง
ทงมีไม่ต้องการไปร่วมชุมนุมและไม่อยากเสียค่าปรับ จึงรีบเช็คว่าการคิดค่าปรับเป็นเรื่องที่ถูกกฏหมายหรือไม่ ระหว่างนั้นเธอหันไปเห็นเทจุนกลับมาที่ห้องทั้งๆ ที่ยังไม่ใช่เวลาเลิกงาน จึงใช้กล้องส่องดูว่าเขากลับมาทำไม เธอพบว่าเทจุนมีท่าทางเร่งรีบ ขณะที่เขากำลังยกกาน้ำร้อนขึ้นมาวางบนโต๊ะก็มีคนโทรศัพท์เข้ามือถือ เขาจึงวางกาน้ำร้อนไว้อย่างหมิ่นเหม่ตรงขอบโต๊ะเพื่อรับโทรศัพท์ ก่อนที่จะคว้ากระเป๋าแล้วรีบเดินออกจากห้องไป
ทงมีเห็นกาน้ำที่กำลังเดือดปุดๆ ตกลงมาจากโต๊ะจึงร้องลั่นด้วยความเป็นห่วงน้องหมา จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปตามเทจุน เธอเกือบจะตามรถเทจุนทันอยู่แล้วแต่ถูกดงฮุนขวางเอาไว้เสียก่อน เขาแนะนำตัวว่าตนเองเป็นเพื่อนบ้านของเธอและถือโอกาสขอเคล็ดลับในการลดค่าใช้จ่าย เพราะเห็นว่าเธอเสียค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนน้อยมาก (เขาเคยเห็นบิลเรียกเก็บค่าใช้จ่ายห้องทงมี) ทงมีมองตามรถของเทจุนแล้วบอกดงฮุนว่าเธอจะเขียนวิธีลดค่าใช้จ่ายให้ จากนั้นก็รีบวิ่งตามรถเทจุนไป จินรักได้แต่ยืนมองด้วยความรู้สึกประหลาดใจที่เห็นทงมียอมลงมาด้านล่าง ขณะที่ลุงรปภ.เข้าใจว่าทงมีกลัวโดนปรับจึงมาร่วมชุมนุม
เมื่อเห็นว่าไม่ทันการณ์ ทงมีก็ทุ่มทุนจ้างแท็กซี่ให้ขับรถตามเทจุนไป พอตามทันเธอก็เปิดกระจกแล้วพยายามตะโกนเรียก แตเทจุนไม่ได้ยินและขับนำไปอีกครั้ง ครั้นพอเขาจอดรถเธอก็รีบวิ่งตามไป แม้จะดั้นด้นตามมาจนทันแต่ทงมีกลับไม่กล้าเรียกหรือแม้แต่จะสะกิดเทจุน เธอจึงหยุดเดินแล้วรวบรวมความกล้าเพื่อตะโกนบอกเทจุนว่า "น้องหมาของคุณได้รับบาดเจ็บ..." แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งคนโผล่เข้ามายืนตรงหน้าและยิ้มให้เธอ
อีกด้านหนึ่งโซยองก็กำลังนั่งเล่นกีตาร์และร้องเพลงอยู่ภายในห้องซ้อมดนตรี หลังเล่นจบเอ็นริเก้ก็บอกโซยองว่า ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเขาคิดถึงเธอทุกวัน โซยองตบหัวเอ็นริเก้แล้วบอกว่าเธอเองก็คิดถึงเขาทุกวันเหมือนกัน จากนั้นก็ไล่ให้เขากลับไปก่อนที่เพื่อนร่วมวงคนอื่นๆ จะเข้ามา เอ็นริเก้บอกว่าตนจะสวมบทกามเทพ และเพื่อไม่ให้แผลงศรผิดคนเขาจึงอยากถามให้แน่ใจก่อนว่า คนที่เธอรักคือ "ฮัน เทจุน " ใช่ไหม
ทงมีพยายามชะเง้อมองเทจุนที่กำลังเดินขึ้นรถตู้ ขณะที่ชายแปลกหน้าซึ่งยืนขวางทงมีอยู่เปิดฉากทักว่าเธอมีขนตาที่ยาวมาก (เขาเป็นหมอดูที่กำลังมองลูกค้าตามท้องถนน) แทนที่จะตกใจเมื่อมีหมอดูแปลกหน้าเข้ามาทัก ทงมีกลับถือโอกาสระบายความในใจ โดยเล่าว่าครั้งสุดท้ายที่เธอออกนอกบ้านตรงกับฤดูใบไม้ร่วง วันนั้นเธอพบเทจุนเป็นครั้งแรกที่สวนสาธารณะและบังเกิดเป็นรักแรกพบ เธอมองดูเขาเก็บลูกหมาที่มีคนนำมาทิ้งกลับไปเลี้ยงที่บ้านด้วยความรู้สึกประทับใจ แต่อีกใจหนึ่งก็เสียดายที่รักแรกพบของเธอนั้นจบลงเร็วเกินไป
ระหว่างที่ทงมีกำลังเล่าความหลังฝังใจอยู่นั้น หมอดูก็ส่งข้อความไปบอกเพื่อนด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องว่าตนหาเหยื่อได้แล้ว และคิดว่าคงฟันค่าดูดวงจากทงมีได้อย่างน้อย 3 หมื่นวอน (ราว 800 บาท) ทงมียังคงรำพึงรำพันต่อว่าหากทุกอย่างจบลงในวันนั้นจริงๆ ก็คงดี
วันนั้น...หลังเทจุนอุ้มน้องหมากลับบ้านไปแล้ว ทงมีก็พยายามเก็บทุกอย่างเอาไว้ในความทรงจำ ก่อนกลับห้องพักเธอแวะซื้อเครื่องดื่มพร้อมกล้องส่องทางไกลสีเหลืองติดมือกลับมาด้วย พอส่องกล้องไปที่ห้องฝั่งตรงข้าม ทงมีก็ตกตะลึงเมื่อเห็นเทจุนอุ้มน้องหมาเข้ามาในห้อง เธอจึงคิดว่ามันคือโชคชะตา หลังเล่าเรื่องเทจุนให้หมอดูฟังแล้ว ทงมีก็นึกขึ้นได้ว่าน้องหมาของเทจุนกำลังตกอยู่ในอันตราย เธอจึงลุกขึ้นแล้วรีบกลับไปดูน้องหมาทันที
อีกด้านหนึ่ง เอ็นริเก้ ยังคงคาดคั้นโซยองว่าคนที่เธอรักคือฮัน เทจุนใช่ไหม แม้โซยองจะนั่งนิ่งไม่ยอมตอบ แต่ดูจากสีหน้าท่าทางของเธอแล้วเอ็นริเก้ก็เข้าใจได้ในทันที โซยองกล่าวขอโทษเอ็นริเก้เพราะรู้ว่าเอ็นริเก้มีใจให้เธอ แต่เอ็นริเก้ไม่ตำหนิเธอสักนิด มิหนำซ้ำยังชวนเธอไปทานสปาเก็ตตี้มื้อเย็นที่ห้องพี่ชายตนในวันรุ่งขึ้นอีกด้วย
ทงมีรีบวิ่งกลับไปดูน้องหมาของเทจุนด้วยความเป็นห่วง จินรักที่เพิ่งเลิกการชุมนุมเห็นทงมีเดินกึ่งวิ่งไปยังออฟฟิศเทลฝั่งตรงข้ามก็ได้แต่ยืนมองด้วยความรู้สึกแปลกใจ แต่สิ่งที่ทำให้เขาและดงฮุนถึงกับช็อคก็คือการที่เห็นเอ็นริเก้ลงจากรถแท็กซี่ แล้วลากกระเป๋ามุ่งหน้าไปที่ออฟฟิศเทลดังกล่าวเช่นกัน
ทงมีโทรฯ แจ้งตำรวจว่ามีหมาได้รับบาดเจ็บ และพยายามร้องเรียกน้องหมาที่หน้าประตูห้องของเทจุนด้วยความเป็นห่วง เมื่อหันไปมองด้านข้างเธอก็แทบช็อคเมื่อพบว่าเอ็นริเก้กำลังนั่งมองเธอด้วยความสงสัยก่อนถามว่า "ป้ามาทำอะไรที่นี่มิทราบ" ทงมีได้ยินดังนั้นจึงรีบคลานหนีด้วยความตกใจ
จินรักยืนถ่วงเวลารอทงมีหน้าตู้จดหมาย แต่ดงฮุนเร่งให้เขารีบเข้ามาในลิฟท์เพราะด้านนอกอากาศหนาว เมื่อเห็นทงมีเดินมาที่หน้าลิฟท์ ดงฮุนก็ชวนทงมีให้ขึ้นลิฟท์ไปด้วยกัน แต่ทงมีหันหลังให้และเดินเลี่ยงไปขึ้นบันไดแทน ดงฮุนถามจินรักว่าทำไมเขาถึงไม่เปิดประตูลิฟท์ค้างไว้ จินรักเลยย้อนว่าแล้วทำไมดงฮุนถึงไม่ยอมกดปุ่มเปิดประตู จากนั้นก็พูดว่าถึงยังไงทงมีก็ไม่เข้ามาในลิฟต์ (ร่วมกับคนอื่น) อยู่แล้ว เพราะนั่นไม่ใช่นิสัยของเธอ
ขณะกำลังเดินเข้าห้อง ลุงรปภ. ก็เดินมาบอกทงมีว่าเธอจะต้องเป็นผู้นำการชุมนุมในวันรุ่งขึ้น เพื่อแลกกับการไม่ต้องเสียค่าปรับโทษฐานที่ไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมในวันนี้ อีกด้านหนึ่งดงฮุนก็กำลังแอบซุ่มอยู่หลังม่านเพื่อมองหาว่าเอ็นริกเก้พักอยู่ห้องไหน จินรักเห็นดังนั้นก็ดึงดงฮุนออกมาจากหน้าต่างพร้อมทั้งเตือนว่าการถ้ำมองคนอื่นถือเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย
ทงมีเข้ามาในห้องพักแล้วรู้สึกหนาว เลยหยิบเสื้อกันหนาวตัวใหญ่มาสวม (เธอไม่ยอมเปิดฮีทเตอร์ เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย) ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเป็นห่วงน้องหมาขึ้นมาจึงเปิดผ้าม่านออกดู เมื่อเห็นเอ็นริเก้อยู่ภายในห้อง ทงมีก็รู้สึกแปลกใจและสงสัยว่าเขาเป็นใคร เมื่อเห็นเอ็นริเก้ออกมายืนมองตึกของเธอที่หน้าระเบียง ทงมีก็รีบหลบ เอ็นริเก้เห็นตึกทงมีก็บ่นว่าตึกดังกล่าวทั้งเก่าทั้งทรุดโทรม แถมยังอยู่ใกล้กันมาก พอหันหลังกลับเอ็นริเก้ก็รู้สึกว่ามีคนแอบมองตนอยู่ เขาจึงหันกลับไปมองตึกฝั่งตรงข้ามอีกครั้งแต่ทงมีหลบทัน ถึงกระนั้นทงมีก็ยังผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ริมหน้าต่าง เอ็นริเก้เชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตนจึงรีบวิ่งกลับไปที่ระเบียงอีกครั้งหวังเจอตัวนักถ้ำมอง โชคดีที่ทงมีหลบทันแบบฉิวเฉียด
เมื่อเทจุนกลับมาที่ห้องในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น เขาก็พบเอ็นริเก้นอนหงายเงิบอยู่บนโซฟาโดยไม่ห่มผ้า เขาจึงช่วยห่มผ้าให้ แต่แล้วเอ็นริเก้ก็ลุกขึ้นมากอดเทจุนด้วยความดีใจ (เทจุนเรียกเอ็นริเก้ว่า "เคกึม") หลังทักทายกันแล้วเอ็นริเก้ก็อ้อนให้เทจุนซื้อทีวีเครื่องใหม่ให้ เพราะเครื่องที่มีอยู่เล็กเกินไปทำให้ดูฟุตบอลไม่สะใจ เทจุนปฏิเสธอย่างนุ่มนวลแล้วบอกให้เอ็นริเก้เก็บกวาดข้าวของที่ตัวเองทำหกเลอะเทอะ เอ็นริเก้เลยได้แต่ยืนทำตาปริบๆ
แม้เมื่อคืนทงมีจะนอนบนเตียง แต่เธอยังคงมุดตัวอยู่ในถุงนอนโดยมีขวดน้ำร้อนและเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย หลังตื่นนอนในตอนเช้าทงมีก็อุ้มขวดน้ำที่นอนกอดทั้งคืนออกมาไว้ใช้บ้วนปากหลังแปรงฟัน ระหว่างกำลังแปรงฟันอยู่นั้นทงมีก็เดินออกมาเปิดม่านหน้าต่าง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่วาตานาเบ้กำลังย้ายข้าวของเข้ามาอยู่ใหม่ โดยมีรถไฮดรอลิกยกตัวเขาและกล่องของรักของหวงขึ้นมาที่หน้าต่างชั้น 4 แทนการขนขึ้นลิฟท์ แต่คนควบคุมรถส่งเขาขึึ้นมาผิดห้อง เขาเลยมาหยุดยืนที่หน้าต่างห้องทงมีซึ่งอยู่ติดกันกับห้องของเขา
เมื่อเห็นวาตานาเบ้โผล่มายืนที่หน้าต่างทงมีก็ถึงกับตกตะลึง วาตานาเบ้เองก็ตกใจเช่นกัน แต่เมื่อเห็นสภาพของทงมีที่เพิ่งตื่นนอน แถมยังสวมเสื้อกันหนาวตัวหนา 2-3 ชั้น (ทั้งๆ ที่อยู่ในบ้าน) ขณะที่มือหนึ่งอุ้มขวดน้ำร้อน ส่วนปากก็คาบแปรงสีฟัน เขาจึงเผลอยิ้มออกมา ทงมีเห็นดังนั้นก็รีบปิดผ้าม่านด้วยความตกใจ
ทันทีที่ตื่นนอนดงฮุนก็ชวนจินรักไปประชุม จินรักนั่งวาดภาพทงมีหน้าจอคอมพิวเตอร์โดยใช้ทิชชูอุดหูทั้งสองข้างเอาไว้ (เพราะวาตานาเบ้กำลังขนข้าวของย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ทำให้มีเสียงดัง) ขณะจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ดงฮุนหันไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งถูกเสียบไว้ที่ประตู เขาเลยดึงออกมาดู
หลังแปรงฟันเสร็จทงมีก็ส่องกล้องไปที่ห้องนอนของเทจุน เมื่อเห็นเขาอุ้มน้องหมาขึ้นมาเล่น ทงมีก็โล่งใจที่เห็นน้องหมาปลอดภัย และเมื่อส่องกล้องไปที่ห้องนั่งเล่นเธอก็พบว่าเอ็นริเก้กำลังยืนเท้าเอวจ้องมองเธออย่างเอาเรื่องในสภาพไม่สวมเสื้อ ปากคาบถุงเครื่องดื่ม แถมยังใส่หมวกและรองเท้าหมีแพนด้า เขายังส่งสัญญาณมือบอกทงมีด้วยว่าเห็นการกระทำของทงมีทุกอย่าง ทงมีตกใจมากจึงรีบปิดม่านทันที
หลังจับคาหนังคาเขา เอ็นริเก้ก็ไม่รอช้ารีบตรงไปยังอพาร์ทเมนท์ฝั่งตรงข้ามเพื่อจัดการนักถ้ำมองโรคจิตทันที ด้วยความรีบร้อนเขาจึงเดินออกมานอกตึกท่ามกลางสภาพอากาศอันหนาวเหน็บโดยสวมเพียงเสื้อแจ็คเก็ต กางเกงขาสั้น และหมวกหมีแพนด้าที่ถูกแปลงสภาพเป็นผ้าพันคอ
ทงมีได้แต่เดินไปเดินมาภายในห้องด้วยความกังวลใจ ในเวลาเดียวกันนั้น จินรักซึ่งเห็นว่ากระดาษถูกส่งมาโดยห้อง 402 (ห้องทงมี) จึงรีบเปิดออกดู ด้านวาตานาเบ้ก็กำลังจัดตระกร้าขนม พลางซ้อมพูดแนะนำตัวกับเพื่อนบ้าน ส่วนเอ็นริเก้ก็รีบบึ่งไปที่ตึกของทงมี เมื่อเห็นเอ็นริเก้เดินผ่านป้อมยามด้วยท่าทีแปลกๆ ลุงรปภ. ประจำตึกก็รีบเดินตามไปทันที
เมื่อได้ยินเสียงคนกดกริ่งหน้าประตูห้อง ทงมีก็ส่องดูที่ตาแมวประตูว่าใครมาหา พอเห็นเอ็นริเก้ยืนอยู่หน้าห้องทงมีก็ถึงกับช็อค....
เหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรติดตามได้ใน "รักใสใสของนายข้างบ้าน (My Flower Boy Next Door)"
* เนื้อหาโดย luvasianseries
* เนื้อหาโดย luvasianseries
นักแสดงนำ
รับบท โก ทงมี
ยูน ชียูน
รับบท เอ็นริเก้ กึม
คิม จีฮุน
รับบท โอ จินรัก
พัค ซูจิน
รับบท ชา โดฮี
โก ยองเปียว
รับบท โอ ดงฮุน
มิซูตะ โคอุกิ
รับบท วาตานาเบ้ ริว
คิม จองซาน
* ภาพจากทีวีเอ็น
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ชอบซีรีส์เรื่องนี้พระเอกนางเอกน่ารักมาาากกกกกกกกกกกกก
ตอบลบ