วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เรื่องย่อ THE CHASER โหด/ดิบ/ไล่/ล่า




กำกับ:  โจ นัมกุ๊ก
เขียนบท:  ปาร์ค คยองซู
แนวละคร:  แอ็คชั่น, ดราม่า, สืบสวนสอบสวน
จำนวนตอน:  16 + 2 ตอนพิเศษ
ออกอากาศ:   เกาหลี - 28 พฤษภาคม 2555 - 24 กรกฎาคม 2555 ทางเอสบีเอส
                         ไทย - ทุกวันพุธ-ศุกร์ เวลา  21.30-23.00 น. ทางเวิร์คพอยท์ทีวี เริ่ม 31 พฤษภาคม 2556

เรื่องย่อ

"THE CHASER โหด/ดิบ/ไล่/ล่า" นำเสนอเรื่องราวของตำรวจสืบสวนนามว่า "เพ็ก ฮงซอก" ที่ต้องสูญเสีย "ซูจอง" ลูกสาววัย 17 ปีหลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อพบว่าคดีนี้ถูกตัดสินอย่างไม่เป็นธรรมและมีเงื่อนงำบางอย่าง เขาจึงออกมาทวงความเป็นธรรมให้ลูกสาวและไล่ล่าคนผิดด้วยตนเอง...


ละครเรื่องนี้เริ่มต้นด้วยเหตุการณ์ภายในศาล เพ็ก ฮงซอกสวมสูทสีดำแบบไว้ทุกข์เดินเข้าไปภายในศาลฎีกา ซึ่งกำลังมีการพิพากษาคดีอุบัติเหตุ โดยศาลได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุธรณ์ว่าจำเลย (พีเค จุน) ไม่มีความผิดในคดีอาญา ระหว่างที่ศาลกำลังอ่านคำพิพากษา ฮงซอกซึ่งยังคงอยู่ในห้องโถงด้านนอกก็กำลังเดินผ่านเครื่องตรวจอาวุธ แต่แล้วสัญญาณก็ดังขึ้น เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องจึงเดินเข้ามาขวางเพื่อทำการตรวจค้น ทำให้โดนฮงซอกชกเข้าที่ท้องจนล้มลงไปกองกับพื้น

ถึงแม้พีเค จุนจะถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดทางอาญา แต่เขาจะต้องถูกปรับเป็นเงิน 2 ล้านวอน (ราว 5.5 หมื่นบาท) ข้อหาทำผิดกฏหมายจราจร เมื่อรู้ว่าขวัญใจของพวกตนไม่มีความผิดร้ายแรงในคดีอาญา  บรรดาแฟนคลับที่มาร่วมฟังคำตัดสินและให้กำลังใจนักร้องชื่อดัง "พีเค จุน" ต่างดีใจกันยกใหญ่ ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด โดยกระสุนได้ฝังเข้าที่ป้ายชื่อและตราสัญลักษณ์ของศาลที่ติดอยู่บนผนังห้อง


 ฮงซอกเล็งปืนไปที่บัลลังก์ผู้พิพากษาด้วยน้ำตาคลอเบ้า จากนั้นก็หันปากกระบอกปืนไปที่นักร้องคนดัง  "พีเค จุน" ก่อนยิงปืนขึ้นไปบนเพดานอีก 2 นัดเพื่อเป็นการข่มขู่ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างพากันหมอบตัวลง บ้างก็รีบวิ่งหนีออกจากห้อง ฮงซอกยิงนาฬิกาบนผนังแล้วประกาศว่าการพิจารณาคดียังไม่สิ้นสุด เขาบอกผู้สื่อข่าวที่มาร่วมฟังคำพิพากษาให้นำกล้องออกมา และให้เปิดเครื่องบันทึกเสียง จากนั้นก็เดินเข้าไปหาพีเค จุนภายในคอกจำเลย ฮงซอกเล็งปืนไปที่หน้าผากของพีเค จุน แล้วกล่าวทั้งน้ำตาว่า จากนี้ไปตนคืออัยการ ส่วนปืนคือผู้พิพากษา จากนั้นก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2012 เวลา 21.30 น.

พีเค จุน ซึ่งอยู่ในอาการช็อคพยายามร้องขอความเมตตาด้วยน้ำเสียงอันสั่นเทา  ฮงซอกจ้องหน้าพีเค จุน แล้วกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า "ลูกสาวชั้นก็เคยร้องขอความเมตตาจากนายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่นายทำอะไรลูกสาวชั้น" เมื่อเห็นจำเลยยังคงนั่งนิ่งตัวสั่น ฮงซอกก็ตวาดเสียงดังลั่นว่า "บอกมา!"


ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งถือกระบองไฟฟ้าย่องเข้ามาทางด้านหลังฮงซอก พีเค จุนเห็นดังนั้นจึงพยายามถ่วงเวลาด้วยการพูดตะกุกตะกักว่า "คืนนั้น ผม...." ผู้สื่อข่าวสาว "ซอ จีวอน" เห็นว่าเจ้าหน้าที่กำลังจะเข้าชาร์จฮงซอกทางด้านหลัง เลยส่งสัญญาณบอกฮงซอกด้วยการใช้เท้าเขี่ยเก้าอี้ให้ล้มลง ฮงซอกได้ยินเสียงเก้าอี้ล้มจึงเอี้ยวตัวกลับไปมองทำให้ปืนจ่อไปที่หน้าอกของเจ้าหน้าที่พอดี เมื่อเห็นพีเค จุนพยายามคลานหนี ฮงซอกก็ชกปลายคางเจ้าหน้าที่แล้ววิ่งไปคว้าคอพีเค จุนเอาไว้ จากนั้นก็กดตัวพีเค จุนลงกับพื้นแล้วจ่อปืนไปที่ใบหน้าของเขา พร้อมทั้งบีบคั้นให้พีเค จุนสารภาพความจริงออกมา แม้จะถูกปืนจ่อหน้าในระยะประชิด แต่พีเค จุนก็ยังอุตส่าห์ฮึดสู้ หลังปล้ำกันไปมาได้สักพักก็มีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด และผู้ที่โดนยิง (ปืนลั่น) กลางอกก็คือซุป' ตาร์ "พีเค จุน"

ฮงซอกเห็นดังนั้นก็แทบช็อค เขาเอามืออุดรูกระสุนที่หน้าอกพีเค จุน แล้วร้องบอกว่า "อย่าเพิ่งตายนะ นายยังตายไม่ได้ สารภาพความจริงมาก่อน อย่าเพิ่งตาย!" ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลก็เข้ามาจับตัวฮงซอกแล้วลากตัวเขาออกไป ถึงกระนั้น เขายังร้องตะโกนบอกพีเค จุนที่นอนหายใจรวยรินว่าอย่าเพิ่งตาย และขอให้เขาสารภาพความจริงออกมา

ย้อนกลับไปยังวันเกิดเหตุ


ฮงซอกจัดงานวันเกิดครบรอบ 17 ปีให้ "ซูจอง" ที่ร้านอาหารโดยมี "เจจุง" หนุ่มน้อยที่ซูจองปลื้ม และเพื่อนนักเรียนมาร่วมอวยพรด้วยจำนวนหนึ่ง หลังเป่าเค้กแล้ว ฮงซอกก็มอบบัตรชมคอนเสิร์ต  "พีเค จุน" ให้เป็นของขวัญวันเกิดซูจอง โดยซื้อบัตรเผื่อเพื่อนๆ และเจจุงด้วย (สองพ่อลูกเตี๊ยมกันมาก่อน เพราะซูจองอยากไปดูคอนเสิร์ตกับเจจุง ฮงซอกเลยซื้อที่นั่งแถวหน้า 2 ใบให้ลูกและแฟนหนุ่ม ส่วนที่เหลืออีก 6  ใบเป็นที่นั่งด้านหลัง) ซูจองดีใจมากที่พ่อยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ เธอจึงหอมแก้มพ่อฟอดใหญ่แทนคำขอบคุณ แล้วบอกว่า  "โตขึ้นหนูอยากแต่งงานกับผู้ชายแบบพ่อ"

หลังไปร่วมอวยพรและฉลองวันเกิดให้ลูกแล้วฮงซอกก็กลับไปที่สำนักงานตำรวจ เพราะถูกหัวหน้าทีมนามว่า "ฮวาง" เรียกตัว เขาจึงปล่อยให้ซูจองฉลองวันเกิดกับเพื่อนๆ ตามประสาวัยรุ่น ทันทีที่ไปถึงเขาก็ประท้วงหัวหน้าฮวางด้วยการบอกว่าจะลาออก ทั้งยังคืนบัตรตำรวจ กุญแจมือ และปืน โดยบอกว่าที่ผ่านมาตนทุ่มเททำงานหนักแทบไม่มีเวลาพักผ่อนจนสุขภาพย่ำแย่ แถมยังต้องเสี่ยงอันตรายและได้รับบาดเจ็บมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ตนจะไม่ยอมทำงานนี้โดยเด็ดขาด  หัวหน้าฮวางจึงพยายามอธิบายว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่มอบหมายให้ทีมของตนไปทำหน้าที่อารักขาผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี


อีกด้านหนึ่ง ส.ส. คัง ทงยูน หนึ่งในตัวเก็งที่จะได้เป็นตัวแทนพรรคในการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ซึ่งรายงานผลโพลว่าเขามีคะแนนนิยมนำโด่งถึง 61%  ระหว่างนั้น "ประธานซอ" พ่อตาของเขาโทรฯ เข้ามือถือแต่เขาไม่สนใจ เขาสั่งให้ "ชิน เฮรา" เลขาส่วนตัวไปเตรียมความพร้อมสำหรับงานแถลงข่าว ครั้นพอได้เวลาแถลงข่าวกลับไม่มีนักข่าวมาร่วมงานสักคน คงมีเพียงมีหัวหน้าหน่วยสืบสวนเทกึม และลูกน้องมาดักรออยู่ในห้อง เพื่อจับกุมคิม จีซอก ซึ่งเป็นทั้งคนสนิทและเจ้าหน้าที่ควบคุมการเงินที่ทำงานให้ทงยูนมานานกว่า 10 ปี  ข้อหามีส่วนพัวพันกับคดีติดสินบนระหว่างการเลือกตั้งเมื่อปี 2008 หลังลูกน้องโดนควบคุมตัวไปแล้ว ประธานซอก็โทรฯ มาหาทงยูนอีกครั้งและสั่งให้เขากลับไปทานข้าวต้มที่บ้าน 



ระหว่างนั่งทานข้าวในร้านอาหาร หมวดโจก็บ่นกับฮงซอกเรื่องชีวิตคู่ที่ไม่สมหวัง เธอผ่านการหย่าร้างมาแล้วถึงสองครั้ง และกำลังจะแต่งงานเป็นหนที่สาม ฮงซอกแย้งว่าเธอและแฟนหนุ่มควรศึกษาดูใจกันให้นานกว่านี้เพราะเธอเพิ่งเจอเขาเพียง 2 ครั้งและรู้จักกันได้แค่ 2 อาทิตย์แต่กลับรีบพิมพ์การ์ดแต่งงาน หมวดโจจึงบอกว่าเธอและอดีตสามีคบหากันมานาน 7 ปี หลังแต่งงานได้เดือนเดียวเขาก็มีชู้ คราวนี้ถ้าโดนว่าที่สามีคนใหม่สวมเขาอีกครั้ง เธอคงไม่รู้สึกเจ็บช้ำเท่าใดนักเพราะยังไม่รู้สึกผูกพัน อย่างมากก็แค่รู้สึกเหมือนโดนคนแปลกหน้าหักหลัง

ระหว่างนั้น ซูจองโทรฯ มาหาฮงซอกโดยบอกว่าเจจุงแฟนหนุ่มให้กิ๊บติดผมเธอเป็นของขวัญวันเกิด แถมยังชมว่าเธอสวย ฮงซอกบอกลูกว่าอีก 20 นาทีจะไปรับ แต่แล้วอยู่ๆ หัวหน้าฮวางก็เดินเข้ามานั่งร่วมวงด้วย เขาเลยต้องบอกลูกว่าติดประชุมและให้ลูกกลับบ้านไปก่อน 

ฮงซอกรู้ว่าหัวหน้าฮวางเสนอตัวไปทำหน้าที่อารักขาผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะต้องการสร้างผลงานหลังโดนแป๊กให้อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าทีมมานาน 20 ปี ฮงซอกบอกหัวหน้าฮวางว่าเขาควรล็อบบี้เพื่อให้ได้เลื่อนตำแหน่งแทนที่จะมานั่งทำงานงกๆ เพียงอย่างเดียว แต่หัวหน้าฮวางบอกว่าตนไม่มีเส้นสายจึงต้องทำงานหนักโดยหวังว่าจะได้เลื่อนยศก่อนเกษียณ เพราะตนต้องดูแลลูกที่ยังอยู่ในวัยเรียน แถมเมียก็เจ็บออดๆ แอดๆ  ฮงซอกซึ่งเป็นคนรักครอบครัวได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเห็นใจหัวหน้าฮวาง เขาจึงยอมทำงานตามที่ได้รับมอบหมายแต่โดยดี




ฮงซอกไม่รู้เลยว่าขณะนั้นซูจองถูกจีซูขับรถยนต์เบนท์ลีย์สุดหรูชนจนแน่นิ่ง จีซูจะลงไปดูอาการคนเจ็บแต่ถูกพีเค จุนซึ่งนั่งมาในรถด้วยห้ามเอาไว้และบอกให้รีบขับหนีไป แม้จะรู้สึกตกใจและหวาดกลัวแต่จีซูก็ตัดสินใจลงไปดูซูจอง เมื่อเห็นซูจองนอนแน่นิ่ง เธอก็กรีดร้องด้วยความตกใจเพราะนึกว่าซูจองตายแล้ว พีเค จุน พยายามบอกให้จีซูสงบสติอารมณ์ และปลอบว่าถึงเด็กสาวจะโดนรถชนตายแต่ก็ไม่มีใครรู้เห็นเหตุการณ์  ดังนั้น เธอกับเขาจะต้องไม่เป็นไร ทันใดนั้น ซูจองก็เอื้อมมือไปจับขาพีเค จุนแล้วขอร้องให้เขาช่วย  พีเค จุนเห็นบัตรคอนเสิร์ตของตนตกอยู่บนพื้นเลยลากตัวจีซูกลับไปที่รถพลางบอกให้รีบหลบหนี  จีซูพยายามดิ้นรนขัดขืนเพราะเธอต้องการโทรฯ แจ้งตำรวจและโรงพยาบาล 

พีเค จุนเปิดประตูรถให้จีซูนั่งข้างคนขับ ส่วนเขาเข้ามานั่งประจำที่คนขับแทน เมื่อเห็นจีซูหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พีเค จุนก็ฉวยโทรศัพท์ในมือจีซูแล้วโยนทิ้งไปที่เบาะหลัง จากนั้นก็บอกว่าก่อนเป็นนักร้องดัง เขาเคยเป็นนักร้องในบาร์ที่มีรายได้เพียงน้อยนิดมาก่อน กว่าจะไต่เต้าจนมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างทุกวันนี้ เขาต้องแลกด้วยอะไรหลายๆ อย่าง เขาจึงไม่อยากให้อนาคตดับวูบลงเพราะเหตุการณ์ในคืนนี้ จีซูแทบช็อคเมื่อเห็นพีเค จุนขับรถพุ่งเข้าไปหาเด็กสาวที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นหมายฆ่าปิดปาก

ในเวลาเดียวกันนั้น ฮงซอกก็กำลังพูดถึงซูจองอย่างมีความสุข เขาเล่าให้หมวดโจและหัวหน้าฮวางฟังอย่างภาคภูมิใจว่า ซูจองอยากแต่งงานกับผู้ชายแบบตน หมวดโจได้ยินดังนั้นจึงบ่นด้วยความเสียดายว่า ซูจองคิดผิดที่อยากแต่งงานกับผู้ชายอายุ 42 และได้เงินเดือนๆ ละ 2.2 ล้านวอน (ราว 6 หมื่นบาท) ฮงซอกได้ยินดังนั้นจึงเอาแตงกวายัดปากหมวดโจ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรฯ หาลูกสาว

พีเค จุนถอยรถกลับไปเหยียบซูจองซ้ำอีกรอบ เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ซูจองซึ่งนอนอยู่บนถนนในสภาพเลือดท่วมตัวก็พยายามยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์แต่เธอหมดสติไปเสียก่อน พีเค จุนซึ่งรอดูเหตุการณ์อยู่เห็นว่าซูจองแน่นิ่งไปแล้วจึงรีบขับรถหลบหนีไป


อีกด้านหนึ่งคัง ทงยูนก็กำลังนั่งทานข้าวต้มต่อหน้าประธานซอซึ่งเป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่งและมีอิทธิพล ประธานซอรู้ว่าลูกเขยเป็นคนทะเยอทะยานและทำได้ทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย (ซึ่งก็คือการขึ้นมายืนแทนที่ตน) จึงยื่นซองเอกสารให้แล้วบอกว่าภายในคือใบหย่าและตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาไฟล์ท 9 โมงเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเห็นทงยูนไม่พูดไม่จาและยังคงก้มหน้ากินข้าวต้มต่อไป ประธานซอจึงกล่าวต่อว่า ก่อนไปอเมริกาทงยูนควรออกประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะไม่ขอเป็นตัวแทนพรรคเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ครั้นพอทงยูนทานข้าวต้มหมดถ้วยแล้ว ประธานซอก็ไล่ให้ทงยูนออกไป

ทงยูนบอกว่าที่ผ่านมาตนทำงานให้ประธานซอมากมายและทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องเดียวคือการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี (ซึ่งพ่อตาของเขาไม่เห็นด้วย) เขาสัญญาว่าหากได้เป็นประธานาธิบดีแล้วจะไม่ทอดทิ้งโครงการใหญ่ของประธานซอ แต่ประธานซอบอกว่าที่ตนประสบความสำเร็จทุกวันนี้ เป็นเพราะคนอื่นๆ ต่างก็เชื่อมั่นในคำสัญญาของตน แต่ตนไม่เคยเชื่อคำสัญญาของใคร พูดจบประธานซอก็โทรศัพท์ไปหารัฐมนตรีคิมเพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับทงยูน เมื่อรู้ว่าทงยูนจะถูกจับตอน 9 โมงเช้าวันรุ่งขึ้น ประธานซอก็ขอร้องรัฐมนตรีคิมให้เลื่อนกำหนดการจับกุมเป็น 10 โมง และยังขอร้องด้วยว่าอย่าสั่งห้ามลูกเขยตนเดินทางออกนอกประเทศ


ในขณะที่ทงยูนกำลังจนตรอก จีซูก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาประธานซอซึ่งเป็นบิดาของเธอ พอเห็นว่าทงยูนอยู่ในห้องจีซูก็ได้แต่ยินนิ่ง ครั้นพอทงยูนเปิดประตูออกไปแล้ว จีซูก็บอกพ่อด้วยน้ำเสียงตกใจปนหวาดกลัวว่าเกิดอุบัติเหตุ ทงยูนซึ่งยืนฟังอยู่หน้าห้องได้ยินดังนั้นก็นึกสงสัย เมื่อไปที่ห้องทำงานเขาก็ถามเฮรา (ซึ่งกำลังหงุดหงิดที่โทรฯ ล็อบบี้อัยการไม่สำเร็จ) เรื่องที่จีซูแอบกิ๊กกับนายแบบฮ่องกง เฮราตอบว่าตอนนี้นายแบบคนนั้นย้ายไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสแล้ว และกิ๊กคนใหม่ของจีซูก็คือนักร้องดังที่มีชื่อว่าพีเค จุน ทั้งคู่แอบพบกันสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ทงยูนได้ฟังดังนั้นก็ทำหน้าครุ่นคิดก่อนสั่งให้เฮราไปสืบดูว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับจีซูกันแน่

ฮงซอกยังคงนั่งย่างเนื้อแกล้มโซจูกับหัวหน้าทีมและหมวดโจ หมวดโจเอาแต่พูดพล่ามเรื่องการแต่งงาน ขณะที่ฮงซอกยังคงพูดถึงลูกสาวอันเป็นที่รักตลอดเวลา แต่แล้วก็มีคนโทรฯ มาแจ้งข่าวร้าย


เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ฮงซอกก็ยืนกรานว่าส่งตัวลูกสาวไปรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่ง แม้หมอจะแย้งว่าการเคลื่อนย้ายซูจองซึ่งอยู่ในอาการโคม่านับเป็นเรื่องที่อันตราย แต่เขาต้องการให้หมอชางมินซึ่งเป็นเพื่อนที่เขาไว้ใจมากที่สุดและอยู่ที่โรงพยาบาลอีกแห่งเป็นคนรักษาซูจอง เมื่อส่งตัวซูจองให้หมอชางมินแล้ว ฮงซอกก็อ้อนวอนให้หมอชางมินช่วยชีวิตซูจอง หมอชางบินบอกฮงซอกตามตรงว่าการช่วยชีวิตซูจองเป็นเรื่องยาก แต่เขาสัญญาว่าจะช่วยชีวิตซูจองให้ได้ 

หลังเค้นเอาความจริงกับพีเค จุนได้แล้ว เฮราก็รายงานทงยูนว่าจีซูเป็นคนขับรถชนซูจอง แล้วตอนนี้ซูจองก็ยังอยู่ในห้องผ่าตัดแต่คาดว่าคงไม่รอด ทงยูนได้ฟังดังนั้นจึงเชื่อว่าพระเจ้ากำลังเข้าข้างตน



หลังได้รับแจ้งข่าวร้าย "มิยอน" แม่ของซูจองก็รีบบึ่งมาที่โรงพยาบาล เธอบอกฮงซอกว่าก่อนหน้านี้ไม่ถึง 2 ชั่วโมง ซูจองเพิ่งโทรไปหาเธอโดยบอกว่ากำลังฉลองวันเกิดกับเพื่อนๆ ที่ร้านคาราโอเกะ และต่อว่าฮงซอกที่ไม่ยอมพาซูจองกลับบ้าน เมือหมอคนหนึ่งบอกว่าอาการซูจองเป็นตายเท่ากัน มิยอนก็เป็นลมล้มพับทันที ฮงซอกจึงต้องคอยนั่งเฝ้าดูอาการมิยอนอีกคน

ระหว่างนั้นเขาหยิบรูปซูจองตอนเด็กๆ ขึ้นมาดู แล้วนึกถึงตอนที่ซูจองยืนร้องไห้บนเวที แต่พอเขาขึ้นไปร้องเพลงข้างๆ ซูจองก็ร้องเพลงกับเขาทั้งน้ำตา ฮงซอกออกไปยืนหน้าห้องผ่าตัดแล้วร้องเพลงดังกล่าวให้ลูกฟังด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ  ระหว่างนั้นหัวใจซูจองเกิดหยุดเต้น หมอชางมินจึงหยุดรักษาและทำท่าว่าจะเดินออกไปแจ้งฮงซอก แต่แล้วอยู่ๆ หัวใจของซูจองก็กลับมาเต้นอีกครั้ง หมอชางมินจึงรีบผ่าตัดต่อทันที



ทงยูนไปพบประธานซอกลางดึก ประธานซอกำลังปลอบขวัญจีซูจึงไล่ให้ทงยูนออกไปก่อน แต่ทงยูนบอกว่าตนนำประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมาให้ประธานซอดู ประธานซอจึงบอกให้เขานำไปวางไว้โต๊ะแล้วตนจะดูทีหลัง แต่ทงยูนพูดกึ่งสั่งให้ประธานซอดูเดี๋ยวนี้ แล้วบอกว่าตลอด 15 ปีที่ผ่านมาตนไม่เคยทำอะไรโดยไม่ปรึกษาประธานซอก่อนเลยสักครั้ง เมื่อเห็นประธานซอยังคงยืนนิ่ง เขาก็อ่านประกาศให้ฟังว่า...

"ข้าพเจ้า คัง ทงยูน สมาชิกรัฐสภาแห่งชาติชุดที่ 18 และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี... วันที่ 29 พฤษภาคม 2012 นี้ ข้าพเจ้าขอถอนตัวจากการเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี...  ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้รับความรักและนับถือจากประชาชนโดยไม่คู่ควร การได้รับคะแนนนิยมมากกว่า 60% ไม่ได้เป็นแค่ผลงานของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ยังหมายถึงความคาดหวังของพี่น้องประชาชนที่ต้องการปฏิรูปสาธารณรัฐเกาหลี ข้าพเจ้าไม่อาจทำตามที่ประชาชนคาดหวังได้ ดังนั้น ข้าพเจ้า คัง ทงยูน จึงขอถอนตัวจากการเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ข้าพเจ้าไม่อาจเผชิญหน้ากับพี่น้องประชาชนด้วยความภาคภูมิใจ เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์โดยไม่คาดฝัน..." 

ประธานซอและจีซูได้ยินดังนั้นก็ถึงกับตกตะลึง ทงยูนมองหน้าจึซูแล้วกล่าวว่า "ด้วยความตกใจและกำลังรู้สึกสับสน คุณไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเด็กผู้หญิงคนนั้นแต่กลับขับรถหนีไป และเธอก็เสียชีวิตแล้ว" จีซูตบหน้าทงยูนด้วยความโกรธ ถึงกระนั้นทงยูนก็ยังคงกล่าวต่อว่า "เกาหลีใต้เป็นประเทศที่อยู่ภายใต้กฏหมาย เมื่อคนทั่วไปที่กระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินคดีและรับโทษตามกฏหมาย เช่นเดียวกับภรรยาของข้าพเจ้าที่จะต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน และด้วยเหตุผลทางด้านจริยธรรม ข้าพเจ้าจึงขอแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น"


จีซูร้องถามทงยูนว่าเขาทำอย่างนี้ได้ยังไงในเมื่อเธอเป็นภรรยาของเขา เธอจะตบหน้าทงยูนอีกครั้งแต่ทงยูนจับมือเธอไว้แล้วบอกพลางจ้องหน้าประธานซอว่า "คุณไม่เคยเป็นเมียผม คุณเป็นลูกสาวพ่อคุณมาโดยตลอด" ประธานซอปรามจีซูให้ระงับอารมณ์ แล้วถามทงยูนว่าเขาคิดจะทำอะไร ทงยูนย้อนว่าเขาควรถามเรื่องนั้นกับประธานซอมากกว่า ประธานซอบอกว่า "หลังจากพรุ่งนี้เช้า... " ทงยูนจึงพุูดแทรกว่า "กรุณาจัดการเดี๋ยวนี้" 

เมื่อเห็นประธานซอยังคงยืนนิ่ง ทงยูนก็โทรฯ สั่งให้เฮราส่งแฟกซ์ใบประกาศถอนตัวไปหานักข่าวทุกสำนัก ประธานซอได้ยินดังนั้นจึงยอมโทรศัพท์ไปหารัฐมนตรีคิมเพื่อขอให้ยุติคดีของทงยูน หลังประธานซอยอมทำตามที่ตนต้องการแล้วทงยูนก็ยกเลิกคำสั่งให้ส่งแฟกซ์ จากนั้นก็บอกประธานซอว่าตนจะต้องชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน

หลังทุกอย่างเป็นไปตามแผน ทงยูนก็กลับมาที่ห้องทำงานแล้วสั่งงานเฮราเป็นชุด เมื่อเห็นเฮรายังคงนั่งนิ่งและมีสีหน้าวิตกกังวลเขาก็รู้สึกสงสัย เฮราจึงบอกทงยูนว่าการผ่าตัดประสบผลสำเร็จ  ทงยูนทั้งรู้สึกผิดหวังและไม่พอใจ ยิ่งรู่ว่าซูจองกำลังจะฟื้นขึ้นมาในไม่ช้าทงยูนก็ยิ่งโกรธ เขาจึงบอกเฮราว่า อย่าให้ซูจองฟื้นขึ้นมาโดยเด็ดขาด




ฮงซอกเฝ้าดูอาการซูจองที่ข้างเตียงด้วยความเป็นห่วง เขาร้องไห้และกล่าวขอบใจลูกสาวที่ยังคงมีชีวิต เช้าวันรุ่งขึ้นฮงซอกออกไปซื้อต็อกบ๊กกีแล้วนำมาเทใส่ถ้วย จากนั้นก็ใช้มือโบกให้กลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง โดยบอกมิยอนว่าซูจองชอบทานต็อกบ๊กกี หากเธอได้กลิ่นจะต้องฟื้นขึ้นมาแน่ๆ ฮงซอกเห็นนิ้วซูจองเริ่มกระดิก จึงเรียกหมอชางมินให้เข้ามาดูอาการ  หมอชางมินบอกว่าอีกไม่นานซูจองก็จะฟื้น ทำให้ฮงซอกและมิยอนดีใจมาก ฮงซอกรีบกล่าวขอบคุณเพื่อน แต่หมอชางมินบอกให้รอจนกว่าซูจองจะออกจากโรงพยาบาลแล้วค่อยขอบคุณเขา

เฮราแจ้งตารางการทำงานให้ทงยูนฟังในระหว่างที่เขากำลังเล่นเบสบอลกับลูกชายตัวน้อย เมื่อลูกชายทงยูนเข้าบ้านไปแล้ว เธอก็รายงานว่าเมื่อวานนี้ใช้เงินแก้ปัญหาไปทั้งหมดสามพันล้านวอน (ราว 82.2 ล้านบาท) โดยอธิบายว่าเมื่อ 2-3 ปีก่อนหมอชางมินเคยเปิดคลีนิคแต่ก็ต้องปิดตัวลงเพราะมีคดีความกับคนไข้ทำให้เป็นหนี้นับพันล้านวอน มิหนำซ้ำ เขายังเป็นหนี้พนัน แถมยังถูกภรรยาขอหย่า แต่ปัญหาก็คือเขาสนิทกับพ่อแม่ของซูจองมาก ถึงกระนั้นทงยูนก็มั่นใจว่าหากหมอชางมินเห็นเงินสดจำนวนมหาศาลมากองอยู่ตรงหน้า เขาจะไม่มีวันปฏิเสธข้อเสนอของตนถึงแม้จะต้องทรยศเพื่อนก็ตาม



ทงยูนและจีซูนั่งรถไปร่วมพิธีวางพวงมาลาด้วยกัน แม้ทั้งคู่จะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันนัก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้านักข่าวทั้งคู่ก็ต่างก็ยิ้มแย้มและช่วยกันสร้างภาพได้อย่างแนบเนียน ในเวลาเดียวกันนั้น หมอชางมินก็เปิดประตูเข้าไปดูซูจองพลางทำสีหน้าครุ่นคิดแล้วเดินออกจากห้องไป ไม่นานหมอชางมินก็กลับเข้ามาใหม่อีกครั้งพร้อมขวดยาสีเหลืองในมือ   เขากล่าวขอโทษซูจองก่อนฉีดยาดังกล่าวเข้าไปในสายน้ำเกลือแล้วรีบวิ่งหนีไป

หลังกลับจากซื้อของ ฮงซอกและมิยอนก็เห็นหมอและพยาบาลต่างพากันวิ่งวุ่น เมื่อไปที่ห้องของซูจองทั้งคู่ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าซูจองกำลังนอนตาค้าง และดิ้นทุรนทุรายก่อนขาดใจตายไปต่อหน้าต่อตา หัวหน้าฮวาง หมวดโจ รวมทั้งเจจุงและเพื่อนร่วมชั้นของซูจองต่างก็เดินทางมาเคารพศพซูจองที่โรงพยาบาล ฮงซอกเห็นหน้าเจจุงแล้วก็ยิ่งคิดถึงลูกสาว ส่วนมิยอนเห็นเพื่อนๆ ซูจองแล้วรู้สึกผิด เธอร้องไห้คร่ำครวญว่าเมื่อวานนี้ซูจองอยากชวนเพื่อนทุกคนมาร่วมงานวันเกิด แต่เธอบอกให้ลูกชวนเฉพาะเพื่อนสนิทเพราะที่บ้านมีงบจำกัด แต่แล้วเพื่อนร่วมชั้นทุกคนกลับได้มาทานอาหารร่วมกันในวันที่ตายของซูจอง เธอเสียใจที่ไม่อาจทำตามความต้องการของลูกสาวได้ในหลายๆ เรื่อง เพราะไม่มีเงินมากพอ ถ้าเธอรู้ว่าซูจองอายุสั้น เธอจะทุ่มเทและดูแลลูกให้ดีกว่านี้



ฮงซอกมองหน้าและสัมผัสซูจองเป็นครั้งสุดท้ายด้วยหัวใจที่แตกสลาย ขณะที่มิยอนร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ หัวหน้าฮวางและหมวดโจเห็นภาพอันน่าสะเทือนใจแล้วอดน้ำตาไหลไม่ได้ เมื่อได้ยินหมวดโจคุยกับหัวหน้าฮวางเรื่องที่ซูจองโดนรถชนแล้วยังถูกเหยียบซ้ำถึงสองครั้ง เขาก็เดินออกจากห้องรับศพ พอเจอหมอชางมินฮงซอกก็ขอร้องให้หมอช่วยเป็นธุระจัดการเรื่องงานศพซูจองแทนตน หมอชางมินรู้สึกผิดและละอายใจจนไม่กล้าสู้หน้าฮงซอกจึงพยายามบ่ายเบี่ยง แต่ฮกซอกยังคงขอร้องโดยบอกว่าตนจะออกไปจับฆาตกรที่ฆ่าซูจอง พูดจบเขาก็เดินจากไปทันที


ระหว่างที่ฮงซอกกำลังเดินออกจากโรงพยาบาล ก็มีรายงานข่าวทางหน้าจอทีวีว่า "คัง ทงยูน ซึ่งเป็นตัวเต็งประธานาธิบดีได้เริ่มออกหาเสียงแล้ววันนี้" จากนั้นก็มีภาพขณะหาเสียงของทงยูน โดยเขาได้ลั่นวาจาต่อหน้าประชาชนว่า....

"ผมจะไม่อ่อนข้อให้กับผู้มีอำนาจ แต่จะก้มหัวให้พี่น้องที่ไร้ซึ่งอำนาจ
ผมจะไม่ใส่ใจความต้องการของคนรวย แต่จะเอาใจใส่ดูแลคนรากหญ้า
ผมจะสร้างโลกที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน และจะเป็นมิตรกับคนทั่วไป
ผมจะเป็นแสงแห่งความหวังให้กับคนยากไร้
ผมจะร่วมมือกับทุกท่าน...และพวกเราจะช่วยกันนำพาความสงบสุขมาสู่สาธารณรัฐเกาหลี"


ขณะนั้นฮงซอกเดินผ่านหน้าจอทีวีพอดี แต่เขาไม่ได้สนใจดูข่าวเพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับการออกไปจับตัวคนร้ายที่ขับรถชนซูจอง

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน "THE CHASER"

* เนื้อหาโดย luvasianseries


นักแสดงนำ




ซน ฮยอนจู
รับบท เพ็ค ฮงซอก



คิม ซังจุง
รับบท คัง ทงยูน



คิม ซองรยอง
รับบท ซอ จีซู



โก จุนฮี
รับบท  ซอ จีวอน



รยู ซึงซู
รับบท อัยการชเว จองอู



ปาร์ก ฮโยจู
รับบท หมวดโจ

* ภาพจากเอสบีเอส


*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา