วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เรื่องย่อ นางพญาบัลลังก์มังกร (The Legend of Xiao Zhuang)




กำกับ: เฉินเจียหลิน, อู่ซง
เขียนบท: โจวฮุ่ย, เซียวเซี่ยงวิ๋น
แนวละคร: ย้นยุค
จำนวนตอน: 81
ออกอากาศ: จีน - 14 พฤศจิกายน 2558 ทางช่งซื่อชวน (เสฉวน)
                 ไทย - ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 18.20-20.15 น.ทางช่อง 3 แฟมิลี่ (หมายเลข 13) ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2562 - 15 มิถุนายน 2562

เรื่องย่อ



"นางพญาบัลลังก์มังกร" (The Legend of Xiao Zhuang) เป็นละครที่กล่าวถึงเหตุการณ์ยุคปลายราชวงศ์หมิงไปจนถึงยุคต้นของราชวงศ์ชิง โดยนำเสนอเรื่องราวของ "ต้าวี้เอ๋อร์" (ชื่จริง "ปู้มู่ปู้ไท่") หลานสาวผู้นำมองโกลเผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่น (Khorchin) จากสกุลป๋อเอ่อร์จี้จี๋เท่อ (Borjigit) ซึ่งเป็นสกุลที่สืบเชื้อสายมาจากเจงกิสข่าน ละครไล่เรียงเหตุการณ์นับตั้งแต่เธอยังเป็นเพียงเด็กสาวใสซื่อที่ฝันอยากใช้ชีวิตอิสระในทุ่งหญ้ากับชายที่ตนรัก "ตัวเอ่อร์กุ่น" แต่โชคชะตากลับกลั่นแกล้งให้เธอแต่งงานกับข่านต้าจิน "หวงไท่จี๋" (พี่ชายต่างมารดาตัวเอ่อร์กุ่น) และมอบภาระอันยิ่งใหญ่ในการเป็นมารดาขงแผ่นดินให้เธอแทน

ละครเปิดฉากขึ้นในปี ค.ศ. 1626 (พ.ศ. 2169) ข่านแห่งอาณาจักรต้าจิน "หนูเอ่อร์ฮาชื่อ" และ "หวงไท่จี๋" (บุตรชายคนที่ 8 ขงหนูเอ่อร์ฮาชื่อ)  ได้นำทัพนับแสนบุกโจมตีเมืหนิงหย่วน* ขงราชวงศ์หมิง (ต้าหมิง) แต่แม่ทัพหมิง "หยวนฉงฮ่วน" ซึ่งมีกำลังพลเพียงหมื่นกว่านาย ตั้งรับด้วยการนำปืนใหญ่โปรตุเกสมาติดตั้งบนกำแพงเมืองแล้วระดมยิงใส่ทัพต้าจินที่พยายามบุกโจมตี "ตัวเอ่อร์กุ่น" (บุตรชายคนที่ 14 งหนูเอ่อร์ฮาชื่อ) ซึ่งยืนดูเหตุการณ์จากในค่าย (ทัพต้าจินตั้งค่ายทหารรอบเมืหนิงหย่วน) เห็นว่าทหารฝ่ายตนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากจึงควบม้าฝ่ากระสุนปืนใหญ่ไปช่วยหวงไท่จี๋สู้รบย่างกล้าหาญและสังหารทหารต้าหมิงได้เป็นจำนวนมาก หนูเอ่อร์ฮาชื่อเห็นดังนั้นก็รู้สึกภาคภูมิใจ ถึงกระนั้นก็ไม่อาจทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

เมืหนิงหย่วน ปัจจุบันคือ เมืองซิงเฉิง ยู่ในมณฑลเหลียวหนิง 




ครั้นเห็นว่าต้าหมิงเริ่มเปิดฉากจู่โจมด้วยการยิงปืนใหญ่ถล่มค่ายทหารของพวกตน (ทัพต้าจินประเมินระยะปืนใหญ่ขงต้าหมิงผิดพลาด จึงตั้งค่ายทหารใกล้กำแพงเมืงมากเกินไป) หวงไท่จี๋จึงบอกให้ตัวเอ่อร์กุ่นรีบกลับไปช่วยบิดา พอไปถึงตัวเอ่อร์กุ่นก็พบว่าค่ายทหารของตนถูกปืนใหญ่ต้าหมิงทำลายจนย่อยยับ ซ้ำยังถูกทหารต้าหมิงบุกโจมตี แถมบิดายังได้รับบาดเจ็บสาหัสจากปืนใหญ่ (เป็นการพ่ายแพ้แบบยับเยินครั้งแรกของหนูเอ่อร์ฮาชื่อ) ตัวเอ่อร์กุ่นจึงแบกบิดาฝ่าวงล้อมศัตรูพร้อม "ตัวตั๋ว" (บุตรชายคนที่ 15 งหนูเอ่อร์ฮาชื่อ เป็นน้งชายแท้ๆ ขงตัวเอ่อร์กุ่น

หมายเหตุ:

"หนูเอ่อร์ฮาชื่อ"  เป็นชาวหนี่ว์เจินสกุลอ้ายซินเจว๋หลัวที่รวบรวมชนเผ่าหนี่ว์เจินหลากหลายกลุ่มเป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ หลังจากนั้นจึงตั้งตนเป็น "ข่าน" และก่อตั้งอาณาจักรต้าจินในดินแดนแมนจูเรีย (ภายหลังถูกเรียกว่า "โฮ่วจิน" หรือจินยุคหลังเพื่อป้องกันความสับสน เพราะหลายร้อยปีก่อนหน้านั้นชนเผ่าหนี่ว์เจินเคยสถาปนาราชวงศ์จินหรือต้าจินมาแล้ว) ทั้งยังวางระบบทัพแปดกองธงให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นคนนำทัพบุกโจมตีราชวงศ์หมิงกับราชวงศ์โชซอน โดยสามารถยึดครองคาบสมุทรเหลียวตงซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของต้าหมิงได้สำเร็จ (สมัยยังมีชีวิตอยู่เขาดำรงสถานะเป็น "ข่าน" จึงไม่มีพระนามแต่งตั้งในฐานะกษัตริย์ แต่หลังเสียชีวิตได้ถูกสถาปนาเป็นจักรพรรดิ "ชิงไท่จู่")

* "หวงไท่จี๋" (บ้างก็เขียน "หงไท่จี๋" แต่ในละครเรียก "หวงไท่จี๋") เป็นบุตรชายขงหนูเอ่อร์ฮาชื่อและต้าเฟย (ชายาเอก) ผู้ล่วงลับจากสกุลเย่เฮ่อน่าลา เขาเป็น "ข่าน" คนที่สองและคนสุดท้ายของต้าจิน หลังขึ้นเป็นข่านต่จากบิดา หวงไท่จี๋ได้เปลี่ยนชื่อชนเผ่าจาก "หนี่ว์เจิน" เป็น "แมนจู" และเปลี่ยนชื่ออาณาจักรจาก "จิน" เป็น "ชิง" ทั้งยังเลื่อนชั้นตนจาก "ข่าน" เป็น "จักรพรรดิ" เทียบเท่าจักรพรรดิราชวงศ์หมิง  ถึงกระนั้นหนูเอ่อร์ฮาชื่อ (บิดาขงหวงไท่จี๋) มักถูกกล่าวถึงในฐานะผู้ก่อตั้งและปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ชิง 




หวงไท่จี๋ซึ่งหลบอยู่ในที่ปลอดภัยให้ลูกน้งไปสืบข่าวบิดาและตัวเอ่อร์กุ่น เมื่อลูกน้องนำเศษเสื้อของบิดามาให้ดู เขาก็รีบเดินทางกลับเมืองหลวง ("เซิ่งจิง" หรื "มุกเดน" - ปัจจุบันคือเมืองเสิ่นหยาง) หมายเข้าควบคุมสถานการณ์และช่วงชิงอำนาจก่อนที่พี่น้องคนอื่นๆ จะลงมือเพราะนึกว่าบิดาเสียชีวิตแล้ว อีกด้านหนึ่งตัวตั๋วกับตัวเอ่อร์กุ่นช่วยกันดูแลบิดาขณะล่าถอย ครั้นเห็นว่าบิดาเจ็บหนักจนเดินต่อไปไม่ไหว ตัวเอ่อร์กุ่นจึงพาทหารบุกไปขวางรถม้าที่บังเอิญวิ่งผ่านมา ปรากฏว่าผู้ที่อยู่ในรถม้าคือหลานสาวของ  "หม่างกู่ซือ" ผู้นำมองโกลเผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่น (บิดา "เจ๋อเจ๋อ" ชายาหวงไท่จี๋) ซึ่งใครๆ ต่างเรียกเธอว่า "ต้าวี้เอ๋อร์" (และ "เก๋เก๋"  ซึ่งหมายถึงคุณหนู) แม้ไม่ได้พบหน้ากันมานานแต่ตัวเอ่อร์กุ่นจำรักแรกได้ทันที หลังรู้ว่าหนูเอ่อร์ฮาชื่อบาดเจ็บสาหัส  อวี้เอ๋อร์จึงให้ "ชั่วเอ่อร์จี้" หมอเทวดาชาวมองโกล (ที่ติดตามเธอมา) ช่วยรักษา

ขณะเดินทางกลับเมืองหลวง หวงไท่จี๋ได้รับแจ้งว่าบิดายังมีชีวิตจึงใช้ก้นหินทุบขาตัวเงก่นควบม้าไปหาบิดา โดยโกหกว่าที่ตนไม่ได้ตามไปช่วยเป็นเพราะถูกทหารต้าหมิงรุมล้มและได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดของกระสุนปืนใหญ่ทำให้หมดสติ ครั้นกตามหาบิดาก็พบเพียงเศษเสื้ผ้า หลังกลับวังหนูเอ่อร์ฮาชื่อถามถึงอาการบาดเจ็บของหวงไท่จี๋ ชั่วเอ่อร์จี้ชี้ว่าหวงไท่จี๋ไม่ได้รับบาดเจ็บจากปืนใหญ่จึงไม่เป็นอะไรมากและไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หลังจากนั้น "าปาไฮ่" (ชายาเกขงท่านข่าน) และลูกชายทั้งสาม ("อาจี้เก๋อ" ตัวเอ่อร์กุ่น และตัวตั๋ว) รวมทั้งอวี้เอ๋อร์ (ซึ่งถูกปู่ส่งมาดูแลหนูเอ่อร์ฮาชื่อ) ก็เข้ามาดูาการหนูเอ่อร์ฮาชื่อด้วยความเป็นห่วง 

* "อาปาไฮ่" เป็นชาวแมนจูสกุลอูลาน่าลา และเป็นต้าเฟย (ชายาเอก) ของหนูเอ่อร์ฮาชื่อ (คำเรียกชายาเกว่า "ต้าเฟย" ใช้เพียงช่วงสั้นๆ ในยุคหนูเอ่อร์ฮาชื่อ) ขณะเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินตัวเอ่อร์กุ่นได้เลื่นชั้นมารดาผู้ล่วงลับเป็น "จักรพรรดินีเสี้ยวเลี่ยอู่" แต่หลังตัวเอ่อร์กุ่นเสียชีวิตจักรพรรดิชุ่นจื้อ (ฝูหลิน) ได้เพิกถอนตำแหน่งและพระนามดังกล่าว ทั้งยังนำป้ายชื่อนางกจากศาลบูรพกษัตริย์อีกด้วย

* "อาจี้เก๋อ" หรื "เหอซั่วอิงชินอ๋อง" เป็นบุตรคนที่ 12 ของหนูเอ่อร์ฮาชื่อ 




แม้จะพ่ายศึกกลับมา แต่หนูเอ่อร์ฮาชื่อประกาศตบรางวัลให้สามพี่น้อง อาจี้เก๋อ ตัวเอ่อร์กุ่น และตัวตั๋ว ด้วยการมอบอำนาจทางการทหาร (มอบกองธง หรือกองกำลังทหาร) โดยอาจี้เก๋อกับตัวตั๋วได้กำลังพลคนละเท่าๆ กัน ส่วนตัวเอ่อร์กุ่นได้มากที่สุด ทำให้เกิดข่าวลือแพร่สะพัดว่าหนูเอ่อร์ฮาชื่อจะยกตำแหน่งข่านให้ตัวเอ่อร์กุ่น ขณะดูแลหนูเอ่อร์ฮาชื่อ อาปาไฮ่ขอให้เขาแต่งตั้งตัวเอ่อร์กุ่นเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง หนูเอ่อร์ฮาชื่อเองก็อยากทำเช่นนั้นเพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาเพราะตัวเอ่อร์กุ่นอายุยังน้อยและไม่มีผลงานอันโดดเด่น เดิมทีเขาคิดที่จะพาตัวเอ่อร์กุ่นไปสร้างผลงานในการทำศึก นึกไม่ถึงว่าจะพ่ายศึกกลับมา

ตัวเอ่อร์กุ่นเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของบิดาและหวงไท่จี๋ จึงคุกเข่าอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครองทั้งสองให้ปลอดภัย เพราะทั้งคู่ต่างเป็นคนที่เขารัก ทั้งยังเป็นเสาหลักและกำลังสำคัญของต้าจิน เมื่ออวี้เอ๋อร์มาเห็นเข้าจึงคุกเข่าพนมมือเคียงข้างตัวเอ่อร์กุ่น ครั้นได้ยินตัวเอ่อร์กุ่นขอใช้อายุขัย 30 ปีของตนแลกกับความปลอดภัยของบิดาและหวงไท่จี๋ อวี้เอ๋อร์ก็แย้งและตำหนิตัวเอ่อร์กุ่นยกใหญ่ ทั้งยังบอกว่าหากตัวเอ่อร์กุ่นต้องการเช่นนั้นจริง เธอจะขอลดทอนอายุขัยของตนเช่นกัน

อาปาไฮ่ส่งสาวใช้ชื่อ "อาฮวน" มาเยี่ยมและนำน้ำแกงมาให้หวงไท่จี๋แต่หวงไท่จี๋ไม่ยอมรับน้ำใจอาปาไฮ่  "เจ๋อเจ๋อ" (ชายาหวงไท่จี๋) จึงบอกอาฮวนว่าหวงไท่จี๋อาการดีขึ้นมากแล้วและฝากขอบคุณอาปาไฮ่ที่ห่วงใย ครั้นรู้ว่าหวงไท่จี๋ปฏิเสธความหวังดีของตน อาปาไฮ่จึงเปรยว่าหวงไท่จี๋ตั้งตนเป็นปรปักษ์กับเธอ เจ๋อเจ๋อไม่เห็นด้วยที่หวงไท่จี๋หักหาญน้ำใจอาปาไฮ่ หวงไท่จี๋กล่าวว่าหากตนดื่มน้ำแกงอาปาไฮ่ก็เท่ากับหยามพี่น้องคนอื่นๆ และทำร้ายตัวเอ่อร์กุ่น เขาชี้ว่าบิดาตนมอบอำนาจทางการทหารให้บุตรทั้งสามของนาง เหล่าบรรดาพี่น้อง (ต่างมารดา) คนอื่นๆ จึงรู้สึกไม่พอใจ หากตนดื่มน้ำแกงของนาง พี่น้องเหล่านั้นจะพาลไม่พอใจตนและยิ่งเกลียดตัวเอ่อร์กุ่น เพราะตนเห็นตัวเอ่อร์กุ่นเป็นเหมือนน้องชายแท้ๆ




ตัวเอ่อร์กุ่นพาอวี้เอ๋อร์มาพบเจ๋อเจ๋อ (ซึ่งเป็นอาแท้ๆ ของอวี้เอ๋อร์) และหวงไท่จี๋ ครั้นหวงไท่จี๋บ่นว่ารู้สึกปวดแผล ตัวเอ่อร์กุ่นก็รู้สึกเป็นห่วงและสงสัยว่าทำไมหมอเทวดาถึงรักษาไม่หาย หวงไท่จี๋โกหกว่าแผลตนลึกถึงกระดูกหมอหลวงจึงแนะให้นำยาที่มีส่วนผสมของรากบัวหิมะมารักษา จากนั้นก็ชี้ว่าบิดาเจ๋อเจ๋อมียาตัวดังกล่าว ตัวเอ่อร์กุ่นได้ยินดังนั้นเลยอาสาไปนำยามาให้ หวงไท่จี๋จึงบอกให้ตัวเอ่อร์กุ่นพาตัวตั๋วไปเป็นเพื่อนเพื่อที่ตนจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ก่อนออกเดินทางตัวเอ่อร์กุ่นฝากอวี้เอ๋อร์แจ้งบิดามารดาว่าตนเดินทางไปยังเผ่าเคอเอ่อร์ชิ่นและฝากเยี่ยมหวงไท่จี๋แทนตน จากนั้นก็มอบหยกคู่กายให้อวี้เอ๋อร์เป็นสิ่งแทนใจ

ครั้นรู้ว่าตัวเอ่อร์กุ่นกับตัวตั๋วเดินทางไปยังเผ่าเคอเอ่อร์ชิ่นเพื่อนำยามาให้หวงไท่จี๋ หนูเอ่อร์ฮาชื่อก็รู้ทันทีว่าหวงไท่จี๋วางแผนล่อเสือออกจากถ้ำหมายกำจัดตัวเอ่อร์กุ่น ระหว่างเดินทางตัวเอ่อร์กุ่นกับตัวตั๋วถูกกลุ่มนักฆ่าดักโจมตี ครั้นเห็นว่าหมดทางหลบหนี ตัวเอ่อร์กุ่นจึงผลักตัวตั๋วลงน้ำแล้วบอกให้รีบหนีไป จากนั้นก็สู้กับคนร้ายเพียงลำพัง หนูเอ่อร์ฮาชื่อพยายามข่มใจด้วยการนับลูกประคำแต่แล้วอยู่ๆ สร้อยลูกประคำก็ร่วงหลุดมือทำให้ลูกประคำหลุดกระเด็นเกลื่อนพื้น ทันใดนั้น ตัวตั๋วก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาพลางร่ำไห้ หนูเอ่อร์ฮาชื่อรู้ทันทีว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับตัวเอ่อร์กุ่นแต่เขาไม่อยากได้ยินจึงห้ามไม่ให้ตัวตั๋วพูดออกมา อวี้เอ๋อร์เห็นตัวตั๋วกลับมาตามลำพังจึงถามหาตัวเอ่อร์กุ่น ครั้นรู้ว่าตัวเอ่อร์กุ่นยอมเสียสละตนเองเพื่อปกป้องตัวตั๋วและหายตัวไปโดยไม่ทราบชะตากรรม อวี้เอ๋อร์ก็แทบใจสลาย

หนูเอ่อร์ฮาชื่อได้แต่นั่งกอดหมวกของตัวเอ่อร์กุ่น เขาเป็นห่วงลูกชายคนโปรดจนทานอะไรไม่ลง เจ๋อเจ๋อยอมรับว่าเป็นความผิดของตนกับหวงไท่จี๋ที่ไม่ทัดทานตัวเอ่อร์กุ่นจึงมาขอรับโทษทัณฑ์ และพยายามเกลี้ยกล่อมให้หนูเอ่อร์ฮาชื่อทานอาหาร แต่เขายังไม่ทันได้ทานอาปาไฮ่ก็วิ่งร่ำไห้เข้ามาหาและโวยวายว่าเป็นฝีมือหวงไท่จี๋ ในเวลาเดียวกันนั้น "อาหมิ่น" (ลูกน้งชายหนูเอ่อร์ฮาชื่อ) กับ "หม่างกู่เอ่อร์ไท่" (บุตรชายคนที่ 5 ของหนูเอ่อร์ฮาชื่อ) ได้บุกมาพบหวงไท่จี๋ หวงไท่จี๋รู้ว่าทั้งคู่อยู่เบื้องหลังเหตุลอบทำร้ายตัวเอ่อร์กุ่น แต่ทั้งคู่แกล้งทำเป็นเฉไฉก่อนชี้ว่าคนที่น่าจะดีใจกว่าใครถ้าหากตัวเอ่อร์กุ่นตายไปคือหวงไท่จี๋ หวงไท่จี๋ขู่ว่าจะเอาเรื่องหากทั้งคู่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จริงๆ แต่ทั้งคู่หาได้กลัวไม่เพราะรู้ว่าหวงไท่จี๋หมายปองตำแหน่งข่านแห่งต้าจิน หม่างกู่เอ่อร์ไท่ไม่อยากอ้อมค้อมจึงบอกตามตรงว่าพวกตนจะสนับสนุนหวงไท่จี๋ขึ้นเป็นข่าน หวงไท่จี๋แย้งว่าบิดาพวกตนยังมีชีวิตอยู่และถามว่าทั้งคู่คิดก่อกบฏงั้นหรือ




ครั้นเห็นว่าหวงไท่จี๋ยังคงแสแสร้ง หม่างกู่เอ่อร์ไท่จึงกล่าวว่าพวกตนรู้ว่าหวงไท่จี๋วางแผนล่อตัวเอ่อร์กุ่นออกจากวัง ทั้งยังรู้ว่าหวงไท่จี๋กำลังสร้างฐานอำนาจด้วยเกณฑ์พี่น้องและเหล่าขุนนางมาเป็นพวก หวงไท่จี๋รู้ว่าทั้งคู่ต้องการมาเจรจาต่อรองจึงถามตามตรงว่าทั้งคู่ต้องการอะไร อาหมิ่นกล่าวว่าพวกตนจะสนับสนุนหวงไท่จี๋ให้ขึ้นเป็นข่านคนต่อไป แต่ขอให้คงสี่คณะปกครอง ("ซื่ต้าเป้ยเล่อ") เอาไว้ดังเดิม (ทั้งคู่ขเป็นหนึ่งในสี่ "ต้าเป้ยเล่อ" ที่ร่วมกันบริหารราชการแผ่นดิน) หวงไท่จี๋เห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะปกปิดจึงแย้งว่าต่อให้ตัวเอ่อร์กุ่นตายก็ยังมีอาจี้เก๋อกับตัวตั๋ว อาหมิ่นแนะให้ดึง "เยวี่ยทัว" (หลานหนูเอ่อร์ฮาชื่อ / ลูกชาย "ไต้ซ่าน"  บุตรคนที่ 2 ของหนูเอ่อร์ฮาชื่อ) มาเป็นพวก เพียงเท่านี้อาจี้เก๋อกับตัวตั๋วก็จะไร้คนสนับสนุนและไม่มีอำนาจอะไร หวงไท่จี๋ได้ยินดังนั้นจึงยอมรับข้อเสนอของทั้งคู่

อวี้เอ๋อร์ร่ำไห้แทบขาดใจเพราะไม่รู้ว่าตัวเอ่อร์กุ่นเป็นตายร้ายดีอย่างไร ถึงกระนั้นเธอก็หมายมั่นว่าจะรอเขากลับมา หวงไท่จี๋แสร้งเดินลากขาไปเยี่ยมบิดาหลังไม่เคยโผล่หน้ามาเยี่ยมเยียนโดยนำอาการบาดเจ็บมาเป็นข้ออ้าง หนูเอ่อร์ฮาชื่อกล่าวอย่างรู้ทันว่าคนที่จะขึ้นเป็นข่านต้าจินต้องไม่พิการ ครั้นเห็นบิดาหยิบยกกลอนมาตำหนิตนเป็นนัยๆ ว่ารีบร้อนลงมือฆ่าพี่น้องหมายแย่งชิงความเป็นใหญ่ หวงไท่จี๋จึงคุกเข่าสาบานว่าตนไม่รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับเหตุลอบสังหารตัวเอ่อร์กุ่น และชี้ว่าตนก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน เขาเห็นว่าบิดารู้ทันตนทุกอย่าง (รวมทั้งเรื่องที่ใช้หินทุบขาตัวเอง) จึงคุกเข่าสาบานว่าหากได้เป็นข่าน ตนจะดีกับพี่น้องทุกคนและจะไม่เข่นฆ่าใคร หนูเอ่อร์ฮาชื่อได้ยินดังนั้นจึงบอกให้หวงไท่จี๊จดจำคำที่ตนได้ลั่นวาจาเอาไว้

แต่แล้วอยู่ๆ ตัวเอ่อร์กุ่นก็กลับมาพร้อมบัวหิมะจากเผ่าเคอเอ่อร์ชิ่น ทำให้หวงไท่จี๋แอบเป็นกังวลว่าบิดาอาจเปลี่ยนใจ  หนูเอ่อร์ฮาชื่อรู้นิสัยหวงไท่จี๋ เขาไม่ต้องการให้เกิดศึกสายเลือดและเหตุวุ่นวาย จึงมอบประกาศแต่งตั้งข่านให้หวงไท่จี๋โดยระบุให้เพิ่มคณะปกครองจากสี่เป็นแปด (หมายให้ลูกชายทั้งสามของอาปาไฮ่ ตลดจนเยวี่ยทัวมีส่วนร่วมในการบริหารบ้านเมื) หลังจากนั้นไม่นานหนูเอ่อร์ฮาชื่อก็เสียชีวิตที่ "ป้อมอ้ายจี" (นอกเมืองหลวง) อาปาไฮ่รับไม่ได้ที่หนูเอ่อร์ฮาชื่อยกตำแหน่งข่านให้หวงไท่จี๋ ทั้งที่เคยรับปากว่าจะมอบตำแหน่งกล่าวให้ตัวเอ่อร์กุ่น เธอคิดชิงอำนาจ (ให้ตัวเอ่อร์กุ่น) จึงพยายามปกปิดเรื่องที่หนูเอ่อร์ฮาชื่อเสียชีวิต และวางแผนกำจัดอาหมิ่น หม่างกู่เอ่อร์ไท่ ตลอดจนหวงไท่จี๋ เมื่ออวี้เอ๋อร์รู้เข้าจึงรีบไปบอกตัวเอ่อร์กุ่น ตัวเอ่อร์กุ่นไม่ต้องการให้เกิดเหตุนองเลือดจึงเคาะระฆังแจ้งข่าวให้รู้โดยทั่วกัน เดิมทีไต้ซ่านเคยสัญญากับอาปาไฮ่ว่าจะสนับสนุนตัวเอ่อร์กุ่นขึ้นเป็นข่านต้าจิน แต่หลังจากลูกชาย (เยวี่ยทัว) ประเมินสถานการณ์และเล่าความจริงให้ฟัง (ว่าหนูเอ่อร์ฮาชื่อบตำแหน่งข่านให้หวงไท่จี๋) ไต้ซ่านเลยจำต้องทำตามความประสงค์ของบิดา




หลังนำศพหนูเอ่อร์ฮาชื่อกลับวังข่าน ไต้ซ่าน อาหมิ่น หม่างกู่เอ่อร์ไท่ และหวงไท่จี๋ ก็เริ่มต้นภารกิจในฐานะสี่คณะปกครองด้วยการปราบกบฏ ครั้นอาจี้เก๋อนำกำลังทหารมาปิดล้อมวังตามคำสั่งอาปาไฮ่จึงถูกจับกุมตัวทันที หลังจากนั้นทั้งสี่ก็บีบให้อาปาไฮ่ฆ่าตัวตายตามหนูเอ่อร์ฮาชื่อ (โดยอ้างว่าเป็นความประสงค์ของหนูเอ่อร์ฮาชื่อผู้ล่วงลับ)  ตัวเอ่อร์กุ่นขอความเมตตาจากหวงไท่จี๋แต่หวงไท่จี๋ยืนกรานว่าต้องทำตามคำสั่งเสียที่บิดาที่เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษรก่อนเสียชีวิต แม้ไม่เชื่อว่าสามีต้องการเช่นนั้นจริง แต่หลังหวงไท่จี๋รับปากว่าจะไม่ทำร้ายและจะดีต่อลูกชายทั้งสามของตน อาปาไฮ่จึงยอมฆ่าตัวตายตามสามีไป

หลังมารดาเสียชีวิตตัวเอ่อร์กุ่นและตัวตั๋วถึงได้รู้ว่าคำสั่งเสียของบิดาที่หวงไท่จี๋และพวกนำมากล่าวอ้างเป็นของปลอม ซ้ำยังพบว่า "ฝูกุ้ยกงกง" และสาวใช้ของมารดาล้วนถูกฆ่าปิดปาก หลังจากนั้น หวงไท่จี๋ก็ตั้งตนเป็นข่านคนใหม่ของต้าจิน (เดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1626) โดยบริหารอาณาจักรร่วมกับ ไต้ซ่าน อาหมิ่น และหม่างกู่เอ่อร์ไท่ ในนามสี่คณะปกครอง ตัวเอ่อร์กุ่นเพิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้วหวงไท่จี๋เป็นคนหน้าเนื้อใจเสือ แต่เขาไม่มีกำลังและอำนาจที่จะมาต่อกรจึงได้แต่เก็บงำความแค้นและยอมสวามิภักดิ์ต่อหวงไท่จี๋เพื่อรักษาชีวิตของตนและพี่น้อง ตลอดจนรอเวลาให้ตนแข็งแกร่งและมีอำนาจเสียก่อนจึงค่อยชำระแค้นและทวงสิ่งที่เป็นของตนกลับคืนมา (อาจี้เก๋อบอกตัวเอ่อร์กุ่นว่าแท้จริงแล้วบิดาต้องการมอบตำแหน่งข่านให้ตัวเอ่อร์กุ่น)

ขณะที่อวี้เอ๋อร์กำลังพายเรือเล่นกับตัวเอ่อร์กุ่น อยู่ๆ ก็มีกลุ่มชายชุดดำโผล่ขึ้นมาจากน้ำแล้วพยายามสังหารตัวเอ่อร์กุ่น โชคดีที่มีกลุ่มชายชุดขาวมาช่วยรับมือ อวี้เอ๋อร์เห็นว่าตัวเอ่อร์กุ่นมีภัยจึงชวนเขาแต่งงานแล้วหลบไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่เผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่นของตน ตัวเอ่อร์กุ่นแย้งว่าตนยังมีหนี้แค้นที่ต้องสะสางและไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นคนขี้ขลาดตาขาว เขายืนยันว่าตนแต่งงานกับอวี้เอ๋อร์แน่แต่อยากให้เธอรอจนกว่าตนจะสร้างผลงานใหญ่และกลายเป็นวีรบุรุษของต้าจิน หวงไท่จี๋รู้ว่าหม่างกู่เอ่อร์ไท่กับอาหมิ่นส่งนักฆ่าไปลอบสังหารตัวเอ่อร์กุ่นจึงส่งคนไปคุ้มกันและสังหารคนของทั้งคู่ แม้หวงไท่จี๋จะเคยเตือนทั้งคู่ว่าอย่าแตะต้องตัวเอ่อร์กุ่น แต่หม่างกู่เอ่อร์ไท่ไม่นึกเกรงกลัว ซ้ำยังยอมรับอย่างท้าทายว่าตนเป็นคนสั่งฆ่าตัวเอ่อร์กุ่นเอง หวงไท่จี๋ไม่ต้องการเข่นฆ่าพี่น้อง (พี่ชายต่างมารดา) จึงลงโทษ (เชือดไก่ให้ลิงดู) ด้วยการตัดนิ้วก้อยข้างหนึ่งของหม่างกู่เอ่อร์ไท่




อาหมิ่นและหม่างกู่เอ่อร์ไท่วางแผนยึดกองธงเหลือง "เซียงหวงฉี" (ประจำปีกซ้ายบน) และ "เจิ้งหวงฉี" (ประจำปีกขวาบน) ที่หนูเอ่อร์ฮาชื่อมอบให้อาจี้เก๋อกับตัวเอ่อร์กุ่น หวังให้ตนมีอำนาจทางการทหารเทียบเท่าหวงไท่จี๋โดยให้เหตุผลว่าอาจี้เก๋อกับตัวเอ่อร์กุ่นอายุยังน้อยและด้อยประสบการณ์จึงไม่คู่ควรกับกองธงระดับสูงที่แข็งแกร่งและมีอิทธิพลที่สุดดังกล่าว ครั้นตัวตั๋วแย้ง (ตามที่ตัวเอ่อร์กุ่นแนะนำ) ว่ากองธงเหลืองทั้งสองเดิมเป็นของบิดาจึงรับคำสั่งจากข่านโดยตรง ดังนั้นควรส่งคืนให้ผู้เป็นข่านอย่างหวงไท่จี๋ หวงไท่จี๋สบโอกาสยึดกองธงเหลืองมาเป็นของตน จากนั้นก็มอบกองธงขาวทั้งสองของตนให้อาจี้เก๋อกับตัวเอ่อร์กุ่นเป็นการแลกเปลี่ยน ทำให้อาหมิ่นกับหม่างกู่เอ่อร์ไท่ยิ่งรู้สึกเจ็บแค้น (หวงไท่จี๋ต้องการใช้ตัวเอ่อร์กุ่นต่อกรกับทั้งคู่และพวก หากทหารกงธงขาวคนใดกล้าแข็งข้กับตัวเอ่อร์กุ่น หวงไท่จี๋จะสั่งประหารทันที)

ขณะที่อวี้เอ๋อร์ออกไปเดินเล่นกับตัวเอ่อร์กุ่น เธอเห็นขุนนางต้าจินจับเชลยศึกชาวฮั่นมาเป็นทาส ซ้ำยังกดขี่ข่มเหงเหมือนพวกเขาไม่ใช่คนจึงอดรนทนไม่ไหว เธอบุกไปหาหวงไท่จี๋เพื่อขอให้เขายกเลิกกฏที่หนูเอ่อร์ฮาชื่อบัญญัติขึ้น (ว่าเชลยศึกต้าหมิงซึ่งเป็นชาวฮั่น ต้องตกเป็นทาสต้าจิน) หวงไท่จี๋เห็นด้วยว่าผู้เป็นข่านควรมีคุณธรรมและความเมตตาทั้งต่อราษฎรของตนและชนเผ่าต่างๆ เพื่อสร้างความปรองดอง  เขาจึงคิดยกเลิกกฏต่างๆ ที่ไม่เป็นธรรมและเอาเปรียบ แต่ถูกเหล่าขุนนางและสามต้าเป้ยเล่อ (อาหมิ่น หม่างกู่เอ่อร์ไท่ และไต้ซ่าน ซึ่งเป็นสามในสี่คณะปกครอง) คัดค้านหนัก มีเพียงตัวเอ่อร์กุ่นที่ออกโรงสนับสนุน ทั้งยังเป็นผู้นำในการส่งมอบกองกำลังจำนวน 15 หนิวลู่ (4,500 คน) เพื่อแลกกับการปลดปล่อยทาสชาวฮั่น หวงไท่จี๋ชี้ว่าแทนที่จะเพิ่มความเจ็บแค้น พวกตนควรซื้อใจคนเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากชาวฮั่นและดินแดนข้างเคียง หากพวกตนกับชาวฮั่นและชนเผ่าต่างๆ สามารถผูกมิตรและรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน อาณาจักรของพวกตนจะอยู่อย่างยั่งยืนและยาวนาน
 
ก่อนเดินทางกลับเผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่น อวี้เอ๋อร์แวะไปอำลาและขอบคุณหวงไท่จี๋ ทั้งยังขอให้หวงไท่จี๋เมตตาตัวเอ่อร์กุ่น และขออนุญาตให้ตัวเอ่อร์กุ่นไปเคอเอ่อร๋ชิ่นในวันพระจันทร์เต็มดวง ที่แท้ตัวเอ่อร์กุ่นรับปากอวี้เอ๋อร์ว่าจะไปเข้าร่วมการแข่งขันขี่ม้าเลือกคู่ที่เผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่น แต่แล้วอยู่ๆ กลับมีเรื่องไม่คาดฝันเมื่อแม่ทัพต้าหมิงนามว่า "เหมาเหวินหลง" ซึ่งประจำการอยู่ที่คาบสมุทรเหลียวตงในมณฑลเหลียวหนิง ได้เคลื่อนทัพมาทางด้านทิศตะวันออกโดยพลการหมายโจมตีเมืองเซิ่งจิง (เมืองหลวงของต้าจิน ซึ่งเดิมเป็นของต้าหมิง และอยู่ในมณฑลเหลียวหนิงเช่นกัน) ทั้งที่แม่ทัพหยวนฉงฮ่วนซึ่งประจำการ ณ เมืองหนิงหย่วนในมณฑลเหลียวหนิง (ที่ยิงปืนใหญ่ขับไล่ทัพต้าจินและทำให้หนูเอ่อร์ฮาชื่อเสียชีวิต) ยังไม่คิดทำศึกในตอนนี้ (ราชวงศ์โชซอนของเกาหลีซึ่งเป็นรัฐบรรณาการของราชวงศ์หมิงให้การสนับสนุนแม่ทัพเหมาเหวินหลง)




อาหมิ่นและหม่างกู่เอ่อร์ไท่สบโอกาสกำจัดตัวเอ่อร์กุ่น จึงยุให้หวงไท่จี๋ส่งตัวเอ่อร์กุ่น (ซึ่งไม่เคยนำทัพ) นำทัพธงขาวไปต่อกรกับแม่ทัพเหมาเหวินหลงของต้าหมิงซึ่งกรำศึกมานับครั้งไม่ถ้วน หลังโดนหยามประกอบกับต้องการสร้างผลงาน ตัวเอ่อร์กุ่นกับตัวตั๋วจึงอาสานำทัพไปทำศึกกับเหมาเหวินหลง หวงไท่จี๋เห็นว่าตัวเอ่อร์กุ่นไม่มีประสบการณ์ ขณะที่เหมาเหวินหลงทั้งมากเล่ห์และเชี่ยวชาญการทำศึก จึงสั่งให้อาหมิ่นนำกองธงน้ำเงินไปปักหลักเป็นกองหนุนที่เหลียวตง ตัวตั๋วกังวลว่าตัวเอ่อร์กุ่นอาจไปแข่งขี่ม้าที่เคอเอ่อร๋ชิ่นไม่ทัน (ผู้ชนะจะได้แต่งงานกับอวี้เอ๋อร์) แต่ตัวเอ่อร์กุ่นมั่นใจว่าตนต้องรบชนะเหมาเหวินหลงและไปเคอเอ่อร๋ชิ่นทันแน่ หลังชนะศึกครั้งนี้แล้วตนจึงจะคู่ควรเป็นเขยของเผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่น "ฟ่านเหวินเฉิง" (ขุนนาง/บัณฑิต เสนาฯ และราชเลขา  เป็นชาวฮั่นคนเดียวในราชสำนักต้าจิน) รู้ว่าตัวเอ่อร์กุ่นกับตัวตั๋วต้องเจอหนักทั้งศึกนอกศึกในจึงเตือนตัวเอ่อร์กุ่นว่าอย่าประมาท ทั้งยังแนะให้ระวังและอย่าไว้ใจอาหมิ่น แต่ตัวเอ่อร์กุ่นมั่นใจว่าพวกตนจะรบชนะโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาหมิ่นแน่นอน

เจ๋อเจ๋อรู้สึกผิดต่อหวงไท่จี๋และเผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่นที่จนป่านนี้ยังไม่มีบุตรธิดา (เธอแต่งงานทางการเมืองกับหวงไท่จี๋เช่นเดียวกับชายาชาวมงโกลอีกสงคน แต่หวงไท่จี๋ให้เธอเป็นอัครชายาและเมตตาเธอกว่าใคร) หวงไท่จี๋แย้งว่าตนมี "หาวเก๋อ" (บุตร) กับ "หม่านอวี้" (ธิดา) แล้ว (ทั้งคู่ล้วนเกิดจากมารดาชาวแมนจู) แต่เจ๋อเจ๋ออยากให้หวงไท่จี๋มีทายาทที่เป็นสายเลือดมองโกลเผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่นเพื่อที่เผ่าของตนจะได้อยู่รอดปลอดภัย หวงไท่จี๋เลยถือโอกาสตามเจ๋อเจ๋อไปยังเคอเอ่อร๋ชิ่น ครั้นรู้ว่าตัวเอ่อร์กุ่นชอบพอกับหญิงในดวงใจอย่างอวี้เอ๋อร์ "อ๋เจ๋อ" บุตรชายข่านเผ่าฉาฮาเอ่อร์ (หนึ่งในชนเผ่ามองโกล เป็นพันธมิตรกับต้าหมิง) จึงคิดที่ไปร่วมประเพณีแข่งขันขี่ม้าที่เผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่น หมายแย่งชิงอวี้เอ๋อร์มาเป็นของตนและเชื่อมความสัมพันธ์กับเผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่น

ขณะเดินทางไปยังเผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่น หวงไท่จี๋เห็นทุ่งหญ้าแล้วเกิดอยากล่าสัตว์จึงให้เจ๋อเจ๋อเดินทางล่วงหน้าไปก่อน และนั่นก็ทำให้เขาได้พบกับ "ไห่หลานจู" (น้งสาวต่างมารดาขอวี้เอ๋อร์) ที่คิดฆ่าตัวตายหลังถูก "อู๋อวิ๋นน่า" (มารดาอวี้เอ๋อร์) พูดจาดูถูกเหยียดหยามและขับไล่ออกจากเผ่าหลังไปขพึ่งพา ครั้นเห็นไห่หลานจูยืนร่ำไห้ริมแม่น้ำพลางกล่าวว่าจะขอตายตามมารดา หวงไท่จี๋จึงสั่งให้ "หลงเก๋" (องครักษ์) รีบเข้าไปห้ามแต่เธอกระโดดลงไปในแม่น้ำเสียก่อน หลงเก๋อจึงช่วยนำตัวเธอขึ้นมาบนฝั่ง ถึงกระนั้นเธอก็พยายามดิ้นรนพลางขอร้องให้หลงเก๋อปล่อยตัวเธอก่อนวิ่งหนีไป หวงไท่จี๋และหลงเก๋อได้แต่มองตามด้วยความสงสาร (ทั้งคู่ต่างมีใจให้ไห่หลานจู) หวงไท่จี๋เห็นเครื่องประดับเงินของไห่หลานจูตกอยู่บนพื้นจึงหยิบขึ้นมาดู




ครั้นทราบวัตถุประสงค์ของเจ๋อเจ๋อผู้เป็นลูกสาว หม่างกู่ซือ (ผู้นำมงโกลเผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่น - ตำแหน่งเป้ยเล่อ) จึงมอบหมายให้อู๋อวิ๋นน่าช่วยหาหญิงงาม อู๋อวิ๋นน่าจึงคิดแนะนำหลานสาวที่ชื่อ "น่าเหริน" ให้หวงไท่จี๋ ขณะจัดงานเลี้ยงรับรองหวงไท่จี๋ "อู๋เค่อซ่าน" (พี่ชายอวี้เอ๋อร์) พูดถึงเรื่องที่เผ่าของตนกำลังจะจัดแข่งขันขี่ม้าและถือโอกาสหาคู่ให้อวี้เอ๋อร์ หม่างกู่ซือจึงเชิญหวงไท่จี๋ร่วมชมงานด้วย (เจ๋อเจ๋อแอบเปรยกับหวงไท่จี๋อย่างเป็นกังวลว่าตัวเอ่อร์กุ่นจะมาทันไหม)   อู๋เค่อซ่านเชื่อว่าจะมีหนุ่มๆ มาร่วมงานมากมายเพราะอวี้เอ๋อร์เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งในดินแดนแมนจูเรีย ดีไม่ดีเหล่าองค์ชายราชวงศ์หมิงอาจมาร่วมงานด้วย เพราะลามะ (พระภิกษุชาวทิเบต) ท่านหนึ่งเคยทำนายว่าในอนาคตอวี้เอ๋อร์จะได้เป็นฮองเฮา (นั่นหมายความว่าคู่ครงขงเธอจะได้เป็นถึง "ฮ่องเต้") หวงไท่จี๋ได้ยินดังนั้นก็หูผึ่งและจ้องมองอวี้เอ๋อร์ด้วยสีหน้าครุ่นคิด (ณ ตอนนี้หวงไท่จี๋ยังมีสถานะเป็น "ข่าน" ขต้าจิน

หลังรู้ว่าหวงไท่จี๋ชอบหญิงสาวที่เป็นเจ้าของเครื่องประดับเงิน เจ๋อเจ๋อจึงอาสาช่วยตามสืบว่าใครเป็นเจ้าของ เธอนำเครื่องประดับดังกล่าวไปสอบถามอู๋อวิ๋นน่าโดยบอกว่าเป็นของหญิงที่หวงไท่จี๋ถูกใจ อู๋อวิ๋นน่าจำได้ทันทีว่าเป็นของไห่หลานจู แต่เธอไม่อยากให้ไห่หลานจูได้ดีเกินหน้าเกินตาเลยโกหกว่าไม่เคยเห็นเครื่องประดับเงินชิ้นนี้มาก่อนและไม่ใช่ของคนในเผ่า อูอวิ๋นน่าพาน่าเหรินมาให้หวงไท่จี๋ดูตัว แต่น่าเหรินออกตัวแรงเกินไปทำให้หวงไท่จี๋ไม่ปลื้ม

หลังรู้ว่าตัวเอ่อร์กุ่นไปทำศึกที่เหลียวตง อวี้เอ๋อร์จึงทั้งเป็นห่วงและเป็นกังวลว่าเขาอาจมาไม่ทัน  ในตอนนั้นตัวเอ่อร์กุ่นให้ตัวตั๋วไปสำรวจความเคลื่อนไหวของศัตรู เมื่อตัวตั๋วมารายงานว่าเหมาเหวินหลงถอยทัพกลับไปทางทิศตะวันตกของป้อมซีผิงแล้ว ตัวเอ่อร์กุ่นจึงเตรียมถอนทัพกลับเมืองหลวง ตัวตั๋วเตือนว่าวันรุ่งขึ้นตัวเอ่อร์กุ่นต้องไปแข่งม้าที่เคอเอ่อร๋ชิ่น แต่ตัวเอ่อร์กุ่นมั่นใจว่าตนไปทันแน่จึงอยากนำทัพกลับเมืองหลวงก่อน นึกไม่ถึงว่าระหว่างเดินทางกลับ ทัพต้าหมิงได้ดักซุ่มโจมตีและยิงปืนใหญ่ใส่ทัพธงขาวของตัวเอ่อร์กุ่น (ตัวเอ่อร์กุ่นตกหลุมพรางของต้าหมิง) ตัวเอ่อร์กุ่นจึงสั่งให้ตัวตั๋วส่งสัญญาณขอกำลังเสริมจากอาหมิ่น แต่อาหมิ่นห้ามไม่ให้คนของตนออกไปช่วยเพราะรอวันนี้มานาน ครั้นเห็นว่าพวกตนสู้ไม่ไหวแน่ตัวเอ่อร์กุ่นจึงบีบให้ตัวตั๋วรีบพาทหารฝ่าออกไปก่อน โดยบอกว่าตนจะช่วยต้านทานเอาไว้ให้ เมื่อตัวตั๋วหันกลับไปมองก็พบว่าตัวเอ่อร์กุ่นอยู่ในดงระเบิดของกระสุนปืนใหญ่




ครั้นเห็นว่าตัวเอ่อร์กุ่นไม่มาแน่ ซ้ำยังยกเลิกการแข่งขันไม่ได้ อวี้เอ๋อร์จึงลงแข่งขี่ม้าในรอบสุดท้ายกับเหล่าชายหนุ่มตามคำแนะนำของสาวใช้ "ซูม่อเอ๋อร์" เพราะถ้าหากเธอเป็นฝ่ายชนะก็ไม่ต้องแต่งงานกับใคร ขณะที่อวี้เอ๋อร์ควบม้าแซงคนอื่นๆ จนเป็นฝ่ายนำ  หวงไท่จี๋นึกถึงคำทำนายของลามะและความสัมพันธ์ของอวี้เอ๋อร์กับตัวเอ่อร์กุ่น จึงควบม้าลงสนามท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน จากนั้นก็ไล่แซงจนเป็นฝ่ายชนะ ในที่สุดอวี้เอ๋อร์ก็กลายเป็นว่าที่เจ้าสาวของหวงไท่จี๋ อวี้เอ๋อร์ทั้งเสียใจและผิดหวังที่เรื่องราวลงเอยเช่นนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เธอถึงกับช็อคก็คือข่าวการตายของตัวเอ่อร์กุ่น ถึงกระนั้นสิ่งที่ทำให้ช็อคยิ่งกว่าคือการที่ตัวเอ่อร์กุ่นกลับมาในวันอภิเษกของหวงไท่จี๋กับอวี้เอ๋อร์

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร สุดท้ายแล้วอวี้เอ๋อร์และตัวเอ่อร์กุ่นจะได้ครองรักกันหรือไม่ ติดตามชมได้ใน "นางพญาบัลลังก์มังกร" (The Legend of Xiao Zhuang) ทางช่อง 3 แฟมิลี่

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่





รายชื่อนักแสดง

 

จิ่งเถียน
รับบท ต้าวี้เอ๋อร์ (จักรพรรดินีเสี้ยวจวงเหวิน)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เกิ่งเล่
รับบท ตัวเอ่อร์กุ่น (เหอซั่วรุ่ยชินหวัง หรือ อ๋องรุ่ย)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

 เนี่ยหย่วน
รับบท หวงไท่จี๋
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เจี่ยงหลินจิ้ง
รับบท เจ๋อเจ๋อ (จักรพรรดินีเซี่ยวตวนเหวิน)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เหอฮัว
รับบท ไห่หลานจู
(นักแสดง ชาวจีน)


 

อู๋ย่าง
รับบท เสี่ยวอวี้เอ๋อร์
(นักแสดง / ผู้ดำเนินรายการ ชาวจีน)


 

ฮุ่ยอิงหง
รับบท าปาไฮ่
(นักแสดง ชาวฮ่องกง)


 

สวีเส้าหาง
รับบท หลงเก๋
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เฉินวี้เฉิน
รับบท ตัวตั๋ว
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)


 

ว่านเพ่ยซิน
รับบท หาวเก๋
(นักแสดง / นักร้ง ชาวจีน)


 

เกาจีไฉ
รับบท  ฝูหลิน (จักรพรรดิชุ่นจื้อ)
(นักแสดง ชาวจีน)


 

เสิ่นอิ
รับบท น่ามู่จง
(นักแสดง ชาวจีน)


 

หลิวเสวียอี้
รับบท เอ๋เจ๋
(นักแสดง ชาวจีน)



อวี๋หรงกวง
รับบท หนูเอ่อร์ฮาชื่อ
 (นักแสดง / ผู้กำกับ / โปรดิวเซอร์ ชาวจีน)




คลิปตัวอย่างจาก sina




คลิปตัวอย่างจาก  緯來育樂台


*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา