กำกับ: โหยวเสี่ยวกัง, สวี่หย่งชาง
เขียนบท: หลินลู่, หลี่เจิ้งหู่, โหยวเสี่ยวกัง, จ้าวเฉิง, ต่งฟางหยวน
แนวละคร: ต่อต้านการก่อการร้าย
จำนวนตอน: 49
ออกอากาศ: จีน - 14 กรกฎาคม 2560 ทางเจียงซูทีวี
ไทย - ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 01.00-02.00 น. ทางอมรินทร์ทีวี (หมายเลข 34) ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2562 - 7 กันยายน 2562
"ทีมระห่ำ พิฆาตทรชน 2" (Anti-terrorism Special Forces II) เป็นละครที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 90 ปีของการก่อตั้งกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA) เนื้อหากล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ของ "หน่วยปฏิบัติการพิเศษต่อต้านการก่อการร้าย" ซึ่งเป็น "กองกำลังกึ่งทหาร" (ตำรวจ) สังกัดกองกำลังตำรวจเเห่งประชาชนจีน (Chinese People's Armed Police Force) เนื้อหาในละครมีความเข้มข้น ดุเดือด และลุ้นระทึกกว่าภาคแรก (แต่ไม่มีความเกี่ยวเนื่องกัน นักแสดงหน้าเดิมสวมบทบาทใหม่) ทั้งยังจัดหนักทั้งเรื่องการต่อสู้และอาวุธยุทโธปกรณ์ แถมทุกปฏิบัติการในละครยังมีความสมจริงเพราะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมเป็นที่ปรึกษา ตรวจสอบ และร่วมผลิต นอกจากนี้ เหล่านักแสดงยังต้องเข้ารับการฝึกทางทหารทั้งก่อนและระหว่างการถ่ายทำอีกด้วย
ละคร "ทีมระห่ำ พิฆาตทรชน 2" ใช้งบประมาณในการผลิตราว 120 ล้านหยวน (กว่า 552 ล้านบาท) ใช้กล้อง 6k ในการถ่ายทำ อาวุธยุทโธปกรณ์ที่นำมาประกอบฉากเป็นของจริงทั้งหมด โดยได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังตำรวจเเห่งประชาชนจีนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ไจโรคอปเตอร์ 5 ลำ, รถสะเทิ้นน้้ำสะเทิ้นบก 2 คัน, ยานเกราะ รถบังคับการ และยานรบอีกนับร้อย (ทั้งยังส่งกำลังพลมาร่วมเข้าฉากด้วย) นอกจากนี้ยังมีปืนชนิดต่างๆ (ยิงสนั่นทั้งสิ้นราว 30,000 นัด) ตลอดจนมีดพก และชุดคอมแบทพิเศษกันไฟแบบใหม่ "ลายเสือ" ที่พัฒนาโดยกองกำลังตำรวจเเห่งประชาชนจีน ซึ่งมีความทนทานสูง ทนไฟ กันน้ำ และสามารถอำพรางอินฟาเรดได้ เป็นต้น
ละครเรื่องนี้เน้นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการต่อต้านการก่อการร้ายระดับสากลของจีน เรื่องราวจะทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ โดยเผยให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและทักษะขั้นเทพในด้านต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ ตลอดจนยุทธวิธีในการต่อกรกับคนร้ายทั้งในระดับประเทศ และผู้ก่อการร้ายที่เป็นองค์กรข้ามชาติ ซึ่งในภาคนี้ทีมปฏิบัติการพิเศษฯ ต้องรับมือภัยคุกคามจากอาวุธชีวเคมี
ละคร "ทีมระห่ำ พิฆาตทรชน 2" กล่าวถึงเรื่องราวของเหล่าฮีโร่ผู้เก่งกาจ อาจหาญ และเสียสละ ประจำหน่วยปฏิบัติการพิเศษต่อต้านการก่อการร้าย เนื้อหาเน้นกล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ของทีมเฉพาะกิจ "เลี่ยอิ่ง" (Shadow Hunters) ซึ่งเป็นทีมลับที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่เกิดจากองค์กรก่อการร้ายข้ามชาติ เหล่าสมาชิกล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ๆ มีความสามารถขั้นเทพในด้านต่างๆ นำทีมโดย "จงหยวน"
หลังวิสามัญฆาตกรรมผู้นำอันดับสองขององค์กรค้ายาเสพติดระหว่างชายแดน "เหมิงหม่า" (แมมมอธ) จงหยวนก็ถูกหัวหน้าองค์กรดังกล่าวตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เริ่มตั้งแต่การสังหารลูกชายตัวน้อยและลักพาตัว "จ้าวซิน" ภรรยาของเขาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชีวเคมี แม้จะเป็นการตอบโต้ที่โหดเหี้ยมและรุนแรง แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแผนร้ายที่มี "ตัวการใหญ่" ชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งตัวการที่ว่านี้ต้องการใช้เครือข่ายองค์กรค้ายาเสพติดเหมิงหม่าเป็นเครื่องมือในการก่อการร้ายและแพร่กระจายไวรัสในประเทศจีน ขณะนำกำลังกวาดล้างและสังหารผู้นำองค์กรเหมิงหม่าบนพรมแดนประเทศ "F" (ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งประสานความร่วมมือกัน) จงหยวนถูกคนร้ายจับไปทรมานและฉีดไวรัสเข้าสู่ร่างกาย แต่นั่นก็ทำให้เขาได้พบกับ "หลิวฮ่าว" ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษฯ ที่หายตัวไปเมื่อ 5 ปีก่อน (หลิวฮ่าวเป็นสายลับที่เข้ามาแฝงตัวในองค์กรเหมิงหม่า)
"เจียงหาน" (สมาชิกระดับสูงขององค์กรก่อการร้ายข้ามชาติ) เพื่อนสมัยเรียนและรักแรกของจ้าวซินซึ่งปัจจุบันเป็นประธานบริษัท ดีเค ไบโอโลจิคอล เทคโนโลยี พยายามชวนจ้าวซินกับพ่อให้มาร่วมงานที่บริษัทของตน โดยอ้างว่าบริษัทกำลังศึกษาวิจัย "แบคทีเรียที่มีประโยชน์" (ชื่อ "Z9") ภายใต้โครงการ "ซินจี้หยวน" (New Era) ครั้นรู้ว่าบริษัท ดีเค มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย (บริษัทยาข้ามชาติ MVC) ผอ.ฉางจึงมอบหมายภารกิจในการเป็นสายลับที่บริษัท ดีเค ให้จ้าวซิน หลังส่งจ้าวซินเข้าถ้ำเสือ หน่วยปฏิบัติการพิเศษฯ ก็ได้พบความจริงอันน่าสะพรึงที่อยู่เบื้องหลังโครงการดังกล่าว
เนื้อหาตอนที่หนึ่ง
ละครเปิดฉากขึ้นกลางป่าบนพรมแดนประเทศ "F"... "ปาเมี่ยนโฝ" ผู้นำองค์กรค้ายาเสพติด "เหมิงหม่า" (แมมมอธ) นำดอกไม้มาเยี่ยมหลุมศพลูกชายคนโต "ซาคาร์โด" (โดยมีกองกำลังติดอาวุธคอยคุ้มกัน) ลูกชายของเขาถูกหน่วยปฏิบัติการพิเศษฯ นำทีมโดย "จงหยวน" วิสามัญฆาตกรรมในป่าแห่งนี้เมื่อหนึ่งปีก่อน และเนื่องจากวันนี้เป็นวันครบรอบการตาย 1 ปี ปาเมี่ยนโฝจึงลั่นวาจาจะปิดบัญชีแค้นให้ลูกชาย
อีกด้านหนึ่งบนพรมแดนประเทศจีน "จ้าวซิน" นำตุ๊กตาอุลตร้าแมนมาเยี่ยมหลุมศพลูกชายตัวน้อยนามว่า "เผิงเผิง" ซึ่งเสียชีวิตต่อหน้าเธอและสามี (จงหยวน) เมื่อแปดเดือนก่อนเพราะถูกคนขององค์กรเหมิงหม่าสังหาร แม้เวลาจะผ่านไปนานหลายเดือนแต่จ้าวซินยังทำใจไม่ได้ที่ลูกชายวัย 6 ขวบต้องจากไปตลอดกาล และการที่เห็นลูกโดนฆ่าตายต่อหน้าต่อตาก็กลายเป็นความทรงจำอันแสนเจ็บปวดที่ยากจะลืมเลือน หลังจากนั้นไม่นาน "จ้าวเจี้ยนผิง" พ่อของจ้าวซินก็นำอุลตร้าแมนตัวใหญ่มาเยี่ยมหลุมศพหลานด้วยเช่นกัน (ทั้งคู่ไม่รู้ว่ามีคนร้ายแอบซุ่มดูอยู่) เมื่อพ่อทวงถามถึงสิ่งที่เคยขอเอาไว้ จ้าวซินก็เปรยว่าจงหยวนคงไม่เห็นด้วย พ่อจ้าวซินแย้งว่าตนไม่อาจทนสูญเสียใครได้อีกแล้ว ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นจ้าวซินหรือจงหยวนก็ตาม จ้าวซินไม่อาจทำตามคำขอจึงตัดบทด้วยการชวนพ่อกลับ แต่พ่อบอกให้เธอกลับไปก่อนเพราะอยากอยู่กับหลานต่ออีกสักพัก
ขณะขับรถจ้าวซินพบว่ามีคนไล่ตามเธอมาแบบกระชั้นชิดจึงโทรฯ หาจงหยวนซึ่งกำลังซ้อมยิงปืน ในตอนแรกจงหยวนไม่ได้ยินจึงไม่ได้รับสาย จ้าวซินจึงพยายามขับรถหลบหลีกคนร้ายก่อนโทรฯ หาจงหยวนอีกครั้งอย่างใจเย็น ครั้นจงหยวนรับสายเธอก็บอกเขาว่าตนกำลังถูกคนติดตาม ก่อนแจ้งรายละเอียดรถและคนร้าย รวมทั้งพิกัดให้จงหยวนทราบ จงหยวนจึงตรวจสอบแผนที่ก่อนแนะนำเส้นทางตลอดจนวิธีการหลบหนีอย่างละเอียดด้วยน้ำเสียงและท่าทีสงบนิ่ง จากนั้นก็แจ้งจุดนัดพบ ในตอนนั้นจงหยวนไม่มีกระสุนจริงติดตัวเลย คงมีเพียงกระสุนที่พกติดกระเป๋าเป็นประจำเพียงนัดเดียว เขาจึงบรรจุกระสุนดังกล่าวในรังเพลิงแล้วรีบออกไปหาจ้าวซินทันที จ้าวซินซึ่งขับรถอย่างคล่องแคล่วทำตามคำแนะนำของจงหยวนโดยไม่ตื่นตระหนก ในตอนแรกเธอขับรถหลบหลีกคนร้ายลงไปในลานจอดรถใต้ดินได้สำเร็จ แต่คนร้ายกลับรู้ทันจึงดักรอบริเวณด้านนอกแล้วใช้กำลังลักพาตัวเธอไป
จงหยวนได้ยินเสียงเหตุการณ์ผ่านทางโทรศัพท์จึงรีบตามไปยังจุดเกิดเหตุทันที ระหว่างทางจงหยวนโทรฯ แจ้งเหตุ "เฉียวต้าเผิง" ก่อนสั่งให้รายงานศูนย์บัญชาการแล้วรีบตามมาสมทบตน จากนั้นก็โทรฯ หา "ม่ายเหมิงเหมิง" เพื่อขอให้เธอช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนเส้นทางที่จ้าวซินถูกลักพาตัว ในเวลาเดียวกันนั้นคนร้ายได้ส่งภาพจ้าวซินขณะถูกจับไปให้พ่อของเธอทางโทรศัพท์ พ่อจ้าวซินเห็นภาพดังกล่าวแล้วถึงกับล้มตึง
ณ ศูนย์บัญชาการในเมืองจู้หนิง (ชื่อเมืองถูกสมมุติขึ้นแต่ถ่ายทำในมณฑลเหอหนาน) ผู้บัญชาการ "ฉางเจี้ยนอัน" กล่าวกับเสนาธิการ "ลู่ฉางเฟิง" ว่า กลุ่มก่อการร้ายซึ่งใช้บริษัทเวชภัณฑ์ข้ามชาติ "MVC" บังหน้า กำลังจะส่งวายร้ายที่มีชื่อรหัสว่า "จิงเหลย" (ฟ้าลั่น) มาก่อการร้ายที่ประเทศจีน ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากลกำลังตามแกะรอยจิงเหลย (ฟ้าลั่น) แต่จนป่านนี้ยังไร้ซึ่งเบาะแส เสธ.ลู่รายงานว่าตนได้คัดเลือกสมาชิกที่จะมาอยู่ในทีมปฏิบัติการพิเศษฯ "เลี่ยอิ่ง" (Shadow Hunters) ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่แล้ว ผบ.ฉางกำชับว่าทีมเลี่ยอิ่งต้องตามไล่ล่าคนร้ายเสมือนเป็นเงาและปฏิบัติการแบบไร้ตัวตน จึงต้องสงวนรายชื่อสมาชิกในทีมไว้เป็นความลับ ภารกิจของพวกเขาคือการกวาดล้างกลุ่มปาเมี่ยนโฝ แกะรอยจิงเหลย (ฟ้าลั่น) และทำลายแผนก่อการร้ายของ MVC
ผบ.ฉางเห็นว่าการลักพาตัวในครั้งนี้คนร้ายไม่เพียงหวังแก้แค้น แต่ยังต้องการให้สังคมตื่นตระหนกซึ่งไม่ใช่สไตล์การก่อเหตุของเจ้าพ่อยาเสพติดปาเมี่ยนโฝ เขาจึงสันนิษฐานว่าจะต้องมีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งคนๆ นั้นน่าจะเป็นจิงเหลย (ฟ้าลั่น) และ MVC เมื่อเหมิงเหมิงรายงานว่ารถคนร้ายคล้ายกำลังมุ่งหน้าออกนอกเมือง ผบ.ฉางจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่บนไจโรคอปเตอร์ตามสกัดคนร้าย จากนั้นให้เหมิงเหมิงตรวจสอบสภาพการจราจรโดยรอบก่อนแจ้งเส้นทางที่สะดวกและใกล้สุดแก่จงหยวน หลังได้รับคำแนะนำจากเหมิงเหมิง จงหยวนก็เปลี่ยนเส้นทางทันที ครั้นคนร้ายเห็นว่าตนถูกไจโรคอปเตอร์ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษฯ ติดตามจึงขับรถลอดอุโมงค์ใต้ดินตามแผน
เหมิงเหมิงแจ้งว่าถนนใต้ดินมีทางออกสองเส้นทาง ทางหนึ่งเชื่อมต่อชานเมืองด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ส่วนอีกทางมุ่งสู่ชายแดน ครั้นเห็นรถสีดำของคนร้ายบนถนนที่มุ่งสู่ชานเมือง เหมิงเหมิงจึงรายงานจงหยวนทันที แต่แล้วเธอกลับพบว่ามีรถอีกคันที่เหมือนกันกำลังมุ่งหน้าไปชายแดน (จงหยวนกับต้าเผิงซึ่งกำลังขับรถไปชานเมืองได้ยินดังนั้นจึงพากันเบรคหัวทิ่ม) ผบ.ฉางสั่งให้จงหยวนกับต้าเผิงแยกกันติดตามคนละเส้นทาง จงหยวนเชื่อว่าคนร้ายไม่คิดพาจ้าวซินข้ามพรมแดนจึงสร้างกระแสให้เป็นเรื่องใหญ่ (ซึ่งทำให้หนีออกนอกประเทศได้ยาก) และชี้ว่านี่ไม่ใช่วิธีการขององค์กรเหมิงหม่า (แมมมอธ) แม้จะเห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานของจงหยวน แต่ผบ.ฉางยังคงสั่งให้กระจายกำลังเป็นสองกลุ่มเพื่อลดความเสี่ยง จงหยวนจึงสั่งให้ต้าเผิงนำกำลังสกัดและติดตามรถคนร้ายบนเส้นทางสู่ชายแดน ส่วนตนจะตามรถอีกคันไปชานเมือง
ระหว่างรอสัญญาณภาพ (คนร้าย) จากดาวเทียม จงหยวนแจ้งพิกัดของตนแล้วขอให้เหมิงเหมิงตรวจสอบแผนที่ดาวเทียมว่ามีจุดใดในรัศมีสิบกิโลเมตรที่น่าสงสัยและเหมาะเป็นแหล่งกบดานบ้าง เหมิงเหมิงส่งพิกัดจีพีเอสให้จงหยวนพลางรายงานว่า เบื้องหน้ามีหมู่บ้านที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างกับโรงงานร้าง จงหยวนเห็นว่าหลังโรงงานร้างมีแม่น้ำและป่าทึบจึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะจับจ้าวซินไปไว้ที่นั่นซึ่งผบ.ฉางเองก็เห็นด้วย ในที่สุดรถคนร้ายที่มุ่งหน้าไปชายแดนก็ถูกหน่วยปฏิบัติการพิเศษฯ สกัดจนไปต่อไม่ได้ ครั้นเห็นภาพถ่ายความร้อนของรถคันดังกล่าว เหมิงเหมิงจึงแจ้งต้าเผิงว่าจ้าวซินไม่ได้อยู่ในรถและเตือนว่าคนร้ายเป็นชายสี่คน จากนั้นก็กล่าวกึ่งชมจงหยวนว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้ เพราะคนร้ายขับรถเข้าไปในโรงงานร้างจริงๆ หลังคนร้ายทั้งสี่ถูกวิสามัญฆาตกรรม ผบ.ฉางจึงสั่งให้ต้าเผิงตามไปสมทบจงหยวนที่โรงงานร้าง
ในตอนนั้นจงหยวนอยู่ในป่าใกล้โรงงานร้างตามลำพัง เหมิงเหมิงยังยืนยันไม่ได้ว่าจ้าวซินอยู่ในโรงงานหรือไม่และอยู่ตรงจุดใด แต่เธอยืนยันได้ว่าด้านนอกโรงงานมีคนร้ายทั้งหมด 15 คน แต่ละคนมีอาวุธสงครามครบมือ เธอเป็นห่วงความปลอดภัยจงหยวนจึงถามว่าเขาพกอาวุธอะไรติดตัวมาบ้าง พอรู้ว่าจงหยวนมีเพียงปืนพก 92 หนึ่งกระบอกกับกระสุนหนึ่งนัด (ไม่นับรวมมีดพก) เหมิงเหมิงก็รู้สึกตกใจ ผบ.ฉางบอกให้จงหยวนรอกองกำลังชุดใหญ่ก่อน แต่จงหยวนรอไม่ไหวเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของจ้าวซิน เขาจึงขอให้เหมิงเหมิงช่วยแจ้งพิกัดคนร้ายและแนะนำทางเข้าโรงงาน จากนั้นก็ค่อยๆ ย่องไปสังหารคนร้ายทีละคน
คนร้ายคุมตัวจ้าวซินมานั่งหน้ากล้องวิดีโอ พลางข่มขู่และบีบให้เธออ่านข้อความที่เขียนไว้บนกระดาษ แต่จ้าวซินไม่ยอมอ่านซ้ำยังถ่มน้ำลายใส่คนร้าย คนร้ายจึงใช้เทปปิดปากจ้าวซินไว้ก่อนเดินไปชูกระดาษหน้ากล้องพลางประกาศว่านี่คือการเอาคืนขององค์กรเหมิงหม่า หนึ่งในคนร้ายสงสัยว่าทำไมต้องถ่ายวิดีโอให้ยุ่งยากเสียเวลา และจะเผยแพร่วินาทีสังหารให้โลกรู้เพื่ออะไร เขากลัวถูกหน่วยปฏิบัติการพิเศษฯ ตามมาเด็ดหัว เลยอยากฆ่าจ้าวซินให้สิ้นเรื่องสิ้นราวแล้วรีบกลับฐานที่ตั้ง (นอกพรมแดนจีน) ชายคนหนึ่งจึงโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมไปปรึกษาปาเมี่ยนโฝ แต่ปาเมี่ยนโฝยืนกรานให้ทำตามแผนจนสำเร็จลุล่วงก่อนแล้วค่อยกลับ ครั้นตรวจพบสัญญาณโทรศัพท์ในโรงงานร้าง ผบ.ฉางจึงสั่งให้บล็อกสัญญาณ หลังกองกำลังของหน่วยปฏิบัติการพิเศษฯ ไปถึงและตรึงกำลังรอบโรงงานร้างแล้ว เสธ.ลู่จึงสอบถามสถานการณ์ของจงหยวน จงหยวนรายงานว่าตนอยู่ไม่ไกลจากตัวโรงงาน จากนั้นก็ขอตำแหน่งที่แน่ชัดของจ้าวซิน เหมิงเหมิงส่งภาพภายในโรงงานให้จงหยวน และแจ้งว่าหน่วยปฏิบัติการพิเศษฯ ปิดล้อมพื้นที่โดยรอบโรงงานไว้แล้ว จงหยวนเกรงว่าจ้าวซินจะเป็นอันตรายจึงขอให้ทุกคนรอจนกว่าตนจะเข้าไปช่วยจ้าวซินทางด้านใน
ชายปริศนาจาก MVC ที่ใช้ชื่อรหัสว่าจิงเหลย (ฟ้าลั่น) โทร.บอกปาเมี่ยนโฝให้ถอนคำสั่งฆ่าจ้าวซิน ปาเมี่ยนโฝได้ยินดังนั้นก็รู้สึกไม่พอใจเพราะเขาเฝ้ารอวันนี้มานาน จิงเหลยเตือนว่าสมุนของเขากำลังถูกจับตาดูอยู่ แถมตอนนี้หน่วยปฏิบัติการพิเศษฯ ไปที่โรงงานร้างแล้ว ครั้นจิงเหลยแนะให้เก็บจ้าวซินเอาไว้ก่อนแล้วรอจับปลาตัวใหญ่ (จงหยวน) ปาเมี่ยนโฝจึงแย้งด้วยความไม่พอใจว่าหากไม่รีบลงมือตามแผนก็เท่ากับเปลืองแรงเปล่าและอาจถอนกำลังไม่ทัน จิงเหลยฟันธงว่าถึงยังไงคนของปาเมี่ยนโฝก็ไม่มีทางรอดจากที่นั่น และชี้ว่าจะทำงานใหญ่ต้องกล้าได้กล้าเสีย หากปาเมี่ยนโฝอยากจับมือกับตนต่อไปก็ต้องเชื่อฟังกัน
จงหยวนบุกเดี่ยวเข้าไปในอาคารโรงงานร้างและถูกคนร้ายจับกุมตัวพร้อมปลดอาวุธปืน หลังจงหยวนเข้าไปแล้วต้าเผิงจึงเริ่มบุกประชิดโรงงาน ครั้นจับจงหยวนได้เหล่าคนร้ายจึงเริ่มไลฟ์สด จงหยวนเดินยิ้มไปหาจ้าวซินจากนั้นก็ปลอบโยนและบอกให้เธอวางใจว่าต้องปลอดภัยแน่ จ้าวซินเชื่อมั่นในตัวจงหยวนจึงพยักหน้าทั้งน้ำตา เมื่อคนร้ายสั่งให้ทั้งคู่บอกลากันก่อนตาย จงหยวนจึงบอกแผนการว่าตนจะจัดการกับคนร้ายเหล่านี้ยังไงและคนร้ายจะตอบโต้ด้วยวิธีไหน โดยเล่าให้จ้าวซินฟังเป็นฉากๆ ต่อหน้าคนร้ายที่มีอาวุธครบมือ พร้อมทั้งนัดแนะว่าเธอต้องหลบด้านไหนจึงจะปลอดภัย หนึ่งในคนร้ายได้ยินดังนั้นจึงชี้ปลายมีดไปที่จงหยวนพลางโวยลั่นว่าพวกตนไม่ได้กำลังถ่ายหนัง จงหยวนสบโอกาสแย่งมีดจากมือชายคนดังกล่าว จากนั้นก็เริ่มจัดการคนร้ายทันทีโดยมีมีดพก (และบาทา) เป็นอาวุธ หนึ่งในคนร้ายที่ยังเหลือรอดเล็งปืนใส่จงหยวน แต่จงหยวนกลับเดินเข้าหาอย่างไม่เกรงกลัว ที่แท้ปืนดังกล่าวเป็นของจงหยวนเขาจึงรู้ว่าในรังเพลิงไม่มีกระสุน หลังจัดการคนร้ายและยึดปืนพกคืนมาได้แล้วจงหยวนจึงปลดแม็กฯ และบรรจุกระสุนที่มีติดตัวเพียงหนึ่งนัด จากนั้นก็ยิงใส่คนร้ายคนสุดท้ายที่อยู่ในโรงงานทันที
จงหยวนแก้มัดให้จ้าวซินพลางปลอบโยนเธอ หนึ่งในคนร้ายบังเอิญฟื้นคืนสติจึงคิดลงมือสังหารขณะที่ทั้งคู่กำลังสวมกอดกัน โชคดีที่ต้าเผิงบุกมาช่วยทันเวลา ในตอนนั้นคนร้ายกลุ่มใหญ่ได้กรูเข้ามาสมทบในโรงงานร้างพร้อมอาวุธสงคราม ต้าเผิงจึงบอกให้ทั้งคู่รีบหาที่หลบซ่อนพลางช่วยยิงสกัด หลังพาจ้าวซินไปหลบในที่ปลอดภัยแล้วจงหยวนจึงมอบปืนที่ไม่มีกระสุนของตนให้จ้าวซิน (ไว้ใช้ตบตาคนร้าย) จากนั้นก็ออกไปช่วยต้าเผิงต่อสู้กับคนร้าย ต้าเผิงโยนปืนไรเฟิล (Type 95 Automatic) ของตนให้จงหยวนแล้วใช้ปืนพกยิงสู้กับคนร้ายแทน หลังกระสุนหมดจงหยวนจึงฝ่าดงกระสุนไปหยิบปืนยาวสองกระบอกของคนร้ายที่ตกอยู่บนพื้นก่อนโยนให้ต้าเผิงหนึ่งกระบอก จากนั้นก็ช่วยกันยิงต่อสู้กับคนร้าย ครั้นคนร้ายขว้างระเบิดมือใส่ทั้งคู่จึงรีบกระโดดหนีและหาที่กำบัง
หนึ่งในคนร้ายถือปืนเดินไปหาจ้าวซินซึ่งหลบอยู่หลังรถเข็นที่ทำจากเหล็ก โชคดีที่จงหยวนหันไปเห็นเข้าจึงช่วยเธอไว้ได้ทัน เขาเห็นว่าในนี้ไม่ปลอดภัยจึงสั่งให้ต้าเผิงพาจ้าวซินหนีออกไปก่อน จากนั้นก็บอกจ้าวซินว่าตนไม่ได้กำลังบอกลา แต่ถ้าจ้าวซินไปอยู่ในที่ปลอดภัยตนก็จะปลอดภัยเช่นกัน (ไม่ต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลัง) เมื่อต้าเผิงพาจ้าวซินออกไปแล้วจงหยวนจึงเปิดฉากปาระเบิดมือ (ของคนร้าย) พลางยิงปะทะ ก่อนล่อคนร้ายนับสิบไปอีกทางทันที หลังจากนั้นไม่นานกองกำลังหลักของหน่วยปฏิบัติการพิเศษฯ ก็บุกเข้าไปในอาคารโรงงานร้างและสังหารคนร้ายได้ทั้งหมด
ปาเมี่ยนโฝโกรธมากที่ทำตามคำแนะนำของจิงเหลย (ฟ้าลั่น) แล้วยิ่งคว้าน้ำเหลว เพราะนอกจากจะจับปลาใหญ่ไม่ได้แล้ว ยังทำให้เสียโอกาสแก้แค้น และต้องสูญเสียกำลังคนมากมาย จิงเหลยแย้งว่าคนของปาเมี่ยนโฝไม่ได้เรื่องเอง (เขาได้ดูไลฟ์สด) เขาชี้ว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้น และเตือนว่าตอนนี้ปาเมี่ยนโฝไม่ได้เป็นแค่เจ้าพ่อค้ายาฯ ระหว่างชายแดนอีกต่อไปแล้ว หลังปาเมี่ยนโฝทำงานไม่ได้ดั่งใจ จิงเหลยจึงโทรฯ หา "ปาหมัวเอ่อร์" (ลูกชายคนรองของปาเมี่ยนโฝ) โดยบอกให้เตรียมขึ้นเป็นผู้นำองค์กรแทนบิดา
หลังรู้ว่าบิดาถูกส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาลและมีอาการที่ไม่สู้ดีนัก จ้าวซินก็รีบไปเยี่ยมพร้อมจงหยวนทันที พ่อจ้าวซินทนอยู่อย่างอกสั่นขวัญแขวนต่อไปอีกไม่ไหวและเกรงว่าจะหัวใจวายตายเสียก่อน จึงอยากให้จงหยวนลาออกจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษฯ และให้จ้าวซินลาออกจากการเป็นนักวิจัยที่ห้องปฏิบัติการชีวเคมีของกองกำลังตำรวจเเห่งประชาชนจีน (ต้นสังกัดของหน่วยปฏิบัติการพิเศษฯ) หลังเยี่ยมพ่อแล้วทั้งคู่ก็หารือกัน แม้จะเข้าใจหัวอกพ่อตาและเห็นใจภรรยาแต่จงหยวนไม่อาจละทิ้งหน้าที่ ทั้งยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องสะสาง หลังเผลอพูดแทงใจจงหยวนจนเขาถึงขั้นน้ำตาคลอ (จงหยวนเป็นเหมือนคนเหล็กที่แข็งแกร่งแต่ใจอ่อน) จ้าวซินจึงรีบขอโทษเพราะรู้ว่าเขาเองก็ลำบากใจ ทันใดนั้น ต้าเผิงก็โทรฯ มาแจ้งว่าคนร้ายที่ถูกจับยอมเปิดปากบอกที่ตั้งรังของปาเมี่ยนโฝ ผบ.ฉางจึงสั่งให้จงหยวนรีบกลับมาที่ศูนย์บัญชาการ เมื่อจงหยวนเดินจากไปจ้าวซินก็ถึงกับน้ำตาร่วง
ณ จุดผ่านแดน "เถียนเค่อหนาน" ซึ่งประจำการอยู่ที่จุดตรวจและมีความจำเป็นเลิศ จำหนึ่งในคนร้ายที่อยู่ในขบวนการลักลอบขนยาเสพติดได้จึงตรงเข้าสกัดและจับกุม ครั้นคนร้ายหลบหนีและพยายามทำร้ายเธอด้วยอาวุธมีด เธอเลยจำต้องยิงสวน ปรากฏว่าสิ่งที่คนร้ายลักลอบขนข้ามแดนคราวนี้ไม่ใช่ยาเสพติด (สุนัขตำรวจตรวจไม่พบ) แต่เป็นสิ่งที่มีอันตรายร้ายแรงยิ่งกว่า หลัง "โจวหยาง" แพทย์ประจำแผนกนิติเวชยืนยันว่าคนร้ายที่ถูกเค่อหนานวิสามัญฆาตกรรมเป็นสมาชิกองค์กร "เหมิงหม่า" (แมมมอธ) ของปาเมี่ยนโฝ (เพราะมีรอยสักรูปช้าง) เค่อหนานจึงนำของกลางซึ่งมีลักษณะเป็นผงสีขาวไปให้เสธ.ลู่ดู และขออนุญาตนำไปให้ห้องปฏิบัติการตรวจสอบ เพราะแม้จะถูกลักลอบขนเข้าเมืองโดยสมุนของเจ้าพ่อค้ายาปาเมี่ยนโฝแต่เธอมั่นใจว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ยาเสพติด ถึงกระนั้นเธอก็อดเป็นกังวลไม่ได้เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญด้านชีวเคมีคือจ้าวซินซึ่งเพิ่งผ่านเหตุการณ์อันเลวร้ายมา เธอจึงไม่แน่ใจว่าควรไปหาจ้าวซินในเวลานี้หรือไม่ แม้จะเห็นใจจ้าวซินแต่เสธ.ลู่ชี้ว่าเรื่องนี้ไม่อาจแพร่งพรายให้ใครรู้ได้ พวกตนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพึ่งพาจ้าวซิน
ณ สนามบินในกรุงลอนดอน "เจียงหาน" ได้รับข้อความเตือนว่าตนกำลังถูกสะกดรอยตาม จึงลวงสองผู้ติดตามไปจัดการในห้องน้ำและพบว่าทั้งคู่เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับ (MI6) ของสหราชอาณาจักร
*** จบตอนที่หนึ่ง ***
* เนื้อหาโดย luvasianseries / ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่
หวงเหวยเต๋อ
รับบท จงหยวน
(นักแสดง / นักร้อง ชาวไต้หวัน)
โหมวซิง
รับบท จ้าวซิน
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)
เหอเฉิงหมิง
รับบท เจียงหาน
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)
หวังปาน
รับบท ลู่หาว / หลิวฮ่าว
(นักแสดง ชาวจีน)
ศตวรรษ เศรษฐกร (เต๊ะ)
รับบท ปาหมัวเอ่อร์
(นักแสดง ชาวไทย)
สือจ้าวฉี
รับบท ฉางเจี้ยนอัน
(นักแสดง ชาวจีน)
ซุนอี้หมิง
รับบท เถียนเค่อหนาน
(นักแสดง ชาวจีน)
เว่ยเฉินเลี่ยง
รับบท ม่ายเหมิงเหมิง
(นักแสดง ชาวจีน)
เยว่เผิงเฟย
รับบท เฉียวต้าเผิง
(นักแสดง ชาวจีน)
โจวถิงอี
รับบท ไห่เซ่อเวย
(นักแสดง ชาวจีน)
เฝิงเอินเฮ่อ
รับบท ปาเมี่ยนโฝ
(นักแสดง ชาวจีน)
หลินกั่ว
รับบท โจวหยาง
(นักแสดง ชาวจีน)
ปี้ถง
รับบท ฟางเหยี่ยน
(นักแสดง ชาวจีน)
ฉินเฉิน
รับบท จางฉือ
(นักแสดง ชาวจีน)
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา