กำกับ: โหยวเสี่ยวกัง
เขียนบท: หลี่เจิ้งหู่, ต่งฟางหยวน, หลัวเยว่, จางเฉิงกง, โหยวเสี่ยวกัง
แนวละคร: ต่อต้านการก่อการร้าย
จำนวนตอน: 40
ออกอากาศ: จีน - 4 พฤศจิกายน 2558 ทางดราก้อนทีวีและฉงชิ่งทีวี
ไทย - ทุกวันอาทิตย์ เวลา 15.00-16.00 น. ทางอมรินทร์ทีวี (หมายเลข 34) ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2561 - 17 มีนาคม 2562 (เปลี่ยนเวลาออกอากาศเป็นทุกวันเสาร์ เวลา 23.30 น. ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2561 / ภายหลังเปลี่ยนเวลาออกอากาศเป็นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 00.00 น. ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562)
เรื่องย่อ
ละคร "ทีมระห่ำ พิฆาตทรชน" (Anti-terrorism Special Forces) นำเสนอเรื่องราวการปฏิบัติหน้าที่ของเหล่าตำรวจประจำ "หน่วยปฏิบัติการพิเศษต่อต้านการก่อการร้าย" สังกัดกองกำลังตำรวจเเห่งประชาชนจีน (Chinese People's Armed Police Force) เนื้อหาในละครกล่าวถึงชีวิต หน้าที่ มิตรภาพ และความรัก ของทีมปฏิบัติการพิเศษ (SPECIAL POLICE GRP) ซึ่งล้วนยอมสละความสุขส่วนตัว พร้อมอุทิศชีวิตเพื่อปกป้องประเทศชาติและประชาชน
เนื้อหาในละครเริ่มต้นขึ้นเมื่อ "หยางช่าน" ลักลอบออกจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษกลางดึกโดยไม่คาดคิดว่าสิ่งที่ตนทำจะกลายเป็นเรื่องใหญ่และเป็นการผิดวินัยร้ายแรง ผู้บัญชาการ "ฉางเจี้ยนอัน" จึงมอบหมายให้ครูฝึก "น่าหมิ่น" นำกำลังพลไปตามจับตัวหยางช่านกลับมา ในตอนนั้นหยางช่านแวะไปที่อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ในละแวกใกล้เคียงเพื่อส่งอีเมล์แจ้งผบ.ฉาง หลังส่งอีเมล์ได้ไม่นาน เขาก็ถูกน่าหมิ่นจับกุมตัวมาคุมขัง ปรากฏว่านับตั้งแต่ก่อตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษเป็นต้นมา ยังไม่เคยมีใครหนีออกจากหน่วยโดยพลการ หยางช่านจึงเป็นคนแรกที่สร้างวีรกรรมดังกล่าว แต่เขาไม่ยอมรับข้อกล่าวหาและเถียงคอเป็นเอ็นว่าตนไม่ได้หนี (เพราะส่งเมล์แจ้งผบ.ฉางแล้ว)
หลังเกิดเรื่องดังกล่าว น่าหมิ่นจึงนำบุหรี่และสุราไปเยี่ยมหลุมศพของ "หลี่หย่วนเจิง" (อดีตหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ / พ่อบุญธรรมของหยางช่าน) ด้วยความรู้สึกผิด เธอกล่าวโทษตัวเองที่ฝึกคนๆ เดียวให้ดีไม่ได้ ทั้งยังทำสิ่งที่หย่วนเจิงสู้อุตส่าห์ฝากฝังไม่สำเร็จ เธอจะกรอกเหล้าที่เหลือใส่ปาก แต่หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ "ลู่ฉางเฟิง" (ซึ่งมากับผบ.ฉาง) ห้ามไว้เสียก่อน หัวหน้าลู่ทั้งโกรธและผิดหวังที่หยางช่านทำตัวเหลวไหลเป็นเหตุให้ทีมของพวกตนมีประวัติด่างพร้อย ส่วนผบ.ฉางได้แต่นึกสงสัยว่าหยางช่านเกินเยียวยาจริงๆ หรือ
หลังเกิดเหตุผู้ก่อการร้ายชิงรถบรรทุกที่ภายในมีอุปกรณ์ทางรังสีวิทยา (สารกัมมันตรังสี) ไปจากโรงพยาบาล หน่วยปฏิบัติการพิเศษจึงระดมสรรพกำลังออกไล่ล่าคนร้าย ผบ.ฉางคิดใช้โอกาสนี้สร้างแรงบันดาลใจและความเข้าใจในหน้าที่ให้หยางช่าน จึงนำตัวเขาออกจากห้องคุมขังแล้วให้มาเป็นผู้สังเกตการณ์ในรถที่ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการเคลื่อนที่ เขาจึงได้ยินผบ.ฉางสั่งการและได้เห็นปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายผ่านทางหน้าจอมอนิเตอร์ หลังคนร้ายไม่ยอมจำนน น่าหมิ่นกับ "จ้าวเสี่ยวโป" ซึ่งรับหน้าที่เป็นพลซุ่มยิง จึงเด็ดหัวสองคนร้ายพร้อมกันอย่างแม่นยำ หัวหน้าลู่เห็นดังนั้นก็โล่งใจ แต่สุดท้ายกลับพบว่ายังมีผู้ก่อการร้ายอีกหนึ่งคนที่เบาะหลัง แถมเขายังกดระเบิดเวลาหมายก่อเหตุระเบิดพลีชีพเพื่อให้สารกัมมันตรังสีรั่วไหล น่าหมิ่นเห็นดังนั้นจึงบุกเดี่ยวเข้าไปในรถและจัดการคนร้ายทันที เธอหยิบระเบิดเวลาขึ้นมาดูอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ปรับมุมกล้องให้หัวหน้าลู่เห็นระเบิดชัดๆ แล้วรอคำสั่งอย่างใจเย็นทั้งที่เหลือเวลาไม่ถึง 20 วินาที (เธอไม่รู้ว่าต้องตัดเส้นไหน) หยางช่านเห็นดังนั้นก็รู้สึกตกใจ หลังวิเคราะห์ภาพระเบิดผ่านจอมอนิเตอร์ราว 10 วินาที หัวหน้าลู่จึงสั่งให้น่าหมิ่นตัดสายวงจรที่อยู่ตรงกลาง และนั่นก็ทำให้ระเบิดหยุดทำงานก่อนถึงกำหนดเวลาเพียง 5 วินาที
หยางช่านทึ่งในความสามารถและความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ทั้งยังรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้เห็นปฏิบัติการจริง และนั่นก็ทำให้เขาภูมิใจและเข้าใจบิดาผู้ล่วงลับมากขึ้น เขาอยากเป็นเช่นนั้นบ้างจึงตัดสินใจว่าจะไม่ออกจากทีม ครั้นถูกผบ.ฉางไล่กลับบ้านเขาจึงอ้อนวอนขออยู่ต่อ โดยชี้ว่าตนไม่ได้หนี ไม่กลัวความอยากลำบากหรือกลัวตาย และไม่ต้องการความเป็นอิสระ เขารับปากว่าจะอดทนและตั้งใจฝึกฝนอย่างไม่ย่อท้อแม้ต้องอยู่ในฐานะพลสำรองก็ตาม ผบ.ฉางจึงส่งเขาไปดัดนิสัยและฝึกความอดทนที่หน่วยประกอบอาหาร
ย้อนกลับไปเมื่อแปดเดือนก่อน ผบ.ฉางสั่งให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษตามจับกุมสมาชิกองค์กรก่อการร้าย "ตะวันดำ" ที่วางแผนระเบิดโรงงานผลิตสารเคมีย่านเหลาหู่ทานหมายให้เกิดการปนเปื้อนสารพิษบริเวณแหล่งต้นน้ำ โดยมีหัวโจกที่ชื่อ "ซานเมา" (แมวภูเขา) เป็นผู้บงการ "หลี่หย่วนเจิง" เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษซึ่งแฝงตัวอยู่ในองค์กรดังกล่าวและทำงานให้ซานเมามานานหลายปีโดยใช้ชื่อว่า "เหล่าเชียง" เป็นหนึ่งในทีมคนร้ายที่ได้รับมอบหมายงานดังกล่าว เขาจึงแอบส่งเบาะแสให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษจนนำไปสู่การสะกดรอยตามและวางกำลังล้อมโรงงานผลิตสารเคมี (ในเวลาเดียวกันนั้น หยางช่านได้นำโดรนที่ผลิตขึ้นเองมาทดสอบบินในสนามกีฬาที่อยู่ติดโรงงานผลิตสารเคมีกับ "หลิ่วซือเหวิน" และบินโดรนล้ำเข้าไปในเขตโรงงาน)
หัวหน้าลู่สั่งให้น่าหมิ่นซึ่งเป็นหนึ่งในพลซุ่มยิงลอบเข้าไปในโรงงาน (ซึ่งถูกวางระเบิดทั่วบริเวณ) เมื่อพบเป้าหมายเธอจึงเข้าประจำตำแหน่งและรอรับคำสั่ง ซานเมาได้รับแจ้งว่ามีสายลับแฝงตัวในทีมวางระเบิดจึงส่งรูปสายลับ (หย่วนเจิง) ไปให้หัวหน้าทีมทางโทรศัพท์ เมื่อหน่วยปฏิบัติการพิเศษตรวจพบว่ามีการส่งรูปดังกล่าว ผบ.ฉางจึงสั่งตัดสัญญาณโทรศัพท์และให้กำลังพลของตนสื่อสารผ่านสัญญาณดาวเทียมแทน หัวหน้าทีมวางระเบิดรู้เพียงว่ามีสายลับในหมู่พวกตนแต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่เพราะสัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดเสียก่อน เขาจึงเกิดหวาดระแวงและไม่ไว้ใจทุกคน หัวหน้าลู่ส่งรูปหย่วนเจิงให้น่าหมิ่นโดยบอกว่าหย่วนเจิงเป็นสายลับและกำชับให้เธอทำตามคำสั่งเขา เจ้าหน้าที่นายหนึ่งสังเกตเห็นโดรนปริศนาเหนือโรงงานผลิตสารเคมีเลยรีบรายงานหัวหน้าลู่ หัวหน้าลู่จึงสั่งให้ลูกน้องไปจับกุมคนบังคับโดรน และนั่นก็ทำให้หยางช่านกับซือเหวินถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว
หัวหน้าทีมวางระเบิดสงสัยว่าหย่วนเจิงเป็นสายลับเพราะเขาลังเลไม่ยอมกดระเบิดตามคำสั่ง หลังฐานะถูกเปิดโปงหย่วนเจิงจึงต่อสู้กับคนร้ายโดยมีน่าหมิ่นคอยยิงคุ้มกัน ในตอนนั้นหน่วยปฏิบัติการพิเศษยึดพื้นที่โรงงานและจัดการคนร้ายที่กระจายตัวตามจุดต่างๆ ได้เกือบหมดแล้ว คงเหลือเพียงหัวหน้าทีมวางระเบิดที่อยู่ในความรับผิดชอบของหย่วนเจิงกับน่าหมิ่น หย่วนเจิงพยายามล็อคตัวคนร้ายที่ร่างกายกำยำและแรงเยอะกว่า แต่คนร้ายพยายามดิ้นรนต่อสู้หมายกดปุ่มระเบิดที่อยู่ตรงหน้าให้ได้ หย่วนเจิงเห็นว่าขืนยื้อยุดต่อไปคงเอาไม่อยู่ เขาไม่ต้องการให้เกิดมหันตภัยจึงส่งสัญญาณมือ (สั่ง) ให้น่าหมิ่นยิงทันที น่าหมิ่นยิงตัดขั้วหัวใจคนร้ายอย่างแม่นยำ แต่เนื่องจากหย่วนเจิงยืนอยู่ทางด้านหลังกระสุนจึงพุ่งทะลุร่างของหย่วนเจิงด้วย หย่วนเจิงยกนิ้วโป้งให้น่าหมิ่นก่อนหงายหลังล้มลงไปสิ้นใจตาย น่าหมิ่นเห็นดังนั้นก็น้ำตาคลอด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจ
หลังหย่วนเจิงยอมสละชีวิตเพื่อทำลายแผนชั่วของผู้ก่อการร้าย ผบ.ฉางกับหัวหน้าลู่ก็ได้รับมอบจดหมายสั่งเสียที่หย่วนเจิงเขียนเอาไว้ล่วงหน้าเมื่อหลายปีก่อน (ก่อนไปทำหน้าที่สายลับ) ในซองจดหมายมีรูปครอบครัวซึ่งตอนนั้นหยางช่านยังเป็นเพียงเด็กชาย เขาฝากฝังหยางช่านไว้กับหัวหน้าลู่โดยขอให้ช่วยอบรมสั่งสอนและฝึกฝนหยางช่านให้เป็นสุดยอดตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายประจำหน่วยปฏิบัติการพิเศษเมื่อเติบใหญ่ หลังถูกจับขังคุกเพราะบินโดรนไม่ถูกที่ถูกเวลาจนแทรกแซงและขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ ในที่สุดหยางช่านก็ถูกปล่อยตัว ครั้นออกจากคุกก็พบ "หยางอ้ายผิง" ผู้เป็นแม่ มารอรับทั้งน้ำตา
พอรู้ว่าหย่วนเจิงผู้เป็นบิดากลับมาในสภาพร่างไร้วิญญาณหลังหายสาบสูญไปนานหลายปี หยางช่านก็ถึงกับช็อคและรู้สึกสับสน เขาจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนหัวหน้าลู่มาที่บ้านและแจ้งว่าพ่อของเขาออกจากทีมโดยพลการขณะแข่งขันปฏิบัติการพิเศษในต่างประเทศ หลังจากนั้นก็หายตัวไป เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้พ่อของเขาโดนประณามว่านำความอัปยศเสื่อมเสียมาสู่หน่วยงาน แต่แล้วอยู่ๆ หัวหน้าลู่ก็กล่าวยกย่องเชิดชูพ่อของเขาว่าเป็นวีรบุรุษต่อต้านการก่อการร้าย เขาจึงทำใจยอมรับไม่ได้ ด้านน่าหมิ่นได้แต่ขังตัวเองอยู่ในห้องและโทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของตน หัวหน้าลู่ชี้ว่าเธอจำเป็นต้องทำตามคำสั่งของหย่วนเจิง เขานำจดหมายสั่งเสียของหย่วนเจิงมาให้เธอดู และสั่งให้เธอรับหยางช่านเข้าร่วมทีม (หน่วยปฏิบัติการพิเศษกำลังจะเปิดรับสมัครและคัดเลือกตำรวจต่อต้านการก่อการร้าย) จากนั้นก็ฝึกเขาให้เก่งและแข็งแกร่งตามคำสั่งเสียของหัวหน้าหย่วนเจิง
หลังพ่อเสียชีวิตหยางช่านก็พยศหนักขึ้น ซ้ำยังเอาแต่ใจ และนั่งเล่นเกมยิงปืนที่บ้านทั้งวัน เมื่อหัวหน้าลู่ไปหาหยางช่านที่บ้านหมายชวนเขาไปสมัครเป็นตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายประจำหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เขาจึงรู้จากอ้ายผิงว่าหยางช่านมีโปรไฟล์ไม่ธรรมดาเพราะจบจากมหาวิทยาลัยอากาศยานและอวกาศ แถมยังคว้ารางวัลจากการแข่งเกมยิงปืนระดับโลกอีกด้วย ทั้งที่รู้ว่ามีแขกมาหาแต่หยางช่านกลับยังคงนั่งเล่นเกมโดยไม่มีทีท่าว่าจะออกไปพบ ซือเหวินจึงลงทุนปีนระเบียงขึ้นไปหาที่ห้องและพยายามกล่อมให้หยางช่านออกไปพบหัวหน้าลู่ (ภายในห้องของหยางช่านเต็มไปด้วยของตกแต่งและข้าวของเกี่ยวกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ) แต่หยางช่านกำลังหงุดหงิดผิดหวังเรื่องพ่อจึงไม่มีอารมณ์พบใคร ครั้นโดนซือเหวินเซ้าซี้มากเข้าเขาจึงกระโดดระเบียงหนีแต่ดันหลุ่นตุ๊บตรงหน้าแม่กับหัวหน้าลู่ที่ดักรออยู่พอดี
หัวหน้าลู่รู้สึกได้ว่าหยางช่านมีศักยภาพมากพอที่จะเป็นกำลังสำคัญของหน่วยงานตน เพียงแต่เขาเป็นเพชรที่ยังไม่ผ่านการเจียระไน ครั้นเห็นว่าหยางช่านไม่ยอมเปิดใจทั้งที่ลึกๆ แล้วอยากเจริญรอยตามพ่อ หัวหน้าลู่จึงเย้ยว่าหยางช่านไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ (หนีหน้า) เพราะหน่วยงานของตนไม่รับคนขี้ขลาด เขาสบประมาทและพูดท้าทายให้หยางช่านอยากเอาชนะ จากนั้นก็มอบนามบัตรและขอตัวกลับทันที หยางช่านเห็นหัวหน้าลู่กระโดดขึ้นรถจิ๊บแบบเท่ๆ แล้วอดนึกถึงพ่อไม่ได้เพราะเมื่อก่อนพ่อของเขาก็ชอบทำแบบนี้เช่นกัน อ้ายผิงกับซือเหวินอยากให้หยางช่านเจริญรอยตามพ่อจึงรวมหัวกันสบประมาทหยางช่าน
หยางช่านต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าตนมีความสามารถจึงยอมไปสมัครเป็นตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายประจำหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ปรากฏว่าเขาเป็นพลเรือนเพียงคนเดียวที่มาเข้าร่วมการคัดเลือก แถมความสามารถและคุณสมบัติต่างๆ ยังผ่านเกณฑ์อีกด้วย น่าหมิ่นเห็นดังนั้นจึงแจ้งหยางช่านว่าเขาผ่านการคัดเลือก เธอเตือนว่าเขาคงต้องเหนื่อยและฝึกหนักกว่าคนอื่น เพราะทุกคนที่มาสมัครล้วนเป็นตำรวจในสังกัดกองกำลังตำรวจเเห่งประชาชนจีนที่เก่งขั้นเทพและผ่านการฝึกหลักสูตรต่างๆ มาอย่างโชกโชน (เป็นตำรวจพิเศษที่เชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ สวมยูนิฟอร์มสีเขียวมะกอก ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนจะสวมชุดสีน้ำเงิน) แต่แล้วเธอก็ถึงกับอึ้งเมื่อหยางช่านปฏิเสธที่จะเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการพิเศษด้วยท่าทางอวดดี โดยให้เหตุผลว่าตนมาที่นี่เพื่อพิสูจน์ความสามารถเท่านั้น
"หวังเถี่ยเป้า" (เชี่ยวชาญด้านระเบิด) และเหล่าผู้สมัครคนอื่นๆ ที่ตั้งใจมาสมัครด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้าได้ยินหยางช่านพูดจาลบหลู่อาชีพและหน่วยงานตนจึงตรงเข้าทักท้วงด้วยความไม่พอใจ แต่หยางช่านกลับตอบโต้ด้วยคำพูดและท่าทางยียวนกวนประสาทก่อนเดินหนี หลังถูกเถี่ยเป้าคว้าข้อมือไว้หยางช่านจึงชี้ว่าตนมาสมัครเพราะเห็นแก่หัวหน้าลู่แต่ไม่เคยรับปากว่าจะเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการพิเศษ พูดจบเขาก็บอกให้เถี่ยเป้าปล่อยแขนตนแต่เถี่ยเป้ายืนกรานว่าจะไม่ปล่อยจนกว่าจะได้ยินคำขอโทษ หยางช่านไม่ยอมขอโทษซ้ำยังพูดท้าทาย เถี่ยเป้าจึงบิดแขนสั่งสอน แม้จะเจ็บจนร้องโอดโอยแต่หยางช่านยังไม่ยอมปริปากขอโทษ น่าหมิ่นไม่อยากให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้จึงรีบห้ามปรามและบอกให้หยางช่านไสหัวไป ครั้นเห็นหยางช่านแสดงกิริยาวาจาก้าวร้าวใส่หัวหน้าลู่ น่าหมิ่นก็หมดความอดทนและหวิดทำร้ายร่างกายหยางช่านเสียเอง โชคดีที่หัวหน้าลู่ห้ามไว้เสียก่อน หยางช่านเห็นความเกรี้ยวกราดของน่าหมิ่นจึงมีท่าทีอ่อนลงและขอตัวกลับทันที น่าหมิ่นเห็นวีรกรรมหยางช่านแล้วรู้สึกผิดหวัง ทั้งยังไม่อยากเชื่อว่าเขาเป็นลูกชายวีรบุุรุษของพวกตน
หัวหน้าลู่โทรฯ หาอ้ายผิงโดยแจ้งว่าหยางช่านผ่านการคัดเลือกทำให้อ้ายผิงดีใจมาก แต่แล้วเธอก็ทั้งโกรธและผิดหวังเมื่อรู้ว่าหยางช่านปฏิเสธที่จะเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อ้ายผิงพาหยางช่านไปที่หลุมศพของหย่วนเจิงแล้วสั่งให้เขาคุกเข่าต่อหน้าพ่อ ซือเหวินเห็นอ้ายผิงกำลังจะเผารูปครอบครัวจึงรีบเข้ามาห้าม อ้ายผิงประกาศตัดแม่ตัดลูกกับหยางช่านเพราะรับไม่ได้ที่เขาทำตัวเหลวไหล ไร้ความรับผิดชอบ เธอกล่าวว่าหลังเผารูปครอบครัวแล้วถือว่าพวกตนตัดขาดกัน และเขาจะไม่ใช่ลูกของหย่วนเจิงอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้เธอจึงพาเขามาคารวะหย่วนเจิงในฐานะพ่อเป็นครั้งสุดท้าย พูดจบอ้ายผิงก็จุดไฟเผารูป หยางช่านเห็นดังนั้นจึงรีบแย่งรูปมาดับไฟแล้วตะโกนลั่นด้วยความอัดอั้นว่า...."พ่ออออ!!!"
หลังจากนั้นหยางช่านซึ่งไม่เคยผ่านการฝึกฝนใดๆ มาก่อนก็ยอมเข้าร่วมทีมปฏิบัติการพิเศษแต่โดยดี นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นและที่มาของหยางช่าน ในการเป็นตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายระดับพระกาฬประจำทีมปฏิบัติการพิเศษ ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามชมได้ใน "ทีมระห่ำ พิฆาตทรชน" (Anti-terrorism Special Forces) ทางอมรินทร์ทีวี
* เนื้อหาโดย luvasianseries / (ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่)
รายชื่อนักแสดง
จูอวี่เฉิน
รับบท หยางช่าน (ชื่อรหัส: "เทียนเหยี่ยน" - แปลว่า ดวงตาสวรรค์)
(นักแสดง ชาวจีน)
หวังลี่เข่อ
รับบท น่าหมิ่น (ชื่อรหัส: "ส่านเตี้ยน" - แปลว่า ฟ้าแลบ)
(นักแสดง ชาวจีน)
หวังปาน
รับบท ลี่เจี้ยนเฟิง (ชื่อรหัส: "จวี้เฟิง" - แปลว่า พายุเฮอริเคน)
(นักแสดง ชาวจีน)
โจวถิงอี
รับบท หลิ่วซือเหวิน
(นักแสดง ชาวจีน)
สือจ้าวฉี
รับบท ฉางเจี้ยนอัน
(นักแสดง ชาวจีน)
หม่าเยี่ยนลี่
รับบท หยางอ้ายผิง
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)
ซุนอี้หมิง
รับบท สืออวี่
(นักแสดง ชาวจีน)
หลี่ฮ่าวเซวียน
รับบท จ้าวเสี่ยวโป (ชื่อรหัส: "เซ่อโฉ่ว" - แปลว่า นักยิงธนู)
(นักแสดง ชาวจีน)
ศตวรรษ เศรษฐกร (เต๊ะ)
รับบท หั่วหู (จิ้งจอกเพลิง) แห่งองค์กรตะวันดำ
(นักแสดง ชาวไทย)
เฉาเค่อหนาน
รับบท ลู่ฉางเฟิง (ชื่อรหัส: "101")
(นักแสดง ชาวจีน)
คลิปตัวอย่างจาก youtube/AMARIN TVHD
เฉินอี้เหิง
รับบท หลินจื่อซาน (อดีตสามีคนที่สองของหยางอ้ายผิง / พ่อของหยางช่าน)
(นักแสดง / ผู้กำกับ ชาวจีน)
หม่าเยี่ยนลี่
รับบท หยางอ้ายผิง
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)
ซุนอี้หมิง
รับบท สืออวี่
(นักแสดง ชาวจีน)
หลี่ฮ่าวเซวียน
รับบท จ้าวเสี่ยวโป (ชื่อรหัส: "เซ่อโฉ่ว" - แปลว่า นักยิงธนู)
(นักแสดง ชาวจีน)
ศตวรรษ เศรษฐกร (เต๊ะ)
รับบท หั่วหู (จิ้งจอกเพลิง) แห่งองค์กรตะวันดำ
(นักแสดง ชาวไทย)
เฉาเค่อหนาน
รับบท ลู่ฉางเฟิง (ชื่อรหัส: "101")
(นักแสดง ชาวจีน)
คลิปตัวอย่างจาก youtube/AMARIN TVHD
*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา