วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เรื่องย่อ ไอเลิฟยู กว่าจะรู้ว่ารัก (Say Again Yes I Do)




กำกับ: หยางปู้ซิน
เขียนบท: จางฉีเอิน, หลี่เจี๋ยอวี่
แนวละคร: โรแมนติก
จำนวนตอน: 20 (ความยาว 90 นาที/ตอน) / 32 (เวอร์ชั่นความยาว 1 ชั่วโมง/ตอน)
ออกอากาศ: ไต้หวัน - วันที่ 24 สิงหาคม 2557 - 4 มกราคม 2558 ทางทีทีวี และวันที่ 30 สิงหาคม 2557 - 10 มกราคม 2558                                      ทางซานลี่ทีวี (SETTV)
                     ไทย - ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 14.00-15.30 น. ทางอมรินทร์ทีวี 34 ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2559 - 17 มิถุนายน 2559

เรื่องย่อ



ละคร "ไอเลิฟยู กว่าจะรู้ว่ารัก" (Say Again Yes I Do หรือ I do²) นำเสนอเรื่องราวของคู่รักหนุ่มสาวที่แต่งงานและหย่าร้างแบบสายฟ้าแลบ แถมยังจบไม่สวย แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งคู่ได้มาพบและร่วมงานกันในอีก 4 ปีต่อมา และนั่นก็ทำให้ทั้งคู่พบว่าการเซ็นใบหย่าไม่อาจทำให้ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันมลายหายไป

"เซี่ยงเจิ้งหยาง" และ "ซูซินขุย" พบกันโดยบังเอิญที่ร้านกาแฟหลังเจิ้งหยางเผลอหยิบแก้วกาแฟของซินขุยไป ซินขุยเลยต้องวิ่งตามเพื่อนำแก้วกาแฟไปเปลี่ยน  เธอทั้งแปลกใจและตกใจที่รู้สึกคล้ายถูกไฟช็อตตอนรับแก้วกาแฟคืนจากเจิ้งหยางแล้วบังเอิญแตะมือเขา พอกลับเข้ามาในร้านกาแฟอีกครั้งก็มีเด็กหญิงคนหนึ่ง (กามเทพ) นำหนังสือนิทานมามอบให้เธอเป็นของขวัญวันคริสต์มาส ซินขุยบอกคนดูว่า เธอเองก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบอ่านนิทานเกี่ยวกับเจ้าชายเจ้าหญิงมาตั้งแต่เด็กๆ พอโตขึ้นจึงหวังว่าสักวันจะพบเจ้าชายในฝันและครองรักกันอย่างมีความสุขเหมือนในเทพนิยาย (ในหนังสือนิทานสำหรับเด็ก เรื่องราวความรักของเจ้าชายเจ้าหญิงมักจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง ด้วยเหตุนี้เด็กผู้หญิงจึงมองความรักเป็นสิ่งสวยงาม)

คืนเดียวกันนั้นซินขุยโดน "เฉินโม่ลี่" (เพื่อนสนิท) ลากไปงานปาร์ตี้คนโสด ระหว่างเดินดูบรรยากาศในบริเวณงาน ซินขุย (ซึ่งถือหนังสือนิทานมางานปาร์ตี้ด้วย) นึกสงสัยว่าความรักแบบในเทพนิยายจะมีจริงหรือไม่ ขณะกำลังชมต้นคริสต์มาสเธอได้พบกับเจิ้งหยางอีกครั้ง หลังทักทายกันได้ไม่นานพิธีกรก็ประกาศหาหนุ่มสาวที่ยืนอยู่ใต้ช่อมิสเซิลโทและบอกให้ทั้งคู่จูบกันตามธรรมเนียมตะวันตก (กล่าวกันว่าหญิงชายที่อยู่ใต้ช่อมิสเซิลโทถูกกำหนดให้มาจูบกัน หากใครจูบกันใต้ช่อมิสเซิลโทจะได้ครองรักกันตลอดไป) เมื่อเจิ้งหยางกับซินขุยแหงนหน้าขึ้นไปมองด้านบนก็พบว่ามีช่อมิสเซิลโทแขวนอยู่ ทันใดนั้นสปอร์ตไลท์ก็ฉายไปที่ทั้งคู่ พร้อมกับเสียงระฆังที่ดังตอนเที่ยงคืนของวันคริสต์มาส ในตอนแรกทั้งคู่ต่างพากันอิดออด แต่พอพิธีกรบอกว่าหากไม่จูบกันจะไม่สมหวังในความรักตลอดไป ซินขุยจึงคว้าตัวเจิ้งหยางมาจูบเพราะเธออยากสมหวังในรัก และคิดว่าเจิ้งหยางคือเจ้าชายในฝันของตน




หลังคบกันได้ 2 เดือน เจิ้งหยางก็ขอซินขุยแต่งงาน แต่หลังแต่งงานกันได้ไม่นานทั้งคู่ก็เริ่มมองเห็นแต่ข้อเสียของกันและกัน ทั้งยังมองว่าอีกฝ่ายน่ารำคาญ ซินขุยนินทาเจิ้งหยางให้โม่ลี่ฟังว่าเขาเป็นจอมบงการ เจ้าระเบียบ รักความสะอาด และเข้มงวดกับเธอมากเกินไป มิหนำซ้ำยังบ้ากบ (อ๊บๆ) เอามากๆ ที่สำคัญเธอกับแม่ของเจิ้งหยางยังเข้าหน้ากันไม่ติด ส่วนเจิ้งหยางบ่นกับ "ไช่เถากุ้ย" (เพื่อนสนิทที่ชวนเขาไปงานปาร์ตี้คนโสดเมื่อ 6 เดือนก่อน) ว่า ซินขุยไม่มีความเป็นแม่ศรีเรือน ไม่มีระเบียบ ซุ่มซ่าม ชอบทำบ้านเลอะเทอะ วันๆ กินแต่ขนมขบเคี้ยว แถมยังความจำสั้นอีกด้วย เมื่อความรักหมดโปรฯ และความอดทนสิ้นสุดลง ทั้งคู่ก็พากันไปจดทะเบียนหย่าหลังแต่งงานกันได้เพียง 6 เดือน และนั่นก็ทำให้ซินขุยได้เรียนรู้ว่าคนเรานั้นกว่าจะพบรักกันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การเลิกราหย่าร้างกลับใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที

หลังทำเรื่องหย่าแล้ว เจิ้งหยางก็เก็บของออกจากบ้าน (ที่ช่วยกันผ่อน) ทันที ซินขุยต้องการอยู่ที่บ้าน (คอนโด) ต่อจึงคืนเงินค่างวดผ่อนบ้านส่วนหนึ่งให้เจิ้งหยาง หลังจากนั้นทั้งคู่ก็แย่งช่อมิสเซิลโทที่เจิ้งหยางนำมาจากงานปาร์ตี้คนโสด หลังตกลงกันไม่ได้ว่าจะให้ใครเก็บ ซินขุยก็ใช้กรรไกรตัดแบ่งคนละครึ่งทำให้เจิ้งหยางโกรธมาก เขาลั่นวาจาว่าชาตินี้จะไม่ขอพบเจอกันอีก หลังจากนั้นทั้งคู่ก็โยนแหวนแต่งงานคืนให้กัน พออยู่คนเดียวตามลำพังซินขุยก็ทำทุกอย่างที่เคยถูกเจิ้งหยางห้าม จากนั้นก็ออกไปปาร์ตี้ฉลองการหย่ากับเพื่อน ส่วนเจิ้งหยางมาสงบจิตใจริมชายหาดพลางลบเบอร์และภาพของซินขุยออกจากโทรศัพท์

"เก่อเชียนเชียน" ถือกล่องกระดาษมานั่งเศร้าริมทะเล พอเห็นกล่องถูกคลื่นซัดจนเริ่มลอยออกไปในทะเล เชียนเชียนจึงรีบเดินลุยน้ำตามไปเก็บ เจิ้งหยางเห็นดังนั้นเลยเข้าใจผิดคิดว่าเชียนเชียนคิดสั้น เขารีบเข้าไปห้ามและดึงตัวเธอเอาไว้ แต่เชียนเชียนก็สลัดจนหลุดและรีบว่ายน้ำไปเก็บกล่องทำให้สำลักน้ำจนหมดสติ เจิ้งหยางเลยช่วยนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล พอรู้ว่าเชียนเชียนเพิ่งเลิกกับแฟนเขาก็ให้กำลังใจและช่วยพูดปลอบใจเธอ (เจิ้งหยางช่วยเก็บกล่องกระดาษมาให้เธอด้วย)





สี่ปีผ่านไป ซินขุยซึ่งเป็นพนักงานของโรงแรมมาร์ส รีบบึ่งมาสอบสัมภาษณ์หมายเป็นตัวแทนพนักงานเข้าคอร์สฝึกอบรมการบริการลูกค้าวีวีไอพี (VVIP - Very Very Important Person) ร่วมกับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากโรงแรมอื่นๆ ทั่วเอเชีย โดยคนที่ฝึกไม่ผ่านจะถูกคัดออก ส่วนผู้ที่ทำคะแนนระหว่างการฝึกอบรมสูงสุดจะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าแผนกห้องพักลูกค้าวีวีไอพี หลังสอบสัมภาษณ์เสร็จแล้วเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งโทรฯ มาขอร้องให้ซินขุยช่วยไปทำงานที่ห้องอาหารของโรงแรมแทนเธอ ซินขุยลืมไปว่าเธอนัดโม่ลี่ (ว่าที่เจ้าสาว) เอาไว้ว่าจะไปลองชุดเพื่อนเจ้าสาวตอนบ่ายสอง เลยอาสาทำงานแทน และนั่นก็ทำให้เธอได้พบกับเจิ้งหยางเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปี (เจิ้งหยางมีนัดดูตัวกับ "เกาอวี่โหรว" ลูกสาวจอมเหวี่ยงของประธานโรงแรมมาร์สที่ห้องอาหารดังกล่าว)

เท่านั้นยังไม่พอ เจิ้งหยางกับซินขุยต่างถูกโม่ลี่กับเถากุ้ยขอร้องให้มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวในงานแต่งงานของพวกตน (ทั้งคู่อยากให้เจิ้งหยางกับซินขุยซึ่งยังโสดทั้งคู่กลับมาคืนดีกัน) พอรู้ว่าต่างฝ่ายต่างถูกเพื่อนสนิทเชิญให้มาเป็นเพื่อนบ่าวสาว เจิ้งหยางกับซินขุย ก็เริ่มงอแง แต่สุดท้ายก็ยอมทำเพื่อเพื่อน (ประกอบกับโม่ลี่กับเถากุ้ยพูดดักคอว่าที่ทั้งคู่ไม่ยอมเป็นเพื่อนบ่าวสาวเพราะยังมีใจให้กัน) 

หลังเข้าพิธีแต่งงานโม่ลี่กับเถากุ้ยก็พาเพื่อนๆ มาเลี้ยงฉลองที่โรงแรมมาร์ส ซินขุยเลยเอากุญแจห้องพักสำหรับลูกค้าวีวีไอพีที่ถูกเตรียมไว้ใช้เป็นห้องฝึกมาให้โม่ลี่ เพราะเห็นว่าหรูหราและสะดวกสบายกว่าห้องที่โม่ลี่กับเถากุ้ยจองเอาไว้ แต่สุดท้ายซินขุยกลับต้องพักที่ห้องดังกล่าวกับเจิ้งหยางเสียเองหลังทั้งคู่แข่งกันดื่มแชมเปญจนเมาปลิ้น (โม่ลี่กับเถากุ้ยช่วยกันประคองเจิ้งหยางกับซินขุยมานอนเคียงข้างกันบนเตียง) พอหัวถึงหมอนต่างฝ่ายต่างถอดเสื้อผ้าด้วยความเคยชินแล้วนอนเคียงข้างกันจนถึงเช้า

ตอนที่เจิ้งหยางกับซินขุยเป็นคู่สามีภรรยากันใหม่ๆ ทั้งคู่มักตื่นขึ้นมาทักทายกันในตอนเช้าอย่างหวานชื่น ซินขุยกล่าวกับคนดูว่า ตอนคนเราตกอยู่ในห้วงแห่งรักมักลืมเวลา และคิดว่าความรักของตนจะคงอยู่ชั่วกาลนาน พอคิดว่ายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกมากจึงไม่ทะนุถนอมและเกาะกุมหัวใจคนรักเอาไว้ให้ดี รู้ตัวอีกทีก็สายเกินไป




วันรุ่งขึ้นผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าคอร์สฝึกอบรมต่างมารวมตัวกันที่โรงแรมมาร์สตามเวลานัดหมาย (ในจำนวนนี้มีเชียนเชียนรวมอยู่ด้วย) ยกเว้นซินขุยกับเจิ้งหยางที่ยังคงนอนหลับใหล ทันทีที่รู้สึกตัวทั้งคู่ก็มีปากเสียงและแย่งห้องน้ำกันอย่างดุเดือด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องรีบไปรายงานตัว ซ้ำยังสายด้วยกันทั้งคู่ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยง (แย่งห้องน้ำ) กันอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ก็พาพนักงาน (ที่ถูกคัดเลือกให้เข้ารับการฝึกอบรม) มาที่ห้องดังกล่าว พอย่างเท้าเข้ามาในห้องทุกคนก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า (ซินขุยกับเจิ้งหยางอยู่ในสภาพกึ่งเปลือย)

ซินขุยกับเจิ้งหยางถึงกับอึ้งเมื่อรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมาเข้าคอร์สฝึกอบรม ซ้ำยังเป็นคู่แข่งกัน ซินขุยไม่พอใจที่เจิ้งหยางเป็นถึงทายาทโรงแรมตงหัวแต่กลับคิดชิงตำแหน่งที่เธอหมายปอง เธอจึงสงสัยว่าเขามาที่นี่เพื่อสอดแนมโรงแรมของตน เธอบอกเจิ้งหยางว่าตนทำงานที่โรงแรมมาร์สมานาน 4 ปีและเฝ้ารอโอกาสนี้มานาน ดังนั้นเธอจะไม่ยอมให้เจิ้งหยางขัดขวางความสำเร็จของตน เจิ้งหยางกล่าวว่าตนก็ใช้ความพยายามอย่างหนักกว่าจะได้รับคัดเลือกให้มาฝึกอบรมที่นี่ เธอจึงไม่ควรก้าวก่ายและอย่ามาขวางทางของตน เขายังห้ามเธอปริปากเรื่องความสัมพันธ์เมื่อครั้งในอดีต และห้ามบอกใครเรื่องครอบครัวของตน ซินขุยกล่าวว่าเธอเองก็ไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องความหลังที่เป็นเหมือนฝันร้าย ทั้งยังเตือนว่าอย่าใช้กำลังกับเธออีก  (ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งล็อคคอแล้วเอามือปิดปากเธอ) หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ตกลงกันว่าจะแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกันมาก่อน และจะเข้ารับการฝึกอบรมหรือทดสอบโดยไม่คิดกลั่นแกล้งกัน

เชียนเชียนถึงกับช็อคเมื่อพบ "จี้สืออวี่" ที่โรงแรมมาร์ส แถมเขายังเป็นผู้อำนวยการที่มีหน้าที่ฝึกและควบคุมคอร์สฝึกอบรมอีกด้วย สือ อวี่เป็นหัวหน้าที่เข้มงวดมาก เขาบอกให้พนักงานคิดเสมอว่าแขกของโรงแรมเป็นฝ่ายถูกเสมอถึงแม้แขกจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม และย้ำกับผู้เข้ารับการฝึกอบรมว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องทำให้แขกออกจากโรงแรมมาร์สด้วยความรู้สึกประทับใจในการบริการที่ยอดเยี่ยม ความจริงแล้วเชียนเชียนเป็นอดีตคู่หมั้นของสืออวี่ แต่เธอทิ้งเขาโดยไม่ยอมบอกเหตุผลเมื่อสี่ปีก่อน ทำให้สืออวี่ช้ำใจตราบจนทุกวันนี้ เขาจึงแสดงท่าทีหมางเมินและเย็นชาเมื่อได้พบเชียนเชียนอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเขายังมีใจให้กับเธอ และอยากรู้มาโดยตลอดว่าทำไมอยู่ๆ เธอถึงทิ้งเขาไป จริงๆ แล้วเชียนเชียนรักสืออวี่ด้วยความจริงใจและยังรักตราบจนทุกวันนี้ เธอจึงคอยเอาใจใส่ดูแลเรื่องอาหารการกินและสุขภาพของเขา เธอกับเขามีแผนที่จะแต่งงานกันเมื่อสี่ปีก่อนแต่พอหมอบอกว่าเธอไม่สามารถมีลูกได้ เธอจึงคืนแหวนหมั้นและตัดใจไปจากเขาทันที (สืออวี่บอกเธอว่าอยากมีลูกหลายๆ คน)





หลังร่วมงานกันอย่างใกล้ชิด ซินขุยกับเจิ้งหยางต่างก็ได้เรียนรู้ซึ่งกัน ทำให้เห็นนิสัยและตัวตนของอีกฝ่ายในแง่มุมที่ทั้งคู่ไม่เคยรู้เห็นมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่ซินขุยถูกแม่นำมาทิ้งไว้ที่ห้องอาหารของโรงแรมมาร์สในวันคริสต์มาสตอนที่เธออายุเพียง 10 ขวบ หลังจากนั้นซินขุยกับเจิ้งหยางก็เริ่มต้นสานสัมพันธ์กันอีกใหม่อีกครั้ง แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะแม่ของเจิ้งหยางยืนกรานว่าจะไม่ยอมให้ทั้งคู่กลับมาคบกัน ในตอนนั้นธุรกิจโรงแรมของครอบครัวเจิ้งหยางกำลังประสบปัญหาทางด้านการเงิน "หลี่กุ้ยอวิ๋น" แม่ของเจิ้งหยางจึงอยากให้เขาแต่งงานกับ "เหลียงม่านหนี" เพื่อรักษาธุรกิจของครอบครัวเอาไว้ 

ในที่สุดสืออวี่ก็รู้เหตุผลว่าทำไมเชียนเชียนถึงทิ้งเขาไป แม้เธอจะมีลูกให้เขาไม่ได้แต่เขาก็ยังรักและต้องการใช้ชีวิตคู่กับเธอเหมือนเดิม เชียนเชียนต้องการให้สืออวี่ตัดใจจากตนจึงรวมหัวกับเพื่อนโกหกสืออวี่ว่าเธอแต่งงานแล้ว และนั่นก็ทำให้สืออวี่หัวใจสลายอีกครั้ง 

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน  "ไอเลิฟยู กว่าจะรู้ว่ารัก (Say Again Yes I Do)" ทางช่องอมรินทร์ทีวี


นักแสดงนำ


หลินโยว่เวย
รับบท เซี่ยงเจิ้งหยาง
(นักแสดง ชาวไต้หวัน)



เว่ยม่าน (แมนดี้ เว่ย)
รับบท ซูซินขุย / เกาซินขุย
(นักแสดง / นางแบบ ชาวไต้หวัน)



จางซวินเจี๋ย (ไมเคิล จาง)
รับบท จี้สืออวี่
(นักแสดง / นายแบบ ชาวไต้หวัน)



หลี่เหวยเหวย (วีวี่ ลี)
รับบท เก่อเชียนเชียน
(นักแสดง / นางแบบ / พิธีกร ชาวไต้หวัน)




คลิปตัวอย่างจากอมรินทร์ทีวี




รวมคลิปตัวอย่างจากซานลี่



รวมคลิปเบื้องหลังจากซานลี่


*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา