วันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เรื่องย่อ ซาอิมดัง บันทึกรักตำนานศิลป์ (Saimdang, Light's Diary)




กำกับ: ยูน ซังโฮ
เขียนบท: ปาร์ค อึนรยอง
แนวละคร: อิงประวัติศาสตร์, โรแมนติก
จำนวนตอน: 28
ออกอากาศ: เกาหลี - 26 มกราคม 2560 - 4 พฤษภาคม 2560 ทางเอสบีเอส 
                      ไทย - ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 19.15 น. และวันศุกร์ เวลา 19.00 น. ทางช่อง 3 แฟมิลี่ (หมายเลข 13) ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2560 - 11 ตุลาคม 2560

เรื่องย่อ




ละคร "ซาอิมดัง บันทึกรักตำนานศิลป์ (Saimdang, Light's Diary)" เป็นละครที่สร้างขึ้นจากจินตการโดยนำเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาอ้างอิง เนื้อหาในละครกล่าวถึง "ซอ จียุน" ผู้บรรยายวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์เกาหลีที่มหาวิทยาลัยฮันกุก ซึ่งอุทิศตนให้กับการศึกษาและวิจัยหมายได้มาซึ่งปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (วุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอก) นอกจากนี้ เธอยังทุ่มเททำงานให้ศาสตราจารย์ "มิน จองฮัก" คณะบดีประจำคณะศิลปศาสตร์ (และอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอ)  ด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยมว่าสักวันจะถูกแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลป์เกาหลีที่มหาวิทยาลัย

เมื่อศาสตราจารย์มินมอบหมายให้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับภาพวาดโบราณ "กึมกังซานโด" (ภูเขากึมกัง) ของศิลปินดังยุคโชซอน นามว่า "อัน คยอน"  ที่เพิ่งถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในรอบ 500 ปี จียุนทั้งปลาบปลื้มและตื้นตันเพราะคิดว่าตำแหน่งศาสตราจารย์อยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่แล้วทุกอย่างกลับพลิกผันทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เริ่มจาก "ชอง มินซอก" สามีของเธอ ต้องหนีหัวซุกหัวซุนหลังบริษัทของเขาถูกเจ้าหน้าที่ทางการตรวจสอบ ทั้งยังถูกมาเฟียรัสเซียไล่ล่า และเป็นหนี้ก้อนโตทำให้บ้านและทรัพย์สินทั้งหมดถูกยึด ด้วยเหตุนี้ จียุนจึงต้องพา "ชอง อึนซู" (ลูกชาย) และ "คิม จองฮี" (แม่สามี) ไปอาศัยที่คอนโดของ " โก ฮเยจอง" (เพื่อนสนิทจียุน) ชั่วคราว 




มิหนำซ้ำ อนาคตด้านอาชีพการงานของจียุนยังดับวูบหลัง "ฮัน ซังฮยอน" ตั้งข้อสังเกตกลางงานสัมมนาและเปิดตัวภาพวาด "กึมกังซานโด" ของ "อัน คยอน" ว่าภาพดังกล่าวอาจไม่ใช่ของแท้ แถมจียุนยังถูกซังฮยอนบีบให้ยอมรับบนเวทีว่า เธอเองก็สงสัยเช่นกันว่าภาพดังกล่าวอาจไม่ใช่ผลงานของอัน คยอน แม้จียุนจะพยายามกู้หน้าให้ศาสตราจารย์มิน (ซึ่งเป็นผู้ค้นพบและรับรองว่าภาพดังกล่าวเป็นของจริง) แต่ประเด็นดังกล่าวกลับกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกอินเตอร์เน็ต และนั่นก็ทำให้ศาสตราจารย์มินโกรธมาก เขาจึงวางแผนใส่ร้ายจียุนระหว่างการประชุมที่ประเทศอิตาลีหมายไล่เธอออกจากการเป็นอาจารย์ (ไม่ประจำ) และให้เธอหมดทางทำมาหากินในวงการประวัติศาสตร์ศิลป์

ขณะที่จียุนกำลังท้อแท้สิ้นหวังหลังถูกศาสตราจารย์มินขับไล่ไสส่งที่ประเทศอิตาลี เธอบังเอิญพบบันทึกลับของ "ชิน ซาอิมดัง"  ซึ่งเป็นศิลปินหญิงที่มีชื่อเสียงในยุคโชซอน บันทึกดังกล่าวสะท้อนให้จียุนเห็นภาพชีวิตของซาอิมดังในแง่มุมที่ไม่เคยถูกเปิดเผยที่ใดมาก่อน ตลอดจนชีวิตรักที่ไม่สมหวังระหว่างซาอิมดังกับ "ลี คยอม" (องค์ชายอึยซอง) ซึ่งเป็นจิตรกร ที่สำคัญบันทึกลับดังกล่าวยังเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับภาพวาดที่ซาอิมดังพบเห็น โดยเฉพาะภาพวาดภูเขากึมกัง (กึมกังซานโด) ของ "อัน คยอน" (ภาพดังกล่าวนำพาซาอิมดังมาพบรักกับลีคยอม) และดูเหมือนว่าจียุนกับซาอิมดังจะมีบางอย่างเชื่อมโยงถึงกัน 




ด้วยความช่วยเหลือจาก "โก ฮเยจอง" ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของจียุนและนักวิจัยโบราณวัตถุ ตลอดจนเด็กหนุ่มรุ่นน้องอย่าง "ฮัน ซังฮยอน" ซึ่งเป็นอาจารย์ (ไม่ประจำ) ที่ถูกศาสตราจารย์มินไล่ออกอย่างไม่เป็นธรรม และมีความสามารถในการอ่านอักษรจีนโบราณ  (อักษรจีนถูกยืมมาใช้ในภาษาเกาหลีก่อนที่พระเจ้าเซจงมหาราช (พระราชาองค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โชซอน) จะทรงประดิษฐ์อักษร แต่หลังมีอักษรเกาหลีแล้วชาวโชซอนส่วนใหญ่ยังคงเขียนด้วยอักษรจีน โดยอักษรเกาหลีจะใช้กันเฉพาะชนชั้นล่าง) จียุนจึงอาศัยข้อมูลในบันทึกโบราณมาหาหลักฐานพิสูจน์ว่าภาพวาด "กึมกังซานโด" ของ "อันคยอน" ที่ศาสตราจารย์มินค้นพบเป็นของปลอม และออกตามหาภาพวาดของจริงเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงและทวงความเป็นธรรมให้กับตน ถึงกระนั้นภารกิจล้มยักษ์อย่างศาสตราจารย์มินก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ซ้ำร้ายจียุนยังประสบปัญหาด้านการเงิน ทำให้ต้องฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคมากมาย

สุดท้ายแล้วจียุนจะกอบกู้ชื่อเสียงและอนาคตที่สดใสกลับคืนมาได้หรือไม่ ติดตามชมได้ใน "ซาอิมดัง บันทึกรักตำนานศิลป์ (Saimdang, Light's Diary)" ทางช่อง 3 แฟมิลี่ (หมายเลข 13)

เกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์ 

* "ชิน ซาอิมดัง" (ชื่อจริง "ชิน อินซอน") มีชีวิตอยู่ในยุคโชซอนช่วงปี ค.ศ. 1504-1551 เธอเป็นทั้งจิตรกร นักเขียน นักเขียนอักษรวิจิตร และนักกวี ทั้งยังเป็นมารดาของ "อีอี" (นามปากกา "ยุล-กก") หนึ่งในสองบัณฑิตขงจื๊อที่มีความรู้ความสามารถโดดเด่นที่สุดในยุคโชซอน และยังเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งทางวิชาการของ "โช ควางโจ" อีกด้วย (ภาพวาดของซาอิมดังมีความโดดเด่นในเรื่องความประณีตงดงาม ส่วนใหญ่มักเป็นภาพวาดเกี่ยวกับ แมลง ผีเสื้อ ดอกไม้ กล้วยไม้ องุ่น ปลา และทิวทัศน์) 
* อันคยอน เป็นหนึ่งใน 6 จิตรกรประจำราชสำนักในรัชสมัยของพระเจ้าเซจงมหาราช (พระราชาองค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โชซอน)

เนื้อหาตอนที่ 1




ละครเปิดฉากขึ้นในแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี เมื่อปี ค.ศ. 1551 (ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระเจ้ามยองจง พระราชาองค์ที่ 13 แห่งราชวงศ์โชซอน) "ลี คยอม" ขังตัวเองอยู่ในห้องภายในวิลล่าหรู (หลังลี้ภัยมาที่อิตาลี) และหมกมุ่นอยู่กับวาดภาพ "ชิน ซาอิมดัง" หญิงสาวที่ตนรักและโหยหาโดยไม่ยอมหยุดพักผ่อนหรือทานอาหาร หลังไม่อาจสลัดภาพของเธอออกจากห้วงคำนึง ลีคยอมก็เดินออกจากห้องในสภาพสุดโทรมแถมเสื้อผ้าเต็มไปด้วยคราบสี จากนั้นก็กรีดร้องริมระเบียงเหนือห้องโถงใหญ่ (ซึ่งกำลังมีงานเลี้ยงเต้นรำ) ดุจคนเสียสติ

ตัดกลับมาที่ช่วงเวลาปัจจุบัน "ซอ จียุน" ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์เกาหลีที่มหาวิทยาลัยฮันกุก แวะไปทำความสะอาดบ้านให้ศาสตราจารย์ "มิน จองฮัก" คณบดีคณะศิลปศาสตร์ เนื่องในโอกาสที่ศาตราจารย์มินและครอบครัวย้ายเข้าบ้านใหม่ ทั้งยังขนอาหารดีๆ ที่เธอทำเองไปให้ทุกคนทานเพียบ (แม้ภรรยาของศาตราจารย์มินจะเป็นมิตรกับเธอ แต่ดูเหมือนว่าศาตราจารย์มินจะไม่ค่อยเอ็นดูเธอสักเท่าไหร่) เมื่อศาตราจารย์มินมอบหมายให้จียุนเขียนงานวิจัยผลงานศิลปะชุด "กึมกังซานโด" (ภูเขากึมกัง) ของหนึ่งในศิลปินดังยุคโชซอน นามว่า "อัน คยอน" จียุนก็ดีใจจนเนื้อเต้น เพราะภาพวาดดังกล่าวเพิ่งถูกค้นพบหลังหายสาบสูญไปนาน 500 ปี แถมภรรยาของศาตราจารย์มินยังพูดให้ความหวังด้วยการกล่าวแสดงความยินดีที่จียุนกำลังจะจบปริญญาเอก และยังบอกด้วยว่าอีกไม่นานจียุนคงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์ เพราะกำลังจะมีการพิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวเร็วๆ นี้

จียุนแวะไปดูภาพวาด "กึมกังซานโด" ที่ห้องทำงาน (ในมหาวิทยาลัย) ของศาตราจารย์มิน และเริ่มต้นทำงานทันที เมื่อเธอนำกล้องมาบันทึกรายละเอียดต่างๆ ของภาพวาดโบราณก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เธอยังไม่ทันได้พินิจพิเคราะห์ "คิม จองฮี" แม่ของสามีก็โทรฯ มาตามให้กลับบ้านเสียก่อนเพราะมีญาติผู้ใหญ่มาเยี่ยมที่บ้าน จองฮีบอกทุกคนด้วยความภาคภูมิใจว่าลูกสะใภ้ของตนกำลังจะได้เป็นศาสตราจารย์ ส่วนลูกชายก็ประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจการเงิน (แม้แต่หลานของเธอยังสอบได้ที่หนึ่ง) พอเห็นจียุนง่วนอยู่กับการทำอาหารให้แขก จองฮีก็บอกให้จียุนทุ่มเทแต่เรื่องงาน ซ้ำยังมอบโต๊ะทำงานราคาแพงให้เธอเป็นของขวัญด้วย




ที่แท้ศาตราจารย์มินคิดนำภาพวาด "กึมกังซานโด" มาหาผลประโยชน์ใส่ตัว หลังมีข่าวเรื่องการค้นพบภาพวาดดังกล่าว ทุกวงการต่างจับตามองและพากันพูดถึงเรื่องนี้ไม่เว้นแม้แต่ที่บลูเฮ้าส์ (ทำเนียบ) เขาบอก "ผู้อำนวยการซอน" ว่านี่คือภาพวาดภูเขากึมกังเพียงภาพเดียวที่อันคยอนทิ้งไว้ให้อนุชนคนรุ่นหลัง อีกไม่นานภาพดังกล่าวคงถูกขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติ เขาตั้งใจว่าจะนำภาพดังกล่าวไปจัดแสดงที่แกลลอรี่ของผู้อำนวยการซอน (ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิมรดกทางวัฒนธรรมเกาหลีด้วย) โดยบอกว่าภาพดังกล่าวไม่เพียงล้ำค่า แต่ยังช่วยให้ผู้อำนวยการซอนขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้ด้วย และสิ่งที่เขาอยากได้เป็นการตอบแทนคือ...ตำแหน่งอธิการบดี

หลังพิจารณารูปถ่ายภาพวาด "กึมกังซานโด" อย่างละเอียด จียุนพบว่าบนกรอบผ้าแคนวาส (ผ้าไหม) มีลวดลายของต้นและใบเมเปิ้ลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภาพวาดในยุคเอโดะของญี่ปุ่น (ช่วงที่ยุคเอโดะของญี่ปุ่นเริ่มต้นขึ้น ตรงกับยุคกลางของราชวงศ์โชซอน ขณะที่อันคยอนมีชีวิตอยู่ในยุคต้นของราชวงศ์โชซอน) พอเห็นดังนั้นแล้วจียุนก็รู้สึกหนักใจ แต่เธอยังไม่ทันได้ตรวจสอบต่อเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรฯ มาหา "ชอง มินซอก" สามีของเธอกลางดึก  เมื่อจียุนแจ้งว่ามินซอกยังไม่กลับบ้าน เจ้าหน้าที่ธนาคารก็ฝากบอกให้สามีของเธอโทรฯ กลับแล้ววางหูทันที

เมื่อมินซอกกลับมาถึงบ้าน จียุนก็หยุดทำงานแล้วทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพให้สามี ก่อนเล่าเรื่องภาพวาด "กึมกังซานโด" ให้มินซอกฟัง เธอกล่าวว่าศาตราจารย์มินยืนยันว่าภาพวาดดังกล่าวเป็นของแท้ และภาพจะถูกนำไปจัดแสดงที่แกลลอรี่ของซอนจินกรุ๊ป แต่เธอกลับรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล เพราะเทคนิคการลงแปรงและลากเส้น ตลอดจนเนื้อผ้าแคนวาส แลดูผิดแปลกไปจากผลงานชิ้นอื่นของอันคยอน มินซอกถามจียุนว่าเธอคิดจะตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับคนที่เหนือกว่าอย่างศาสตราจารย์มินงั้นหรือ เขาเตือนเธอว่าไม่ควรเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง และแนะให้เล่นตามน้ำถ้าไม่อยากเดือดร้อน




จียุนนึกขึ้นได้ว่าธนาคารโทรฯ มาเลยถามมินซอกว่าทำไมธนาคารถึงโทรฯ มาหาเขากลางดึก แต่มินซอกแกล้งทำเป็นหูทวนลมและมีสีหน้ากังวลใจ ก่อนเข้านอนจียุนบอกมินซอก (ซึ่งนอนเอามือก่ายหน้าผาก) ว่าเธอจะบินไปประชุมเช้าวันเสาร์นี้ พอรู้ว่าจียุนจะเดินทางไปประชุมที่โบโลญญา ประเทศอิตาลี มินซอกก็ตำหนิอย่างหัวเสียที่เธอบอกกระทันหันเกินไป  จียุนแย้งว่าเธอบอกเขาตั้งแต่เดือนที่แล้วและยังเตือนด้วยว่าเธอกลับมาประชุมที่แดชิดง (ที่ตั้งโรงเรียนลูกชายซึ่งเป็นย่านหรู) ไม่ทัน 

จียุนพรีเซนต์งานวิจัยในวันสัมมนาและเปิดตัวภาพวาด "กึมกังซานโด" ที่มหาวิทยาลัย โดยกล่าวว่าที่ผ่านมาภาพวาดของแท้ของอันคยอนเพิ่งถูกค้นพบเพียงชิ้นเดียว นั่นก็คือภาพ "มงยูโดวอนโด"  (Dream Journey to the Peach Blossom Land) ซึ่งปัจจุบันถูกเก็บรักษาที่มหาวิทยาลัยเท็นรี ประเทศญี่ปุ่น (ภาพวาดดังกล่าวอันคยอนวาดให้องค์ชายอันพยองเมื่อปี ค.ศ. 1447) จึงเป็นเหมือนปาฏิหาริย์ที่ภาพวาด "กึมกังซานโด" ของอันคยอนได้ถูกค้นพบหลังหายสาบสูญไปนาน 500 ปี

หลังจากนั้นจียุนก็เชิญศาตราจารย์มินขึ้นพูดบนเวทีเรื่องประวัติความเป็นมาและความสำคัญของภาพวาดโบราณดังกล่าว ขณะที่ศาตราจารย์มินกำลังอธิบาย  "ฮัน ซังฮยอน" ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ฟังก็ยกมือแล้วลุกขึ้นก่อนชี้ว่าภาพ "กึมกังซานโด" ที่เพิ่งถูกค้นพบมีบางจุดที่น่าสงสัย (ซึ่งตรงกับที่จียุนตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้) จากนั้นก็ถามศาตราจารย์มินว่าภาพดังกล่าวเป็นของแท้จริงหรือ เขายังชี้ด้วยว่าแค่ศาตราจารย์มิน (ซึ่งจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยเยลหลังทำงานวิจัยเกี่ยวกับผลงานของอันคยอน) ฟันธงว่าภาพวาดเป็นของแท้ก็เชื่อได้ทันทีว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงงั้นหรือ  (ซังฮยอนเป็นอดีตอาจารย์ที่ถูกศาตราจารย์มินไล่ออกเพราะบังอาจเห็นต่าง และยังเป็นแกนนำการประท้วงในมหาวิทยาลัยอีกด้วย)




หลังถูกล็อคตัวซังฮยอนก็สะบัดตัวออกแล้วโวยลั่นว่ามหาวิทยาลัยไม่ควรปิดกั้นการแสดงออกทางความคิด เมื่ออาจารย์ท่านหนึ่งอนุญาตให้ซังฮยอนพูดต่อ ซังฮยอนก็ถามจียุนต่อหน้าทุกคนว่าเธอไม่มีข้อสงสัยใดๆ ในภาพวาดดังกล่าวเลยหรือ เขาขอให้เธอตอบในฐานะนักวิชาการไม่ใช่ในฐานะลูกศิษย์ของศาตราจารย์มิน ก่อนถามย้ำว่า เธอมั่นใจว่าภาพดังกล่าวเป็นของอันคยอนจริงโดยไม่มีข้อกังขาใดๆ ทั้งสิ้นเลยหรือ จียุนอึ้งไปชั่วขณะก่อนยอมรับว่าตนไม่แน่ใจว่าภาพดังกล่าวเป็นของจริง ถึงกระนั้นเธอก็พยายามแก้ตัวให้ศาตราจารย์มินโดยอธิบายว่า แม้กรอบของภาพวาดจะมีลวดลายของใบเมเปิ้ลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภาพวาดในยุคเอโดะ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ภาพวาดจะถูกติดกรอบหรือขอบภาพใหม่ในภายหลัง ดังนั้นการประเมินจากกรอบภาพเพียงอย่างเดียวจึงไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง แต่ควรนำเทคนิคในการวาดภาพและตัวอักษรที่ปรากฏมาพิจารณาประกอบกัน แต่ถ้ายังหาข้อสรุปไม่ได้ก็คงต้องพึ่งเรดิโอคาร์บอน (เป็นการกำหนดอายุของภาพด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์) และการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับผู้เชี่ยวชาญ

จียุนชี้ว่าศาตราจารย์มินอุทิศตนให้กับการวิจัยภาพวาดของอันคยอนมานาน 30 ปี การนำประเด็นดังกล่าวมาตั้งข้อสงสัยต่อหน้าศาตราจารย์มินจึงไม่ใช่เรื่องที่สมเหตุสมผล ทั้งยังเหน็บซังฮยอนว่าเขาคงดูรายการทีวีเกี่ยวกับงานศิลปะมากเกินไป และนั่นก็ทำให้ซังฮยอนกลายเป็นตัวตลกและตัวป่วนในสายตาทุกคน หลังจบงานศาตราจารย์มินพยายามโน้มน้าวให้ผู้อำนวยการซอนเชื่อใจตนโดยกล่าวว่าการถูกตั้งข้อสงสัยและวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องปกติของวงการศิลปะโบราณ ถึงกระนั้นผู้อำนวยการซอนก็ยังไม่มั่นใจ (ก่อนหน้านี้ศาตราจารย์มินเพิ่งบอกเธอว่าจียุนเป็นคนเก่งและจะทำประโยชน์ให้พวกตนได้มาก) เธอจึงย้ำกับศาตราจารย์มินว่าเขาจะต้องรับผิดชอบภาพวาดดังกล่าว ศาตราจารย์มินรับปากโดยเอาประสบการณ์ 30 ปีและอาชีพของตนเป็นประกัน เขาโกรธจียุนที่หักหน้าตนกลางเวที แต่พอจียุนมาขอโทษเขากลับทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งยังบอกจียุนว่าไม่ต้องใสใจและให้เอาเวลาไปทุ่มเทกับการเตรียมงานพรีเซนต์ที่โบโลญญา พูดจบเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

ขณะพาลูกชายและแม่สามีไปทานอาหารที่ภัตตาคารหรู จียุนพยายามโทรฯ หามินซอกหลายครั้งแต่ติดต่อไม่ได้ เธอเลยตำหนิเขาผ่านวอยซ์เมล์ที่ไม่ยอมมาทานอาหารค่ำกับคนในครอบครัวอย่างพร้อมหน้าอีกตามเคย ทั้งๆ ที่วันนี้เขาต้องบอกแม่เรื่องที่เธอจะเดินทางไปประชุมที่อิตาลี ในตอนนั้นมินซอกยังคงอยู่ที่ออฟฟิศ เขาเพิ่งได้รับแจ้งข่าวร้ายว่าบริษัทกำลังโดนตรวจสอบทางการเงิน หลังวางสายลูกน้องก็รายงานว่าหุ้นดิ่งลงเหวทำให้บริษัทขาดทุนย่อยยับถึง 1.2 หมื่นล้านวอน (ราว 350 ล้านบาท) มินซอกยังไม่ทันขยับหรือเตรียมการรับมือ อัยการก็บุกมาตรวจค้นบริษัทและยึดเอกสารหลักฐานต่างๆ ไปจนหมด แต่มินซอกไหวตัวทันเลยชิงหลบหนีไปเสียก่อน




เมื่อจียุน แม่สามี และลูกชาย กลับมาถึงบ้าน (คอนโดหรู) ก็พบว่าข้าวของและทรัพย์สินต่างๆ ในบ้านถูกแปะป้ายว่าถูกยึด แถมในห้องนั่งเล่นยังเต็มไปด้วยเจ้าหนี้ที่พากันมานั่งรอมินซอกด้วยความโกรธแค้นหลังถูกเบี้ยวหนี้ แถมเขายังปิดโทรศัพท์หนี พอรู้ว่าลูกชายเป็นหนี้ก้อนโตจองฮีก็ถึงกับเข่าอ่อน มินซอกแอบโทรฯ มาบอกจียุนให้พาคนในบ้านหนีไปหลบอยู่ที่อื่นชั่วคราว จียุนจึงพาแม่สามีและลูกชายไปพักที่อพาร์ทเมนท์ของ "โก ฮเยจอง" ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท หลังเกิดวิกฤติภายในครอบครัวจียุนจึงหมายมั่นลั่นวาจากับแม่สามีว่าตนจะเป็นศาสตราจารย์ให้ได้ และจะเป็นเสาหลักให้ครอบครัวจนกว่าสามีจะกลับมา

ระหว่างเดินทางไปประเทศอิตาลี ศาตราจารย์มินให้แอร์โฮสเตสเรียกจียุนมาพบที่ห้องโดยสารชั้นธุรกิจ เพื่อตรวจสอบเอกสารและข้อมูลสำหรับการพรีเซนต์ (จียุนเตรียมให้เขาทุกอย่างแม้กระทั่งสคริปต์) ถึงกระนั้นศาตราจารย์มินก็ยังหาเรื่องตำหนิเกี่ยวกับสีและดีไซน์ของสไลด์ซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญ (และเขาเป็นคนเลือกรูปแบบนี้เอง) จียุนได้แต่ก้มหน้าก้มตาแก้ไข แต่พอแก้แล้วศาตราจารย์มินกลับไม่สนใจ ระหว่างเช็คอินที่โรงแรมในโบโลญญา จียุนบังเอิญได้พบกับ "ปีเตอร์" นักประวัติศาสตร์ศิลป์ชื่อดังซึ่งเธอพกหนังสือของเขาติดตัวมาด้วย เธอเลยนำหนังสือเล่มดังกล่าวมาขอลายเซ็น ปรากฏว่าปีเตอร์จำจียุนได้ เพราะเขาเพิ่งดูคลิปเปิดตัวภาพวาด "กึมกังซานโด" ในอินเตอร์เน็ต เขาจึงบอกจียุนว่าภาพดังกล่าวมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลและแนะให้เธอทำวิจัยเพิ่มเติม

ศาตราจารย์มิน (ซึ่งนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ฆ่าเวลาระหว่างรอจียุนติดต่อห้องพัก) หันมาเห็นจียุนยืนคุยกับปีเตอร์เลยรีบเดินมาขัดจังหวะ จียุนสบโอกาส (แอบ) เปิดดูคลิปในยูทูป พอรู้ว่าภาพเหตุการณ์ตอนที่ซังฮยอนแย้งศาตราจารย์มินว่าภาพวาด "กึมกังซานโด" ไม่ใช่ของแท้ถูกนำไปแฉในยูทูป จียุนทั้งตกใจและกลัวศาตราจารย์มินเห็น แต่ศาตราจารย์มินก็เห็นจนได้ เขาเลยโทรฯไปตำหนิผู้ช่วยและขู่ว่าจะไล่ทุกคนออก หลังเห็นคลิปแล้วผู้อำนวยการซอนก็โทรฯ มาสั่งให้ศาตราจารย์มินจัดการเรื่องยุ่งๆ ให้เสร็จโดยเร็ว



จียุนดูแลและจัดเตรียมทุกสิ่งให้ศาตราจารย์มินไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน แต่ศาตราจารย์มินกลับไม่เห็นหัวเธอ ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่ยอมแพ้เพราะเป้าหมายของเธอคือการเป็นศาสตราจารย์ และคนเดียวที่จะช่วยให้ฝันของเธอเป็นจริงได้คือ....ศาตราจารย์มิน! จียุนแต่งตัวสวยไปร่วมงานเลี้ยงในตอนเย็น แต่ศาตราจารย์มินกลับสั่งให้เธอออกไปซื้อของใช้ส่วนตัว ครั้นพอกลับมาพร้อมถุงใส่ของใช้ ศาตราจารย์มินก็ไล่เธอออกจากโรงแรม ทั้งยังแนะให้เธอเปลี่ยนสาขาวิชาเอกและเตือนว่าอย่ามาให้ตนเห็นหน้าอีก หากยังคงดื้อดึงตนจะเหยียบย่ำเธอให้จมดินเพื่อไม่ให้เธอกลับเข้าวงการได้อีก จียุนเดินคอตกกลับห้องพักแต่แล้วกลับพบว่าข้าวของและกระเป๋าเดินทางทั้งหมดของเธอถูกนำมากองไว้ที่หน้าห้องทั้งๆ ที่เธอยังไม่ได้เช็คเอาท์ ครั้นไปร้องเรียนกับพนักงานต้อนรับเธอกลับถูกผู้จัดการเชิญออกจากโรงแรม

ที่แท้ศาตราจารย์มินวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ต้น เขาสร้างสถานการณ์เพื่อหาเรื่องไล่จียุนออก โดยโทรฯ ไปบอกทางมหาวิทยาลัยว่าเธอทิ้งงานแล้วหนีไปช้อปปิ้ง แถมยังเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมไปแล้ว เมื่อฮเยจองโทรฯ มาบอก จียุนก็ถึงกับอึ้งพูดไม่ออก  ฮเยจองบอกจียุนว่านี่คือธาตุแท้ของศาตราจารย์มิน (เขามักหลอกใช้และขโมยผลงานลูกศิษย์) จากนั้นก็ชี้ว่าทางเดียวที่จะกู้ชื่อและต่อกรกับศาตราจารย์มินได้คือการหาหลักฐานมายืนยันว่าภาพวาด "กึมกังซานโด" เป็นของปลอม พอรู้ว่าตนเองโดนหลอกใช้และทุกสิ่งที่ทุ่มเททำลงไปตลอด 5 ปีนั้นสูญเปล่า จียุนก็ได้แต่ร่ำไห้และลากกระเป๋าเดินทางไปตามถนนอย่างคนไร้จุดหมาย 

หลังดื่มโซจูแบบกล่องที่พกมาด้วย จียุนก็กรีดร้องด้วยความโกรธแค้นก่อนโยนหนังสือของศาตราจารย์มินทิ้ง (เธอเป็นคนหาข้อมูลและเขียนเนื้อหาทั้งหมดให้ศาตราจารย์มิน) จากนั้นก็เดินลากกระเป๋าไปตามถนนในสภาพกึ่งหมดแรงกึ่งเมา (เธอไม่รู้ตัวว่าถูกแอบถ่ายรูป) จียุนมัวแต่เดินก้มหน้าก้มตาเลยไม่ทันเห็นว่ามีคนขี่รถจักรยานสวนมา ด้วยความตกใจเธอเลยเบี่ยงตัวหลบทำให้เสียหลักล้มไปชนชั้นวางหนังสือเล็กๆ ที่ตั้งอยู่หน้าร้านขายหนังสือมือสองจนล้มคว่ำ จียุนรีบขอโทษและยื่นธนบัตรจำนวนหนึ่งให้เจ้าของร้านหมายชดใช้ค่าเสียหาย แต่เจ้าของร้านไม่ยอมรับเงินของเธอเพราะเห็นว่าเธอไม่ได้ตั้งใจและไม่มีอะไรเสียหาย ซ้ำยังหยิบหนังสือที่ร่วงอยู่บนพื้นใส่ถุงให้เธอ 2-3 เล่มและอวยพรให้เธอโชคดี (เขาเห็นเธอหน้าตาหมองเศร้าและอยู่ในสภาพเหมือนคนไร้วิญญาณ)




หลังเข้าพักในโมเต็ลเล็กๆ  จียุนได้รับข้อความจากมินซอกว่าบ้านของพวกตนถูกเจ้าหนี้ยึดแล้ว เธอจึงขว้างโทรศัพท์ทิ้งด้วยความโมโห ก่อนร่ำไห้ที่ชีวิตไม่เป็นดังหวัง  ทันใดนั้นเธอก็เหลือบเห็นหนังสือโบราณเล่มหนึ่งในถุงที่เจ้าของร้านขายหนังสือมือสองให้มา เมื่อหยิบออกมาดูก็พบว่าเป็นบันทึกโบราณซึ่งหน้าปกเขียนด้วยอักษรจีนว่าภาพวาด "กึมกังซานโด" และยังมีภาษาอิตาลีเขียนว่า "ซีเอสต้า ดี ลูน่า" อีกด้วย เมื่อเสิร์ชหาในกูเกิ้ลเธอก็พบเพียงคำแปล  ("ซีเอสต้า ดี ลูน่า" แปลแบบตรงตัวได้ว่า การงีบหลับตอนกลางวันของดวงจันทร์)  เธอจึงออกสืบหาเบาะแสของ "ซีเอสต้า ดี ลูน่า" จนพบว่าเป็นชื่อวิลล่ายุคเรเนสซองส์ (ราวศตวรรษที่ 14-17) ซึ่งตั้งอยู่กลางไร่องุ่นในแคว้นทัสคานี  

* โบโลญญาเป็นเมืองหลวงของแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา ส่วนแคว้นทัสคานีมีฟลอเรนซ์เป็นเมืองหลวง (ทั้งสองแคว้นอยู่ติดกัน)

ปรากฏว่าวิลล่าดังกล่าวคือสถานที่ๆ ลี คยอม เคยพำนักอยู่ (หลังหนีโทษประหารมาที่นี่) เมื่อผู้ดูแลวิลล่าพาจียุนไปดูห้องโถงใหญ่ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงเต้นรำในอดีต จียุนก็รู้สึกแปลกๆ เพราะมีเสียงดนตรีดังแว่วเข้ามาในหู ซ้ำยังมีลมพัดวูบ ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้ชายกรีดร้อง (ลี คยอม กรีดร้องตอนต้นเรื่อง) เมื่อเธอหันไปมองที่ระเบียงด้านบนก็พบเพียงความว่างเปล่า จียุนรู้สึกว่ามีใครจ้องมองเธอจากด้านบนจึงรีบเดินขึ้นบันไดโดยไม่ฟังคำทัดทานของผู้ดูแลวิลล่า

จียุนเดินเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง เมื่อผู้ดูแลวิลล่าเห็นหน้าต่างบานหนึ่งเปิดอยู่จึงบ่นเรื่องที่คนของตนลืมปิดหน้าต่างอีกตามเคย จียุนหันไปเห็นกระจกบานใหญ่จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ คล้ายต้องมนต์ ทันใดนั้น กระจกก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ต่อหน้าเธอและเผยให้เห็นตู้ไม้เก่าแก่ที่มีภาพจิตรกรรมอันงดงาม (แต่สีค่อนข้างเลือนลางตามกาลเวลา) เมื่อเปิดออกดูก็พบว่าภายในมีภาพวาดโบราณรูปหญิงสาวชาวเกาหลี (ชิน ซาอิมดัง) แขวนอยู่ และหญิงสาวที่อยู่ในภาพก็หน้าตาเหมือนเธอราวกับเป็นคนๆ เดียวกัน ผู้ดูแลวิลล่าเห็นดังนั้นจึงคิดว่าโชคชะตานำพาจียุนมาที่นี่ เขาจึงมอบภาพวาดและของที่อยู่ในตู้ให้เธอ (ในนั้นมีบันทึกโบราณสองเล่ม และถุงผ้าบรรจุเมล็ดพันธุ์พืช)




ระหว่างเดินทางกลับเกาหลี จียุนพยายามแปลความหมายของบทกวีในบันทึกโบราณเล่มหนึ่งซึ่งบรรยายถึงความรู้สึกอาลัยและเศร้าใจที่ผู้บริสุทธิ์ต้องมาตายจากไป เมื่อไปถึงสนามบินอินชอนจียุนก็นำเมล็ดพันธุ์พืชโบราณไปให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจพืชของทางสนามบินตรวจสอบ ขณะที่เธอกำลังจะออกจากสนามบินเพื่อเดินทางไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยตามปกติ ทางมหาวิทยาลัยก็ส่งข้อความมาบอกว่าเธอกำลังจะถูกคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัย ครั้นพอไปถึงก็พบว่าทางมหาวิทยาลัยหาคนอื่นมาสอนแทนเธอทั้งๆ ที่ยังไม่หมดสัญญา และเธอจะต้องมาฟังผลการพิจารณาในวันพรุ่งนี้

จียุนลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาเจอกลุ่มผู้ประท้วงจึงหยุดมองซังฮยอนด้วยความโกรธแค้นก่อนเดินผ่านไปเงียบๆ (ซังฮยอนและแนวร่วมกำลังปักหลักประท้วงทางมหาวิทยาลัย) ซังฮยอนเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งตามไป จียุนเหน็บว่าเขาจะชวนเธอมาประท้วงด้วยหรือ ซังฮยอนชี้ว่าเขาแค่ต้องการขอโทษที่มีส่วนทำให้เธอเดือดร้อนแต่จียุนไม่ยอมให้อภัย ซังฮยอนแย้งว่าเธอเองก็เห็นด้วยกับตนว่าภาพวาด "กึมกังซานโด" ของอันคยอนอาจไม่ใช่ของแท้ จียุนฟังแล้วเถียงไม่ออก ครั้นพอซังฮยอนพูดแทงใจดำ (โดยไม่รู้ตัว) ว่าถึงโดนไล่ออกคนอย่างเธอก็คงไม่เดือดร้อน จียุนก็ฟิวส์ขาดและโวยลั่น ซังฮยอนเห็นจียุนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยได้แต่ยืนมองแบบงงๆ

จียุนพยายามหาหลักฐานและพยานมายืนยันความบริสุทธิ์ของตน แต่กลับคว้าน้ำเหลวเพราะศาสตราจารย์มินวางแผนเอาไว้อย่างดีและไม่เปิดช่องให้เธอมีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น ฮเยจองจึงคิดลางานเพื่อไปเป็นพยานให้จียุน (ตอนจียุนอยู่โบโลญญาทั้งคู่ส่งข้อความคุยกันตลอด ฮเยจองจึงคิดนำข้อความที่คุยกันมาเป็นหลักฐาน)  เมื่อมินซอกโทรฯ มาหา จียุนจึงรีบไปพบเขาที่สถานีรถไฟฟ้า ปรากฏว่ามินซอกไม่ยอมปรากฏตัวและไม่รับสายแต่กลับส่งข้อความมาบอกพิกัดและรหัสตู้ล็อคเกอร์ภายในสถานีรถไฟแทน เมื่อจียุนเปิดล็อคเกอร์ก็พบเงินสดเป็นจำนวนมาก (ในจำนวนนั้นมีธนบัตรใบละ 5 หมื่นวอน ซึ่งด้านหน้าเป็นรูปของ "ชิน ซาอิมดัง") พร้อมข้อความที่บอกให้เธอนำเงินจำนวนนี้ไปหาที่อยู่ใหม่

* ชิน ซาอิมดัง เป็นผู้หญิงคนแรกที่มีรูปปรากฏบนธนบัตรของเกาหลีใต้ โดยภาพของเธอปรากฏอยู่บนธนบัตรใบละ  5 หมื่นวอน (ราว 1,455 บาท) ซึ่งเริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2009)




วันรุ่งขึ้น จียุนถูกคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย (หนึ่งในนั้นคือศาสตราจารย์มิน) เธอพยายามอธิบายว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิดและนำหลักฐาน (ข้อความที่คุยกับฮเยจอง) มายืนยัน พร้อมทั้งบอกว่าฮเยจองยินดีเป็นพยานให้เธอ  คณะกรรมการยังไม่ทันได้ดูเอกสาร ศาสตราจารย์มินก็สั่งให้คนของตนนำภาพตอนที่จียุนถือถุงช้อปปิ้งออกมาแฉ  (เธอออกไปซื้อของตามคำสั่งเขาและถือถุงเข้ามาในงานเลี้ยง)  ซ้ำยังเปิดคลิปแอบถ่ายจียุนตอนสติแตกและด่ากราดกลุ่มชายชาวอิตาลีกลางถนนในโบโลญญา  ให้กรรมการทุกคนดู (คลิปที่ว่าถูกใครบางคนนำไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊ค) และนั่นก็ทำให้จียุน (ซึ่งไม่ใช่อาจารย์ประจำ) ถูกเลิกจ้าง

จียุนบุกเข้าไปในห้องทำงานของศาสตราจารย์มินด้วยความโกรธ แต่แล้วเธอกลับคุกเข่าขออภัยและขอให้ศาสตราจารย์มินยกโทษให้ทั้งน้ำตาโดยบอกว่าทั้งหมดเป็นความผิดของตน แม้จียุนจะร่ำไห้อ้อนวอนขอความเมตตาแต่ศาสตราจารย์มินยังไม่ยอมรามือ เขาขู่ว่าจะเล่นงานเธออย่างโหดเหี้ยมและเจ็บแสบที่สุด จากนั้นก็สั่งให้ผู้ช่วยลากเธอออกจากห้อง

*** จบตอนที่ 1 ***

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ภาพจากเอสบีเอส




นักแสดง

อดีต


ลี ยองเอ
รับบท ชิน ซาอิมดัง



ซง ซึงฮอน
รับบท ลี คยอม



โอ ยุนอา
รับบท ฮวีอึมดัง ชเวชี



ชเว ชอลโฮ
รับบท มิน ชีฮยอง 



ชเว จงฮวาน
รับบท พระเจ้าจุงจง (พระราชาองค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์โชซอน)



ยุน ดาฮุน
รับบท ลี วอนซู

ปัจจุบัน


ลี ยองเอ
รับบท ซอ จียุน



ยาง เซจง
รับบท ฮัน ซังฮยอน



ชเว จงฮวาน
รับบท มิน จองฮัก



คิม แฮซุก
รับบท คิม จองฮี



ลี แฮยอง
รับบท ชอง มินซอก



ปาร์ค จุนมยอน
รับบท โก ฮเยจอง




รวมคลิปตัวอย่างจาก เอสบีเอส นาว




รวมเพลงประกอบจาก 1theK (원더케이)


*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

1 ความคิดเห็น:

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา