วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

เรื่องย่อ เงารักในความทรงจำ (Memories of Love)




กำกับ: หลิวเหมียวเหมี่ยว
เขียนบท: ถังเหยา
แนวละคร: โรแมนติก, ดราม่า
จำนวนตอน: 30 
ออกอากาศ: จีน - 7 กุมภาพันธ์ 2561ทาง ดราก้อนทีวี และ เจียงซูทีวี
                    ไทย - ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 22.00 น. ทางช่อง 9 MCOT HD (หมายเลข 30) ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 - 12 มีนาคม 2565





เรื่องย่อ




ละคร "เงารักในความทรงจำ" (Memories of Love) ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง "Yi Lu Fan Hua Xiang Song" (一路繁花相送) ของ "ชิงซานลั่วทั่ว" เนื้อหาในละครกล่าวถึงเรื่องราวความรักระหว่าง "ลู่เฟย" ผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงในระดับสากลแต่ไม่เป็นที่รู้จักในประเทศจีน  กับ "ซินเฉิน" ครูสอนเต้นบัลเล่ต์ ที่กลับมาพบและรักกันอีกครั้งหลังห่างหายกันไปนานนับสิบปี


"ลู่เฟย" เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล หลังปิดกล้องภาพยนตร์เรื่องที่ 4 ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เขาก็เตรียมเดินทางไปประเทศจีนในคืนวันรุ่งขึ้น (เขาเพิ่งกลับจีนครั้งแรก หลังย้ายไปตั้งรกรากที่อเมริกาเมื่อสิบปีก่อน) เมื่อแม่เขาทราบข่าวจึงโทรฯ มาคัดค้าน โดยเตือนว่าที่นั่นมีแต่ความทรงจำอันแสนเจ็บปวด และเธอไม่อยากให้เขาทิ้งงานที่อเมริกา ลู่เฟยขอโทษแม่และยืนกรานว่าคราวนี้ตนจำเป็นต้องไป แม้ได้รับข้อเสนอให้กำกับภาพยนตร์ที่ประเทศจีน แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจเดินทางไปที่นั่นเป็นเพราะ ตลอดสิบปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยลืม "ซินเฉิน" (รักแรก) และยังโหยหาเธอเสมอ เขาจดจำทุกสิ่งเกี่ยวกับเธอและเกาะเวยอวี่ ทั้งยังไม่ลืมสัญญาที่เคยให้ไว้ต่อกัน ขณะเดียวกันก็รู้สึกผิดที่จากเธอไปเมื่อสิบปีก่อนโดยไม่ทันร่ำลา 

ซินเฉินมาที่เกาะเวยอวี่ (ประเทศจีน) เพื่อมาเอาขวดบรรจุความปรารถนาที่ฝังไว้ใต้ทะเลเมื่อสิบปีก่อนโดยไม่รอลู่เฟย จากนั้นก็แวะไปที่บ้านผู้เป็นอา "ซินไคอวี่" ด้วยสภาพจิตใจที่ไม่สู้ดีนัก อีกด้านหนึ่งลู่เฟยกำลังจะขึ้นรถไปสนามบิน แต่เพื่อนร่วมวงการคนหนึ่งมาเกลี้ยกล่อมให้เขาไปกำกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่มีดาราระดับแถวหน้าอย่าง "ทอม ครูซ" และ "เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์" ร่วมแสดง ลู่เฟยยังคงยืนกรานว่าจะกลับไปทำภาพยนตร์ทดลอง (Experimental film) ที่ประเทศจีน ถึงแม้ว่าจะเป็นโปรเจ็คเล็กๆ ที่ไม่ทำเงินก็ตาม ขณะอยู่บนรถเขาส่งข้อความถึง "ซินตี๋" (แฟชั่นดีไซเนอร์ เป็นญาติผู้พี่ของซินเฉินและเพื่อนของลู่เฟย) เพื่อบอกว่าตนกลับจีนแล้ว และถามว่าซินเฉินอยู่ที่ใด ซินตี๋โกหกว่าซินเฉินไปปฏิบัติธรรมที่ทิเบต 



หลังออกจากสนามบินลู่เฟยก็ตรงไปที่เกาะเวยอวี่ทันที (เมื่อสิบปีก่อนลู่เฟยกับซินเฉินเคยให้คำมั่นต่อกันกันที่ริมชายหาดบนเกาะเวยอวี่ว่า วันนี้เวลา 15.50 น. ในอีกสิบปีข้างหน้า พวกตนจะกลับมาที่นี่และมาเอาขวดความปรารถนาไปเปิดดูด้วยกัน) ลู่เฟยกลับมาที่ชายหาดตามสัญญาแต่ไม่พบซินเฉิน ครั้นพบว่าตนมาสายเป็นชั่วโมงเขาจึงดำน้ำลงไปเอาขวดโดยไม่ลังเล หลังพบว่าขวดอีกใบหายไปเขาจึงโทรฯ ไปต่อว่าซินตี๋* ที่โกหกตนว่าซินเฉินอยู่ทิเบต เขาเดาว่าซินเฉินคงรู้แล้วว่าตนกลับมาเลยมาเอาขวดขึ้นไปก่อน เขาจึงมั่นใจว่าตอนนี้ซินเฉินอยู่ที่บ้านไคอวี่ ซินตี๋รีบโทรฯ บอกซินเฉินว่าลู่เฟยกำลังจะไปหาเธอที่นั่น ซินเฉินจึงหลบอยู่ในบ้านกับไคอวี่ ลู่เฟยรู้ว่าทั้งคู่อยู่ในบ้านจึงพยายามร้องเรียกและโทรฯ หาแต่ไม่เป็นผล เขาจึงได้แต่นั่งรออยู่หน้าบ้าน คืนนั้น ไคอวี่โทรฯ แจ้ง "เหล่าหลิน" (เพื่อนที่เป็นตำรวจ) ว่ามีขโมยขึ้นบ้าน ลู่เฟยจึงถูกคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก

* ตอนนั้นซินตี๋อยู่ในโรงแรมที่ฮ่องกง (เธอไปร่วมงานแฟชั่นวีค) และกำลังอารมณ์ไม่สู้ดี เพราะก่อนหน้านี้เธอตัดสินใจว่าจะมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับนายแบบและนักแสดงหนุ่ม "ไต้เหวยฝาน" แต่เขาเร่าร้อนเกินไปเธอจึงบอกให้เขาค่อยเป็นค่อยไปและสารภาพว่าเธอเป็นสาวบริสุทธิ์ เหวยฝานซึ่งมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงมานับครั้งไม่ถ้วนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตกใจ เขาไม่อยากเชื่อว่าจนป่านนี้แล้ว (อายุ 28 ปี) ซินตี๋ยังเป็นสาวพรหมจรรย์ เลยขอโทษและบอกว่าตนยังไม่พร้อมจากนั้นก็หนีกลับห้องไป แต่สักพักก็กลับมาใหม่เพื่อขอโทษและสารภาพว่าเขาชอบเธอ ซินตี๋กำลังหงุดหงิดเลยไล่เขาออกจากห้องไป 



"จี้รั่วลี่" (ผู้จัดการที่ต่างประเทศของลู่เฟย) โทรฯ  หา "หลิวฮ่าวหราน" (ผู้ช่วยลู่เฟยที่ประเทศจีน) ด้วยความร้อนใจหลังติดต่อลู่เฟยไม่ได้ เธอสงสัยว่าลู่เฟยอยู่ที่เกาะเวยอวี่เลยแนะให้ฮ่าวหรานลองไปหาลู่เฟยที่นั่น หลังลู่เฟยถูกคุมตัวไปโรงพักซินเฉินกับไคอวี่ก็ดื่มฉลองกัน ทว่าความจริงแล้วซินเฉินไม่เคยลืมลู่เฟย ไคอวี่แอบเป็นห่วงลู่เฟยจึงไปหาเหล่าหลินกลางดึกเพื่อขอให้เหล่าหลินช่วยดูแลลู่เฟย (บนเกาะไม่มีโรงแรมและค่อนข้างมืด ไคอวี่จึงฝากลู่เฟยไว้กับตำรวจ) หลังออกจากเกาะเวยอวี่ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นลู่เฟยก็เรียกฮ่าวหรานมาพบทันที เขาเคยบอกฮ่าวหรานว่าพวกตนยังขาดผู้กำกับท่าเต้น ฮ่าวหรานจึงนำข้อมูลของนักเต้นมืออาชีพทั้งหมดในเมืองมาให้ลู่เฟยเลือก ครั้นเห็นข้อมูลของซินเฉินเขาจึงไปหาเธอที่โรงเรียนสอนเต้นบัลเล่ต์สำหรับเด็ก แต่พอไปถึงกลับพบว่าซินเฉินกำลังพูดคุยกับซินตี๋ (ซึ่งเพิ่งกลับจากฮ่องกง) และ "หลินเล่อชิง" อย่างมีความสุข เขาจึงจากไปเงียบๆ (เล่อชิงเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยของลู่เฟย และเป็นเพื่อนสนิทของซินเฉิน ปัจจุบันเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวย ทั้งยังอยู่เบื้องหลังการลงทุนสร้างภาพยนตร์ที่กำกับโดยลู่เฟยอีกด้วย) 


ลู่เฟยเชื่อว่าซินเฉินจำสัญญาสิบปีของพวกตนได้ เขาจึงคิดที่จะหาคำตอบว่าในใจของซินเฉินยังมีตนหลงเหลืออยู่บ้างไหม เล่อชิงพาซินเฉินไปทานไอศกรีมและถามว่าเธออยากร่วมงานกับบริษัทภาพยนตร์ในฐานะผู้ออกแบบท่าเต้น (ผู้กำกับท่าเต้น) ไหม (เขารู้ว่าก่อนหน้านี้ฮ่าวหรานเคยมาติดต่อโรงเรียนสอนเต้นที่ซินเฉินทำงานอยู่ เพราะฮ่าวหรานไม่เพียงทำงานให้ลู่เฟยกับรั่วลี่ แต่ยังแอบทำงานให้เล่อชิงอีกด้วย) ซินเฉินยืนกรานว่าเธอไม่สนใจ และหยอกเล่อชิงว่าเขารู้จักคนในวงการภาพยนตร์ หรือว่าเป็นสายของบริษัทผลิตภาพยนตร์กันแน่ เล่อชิงปฏิเสธโดยบอกว่านักลงทุนอย่างตนจะไปรู้จักคนในวงการภาพยนตร์ได้อย่างไร เล่อชิงชวนซินเฉินไปร่วมพิธีเปิดถนนใหม่ในมหาวิทยาลัยของพวกตน (เขาเป็นคนบริจาคเงินซ่อมถนน ทั้งยังนำชื่อของซินเฉินมาตั้งเป็นชื่อถนนด้วย) แต่ซินเฉินไม่รับปากและเดินออกจากร้านไป 

ลู่เฟยแวะไปหาซินตี๋ที่บริษัท ซินตี๋สงสัยว่าเขากลับจีนเพราะเรื่องงานหรือมาหาซินเฉินกันแน่ ลู่เฟยกล่าวว่าในบางครั้งคนเราก็ไม่อาจแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกัน ซินตี๋ไม่เห็นด้วยที่ลู่เฟยกลับมาหาซินเฉินหลังหนีไปตั้งรกรากที่อเมริกานานนับสิบปี ลู่เฟยอยากรู้ว่าซินเฉินคบกับเล่อชิงแล้วใช่ไหม ซินตี๋ยอมรับว่าเธอเองก็อยากให้เป็นเช่นนั้นเพราะเล่อชิงดีกับซินเฉินมาก เขาทิ้งโอกาสในการควบรวมกิจการและขยายธุรกิจไปต่างประเทศเพียงเพราะต้องการอยู่เคียงข้างซินเฉินที่นี่ ทั้งยังทำทุกอย่างเพื่อซินเฉิน ทุกอย่างกำลังไปได้สวยแต่แล้วอยู่ๆ ลู่เฟยก็กลับมาโดยไม่บอกกล่าว ลู่เฟยตัดบทด้วยการถามว่าซินเฉินกับเล่อชิงไม่ได้คบกันใช่ไหม ซินตี๋ไม่ตอบ เธอบอกเพียงว่าเมื่อคืนเล่อชิงกับซินเฉินไปทานข้าวเย็นด้วยกันมา 

เหวยฝานนำช่อดอกไม้มาง้อซินตี๋ที่บริษัท ซินตี๋อดนึกถึง 'คืนนั้น' ที่ฮ่องกงไม่ได้เลยแกล้งโผเข้ากอดลู่เฟย เหวยฝานเห็นดังนั้นจึงเกิดความหึงหวง เมื่อลู่เฟยกลับไปแล้วเหวยฝานเลยขอเคลียร์เรื่องที่ฮ่องกงกับซินตี๋ แต่ซินตี๋คิดไปเองว่าเขามีปัญหาเรื่องนกเขาไม่ขันจึงแนะให้ไปรักษา ทั้งยังสัญญาว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ 


เล่อชิงอยากให้ลู่เฟยกับซินเฉินเคลียร์กันให้จบเลยนำบัตรเชิญ (บัตรเชิญร่วมงานที่มหาวิทยาลัย) ไปให้ลู่เฟยที่สตูดิโอ แต่ลู่เฟยกับซินเฉินกลับคลาดกัน คืนนั้นเล่อชิงพาลู่เฟยไปทานอาหารที่ร้านของ "เหล่าหู" (เมื่อก่อนเล่อชิง ลู่เฟย และซินเฉิน มักมาทานข้าวด้วยกันที่นี่) เล่อชิงไม่อยากพูดถึงซินเฉินเท่าไหร่นัก แต่ลู่เฟยกลับถามถึงเธอไม่หยุด เล่อชิงรู้ว่าวันนี้ลู่เฟยเห็นตนอยู่บนเวทีกับซินเฉิน เลยถามว่าเห็นพวกตนแล้วรู้สึกอย่างไร ลู่เฟยตอบว่าตนไม่รู้สึกอะไรเลย เล่อชิงแนะให้ลู่เฟยไปเคลียร์กับซินเฉินเพราะเขาจากเธอไปโดยไม่ร่ำลา ซินเฉินมีอาการวิตกจริตหลังรู้ว่าลู่เฟยกลับมา เล่อชิงเลยอยากให้ทั้งคู่เคลียร์ใจกันให้จบๆ เพื่อที่ซินเฉินจะได้เป็นอิสระและไม่มีเรื่องค้างคาใจอีกต่อไป ลู่เฟยได้ยินดังนั้นเลยขอตัวทันที 

ลู่เฟยเชื่อว่าเล่อชิงกับซินเฉินไม่ได้คบหาในฐานะคนรัก มิเช่นนั้นเล่อชิงคงไม่บอกให้เขาไปเคลียร์กับซินเฉินให้สิ้นเรื่องสิ้นราว เขาแอบขอบคุณเล่อชิงที่คอยอยู่เคียงข้างซินเฉินอย่างอดทนมาตลอดสิบปี ซินเฉินเลยต่อสู้กับความเจ็บปวดที่เกิดจากตนได้ ปัญหาคือเขาจะพบนางเอกคนเดียวในดวงใจอย่างซินเฉินอีกครั้งได้อย่างไร เมื่อฮ่าวหรานแจ้งว่าทางบริษัทฯ (ต้นสังกัดนักแสดง) เร่งให้ส่งบทภาพยนตร์ไปให้โดยด่วน โดยอ้างว่าดาราของพวกตนคิวแน่นมาก พวกเขาเลยอยากดูบทภาพยนตร์ฉบับสมบูรณ์ก่อน เพื่อจะได้พิจารณาว่าควรรับงานนี้หรือไม่ แต่ลู่เฟยไม่ส่งให้เพราะยังไม่เจอนักแสดง (บทนางเอก) ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ตนต้องการ ฮ่าวหรานจึงนำข้อมูลนักแสดงที่แนะนำโดยบริษัทผู้ลงทุน (บริษัทของเล่อชิง) มาให้ลู่เฟยดู แต่ลู่เฟยยังคงไม่ถูกใจและบอกให้หาต่อไป 


เล่อชิงเรียกฮ่าวหรานมาพบที่โชว์รูมรถหรูแล้วบอกให้เขาหาทางทำให้ลู่เฟยกับซินเฉินได้พบกัน (เขานำรูปของซินเฉินมาให้ฮ่าวหรานดู แล้วบอกว่าเธอเป็นครูสอนเต้นที่คลาสของ "เกาเม่ย"ครั้นพบว่ารูปที่เล่อชิงให้ดูเป็นรูปเดียวกับภาพอ้างอิงนักแสดงนำหญิงบนกระดานของลู่เฟย เขาจึงไปที่โรงเรียนสอนเต้นของเกาเม่ยแล้วยื่นข้อเสนอว่าจะจ้างซินเฉินกับเกาเม่ยแบบแพคคู่ โดยให้ซินเฉินเป็นผู้กำกับท่าเต้น ส่วนเกาเม่ยเป็นนักแสดงสมทบ เกาเม่ยดีใจจนออกนอกหน้าเพราะเธออยากแสดงหนังและอยากได้เงิน ฮ่าวหรานพาซินเฉินกับเกาเม่ยไปที่สตูดิโอ หมายให้ลู่เฟยได้พบซินเฉินตามที่เล่อชิงต้องการ ครั้นพบโดยบังเอิญว่าผู้กำกับคือลู่เฟย ซินเฉินจึงคิดว่าลู่เฟยออกอุบายให้ฮ่าวหรานพาตนมาที่นี่ เธอลั่นวาจาว่าจะไม่ทำงานให้ลู่เฟยและจากไปด้วยความโกรธ ฮ่าวหรานนึกไม่ถึงว่าซินเฉินกับลู่เฟยจะมีเรื่องบาดหมาง ลู่เฟยนึกไม่ถึงว่าซินเฉินจะอยู่ในห้องทำงานของตน และไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำพูดตัดรอนของเธอ (ซินเฉินไม่รู้ว่าลู่เฟยยืนฟังอยู่ทางด้านนอก) 


ลู่เฟยไม่รู้ว่าจะรับมือซินเฉินอย่างไรจึงไปหาไคอวี่ที่เกาะเวยอวี่โดยนำแผ่นเสียงเพลง "500 Miles" (ที่เขาอัดและนำมาจากอเมริกา) มาให้ไคอวี่เป็นของขวัญ (เพลงดังกล่าวร้องโดยไคอวี่เอง และเป็นเพลงที่ลู่เฟยนำมาประกอบหนังสั้นเรื่องแรกของตนที่อเมริกา) ไคอวี่รู้ว่าลู่เฟยอยากปรึกษาเรื่องซินเฉินจึงออกตัวว่าตนช่วยอะไรไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของคนหนุ่มสาว ถึงกระนั้นเขาก็ช่วยชี้แนะว่าหากตั้งใจแน่วแน่ไม่มีอะไรที่ลู่เฟยทำไม่ได้  ทั้งยังนำเทคนิคการเล่นกระดานโต้คลื่นมาบอกเป็นนัย โดยกล่าวว่าเวลาเล่นกระดานโต้คลื่นลู่เฟยต้องเลือกคลื่นที่ทั้งสูงและใหญ่ แต่ถ้าฝ่าเข้าไปหาคลื่นตรงๆ เขาจะเหนื่อยเจียนตายหรือไม่ก็จมน้ำเสียก่อน ดังนั้น เขาต้องหาวิธีให้คลื่นลูกใหญ่เป็นฝ่ายมาหาตน ลู่เฟยได้ยินดังนั้นก็เข้าใจทันที

หลังจากนั้นลู่เฟยก็เริ่มทำตามคำแนะนำของไคอวี่ โดยเริ่มจากการเปลี่ยนบทใหม่แล้วบอกฮ่าวหรานว่าหนังของตนมีบทเล็กๆ ที่เหมาะกับเกาเม่ย เขาจึงอยากให้ฮ่าวหรานพริ้นต์โครงเรื่องไปให้เกาเม่ยดูแล้วถามว่าเธอสนใจหรือไม่ ฮ่าวหรานเกรงว่าเกาเม่ยจะทำโครงเรื่องจะหลุดรอดออกไป แต่ลู่เฟยบอกว่าไม่ต้องกังวล ฮ่าวหรานแอบนำโครงเรื่องใหม่ไปให้เกาเม่ยสองชุด ก่อนกลับบ้านเกาเม่ยทำโครงเรื่องชุดหนึ่งหล่นกลางห้องซ้อม ซินเฉินเลยหยิบขึ้นมาดู เธอโกรธมากเมื่อพบว่าลู่เฟยนำเรื่องราวของพวกตนมาเขียนเป็นบทหนังโดยใช้ชื่อจริง  ซ้ำยังเขียนบทให้ตัวเองเป็นหนุ่มอัจฉริยะคนดังของมหาวิทยาลัยที่สาวๆ ต่างพากันหลงใหล แต่กลับให้เธอเป็นเด็กกะโปโลที่คอยตามตื๊อและเรียกร้องความสนใจจากเขา โดยที่เขาไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตา 


หลังได้อ่านบทหนังเวอร์ชั่นล่าสุด นักลงทุนจึงขอให้ลู่เฟยแก้ไขบทเพราะเกรงว่าหนังจะไม่ทำเงิน ทั้งยังติว่านางเอกของเรื่องธรรมดาเกินไป แต่ลู่เฟยไม่ต้องการทำหนังตามกระแสเพราะมั่นใจในสิ่งที่ตนทำ และยืนยันว่านางเอกของตนอาจไม่โดดเด่นแต่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ในที่สุดซินเฉินก็บุกไปหาลู่เฟยถึงที่ เธอกล่าวว่าพวกตนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้วจึงหวังว่าเขาจะไม่ล้ำเส้น เธอไม่ต้องการให้เขานำอดีตและชีวิตส่วนตัวของเธอมาเป็นส่วนหนึ่งในหนังของเขา ลู่เฟยแย้งว่านั่นเป็นชีวิตในวัยเยาว์ของตนเช่นกัน เขากล่าวว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาตนไม่เคยลืมเรื่องราวเหล่านั้น ในเมื่อซินเฉินไม่ต้องการเผชิญหน้ากับเรื่องราวในอดีตของพวกตน ตนจะเคารพการตัดสินใจของซินเฉินและไม่รื้อฟื้น ทว่าตนอยากจดจำเรื่องราวเหล่านั้นตลอดไป ตนเลยตัดสินใจว่าจะถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ซินเฉินได้ยินดังนั้นจึงเดินออกจากห้องทันที

ซินตี๋ดูออกว่าลู่เฟยกำลังยั่วยุซินเฉินโดยใช้วิธีการแบบเด็กๆ (เหมือนวัยรุ่นชายแกล้งเด็กผู้หญิงที่ตนชอบเพื่อเรียกร้องความสนใจ) เธอจึงอดขำไม่ได้เมื่อเห็นซินเฉินโกรธจริงจัง หลังได้ดูลู่เฟยให้สัมภาษณ์สื่อออนไลน์ถึงแรงบันดาลใจในการกำกับหนังเรื่องใหม่ ซินเฉินจึงตัดสินใจร่วมงานกับลู่เฟยโดยมีเงื่อนไขสามข้อ คือ เขาและเธอจะพบหน้ากันเฉพาะเวลางาน  จะพูดคุยกันเรื่องงานเท่านั้น และเขาจะต้องเคารพความคิดเห็น (เรื่องงาน) ของเธอ ลู่เฟยยอมลงนามในสัญญาแต่โดยดี ซินเฉินย้ำว่าเธอจะทำหน้าที่ผู้กำกับท่าเต้นเท่านั้น จะไม่เต้นเพื่อใครโดยเฉพาะอย่างยิ่งลู่เฟย (เมื่อสิบปีก่อนเธอเต้นเพื่อให้ลู่เฟยถ่ายคลิปส่งอาจารย์) ลู่เฟยสงสัยว่าทำไมอยู่ๆ ซินเฉินถึงเปลี่ยนใจ ซินเฉินตอบว่าตนคงอยากย้อนเวลากลับไปหาอดีต จะได้เตือนตัวเองไม่ให้ทำเรื่องผิดพลาดเช่นเดิมอีก 


ครั้นรู้ว่าซินเฉินจะมาร่วมงานกับลู่เฟย เล่อชิงจึงบุกมาต่อว่าฮ่าวหรานที่สตูดิโอด้วยความโกรธ (เขาแค่บอกให้ฮ่าวหรานหาทางทำให้ลู่เฟยกับซินเฉินได้พบกัน ไม่ได้สั่งให้รับซินเฉินเข้าทำงาน) ครั้นรู้ว่าแก้ไขอะไรไม่ได้เพราะซินเฉินเซ็นสัญญาแล้ว เขาจึงถามหาลู่เฟย ฮ่าวหรานไม่อยากให้ลู่เฟยรู้ว่าตนเป็นนกสองหัวเลยรีบเผ่น แต่ลู่เฟยดันกลับมาพอดี เพื่อซินเฉินแล้วเล่อชิง (ซึ่งเป็นนักลงทุนสร้างหนังเรื่องนี้ แต่ลู่เฟยกับซินเฉินไม่รู้) ถึงขั้นยอมลดตัวมาทำงานเล็กๆ ที่กองถ่ายในฐานะผู้ช่วย แม้เล่อชิงจะอ้างว่ามาช่วยลู่เฟย แต่ซินเฉินรู้ดีว่าเขามาที่นี่เพราะเธอ (ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้เล่อชิงคอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ)


ลู่เฟยอยากถ่ายหนังของตนบนเกาะเวยอวี่เลยตั้งใจว่าจะไปเก็บภาพที่นั่นมาเสนอนายทุน เมื่อซินเฉินรู้เข้าเลยรีบพาเกาเม่ยไปซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่ตัดหน้าลู่เฟย (เหลือตั๋วสองใบสุดท้ายพอดี)  โดยหารู้ไม่ว่าลู่เฟยกับฮ่าวหรานจองตั๋วออนไลน์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว (เธอไม่อยากให้ใช้เกาะเวยอวี่เป็นสถานที่ถ่ายทำ) ขณะอยู่บนเกาะเวยอวี่ฮ่าวหรานเกิดเมาเรือ ส่วนเกาเม่ยหิวจนหมดแรง ลู่เฟยกับซินเฉินเลยไปดูโลเคชั่นกันตามลำพัง ลู่เฟยบอกซินเฉินว่าตนมีบางสิ่งที่อยากอธิบาย ครั้นซินเฉินไม่ยอมรับฟังเขาจึงค่อยๆ เล่าพล็อตหนังของตนให้เธอฟังแทน (เป็นเรื่องราวในอดีตของลู่เฟย) เมื่อลู่เฟยเล่าถึงตอนที่พระเอกได้พบนางเอก ซินเฉินจึงตัดบทด้วยการบอกว่า สุดท้ายพระเอกก็ทิ้งนางเอกไปอยู่อเมริกา 

"ซินไคหมิง" (พ่อซินตี๋ / พ่อบุญธรรมของซินเฉิน / พี่ชายซินไคอวี่) กับ "หลี่ซิน" (แม่ซินตี๋ / แม่บุญธรรมของซินเฉิน) สงสัยว่าซินตี๋กับซินเฉินกำลังมีความรัก เลยถือโอกาสจัดงานวันเกิดให้ไคอวี่เพราะอยากเห็นหน้าว่าที่ลูกเขย ไคอวี่เลยกำชับซินตี๋ให้พาใครสักคนมาด้วย จากนั้นก็เอ่ยปากชวนเกาเม่ยกับฮ่าวหราน เกาเม่ยขอให้ไคอวี่เชิญลู่เฟยด้วยเพราะเขาคือคนที่ช่วยชีวิตเธอ (ตอนไปดูโลเคชั่นบนเกาะไคอวี่ เธอหมดสติเพราะอาหารเป็นพิษ โชคดีที่ลู่เฟยช่วยปฐมพยาบาลและพาเธอไปส่งโรงพยาบาลได้ทัน) ในตอนแรกซินเฉินไม่อยากให้ไคอวี่ชวนลู่เฟยไปงานวันเกิด แต่พอเห็นลู่เฟยไปเก็บภาพโลเคชั่นบนตึกร้างสำหรับถ่ายทำฉากนักเต้นรำผู้โดดเดี่ยว เธอก็นึกถึงเรื่องราวในอดีตและยอมให้ไคอวี่เชิญลู่เฟย


รั่วลี่โทรฯ มาบอกลู่เฟยให้รีบกลับไปคุยงานกับจอห์น โซโลมอน (โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ฮอลลีวูดชื่อดัง) ที่อเมริกา แต่ลู่เฟยยังเขียนบทไม่เสร็จเลยขอให้รั่วลี่ช่วยเลื่อนนัดออกไปก่อน รั่วลี่เตือนว่านี่เป็นโอกาสทองที่ไม่ควรปล่อยให้หลุดมือเพราะจะส่งผลดีต่ออาชีพของเขา ลู่เฟยตัดสินใจไปร่วมงานวันเกิดของไคอวี่ทั้งที่คืนนั้นเขาต้องเดินทางไปอเมริกา ระหว่างทานข้าวโทรศัพท์ของลู่เฟยดังไม่หยุด เขาเลยจำต้องขอตัวไปสนามบิน ซินเฉินรู้สึกเสียใจที่อยู่ๆ ลู่เฟยก็จะไปอเมริกาโดยไม่บอกกล่าวเหมือนเมื่อสิบปีก่อน ลู่เฟยไม่อยากผิดต่อซินเฉินเป็นครั้งที่สองเลยกลับไปหาเธอ (เขายังไม่ทันได้ออกจากเกาะ) เขาอยากบอกเธอก่อนไปแต่ซินเฉินไม่ให้โอกาส ลู่เฟยจึงบอกไคอวี่ว่าตนคงคิดผิดที่กลับมาและเดินจากไปทันที ไคอวี่พยายามเป็นกาวใจให้ทั้งคู่แต่แล้วอยู่ๆ เขาก็หมดสติ  ลู่เฟยเลยต้องไปโรงพยาบาลแทนสนามบิน (เขาไม่ได้ไปคุยงานที่อเมริกา) ไคอวี่โกหกลู่เฟยกับซินเฉินว่าตนแกล้งป่วย แต่สุดท้ายก็แอบตรวจ MRI สมองตามที่แพทย์แนะนำ 

หลังลู่เฟยไม่ไปอเมริกาตามนัด รั่วลี่จึงสั่งให้ฮ่าวหรานจับตาดูลู่เฟย ช่วยให้ลู่เฟยถ่ายหนังลุล่วงตามกำหนด และต้องรายงานความคืบหน้าหรือสถานการณ์ต่างๆ ให้ตนทราบทุกวัน แม้มีปากเสียงกันเรื่องซินเฉินแต่พอหนังของลู่เฟยเริ่มมีปัญหาเล่อชิงก็ออกโรงปกป้องเขา ความจริงแล้วเล่อชิงคือตัวตั้งตัวตีในการเสนอให้นำเม็ดเงินมาลงทุนสร้างหนังของลู่เฟย (บริษัทฮ่าวเทียนกรุ๊ปที่เขาก่อตั้งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เลยจำต้องได้รับความเห็นชอบจากกรรมการบริหารและผู้ถือหุ้น) เมื่อผู้ถือหุ้นของฮ่าวเทียนกรุ๊ปเริ่มมองว่าการลงทุนสร้างหนังให้ลู่เฟยไม่คุ้มค่า (ไม่เชื่อมั่นในตัวลู่เฟย) ซ้ำยังถ่ายทำล่าช้ากว่ากำหนด (ยิ่งนานวันงบยิ่งบานปลาย) เล่อชิงจึงช่วยชี้แจงทุกประเด็น ปัญหาคือทุกคนเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของเล่อชิงแต่ไม่วางใจในการทำงานของลู่เฟย เล่อชิงเลยเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงให้คณะกรรมการได้พบปะและหารือกับลู่เฟยในอีกสองวันข้างหน้า หมายให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวลู่เฟย นอกจากนี้ เขายังนำคลิปผลงานในอดีตมาให้ลู่เฟยใช้นำเสนอนักลงทุนด้วย (เป็นคลิปภาพซินเฉินเต้นบัลเลต์ที่ลู่เฟยเคยถ่ายส่งอาจารย์เมื่อหลายปีก่อน)


หลังแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ ไคอวี่ซึ่งเริ่มมีอาการหลงๆ ลืมๆ คิดที่จะจากทุกคนไปเงียบๆ ก่อนไปเขาขอให้ลู่เฟยสัญญาว่าจะดีกับซินเฉินตลอดไป และจะช่วยซินเฉินอนุรักษ์บ้านเก่าของตน (บนเกาะเวยอวี่) เอาไว้ โดยชี้ว่าซินเฉินเกิดและเติบโตที่บ้านหลังนี้จึงผูกพันกับที่นี่มาก ลู่เฟยรู้สึกเอะใจจึงกลับไปที่บ้านของไคอวี่อีกครั้งในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น (เขาเห็นสัมภาระของไคอวี่วางอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างเมื่อคืน)  เมื่อไปถึงแล้วพบว่าบ้านถูกล็อคกุญแจเอาไว้อย่างแน่นหนาทั้งที่ปกติไม่เคยล็อค เขาจึงรีบไปหาซินเฉินที่ท่ารถเพื่อบอกเธอเรื่องไคอวี่  (ซินเฉินตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อเดินทางท่องเที่ยวตามลำพัง) จากนั้นจึงรีบออกตามหาด้วยความร้อนใจโดยลืมไปว่าตนมีนัดทานข้าวกับเหล่านักลงทุน (เขากับซินเฉินแยกกันออกตามหา) เล่อชิงเลยต้องรับหน้าและช่วยแก้ตัวแทน  ทำให้กรรมการบริหารและผู้ถือหุ้นยิ่งไม่พอใจลู่เฟย พวกเขาขู่ว่าจะถอนการลงทุนสร้างหนัง และเสนอให้เปลี่ยนตัวผู้กำกับหากเล่อชิงยังอยากลงทุนในธุรกิจภาพยนตร์ 



หลังพบไคอวี่ ลู่เฟยจึงติดตามเขาไปทุกหนแห่งและพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขากลับใจ ไคอวี่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าตนอยู่ที่ไหนจึงห้ามลู่เฟยรับโทรศัพท์และคอยหาโอกาสหลบหนีแต่ลู่เฟยรู้ทันตลอด ไคอวี่โกหกลู่เฟยว่าตนจะหนีไปหาคนรักโดยนำรูปตอนสาวของผู้หญิงคนหนึ่งมาให้ลู่เฟยดู ลู่เฟยจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้คือแม่แท้ๆ ของซินเฉิน เพราะเขาเคยคุยกับเธอเมื่อหลายปีก่อน (แต่ซินเฉินไม่รู้เรื่องนี้) หลังถูกลู่เฟยกดดันไคอวี่จึงยอมบอกว่าตนเป็นโรคอัลไซเมอร์ เขาจะขี่รถมอเตอร์ไซค์ลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตายแต่ลู่เฟยพยายามห้ามเอาไว้ทำให้แขนบาดเจ็บ ไคอวี่จึงพาลู่เฟยไปส่งโรงพยาบาล ครั้นจับได้ว่าลู่เฟยแอบโทรฯ หาซินเฉิน ไคอวี่จึงเก็บของแล้วเดินจากไปด้วยความโกรธทันที ลู่เฟยไม่มีทางเลือกเลยจำต้องวิ่งตามไปทั้งที่แขนบาดเจ็บ เล่อชิงพาซินเฉินไปหาไคอวี่ที่โรงพยาบาลแต่คลาดกัน ครั้นพยาบาลบอกว่าลู่เฟยกับไคอวี่ถามหาร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์โบราณ ทั้งคู่เลยรีบตามไป



พอลู่เฟยหายตัวไปฮ่าวหรานเลยต้องแก้ปัญหาและรับหน้านักลงทุนเพียงลำพัง ครั้นถูกกดดันมากๆ เข้าเขาเลยถอดใจ แต่หลังเกาเม่ยช่วยเตือนสติเขาจึงฮึดสู้ต่อโดยไปขอความช่วยเหลือจากเหวยฝาน เหวยฝานขอกำลังเสริมจากซินตี๋ ก่อนรวมหัวกันเล่นละครหลอกนักลงทุน ครั้นพบว่าไคอวี่แอบซิ่งมอเตอร์ไซค์หนีไปแล้ว (เขาโกรธลู่เฟยที่พยายามถ่วงเวลาตน) เล่อชิงเลยทิ้งลู่เฟยกับซินเฉินไว้ที่ร้านซ่อมรถแล้วออกตามหาตามลำพัง (เขาอยากให้ลู่เฟยกลับไปเคลียร์งาน เพราะหนังของลู่เฟยจะเปิดกล้องในอีก 3 วันข้างหน้า) หลังพบไคอวี่ เล่อชิงพยายามทำคะแนนแข่งกับลู่เฟย (แบบแฟร์ๆ) และเกลี้ยกล่อมให้ไคอวี่กลับบ้านเพื่อซินเฉิน แต่เขาดันพูดไม่เข้าหูเลยโดนไคอวี่ชกจนสลบ ลู่เฟยกับซินเฉินยืมรถจักรยานเจ้าของร้านมอเตอร์ไซค์ขี่ตามหาไคอวี่ทำให้มีโอกาสปรับความเข้าใจกัน 

ไคอวี่ถึงกับปวดหัวหลังเล่อชิงตามตื๊อตนไม่ต่างจากลู่เฟย ซ้ำยังเป็นจอมวางแผนและช่างเจรจา เมื่อเล่อชิงสัญญาว่าจะไม่โทรฯ หาซินเฉิน เขาเลยยอมไปกับเล่อชิงแต่โดยดี คืนนั้นไคอวี่หวนนึกถึงอดีตอันแสนหวานระหว่างตนกับ "ไป๋หง" เล่อชิงกลัวไคอวี่หนีไปเลยนอนกอดกระเป๋าของไคอวี่เอาไว้ ฮ่าวหรานโทรฯ มารายงานเล่อชิงกลางดึกด้วยความภาคภูมิใจว่าพวกตนเล่นละครหลอกนักลงทุนสำเร็จ แต่เล่อชิงรู้ดีว่านักลงทุนไม่มีทางโดนหลอกง่ายๆ เช่นนั้น ครั้นเห็นว่าไคอวี่หลับแล้วเขาเลยขับรถไปรับลู่เฟยกับซินเฉินที่โฮสเทลโดยนำกระเป๋าของไคอวี่ติดรถไปด้วย ไคอวี่เลยสบโอกาสหลบหนี แต่เล่อชิงแอบติดเครื่องติดตามไว้ที่มอเตอร์ไซค์ของไคอวี่เลยรู้ว่าไคอวี่อยู่ที่ชายหาด (ไคอวี่มารำลึกความหลังตอนที่เขาเล่นดนตรีประกวดบนเวทีกับเพื่อนๆ ซึ่งตอนนั้นไป๋หงก็อยู่ด้วย) ซินเฉินรีบวิ่งไปหาไคอวี่ด้วยความเป็นห่วง แต่ไคอวี่กลับคิดว่าเธอคือไป๋หง (ไป๋หงเป็นแม่แท้ๆ ของซินเฉิน) ครั้นนึกถึงตอนที่ไป๋หงตั้งท้องกับตนและไล่ตนไป ไคอวี่ก็หมดสติอีกครั้ง



หลังรู้ว่าไคอวี่เป็นโรคอัลไซเมอร์ซินเฉินก็รู้สึกตกใจ เธอไม่อยากให้ไคอวี่เสียใจเลยไม่พูดถึงอาการป่วย และได้แต่ตัดพ้อที่เขาไปโดยไม่บอก ไคอวี่ไม่อยากเป็นภาระคนอื่นเลยคิดหนีออกจากโรงพยาบาลแต่ซินเฉินรู้ทันเลยคอยจับตาดู ซินเฉินสารภาพว่า ตนรู้นานแล้วว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อแม่ซินตี๋ ไคอวี่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตกใจ ซินเฉินเล่าว่าหลังรู้ความจริง (ตอนอายุ 17) เธอจึงเริ่มทำตัวมีปัญหาเพราะอยากให้พ่อแม่ดุตนเหมือนที่ดุซินตี๋บ้าง (ก่อนหน้านั้นเธอนึกว่าตนเป็นลูกรักเพราะไม่เคยโดนพ่อแม่ซินตี๋ดุ) ไคอวี่ถามซินเฉินว่าเกลียดพ่อแม่แท้ๆ ไหม ซินเฉินยอมรับว่าแม้ไม่รู้จักแต่เธอยังคง 'เกลียด' ทั้งคู่อยู่ดี (ไคอวี่ได้ยินดังนั้นก็แอบเสียใจ) เพียงแต่สองสามวันมานี้เธอคิดได้แล้วว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือดไม่สำคัญอีกต่อไป สิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริงคือคนที่รักและตามใจเธอมาโดยตลอดอย่างไคอวี่ ไคอวี่ออกตัวว่าตนไม่ได้ดูแลซินเฉินดีขนาดนั้น แต่ซินเฉินรู้ดีว่าไคอวี่รักและห่วงใยตนมาก เธออยากร่วมเผชิญทุกสิ่งด้วยกันกับเขาจึงขอให้เขาสัญญาว่าจะไม่ทิ้งเธอไป 


ไคอวี่รู้ดีว่าต่อไปตนจะไม่สามารถดูแลซินเฉินได้ เลยแอบบอกลู่เฟยว่าซินเฉินเป็นเด็กกำพร้าและฝากให้ลู่เฟยช่วยดูแลซินเฉิน แต่ลู่เฟยรู้เรื่องนี้นานแล้ว (ซินเฉินไม่รู้ว่าลู่เฟยรู้) เขาชี้ว่าพวกตนต่างมีเรื่องติดค้างซินเฉิน ไคอวี่จะโยนสิ่งที่ตัวเองติดค้างมาให้ตนสะสางแทนไม่ได้ เขาต้องแบกรับมันและแก้ไขสิ่งผิดพลาดในอดีตด้วยตัวเอง (ลู่เฟยรู้ว่าแท้จริงแล้วไคอวี่คือพ่อแท้ๆ ของซินเฉิน) ครั้นรู้ว่าลู่เฟยเคยพบและพูดคุยกับไป๋หงเมื่อสิบปีก่อนไคอวี่ก็รู้สึกตกใจ (ตอนนั้นไป๋หงบอกลู่เฟยตามตรงว่าเธอเป็นแม่ของซินเฉิน) 

แม้เรื่องวุ่นๆ ของไคอวี่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างลู่เฟยกับซินเฉินดีขึ้น แต่กลับทำให้งานของลู่เฟยมีปัญหาเพราะเขามัวแต่ห่วงไคอวี่จนเสียงาน แถมรั่วลี่ยังมาหาลู่เฟยที่เมืองจีนและคิดพาลู่เฟยกลับอเมริกา แต่ลู่เฟยยืนกรานว่าจะทำหนังของตนให้สำเร็จแม้ต้องเผชิญปัญหาและอุปสรรคมากมาย สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ติดตามชมเรื่องราวความรักและมิตรภาพอันน่าประทับใจได้ใน "เงารักในความทรงจำ" (Memories of Love) ทางช่อง 9 MCOT HD (หมายเลข 30)

* เนื้อหาโดย luvasianseries / ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่





รายชื่อนักแสดง


นักแสดงนำ


จงฮั่นเหลียง
รับบท ลู่เฟย
(นักแสดง / นักร้อง ชาวฮ่องกง)



เจียงซูอิ่ง
รับบท ซินเฉิน
(นักแสดง ชาวจีน)



เหยียนหย่าหลุน (แอรอน เหยียน)
รับบท หลินเล่อชิง
(นักแสดง / นักร้อง ชาวไต้หวัน)



หลี่เซิ่ง
รับบท ซินตี๋
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)



โม่อวิ่นเหวิน (คริสติน่า ม็อก)
รับบท จี้รั่วลี่
(นักแสดง / นักร้อง ไต้หวัน สัญชาติอเมริกัน)



หลี่หมิงซุ่น (คริสโตเฟอร์ ลี)
รับบท ซินไคอวี่
(นักแสดง / นักร้อง / ผู้ดำเนินรายการ ชาวมาเลเซีย)



หลี่ฮ่าวเซวียน
รับบท ไต้เหวยฝาน
(นักแสดง / นักร้อง ชาวจีน)



เซี่ยหมิงฮ่าว
รับบท หลิวฮ่าวหราน
(นักแสดง ชาวจีน)








*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

1 ความคิดเห็น:

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา