วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แทกิล ยอดพยัคฆ์นักล่า ตอนที่ 4




แทกิลได้รับการจ้างวานเป็นเงินก้อนโต จากเสนาบดีให้ออกตามล่าตัวแทฮา ให้ได้โดยเร็ว ขณะที่เฮวอนช่วยรักษาแผลให้แทฮา และตัดสินใจติดตามเขาหลบหนีไป ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่แทกิลตามมาพบตัวของแทฮาพอดี

เนื้อหา

ในระหว่างที่ซอลฮวายืนขวางไม่ยอมหลีกทางให้กลุ่มแทกิลเดินทางไปตามล่าแทฮา อดีตนักล่าเสืออ๊บบ๊กก็เล็งปืนไปที่แทกิลหมายยิงเข้าที่ศีรษะ


เมื่อเห็นว่าซอลฮวาไม่ยอมหลีกทางให้แน่ แทกิลก็บอกให้ทุกคนเลี่ยงไปทางอื่น ซึ่งเป็นจังหวะที่อ๊บบ๊ก ลั่นไกพอดี (แทกิลเองก็หันไปเห็นเขาด้วยเช่นกัน) หลังถูกยิงแทกิลก็ร่วงลงจากหลังม้าแน่นิ่งไปชั่วครู่ ไม่นานเขาก็สำลักแล้วรีบหันไปบอกพิกัดคนร้ายกับเชและวังซอน จากนั้นก็สั่งการให้ทั้งคู่รีบออกไปตามจับตัวคนร้าย

เมื่อทาสหญิงโชบ๊กที่คอยดูต้นทางให้กับอ๊บบ๊ก เห็นแทกิลนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง เลยส่งสัญญาณบอก อ๊บบ๊กว่าภารกิจสำเร็จลุล่วง (อ๊บบ๊กมองไม่เห็นร่างแทกิล เพราะผ้าใบหลังคาร้านขายของบังอยู่) ระหว่างที่เชและวังซอนต่างรีบรุดตามหาตัวคนร้าย อ๊บบ๊กก็ลงมาจากหลังคากระท่อมและนำปืนไปซ่อนไว้ในกองฟืนโดยได้รับความช่วยเหลือจากทาสร่วมขบวนการ จากนั้นเขาก็แบกฟืนใส่หลังแล้วเดินออกไปแบบเนียนๆ


วังซอนตามมาเจออ๊บบ๊กที่แบกฟืนเดินร้องเพลงผ่านมา ถึงแม้จะหยุดมอง แต่เขาก็ไม่ติดใจสงสัย เพราะไม่คิดว่าทาสอย่างอ๊บบ๊กจะมีอาวุธร้ายแรงไว้ในครอบครอง ในที่สุด ทั้งเชและวังซอนก็ไม่สามารถตามจับคนร้ายได้

โชคดีที่แทกิลรู้ตัวก่อนเลยโดนยิงเฉียดหน้าผาก ถึงแม้จะไม่เป็นอะไรมากแต่เขาก็ต้องเลื่อนกำหนดการเดินทางอีกครั้ง ระหว่างพักรักษาตัวที่ห้องเช่าในโรงเตี๊ยมของ 2 สาว คนดูแลม้าก็มาช่วยทำแผลให้  เขามั่นใจว่าตนเองทำได้แน่ โดยบอกว่าหัวม้ากับหัวแทกิลก็เหมือนๆ กัน เวลาโดนแทงก็มีรอยบาด หรือถ้าโดนยิงก็เป็นรูเหมือนกัน แต่พอถึงเวลาที่ต้องใช้ผ้าพันแผล เขากลับทำได้ไม่ดี เลยพันไปบ่นไปว่าทำไมพันผ้าที่หัวแทกิลถึงไม่ง่ายเหมือนพันหัวม้า 


หลังพันแผลให้แทกิลเสร็จแล้วเขาก็เรียกเก็บเงิน แทกิลถามว่าค่าอะไร เขาตอบว่าค่าจ้างทำแผล แทกิลขู่กลับว่า เขาทำผิดกฏที่เป็นคนดูแลม้า แต่กลับมาทำแผลให้คนแล้วยังจะกล้าคิดเงินด้วยหรือ ถ้าหากหมอทุกคนรู้เข้าคงตามมาเล่นงานเขาที่บังอาจแย่งงาน ทำให้คนดูแลม้าไม่พอใจมาก

จูโมน้อยอึนเจ (สาวโรงเตี๊ยม) เป็นห่วงเชมาก จึงบอกจูโมใหญ่ว่าตนจะไปเกลี้ยกล่อมให้เชเลิกทำงานล่าทาสที่เสี่ยงต่ออันตราย เพราะเชื่อว่าตัวเองหาเงินจากกิจการโรงเตี๊ยมได้มากพอที่จะแลดูเขา  แต่กลับถูกจูโมใหญ่ห้ามเอาไว้ จูโมน้อยอธิบายว่าเธอแค่อยากให้เขาเลิกทำให้เธอทุกข์ทรมาน ทุกวันนี้หัวใจเธอเต้นแรงจนอกแทบระเบิดเพราะความเป็นห่วง จูโมใหญ่บอกให้เธอทำตัวเป็นกุลสตรีและอดทนรอ โดยบอกว่าผู้ชายชอบผู้หญิงสงบเสงี่ยม ว่านอนสอนง่าย ไม่ใช่ผู้หญิงจุ้นจ้าน จากนั้นก็ไล่ให้เธอนำไก่ไปปรุงเป็นอาหารให้เช

* ตัวละครในเรื่อง (ต้นฉบับ) เรียก 2 สาวว่า จูโมใหญ่ และจูโมน้อย (จูโม หมายถึงผู้หญิงที่เป็นเจ้าของโรงเตี๊ยม ซึ่งจำหน่าย อาหาร เหล้า และมีที่พักไว้คอยบริการ แต่ไม่มีการขายบริการทางเพศ


พอจูโมน้อยเข้าไปทำอาหาร จูโมใหญ่ก็แอบย่องไปหาเช เธอขอให้เชหยุดทำอาชีพล่าทาสที่เสี่ยงต่ออันตราย โดยบอกว่าแค่ทำโรงเตี๊ยมอย่างเดียวก็น่าจะอยู่ได้แล้ว  เธอขอให้เชเลิกทำให้เธอทุกข์ทรมานเสียที เพราะในตอนนี้หัวใจเธอเต้นแรงจนอกแทบระเบิด (วังซอนแหน็บว่าแบนซะขนาดนั้น ยังกล้าเรียกว่าหน้าอกอีก) จากนั้นเธอก็ขอตัวไปทำไก่มาให้เชทานเพื่อเป็นการปลอบขวัญ แทกิลบ่นว่าเขาเป็นคนโดนยิงแท้ๆ  แต่ทำไมแม่ทัพเชถึงได้กินไก่ (2 สาวโรงเตี๊ยมเรียกเชว่า "แม่ทัพเช")

แทกิลและเช พยายามวิเคราะห์ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนลอบยิงแทกิล เชบอกว่าไม่น่าใช่ซอน จีโฮ  (หัวโจกนักล่าทาสอีกกลุ่มที่เอาธนูมาไล่ยิงแทกิลในตอนที่แล้ว)  แทกิลบอกจีโฮไม่ฉลาดขนาดนั้น เชเลยถามว่าสงสัยใครหรือเปล่า แทกิลบอกเขานึกอะไรขึ้นได้บางอย่าง ซอลฮวาซึ่งอยากมีส่วนร่วมกล่าวแทรกขึ้นมาว่าเธอก็คิดออกเหมือนกัน ทำให้ทั้ง 3 หนุ่มต่างหูผึ่ง แต่พอเธอบอกว่าคนร้ายที่ยิงแทกิล คือ "คนชั่ว"  บรรดาหนุ่มๆ เลยออกอาการเซ็งไปตามๆ กัน 


แทกิลบอกว่ามีคนสั่งทำปืนที่โรงเหล็กเมื่อไม่นานมานี้ น้องเล็กวังซอนเห็นความตายเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้ เลยเสนอให้นำเงินที่เก็บไว้มาแบ่งกัน (แทกิลเป็นคนเก็บรักษาเงินให้ทุกคน) แต่นั่นไม่ได้เป็นเพราะเขาไม่ไว้ใจแทกิล หากเป็นเพราะทุกคนทำงานที่ค่อนข้างเสี่ยง เลยไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ หากแทกิลเป็นอะไรไป คนอื่นก็จะพลอยชวดเงินที่หามาได้ทั้งหมด

พี่ใหญ่เชคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องบังเอิญมากเกินไป นับตั้งแต่ได้รับการว่าจ้างให้ตามล่าแทฮาก็มีแต่เรื่องร้ายๆ เขาจึงรู้สึกกังวลใจมาก เพราะนี่อาจเป็นเรื่องของเกมการเมือง และกล่าวว่าสิ่งแรกสุดที่พวกเขาต้องทำก็คือสืบหาให้ได้ว่าใครกันแน่ที่คิดลอบฆ่าแทกิล

เฮวอนช่วยรักษาบาดแผลให้แทฮาภายในถ้ำใกล้วัดเล็กๆ แห่งหนึ่งบนภูเขา ขณะที่แทฮาฝันถึงเรื่องราวในอดีตอีกครั้ง...


ย้อนกลับไปในช่วงที่เกิดสงครามแมนจู แม่ทัพแทฮากลับมาที่บ้านมาก็พบว่ามีทหารต้าชิงบุกเข้ามาสังหารภรรยาและลูกน้อย หลังฆ่าทหารต้าชิงทั้งหมดแล้วเขาก็ตรงเข้ามาดูร่างภรรยาที่กอดลูกน้อยนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น แทฮาจัดเสื้อผ้าภรรยาให้เรียบร้อย (ซึ่งบอกเป็นนัยๆ ว่าภรรยาของแทฮาถูกข่มขืนหรือลวนลามก่อนโดนฆ่า) เขารู้สึกเสียใจมากที่มาช้าเกินไป



เมื่อเห็นว่าลูกน้อยยังมีลมหายใจเขาก็ดีใจมาก รีบอุ้มลูกน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน (เป็นครั้งแรกที่เขาอุ้มลูก) แล้วหยุดมองดูหน้าภรรยาเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นเขาก็แบกลูกน้อยใส่หลังแล้วออกมาต่อสู้กับทหารต้าชิง เมื่อทหารต้าชิงฟันโดนห่อผ้าที่แทฮาผูกลูกติดหลังไว้ เขาก็อุ้มลูกน้อยด้วยแขนข้างหนึ่ง ส่วนอีกมือก็ถือดาบฟาดฟันข้าศึก หลังจัดการข้าศึกแล้วเขาก็เปิดห่อผ้าหวังจะดูหน้าลูกให้ชื่นใจ แต่กลับพบว่าลูกน้อยเสียชีวิตแล้ว

ตัดกลับมาภายในถ้ำ...เฮวอนพยายามดึงดาบออกจากมือแทฮา แต่ก็ดึงไม่ออกเพราะเขากำเอาไว้แน่นมาก อยู่ๆ แทฮาที่ยังคงไม่ได้สติก็ยื่นมือขึ้น (คล้ายกับจะเอื้อมมือไขว่คว้าลูก - เหมือนตอนที่นึกถึงภรรยาและลูกในตอนที่ 3 ซึ่งที่ผ่านมาแทฮาไม่เคยอุ้มลูกเลย)


เฮวอนเอื้อมแขนไปจับมือแทฮาทำให้เขาเริ่มรู้สึกตัว  ด้วยสัญชาติญาณของการเป็นนักรบ (และกำลังถูกไล่ล่า) เขาจึงใช้มือข้างหนึ่งบีบคอเฮวอนแล้วกดลงกับพื้น ส่วนอีกมือถือดาบจ่อเข้าที่คอ เมื่อเฮวอนเริ่มสำลักเพราะหายใจไม่ออก แทฮาจึงได้สติแล้วรีบกล่าวขอโทษ

แทฮาถามว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เฮวอนตอบว่า ที่นี่คือวัดเล็กๆ ที่เธอแวะมาอธิษฐานให้กับดวงวิญญาณคนในครอบครัวของเธอ เธอพาเขามาที่นี่เพราะเห็นว่ามีบาดแผลฉกรรจ์ แทฮาถามต่อว่าเขาหมดสติไปนานแค่ไหน เฮวอนไม่ตอบ แต่ขอให้เขาสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อน

พระมยองฮัน ซึ่งเป็นพระเพียงรูปเดียวในวัด นำยาเข้ามาให้แทฮา จากนั้นก็ถามว่าเขาได้รับบาดเจ็บจากธนูระหว่างการต่อสู้มาหรือเปล่า แทฮาตอบว่าเป็นแค่บาดแผลจากการฝึกซ้อม จากนั้นเขาก็หันไปขอบคุณเฮวอน แล้วรีบลุกขึ้นเพื่อเดินทางต่อ แต่ก็ล้มลงไปกองกับพื้น เฮวอนจึงขอร้องให้เขาอยู่พักรักษาตัวต่ออีกวัน



ณ เมืองฮันยาง (ชื่อเก่าของกรุงโซล) ฮวาง ชอลวุง กลับเข้าบ้านในเวลากลางคืน แต่พอเห็นหน้า อี ซุนยัง  ภรรยาที่มีความบกพร่องทางร่างกาย (ลูกสาวของอี คยองชิก เสนาบดี) เขาก็เดินออกจากบ้านอีกครั้ง จึงมาพบพ่อตาพอดี

ชอลวุงรายงานความคืบหน้าว่ากำลังส่งคนตามล่าแทฮา พร้อมทั้งยืนยันว่าแทฮาแกล้งทำเป็นขาเป๋ คยองชิกสั่งให้ชอลวุงฆ่าอิม ยองโฮ อดีตเสนาบดีที่อยู่บนเกาะชุงจู และอี ซกยอน (พระโอรสองค์เล็กของรัชทายาทผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวบนเกาะเชจู) ก่อนที่แทฮาจะไปถึง โดยบอกให้เขาลงมือทำภารกิจสำคัญนี้ด้วยตัวเอง แต่ชอลวุงปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่สามารถละทิ้งหน้าที่การงานได้


เมื่อคยองชิกเดินจากไปแล้ว ชอลวุงก็นึกถึงเหตุการณ์สมัยสงครามแมนจู ตอนนั้นเขาได้รับบาดเจ็บระหว่างการต่อสู้กับทหารต้าชิง โชคดีที่แทฮามาช่วยชีวิตเอาไว้ เขาจึงบอกกับแทฮาว่าสักวันจะตอบแทนหนี้บุญคุณครั้งนี้ด้วยชีวิต

คืนนั้น ชอลวุงแวะไปเยี่ยมแม่ แม่ของเขาอยากให้ชอลวุงและภรรยามีลูกด้วยกัน แต่ชอบวุลฟังแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เขาหันไปหยิบถุงเงินให้แม่ แม่บอกว่าเงินเดือนซอลวุงเองก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก ซอลวุงตัดบทโดยบอกให้แม่อดทนรออีกสักนิด แล้วเขาจะพาแม่ย้ายไปอยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหญ่กว่านี้ (ตอนนั้นชอลวุงอยู่บ้านพ่อตา)

อี คยองชิก นำเรื่องทาสหลบหนีมาเป็นข้ออ้างเพื่อนำตัวชอลวุงไปขังคุก ทำให้ซอลวุงได้พบกับขาใหญ่ที่ทำตัวอวดแบ่ง (แบบขำๆ) ในห้องขัง แต่เขาก็สามารถจัดการนักโทษคนดังกล่าวจนหมอบราบคาบ


หลังนำตัวลูกเขยไปขังคุกแล้ว คยองชิกก็เรียกตัวแทกิลมาพบ  และว่าจ้างให้ออกตามล่าแทฮาไม่ว่าจะจับเป็นหรือจับตายก็ตาม โดยบอกว่าจะมอบค่าจ้างอย่างงามให้แทกิล แทกิลไม่เพียงเรียกร้องค่าจ้างเพิ่มจาก 500 ยาง เป็น 5,000 ยาง แต่ยังได้รับเงินค่าจ้างล่วงหน้าทั้งหมดอีกด้วย โดยมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ คือ ต้องตามล่าตัวแทฮาให้ได้ภายใน 1 เดือน หากทำไม่สำเร็จแทกิลจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต

วังซอนรายงานความคืบหน้าในการสืบหาคนร้ายที่ลอบยิงแทกิล แต่แทกิลกลับชวนทุกคนให้ออกเดินทาง โดยบอก (โกหก) ว่าได้รับการว่าจ้างให้ออกตามล่าแทฮาเป็นเงิน 500 ยาง (ได้คนละ 100 กว่ายาง)   ทั้งวังซอนและซอลฮวาต่างพากันตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าได้ค่าจ้างสูงมาก แต่เชคิดว่าค่าจ้างที่ได้มานั้นมากเกินไป เขากลัวว่าอีกไม่นานอาจมีเรื่องเดือดร้อนยุ่งยากตามมา จึงเตือนแทกิลว่าอย่าไว้ใจเหล่าขุนนางในราชสำนัก และเพื่อเป็นการป้องกันตัว เชจึงนำเสื้อเกราะมาให้แทกิลและวังซอน


เหตุผลที่เฮวอนเดินทางมาที่วัด ก็เพื่ออธิษฐานให้ดวงวิญญาณของแทกิล (เฮวอนคิดว่าแทกิลตายแล้ว) เธอใช้เวลาอธิษฐานตลอดทั้งคืนจนอ่อนล้า รุ่งเช้าแทฮาเดินมาพบเข้าจึงยืนดูเฮวอนอธิษฐานโดยไม่อาจละสายตา


สามหนุ่มรวมทั้งซอลฮวา เดินทางไปที่สุสานขององค์รัชทายาทจนพบร่องรอยของแทฮา ทั้งยังรู้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บอีกด้วย (บริเวณสุสานมีเศษสมุนไพรโคซุยบูที่ใช้รักษาอาการบาดเจ็บ) หลังจากนั้น แทกิลก็กางแผนที่แล้วฟันธงว่าแทฮาจะต้องหลบซ่อนตัวที่วัดเล็กๆ ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก (ประเมินจากระยะเวลาที่แทฮาใช้ในการเดินทางจากเมืองฮันยางมายังสุสาน อีกทั้งยังมีอาการบาดเจ็บสาหัสจึงคาดว่าน่าจะยังหนีไปได้ไม่ไกลนัก)

ระหว่างที่พี่ใหญ่ทั้งสองกำลังเคร่งเครียดกับการตามรอยแทฮา น้องเล็กวังซอนก็ดอดไปชวนซอลฮวาหาอะไรสนุกๆ ทำใต้แสงจันทร์ในคืนนั้น ตอนแรกซอลฮวาทำเหมือนจะตกปากรับคำ แต่แล้วก็อ้างว่าอยู่ในช่วงวันนั้นของเดือน


เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง ซอลฮวาพยายามปีนขึ้นม้าของแทกิล (ตอนเดินทางมา เธอขี่ม้ามากับวังซอน)  แทกิลเลยเอาดาบเขี่ยเธอลงมา  แล้วบอกให้ไปขึ้นม้าของวังซอน ซอลฮวาอ้างว่าตอนเดินทางมา วังซอนมักฉวยโอกาสแต๊ะอั๋งเธอตลอดเวลา แม้วังซอนจะปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แต่แทกิลก็ยอมให้ซอลฮวาขึ้นมานั่งบนหลังม้าตนเอง

ก่อนเดินทางออกจากวัด แทฮากล่าวขอบคุณพระมยองฮัน เฮวอนเตือนให้เขาระวังตัวเพราะแผลยังไม่หายดี แทฮามองหน้าเฮวอนด้วยสายตาสุดอาลัย แล้วหันหลังเดินออกไป แต่แล้วก็หันกลับมามองหน้าเฮวอนอีกครั้ง จากนั้นก็หันไปถามชื่อพระ พระตอบว่าตนชื่อมยองฮัน แทฮากล่าวว่าตนชื่อ....(หันหน้าไปมองเฮวอน) ซอง เทฮา มาจากเมืองฮันยาง จากนั้นก็หันหลังเดินลงเขาไป


ในที่สุดแทกิลและผองเพื่อนก็เดินทางไปถึงเชิงเขาที่อยู่ใกล้วัด หลังดูเข็มทิศแล้วแทกิลก็สั่งให้เชและวังซอนขึ้นเขาไปทางทิศเหนือและทิศใต้ตามลำดับ ส่วนตัวเขาจะมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งครอบคลุมเส้นทางหลักในการเดินทางไปที่วัด ซอลฮวาถามว่าจะให้เธอทำหน้าที่อะไร แทกิลเลยสั่งให้เธอคอยดูแลม้า

เฮวอนตัดผมตัวเองด้วยมีดจังดู* แล้วมอบปลายผมให้แก่พระมยองฮัน โดยบอกว่าเมื่อวานนี้เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของ "เขา" (แทกิล)  เธอขอร้องให้พระมยองฮันช่วยจัดพิธีทางศาสนาและเตรียมของเซ่นไหว้ในวันครบรอบการเสียชีวิตของคนที่เธอรักเป็นประจำทุกปี และเธอก็มีเพียงสิ่งนี้ (เส้นผม) ที่จะมอบให้เป็นการตอบแทนเท่านั้น

* จังดู คือ มีดเล็กๆ ที่หญิงสาวที่เป็นชนชั้นสูงพกติดตัวไว้ฆ่าตัวตาย ในกรณีที่เกิดเหตุร้ายซึ่งอาจทำลายศักดิ์ศรีหรือคุณงามความดีในตัวเธอ


หลังเฮวอนกล่าวคำอำลาพระมยองฮัน เบ็กโฮและลูกสมุนอีก 2 คนก็ตามมาเจอเธอที่วัดพอดี เบ็กโฮขอร้องให้เฮวอนกลับไปกับเขาเพราะใต้เท้าชอย (เจ้าบ่าว) กำลังส่งคนมาตามล่าเธอ  เฮวอนยืนกรานว่าถ้าเขากล้าแตะต้องตัวเธอ เธอจะขอยอมตาย เบ็กโฮ (ซึ่งหลงรักเฮวอน) จึงสั่งให้ลูกน้องเข้าไปจับตัวเฮวอน แต่แทฮาเข้ามาขวางไว้และจัดการทั้ง 3 คนจนหมดสติ  (แทฮาไม่ต้องการฆ่าคนทั้งสาม เพราะดาบยังคงอยู่ในห่อผ้า)

พระมยองฮันถามว่าแทฮาจะไปที่ไหน เขาตอบว่าเกาะชุงจู พระมยองฮันจึงแนะนำให้แทฮาเลียบหน้าผาไปทางทิศตะวันตก แล้วจะเจอถนนเล็กๆ ที่มุ่งหน้าไปสู่ท่าเรือ ถึงแม้จะเดินทางยากลำบากสักหน่อยแต่ก็เป็นทางที่ปลอดคน แทฮาหันหลังจะเดินออกจากวัด แต่แล้วเขาก็หันกลับมาพูดกับเฮวอนว่าตอนนี้คงมีใครหลายคนกำลังตามหาเธออยู่ เฮวอนยอมรับว่าคงจะเป็นเช่นนั้น  แทฮาบอกลาเฮวอนแล้วหันหลังเดินออกไป แต่ก็หันกลับมาอีกครั้ง แล้วถามว่าจะหนีไปกับเขาไหม ในที่สุดเฮวอนก็หนีตามแทฮาไป


เมื่อเดินทางไปถึงที่วัด แทกิลก็พบแต่พระมยองฮันและกลุ่มของเบ็กโฮที่ยังคงนอนหมดสติอยู่ แทกิลทักว่าไม่ได้เจอกันนาน พระมยองฮันถามแทกิลว่าสบายดีไหม แทกิลถามกลับว่าเคยเห็นใครในโลกฆราวาสสบายดีรึเปล่า หลังต่อปากต่อคำกันได้สักพัก แทกิลก็ให้พระมยองฮันดูภาพของแทฮาแล้วถามว่าเห็นเขาใช่ไหม พระมยองฮันตอบว่าแทฮาออกจากวัดไปนานแล้ว แทกิลขู่ว่าถ้าโกหกจะเผาวัดให้วอด พระมยองฮันยิ้มแล้วตอบว่า เชิญตามสบาย

ซอลฮวารู้สึกเบื่อที่ต้องเฝ้าม้า เลยตามทั้งสามหนุ่มขึ้นไปที่วัด พอได้กลิ่นจีบัน (แป้งผู้หญิง) เธอเลยบอก 3 หนุ่มนักล่าว่ามีผู้หญิงอยู่ในวัด แทกิลรู้ทันทีว่าแทฮาไม่เพียงหนีไปกับผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังออกไปได้ไม่นานอีกด้วย เขาคาดว่าทั้งคู่น่าจะมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก เลยเตรียมออกตามล่า ก่อนออกเดินทางแทกิลนำรูปภาพของเฮวอนมาให้พระมยองฮันดู และถามว่าพบเธอบ้างไหม พระมยองฮันถามกลับว่า ยังคงตามหาผู้หญิงคนนี้อีกหรือ

แทกิลคาดคั้นให้พระมยองฮันตอบคำถาม พระมยองฮันเปลี่ยนเรื่องพูดโดยบอกว่าเป็นห่วงอนาคตของแทกิล เลยอยากให้เขาพักที่วัดเพื่อชำระล้างจิตวิญญาณสัก 2-3 วัน แต่แทกิลบอกให้พระห่วงเรื่องของตัวเองจะดีกว่า จากนั้นก็ฝากความระลึกถึงไปยังจากี ที่อยู่ภูเขาวอรัก (คนที่แทกิลบอกให้ทาสสองแม่ลูกเดินทางไปขอความช่วยเหลือในตอนที่ 1)


ในที่สุดกลุ่มแทกิลก็ตามไปเจอแทฮาและเฮวอนที่แม่น้ำ แทกิลเล็งธนู*ไปที่แทฮาซึ่งอยู่บนเรือกับเฮวอน (* ธนูดังกล่าวเรียกว่าพุนจอน เป็นธนูที่ใช้ลูกศรยาวเพียงครึ่งหนึ่งของลูกศรทั่วไปเพื่อให้ยิงได้เร็วแรง และไกลกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้จึงต้องเสียบลูกศรเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ เพื่อจะได้ดึงสายธนูให้ตึงนั่นเอง)


เมื่อแทฮาหันมาเห็นแทกิลกำลังเล็งธนู เขาก็ลุกขึ้นยืนและใช้ลำตัวบังเฮวอนเอาไว้ แทกิลรู้เพียงว่าแทฮากำลังปกป้องผู้หญิงแต่ยังไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร  เฮวอนสงสัยและสังหรณ์ใจว่าอาจเกิดอะไรขึ้นเลยหันหน้าไปดู  แทกิลลดคันธนูลง แล้วจ้องมองไปข้างหน้าราวกับเห็นอะไรบางอย่าง....


* ภาพ captures / ละครเคบีเอส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา