วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

แทกิล ยอดพยัคฆ์นักล่า ตอนที่ 20



แทกิลได้ไปเจอกับวังซอนและแม่ทัพเชที่เขาวอรัก จึงรู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ ส่วนซอลฮวาก็ตัดสินใจเดินทางขึ้นไปบนเขาเพื่อจะตามหาแทกิล ด้านขุนนางชิงกับชอลวุงต่างต้องการตามตัวแทฮากับพระนัดดา จึงหาทางสืบเสาะขึ้นไปยังรังของเจ้าหูเดียวบนเขาวอรักเช่นกัน

เนื้อหา

ตอนที่แล้วจบลงตรงที่แทกิลพา แทฮา เฮวอน และองค์ชายน้อย ไปหลบซ่อนตัวที่ค่ายของจากี (หูเดียว)  แทกิลและจากีตรงเข้าทักทายกันด้วยความดีใจ แต่อยู่ๆ จากีก็ซัดแทกิลจนหงายหลังลงไปกองกับพื้นท่ามกลางความตกตะลึงของแทฮาและเฮวอน


แทฮาไม่รู้ว่าแทกิลปล่อยให้จากีทำร้ายตนต่อหน้าคนอื่น เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าถิ่นอย่างจากีได้แสดงความเป็น "พี่ใหญ่" ต่อหน้าลูกสมุนและคนแปลกหน้า จึงเดินเข้าหาจากีด้วยท่าทีขึงขังเพราะรู้สึกว่าจากีเล่นแรงเกินไป จากีเห็นแทฮาเดินเข้ามาหาอย่างไม่เกรงกลัวจึงสงสัยว่าเขาเป็นใคร แต่แทฮาชิงถามชื่อจากีก่อน จากีกระโจนเข้าใส่แทฮาแทนคำตอบ จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มต่อสู้กัน แทกิลรู้ว่าจากีประเมินแทฮาต่ำไปจึงแอบยิ้มแล้วปล่อยให้ทั้งคู่สู้กันครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าจากีเริ่มเพลี่ยงพล้ำ แทกิลก็ลุกขึ้นมาห้ามไม่ให้แทฮาทำร้ายจากี แล้วแนะนำว่า ผู้ชายคนนี้เป็นลูกพี่ตน มีชื่อว่า "พี่จากี"  (แทกิลเรียกจากีว่า "จากีออนนี่"*) 

* ดังที่เคยอธิบายแล้วว่า "ออนนี่" เป็นคำที่ผู้หญิงใช้เรียกพี่สาว แต่ตัวละครชาย (ที่ไม่ใช่ชนชั้นสูง) ในเรื่องนี้จะเรียกพี่ใหญ่ หรือคนที่ตนนับถือว่า "ออนนี่"


จากี นักเลงรุ่นเก๋าใกล้ปลดระวางรู้สึกเป็นปลื้มเมื่อเห็นนักล่าทาสอันดับหนึ่งแห่งโชซอน เรียกตนว่า "ออนนี่" ต่อหน้าแทฮาและลูกสมุน จึงดีใจจนออกนอกหน้า แทฮาเห็นแทกิลและจากีสนิทสนมกันแบบแปลกๆ   (เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย) จึงถามแทกิลด้วยความสงสัยว่าทั้งคู่มีความเกี่ยวข้องกันยังไง แทกิลตอบกวนๆ ว่าเขาและจากีสนิทกันมาก หากจากีตายเมื่อไหร่เขานี่แหล่ะที่จะเป็นคนตอกฝาโลงให้ 

หลังต่อปากต่อคำกันแล้ว แทกิลก็บอกให้จากีหาห้องพักที่สะอาดและอบอุ่นให้แทฮา เฮวอน และองค์ชายน้อย แถมยังบอกให้จับหมูป่าตัวอ้วนๆ มาเลี้ยงฉลองกันด้วย  จากีไม่ขัดข้องแต่ขอตัดหูแทกิลก่อน แทกิลขี้เกียจต่อปากต่อคำ (และต่อสู้) กับจากีเลยชวนเข้าที่พักโดยอ้างว่าอากาศเย็น แต่จากีกลับคว้าตัวแทกิลไว้


จากีรู้วิธีที่จะทำให้แทกิลชักมีดออกมา จึงถามแทกิลต่อหน้าเฮวอนและแทฮาว่า 'ยังเที่ยวออกตามหาผู้หญิงที่ชื่อออนยอนอีกหรือ' เมื่อถูกถามแทงใจดำต่อหน้าคนรัก แทกิลจึงเค่นหัวเราะแล้วบอกจากีว่า 'ตามหาผู้หญิงคนนั้นแล้วจะได้เงินสักเท่าไหร่' จากีรู้ว่าแทกิลปากไม่ตรงกับใจจึงบอกให้แทกิลตัดใจจากออนยอน แล้วมาเป็นลูกสมุนของเขา เพราะป่านนี้ออนยอนคงมีคนอยู่ข้างกายแล้ว

แทกิลเจ็บแปลบที่หัวใจ ในที่สุดเขาก็ชักอาวุธคู่กายขึ้นมา จากีต้องการต่อสู้กับแทกิลให้รู้แพ้รู้ชนะ และอยากตัดหูแทกิลบ้างเพื่อเป็นการล้างแค้นที่แทกิลเคยตัดหูเขาจนแหว่งไปข้างหนึ่ง ทำให้ชื่อเสียงและภาพพจน์นักเลงใหญ่แห่งโชซอนถูกแทกิลทำลายย่อยยับ   ถึงขนาดต้องระเห็จออกจากเมืองฮันยางแล้วมาเป็นหัวหน้าโจรป่าแทน แต่ยังไม่ทันได้สู้ (ตัดหู) กัน ทั้งคู่ต่างก็ต้องหยุดชะงักเพราะมีเสียงใครบางคนตะโกนเรียก "ออนนี่" ดังลั่น แทกิลแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อหันไปเห็น เช กำลังประคองน้องเล็กวังซอนเดินเข้ามา


พอเห็นแทกิลหันหน้ามา เชก็ทิ้งวังซอนไว้เบื้องหลังแล้วรีบวิ่งเข้าไปหาพลางร้องเรียก "แทกิล" ด้วยความคิดถึง ส่วนวังซอนได้แต่ร้องเรียก "ออนนี่" แล้วรีบเดินกระโผลกกระเผกตามเชไป แทกิลดีใจจนพูดไม่ออก เขาเดินเข้าหาและจ้องมองเชเหมือนยังไม่เชื่อสายตาตนเอง จึงเอื้อมมือไปจับแขนและบีบแก้มเชให้แน่ใจว่าตนไม่ได้ฝันไป พอเห็นว่าเชตัวเป็นๆ ยืนอยู่ตรงหน้า แทกิลก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ วังซอนเห็นแทกิลเอาแต่จับตัวเช เลยคว้ามือแทกิลมาวางแนบแก้มแล้วบอกให้แทกิลบีบแก้มตนบ้าง แต่แทกิลกลับดึงหูและเหวี่ยงวังซอนจนล้มลงไปกองกับพื้น 

แทกิลจะเดินเข้าไปจัดการวังซอนอีกครั้งโทษฐานที่ดื้อรั้นจนได้เรื่อง แต่พี่ใหญ่เชเข้ามาขวางไว้ แทกิลน้ำตาไหลพรากพลางบอกให้เชถอยไป เชไม่ยอมถอยและบอกว่าตนคิดถึงแทกิล   สามหนุ่มนักล่าทาสสวมกอดกันด้วยความดีใจที่ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้า แทฮายืนมองสามหนุ่มร้องไห้และกอดกันกลมด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ  เขาเพิ่งเห็นอีกด้านหนึ่งของนักล่าทาสที่รักและห่วงใยพวกพ้องดุจเป็นพี่น้องและคนในครอบครัวเดียวกัน แต่เขาไม่โชคดีเหมือนแทกิลที่ได้กลับมาพบพี่น้องอีกครั้ง เพราะหนึ่งในลูกน้องคนสนิทของเขาต้องมาสิ้นใจตายต่อหน้า หลังถูกคนกันเองทรยศหักหลัง ทั้งๆ ที่เพิ่งกลับมาพบกันได้ไม่นาน


หลังกอดกันจนหนำใจแล้ววังซอนก็หันมาเห็นแทฮา เขาไม่นึกฝันว่าทาสหลบหนีที่ตนออกตามล่าจนถูกชอลวุงทำร้ายปางตายจะมายืนอยู่ตรงหน้า จึงชี้หน้าแทฮาแล้วตะโกนว่า "ห้าร้อยยาง" (ค่าหัวแทฮา -แทกิลโกหกเชและวังซอนว่าค่าหัวแทฮามีค่าห้าร้อยยาง) และเมื่อหันไปเห็นเฮวอนอุ้มเด็กอยู่ข้างๆ วังซอนก็ชี้ไปที่เธอแล้วพูดว่านั่นมัน "ผู้หญิงในภาพ" จึงถูกแทกิลดึงหูแล้วลากตัวออกไป

ระหว่างนั้น ทหารต้าชิงแอบตามแทฮามาจนถึงเทือกเขาวอรัก พวกเขารู้ว่าแทกิลพาองค์ชายน้อยไปซ่อนตัวอยู่ในค่ายของจากีที่ตั้งอยู่บนยอดเขา จึงวางแผนบุกเข้าไปชิงตัวองค์ชายน้อย ขณะที่ชอลวุงและลูกสมุนก็แกะรอยแทฮาจนใกล้ถึงเขาวอรักแล้วเช่นกัน


หลังจัดหาที่พักให้แทฮาและเฮวอนแล้ว จากีก็แวะเข้าไปทักทายแทฮาและเฮวอนในฐานะเจ้าบ้าน จากีเห็นองค์ชายน้อยแล้วรู้สึกเอ็นดู จึงบอกเฮวอนให้ส่ง 'เจ้าตัวเล็ก' มาให้เขาอุ้ม แทฮาเกือบหลุดปากต่อว่าจากีว่ากล้าดียังไงถึงเรียกองค์ชายน้อยว่า  'เจ้าตัวเล็ก'  แต่เขายั้งปากตนเองเอาไว้ได้ทัน  เฮวอนเห็นว่าจากีรักเด็ก จึงส่งองค์ชายให้จากีอุ้ม  ตอนแรกแทฮามีสีหน้ากังวล แต่พอเห็นจากีหยอกล้อกับองค์ชายน้อยด้วยความเอ็นดูแล้วเขาก็รู้สึกโล่งใจ  จากีถามว่า เด็กคนนี้ชื่ออะไร เฮวอนนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วตอบว่าชื่อ 'แทวอน' 

ระหว่างที่สามหนุ่มนักล่าทาสกำลังนั่งล้อมวงทานข้าวเย็น วังซอนพยายามถามว่าทำไมแทกิลถึงมากับแทฮาได้ แต่แทกิลไม่ยอมตอบ เชเตือนแทกิลว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับแทฮาอีก แทกิลบอกว่า เขาแค่พาแทฮามาหลบซ่อนตัวที่นี่ หลังจากนั้นก็ทางใครทางมัน วังซอนบ่นว่าออกไปแล้วพวกเขาคงหนีไม่พ้นอาชีพล่าทาส แทกิลจึงถามเชว่ายังไม่ได้บอกวังซอนเรื่องที่ดินและบ้านที่อีชอนอีกหรือ เชบอกแทกิลว่ายังไม่มีโอกาสพูด วังซอนเลยโวยวายว่ามีเรื่องอะไรที่เขายังไม่รู้อยู่คนเดียว เชหันหน้าไปหาวังซอนเหมือนมีเรื่องจะพูด วังซอนจึงตั้งใจฟังเต็มที่ แต่แล้วเชกลับบอกให้วังซอนหุบปากแล้วตั้งใจกินข้าว หลังจากนั้นเชก็หันไปถามแทกิลว่า เขาส่งซอลฮวาไปอยู่ที่อื่นแล้วหรือ แทกิลตอบว่า ใช่ ป่านนี้ซอลฮวาคงไปอยู่ที่ไหนสักแห่งแล้ว  (แทกิลไม่รู้ว่าระหว่างนั้นซอลฮวากำลังมุ่งหน้าไปที่เขาวอรัก)


แทกิลบอกเชและวังซอนว่าพวกเขาต้องไปจากที่นี่ จากนั้นก็ถามถึงอาการบาดเจ็บของเชว่าเป็นยังไงบ้าง  เชบอกว่าเขาไม่เป็นอะไรมาก แต่วังซอนยังเดินไม่ค่อยสะดวก แทกิลบ่นว่าผ่านช่วง 'ซัมชิล อิล*  ' ไปแล้ว ทำไมวังซอนถึงยังไม่หายอีก วังซอนสวนกลับว่า 'คิดว่าเขาไปออกลูกมาหรือไง'  แทกิลเห็นว่าจากีจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้ จึงเตือนวังซอนด้วยความเป็นห่วงว่าอย่าดื่มเหล้าจนเมาปลื้นเหมือนเมื่อก่อน และให้ถือโอกาสนี้กินเนื้อสัตว์ให้มากๆ วังซอนสงสัยว่าจากีจะจัดงานเลี้ยงตามที่เด็กนั่น (อึนซิล) บอกนั่นจริงหรือ แทกิลจึงบอกว่า จากีมักทำตามที่เด็กบอกเสมอ เพราะเมียของเขาเสียชีวิตขณะคลอดลูก ถ้าไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้น จากีคงร้ายกาจยิ่งกว่านี้

* ในยุคนั้นผู้หญิงเกาหลีที่เพิ่งคลอดบุตร จะมีช่วงเวลาที่เรียกว่า 'ซัมชิล อิล ' ซึ่งก็คือช่วงเวลา 3 สัปดาห์ ที่ผู้เป็นแม่จะใช้ในการฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดบุตร (น่าจะคล้ายช่วงอยู่ไฟของไทย) 



หลังถูกเฮวอนทวงองค์ชายน้อยคืน จากีก็ส่งองค์ชายคืนให้ด้วยความเสียดายเพราะอยากพาองค์ชายออกไปเล่นข้างนอกมากกว่า พอจากีออกจากห้องไปแล้ว แทฮาก็ถามว่าชื่อองค์ชายน้อยที่เฮวอนตั้งให้ใหม่ (แทวอน) มีที่มาอย่างไร เฮวอนตอบว่า เธอนำคำว่า "แท" มาจากชื่อแทฮา ส่วนคำว่า "วอน" มาจากชื่อของเธอเอง 

แทฮาบอกว่าองค์ชายน้อยมีชื่อประจำราชวงศ์เป็นอักษรตัวหนึ่ง สาเหตุที่ตั้งชื่อโดยใช้อักษรตัวเดียวก็เพื่อไม่ให้มีใครตั้งชื่อซ้ำ (ส่วน 'อี ซกยอน' เป็นชื่อส่วนพระองค์) เฮวอนกล่าวว่า พระราชาและคนในราชวงศ์ถูกตั้งชื่อเป็นตัวอักษรที่ไม่สามารถออกเสียงได้  ดังนั้น ถึงมีชื่อก็เหมือนก็ไม่มี ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่มีชื่อที่สามารถออกเสียงและใครๆ ก็เรียกได้ แต่ชื่อของพวกเขากลับไม่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ และไม่เป็นที่จดจำราวกับไม่เคยมีชื่อมาก่อน

พูดจบเฮวอนก็หันไปแนะนำตัวกับองค์ชายน้อยว่า เธอชื่อเฮวอน แต่ก่อนหน้านี้เธอเคยมีชื่อว่าออนยอน  แทฮาหันไปบอกเฮวอนว่า 'ชื่ออะไรไม่สำคัญ  เพราะไม่ว่าจะเป็นเฮวอนหรือว่าออนยอน เธอก็คือภรรยาของเขา'  เฮวอนได้ยินแล้วรู้สึกปลื้มใจที่แทฮาไม่รังเกียจอดีตและยอมรับในตัวตนของเธอ แทฮาถอนใจก่อนบอกเฮวอนด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ถ้าเขาและเธอโชคดีมีลูกด้วยกัน เขาจะตั้งชื่อลูกว่า "แทวอน" 


อีกด้านหนึ่งเหล่าทาสก็กำลังนั่งประชุมกัน พวกเขารู้สึกสะใจที่สามารถเอาคืนชนชั้นสูงด้วยการบุกเข้าไปในบ้านแล้วข่มขู่คุกคาม ทั้งยังปล้นเอาทรัพย์สินและเผารายชื่อทาสในบ้านได้  แต่พอถูกหัวหน้ากลุ่มทาสถามว่าถ้าทำงานใหญ่สำเร็จ (สลับขั้วชนชั้น) แต่ละคนคิดจะทำอะไร ทาสส่วนใหญ่กลับนึกไม่ออก เพราะไม่เคยอยากได้อะไรมากไปกว่าอิสรภาพ และการออกตามหาครอบครัวที่พลัดพราก  

อ๊บบ๊กอดเป็นกังวลไม่ได้ว่าหลังบุกเผาโรงเก็บเครื่องบรรณาการและศาลไต่สวนทาสแล้ว เจ้าหน้าที่กองปราบอาจออกไล่ล่าและตรวจตราอย่างเข้มงวดมากขึ้น  หัวหน้าทาสบอกว่าเมื่อถึงเวลานั้นจะมีเหตุจราจลเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า เจ้าหน้าที่กองปราบคงไม่มีปัญญาออกตรวจตราทุกซอกทุกมุมในเมืองฮันยาง แต่ถ้าเป็นอย่างที่อ๊บบ๊กพูด พวกเขาก็จะบุกโจมตีกองปราบด้วยเช่นกัน อ๊บบ๊กเสนอให้จัดเตรียมสถานที่ปลอดภัยไว้สำหรับหลบหนี  แต่หัวหน้าทาสบอกว่า ถ้าทุกคนหนีไปหลบซ่อนตัวกันหมด แล้วใครจะอยู่ทำงานให้สำเร็จลุล่วง ดังนั้น ทุกคนจึงควรยืนหยัดต่อสู้ร่วมกัน


เช้าวันรุ่งขึ้น  เฮวอนออกมาเตรียมอาหารให้แทฮาและองค์ชายน้อย โดยไม่รู้ว่าแทกิลกำลังแอบมองเธออยู่ พอเฮวอนเดินไปทางอื่น แทกิลก็หันไปเห็นซอลฮวาเดินเข้ามาภายในค่ายของจากีพอดี เขาไม่นึกว่าซอลฮวาจะดั้นด้นเดินทางมาที่นี่จริงๆ พอเห็นหน้าแทกิลแล้วซอลฮวาถึงกับน้ำตาคลอแต่เธอก็ยังฝืนยิ้มให้เขาก่อนที่จะวิ่งเข้าไปหาด้วยความดีใจ 

เฮวอนเดินกลับมาเห็นแทกิลยืนอยู่ตามลำพังจึงคิดที่จะเดินเข้าไปหา แต่แล้วเธอก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นซอลฮวาโผเข้ากอดแทกิลด้วยความคิดถึง แทกิลหันมาเห็นเฮวอนกำลังยืนมองอยู่ จึงแกล้งทำเป็นกอดตอบซอลฮวา ซอลฮวาไม่รู้ว่าระหว่างที่แทกิลกอดเธออยู่นั้น สายตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าเฮวอนตลอดเวลา  และเมื่อเธอจะขยับตัวออก แทกิลกลับกดศีรษะเธอเอาไว้และกอดเธออยู่อย่างนั้น ซอลฮวายิ้มแก้มปริด้วยความดีใจ เพราะคิดว่าแทกิลอยากกอดเธอไว้นานๆ เฮวอนทนดูแทกิลกอดหญิงอื่นต่อหน้าไม่ไหวจึงเดินเลี่ยงไป เมื่อเห็นว่าเฮวอนเดินจากไปแล้วแทกิลก็ปล่อยตัวซอลฮวาทันที


แทกิลพาซอลฮวาไปพบกับเชและวังซอน ซอลฮวาบอกทั้งคู่ว่า เธอนึกว่าพวกเขาตายไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นเธอก็เชื่อมาโดยตลอดว่าแทกิลยังไม่ตาย ซอลฮวาบอกแทกิลว่าอย่ากลับไปเมืองฮันยางอีก เพราะทางการกำลังตามล่าตัวเขา วังซอนได้ยินแล้วตกใจเลยถามว่า เพราะอะไรแทกิลถึงโดนทางการตามล่า ซอลฮวาตอบว่า  ยังไม่รู้อีกหรือว่าแทกิลและแทฮาถูกสั่งลงโทษประ.... ซอลฮวาพูดยังไม่ทันจบก็ถูกแทกิลขัดขึ้นเสียก่อน เชถามแทกิลด้วยความเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้น แทกิลตัดบทว่าไม่มีอะไร อย่างมากก็แค่ไม่ต้องกลับไปฮันยาง เชย้อนถาม แค่ไม่กลับฮันยางก็แก้ปัญหาได้แล้วหรือ แทกิลตอบว่า แน่นอน จากนั้นก็พูดตัดบทด้วยการบอกวังซอนให้ไปทำกับข้าว แต่ซอลฮวาอาสาเป็นคนลงมือทำเอง

แทฮาบอกเฮวอนให้หลบซ่อนตัวที่เขาวอรักกับองค์ชายสักระยะ เพราะเขาต้องรีบออกไปทำธุระสำคัญ เฮวอนถามว่าระหว่างที่แทฮาไม่อยู่ มีอะไรที่เธอสามารถทำเพื่อเขาได้บ้าง แทฮาบอก เขาหวังว่าสักวันองค์ชายน้อยจะไม่ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ และเติบโตเป็นชายหนุ่มที่มีความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว    เฮวอนจึงขอให้แทฮาเล่าประสบการณ์ที่ได้รับตอนอยู่ต้าชิง รวมทั้งแนวความความคิดของอดีตองค์รัชทายาทให้เธอฟัง เพื่อที่เธอจะได้ปลูกฝังแนวความคิดดังกล่าวให้กับองค์ชายน้อย


แทกิลบอกซอลฮวาให้ลงหลักปักฐานที่เขาวอรัก และหามองผู้ชายดีๆ ที่นี่สักคน ซอลฮวาถามว่าแทกิลจะอยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่า แทกิลปฏิเสธและไม่ยอมบอกว่าตนจะไปอยู่ที่ไหน ซอลฮวาจึงบอกว่า เธอจะติดตามแทกิลไปทุกที่ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอตามตื๊อผู้ชาย แทกิลบอกซอลฮวาว่า ถ้าเธอคิดฟุ้งซ่านอย่างนี้สู้ไปหาอะไรกินให้อิ่มท้องยังดีเสียกว่า ซอลฮวาแย้งว่าทำไมเธอจะติดตามแทกิลไม่ได้ ในเมื่อตัวเขาเองก็ใช้เวลาทั้งชีวิตออกตามหาผู้หญิงเพียงเดียว แทกิลจ้องหน้าซอลฮวาด้วยท่าทางเอาเรื่อง แล้วบอกให้ลืมเรื่องนั้นไปได้เลย (แทกิลไม่ยอมให้ซอลฮวาตามตื๊อ)

ซอลฮวารีบเปลี่ยนเรื่องด้วยการนำเสื้้อที่ตนเย็บให้แทกิลออกมาโชว์  แต่แทกิลปัดออก ซอลฮวาไม่ย้อมแพ้จึงนำเสื้อมาวางทาบตัวแทกิลแล้วบอกว่าสวยดีออก แต่แทกิลก็ปัดเสื้อออกจากตัวอีกครั้ง ระหว่างนั้นแทฮา และเฮวอนเดินผ่านมาพอดี ซอลฮวาเห็นเฮวอนก็จำได้ทันทีว่าเธอคือทาสหลบหนีที่อยู่บนเรือกับแทฮา และฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เธอคือทาสสาวออนยอนที่แทกิลออกตามหามานานนับสิบปี


แทฮาขอคุยกับแทกิลเป็นการส่วนตัว เมื่อรู้ว่าแทฮาจะออกจากเขาวอรักในคืนนี้ แทกิลก็บอกว่าแทฮาชอบหาเรื่องใส่ตัว เขาแนะนำให้แทฮาซ่อนตัวอยู่ที่นี่จนกว่าเรื่องจะเงียบ แทฮารู้ว่าแทกิลเป็นห่วงเฮวอนจึงบอกว่าเขาจะออกเดินทาง 'คนเดียว'  เขาไม่อยากหนีและต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไปตลอดชีวิต เลยอยากทำให้เรื่องยุ่งๆ จบลงเสียที 

แทกิลถามว่า 'ทำไมอยู่ๆ คนที่ต้องการตายอย่างสมศักดิ์ศรีถึงได้คิดเรื่องความอยู่รอด' แทฮาตอบ  'ที่เขาไม่กลัวตายเพราะรู้ว่าคนเราไม่อาจหลีกหนีหรือปฏิเสธความตาย แต่การเชื่อใจคนรักแล้วออกไปเผชิญหน้ากับความตาย ไม่ได้หมายความว่าเขากำลังเอาชีวิตไปทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ และถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนภรรยาของเขาและองค์ชายน้อยจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเสียที'  แทกิลถามว่าแทฮาพูดเรื่องนี้กับเขาทำไมในเมื่อเขาเป็นคนนอก  แทฮาจึงย้อนถามว่า แม้แต่แทกิลเองก็อยากเห็นภรรยาของตน (เฮวอน) ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเช่นกันไม่ใช่หรือ 

แทฮาฝากแทกิลให้ช่วยดูแลเฮวอนและองค์ชายน้อยระหว่างที่เขาไม่อยู่ แทกิลไม่ตอบ แทฮาจึงถือว่าแทกิลยอมรับคำขอของเขา จากนั้นก็หันหลังเดินกลับไป แทกิลยังมีเรื่องคาใจจึงถามแทฮาว่า ทำไมวันนั้น (วันที่เขาข่มขู่เฮวอน) แทฮาถึงไม่ฆ่าเขา แทฮาหันกลับมาตอบแทกิลว่า 'เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยเข่นฆ่าประชาชนชาวโชซอนแม้แต่คนเดียว'


ซอลฮวาแอบมองเฮวอนอยู่ห่างๆ เธอเห็นว่าเฮวอนแลดูงามสง่าถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงทาส เลยพยายามเลียนแบบท่าทางของเฮวอน โดยคิดว่าถ้าเธอทำตัวสุภาพเรียบร้อยแบบเฮวอนแล้ว แทกิลอาจหันกลับมามองเธอบ้าง

เฮวอนเห็นซอลฮวายืนอยู่ตามลำพังจึงกวักมือเรียก ระหว่างล้างจานด้วยกันเฮวอนบอกซอลฮวาว่า เธอเคยเจอซอลฮวาครั้งหนึ่งตอนที่ซอลฮวากำลังเลือกซื้อผ้าในที่ตลาด ตอนนั้นเธอยังแอบคิดว่าในที่สุดนายน้อยก็ได้พบว่าที่เจ้าสาวหน้าตาน่ารัก ซอลฮวาได้ยินแล้วเป็นปลื้ม จากนั้นก็ถามเฮวอนเพื่อความแน่ใจว่า 'เธอคือออนยอนใช่ไหม'

เฮวอนนิ่งไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าทุกคนที่อยู่รอบตัวแทกิลต่างก็รู้จักเธอ ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยเจอตัวด้วยซ้ำ เฮวอนยอมรับว่า 'ใช่' แล้วถามซอลฮวาว่า 'รู้จักนายน้อยตั้งแต่เมื่อไหร่'  ซอลฮวาตอบว่า 'หน้าร้อนปีที่แล้ว ตอนที่เธอหนีออกจากคณะละครเร่' เมื่อถูกเฮวอนถามว่า เธอเคยทำงานในคณะละครเร่หรือ ซอลฮวาก็รีบแก้ตัวว่า 'เธอเจอแทกิลตอนที่คณะละครเร่ไปแสดงที่นั่นต่างหาก' ทั้งยังโม้ว่าพี่แทกิลดีกับเธอมาก เฮวอนฟังแล้วได้แต่ยิ้มและพูดว่าทั้งคู่ดูเหมาะสมกันมาก



แม้ค่ายของจากีจะตั้งอยู่บนยอดเขาที่ยากจะควานหาเจอ (เทือกเขาวอรักมียอดเขามากมาย และมีอยู่ 3 ยอดเขาที่มีความสูงมากที่สุด)  แต่ชอลวุงก็ได้ข้อมูลเรื่องที่ตั้งจากโจรป่าคนหนึ่ง จึงรีบมุ่งหน้าไปตามหาแทฮา แทกิล และองค์ชายน้อย ที่ค่ายของจากีทันที  ระหว่างนั้นแทฮากำลังนั่งครุ่นคิดถึงภารกิจที่ตนต้องออกไปทำและเตรียมตัวเดินทาง ส่วนแทกิลก็กำลังครุ่นคิดเรื่องที่แทฮาบอกเขาก่อนหน้านี้ รวมทั้งเรื่องที่เขามีแผนจะออกจากค่ายจากีเพื่อตามล่าชอลวุง 


* ภาพ captures / ละครเคบีเอส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา